ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •OK!,,'รับวิจารณ์นิยาย,,สไตล์ป้าปัง•

    ลำดับตอนที่ #3 : [ Send No.2 ] : N.C SCHOOL โรงเรียนอันตราย มัธยมปลายอิชิรอน

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 53




    คำวิจารณ์เรื่อง
    : N.C SCHOOL โรงเรียนอันตราย มัธยมปลายอิชิรอน

    วิจารณ์โดย : ป้าปังปัง (MPzero)

    ลิ้งค์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=576160


     

    เป็นเพียงความคิดเห็นของคนๆเดียว ไม่ใช่มารตฐานหลัก

     และเราก็เป็นแค่นักอ่านธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น

    อาจมีอะไรตกหล่น หรือทำให้ไม่พอใจก็ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้เลยนะคะ

     

                อนึ่ง ถึงนิยายของคุณ Slow Black จะจัดอยู่ในหมวด จิตวิทยา แต่เนื่องจากว่าคุณให้มองว่ามันเป็นหวานแหวว ดังนั้นเราจึงขอมองในมุมหวานแหววเป็นหลักนะคะ

                บทล่าสุดที่เราอ่านจบในวัน  22 เม.ย. 53  :  NC.13 ชนะใจ (edit.60%)

     

    สำหรับโครง+พล็อต :: 

     

                เข้าเรื่องกันเลยละกันเนาะ ค่ะ ดูเหมือนคุณจะวางโครงเรื่องหลักๆไว้แล้ว ทำให้รู้สึกมีแบบแผนและไม่น่าจะออกทะเล เยี่ยมเลย โดยส่วนตัวก็ชอบ ส่วนสำหรับพล็อตเรื่องซึ่งเกี่ยวกับการที่นางเอกต้องย้ายเข้าไปในโรงเรียนอันธพาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคู่อริกับโรงเรียนเดิมเพื่อแก้แค้นให้น้องสาว แล้วการแก้แค้นครั้งนี้ก็ไม่ได้เคี้ยวลงง่ายๆซะที่ไหน นางเอกต้องเจอเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งผู้เขียนก็ผูกเรื่องได้ดีในระดับหนึ่ง โอเค พล็อตนั้นนับว่าเป็นความสดใหม่ของทีนี่ แต่ใช่ว่าจะแปลกหรือไม่เคยพบเห็นแนวนี้มาก่อน

                ในส่วนนี้ต้องขอพูดตามตรงว่ายังไม่อิ่มเต็มที่ ที่อ่านต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะชอบใจในสไตล์การดำเนินเรื่องหรือบทสนทนาและตัวละครบางตัวที่มีเอกลักษณ์ แต่ทว่ามันก็อย่างที่บอกไป มันไม่อิ่ม กล่าวคือไม่ค่อยเห็นลูกเล่นหรืออะไรที่ดูโดดเด่นมากนักเพราะยังมีกลิ่นอายความรู้สึกหรือมีความดาษดื่นไปกับการ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่อง การแก้แค้นหรืออะไรทำนองนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างโหล แต่ถ้าการย้ายโรงเรียนไรงี้ก็โอเคแล้ว มันน่าสนใจดี

                พล็อตย่อยก็ดีแล้วนะคะ เพราะคุณก็สามารถดึงอารมณ์ที่ว่า 'น่าติดตาม' ออกมาจากผู้อ่านได้ แต่เหตุการณ์บางอย่างก็ซ้ำๆเกินไปจนบางตอนก็อาจเกิดความรู้สึกให้อยากอ่านข้ามๆเป็นบางครั้ง

                ขยายความอีกหน่อย อยากให้เน้นสำหรับพล็อตย่อยเกี่ยวกับพวก N.C มั่ง คือมันเหมือนกับว่าแค่ออกมาเต๊ะๆให้ดูว่าตูเก่ง ตูใหญ่ แล้วหายไปเลย โผล่มาตอนสองตอนงี้ บทไม่ค่อยเด่นเท่าที่ควรค่ะ อย่างน้อยก็น่าจะโผล่มาท้ายๆตอนนิดหน่อยๆ กล่าวถึงบ้างอะไรบ้างว่าพวกนั้นมีการเคลื่อนไหวอะไรเป็นปริศนาคาใจทำนองนั้นนะเพราะคิดว่าพล็อตแนวนี้มันเล่นได้เยอะดี ทำให้มันยิ่งใหญ่ไปเลยค่ะ!!

