ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม SHORT FIC (SIHAN) หลายแนว

    ลำดับตอนที่ #11 : Marry me 100%END

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 53


    +
    +
    +
    +

    พี่ฮันคยอง  ชีวอน อยู่มั้ย!!!!”เสียงตะโกนจากหน้าบ้านตั้งแต่เช้า ทำให้ร่างบางที่ตื่นมาทำอาหารเดินออกมาจากครัวเพื่อต้อนรับเพื่อน ๆทีมาเยี่ยมเยียน

     

    ว่าไงจ๊ะ เจ้าปลาน้อยเข้าบ้านก่อนสิ ทักทายเพื่อนอย่างยิ้มแย้ม

     

    อ่า วันนี้ ด๊องกี้เอาการ์ดมาให้พี่ฮันคยองน่ะ คนที่เดินตามาทีหลังส่งเสียง

     

    อ้าว! คิบอมนึกว่าจะไม่มาซะอีก

     

    จะไม่มาได้ไงล่ะ พี่ ก็ มาให้การ์ดเชิญทั้งทีก็ต้องมาเป็นเพื่อนหวานใจสิ คำตอบทำให้ ฮันคยองเผลอหัวเราะออกมา

     

    แหม ไม่ค่อยเลยนะ ว่าแต่การ์ดอะไรล่ะ คิบอม ทงเฮ ถึงต้องเคลียงานมาด้วยกันได้เนี้ย

     

    อ่า นี่การ์ด แต่งงาน  น่ะ คือ ด๊องกับคิบอมเราจะแต่งงานกันน่ะพูดไปเจ้าตัวก็อายหน้าแดง

     

    ฮะ!! จริงสิ ว้าว~~ยอดไปเลยพี่ดีใจด้วย

     

    ฮะๆ ว่าแต่พี่ชีวอนล่ะอยู่ไหนล่ะคิบอม ถามถึงอีกคนที่ใช้ชีวิตร่วมกับฮันคยอง

     

    รายนั้นอย่าเพิ่งพูดถึง  ยังไม่ตื่นเลยนอนอยู่ในห้องนอนโน้นร่างบางเอ่ยถึงชีวอนที่เป็นเจ้าของบ้านสวนหลังนี้ร่วมกัน

     

    เมื่อคืนหนักเหรอ คริๆๆ คำพูดนี้ ออกมาจากปากของคนหน้าตาน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    พูด อะไรทงเฮ!!”ฮันคยองใช้มือตีที่ไหล่ของทงเฮเบาอย่างเขินอาย

     

    ว่าแต่พี่ฮันกับชีวอนเถอะ คบกันมานานนานกว่าเราคบกันซะอีก ไม่คิดจะแต่งงานบ้างเหรอ คำถามนี้ทำเอาฮันคยองถึงกับนิ่ง

     

    ถ้าพี่บอกว่าพี่รอชีวอนขอพี่ล่ะมันจะตลกไปมั้ย น่าขำจริงๆคบกันมาตั้งหลายปี กลับไม่เคยคำว่าแต่งงานหลุดออกมาจากปากของชีวอนสักครั้งเดียว

     

    ………………………………………………………………………………………

     

    หาว ~~~~ มีใครมาเหรอฮันนี่ หลังจากที่คิบอมและทงเฮกลับไปไม่ถึงห้านาที ชีวอนก็ตื่นจากที่นอน

     

    ทงเฮกับคิบอมน่ะ  ตื่นแล้วเหรอ ชีวอน สวัสดีตอนเช้าจ๊ะอ๊ะ!ไม่ใช่สินี่จะเที่ยงแล้ว

     คำทักทายของฮันคยองทำให้ยามเช้านี้หวานชื่น

     

    หวัดดีคร๊าบบบบที่รัก อิๆร่างสูงที่เดินเข้ามากอดจากด้านหลังกระซิบคำหวานๆยามเช้า

     

    อ่า ชีวอน ปล่อยก่อนไปอาบน้ำแล้วทานข้าวกัน เร็วๆ ฮันหิวแล้ว

     

    โห ก็อยากกอดฮันนี่นานๆ นี่ เมื่อคืนก็ไม่ให้นอนกอดอ่า จะงอนแล้วน้า

     

    ทำตัวอย่างกับเด็ก แหนะ เห้อ~~ตัวเหม็นจะตายไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ

     

    ง่ะ ฮันนี่ใจร้าย อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ไม่ได้

     

    น่านะ ฮันหิวแล้ว ไม่พูดเปล่า ฮันคยอง เขย่ง เท้าน้อยๆก่อนที่ริมฝีปากบางจะสัมผัสแก้มของชีวอน ทำเอาเด็กดื้อเมื่อกี้ เชื่องไปโดยไม่ยาก

     

    โหย ลงทุนขนาดนี้ ไม่ยอมก็ใจร้ายแล้วล่ะ  อาบน้ำเสร็จแล้วฉันจะมาเอาคืนนะฮันคยอง หันมาขยิบตาเชิง  หยอกล้อ ฮันคยองก็จัดเตรียมอาหาร  ไว้บนโต๊ะ ทีละอย่าง ๆ   แต่แล้ว........................

     

    เพล๊ง!!!!!!

     

       เสียงจานแตก ทำให้คนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ รีบวิ่งเข้ามาในครัวทันที

     

    ฮันคยอง เป็นอะไรรึเปล่า มันบาดมือ มั้ย เจ็บตรงไหนรึเปล่า มือบาง ยกมือขึ้นมา เผยให้เห็น เลือด สีแดงสด ที่ไหลลงไปตามมือเนียน

     

    ไม่เป็นไร มากหรอก ขอโทษที แหะๆรีบไปแต่งตัวเถอะวันนี้ต้องรีบไปทำงานนี่ ฮันเตรียมชุดทำงานแขวนไว้ที่เดิมนะ

     

    แต่ก็เห็นๆอยู่ว่ามันบาดมือฮันน่ะ จะปล่อยไว้อย่างนี้ได้ไง

     

    เดี๋ยวฮันทำแผลเองได้ไม่เป็นไร หรอก ตอนนี้ชีวอนรีบไปทำงานเถอะ  เดี๋ยวสายเอานะ ชุดก็เตรียมไว้ให้แล้ว

     

    แต่...

