คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ผมเจอเทอแล้วตอนที่1
ผมเจอเธอครั้งแรก.....
ที่ถนนมุมนึงข้างป้ายรถเมล์
เราไม่รู้จักกัน เราไม่เคยคุยกัน
เธอหันมามองผมแล้วเริ่มร้องไห้................
เธอร้องไห้ แล้วมองผมเหมือนจะถามว่าจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าร้องไห้เรื่องอะไร
ผมเมินครับ เรื่องอะไรทำไมผมต้องไปสนด้วยเธอไม่ได้น่ารักมากมายซะหน่อย
เธอเดินเข้ามาครับ ท่ามกลางคนที่รอรถเมล์รอบเย็นเพื่อกลับบ้านอยู่
เธอตบครับตบหน้าเลย เต็มๆ ดังเผี้ยะลั่นต่อหน้าผู้คน ทั้งๆ ที่หน้าอาบไปด้วยน้ำตา
แล้วเธอก็หันหลังกลับครับเดินไปพิงป้านรถเมล์เหมือนเดิม
ทิ้งไว้แต่ทุกสายตาที่จับจ้องมาที่ผมเหมือนผมเป็นตัวการที่ทำเธอร้องให้
ไม่แน่นะครับอาจจะมีใครคิดว่าผมทำเธอท้องก็เป็นได้ เวรของชีวิตจริงๆ
ผมทำไงได้ครับ เลยต้องเดินไปหาครับเธอยังร้องให้ครับ
ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้มองเธอพักนึง
“ทำไมร้องให้อะเป็นไร” ผมถาม
“ยุ่ง ไม่ธุระอะไรของนาย” อะกรรมเธอตบผมฉาดเบอเร่อแล้วบอกไม่เกี่ยวได้ไง
“แล้วตบผมทำไมอะผมทำไรให้” เธอหันมามองครับ
แล้วบอกผมคำเดียวเท่านั้นครับ
“หมั่นไส้ มีไรไหม” แล้วเธอก็เดินไปครับ
คืนนั้นผมกลับมาบ้านครับกับเหตุการณ์ที่หลอกหลอนมากๆ
แก้มผมยังเจ็บอยู่ครับแต่ที่เจ็บแน่ๆคือในอกครับ
แค้นใจมากกะว่ามันเป็นผู้ชายคงไม่ต้องเดินกลับบ้านแล้วละครับ
ทั้งเจ็บทั้งอายคนมองทั้งป้ายเหมือนเป็นความผิดเรา
ไรวะผมคิดเซงมาก
ผมเตะฟุตบอลที่สนามหน้าบ้านกระเด็นออกไปไกลเลยครับ
เวงอีกพรุ่งนี้ต้องไปหามันเจือกข้ามรั้ว...
วันนี้มันวันไรวะซวยจริงๆ
ฝันร้ายทั้งคืนครับขอบอกนางมารร้ายมันมาหลอกหลอนในฝัน
ซวยอีกแล้วครับผมทำซีทเอกสารที่จะไปส่งอาจารย์ที่มหาลัยหาย
มันหล่นผมคิดซวยจริงเลยเว้ย
ต้องไปมหาลัยมือเปล่าทำก็ไม่ทันไม่ทำทันแล้วเซ็ง
ผมขับรถไปมหาลัยด้วยความเซ็ง
(เมื่อวานที่ไม่ขับขี้เกียจครับอยู่ที่อารมณ์)
ไปมหาลัยครับกระโดดเตะเพื่อนที่เจอคนแรกครับบอกเล่นๆ
ความจริงแล้วผมระบายอารมณ์ เหอๆ
จารย์มาแล้วครับเดินเข้าประตูมาก็ทวงงานเลย เวงเอ้ยไม่เห็นใจมั่งวะT_T
ผมปลงแล้วครับกะว่าคงไม่ได้ส่งแน่ๆ
ทันใดครับมีคนเปิดประตูเข้ามาครับเธอเดินเข้ามาแล้วถามหาผม
“เอ่อจารย์คะนายคนนี้เรียนที่ห้องนี้หรือเปล่าคะ”
เธอพูดพลางยื่นชีทงานที่ผมหาทั้งคืนให้จารย์ช่วยดูจากสมุดรายชื่อ
ผมหลบไปใต้โต๊ะไปแล้วละครับเวงจริงมารร้ายตามมาหลอกผมถึงที่
อาจารยประกาศหาเจ้าของครับไอ้เพื่อนๆ
เวงทั้งหลายรุมชี้ผมครับเวงผมอีกจำใจต้องลุกขึ้นมายิ้มแหะ แหะ ให้จารย์
"ครับผมเองครับจารยมีไรหรือครับ"
"มีคนเอางานมาให้นะรู้จักหรือเปล่า"
ผมสบตาเธอครับ เกิดอาการสะอึกเลยครับ
ยายเพิ้งเมือคืนกลายเป็นสาวงามผมประบ่า ขาวและน่ารักมากเลย
เกิดอาการตะลึงครับ
เธอยิ้มมาให้ผมครับแค่คำพูดแรกของเธอก็ทำผมอึ้งแล้วครับ............
คำพูดแรกที่ผมยังจำอยู่ทุกวันนี้
“ที่รักตั้งใจเรียนนะค่ะจะรอหน้าห้องค่ะ”
แน่นอนครับวันนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องแน่นอนเป็นใครก็ไม่รู้เรื่องแน่ๆ
เลิกเรียนผมก็ออกมาเลยครับท่ามกลางเพื่อนๆและไทยมุงทั้งหลาย
เพื่อนตบบ่าผมก่อนที่ผมจะแยกไปหาเธอครับกินใจมากเลยครับ
“พรุ่งนี้มรึงดังไปทั่วมหาลัยแน่” เล่นเอาผมเครียดเลยครับเวงนี่T_T
"เธอเป็นใครแล้วมานี่มีธุระอะไร?”