     

    การดำเนินเรื่อง ::

     

                *ต้องออกตัวก่อนว่าที่กล่าวมานี้มันออกมาจากใจล้วนๆ ความจริงท่านคงจะไม่ได้มีเจตนาให้คล้ายกัน แต่ความรู้สึกตอนอ่านมันอดไม่ได้จริงๆ

     

                กล่าวโดยรวมการดำเนินเรื่องนั้นกระชับ อ่านได้เรื่อยๆเพลินๆ ไม่ช้าน่าเบื่อ ไม่ยืดเยื้อจนน่ารำคาญ เรื่องราวต่างๆดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คิดว่าควรมีอะไรที่น่าดึงดูดใจได้มากกว่านี้ให้เนื้อหามันเข้มข้นมากขึ้น

                สิ่งที่ขาดในการดำเนินเรื่องคือ 'อารมณ์' เรื่องนี้เหมือนมันมีอยู่แค่ไม่กี่อารมณ์ มันยังไม่เต็มที่พอก็เลยรู้สึกเฉยๆ ส่วนตัวอยากให้มีพวกมุขตลกแทรกเข้ามาบ้างจะได้ไม่น่าเบื่อเกินไป (มีอยู่แต่ไม่ขำมากถึงขนาดบ้าคลั่ง แต่ก็มีบ้างที่ทำให้อมยิ้มตาม)

                แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของ 'เวลา' ไม่รู้สิคะ นอกเหนือจากการกำหนดเวลาวันจันทร์ แปดโมง หนึ่งอาทิตย์ บลาๆ ที่ยังไม่ค่อยระบุให้เข้าใจแน่ชัดนัก ก็ยังมีข้อใหญ่ๆ ..คือเรื่องอดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่ดูเหมือนคุณจะอยู่กับปัจจุบันมากไปหน่อยจนไม่ค่อยโฟกัสไปยังอดีตสักเท่าไหร่ (เราว่าเน้นอดีตจะน่าสนใจนะคะในส่วนนี้จะเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป) ส่วนเรื่องอนาคตสุดจะคาดเดา

     

                แล้วทีนี้มาเริ่มเปิดหัวข้อที่ได้ทำดอกจันทร์ไว้ในตอนต้น คือไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่เรื่องนี้มีความคล้ายกับหนังสือการ์ตูนที่ได้นำไปทำเป็นภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยมเรื่องหนึ่ง ชื่อเรื่องภาษาไทยคือ เรียกเขาว่า อีกา (เรื่องนี้มันส์สะใจดี คึคึคึ :นอกเรื่อง)..คิดว่าผู้แต่งคงจะเจอคำถามนี้มาพอสมควร และท่านอาจจะตอบคำถามบางท่านไปแล้วแต่ที่เปิดประเด็นนี้มาเพราะความรู้สึกในใจจริงๆนั่นแหละ ถึงพล็อตจะไม่เหมือนกันเปี๊ยบ แต่ก็มีความคล้ายอย่างบอกไม่ถูกเหมือนพออ่านปุ๊บก็รู้สึกปั๊บว่ามันคล้ายกัน ทั้งตอนเปิดเรื่องมาที่คว่ำหัวหน้าห้องได้ในพริบตา หรือเกี่ยวกับไฟแช็ค แต่จะไม่ขอจับผิดละกันนะคะ ในส่วนนี้คิดว่าท่านไม่ใช่คนแรกที่มีกรณีความคล้ายกันไรทำนองนี้หรอก

                แต่จากที่ได้เห็นมานั้นถ้าทำได้ดี ก็จะได้รับคำชื่นชมเทียบเท่า แต่ถ้าด้อยกว่า ก็จะโดนหาว่าลอกแล้วไม่รอดอีก แต่นิยายของท่านในจุดนี้ยังอยู่ในลักษณะที่ว่าเป็นแรงบันดาลใจอยู่ค่ะ ไม่รุนแรงมากนัก ที่กล่าวมาเพื่อให้ระลึกได้ก่อนเท่านั้น

                คิดว่าควรหาอะไรสักอย่างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จุดเด่น พล็อต การดำเนินเรื่อง ปม หาเอกลักษณ์เข้าไปใส่ชดเชยก็ดีนะคะ

                ป.ล. จากที่เราอ่านในบทความนึงมาบอกว่า การนำเอาจุดเด่นของนิยายคนอื่นไปใช้จะถูกหาว่าลอกได้ทันทีค่ะ (บทความ ก้าวสู่การเป็นนักเขียน ลิ้งค์อยู่ในตอนแรกของบทความเราค่ะ)

     

    มาเข้าหัวข้อย่อยๆ กันเด้อ :

    1.      อ่านบทนำ ไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใดๆ ความโกรธแค้น ยังแสดงอารมณ์ออกมาได้ไม่เต็มที่นัก เราว่าอารมณ์แค้นที่จะเอาเลือดหัวโรมิออกมานี่มันดูลอยๆยังไงไม่รู้นะคะ ดูไม่คุ้มกับที่น้องต้องเข้า icu ไงไม่รู้ น่าจะแจ้งตำรวจนะ ตำรวจหายไปไหน เหมือนกับว่าจากการแก้แค้นให้น้อง กลายเป็นทำตามความต้องการของตัวเองไปแล้ว (เพราะน้องไม่ต้องการให้ไปมีเรื่องถูกมั้ย?)