     

    จะไปหรือไม่ไป!!! ไปทำงานสายเดี๋ยวโดนว่าอีกหรอก

     

    คร๊าบบบบบผม  ได้เมียดีมีชัยไปกว่าครึ่งนะเนี้ย  

     

    ว่าใครเป็นเมียนายกัน ชีวอน  ได้ยินดังนั้น ร่างสูงหันกลับมา หาร่างบางอีกครั้ง พราง กระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู

     

    เราไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว อย่างนี้ไม่เรียกว่าเมียแล้วเรียกว่าอะไรล่ะ

     

    แต่.......แต่......... ใบหน้าหวานมีแววเศร้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด

     

    แต่อะไร หืม

     

    เปล่า หรอก รีบไปแต่งตัวได้แล้ว     พูดปัดๆ ก่อนที่ ใช้มือข้างที่ไม่เจ็บ ออกแรงผลักน้อยๆ ให้ร่างสูงถลาไปด้านหน้า

     

    แต่ เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะ……….’

     

     

     

     

    หลังจาก ชีวอนออกไปทำงานไม่นาน ฮันคยองก็ได้รับโทรศัพท์จากบ้าน   จึงรีบออกจากบ้านไปหา พ่อของตน  การขับรถเองเป็นอะไรที่ ชำนาญ มากอยู่แล้ว แต่ว่า ... ช่วงนี้ มือไม้มันไม่ไปตามใจ จะเข้าเกียร์จะเหยียบคันเร่งทำอะไรก็พลาดไปหมด    

    ฮันคยอง ลูกพ่อ  เห้อ ~~~เดี๋ยวนี้ไม่คิดจะกลับบ้านเลยนะเราน่ะ  พ่อที่ ยืนคอยลูกชายอยู่หน้าบ้านหลังงาม ทักพรางลูกหัวเบาๆ

     

      อ่า แต่ผมคิดถึงพ่อนะ

     

    เชื่อได้รึเปล่า ล่ะ หืม  รอยยิ้มที่แม้จะเหี่ยวย่นตามกาลเวลา ทว่า กาลเวลาไม่เคยเปลี่ยนแปลงความอบอุ่น ในรอยยิ้ม นี้ของฮันคยองได้เลย

     

    เชื่อได้สิ ! พ่อ อื้ม แล้วแม่ล่ะอยู่ใหน

     

    แม่เรานะ พอพ่อ โทรเรียกเรามาบ้าน แม่เขาก็เข้าครัวเลย จนป่านนี้ยังไม่ออกมาเลยเนี้ย รีบไปหา แม่แกเถอะรอนานแล้วนั่นน่ะ

     

    ว้าว วันนี้กินของอร่อย ฝีมือแม่

     

       เสียงของฮันคยองดังเข้าไปถึงในครัวทำให้คนที่ทำอาหารจัดเตรียมสำรับกับข้าวอยู่ถึงกับยิ้มออกมา  มือเรียวถึงแม่จะไม่เต่งตึง ยกอาหารออกมาวางโต๊ะ กินข้าว อาหารมื้อนี้ตั้งใจทำให้ ลูก ชายโดยเฉพาะ

     

    แม่ครับ  คิดถึงแม่จังเลย ร่างบางโผลเข้าไปกอด มารดาของตน แล้ว จึงปฏิบัตรการอ้อน

     

    แม่ทำอะไรกินน่ะ

     

    ไม่ต้องห่วงหรอก ของโปรดลูกน่ะไม่ขาดเลยสักอย่างเดียว พ่อลูกถึงกับหัวเราออกมาพร้อมกันกับแม่ที่รู้ทันลูกขนาดนี้

     

    โห ดูสิ มีแต่ของโปรดลูก ของโปรดพ่อไม่เห็นมีเลย ผู้เป็นพ่อพูดพราง เชิดหน้างอนเหมือนเด็กๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดีกว่าเดิม

     

    โถๆๆ ตาแก่ ทำเหมือนเด็กๆไปได้ลูกเรานานๆมาที  วันหลังฉันทำให้แกกินก็ได้น่า

     

    ฟอด!!!!!  รักแม่จังเลย  ใบหน้าหวาน หอมแก้มแม่ทั้งยังกอดแล้วโยกไปโยกมา

     

    จ้า  ๆรุ้แล้ว อ๊ะ! ใช่วันนี้ ชีวอนไม่มาด้วยเหรอ

     

    วันนี้เขาไม่ว่างน่ะ ครับแม่

     

    ว้า จริงๆแล้ววันนี้ก็อยากเห็นหน้าลูกเขยเหมือนกันนะ

     

    แม่! เขาไม่ใช่ลูกเขยซักหน่อย  กล่าวอย่างหัวเสีย

     

    ถ้าชีวอน ได้ยินเขาคงน้อยใจแย่เลยพ่อมาเสริมอีกแรง

     

    ตกลงนี่ใครเป็นลูกพ่อกับแม่กันแน่ ฮะ

     

    ถ้าเขาเป็นคนที่ลูกรัก คนคนนั้นก็เป็นคนที่พ่อกับแม่รักคำตอบนี้ทำเอาฮันคยองเงียบ ถึงแม่จะพูดคำเมื่อครู่ออกไปอย่างไม่จริงจังเท่าไรนัก เพราะยังไงๆ เชว ชีวอนก็คือคน ที่เขารัก

     

    ไม่ว่าจะลูกจะเป็นอะไร หน้าตาจะเปลี่ยนไป  หรือ จะทำผิดฆ่าคนตาย ยังไงพ่อกับแม่ก็รักลูกเหมือนเดิม 

     

    บรรยากาศการทานข้าวของครอบครัวฮันคยอง รื่นรมย์ไม่น้อย  คนในครอบครัวพูดคุยกันไป หัวเราะไป

     

    นี่ฮันคยองลูก ได้ข่าวว่า อีทึก กับคังอิน จะแต่งงานกันแล้วนะ

     

    เหรอครับ เมื่อเช้า นี้  คิบอมกับทงเฮก็เอาการ์ดมาให้เหมือนกัน

     

    ฮ่าๆๆ เขาก็เริ่มทยอยๆแต่งกันไปทีละคู่แล้วเนอะลูก.... ผู้เป็นแม่ เกริ่นๆ   พอที่จะให้รู้ว่า เรื่องต่อไปจะพูดคุยกันเรื่องอะไร

     

    อืม ครับ.......