ผมถามเธอไม่พูดอะไรครับได้แต่แตะแก้มผม
สายตาเธอดูเป็นห่วงมากเลยครับเธอพูดแค่ว่า
“เจ็บมากไหมเราขอโทษนะ” ผมอึ้งครับ
วันที่ 3 มันวุ่นวายสับสนมากครับเกิดอะไรขึ้นกันแน่เธอเป็นใคร
ผมรู้แค่ว่าเธอชื่อมินอยู่มหาลัยเดียวกับผมแล้วก็เรียนคณะคนละคณะกัน
วันนั้นเธอทะเลาะกะแฟนแล้วผมเผอิญเหลือเกินที่หน้าไปคล้ายแฟนเธอเธอเลย
หมั่นไส้ตบผมเอาฉาดเบ่อเร่อ
(ไม่ไปตบแฟนตัวจริงไปเลยวะ-_-|||)
เธอขอโทษแล้วเผอิญเก็บชีทงานของผมได้ที่ป้ายรถเมล์
เธอเลยเอามาคืนให้
แล้วที่เรียกที่รักก็แค่ล้อเล่น แล้วเธอก็แสนดี แสนดีเหลือเกิน..........
ที่เกาะผมยังกะอะไรดีครับ ไม่ว่าไปห้องสมุด เล่นเกม เดินห้าง
ขนาดผมอยู่กะผู้ชายทั้งหมดเธอยังเกาะเลยครับ
จนทุกคนเริ่มเรียกเธอว่า แฟนเจมส์ แล้วละครับ
(ผมชื่อเจมส์ครับลืมแนะนำตัวไปหน่อย แหะ แหะ)
กรรม ให้ผมทำไงครับผมขอบอกตรงๆ
ผมไม่ได้ชอบยายนี้เล้ยผมชอบผู้หญิงหวาน ขาว ใสเรียบร้อยกว่านี้
แต่เธอก็เข้าได้ดีกับเพื่อนผมครับผมเลยปล่อยเลยตามเลย
เดี๋ยวเธอคงจะหาแฟนจากกลุ่มผมสักคนเองแหละ
ผมคิด.............ผมคิดแค่นั้นแหละครับเธอก็มาควงแขนผมอีกแล้วครับ-_-||||||
“มินเราไม่ชอบให้เธอมาเกาะกลุ่มเราอย่างนี้อะ” ผมพูดกะเธอเมื่อได้อยู่ 2 ต่อ 2
เพราะผมต้องพาเธอไปส่งบ้าน-_-
(เพื่อนๆ มันยัดมาให้ผมอีกเปลืองน้ำมันโคตรๆ)
“ทำไมอะเจมมินทำไรผิด” เธอถามพร้อมจับมือผม ผมสะบัดมือทิ้ง
“ก็เราไม่ชอบมินเป็นผู้หญิงนะไปเกาะคนนู้นคนนี้ได้ไง
มินเป็นผู้หญิงง่ายๆใช่ไหมถึงทำงี้ แล้วมินเข้า
กลุ่มที่มีแต่ผู้ชายเงี้ยคนอื่นจะคิดไงมันไม่ดีรู้ไหม”
“ขอโทษ.......แต่มินไม่มีที่ไปมินไม่มีเพื่อนเลยนะเจม2 ปีที่อยู่มหาลัยนี้
มินก็มีแต่เขา เขาคนที่ทิ้งมินไปเราอยู่ด้วยกันตลอด มินรักเขามาก
แล้วมินก็เชื่อนะว่าเขาก็รักมินมินเหงาเจมจะไล่มินเหรอ
ที่เราเข้ากลุ่มมาเราก็คิดว่าเจมเป็นคนดีที่เราชอบเกาะเจม
เพราะเจมเหมือนแฟนเก่าเรามิน ....มิน...ก็แค่อยากอ้อนบ้าง
มินเหงานะเจม เหงามาก..”
เธอร้องให้ครับทิ้งให้ผมได้แต่เงียบแล้วขับรถไปส่งเธอครับที่บ้าน
ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเกือบอาทิตย์แล้วที่มินยังอยู่กะกลุ่มพวกเรา
แต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปในความรู้สึกของผม มิน และเพื่อนในกลุ่มอีกคน
เพื่อนผมเอาใจมินผิดปรกติ คอยยกข้าว เสริฟน้ำ แยกไป 2 คนบ่อยๆ
แย่งกระทั่งหน้าที่รับส่งของผม ใช่ครับ ดูยังไงไอ้เพื่อนผมมันก็จีบมินแน่นอน
ผมน่าจะดีใจแต่ความรู้สึกของผมกลับไม่ใช่เลยครับ ผมหวงครับ
เป็นห่วงมินเวลาที่อยู่ใกล้เพื่อนคนนี้ ผมกลัวมินจะเสร็จมันผมไม่อยากเสียมินไป
ผมเพิ่งรู้ครับว่าการไม่มีมิน ไม่มีคนมาวุ่นวาย
สัมผัสที่เคยจับผ่านมืออุ่นๆและเล็กของมินนั้น
ทำให้ผมยอมไม่ได้เลยที่จะเสียเธอไป แต่ผมจะทำไรได้ละครับ
ในเมื่อเพื่อนผมมันเล็งไว้แล้ว จะไปแย่งมันก็ไม่ได้................
จะมีคนด่าผมไหมครับท่าผมทำงั้น
ผมได้แต่ตัดใจครับลาเพื่อนๆแล้วขับรถกลับบ้าน
แล้วก็นั่งพิงเตียงปิดไฟในห้องเปิดเพลงจากวิทยุฟัง
แล้วก็นึกถึงวันแรกวันที่ผมเจอมิน
วันแรกที่มินมาหาผมที่ห้อง
และที่สำคัญวันแรกที่มินยิ้มให้และก็คอยยิ้มให้ผมเสมอ
แต่ผมไม่เคยยิ้มตอบเลย เสียงดังของแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้านครับ
ผมฉุนขาด ไอ้บ้าที่ไหนมาบีบแตรหน้าบ้านคนอื่น(วะ)
ผมชะเง้อหน้ากะด่าออกไปเต็มที่
เวงกรรมกลับเป็นเพื่อนผมแถวบ้านที่ไม่ได้เจอกันนาน
ถึงบ้านเราจะอยู่ใกล้กันมากก็ตามมันชวนผมไปลูทกับมันครับ
ซึ่งผมก็ไปกะมันแน่ๆอยู่แล้วคว้าอะไรได้ใส่ไปก่อนเดินห้องน้ำไปล้างหน้า
เอาวะลืมก็ลืม หญิงคนเดียว....................................คนที่ผมรักที่สุด
ตี 2 ผับเลิก....ไม่สนุกเลยดนตรีสาวๆ เพื่อนๆ น่าเบื่อหมด
ผมไปผมก็ดื่มแค่เหล้า เบียร์ ดื่มๆให้มันลืมลืมมินไปเลย
โถ่ ทำไมนะตอนที่จีบเธอได้ง่ายๆ ผมไม่จีบให้มันรู้แล้วรู้รอด
จะได้ไม่ต้องมากลุ้มเป็นตูดอยู่อย่างงี้
"เป็นห่าไรวะไม่ร่าเริงเลย"เพื่อนตัวดีอมยิ้มแก้มตุ่ย
เออก็เอ็งเปรมกะสาวๆ ซะขนาดนั้น มันยื่นเบียร์มาให้อีกกระป๋อง
พลางเดินไปสั่งขวดใหม่ที่เย็นกว่า (เวงของเหลือให้กูนี่หว่า)
พลางพากันขึ้นรถกลับบ้านไม่สนว่าตำรวจจะบอกเมาไม่ขับยังไง
เพราะมันบอกว่าเมาไม่ขับก็กลับบ้านไม่ได้เด้
ผมเบื่อครับขึ้นรถเงียบๆ ช่างมันผมจะขับมันก็ไม่ยอม.........