     

    2.      ในตอน nc.1 ตอนที่บรรยายถึงสรรพคุณของนักรัก นักล่า ทั้งหลายแล้วรู้สึกเพลินๆ น่าสนใจดีทีเดียว นั่นดึงความสนใจได้ดีทีเดียวค่ะ! ชอบว่ะ!!

     

    3.      มีแต่ฉากเดิมๆ คือตีกัน อาจจะเปลี่ยนบรรยากาศไปบ้างแต่มันก็คือการตีกันอยู่ดี ในตอนที่เจอกับฟอร์คนั้นนับว่าให้อารมณ์ไปคนละทิศทาง ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นข้อดีค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยดูมีความสำคัญเท่าไหร่นะเพราะคุณก็ไม่ได้กล่าวถึงอีกเลยนับแต่นั้นมา

     

    4.      อ่านจบตอนนึงรีบเปลี่ยนไปอ่านอีกตอน สนุกค่ะ ฮ่าๆๆ

     

    ตัวละคร  ::

     

                ถ้าสมมุติว่าให้สร้างผู้หญิงอายุ 16 ปีขึ้นมา นั่นก็หมายถึงเจ้าหล่อนไม่ได้เกิดมามีอายุ 16 ทันที แต่เป็นมนุษย์ที่มีอายุมาแล้ว 16 ปี ถ้ามีคน 100 คน ก็มีชีวิต 100 รูปแบบ วิถีชีวิต นิสัย ครอบครัว ประสบการณ์ ความรัก ถ้าคุณต้องการสร้างชีวิตขึ้นมาก็ต้องรวมถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยนะ (ข้อความคร่าวๆจากในหนังสือการ์ตูนเรื่อง Haruka seventeen ค่ะ)

     

                เนื่องจาก Point of view หรือมุมมองการดำเนินเรื่องของคุณเป็นแบบให้บุคคลที่ 1 ดำเนินไป ข้อนี้มีข้อดีคือเรื่องราวต่างๆดำเนินไปอย่างน่าติดตาม ทำให้ตื่นเต้นมากขึ้น แต่ข้อเสียคือเรารู้จักเรื่องราวทั้งหมดแค่ด้านเดียว ดังนั้นนอกจากจะค่อยๆคลี่คลายเรื่องราวต่างๆแล้ว อยากให้นางเอกค่อยๆเปิดเผยเรื่องราวในอดีตออกมาบ้างค่ะ บรรยายในมุมมองที่กว้างกว่านี้ ขยายความจากหัวข้อก่อนหน้านี้นิดหน่อยเพราะจากที่อ่านมาแทบไม่พูดถึงอดีตเลยน่ะค่ะ ทิ้งปมไว้แต่ทิ้งระยะห่างเกินไป ไม่มาปะติปะต่อเรื่องราวให้ต่อเนื่องกันทำให้ขาดช่วงและอาจทำให้ผู้อ่านลืมและหันไปให้ความสนใจพล็อตย่อยอื่นๆมากกว่า ทั้งที่ส่วนของปมนี้อย่างเรื่องของฟอร์ค หรือความสัมพันธ์เกี่ยวกับนางเอกและโรมิ ประวัติของนางเอกหรือตัวละคนบางตัวที่พอออกมาแล้วจะมีบทเด่นหรือสำคัญ พวกนี้น่าจะทำให้เพิ่มความน่าสนใจและความเข้มข้นในเนื้อหามากขึ้นนะคะ

     

                ในส่วนของตัวละครโดยรวมทั้งหมดแล้วคิดว่าเหมือนตัวละครอื่นมันไม่มีความสำคัญเท่าไหร่ค่ะ ดูพอๆกันหมด นางเอกเด่นอยู่คนเดียว อยากให้ท่านลองแบ่งระดับความสำคัญของตัวละครดูนะคะ อย่างคนนั้นสนิทกับคนนี้มากแค่ไหน(ไม่รู้จริงๆว่านางเอกสนิทชิดเชื้อกับตัวละครอื่นมากน้อยแค่ไหนค่ะ ณ จุดนี้) ให้ไอ้นี่ออกมาตอนนี้ เออ ให้ไอ้นี้แวบมากวนทีนตอนท้ายนิดหน่อย บลาๆๆ แล้วก็ที่บอกไปถ้าตัวละครนั้นออกมาแล้วทำให้เรื่องสนุกก็ให้ออกมาบ้างค่ะ อย่าทิ้งช่วงมาก เพราะนี้คือนิยายไม่ใช่การ์ตูน นึกภาพยาก

                ตัวละครหลักๆในเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเลงนะคะ ไม่ใช่แค่ส่วนใหญ่หรอกเราว่ามันทั้งเรื่องเลยล่ะ เหมือนกับเจอแค่คนกลุ่มเดียว เหมือนกับว่าทั้งโลกเหลืออยู่แค่สองคน วันๆเจอแต่หน้าไอ้คนนี้ เช้าก็เจอ บ่ายก็เจอ ไปไหนก็เจอ เบื่อขี้หน้ามันว่ะ! อารมณ์ประมาณนั้นอ่ะค่ะ อยากให้มีคนหลากหลายมากกว่านี้นะ เพราะขนาดมีแค่คนไม่กี่กลุ่มก็น่าสนใจขนาดนี้แล้วมันจะขนาดไหน ฮ่าๆๆ

      

                มาดูตัวละครเป็นรายตัวกันมั่ง เริ่มที่นางเอกเลย! จุดศูนย์รวมของเรื่อง อืม.. เธอดูแอบอ่อนโยนนะเยี่ยมน้อง.. ใช่ม้า? ถึงภายนอกจะดูเยือกเย็น แต่จากการกระทำมันฟ้องว่านางเอกนี่เป็นคนมีเสน่ห์ดีทีเดียว ชอบความคิดความอ่านของนางเอกนะคะ มีเหตุผล ใจเย็น ไร้อารมณ์ ซึ่งบางทีก็ไร้อารมณ์เกินไปจนเลยเถิดไปถึงระดับที่เรียกว่าค่อนข้างน่าเบื่อ

                จากที่อ่านนิยายมาพอสมควรก็จะเจอกับเรื่องที่นางเอกนิสัยแนวเย็นชาเช่นกัน แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นจะเย็นชาแต่ในช่วงแรกๆ เพราะพอแต่งไปถึงตอนท้ายๆมันจะลำบาก เหมือนกับยากที่จะให้คนประเภทนี้บรรยายความรู้สึกรักๆเนี่ย พอแต่งไปแต่งมาจะรู้สึกว่านางเอกก็แค่ผู้หญิงธรรมด๊าธรรมดา แต่เรื่องนี้คิดว่าไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้มากนะ แต่ก็เผื่อไว้ ยังไงควรรักษาระดับนิสัยอารมณ์ของเธอเอาไว้ด้วยเด้อ

                ส่วนพระเอก(ที่ดูไม่ค่อยเหมือนพระเอก)ก็ออกมาแค่สองสามตอน พอรู้แค่ว่าเป็นโรคร้าย แต่เค้าก็เป็นคนเข้มแข็งและสามารถยิ้มได้ตลอดเวลา เป็นผู้ชายเจ้าเสน่ห์ แต่ไม่รู้ว่ายิ้มนั่นจะออกมาจากใจจริงหรือเปล่า? ตัวละครนี้น่าสนใจมากค่ะ เสียดายบทน้อยชะมัด

                ตัวละครอื่นก็นิสัยคล้ายกันหมดนะคือดิบๆเถื่อนๆ คิดว่างั้นเพราะตอนที่เจอบทพูดแล้วไม่มีบรรยายต่อหลังว่าใครพูดเนี่ยก็ยังเดาไม่ออกว่าใครพูดอยู่ ส่วนตัวละครที่มีคาแรคเตอร์แบบที่เราชอบเป็นพิเศษคืออังเดรหรือราชาแห่งอิชิรอน มันแบบด่าแบบยิ้มๆอ่ะ! พูดจาเฉือดเฉือน ดูแล้วท่าจะร้ายลึกเหลี่ยมจัด เหมือนกับตัวร้ายในเรื่องซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดินที่ชื่อมีซิลอ่ะค่ะ โอยย หล่อนประเมิณสถาณการณ์ได้น่าทึ่งมาก ดูเจ้าเล่ห์ ยิ้มแบบมีเลศนัย พูดแต่ละคำมีความหมาย ฉลาด มันเหมือนกับถึงจะเป็นตัวร้ายแต่ก็ไม่โง่ สูสีกับนางเอก ดูแล้วก็ระทึกไปทุกบททุกตอน ที่พูดมานี้คือลองดูเป็นแนวทางนะคะ เพราะอังเดรที่คุณสร้างขึ้นมาก็น่าสนใจเหมือนกัน ..แต่เสียดายบทน้อยชะมัด!!