     

    แล้วลูกล่ะ ไม่อยากแต่งกับเขาบ้างเหรอ  

     

    ถามว่าอยากแต่งมั้ยอยาก...อยากมาก  แต่ มันผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว เดี๋ยวนี้ทุกคนอาจจะไม่แคร์เรื่องพวกนี้สักเท่าไร แต่ว่าการที่คบกับชีวอน ตอนนี้ก็ยงต้อง ปิดบังพ่อแม่ของชีวอน เพราะ บ้านของชีวอน ถือขนบธรรมเนียมประเพณีเหนือสิ่งอื่นใด  เพราะฉะนั้นในตอนนี้ ฮันคยองจึงเป็นได้แค่เพื่อนสนิทของคนรักที่อยู่ในชายคาเดียวกันเท่านั้น  ในสายตา พ่อกับแม่ของชีวอน

     

     

     

     

    ///////.......***โดยฮันคยอง***..............///////////

     

      วันนี้เป็นวันแต่งงานของทงเฮกับคิบอม ผมกับชีวอนเราก็เลยไป  ไหนๆน้องๆ ก็จะแต่งงานทั้งทีก็คงต้องร่วมแสดงความยินดีหน่อยใช่มั้ยล่า    พวกเราก็ลังง่วนอยู่กับการ หา เสื้อผ้าใส่อยู่    ชีวอนอู่ในชุดกึ่งสูทร สีดำขาว ส่านผม เหรอ.......................ยังคิดไม่ออกเลย

    ผม หยิบ เสื้อคอกว้าง สีฟ้าอ่อน ออกมาพร้อมกับผ้าพันคอสีขาว  จัดการวางมันไว้บนเตียงก่อนที่จะ ใส่มัน   ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องการแต่งตัวเท่าไรนัก   หลังจาก แต่งตัวเสร็จแล้ว  ผม พยายามจะเอื้อมมือหยิบผ้าพันคอ แต่ .....มือของผมทำไมมันกระตุกๆแปลกๆ

     ผมเดินออกมาจากห้อง  ชีวอนกำลังจัดการ เตรียมของขวัญให้ทงเฮและคิบอม  เอ๊ะ นั่นๆ แขนเสื้อของหมอนั่นมันขาดนิ!!

     

    ชีวอน  แขนเสื้อขาดน่ะ   มาๆ เดี๋ยวฮันเย็บให้ก่อน ไปงานใหญ่ แขนเสื้อขาดอายเขาแน่เลย  ชีวอนไม่พูดอะไรเพียงแต่ ยื่นเสื้อให้ผมซ่อมแซมมัน  การใช้เข็ม ปักลงไปในผ้าธรรมดาๆ ที่มันไม่ได้ยากอะไรสำหรับผม แต่เวลานี้  มันกลับ ทิ่มมือของผม จนจะพรุนหมดแล้ว   จับเข็มก็ไม่ค่อยติด  หล่น บ่อยเหลือเกิน ......... ช่วงนี้ผมเหมือนมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่างๆ หรือว่าช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอ   คงจะอย่างนั้นมั้ง?

     

    ฮัน ขับรถนะ วันนี้ ไม่อยากขับอ่ะ ชีวอนพูดพรางยื่นกุญแจรถให้ผม  ผมคิดชั่งใจอยู่นาน ก่อนที่จะปฏิเสธ

     

    อืม วันนี้ชีวอนขับนั่นแหละดีแล้ว... ช่วงนี้การขยับตัวของผมมันอืดอาดเชื่องช้า อย่าให้ผมขับเลยถ้ามันเกิดอุบัติเหตุมันคงไม่คุ้มถ้า คนที่ผมรักจะต้องมาเป็นอะไรหรือบาดเจ็บเพราะผม

     

    ปกติร้อง แต่จะขับรถ  เป็นอะไร วันนี้ดู ฮันไม่ค่อย กระฉับกระเฉงเลย ไม่สบายเหรอ ชีวอน เดินมาพรางเอามือแต่หน้าผากผม เบาๆ

     

    ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ถ้าเป็นอะไรก็บอกแล้วกันนะ เพียงแค่นี้ มันก็คงจะมีความสุขแล้วล่ะ   ...........ใช่มั้ย...........

     

       ชีวอนผุ้ขับรถเร็วปานจรวด ใช้เวลาเพียง 15  นาที ในการเดินทางมางาน   พวกเราเดินเข้างานมาก็เห็น ทั้งสองคนยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน   ดอกกุหลาบสีขาวแซมอยู่ทุกจุดในงาน  ช่อดอกไม้ราคาแพง ประดับประดาตามกำแพง โต๊ะ เก้าอี้อย่างลงตัว

     

    พี่ฮันกับพี่ชีวอนมาแล้ว เร็วๆถ่ายรูปกันเถอะเจ้าปลา ทงเฮเข้ามาทำร่าเริงขอถ่ายรูปด้วย

     

    วันนี้ ทงเฮน่ารักมากเลยนะ ผมพูด ขึ้น  ผมจึงเห็นฟันแท้ทั้ง สามสิบสองซี่ของทงเฮจากการยิ้ม  คิบอมก็หล่อมากเหมือนกันแก้มแตกยิ้มนิดๆ 

     

    ขอบคุณ ครับ พี่ ไปนั่งรอด้านในก่อนเถอะทั้งสองต้องอยู่รับแขกต่อไป  ภายในโรงแรมที่จัดงานอย่างใหญ่โตสมฐานะ

    มีอาหารชั้นเลิศเตรียมให้กับแขกทั้งหลาย 

     

          พิธีการ เริ่มขึ้นและดำเนินไปเรื่อยๆ  การกล่าว ของคู่แต่งงาน ก็เสร็จ เรียบร้อย ณ  ตอนนี้ก็เหลือแค่...............