มันบอกถึงบ้านแน่ไม่งั้นก็เจอกันศาลา2 เวง-_-|||||
ผมเงียบครับปล่อยมันขับต้องคอยดูถนนให้มัน
ผมกลัวจะได้ไปนอนศาลาจริงๆ
"เห้ยเจมมึงเป็นไรวะไม่ร่าเริงเลยสาดมาเที่ยวทั้งทีทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้
เป็นโรคแพ้สถานบันเทิงหรือไงวะ "มันถาม
“ไม่รู้วะ กูเครียด เห้ย ถ้าเป็นแกถ้าของที่รักมากๆโดนแย่งไปจะทำไงวะ”
ผมเปรยๆขึ้นมา
" คำถามปัญญาอ่อนวะ ถ้ามึงรักจะสนไรวะก็แย่งคืนมาดิ
จะปล่อยให้มันหลุดมือหายไปหรือไงวะ"
"แต่ถ้าเขาอยู่ตรงนั้นเขาอาจจะมีความสุขนะโว้ย
เพราะคนที่อยู่กะเขามันอาจดูแลได้ดีกว่า"
“อ้อเรื่องหญิงแล้วจะเป็นไรวะ ถ้าเอ็งรักเขาจริง
ก็เอาเขามาทำให้เขามีความสุขกว่า รักเขามากๆ
รักเขามากกว่าคนไหนๆ ไม่ผิดหรอกวะ
ดีกว่าจะมานั่งเสียใจไปตลอด”
"เอ้า" มันยื่นเบียร์มาให้
"ดื่มซะดื่มให้กะเอ็งที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นรู้จักรสแห่งรักและอกหักวะ"
ผมรับเบียร์จากมันดื่มลงคอรวดเดียวหมด
เออถ้าโดนแย่งไปก็แย่งคืนสิวะผมบอกกะตัวเอง
โยนกระป๋องลงถนนได้ยินเสียงดังของกระปิ๋งที่กระทบพื้น
ยื่นหน้าออกไปรับลมอากาศยามค่ำ
พรุ่งนี้แล้วสินะ วันที่จะได้เจอมินที่มหาลัยอีกครั้ง................
“เห้ย!!ไมพูดหมาๆงี้วะทำงี้ได้ไงเอ็งไม่เคยสนใจ
ไหงวันนี้มาบอกว่าจะจีบมินมรึงไม่รู้เหรอวะว่ากรูจะจีบ
แล้วก็กำลังเป็นไปด้วยดีด้วย.......” ไอ้บอยโวยลั่น
“เห้ยใจเย้นมีไรค่อยๆพูดกันสิวะ” ทุกคนห้ามพลางขวางไม่ให้ใกล้กันได้
“แล้วไงอะกูรู้นะโว้ยไอ้บอยเอ็งไม่ได้รักมิน
เอ็งก็แค่อยากจะฟันยัยมินเท่านั้นแหละ เหมือนที่ผ่านๆมา”
“เออแล้วไงวะหรือมรึงไม่ใช่คบมานานกูรู้สันดานมึง
พอๆกะที่มรึงรู้สันดานกรูละวะ"
"เอองั้นเอ็งก็น่าจะเข้าใจสิวะว่ากูรักผู้หญิงคนนี้จริงๆรักโคตรๆ
รักแบบไม่ทิ้งแน่ๆ ถ้าเอ็งจะทำเขาเจ็บเอ็งอย่าจีบเลยวะ
กูขอสักคนได้ไหมวะในฐานะเพื่อนให้กรูสักคน สรัด”
พลางต่อยหน้ามันหนึ่งที(เอากำไร^^”)
มันจ้องหน้าผมไม่พูดอะไรเหมือนคิดอะไรสักอย่าง ผมเตะมันต่อ(เอากำไรอีก)
“สรุปว่าไงวะแค่นี้ให้กรูได้หรือเปล่า” ผมถาม
“ได้แต่กรูขอไรก่อนอย่างได้ป่าววะ”
“ไรวะห่าถ้าหาได้กรูจะหามาให้เดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ยากวะ” มันยิ้มมีเลศนัย
“ขอเตะมรึงคืน 2 ทีเหอะวะเอากำไรกรูไป” มันพูดพลางเตะตูดผมไป2ที
แล้วมาโอบไหล่ผม
“ไอ้ห่า ดูแลมินให้ดีนะเว้ย ให้ดีมากกว่ากูดูแล ละ”
“เออ กรูสัญญา”
“เห้ยไปล้างคราบเลือดก่อนไปพวกเอ็งอะ นางฟ้าพวกมรึงเดินมานู่นแล้ว”
เพื่อนผมบอกเห็นมินหอบหนังสือเดินมา
ผมกะเพื่อนหันหลังกลับจะรีบหนีไปห้องน้ำ แต่ไม่ทันคุณเธอหรอกครับ
สายเข้าทันที จำใจรับครับชื่อแม่คุณเธอโชว์หลา
“จะไปไหนค่ะเห็นมินมารีบเดินหนีเลยนะ
เคืองรู้ไหมเนี่ยอยู่คุยกันก่อนนะห้ามหนีเด็ดขาด”
ผมไปไหนไม่ได้ส่วนไอ้บอยหันมาขยิบตาก่อนจะเดินไปห้องน้ำต่อ.........