                ในความเห็นส่วนตัว ตัวละครในนิยายเหมือนกับว่าเขามีตัวตนอยู่จริงๆ เพราะเรื่องนี้นิสัยหรืออารมณ์อะไรที่ออกมามันดูเหมือนกับเป็นธรรมดาของมนุษย์ เป็นอะไรที่ดูจับต้องได้ และคุณผู้แต่งก็อ้างอิงจากความเป็นจริงส่วนนึง (แต่ไม่ทั้งหมด) สิ่งที่อยากเสนออีกนิดคือ

                หนึ่งอยากเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เพิ่มอารมณ์ที่ว่าจับต้องได้จริงๆ นั้นคือข้อเสียของแต่ละตัวละครค่ะ ในเรื่องนี้มีนะ แต่มันแค่ยังไม่ชัดเจนเท่านั้นแหละ เพราะถ้าเห็นเต็มตานะว่าไม่มีใครเพอร์เฟ็คไปหมดหรอกมันจะทำให้นิยายเรื่องนั้นๆมีความสะดุดตา โดดเด่น โดนใจวัยรุ่น ชัวร์ป้าบ!

                และสอง น่าจะมีลักษณะเด่นภายนอกที่เห็นได้ชัดของแต่ละคนนะคะ นอกจากเรื่องนิสัยแล้วเนี่ย เช่นสีผม สีตา สัญชาติ บลาๆ ผู้อ่านจะได้นึกภาพตามและเกิดความรู้สึกร่วมไปด้วย

     

    ภาษา ::

     

                ภาษาก็คือการสื่อสารอย่างหนึ่ง มันเหมือนเป็นบททดสอบชิ้นโตที่ว่าในแต่ละหน้านิยายนั้นคุณสามารถสื่อสารกับผู้อ่านผ่านตัวอักษรได้ดีแค่ไหนทั้งความสนุก เศร้า ซึ้ง ไม่เบื่อ เพราะถึงแม้คุณจะมีพล็อตที่น่าทึ่งแค่ไหน แต่ถ้าผู้อ่านไม่รู้เรื่องก็จบเห่ และถึงแม้ว่าคุณจะมีภาษาที่สละสลวยเพียงใดหากไร้ซึ่งเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์น่าติดตามก็จบเห่เช่นกัน

     

                สำหรับเราคงต้องบอกว่าภาษาเป็นส่วนที่ต้องแก้ไขมากค่ะ ขาดการนำเสนอที่สละสลวยไปบ้าง ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร อารมณ์เหมือนกับคุณเล่นต่อคำกันอยู่อ่ะ การบรรยายอ่านไปบางทีก็เกิดอาการกระตุกเพราะห้วนสั้นเกินไป คำผิดเยอะมากกกกกกก บางทียังใช้คำไม่เหมาะสมกับบริบท ห็นบ่อยครั้งที่เว้นวรรคในช่วงที่ไม่จำเป็นต้องเว้นมันเลยดูขาดห้วง อารมณ์ไม่ต่อกันอย่าง แน่นอนสิ ของมูลของเธอ อยู่ในนี้หมดแล้ว , ฉันพ่นลมหายใจ นึกขำ กับความคิดที่อยากจะเดินเข้าไปอัดหน้ายัยชะนีพวกนั้น ใช้คำสรรพนามแทนมนุษย์คนอื่นเหมือนเรียกสุนัขเลยค่ะ มัน มัน มัน และมัน มันมีบ้างไม่แปลกค่ะ แต่เยอะเกินไปก็ไม่ไหวเนาะ แล้วก็จะเห็นบ่อยครั้งว่าประโยคเดิมๆปรากฎให้เห็นไม่น้อย ไม่ใช่พวกบทสนทนาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวละครอย่าง 'ไม่เลว' อะไรทำนองนั้น แต่เป็นพวกคำบรรยายที่ซ้ำและถี่เกินไป  อีกอย่างคืออยากให้บรรยายอะไรให้กว้างๆกว่านี้หมายถึงพวกฉากน่ะค่ะ

     

                โอเค จบข้อเสีย! เพราะนั่นไม่ใช่ทั้งหมด! เราว่าภาษาของคุณดูมีเสน่ห์นะ อ่านแล้วก็รู้เรื่องเข้าใจที่ต้องการสื่อดีในระดับหนึ่ง (ระดับหนึ่งเพราะงงบ้างบางครั้ง) สำบัดสำนวนคำพูดนี้แบบ.. ใช้คำเฉี่ยวได้ใจนะคะ กวนๆดี! มีลูกเล่น คล้ายนิยายแปลแต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นเพราะไม่ยืดเยื้อ บนสนทนาการบรรยายการดำเนินเรื่องของนางเอกโดนใจเรามากค่ะ มันให้ความรู้สึกแบบว่าใช่เลย! น่าหลงใหลลล

     มาเข้าหัวข้อย่อยๆกันเด้อ :

     

