คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [ Send No.1 ] : You & Me? เกลียดแต่ใช่ว่าไม่รัก'เธอ'
คำวิจารณ์ เรื่อง : You & Me? เกลียดแต่ใช่ว่าไม่รัก'เธอ'
วิจารณ์โดย : ป้าปังปัง (MPzero)
ลิ้งค์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=555329
เป็นเพียงความคิดเห็นของคนๆเดียว และเราก็เป็นแค่นักอ่านธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น
อาจมีอะไรตกหล่น หรือทำให้ไม่พอใจก็ต้องขอโทษมา ณ ทีนี้เลยนะคะ
สำหรับโครง+พล๊อต ::
ธีมหลักของเรื่องคือรักสามเศร้าเคล้าน้ำตา ที่ป้าปังอ่านแล้วรู้สึกว่า เอ้อ! น่าสนใจดีนะ ถึงพล็อตจะไม่แปลกใหม่มากเท่าไหร่ มีเดาทางได้อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวค่ะ!
พล็อต ประมาณ นางเอกเลิกกับคลีฟเพราะต้องไปหมั้นกับเชสเตอร์ ผู้ชายซึ่งเป็นต้นเหตุทุกอย่าง ทำให้นางเอกเกลียดเชสเตอร์ ดูเหมือนคุณจะวางโครงเรื่องไว้แล้ว ซึ่งดูมีเหตุผลและที่มาที่ไป คุณนำเสนอออกมาได้ดีทีเดียวถึงจะมีติดขัดบ้าง ส่วนคำโปรย ดีแล้วค่ะ เพียงแต่มันยังธรรมดาไป และภาษายังไม่ค่อยสละสลวยนัก
แต่ก็มีเรื่องสับสนนิดหน่อยนะคะขอวิเคราะห์เนื้อหาเล็กน้อย
เริ่มคือ นางเอกขอเลิกกับคลีฟ เหตุผลคือธุรกิจของครอบครัวกำลังล้มละลาย แม่เลยจับให้หมั้นกับเชสเตอร์ ผู้ชายคนนั้นแหละที่เป็นต้นเหตุทุกอย่าง รวมทั้งทำให้ธุรกิจที่บ้านเธอจะล้มละลายด้วย และเมื่อมีคู่หมั้นแล้ว แม่จึงบังคับให้นางเอกเลิกกับคลีฟผู้ชายแสนดีคนนั้น โอเค เราเข้าใจส่วนหนึ่ง แต่แบบทำไมแม่ไม่ให้หมั้นกับคลีฟอ่ะ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง เพราะคลีฟก็ดูจะเป็นคนยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลพอสมควร(ตามที่คุณเขียนบอก) และนั่นก็ไม่ต้องมีใครมาเสียใจ ถ้าคลีฟมันรักนางเอกจริงมันจะทุกข์ทำไมล่ะคะ คนรักกันก็ต้องช่วยกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว?? แต่ว่าก็พับข้อสงสัยนี้เก็บไว้ก่อน เพราะอย่างที่บอกไปว่าพระเอกเป็นคนวางแผนทุกอย่าง จงใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว การที่หมั้นกับพระเอกก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกนัก ความจริงเราสมควรจะเข้าใจนะคะไอเรื่องเหตุผลที่คุณต้องการสื่อเนี่ย แต่ว่าภาษาที่ใช้ของคุณมันชักนำให้เราสับสนไปบ้างในช่วงแรกๆ แทนที่ตัวละครจะสับสน เรากลับสับสนเสียเอง ลองกลับไปทบทวนดูอีกทีนะคะ
อืมม.. แต่รู้สึกตงิดๆนิดหน่อยตอนที่นางเอกพูดประมาณว่า ฉันจะอธิบายให้คลีฟฟัง บลาๆๆๆ แล้วก็จะเลิกกับเชสเตอร์ต่อให้กิจการที่บ้านต้องล้มละลาย แล้วฉันค่อยกอบกู้ชื่อเสียงคืนมา นั่นอ่ะค่ะ (ประมาณตอน2ขึ้นไปเนี่ยแหละค่ะ) คือแล้วทำไมไม่ทำแบบนั้นตั้งแต่แรกล่ะ แต่ถ้าทำแบบนั้นนิยายก็จบอ่ะดิ ..เนาะ ^^?