"ตายแล้วเจม ไปโดนอะไรมา"มินวิ่งมาหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่ปากให้ผม
“อ้อ ตะกี้มีสาวแปลกหน้าอยู่ๆ มากระโดดจูบ เนี่ยงงเลยวิ่งไปนู่นแหละ”
ผมแซวครับ ทันทีเลยเจอหยิกครับยายมินหยิกซะเนื้อเกือบเขียว
“อยากตายเหรอ เจ็บๆ เงี้ยยังเจ้าชู้ เดี๋ยวก็ไม่รอดหรอก” มินลูบหัวผม
“เราเป็นห่วงนะ อย่าไปมีเรื่องกะใครอีกละค่ะ” มินพูดพลางสบตาผม
พอครับพอไม่ไปไหนแล้ว น่าร้ากกกกกกกกกกกสาดๆ เงี้ย
อืมถ้าไม่เกี่ยวกะมินรับรองไม่มีหรอกครับ"เห้ยเหมือนวะ" เพื่อนๆ ผมแซว
"เหมือนแฟนกันใช่ไหมวะ" ผมถาม
“ป่าววะ เหมือนหมากะเจ้าของ อ๊ะ!!... -_-|||||
..”
คืนนั้นผมพามินไปกินข้าวครับที่ร้านแถวเวิร์ลเทรด
ผมรู้สึกว่ามินดีใจมากเลยครับร่าเริงเดินดูนู่นดูนี่ไปทั่ว
“มินจายเย็นๆ โหเดินยังกะเป็นลูกสาวเจ้าของห้าง”
“ก็มินดีใจอะเจม.....”
“เรื่องไรเหรอบอกเราได้หรือเปล่า”
มินมายืนข้างๆ ครับเอามือมาคล้องแขนผมแล้วเอาหัวซบ
“ก็เรื่องที่เจมพามินมาเดินเที่ยวไง
เจมไม่เคยทำหยั่งงี้มาก่อนเลยเจมเป็นอะไรไปเหรอ”
มินหันมามองด้วยสายตาซุกซนเป็นเด็ก
หน้าขาวๆ กะหน้าอกนุ่มๆข้างแขนยิ่งทำให้ผมรักมินมากขึ้น
(แบบคำที่ว่าหน้าอกสยบโลกได้)
ผมได้แต่มองมินไม่พูดไรมากแล้วก็เดินต่อไปเงียบๆ
“เจม เจม รอมินด้วยมินขอโทษ
มินพูดไม่ดีออกไป เจมพามินมากินข้าวแค่นี้ก็พอแล้วละ”
มินเดินมากุมมือแล้วก็ยิ้มให้ผมอีกครั้ง.............
ผมยืนหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ๆโรงหนังแห่งหนึ่ง
คนเดินไปมาพลุกพล่าน ผมมองพื้นไม่กล้าสบตามิน
มีมินยืนมองผมด้วยสายตาแบบจะหาคำตอบว่ามายืนทำอะไรตรงนี้
“มิน เรามีอะไรจะบอก เราคิดมานานแล้ว
เกี่ยวกะเรากะมินเราอยากให้มินรู้จริงนะว่าเรา...........”
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ ไม่ มินไม่ฟัง” มินพูดพลางเอามืออุดหูมินวิ่งหนีผม
ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น มินวิ่งลงบันไดเลื่อนไป
ท่ามกลางสายตาของคนที่มอง
ผมกลับบ้านโทรหามินทั้งคืน มินปิดเครื่อง โทรศัพท์บ้านเธอก็ถอดสายออก
ผมติดต่อมินไม่ได้เลยผมร้อนใจมาก ผมตัดสินใจจะไปบ้านเธอ
แต่ภาพพ่อเธอทำความสะอาดปืนตอนผมไปส่งบ้านครั้งแรกยังติดตาอยู่เลย
ถ้าผมไปหาเธอดึกๆ แถมพ่อมินยังรู้ว่ามินร้องไห้ละก็
ผมคงได้ไปนอนเล่นในป่าช้าแถวบ้านแน่
ผมจะทำไงได้ครับ ผมได้แต่นอนกลิ้งไปมาทั้งคืน พร้อมกับคำถามว่า
“ทำไม และเพราะอะไร อะไรที่ผิดพลาด”
ตี 5:11 นาทีผมตื่นเช้าแบบไม่เคยมีมาก่อนทั้งๆ ที่ผมแทบไม่ได้นอนทั้งคืน
ข้าวเย็นผมยังไม่ได้กินด้วยซ้ำ ตอนนี้ในหัวมีแต่ มิน มิน มินแล้วก็มินเต็มไปหมด
อาจมีภาพ ไก่ทอดแทรกมาบ้าง แต่ยังไงผมก็ยังคิดถึงมินอยู่
ผมอาบน้ำ แต่งตัว เดินออกจากบ้านตรงไปที่รถแล้วขับออกไป..............