     

    จูบ เลยๆๆๆๆๆๆ++++!!!!!!!”   ทงเฮที่อยู่บนเวทีตกใจเบิกตา กว้าง เมื่อแขก ด้านล่าง ตะโกน เชียร์เสียงดัง คิบอมเห็นดังนั้น ก็เลยค่อยๆประคองใบหน้า น่ารักน่าทุนุถนอมนั้น เข้ามาประทับริมฝีปากแผ่วเบา 

     

    เฮ้!!!!!!” แขกทุกคนตะโกนร้องเป็นเสียงเดียวกัน  ตอนนี้ปลาน้อย อายจนหน้าแดง เห็นอย่างนี้แล้วผมก็อดหน้าแดงไปด้วยไม่ได้

     

     

          ก่อนจะจบงาน ก็มีการโยนดอกไม้ตามธรรมเนียม ที่ทุกคนเชื่อกันว่าใครเก็บดอกไม้ได้ คนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไปผม ที่ตอนนี้ มีแอลกอฮอ อยู่ในเลือดเล็กน้อยก็เลยขอไปแย่งดอกไม้ด้วยแล้วกัน  เผื่อความฝันลมๆแล้งๆจะเป็น จริง  บรรดาผู้หญิงต่างยืนออกันอยู่หน้าเวที    โฮ๊ย ทำไมมัน เบียดกันจัง  ตัวของผมเริ่มเอนซ้าย เอนขวา ตามแรงดัน โดยมีชีวอนยืนมองอยู่ห่างๆ  ผมพยายามจะยืนให้ติดพื้นมากที่สุด แต่ตอนนี้ ผมกลับสู้แรงผู้หญิงไม่ไหว   ทงเฮ ยืนหันเข้าหาหลัง เวทีเป็นสันญาณเตือน เริ่ม เกมส์การแย่งชิงดอกไม้   ผมเฝ้ามองช่อดอกไม้นั้น พร้อมกับ หญิงสาวคนอื่นๆ ตาไม่กระพริบ  มือที่ยกขึ้นข้างบนพร้อมที่จะหยิบช่อดอกไม้หลายสิบมือ ปัดกันไปปัดกันมาให้ขวักไปหมด    

     

     

     1.....2........3.!!!!  ช่อดอกไม้ถูกโยนมาแล้ว แรงเบียดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ดอกไม้ตอนนี้โดน มือทั้งหลาย แย่งกันไปมาจนเหมือนมันกระโดดอยู่ในอากาศ   ผมทำได้ แค่ ยกมือขึ้น เผื่อ มันอาจจะหลุดพ้นเงื้อมมือ สาวๆข้างหน้า  แล้วกระโดดมาหาผม

     

    !!!!ฟึ่บ!!!

     

    รู้สึกเหมือนมีอะไร เป็นมัดๆ ตกใส่หัว  ด้วยความตกใจผม จึง เอามือจับที่หัวของตัวเอง  ก่อนที่จะ หยิบ ลงจากหัวมาดู  พบว่ามันคือดอกไม้สีขาวสลับแดงช่อให้  ที่ยามนี้มันดู ยับเยิน  ซะเหลือเกิน.... ด้วยความดีใจ จนเผลอถือดอกไม่ด้วยมือข้างเดี่ยว แต่แล้ว กลีบดอกไม้ที่เหลืออยู่ไม่กี่กลีบก็สามัคคีกันร่วงกราว ต่อหน้าผม  พวกผู้หญิงรู้อย่างนั้นแล้ว การรุมทึ้งแย่งช่อดอกไม้จากผมจึงเกิดขึ้น

     รู้แต่ว่าตอนนี้ดอกไม้ในมือของผมหายไปแล้ว แล้วก็ .....................ฟุบ!!!!!!  ผมล้มลงไปกองอยู่กับพื้น กว่า ที่เหล่า หญิงสาวทั้งหลายจะรู้ตัวชีวอนต้องแหวกเข้ามาช่วย.....เขา อุ้มผมออกจาก วงล้อม ที่น่าอึดอันนั้น คิบอมกับทงเฮที่เห็นเห็นการเมื่อ กี้ก็ววิ่งตามมานอกงานอย่างเป็นห่วง

     

    พี่ฮัน เป็นอะไรมากมั้ย ทงเฮวิ่ง เข้ามาอย่างตกใจ  ชีวอนค่อย ๆวางผมลงนั่งกับโซฟาของทางห้องโถงของโรงแรม

     

    ฮะๆ คือพี่เข่าอ่อนนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ผมตอบแบบขอไปที ผมชักเริ่มไม่สบายใจกับอาการผิดปกติของผมซะแล้วสิ

     

    พี่ ฮัน ไม่เป็นอะไรแน่นะ

     

    ไม่เป็นไรหรอก  ทงเฮนั่นแหละ เข้าไปดูแลแขกก่อนเถอะงานแต่งตัวเองนะอย่า ให้มันขาดตกบกพร่อง

     

    แต่....

    ไม่เป็นไรหรอก ทงเฮ ฉันจะดูแล ฮันเองเข้าไปในงานได้แล้ว  ชีวอนพูดพร้อมกับหันมาหาผม ทงเฮกับคิบอมเลยต้องเข้าไปในงานก่อนตามระเบียบ

     

    ฮัน ไปหาหมอ นะ   ร่างกายฮันมันผิดปกติ ไม่น่าไว้ใจ

     

    อืม ก็ดีเหมือนกัน

     

     ………………………………………………………………………………..