แล้วที่นางเอกบอกเกลียดคลีฟเนี่ย ก็ควรบรรยายเหตุผลไปด้วยว่าที่พูดไปเพราะอะไร เช่น ฉันฝืนพูดออกไป เพราะถ้าไม่พูดเขาต้องไม่ยอมเลิกกับฉันแน่ๆ ทำนองนั้น เพราะดูแล้วนางเอกรักคลีฟ และเหตุผลที่แม่มาบังคับให้เลิกนี่คงไม่ทำให้ถึงกับเกลียดคลีฟหรอกนะ
ปล.ถ้าเป็นป้าปัง ถึงมีคู่หมั้นแล้วแต่ถ้ามีแบบโดนคลุมถุงชน หรือไม่เต็มใจก็ไม่ยอมนะคะ ป้าปังจะร่วมมือกับคลีฟมาถล่มเชสเตอร์ =_= แต่ถ้าเป็นนางเอก นิสัยแบบเธอคงไม่ทำอย่างป้าปังหรอกมั้ง ก็เธอออกแนวอ่อนแอ หัวอ่อน(?)
การดำเนินเรื่อง ::
ช่วงแรกๆ การดำเนินเรื่องไม่ค่อยเรียกความสนใจให้อ่านต่อได้เท่าไหร่เลยนะ เข้าใจค่ะว่าเป็นการเกริ่น เล่าถึงที่มาแล้วค่อยเริ่มเรื่องจริงๆ ตั้งแต่ตอนที่ 3 แต่ถ้าตอนแรกๆยังไม่น่าสนใจก็อาจทำให้ปิดไปก่อนเลยก็ได้นะคะ..
แต่พอตอนที่ 3 ขึ้นไปอย่างที่บอกเนี่ย ดูๆแล้วมีหลากอารมณ์ขึ้น ตื่นเต้นขึ้น สนุกขึ้น เร้าใจขึ้น แล้วก็เรียบเรียงเหตุการณ์ได้น่าสนใจดีขึ้นค่ะ
ขอแจกแจงเหตุการณ์และเหตุผลนิดหน่อย
ตอนที่ 1 นี่เริ่มมาดีเลยนะคะ ที่นางเอกขอเลิกคลีฟ ดูแล้วสมจริงดี ไม่ยืดเยื้อเกินไปนักดูเหมาะสมค่ะกับการจะขอเลิกกับใครสักคน(ที่รักมาก) แต่ก็ไม่ถึงขนาดแปลกใหม่อะไรมากนัก บทสนทนาที่คลีฟพูดเหมือนกับเธอไม่สบายอะไรหรือเปล่านั่น ..มันงี่เง่าไปหน่อย คือเข้าใจค่ะว่าคลีฟกำลังอยากจะหลอกตัวเอง แต่เราเจอกรณี 'เธอไม่สบายหรือเปล่า' บ่อยมากกกกก แล้วแบบฮีไม่ยอมเข้าใจอะไรสักที จะพาไปโรงพยาบาลให้ได้ ..อืมมม นะ.. -*-
แต่เนื้อเรื่องก็มีเหตุผลดีนะคะ มีที่มาที่ไปดี อย่างน้อยนางเอกก็ไม่ได้เลิกกับคนที่ตัวเองรักมากคนหนึ่งด้วยเหตุผลงี่เง่า
มาเข้าเรื่องกันเลยค่ะ สำหรับตอนที่หนึ่ง เราว่ามันยังไม่เศร้าขนาดกดดันเราให้รู้สึกเศร้าตามไปได้นะ ยังไม่เข้าถึงอารมณ์มากนัก คือรู้แหละว่าคลีฟมันเศร้า แต่ว่าคนอ่านไม่ได้กดดันไปด้วยค่ะ (ไม่รู้คนอื่นจะรู้สึกยังไง แต่เรารู้สึกเฉยๆนะคะ)..อาจเป็นเพราะว่าไอขอเลิกแบบนี้อ่ะเจอบ่อยมาก และภาษาของคุณยังไม่ค่อยสละสลวยนัก ก็ขอแนะนำอะไรสักเล็กน้อยค่ะ คือถ้าอยากให้กดดันน่าจะมีกล่าวนิดๆ หน่อยๆ เป็นการเกริ่นว่านางเอกกับคลีฟรักกันได้ยังไง รักกันมากแค่ไหน มีการบรรยายการกระทำแทนความรู้สึกบ้าง (เราเคยอ่านนิยายเรื่องนึงบรรยายซะเห็นภาพทำเอาน้ำตาร่วงเผาะๆ T_T) แล้วก็มีรรยายบรรยากาศรอบข้างมากกว่านี้นะคะ อย่างสมมุติคนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ก็จะมองเห็นโลกเป็นสีชมพู แต่สำหรับคนที่อยู่ในอารมณ์เศร้าๆเนี่ย มันคงไม่ใช่แบบนั้นแน่