มือถือดังขึ้นเบาๆ 1 ครั้งแล้วก็เงียบหายทันที
สาดไอ้บ้าที่ไหนไม่ลงทุนวะโทรมาให้โทรกลับเงี้ย
ผมดูชื่อครับ ถ้าเป็นไอ้เพื่อนบ้าผมก็จะโทรไปด่าบุพการีมันซะหน่อย
พอดูชื่อผมขับรถผิดเลนไป2วิเลยตกใจมากเกือบจะเป็นข่าวหน้า1ซะแล้วT_T
มินครับใช่แล้วเบอร์ของมินปรากฎบนหน้าจอมือถือ
และแน่นอนครับผมต้องโทรกลับทันที
ผมกดโทรไป แต่ละตื้ด....ตื้ด.....ช่างเชื่องช้าเหลือเกิน
รับซิมินรับทีเจมจะอกแตกตายแล้ว
“ฮัลโหล” เสียงใสๆของมินในวันนี้ดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน
แม้ผมไม่ใช่ยอดมนุษย์ก็พอจะมองออกว่ามินเพิ่งผ่านการร้องให้มา
อาจจะทั้งคืนด้วย
“มิน นี่เจมนะเมื่อวานเป็นอะไรไปครับ จู่ๆ ก็วิ่งหนีเจมเลยมินเป็นอะไร”
“มินขอโทษเจม มินขอโทษ
แต่เจมมินรับไม่ได้แล้วมินไม่อยากฟังมินรู้เจมไม่เคยชอบมินเลย
แต่มินขอนะเจมขอได้ไหมแค่...ให้มินใกล้ๆ เจมอยู่อย่างนี้
มินจะไม่ว่าไม่พูดอะไรเจมจะมีใครก็ได้ขอแค่ให้เราอยู่ใกล้เจมนะ”
มินร้องให้หนักขึ้น
“มินรู้มินไม่ควรโทรไปหาเช้าๆ มันจะกวนเจมจะทำให้เจมโกรธมินมากขึ้น
แต่มินแค่อยากโทรหาเจมเท่านั้น มินอยากคุยกะเจมนะ
แต่มินก็กล้าแค่โทรไปให้เจมเห็นชื่อเท่านั้นแหละ”
“มิน...เดี๋ยวเจมจะไปรับนะ เจมมีอะไรจะบอกต่อจากเมื่อวาน
เราแค่อยากให้มินได้ฟังมินอย่าคิดมากสิมันอาจไม่เป็นอย่างที่มินคิดก็ได้
ได้ไหมมินฟังเราพูดซักครั้งหยุดร้องนะคนดีเดี๋ยวเราไปรับนะครับ"
“ค่ะ จะรอนะค่ะ”
ผมขับรถปานพ่อเป็นนายกผมรีบไปให้เร็วที่สุด
ผมอยากเจออยากพบและอยาก “กอดมิน”
มากที่สุดในตอนนี้
มินยืนรออยู่หน้าบ้านครับทั้งๆ ที่กว่าผมจะมาถึงก็กินเวลามากกว่า 30 นาทีแท้ๆ
“มินรอนานหรือยัง มารอด้านนอกทำไมเดี๋ยวพี่ก็กดกริ่งเรียกเหมือนทุกทีแหละ”
ผมจอดรถแล้วบอกมิน มินเดินเงียบๆ มาขึ้นรถ
“เจมส์มีอะไรจะบอกมิน”
มินถามขึ้นมาเรียบๆ เล่นเอาผมพูดไรไม่ถูก
“แล้วมินทายว่าเรื่องอะไรล่ะ”
ผมถามเท้าก็เหยีบคันเร่งพารถออกถนนใหญ่
"มินไม่รู้แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วยมินว่ามินอยู่อย่างงี้ดีแล้วละ
มินไม่อยากให้เจมลำบากใจ"
มินจะไม่พูดอะไรแล้วขอโทษนะ เธอหันมายิ้มให้ผม (น่าร้ากกสาดอ่า)
“เจม” มินพูดมือประสานที่ตักก้มหน้า
“ถ้ามีคนมาจีบมินเจมจะว่าอะไรไหมมินไม่ได้สนเขานะ
แต่ถ้ามินคิดว่ามินจะลืมเจมมินก็ต้องหาใครสักคนแหละที่จะดูแลมิน”
ผมขับรถเข้าข้างทางมองไปที่มิน
ผมเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยออกอีกมือเอื้อมไปที่ไหล่ของมิน
ผมคว้ามินมากอด..มินตกใจมากเธอเอามือดันผม
“เจม เจม จะทำอะไรมินไม่ชอบนะเจมมินไม่ได้หมายความอย่างนี้ เจมอย่า.....”
มินพยายามดิ้นครับแน่นอนแรงสู้ผมไม่ได้
ผมเอาหน้าก้มไประหว่างซอกคอขาวๆของมิน
มินดิ้นครับดิ้นอยู่ได้ไม่นานแล้วก็หมดแรงในอ้อมแขนผม
“มินนี่อาจจะฟังเหมือนโกหก มินอาจจะไม่เชื่อ เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
เราก็ไม่และไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่............”
ทั้งรถเงียบมีเพียงลมหายใจมินดันผมออกมาแล้วมองตาผม
“เจมอย่าบอกนะว่า.....” มินร้องไห้ออกมาเธอเอามือปิดปาก
ใช่ครับเธอร้องให้ทั้งยิ้ม
“เจมจะบอกว่าเจมชอบมินเหรอ?”
"ป่าว.....เราไม่ได้ชอบมินหรอก"
พอพูดจบคราวนี้มินร้องไห้หนักเลยครับแบบยิ้มหุบหายไปเลย
ผมจับมือมินมาครับ
“แต่เรารักมินนะ” ผมจับมินมากอดต่อ
มินกอดตอบครับน้ำตามินชุ่มเลยครับชุ่มไหล่ผม
แล้วผมก็มองตามินครับแล้วก็แน่นอนครับมินก็หลับตา
ผมรวบรวมความกล้าครับ
ผมกำลังจะมีลูกครับ เอ้ยมีความรัก
มีเสียงเคาะกระจกครับ สาดครายวะกวนคนกำลังจะมีความสุขเดี้ยวเดียวมีเรื่อง
ผมไม่สนครับพยายามสร้างบรรยากาศต่อผมมองตามิน มินมองตาผมโอ้วเยี่ยม
มันเคาะอีกแล้วครับไอ้บ้าที่ไหนวะผมคิดอยากดูหนังสดก็ดูไปเงียบๆเด้
ผมหันไปครับกะด่าพ่อมันแล้วผมก็อึ้งครับ
ด่าพ่อมันไม่ออกครับก็พ่อผมอะดิครับมายืนเคาะกระจกอยู่
ผมยิ้มแหะ แหะ แล้วเลื่อนกระจกลงยกมือสวัสดีพ่อ
ดีครับพ่อมาไงไปไงอะครับเนี่ย พ่อผมขมวดคิ้วครับผมยิ้มแบบน่ารักที่สุดในโลก
ในใจนึกแค่ตายแน่กรูวันนี้T_Tไม่ตายก็ม้ามแตก
มินเงียบครับได้แต่ยกมือไหว้พ่อผม
ผมมองก็รู้แล้วครับพ่อผมโกรธแหงๆ
“ทำไมมาทำไรกลางถนนอย่างงี้
ตะกี้พ่อขับรถมาเห็นจอดข้างทางก็นึกว่ามีอุบัติเหตุอะไรมันไม่สมควรรู้ไหม
ฉันสั่งฉันสอนให้แกเป็นเด็กหยั่งงี้ตังแต่เมื่อไหร่”
พ่อผมโวยลั่นสายตาแบบพยายมก็ไม่ปาน
ความรู้สึกผมก็แบบ กรูตายแน่กรูตายแน่>_<อะไรแบบงี้
"เดี๋ยวค่ะคุณพ่อ"มินตะโกนออกมาแล้วเรื่องก็ใหญ่ก็เกิดขึ้น
พ่อผมสบตากะมินพ่อไม่ยิ้มเลยครับผมไม่รู้มินทนได้ยังไง
พ่อผมเฮี้ยบแบบมากๆลูกหลานกลัวกันหมดตอนยิ้มก็ดีอะครับ
แต่พอโกรธก็แบบตัวใครตัวมัน เธอเป็นใคร...........