     

    โรงพยาบาล

     

     

    จากผลตรวจแล้ว กล้ามเนื้อคนไข้ผิดปกติ.......

     

    ครับหมอ. ฮันคยองนั่งฟังผลตรวจอยู่ในห้องตรวจกับคุณหมอเจ้าของไข้ส่วนชีวอน นั่งรออยู่ข้างนอก

     

    ระบบประสาทนอกส่วนกลางมีการฝ่อ ลีบลง หมอมีท่าทีที่ร้อนรนพสมควรทำให้ฮันคยองถงกับไม่สบายใจร้อนตามไปด้วย

     

    แล้วผมเป็น อะไรครับ

     

    คือ .....ว่า ...........

     

    อะ ไรครับ!!!”

     

    ทำใจดีๆนะ ครับ...........คุณเป็น

     

    ผมเป็นอะไรก็บอกมาซักทีได้มั้ย!!!” บรรยากาศในห้องร้อนระอุ

     

    สไปโนซีรีเบลลาร์อะแท็กเซีย………..” นัยน์ตาที่หลุบลงของหมอ ทำให้คนที่อยู่ในห้องด้วยถึงกับอึ้ง

     

    สไปโนซีรีเบลลาร์อะแท็กเซีย.......อาการของผมจะเป็นยังไงต่อไปครับ

     

    เป็นโรคทางพันธุกรรมโรคหนึ่งซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหนทางเยียวยา ผู้ป่วยจะสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวทางกายภาพไปโดยช้าจนกระทั่งหมดสิ้น...............ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวทางกายภาพของตน โดยเกิดภาวะสูญเสียการประสานกันของท่าเดิน

     

    ....................

     

    มีอาการพูดไม่เป็นความ และอาการตากระตุก  นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยนอกเหนือจากดังกล่าว เช่น อาการสั่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และโรคนอนไม่หลับ    อาจมีโรคดังต่อไปนี้แทรกซ้อนขึ้นมาในระหว่างการป่วยได้ เช่น ภาวะกระดูกสันหลังโกงคด   ภาวะนิ้วเท้างุ้ม ภาวะส่วนโค้งเท้าสูงขึ้น หรือโรคหัวใจ  ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับแต่ถ้าคุณตั้งใจทำกายภาพสักหน่อย อาจะชะลอ อาการของโรคได้      นัยน์ตาหวาน ยามนี้น้ำตาคลอเบ้า และกำลังไหลลงมาอย่างช้าๆ 

     

    โรคนี้ มีคนเป็นกันมากมั้ยครับ หมอ ฮันคยองได้แต่นิ่งตามองลอยออกไปนอกหน้าต่าง

     

    อัตราส่วนประมาณสิบหกคนต่อหนึ่งแสนคน

    เป็นผมสินะ ........  

     

    จากนี้การอยู่บนโลกนี้ของผมมันคงจะยากขึ้น สินะ  พระเจ้า ผมฝันไปรึเปล่า ยังมีอีกมากมายหลายสิ่งนักที่ผมอยากจะทำ   แล้วผมก็กำลังรอ คอยบางอย่าง จากปากของคนที่ผมรักอยู่  ได้โปรดๆ.......ให้ผมอยู่รอต่อไปเรื่อยๆได้มั้ย............กรุณาเถอะ

    +(1/12/52)

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    ฮันคยองกับมารักษาตัวที่บ้านสักระยะหนึ่งแล้ว  นับวันอาการเริ่มชัดเจนขึ้น จนชีวอนสงสัย    ฮันคยองเลือกที่จะไม่บอกคนรัก เพราะ เขาเชื่อว่า เขากับชีวอน รักกันมาก หากแต่ไม่ใช่การหลงตัวเองแต่อย่างใด

     

    ชีวอน ฮันนอนไม่หลับ ไฟในห้องนอนถูกดับมาราวชั่วโมง แล้วแต่ ตาของฮันคยองยังลืมตาใสแป๋ว และนี่ก็คืออาการของโรคที่เริ่มแสดงออกมาเรื่อยๆ โดยที่เจ้าตัวรู้ดีทุกอย่าง

     

    หืม อีกแล้วเหรอ ช่วงนี้ดู ฮันแปลกๆนะตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลครั้งนั้น ร่างสูง ตะแคงหันตัวเข้าหาร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆ

     

    ปะเปล่า ซักหน่อยนึง ช่วงนี้สงสัยคงเป็นเพราะฮะฮันนอนกลางวันมั้ง พูดแก้ต่างไปต่างๆนานา แต่มีหรือที่คนโกหกไม่เก่งอย่างฮันคยองจะไม่มีพิรุด

     

    ทุกวันฮันก็นอนกลางวันนี่  ยามนี้ ร่างของชีวอนอยู่บนช่วงบนของร่างบางเรียบร้อยแล้ว

     

    ชีวอนนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะ

     

    มานี่สิ ขยับตัวมาใกล้ๆ พูดพรางกวักมือเรียกท่ามกลางความมืด

     

    หือ ชีวอนจะทำอะไรอ่ะ

     

    แก้โรคนอนไม่หลับไง  บอกให้มาใกล้ๆไงล่ะ

     

    อ๊ะ!!!” ฮันคยองตกใจเล็กน้อยเมื่อถูกชีวอน ดึงเข้าไปในอ้อมกอด ฮันคยองจึงกอดตอบและกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น  ใบหน้าหวาน ซุกเข้าที่แผ่นอกกว้างของคนรัก

     

    ฮันคยอง…”

     

    มีอะไรเหรอ

     

    ฮันมีอะไรอยากจะบอกวอนรึเปล่าจุดประสงที่คนรักพูดนั้นฮันคยองรู้ดี แต่เลือกที่จะให้ชีวอนรู้ยามเขาจากไปแล้วดีกว่า ซึ่งฮันคยองคิดว่ามันคงจะไม่เจ็บปวดมากทั้งสองฝ่าย