ตอนที่ 2 สนุกขึ้นค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้น่าสนใจขึ้นมากเท่าไหร่ อ้อ ตอนที่ได้รับดอกไม้กับข้อความชวนขนลุกนั่น น่าตื่นเต้นดีค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ว่าสั้นมากกก และเนื้อหาในตอนก็มีนิดเดียว เหตุการณ์ก็มีนิดหน่อย แล้วจบตอนก็ตัดไปเสียดื้อๆ มันเลยไม่ถึงขนาดน่าติดตามมากขนาดนั้น และความจริงแล้วในแต่ละตอนมันไม่มีกำหนดตายตัวหรอกนะคะว่าจะมีสักกี่หน้าดี มันขึ้นอยู่กับเนื้อหาในแต่ละตอนนั้นด้วย แต่เราว่าของคุณมันน้อยมากกก ตามที่ลองไปดูมาก็ประมาณ 5 หน้าขึ้นไป ฟอนท์14 ไม่เว้นวรรค มาตรฐานของสนพ.แจ่มใส่ค่ะ
พอขึ้นตอนที่ 2 คือ ผ่านมาสองปี (เนื้อหาคือมีงานหมั้น) แต่พอขึ้นตอนที่ 3 อยู่ดีๆก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว ดูเรื่องมัน ฉับๆๆๆ ไปเร็วมากค่ะ ตามไม่ค่อยทันเลย แล้วน่าจะมีเขียนบรรยายประกอบไปด้วยนะคะว่าตลอดครึ่งปีที่หมั้นกับเชสเตอร์มาเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า แล้วนางเอกพอจะได้ยินข่าวเรื่องของคลีฟมั่งมั้ย เรียนอยู่ปีอะไรแล้ว(เขียนบอกตอนจะจบตอน =_=) แทบไม่มีบรรยายบอก ทำให้ไม่ค่อยได้รับอรรถรสเท่าที่ควร
พอขึ้นตอนที่ 3 ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก และนั่นทำให้ป้าปังรู้สึกเซ็งนางเอกจริงๆ กับอารมณ์ที่แปรปรวนของหล่อน ไม่ใช่ข้อเสียค่ะ แต่เป็นคนดีที่สามารถดึงอารมณ์จากผู้อ่านออกมาได้ ^ ^
อ่านแล้วรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วยนะคะ ตรงช่วงตอนที่นางเอกไปหาคลีฟ ในตอนที่ 4 อ่านแล้วแบบ อยากต่อยนางเอกจริงๆ =_=!! แต่ที่นางเอกทำไปก็เพราะว่ารักคลีฟอยู่ แล้วอีตาเชสเตอร์ตะหากที่มาคั่นกลาง แต่ก็อดสงสารเชสเตอร์ไม่ได้อ่ะ ก็อย่าลืมย้ำจุดนี้ก่อนที่คนอ่านจะลืมไปนะคะ รวมไปถึงสิ่งที่นางเอกทำกับคลีฟไว้ด้วย เน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างอดีตกับปัจจุบันเยอะๆ เราว่ามันน่าจะทำให้รู้สึกสะเทือนใจดีนะ