"ไร้มารยาทฉันไม่รู้นะว่าแกคิดยังไงแต่ฉันไม่ให้แกคบกะลูกชายของฉันแน่ๆ
เป็นผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัว อ้อหรืออยากได้สามีรวยๆ
ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกะลูกชายฉันอีก "
เผี้ยะ......................................................
มินตบหน้าพ่อผมฉาดเบ่อเร่อเป็นเหตุการณ์วิกฤติที่สุดที่ผมเคยประสบมา
ผมจะทำยังไงแล้วจะเกิดอะไรขึ้นผมตอบไม่ได้เลย
ผมกลัวครับผมยอมรับแค่ขนาดตัวพ่อผม
มินก็ปลิวไปกองกะพื้นได้แล้ว มินเงียบก้มหน้าแล้วร้องไห้ครับ
“มินไม่ยอมค่ะ คุณพ่อจะด่าว่าจะว่าหรือจะเห็นมินเลวยังไงมินยอมได้ค่ะ
มินยอมรับและมินก็ไม่มีสิทธิจะพูดอะไรใรสิ่งที่คุณพ่อเห็น
แต่มินไม่ยอมหรอกค่ะที่คุณพ่อจะว่าลูกชายของคุณพ่อเองเสียๆหายๆ
มินอยู่กะเจมมาตลอดถึงมินจะยังไม่รู้จักเจมดีเท่าคุณพ่อ
แต่มินรักเจมไม่น้อยกว่าที่คุณพ่อรักแน่ๆค่ะมินรู้มินอาจเป็นผู้หญิง
ที่ไม่มีค่าในสายตาพ่อ แต่มินก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง
ที่มินยอมให้เจมกอดก็เพราะมินรักเจม มินแค่อยากให้พ่อเข้าใจ
อย่างน้อยก็อยากให้พ่อเชื่อใจในตัวลูกชายของตัวเอง ขอร้องละค่ะ” มินพูด
แล้วจู่ๆมินก็ทรุดลงไปนอนกองกะพื้นถนนต่อหน้าต่อตาผม
ผมวิ่งเข้าไปปะคองมินมินเป็นลมไปแล้ว
ผมก็เข้าใจว่าเธอเจออะไรมามากในช่วง2วันนี้
ทั้งไม่ได้นอนร้องให้เสียใจตลอด
ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างมินคงรับภาระอะไรมากๆอย่างนี้ไม่ได้แน่
ผมอุ้มมินขึ้นมายืนประจันหน้ากับพ่อผม
พ่อผมยืนเงียบท่านมองหน้าแล้วจ้องเข้ามาในสายตาผม
ยังกับจะมองทะลุทั้งตัวผมไป
ท่านเอื้อมมือมา ผมคิดว่าผมคงโดนตบหน้าหรือถ้าหนักกว่านั้น
ผมอาจโดนพ่อไล่ไม่ให้เข้าบ้านอีก........................
ผมหันหน้าหนี
พ่อเอื้อมมือมาแตะบ่าผม
“การจะหาผู้หญิงสวยๆสักคนมาข้างกาย
แค่มีเงินไม่ยากเลยแต่การหาผู้หญิงที่รักเราจริงๆหายากกว่า
ดูแลเธอดีๆละอย่าทำให้ลูกสะใภ้ของพ่อต้องเจ็บ”พ่อผมพูดเงียบๆ
แล้วเดินกลับไปที่รถซึ่งมีคนขับรถเปิดประตูรออยู่
ผมอุ้มมินไว้ในอ้อมแขนมองหน้ามินที่กำลังหลับตาอยู่ผมรู้สึกโล่งใจ
มันมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจของผมตอนนี้และวินาทีนั้น
ผมบอกกับตัวเองว่า.........ผมรักผู้หญิงคนนี้มากที่สุดในโลก
ผมพามินมาเข้าโรงพยาบาลแถวๆรามคำแหงมินยังหลับอยู่
มินไม่ลืมตามากว่า6ชั่วโมงแล้วทั้งพ่อและแม่ของมินมาเยี่ยมมินอยู่หลายครั้ง
ผมรู้สึกแย่และสับสนมากที่แม่ของมินคอยสะกิดผมถามแต่
“เมื่อไหร่มินจะตื่น มินจะเป็นอะไรไหม”แล้วก็จะต่อด้วยท่านร้องไห้เสมอ
ผมยังนั่งอยู่ในห้องคอยจับมือมินให้กำลังใจ
มินกุมมือตอบผมเบาๆบ้างแต่มินก็ยังไม่ยอมลืมตาซักที
หมอบอกมินแค่เหนื่อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่น่าเป็นห่วงเหรอ?