     

    แล้วชีวอนล่ะไม่มีอะไรอยากจะบอกฮันเหรอย้อนถามกลับเป็นนัยน์  บางทีถึงรู้ทั้งรู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้

    แต่ก็อยากให้ชีวอนได้ยิน ถึงแม้จะรู้ว่าชีวอนจะไม่รู้ว่าประโยคเมื่อกี้เขาต้องการอะไรก็เถอะ

     

    บอกเรื่องอะไรล่ะนี่คือคำตอบของชีวอนที่ฮันคยองคาดว่าจะได้รับอยู่แล้ว

     

    ช่างมันเถอะ นอนกันเถอะชีวอน

    อืม

     

    หากจะต้องหมดลมหายใจในอ้อมกอดที่อบอุ่นใจอยู่ภายใต้วงแขนนี้ ยามนี้ผมคงไม่ลังเลอีกแล้ว

     

     

    โรงพยาบาล โดยฮันคยอง

     

          ผมแอบมาโรงพยาบาลคนเดียว หลายครั้งแล้ว คุณหมอจะนัดเดือนละสามครั้งและเมื่ออาการ หนักขึ้น ก็จะต้องมาโรงพยาบาลบ่อยขึ้น จนกระทั่ง ใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล  การทำใจอยู่กับโรคนี้มันลำบาก ไม่น้อย หลังจากที่ พ่อกับแม่ผม รู้ถึงโรคที่ผมเป็น แม่ก็ล้มลงไปกองกับพื้น ส่วนพ่อก็ เงียบไม่พูดอะไรสองสามวัน 

    ในอดีตผมก็คงจะไปทำร้ายใครมา ปัจจุบันนี้ผมเลยต้องอยู่กับโรคที่ทรมานอย่างนี้

     

    คุณหมอครับอาการผมเป็นอย่างไงบ้างครับ

     

    เอิ่ม   อาการของคุณ  เออ ทรุด หนักลง….”ยามนี้ใบหน้าของคุณหมอก็ฉายแววเศร้าอยู่ในทีเช่นกัน

     

    ครับ   แล้วมีอะไรที่หน้าเป็นห่วงมั้ย

     

    ถ้าหากคุณมีญาติแน่นอนผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับตัวคุณเองแน่

     

    ผมคิดว่าผมเข้มแข็งพอครับหมอ

     

    คุณ มีโรคแทรกซ้อน ….โรคหัวใจ แทนที่จะเห็นน้ำตาของฮันคยอง กับเห็นรอยยิ้มแต่ช่างเป็นรอยยิ้มที่โหดร้ายกว่าการร้องไห้หลายเท่า

     

    เวลาผมเหลืออีกเท่าไร ครับ

     

    เรื่องนี้หมอก็บอกไม่ได้  ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้

     

    ครับหมอ ขอบคุณครับหมอ

       เป็นเวลาหลายวันแล้วที่อาการของผมมันเริ่มชัดเจนขึ้น  ตอนนี้ผมก็ทำอะไรที่เหนื่อยมาไม่ได้ การขยับเขยื้อน แย่ลงกว่าเดิมหลายเท่า  การเดินดูจะผิดแปลกขึ้นทุกวัน สายตา ก็มองไม่ค่อยชัด  วันนี้ผมลงมือทำกับข้าวตามที่

    ชีวอน ขอ  เขาบอกไม่ได้ทานข้าวฝีมือผมมาเป็นเดือนแล้ว  ตั้งแต่ผม รู้ว่าผมเป็นโรค  ผมก็ไม่มั่นใจในประสาทการลิ้มรสอาหารของผมสักเท่าไร   วันนี้ผมตัดสินใจที่จะบอกเลิกกับชีวอน ผมคงรอให้คำที่ผมเฝ้ารอหลุดออกจากปากชีวอน  แค่คำว่า  แต่งงานกันนะ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับผม  ถ้าผมอยู่ที่นี่อีกไม่นานนี้ชีวอนต้องรู้แน่ๆ กลับไปนอนตักแม่ที่บ้าน คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและเป็นทางเลือกสุดท้ายของชีวิต

     

    ว้าว!!!ไหนดูซิ คนน่ารักทำอาหารอะไรให้คนหล่อทาน  หลังจากที่ผมได้ยินเสียงรถของชีวอนกลับมาบ้านแล้วผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ของชีวอนก้าวเข้ามาในครัว  ไม่วายกอดผมจากทางด้านหลัง

     

    เตรียมของโปรดของชีวอนไว้เยอะเลยล่ะว่าแต่ผมจะหาเรื่องอะไรบอกเลิกเขาดีล่ะ

     

    น่ารักจังเลย  เมียใครหว่า?ขโมยหอมแก้มผมไปฟอดใหญ่  ผมทำได้แค่ยิ้มบางๆให้เจ้าของใบหน้าคมเข้มใบหน้าของคนที่ผมรัก  รัก  รักมาก….. ต่อจากนี้เราคงไม่ได้เรียกกันว่าที่รัก หรือใช่คำว่าคนรักได้อีกแล้ว

     

    ทานข้าวกันเถอะชีวอนทานเยอะๆนะ”…… เพราะมันอาจจะเป็นมื้อสุดท้ายที่เราจะได้ทานข้าวด้วยกัน

     

    โหย ฝีมือฮัน อร่อยอยู่แล้วถ้าไม่ต่อชามที่สองคงจะไม่ไหวล่ะ   ทานล่ะนะ!”  ชีวอนตักข้าวพร้อมกับ คำแรกเข้าปาก แต่แล้ว ใบหน้ากลับยู่ยี้

     

    ทำไมมันจืดอย่างนี้ล่ะฮัน

     