ตัวละคร ::
เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกลุ้นว่า 'ใครจะเป็นพระเอกวะ!!' ซึ่งนั่นน่าสนใจมากค่ะ
ตัวละครทุกตัวดูมีเหตุผลของมันดี แต่ที่เรายังไม่เข้าใจก็คือเชสเตอร์ มิคังยังไม่บอกด้วยซ้ำว่าที่เชสเตอร์หมั้นนางเอกเพื่ออะไร สิ่งที่เชสเตอร์ทำไปทุกอย่างเพราะอะไรกัน เรารู้สึกเหมือนกับว่าตัวละครตัวนี้ยังมึนๆอยู่ ในส่วนนี้เราคิดว่าน่าจะบอกให้คนอ่านรู้ไปตั้งแต่เนิ่นๆเลยจะดีกว่านะคะ (ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าที่เชสเตอร์ทำไปเพราะชอบนางเอกนะ อิอิ)
ส่วนนางเอกหรือ เตาผิง เอาล่ะ! ตัวละครที่คุณสร้างขึ้นมาตัวนี้มันชั่งน่าหมั่นไส้เสียจริง! 555+ มีบางครั้งที่การกระทำของเธอดูขาดความสมเหตุสมผลไปบ้าง ซึ่งนั่นก็มาจากจิตใต้สำนึกของเธอที่รักคลีฟอย่างหมดหัวใจ =_= อืม คนอ่านคงไม่รู้หรอกนะว่าหล่อนคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไปหาคลีฟกัน? ซึ่งถ้าคุณบรรยายความรู้สึกของนางเอกประกอบไปด้วยจะดีมาก เหมือนกับทำให้เราเชื่อว่าตัวละครนี้ถูก ทั้งที่จริงๆแล้วการกระทำของเธอนั้นมันเลวทรามสิ้นดี!! อะไรทำนองนั้นอ่ะนะคะ มันคงจะเยี่ยมมากเลย ฮ่าๆๆๆ
เตาผิง บางทีก็แทนตัวเองว่า ผิง บางทีก็แทนตัวเองว่า ฉัน เราว่าน่าจะเอาอะไรสักอย่างนะคะ เพราะการใช้แทนตัวเองก็เป็นการบอกได้ว่าเจ้าตัวมีลักษณะเป็นอย่างไร
ส่วนคลีฟ โอเคเลยค่ะ จากชายหนุ่มผู้แสนสดใสร่าเริง กลับกลายมาเป็นบุรุษผู้มีสายตาเย็นชา และกลายเป็นไอ้กุ๋ยไปแล้ว โฮกกก TOT!! (เป็นเอามาก) ซึ่งแน่นอนล่ะว่าเหตุผลเพราะนางเอกนั่นเอง
ก็อยากจะให้ย้ำความแตกต่างระหว่างคลีฟคนเก่ากับคลีฟคนปัจจุบันนี้ให้มากๆค่ะ สำหรับผู้ชายคนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขายังรักนางเอกอยู่ แต่พอมาดูอีกทีเขาก็แค้นนางเอกมากเช่นกัน สิ่งนั้นที่ว่าก็คือ ช่วงที่นางเอกถามว่านั่นเป็นแฟนของคลีฟเหรอ แต่คลีฟกลับบอกว่าไม่ใช่ เหมือนกับไม่อยากให้นางเอกเข้าใจผิด (หรือเราเข้าใจผิดไปเอง? : จากตอนที่4) แต่ในเวลาเดียวกันก็ทำร้ายนางเอกด้วยการหลอกให้นางเอกไปนอนกับอีกคน (ซึ่งสุดท้ายสุภาพบุรุษอย่างเชสเตอร์ก็มาช่วยได้ทัน) ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่ฮีดูอารมณ์แปรปรวนพิกลนะ เพราะเราว่าวิธีการนี้ดูขัดแย้งกับการกระทำที่เราบอกไปตอนแรกมาก และออกจะเกินไปด้วยซ้ำ ถึงจะแค้นกันมากเพียงไร แต่ทำแบบนี้ ..มันไม่มีความแมนเอาซะเลย (-_-)