สำหรับผมแล้วคนเป็นลมที่นอนเงียบไม่พูดอะไรมากว่า6ชั่วโมง
ผมถือว่าเรื่องใหญ่มากแล้ว
ผมออกมายืนที่ระเบียงคลำหาบุหรี่มาดูดสักตัว
มองไปที่ตลาดข้างโรงพยาบาลแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เสียงมือถือดังขึ้น
“ฮัลโหลใครวะ มีไรกำลังเครียดนะเว้ย” พ่อเอง เสียงตามสายตอบกลับ
“เอ้ยสวัสดีครับพ่อมีไรครับโทรมาแต่เช้า”
ผมตกใจทันทีแทบทำโทรศัพท์ตกจากชั้น4
"ป่าวก็พ่อเป็นห่วงแกไม่ได้กลับมาบ้านทั้งคืนนี้ก็เช้าแล้วนะ
ลูกก็น่าจะโทรมาบอกบ้าง แม่แกก็นั่งรอแกด้านล่างทั้งคืน
มือถือแกก็ไม่มีสัญญาณติดต่ออะไรไม่ได้” พ่อผมบ่นให้ผมฟัง
“พ่อครับ.......ขอสายแม่หน่อยได้ไหมครับผมอยากจะคุยกับแม่”
พ่อผมไม่พูดอะไรได้ยินแต่เสียงเดินได้ยินพ่อพูดว่า
เอ้าจากลูกชายแกแหนะสักพักแม่ผมก็มารับโทรศัพท์
เสียงท่านยังอ่อนโยนแสดงความเป็นห่วงเชื่อไหมครับ
แม่ผมไม่เคยตีผมเลยสักทีเดียวท่านพูดค่อยๆช้าๆแต่ฟังเข้าใจง่าย
“ว่าไงลูกมีอะไรจะบอกแม่หรือ” ผมว่าแล้วคุยกะแม่ง่ายกว่าพ่อเยอะ
“แม่ครับ...........แม่เคยรักใครสักคนแบบมากๆไหมครับแบบเขาสำคัญที่สุด
แบบไม่มีอะไรทดแทนได้ รักแบบอยากอยู่ด้วยกัน อยากกุมมือกันไปจนตาย”
ผมเว้นระยะแป็บนึงรอให้แม่ตอบแต่ก็นานพอสมควรเลยกว่าจะมีเสียงตอบกลับมา
“แล้วลูกเข้าใจคำว่ารักแค่ไหนลูกยังเด็กนักสำหรับแม่
แม่อยากรู้จริงๆว่าเด็กที่เคยเล่นซนวิ่งไปวิ่งมาอย่างลูกจะเติบโต
จนเข้าใจคำว่ารักได้ดีหรือยังคำว่ารักมันอธิบายยาก
แต่ถ้าลูกอยากได้ตัวอย่างแม่ก็จะเล่าให้ลูกฟัง”
"ตอนลูกเด็กๆเราไปหัวหินด้วยกันลูกเล่นอยู่แถวน้ำตกแล้วแม่ก็นั่งดูอยู่จำได้ไหม"
ผมเริ่มลำลึกความหลังมันช่างผ่านมานานเหลือเกินจบแทบจำไม่ได้
จำได้เพียงลางๆเท่านั้น
“ครับแม่ผมจำได้”
"ตอนนั้นลูกรู้ไหมว่าลูกซนจนตกลงไปในร่องของหิน
เท้าลูกติดอยู่พ่อกับแม่กระโดดลงไปช่วยน้ำเชี่ยวมากเลยลูกตอนนั้น
แม่ก็เพิ่งมารู้ที่หลังว่าน้ำป่ามันไหล่บ่าลงมาแบบไม่บอกไม่กล่าว
ตอนนั้นมีพ่อที่พยายามแกะเท้าลูกออกจากหิน
มีแม่ที่คอยอมอากาศจากด้านบนไปป้อนให้ลูกที่ใต้น้ำ
แม่รู้ลูกแม่รู้ดีตอนนั้นถ้าพ่อเอาเท้าลูกออกไม่ทันเวลา
เราอาจสูญเสียลูกไปและถ้าร้ายกว่านั้น
ชีวิตของพ่อและแม่ก็คงดับไปด้วย”
ผมปิดตานึกภาพความทรงจำนั้นก่อนจะหันมาฟังต่อ
"ตอนนั้นแม่ได้ยินเสียงน้ำไหลมาเรื่อยๆ
ฝนก็ตกหนักลงมาคนอื่นได้แต่ยืนมองบนฝั่ง
ไม่มีใครอยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกะเราหรอกลูก"
“เห้ยน้ำป่า”
"มีคนตะโกนขึ้นแม่ตกใจมากหันไปเห็นสายเป็นขาวๆลอยลงมา
จากตัวน้ำตกแม่หันไปมองพ่อพ่อไม่สนใจด้วยซ้ำนะลูก
ว่าน้ำมันไหลลงมาเขายังพยายามสุดชิวิตที่จะเอาลูกขึ้นมาจากน้ำ"
ตูมเสียงน้ำกระแทก
"วินาทีนั้นแม่ลูกสึกแค่สายน้ำมันกระทบตัวพัดพาแม่ไป
แม่คิดว่าคราวนี้ต้องตายแน่ๆมันเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ
แม่หายใจไม่ออกเลยลูกสายน้ำมันม้วนตัวแม่อยู่
แม่ก็คิดแค่ว่าคงจบแค่นี้แล้วแต่ก็มีมือนึงมาฉุดแม่ขึ้นจากน้ำ
พ่อของลูกฉุดแม่ขึ้นมาจากน้ำแม่เห็นพ่อมือนึงเกี่ยวกับกิ่งต้นไม้อยู่
และที่แม่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือลูกลูกที่นอนนิ่งสนิท
อยู่ในอ้อมแขนอีกข้างนึงของพ่อลูกไม่รู้สึกตัวแล้วละมั้ง
แต่แม่ยังจำสีหน้าของพ่อได้อยู่เลยท่านมองที่ลูกแน่ๆ
สายตาที่แสดงว่าลูกเป็นคนที่สำคัญที่สุดและวินาทีนั้น
แม่ก็แน่ใจมากๆเลยว่าพ่อรักลูกมากกว่าจะมีคนมาช่วยเราทั้ง3คน
ก็กว่า20นาทีแหนะลูกพ่อของลูกเกาะฝืนกระแสน้ำที่เชี่ยวมากๆ
โดยต้องอุ้มลูกแล้วฉุดแม่อยู่แม่คิดนะลูกแม่คิดว่ามันคงทรมานมากแน่ๆ
แม่จะปล่อยมือออกเพื่อลดน้ำหนักให้พ่อ อย่างน้อยเรา3คนก็จะไม่ตายหมู่
แต่พ่อก็ยังกุมมือแม่ใว้แน่นราวกับจะรู้ความตั้งใจ
และความหมายของสิ่งที่แม่กำลังจะกระทำ
น้ำยังพัดลูกพัดแรงขึ้นเรื่อยๆสายน้ำกระทบหน้าแม่จนด้านชา
ทั้งหนาวทั้งเจ็บแต่พ่อก็ยังไม่ยอมแพ้
แม่รู้ว่าถ้ายังเกาะอยู่แบบนี้ไม่นานพ่อต้องหมดแรง
และต้องยอมแพ้กับธรรมชาติแห่งนี้”
แม่นิ่งไปนานมากก่อนจะเล่าต่อราวกับแม่นึกภาพแห่งอดีตเป็นฉากๆ
และกำลังซับน้ำตาตัวเองอยู่...