    1.      อ่านบทบรรยายของนางเอก ช่วงบทนำ คุณบรรยายใช้คำที่ดูรุนแรงเหมือนโกรธ แต่อ่านไปเราไม่รู้สึกถึงความโกรธของนางเอกค่ะ คือมันดูไร้อารมณ์อย่างประหลาดไม่สามารถทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครได้ดีเท่าไหร่นัก อย่างน้อยก็มีเครื่อยหมายอัศเจรีย์ (!) ใส่มาบ้างก็อาจจะช่วยเพิ่มฟีลลิ่งได้นะคะ

     

    2.      อยากให้มีบรรยายฉากมากกว่านี้ค่ะ อย่างฉากตอน NC.3 ที่นางเอกไปนั่งอยู่ตรงราวสะพาน น่าจะบรรยายค่ำคืนนั้น สีท้องฟ้า สีน้ำ หรือว่าตัวสะพานสูงจากระดับน้ำขนาดไหน นางเอกกลัวกับความสูงนั่นบ้างหรือเปล่า ผู้คน รถราวิ่งผ่านเยอะม้ายยย เพราะฉากนั้นเราว่ามันดูเท่ดีทีเดียวแหละ แต่ก็ยังจินตนาการภาพออกตามได้ไม่ดีเท่าที่ควร (เอาแค่นึกภาพออกค่ะ ไม่ต้องเยอะมาก เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน)

     

    3.      ยังไม่เพียงพอกับความยิ่งใหญ่ที่เห็นได้ชัดของพวก N.C และพวกโรมิ คือแค่คำพูดปากเปล่ามันไม่พอค่ะ อยากเห็นภาพชัดๆ กว่านี้ถึงความยิ่งใหญ่ รวมถึงนางเอกด้วยนะ

     

    เก็บตกหยุมหยิมเล็กน้อยจ้า~ ::

     

    1.      เมื่อไหร่ที่เปลี่ยนฉากขอแนะนำให้กด enter สักทีนะคะ

    2.      ตอนที่ 2 : ชื่อมันเปลี่ยนอย่างกระทันหัน ตอนแรกชื่อฟอร์คประโยคถัดมาชื่อฟอล์ค โอ..

     

    เหตุผล ความสมจริง ::

     

                ถ้านี่เป็นเรื่องที่พูดถึงชีวิตมนุษย์ปุถุชนบนดาวเคราห์ที่เรียกว่าโลก ความสมเหตุสมผลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฉาก ความน่าเชื่อถือ ความเป็นมนุษย์ ความคิดการตัดสินใจเหล่านี้นับว่ามีส่วนสำคัญยิ่งที่จำเป็นตัวกำหนดว่านิยายเรื่องนั้นๆน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน

     

                นับว่าจากที่อ่านมาตลอด 14 ตอนนั้น (รวบบทนำ) ท่านก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆโดยยึดถือถึงหลักของความเป็นเหตุเป็นผลและสมจริง เพราะอ่านไปก็จะมีเหตุผลมารองรับในความคิดการตัดสินใจหรือการกระทำบางอย่างของตัวละคร อย่างตัวละครที่น่าสงสัยซึ่งต่อมาก็เฉลยในที่สุดคือเรื่องที่โซยุเป็นลูกของผู้อำนวยการเป็นต้น (รอดูกันต่อไปว่าตัวละครนี้จะมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน) นับว่านั่นดูดีทีเดียว ส่วนนี้ไม่มีปัญหามากนัก แต่ก็ใช่ว่าไม่มีเลย เพราะยังมีเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกตงิดๆหรือขับข้องอยู่ในใจนั่นคือ..

                หนึ่ง โลกที่แคบเกินไป

                สอง อยากให้ท่านศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นบ้างเพราะถ้าจะเอาแนวนี้ก็เอาให้มันเต็มที่ไปเลย อย่างพวกประเพณี ยากูซ่า บลาๆๆ เพราะมันยังไม่ค่อยมีข้อมูลมากนักที่จะทำให้เชื่อว่าโลกที่คุณสร้างมามีความน่าจะเป็นไปได้

                สาม ครูหายไปไหนหมด.. ตำรวจหายไปไหนหมดหว่า.. ท่านเคยเกริ่นไว้ว่าเขตนี้เป็นที่ๆรัฐบาลญี่ปุ่นหมายหัวว่าจะกวาดล้าง มันก็คงจะดูยิ่งใหญ่น่ากลัว แต่มันไม่มีอะไรเคลื่อนไหวออกมาเลย?