สำหรับเรื่องนิสัยของตัวละครแต่ละตัว เราคงบอกไปตามตรงว่ายังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ นางเอกที่ว่าเรียบร้อย เราดูการกระทำและคำพูดของเธอ ..มีส่วนไหนที่ดูเรียบร้อยบ้างคะ? คือตัวละครแทบทุกตัวยังเอาแน่เอานอนมากไม่ค่อยได้ ยังไม่ชัดเจนนัก แนะนำสักนิด เราอ่านการ์ตูนเรื่อง KYO คือแบบอ่านแล้วรู้เลยว่าคนนี้พูดนะ คนนั้นพูดนะ มันสุดยอดมากเลย!
เอาเป็นว่าตัวละครที่คุณสร้างขึ้นมานั้นก็ไม่แย่นะคะ ออกจะดีด้วยซ้ำ มีมิติดีค่ะ เพียงแต่ต้องคำนึงถึงความสมเหตุสมผลสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนั้น ควรกำหนดคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครให้ชัดเจน และถ้าตัวละครจะพูดหรือทำอะไรก็แล้วแต่ ก็ควรคำนึงถึงคาแรกเตอร์ด้วยนะคะ อย่างคนที่ใจเย็น แต่อยู่ๆก็มาบ้าบอไม่มีเหตุผลไม่เข้าเรื่องเนี่ย ..ดับอนาถ
ภาษา ::
ภาษายังไม่ไหลลื่น ไม่สละสลวยมากนักแต่ก็พออ่านได้เรื่อยๆ สาเหตุก็จากที่ไม่ค่อยเว้นวรรคตรงช่วงที่ควรเว้น เขียนติดกันเป็นพรืดทำให้อารมณ์ติดๆขัดๆ ใช้คำว่า 'ฉัน' ถี่เกินไป คำผิดเยอะ บางประโยคก็ให้ความหมายไม่กระจ่าง และยังใช้คำไม่หลากหลาย เช่นประโยค สวนสาธารณะที่แห่งความทรงจำของฉัน...ฉันกับเขาเป็นแฟนกันที่นี่ คือถ้าอ่านดีๆแล้วมันตลกนะ เหมือนกับฉันเป็นแฟนกับเขาที่นี่ ที่สวนสาธารณะเท่านั้น =_=!! ถ้าประโยคที่คุณต้องการจะสื่อคือ ย้อนความหลัง ก็น่าจะประมาณ สวนสาธารณะ ที่แห่งความทรงจำของฉัน...ฉันตกลงคบกับเขาครั้งแรกที่นี่ ทำนองนั้นอ่ะค่ะ
ในตอนแรกๆ อ่านรอบนึงแล้วต้องย้อนขึ้นไปอ่านอีกครั้งเพราะยังไม่กระจ่างเท่าไหร่ มันไม่ใช่ประโยคที่เป็นปริศนา เป็นปมให้ขบคิด แต่มันเป็นประโยคที่สื่อง่ายๆ มีความหมายไม่ยาก แต่คุณทำให้มันยาก.. ลองทบทวนดูนะคะ