"พ่อหันมาบอกแม่ที่กำลังจะหมดแรงตอนนั้น แม่ยังจำอยู่ทุกวันนี้เลย
'หากจะตายเราก็ตายด้วยกันครอบครับสำคัญมากสำหรับผม
เราจะขาดใครไปไม่ได้คุณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและลูกก็ด้วยแข็งใจใว้นะ'
ตอนนั้นแม่ไม่มีแรงแล้วนะลูกความเหนื่อยกะสายน้ำมันทำเอาแม่จะสลบอยู่แล้วแต่แม่ก็ยังยิ้มให้พ่อแม่พูดได้แค่คำว่า 'ค่ะ'เท่านั้น"
"สรุปเราสามคนรอดไหมแม่" ผมถาม
"ถ้าไม่รอดแล้วที่ยืนคุยอยู่นี่ผีหรือไง"
แม่ผมยิงมุขตลกกลับมาผมก็เพิ่งรู้ว่าแม่ก็มีอารมขัน
ผมแกล้งหยอกแม่เพราะกลัวแม่จะร้องให้แล้วผมต้องมานั่งปลอบอีก
ผมแพ้น้ำตาผู้หญิงมากแบบไม่อยากเห็นเลย
“ต่อจากนั้นไม่นานก็มีคนมาช่วย
เขาพาเรา3คนพ่อแม่ลูกขึ้นจากฝั่งแล้วพาไปโรงพยาบาล
ตอนเช้าแม่ต้องวุ่นวายหน้าดูต้องวิ่งวน2ห้อง
ทั้งห้องพ่อและลูกถึงมันจะอยู่ติดกันก็เถอะ
ลูกก็ยังซนไม่รู้เรื่องไรมากหรอก
หมอบอกลูกแค่ขาดอากาศจนช็อคไปเท่านั้น
แต่พ่อนี่สิแม่พึ่งรู้จากหมอเมื่อเช้าว่ากระดูกไหล่หักและร้าว
คงเจอน้ำม้วนตัวไปกระแทกหินตอนที่เจอน้ำป่า
หมอยังบอกเลยคนอาการหยั่งงี้
แค่ลำพังจะพยุงตัวเองกลางสายน้ำเชี่ยวก็เจ็บจนทนไม่ได้อยู่แล้ว
นี่ยังต้องมาอุ้มทั้งลูกแล้วยังต้องฉุดแม่อีก ต้องใช้กำลังใจมหาศาลจริงๆ
นี่แหละลูกความรักที่พ่อและแม่มี ลูกมั่นใจไหมละว่าจะรักใครสักคนได้เท่านี้"
ผมถอนหายใจ......................มองไปที่เตียงมิน
ครับแม่ผมคิดว่าผมรู้แล้ว..................
มินยังคงนอนหลับตาอยู่ผมนั่งมองมินอยู่ข้างเตียงเห็นมินหายใจเบาๆสม่ำเสมอ
ผมเริ่มคิดถึงวันแรกที่ผมเจอมินวันแรกที่มินตบผม
วันแรกที่เราทะเลาะกัน และวันแรกที่เรากอดกัน....
มินวันนี้สวยเหลือเกิน หน้าขาวๆยังนอนหลับตาไม่รู้เรื่องอะไร
ซอกคอที่เรียวยาว...ตัดกับชุดคนไข้นิ่งทำให้มินยิ่งสวยขึ้นไปอีก
ผมลองเรียกมินเบาๆหลายครั้งมินก็ยังไม่ยอมลืมตาตื่น
จนผมคิดว่ามินแกล้งหลับหรือเปล่า
ผมเอื้อมมือไปหยิบรีโมททีวีปิดทีวิทิ้งแล้วก็หันมามองมิน
ซึ่งหลับตาไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง............
อิอิ เสร็จกรู ผมคิด...... เอ้ยม่ายช่าย ม่ายช่าย
ผมก้มลงไปกระซิบข้างๆหูมินครับพูดกับเขาเบาๆ
"ตื่นได้แล้วมินหากไม่ตื่นเราคงห้ามใจที่จะจูบมินไม่ได้"
ผมก้มหน้าไปใกล้มินครับ ใกล้มากจนลมหายใจของเรากระทบกัน
วินาทีนั้นที่ปากผมประกบกับมินเพียงเบาๆ
ผมหวังแค่เพียงมินจะตื่นขึ้นลืมตาแล้วยิ้มให้ผมเหมือนกับสโนไวท์
แต่เปล่าเลยมีแต่ความเงียบมินยังนอนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมถอนหายใจความรู้สึกยังติดปากไม่รู้จะมีคนว่าผมลักหลับหรือเปล่า
ผมเดินไปหยิบมือถือบนตู้เย็นหยิบกุญแจรถใส่กระเป๋ากำลังจะเดินออกจากห้อง
ก็ได้ยินคำพูดหนึ่งขึ้นมา
“การทำอนาจาร หรือลักหลับผู้อื่นขนาดนอนหลับโดยไม่ยินยอม
มีโทษต้องจำคุก3ปีหรือปรับไม่ต่ำกว่า30,000บาทหรืออาจต้องทั้งจำทั้งปรับนะค่ะ”
ผมหันไปเห็นมินนั่งลุกขึ้นหันมายิ้มหวานให้ผม ผมยิ้มตอบเดินไปหามิน
แสงแดดส่องเข้ามาทำผมมินเป็นประกายน่ารักเหลือเกิน
“แล้วผมต้องเจอลงโทษยังไงบ้างละครับ” ผมถามแล้วยืนอยู่ข้างๆเตียง
แล้วเราก็จูบกันอีกครั้งนานกว่านาทีเลยทีเดียวกว่าการจูบจะเสร็จ..........
“สรุปมินเป็นแฟนเจมหรือยังเนี่ย” มินถามผม
“ยิ่งกว่าเป็นอีกเรารักมินมากรู้ไหม” ผมตอบมินยังเอามือคล้องคอผมอยู่
“มินรักเจมนะ” มินพูดช้าๆเบาๆแต่ได้ใจความ
.............................
...................
“เจมก็รักมินครับ”
ความคิดเห็น