                 สี่ รู้สึกว่าการได้ต่ำแหน่งเป็นผู้นำห้อง b จะดูไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่นัก คือมันได้มาง่ายแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะนางเอกเป็นคนเก่ง ปัญหาก็คือเราไม่รู้ว่ามันมีค่าแค่ไหนน่ะสิ มันก็เลยไม่รู้ค่าของสิ่งที่ได้มาเหมือนไก่ได้พลอย ก็นะ อย่างที่บอกไป ในเรื่องนี้เราไม่รู้ระดับแน่ชัดว่าแบบไหนเก่ง แบบไหนอ่อน ยิ่งใหญ่ต้องขนาดไหน ถ้ามีบรรยายความสามารถสมรรถภาพสักนิดก็ดี (คือทั้งที่ดูจากบรรยากาศที่บอกว่าการชกต่อยเป็นเรื่องปกติแล้ว ดูท่าคงไม่ใช่อะไรที่เคี้ยวได้ง่ายๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อผู้นำของคนที่เห็นเรื่องชกต่อยเป็นเรื่องปกติกลับแพ้ง่ายๆซะงั้น.. ตัวละครตัวอื่นดูเหมือนเป็นแค่กระสอบทรายอ่ะค่ะ)

                ห้า อันนี้เราเจอในหลายเรื่องมาก สมมุติเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรักในวัยเรียน แม่เราก็ชอบบ่น

    วันๆมันไม่เรียนกันเลยเหรอไงฟะ! ไปทำไมโรงเรียน มีแต่กิ๊วก๊าวกิ๊บกิ๊ว มันไม่ใช่อ่ะ! แต่จะให้บรรยายเกี่ยวกับในห้องเรียนตลอดมันก็ไม่สนุกดิ ใช่ปะล่ะ ดังนั้นเลยคิดว่าอยากให้บรรยายมั่งประมาณฉันเพิ่งเลิกเรียน ตอนนี้พักเที่ยงแต่ตูจะพักยาวไปตลอดกาล บลาๆๆๆ เป็นต้นค่ะ

     

    หัวข้อย่อยๆ คล้ายจับผิด แต่มันก็คือความรู้สึกตอนเวลาอ่านเลยอยากบอกอ่ะคับ :

    1.      ทำไมในห้องปกครองถึงไม่มีครู แล้วทำไมนักเรียนถึงมาทำหน้าที่ตรวจเช็คเอกสารได้ (ถึงเป็นลูกผอ.ก็เหอะ)

     

    2.      ตกใจกับมาตราฐานการจัดห้อง โอเค มันน่าสนใจ จัดระดับความแข็งแกร่ง อืมม.. แต่จะบอกว่า นี่มันโรงเรียนนะคะ! จะมีครูที่ไหนส่งเสริมให้นักเรียนตีกันบ้าง แล้วนี่ยิ่งมีจัดระดับ หรือว่านักเรียนจัดกันเอง? ..มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง

    เคยอ่านนิยายที่มีการจัดระดับเหมือนกันค่ะ พวกใครสวยสุด หล่อสุด ทำนองนั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นการจัดระเบียบกฎของโรงเรียนค่ะ คงไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนค่ะ คิดว่าส่วนนี้มีทางแก้คือน่าจะมีข้อมูลอะไรมารองรับพอสำหรับการที่จะทำให้เชื่อว่าโลกที่คุณสร้างขึ้นมานั้นมีความน่าเชื่อถือค่ะ  อย่างมีระบบนี้มาเป็นร้อยปี เพราะผอ.มันรักความรุนแรง บลาๆๆ ทำนองนั้นค่ะ

     

    3.      เหตุผลนางเอกดูกลับไปกลับมานะคะ ตอนนั้นบอกว่าถ้าชนะโรมิโดยที่โรมิไม่โต้ตอบสักนิดก็จะไม่ชอบใจ แต่ต่อมาดันบอกว่าเข้าอิชิรอนมาไม่ได้มาเพื่อสู้ แต่มาเพื่อแค่เอาเลือดหัวมันออก ในจุดนี้ออกจะสงสัยนะ เพราะถ้าแค่จะหัวเลือดหัวมันออกก็แค่ดักตี จบ 5555+ (เอาไปคิดเล่นๆ)

     

    4.      พิกเซล พิกกี้ ดูไม่น่าเป็นลูกครึ่งนะ แล้วคนญี่ปุ่นเขามีชื่อเล่นด้วยเหรอคะ

     

    ความพึ่งพอใจส่วนตัว :: อยู่ในระดับดีถึงดีมากนะคะ

                อา..ดูรวมๆอ่ะนะ ตั้งแต่บทนำจนถึงตอน NC.13 .. ก็สนุกดี โดยส่วนตัวคิดว่ามันน่าสนใจดีเพราะดำเนินเรื่องได้ลื่นไหลเชื่อมโยงกันดีและสมเหตุสมผล แต่เรื่องมันเนื้อหาก็ดูไม่มีอะไรเยอะแยะนะคะ ประมาณมาแก้แค้นให้น้องนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้นางเอกต้องเข้าไปพัวพันกับคนมากมาย และนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งบางทีก็น่าเบื่อเพราะตูงงและเหมือนกับว่ามันก็แค่มีเรื่องอยู่กับคนกระจุกเล็กๆกระจุกนึง เหตุการณ์ก็ซ้ำๆอยู่แบบเดิมค่ะ แล้วสิ่งที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้คือมันอารมณ์เดียวกันไปหมด (แต่ตอนไปเจอฟอร์คนี่น่าสนใจขึ้นนะคะ แล้วยิ่งรู้ว่าเป็นโรคหัวใจยิ่งน่าสนเข้าไปใหญ่) แต่คุณก็ดึงเสน่ห์ของตัวละครมาใช้จนทำให้เรารู้สึกอยากติดตามพวกเขาจริงๆ