    ฮะ !! จริงเหรอผมรีบตักกับข้าวนั้นเข้าปาก แต่! ทำไม่ผมถึงชาลิ้นล่ะ ผมลอง ชิม ซอสรสจัสต่างๆดู แต่กลับจืดสนิทสำหรับผม  เห้อ เวลาของผมมันเหลือน้อยนิดจริงๆ ผมทำหน้าที่ที่เคยทำ สิ่งที่ผมเคยทำห้ชีวอนได้ดีตอนนี้กลับทำไม่ได้ดี   ถึงเวลาที่ผมจะตัดเรื่องวุ่นวายใจนี่ทิ้ง และให้ชีวอนเป็นอิสระ สักที

     

    ชีวอน  คือฮันคิดว่า

     

    หือ ว่าไง มีอะไรเหรอ ครับที่รัก

     

    เรา……..เราเลิกกันเถอะ ชีวอนเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง

     

    ทำไม หรือว่าเมื่อกี้ ว่าฮันทำกับไม่อร่อย ฉันทานได้นะ ทานได้เป็นสิบๆจานเลย ชีวอนเริ่มพูดรัวราวกับคนเสียสติ  พร้อมกับตักข้าวยัดเข้าปากคำใหญ่  แล้ว โกยกับทั้งหมดมาไว้ในจานของตัวเอง แล้วยัดมันไปพร้อมๆกับข้าว ภาพตรงหน้ามัน สั่งให้น้ำในตาของผม เริ่มเอาและหยดลงมา

     

    คะ คือ   ฮึก มันไม่ใช่อย่างนั้นนะชีวอน ฮึกๆ

     

    ทะ ทำไม ล่ะฮัน วอนรักฮันนะ

     

    ดูสิ อึกๆ วอน ตอนนี้ฮันทำอาหารไม่อร่อยเหมือนที่วอนเคยทานอีกแล้วผมพยายาม พร่าม บอก พร้อมกับหยาดไหลอาบแก้มเป็นทาง ยากทีจะพูดคำๆนั้นออกมา จริงๆ คำว่า เราเลิกกันเถอะ

     

    มันไม่จริงเลยฮัน  เพียงแค่ ทำอาหารไม่อร่อย เหตุผลนี้มันไม่ได้ทำให้วอนเบื่อฮันหรือเลิกรักฮันได้เลย

     

    ชะ  ชีวอน  ฮึก ในอนาคตข้างหน้า วอนอาจจะต้องเหนื่อยเพื่อฮันมากเกินไปลองคิดดูสิ  ถ้าผมต้องนั่งรถเข็น ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้  เขาคงจะต้องลำบากมาก

     

    ถ้าเป็นฮัน วอนพร้อมที่จะเหนื่อย  ขอร้องเถอะฮัน อย่า ก้าวเท้าออกไปจากชีวิตวอนเลยนะ  ชีวอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้าม ยามนี้กลับนั่งคุกเข่า ตรงหน้า ผม ฮัน ถ้าวอนทำอะไรผิดไป โดยที่วอนไม่รู้ตัว วอนขอโทษ อย่าจากไปเลย ขอร้อง.....น้ำตา เริ่มคลอที่ตาคมเข้มของชีวอน  ใบหน้า ฟุบลงกับตักของผม

     

    วอน....ฮันขอร้อง ฮึกๆ กรุณาห่างกัน สักพัก... แม้มันจะเป็น ตลอดไป  ก็ตาม

     

    ไม่! ไม่ได้ วอนอยู่ไม่ได้   หากคุณจะกรุณา คุณอย่าทำแบบนี้กับผมเลย เจ็บมากแค่ไหนคุณรู้มั้ย ผมจะอยู่อย่างไงถ้าไม่มีคุณ’”  ประโยคขอร้องเมื่อครู่ มันทำลายลึก ในหัวใจของผม  มัน ปวดมันร้าวไปหมด  แต่ก็ เถอะ  ยังไงวันข้างหน้า ผมก็จะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว  เขาก็จะลืมผมไป  มี ภรรยา ที่สามารถให้กำเนิดลูกที่น่ารักแก่เขาได้

     

    วอน  มองหน้าฮัน เงยขึ้นมาสิ  มองตาฮัน แววตากริบฉายแววเจ็บปวดอยู่ในที ค่อยเงยขึ้นมาช้าๆ ปราศจาก คำพูดใด

    เห็นอะไรมั้ย    ผมก็เจ็บปวด ผมก็รัก คุณ ผม ถึงต้องทำอย่างนี้ สักวันคุณจะเข้าใจ เมื่อคุณเจอผู้หญิงที่สามาถ มีลูก ให้คุณได้

     

    ถึงฮันจะไม่บอกเหตุผลให้วอนรู้วันนี้ วันหน้าวอนก็ต้องรู้ด้วยตัวเองอยู่ดี 

     

    วันหน้า ของเขา มันอาจจะไร้ซึ่งเงาของผม .......

     

    การรอคอย ของฮัน สิ้นสุดลงแล้ว  ฮันรักวอนนะ.......

     

    +++++++++++

     

    คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของเรา  ผมและ คนที่ผมรัก เขามาก พรุ่งนี้ผมตั้งใจจะ ไปจากที่นี่ ไปจากบ้านหลังนี้

     

    ++++++++++++++++++++++

     

    ทั้งสองร่าง ที่นอน กอดกันราวกับจะรวมเป็นหนึ่งเดียว  ร่างสูงใหญ่ที่นอน กอดแน่น  เหมือนกับว่ากลัวคนในอ้อมกอดจะหนีหายไปไหนในคืนนี้    พรุ่งนี้เช้า   คือ เวลาที่ทุกอย่าง จะหยุดนิ่ง สำหรับ ชีวอน..................