น่าจะมีมุขตลกสอดแทรกมามั่งก็ดีนะคะ จะได้ไม่น่าเบื่อเกินไป เพราะก๋วยเตี๋ยวที่มีรสชาติกลมกล่อม ย่อมน่าทานกว่าก๋วยเตี๋ยวที่มีแต่เค็มด้วยรสของน้ำปลา ฝึกการใช้สำนวน มีการเล่นคำบ้าง แต่ถ้าให้ดีพวกบทสนทนาเราชอบแบบในเจมส์บอนด์ คือมีความนัย ไม่ขวานผ่าซากเกินไป อ่านแล้วดูฉลาดๆ แบบนั้นมีเสน่ห์มากเลยค่ะ
ข้อดีในส่วนนี้ของคุณคือถึงแม้ภาษาจะไม่สวยนัก แต่อ่านแล้วได้อารมณ์ดีค่ะ
ปล.พอยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าในส่วนนี้ลื่นขึ้นเรื่อยๆ คุณมีพัฒนาการที่ดี สู้ๆ ^_^
เก็บตกเล็กน้อย ::
ตอนที่ 1 : เสียงหัวใจของฉันกระตุกวูบอีกครั้ง << แปลกๆนะ น่าจะตัดคำว่า เสียง ทิ้ง =_=;
ตอนที่ 3 : กับประโยคที่ว่า เสียงกีตาร์เริ่มโซโล่เบาๆ เราว่านั่นไม่ใช่เสียง intro เหรอคะ เพราะท่อน solo คือเสียงเพลงบรรเลงเปล่าๆในช่วงส่วนกลางของเพลง ส่วน intro ก็คือเสียงเพลงบรรเลงเปล่าๆตอนเริ่มเพลงเลย (ครูบอกอย่างนั้นนะคะ หรือมิงคังว่ายังไง?)
ตอนที่ 4 : ฉันโบกมือให้รถเธอ .. บอกตรงๆ มันตลกอ่า.. =_=
ยกตัวอย่างโดยรวม : คลีฟ...นั้นนายเหรอ น่าจะเป็น คลีฟ..นั่นนายเหรอ นะคะ เจอบ่อยอยู่เหมือนกัน คือถ้าเสียงผิดคีย์แล้วมันเปลี่ยนความหมายไปเลยค่ะ
เหตุผล ความสมจริง ::
เราว่าในส่วนของจุดนี้ยังไม่หนักแน่นพอนะคะ ก็อย่างที่พูดไปในช่วงของการดำเนินเรื่องแหละว่าแทบไม่มีข้อมูลและรายละเอียดอะไรเลย เนื้อเรื่องดูเบาโหวง ไม่มีน้ำหนักที่ทำให้รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้อาจมีตัวตนอยู่จริงๆ กะจะผ่านไปสองปีก็ทำยังกะสองนาทีซะงั้น ซึ่งควรแก้ไข ก็อย่างที่ดูในแฮรี่ พอตเตอร์ค่ะ ทั้งที่เป็นแฟนตาซี มีแม่มดพ่อมด แต่กลับกล่าวถึงโลกของมักเกิ้ล(มนุษย์) มันทำให้เรารู้สึกว่านั่นเป็นเรื่องใกล้ตัว '..ไม่แน่นะโลกนี้อาจมีพ่อมดแม่มดอยู่จริงๆก็ได้' นั่นคือความสามารถของ เจ.เค. โลวริ่ง ที่สามารถทำให้คนอย่างเรารู้สึกอย่างนั้นได้ค่ะ
ก็กล่าวโดยรวมว่าควรมีข้อมูลประกอบไม่ใช่กะจะให้มันเกิดก็เกิดเลย แบบไม่มีอะไรมารองรับ อ่านแล้วไม่อินค่ะ