                ป.ล. อยากให้แฝงข้อคิดคติการในดำเนินชีวิตไปก็ดีนะคะ แต่อย่าโจ่งแจ้งมากว่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. นะ แทรกไปเนียนๆในบทสนทนาหรือความคิด เพราะนิยายแนวนี้มันให้ข้อคิดได้เยอะเลยเราว่า ทำให้นิยายดูมีคุณค่าต่อจิตใจมากโข

     

    ความคิดเห็นส่วนตัวขั้นสุดยอด : มันสนุกนะ แต่ยังไม่ประทับใจ

     

    == นำแนะเล่นๆ ==

     

                แล้วพวกฉากต่อสู้ค่ะ คือเราก็เคยลองอ่านการ์ตูนหรือนิยายเกี่ยวกับอันธพาลๆไรงี้มาบ้างนะ จะเห็นว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นการชกต่อยแบบสะเปะสะปะสักนิด เหมือนกับมีแต่เอฟเฟกต์เฟี้ยวฟ้าว หรือบรรยายไปเล็กน้อยว่าต่อยจนคนๆนั้นลมลงไป เตะจนกระเด็นไรงี้ แล้วตัดบทว่าเวลาผ่านมาครึ่งชม.ก็ชนะ ไม่ใช่ใช้วิธีนี้ไม่ได้นะ แต่มันเกร่ออ่ะ แล้วชนะแบบง่ายๆ มันไม่สะใจเลย แต่เราชอบฉากต่อสู้แบบในเชอร์ล็อคโฮมลส์อ่ะค่ะ ประมาณต่อยที่กกหูประสาทรับฟังใช้การไม่ได้อีก 30 นาที เตะเข้าที่กลางลำตัวทำให้ซี่โครงหักไปสามซี่ (มั่ว) คือไม่ใช่แค่ใช้แต่กำลังแต่ใช้สมองด้วยค่ะ มันจะแบบว่า โอ้ สุดยอด! (พล่ามเยอะมาก)

                แต่คนจะตีกันมันก็ต้องอาศัยจากประสบการณ์และสัญชาตญาณอันดิบถ่อยสิเนาะ มัวแต่คิดก็ตายก่อนพอดี(ถ้าคนแบบโฮมลส์ก็ว่าไปอย่าง คึคึคึ) แต่ก็ไม่มีอะไรขัดข้องอยู่แล้วค่ะถ้าผลที่ออกมามันจะส่งผลให้เรื่องดำเนินไปได้อย่างสนุกสนาน

                ส่วนฉากต่อสู้ของคุณเราว่าก็ทำดีแล้วนะ อาจจะเพิ่มเติมว่าแต่ละคนมีจุดเด่นที่ตรงไหน ความรวดเร็ว พละกำลัง ความอึด ใจสู้ ทักษะล้ำเลิศ ประมาณนั้น เพราะถ้าไม่บอกอะไรเลยก็รู้สึกว่ามันธรรมดาเกินไปและหาข้อแตกต่างระหว่างคนเข้มแข็งกับคนอ่อนแอค่อนข้างยาก (ชอบฉากบู๊ในตอน NC.13 นะ อิ..อิอิอิอิอิอิ)

     

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=244157&chapter=103  <<<<< การเขียนบรรยายฉากต่อสู้

     
    _____________________________________________

    talk:

                ดองนานข้ามชาติ คงไม่มีอะไรชดใช้ได้นอกจากบทวิจารณ์ที่ไม่รู้จะมีประโยชณ์ต่อท่านมากแค่ไหน อึ้ก! TOT ฆ่าอิป้าปังเลยเถอะ! อ่อ..ถ้ายังไงฝากแสดงความเห็นด้วยเด้อ บ่นได้ ด่าได้ตามความต้องการT^T ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัยอีกครั้งนะจ๊ะ! (กราบงามๆ) แล้วอย่าลืมนา..ว่านี่เป็นแค่ความคิดของนักอ่านคนเดียว อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปล่ะ ทางที่เดินมันไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบตลอดสักหน่อย สู้นะฮ้าบบ!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×