ปัญหาอีกอย่างก็คือเรื่องการกระทำของตัวละคร ซึ่งบางทีก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง โดยเฉพาะนางเอกตอนอยู่ที่ผับ แบบเธอกินเหล้าไม่กี่แก้วถึงกับเมาไม่รู้เรื่อง สามารถขึ้นไปเต้นยั่วเลยเหรอคะ เราว่านะ น่าจะบอกประกอบไปด้วยว่านางเอกกินเหล้ากี่แก้วกัน.. บอกตามตรงว่าเบื่อมากเลยที่นางเอกกินเหล้าแล้วจะเป็นแบบนี้ แทบทุกเรื่องเลยค่ะ แล้วในฉากนี้เราว่ามันยังดูเร็วๆ และไม่สมจริงอยู่นะ โอเค มันอาจจะมีความเป็นไปได้ยู่บ้างที่คนคออ่อนแบบนางเอกจะทำแบบนั้นได้ แต่ที่บอกว่าไม่สมจริงคือ การบรรยายประกอบค่ะ ตรงช่วงนี้เรารู้สึกว่านางเอกงี่เง่าและไม่มีเสน่ห์เลย อันที่จริง ถ้าบรรยายให้อินขึ้น เข้าถึงอารมณ์นางเอกขึ้นอีกนิด มีบรรยายทวงท่าของนางเอกแบบเซ็กซี่ๆ มันอาจดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบก็ได้ แต่เราอ่านของคุณแล้วมันไม่ค่ะ ลองกลับไปทบทวนดูนะคะ
ปล.แล้วที่แพ้แอลกอฮอลล์มันมีด้วยเหรอ คือ มันน่าจะเป็นคออ่อนมากกว่า ใช้คำนี้แล้วรู้สึกเหมือนกินเหล้าแล้วผื่นจะขึ้นอ่ะค่ะ =_=;
ความพึ่งพอใจ ::
อยู่ในระดับดีค่ะ ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องในช่วงแรกๆจะทำให้เราอยากปิดไปก็ตามที แต่เพราะอารมณ์ในตอนที่สามทำให้ความรู้สึกอยากอ่านมีเพิ่มขึ้นมันก็เลยช่วยๆกันไป นิยายของคุณ ..เราว่ามันยังเรียบๆอยู่นะคะ ไม่มีจุดหักเหอะไรมากนักแต่ยังพอมีเหตุการณ์เร้าใจแทรกเข้ามาทำให้ตื่นเต้นได้เป็นช่วงๆ
แต่ก็อย่างที่บอกไปแหละ มันก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก ตามที่คิดคงแค่ทะเลาะแย่งแฟน นางเอกดูหลายใจ คิดถึงคนรักเก่า และสุดท้ายก็คงจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง (?) อา..ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ค่อยทำให้แปลกใจเท่าไหร่นัก ลองหาอะไรแปลกใหม่แทรกเข้ามาบ้างนะคะ แต่การดำเนินเรื่องก็ทำให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อจนเกินไป การเรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆก็ทำได้ดี โอเคเลยค่ะ! สู้!!!!!
ปล.เราวิจารณ์แบบภาษาพูด ไม่ค่อยสวยหรูมากนัก แถมมีอีโมติดมาด้วย หวังว่าจะไม่ว่ากันเนาะ ก็มันเป็นสไตล์ป้าปังหนิ่คะ โฮะๆๆๆ =,,,=
___________________________________________
Talk ^ ^~ :
เขียนไปเขียนมาใน notepad เรื่อยๆ
กลับมาดูอีกที ..ทำไมมันเยอะอย่างนี้วะ =[]=!
นี่ตูบ่นยาวขนาด 9 หน้า a4 (ฟ้อนท์ 16 )เลยเรอะ 5555+
โอก้อด =[ ]=!!
ความคิดเห็น