     

    ++++++++++++++++++++

     โดย ชีวอน

        ผม กอด ร่างบางภายใต้วงแขนผมให้แน่นที่สุด พรุ่งนี้ผมกลัวว่า ผมจะไม่เห็น เขา ในตอนเช้า จะไม่ได้กลิ่น อาหาร ที่ทำให้ผมตื่นขึ้นมา   และ อ้อนวอนต่อพระเจ้า ว่า ขอให้เรื่องทั้งหมดในวันนี้มันเป็นเพียงแค่ฝันไป    แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่าน สีขาว พาดดำที่ฮันคยองชอบ  เข้ามาทำให้ผมรู้สึกถึงเช้าวันใหม่   แต่   อ้อมกอด ของผม ร่างที่ผมกอดเอาไว้เมื่อคืน หายไปแล้ว

     

    ฮันคยอง!!!!! ฮัน!!”  ผมตะโกนเรียกทั่วทั้งบ้าน ก็ ยังไม่มีวี่แววที่ เจ้าตัวจะตอบกลับ ไร้ซึ่งเสียงใดๆทั้งสิ้น  ผมตัดสินใจเปิดตู้เสื้อผ้าของฮันดู แต่แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า   โดยมีโน้ต  เล็กๆที่ไว้  
     

    อย่าตามหาฮันนะ ถ้าอยากให้ฮันมีความสุข อย่าเจอกันอีก

    สมองของผมมันมึนทึบไปหมด เบาโหวง ล่องลอย  เหมือนกับคนไร้วิญญาณ    ผมกดโทรศัพท์หา ฮันคยอง แต่ ให้ตาย ยังไงก็ติดต่อไม่ได้
      ถึงจะไม่อยากเจอกันอีก ก็ขอแค่ได้ยินเสียงไม่ได้เลยเหรอ......    ผมเดินไปรอบๆบ้าน ครั้งแล้วครั้งเล่า   ไม่มีแล้วไม่มีจริงๆ   ถึงผมจะรู้ว่าฮันคยองจะไปที่ไหน    ผมก็คงยืนยันจะไม่ไปพบเจอ ถ้าเป็นความต้องการของคนที่ผมรัก    ทั่วทั้งบ้าน มีโน้ตแผ่น สีเหลืองสีเขียว   หน้าตูเย็น แปะ กระดาษโน้ต แผ่นเล็กๆที่เขียนว่า  

     เช้านี้ฮันเตรียมอาหารไว้ให้ ถึงจะจืด แต่ก็ ทน ทานหน่อยนะ
    ^-^

    บ้านทั้งหลังสะอาดเอี่ยม  พื้นมันเงา ไร้ฝุ่น คราบใดๆ    จะผิดไม่ที่ผมจะหลั่งน้ำตาให้แก่ ฮันคยองที่รักของผม  กลิ่นของฮันยังติด อยู่ในทุกๆซอกมุมของบ้าน เวลานอน หลายคืนผ่านมา ผมเลือกที่นจะนอนหมอนของฮันคยอง หาก บ้านหลังนี้ไม่มีฮันอยู่ มันคงไร้ชีวิตวีวา ว่างเปล่า   ถึงบ้านหลังนี้จะสวยสดชื้นไปด้วยต้นไม่ที่เราร่วมปลูกด้วยกัน แต่เทียบไม่ได้กับหัวใจของผมที่มีฮันคยองคอยอยู่เคียงข้าง    ผมบอกตัวเองซ้ำๆว่านี่คือความฝัน...............

     

    ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทรายต้นไม้ใหญ่                      แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม

    ขอบรั้วและริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ในสนาม                   บ้านนี้จะมีความงามได้ถ้ามีเธอ

    เพราะเธอคือที่พักพิง คือทุกสิ่งที่มีความหมาย                 เมื่อเธออยู่ เคียงชิดใกล้ เรื่องร้ายใดๆ ไม่เกรง

    แม้ข้างนอกจะต้องเจอะกับเรื่องราวที่ใครข่มเหง             แต่ฉันเอง ไม่คิดกลัว

    จากพื้นดินชนเพดานนั้นมีความหวานอยู่                        เพราะรู้ว่าฉันมีเธอคอยเป็นที่พักใจ

    จะรอคอยฉันจริง ๆ เป็นหลักพึ่งพิงสุดท้าย                     จะล้มตัวลงเอนกายที่บ้านของฉัน

    ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเท่าไร                   ฉันยังคงมีแต่เธอเป็นความหวังและความเข้าใจ

    พร้อมจะเก็บทุกสิ่ง ทิ้งความสุขทุกอย่าง                         และจะทำทุกทาง เพื่อบ้านหลังนี้

    ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้..ใหญ่                   แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม

    ขอบรั้วและริมทางเดิน ก็ล้วนแต่มีคำถาม                       บ้านนี้จะงามอย่างไร ถ้าไม่มีเธอ

    *********ก็เพราะว่าใจของเธอคือ บ้านของฉัน..........................********(เพลง  home- ธีร์ ชัยเดช )

     

    'การรอคอย ของฮัน สิ้นสุดลงแล้ว  ฮันรักวอนนะ.......'

     

     นั่งคิด ประโยคซ้ำเดิมๆของฮันคยอง อยู่หลายเดือน  การรอคอย  ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจได้ แล้ว เวลาที่เราห่างกันมันทำให้ผมคิดได้ว่า   เราควรจะเปิดเผยเริ่องของเรา ให้พ่อกับแม่ผมรับรู้  และเราจะแต่งงานกัน  เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ  

     

    ฮัน  รอวอนหน่อยนะ  รับรองไม่ช้าเกินไป หาก ฮัน รอ คำ ขอแต่งงานจากวอนอยู่ วอนจะไม่ทำให้ผิดหวัง

     

    ผมมั่นใจว่าชีวิตในอนาคตต่อไปของพวกเราจะต้องยั่ง ยืน และเราจะมีกันตลอดไป…………….








    14/12/09

    อยากให้อ่านข้อความด้านล่างของไรท์เตอร์หน่อยนะคะ

     

     

     

    โดยฮันคยอง.........

     

        การที่ผมตัดสินใจมาอยู่ที่บ้าน พ่อกับแม่ ไม่สิ  มันคือบ้านของผมต่างหาก   การต่อสู้กับห้วง ความคิดถึงมันช่างทรมาน เหลือเกิน แต่ผม ยอมที่จะทรมาน เพราะยังไงชีวิตของผม ก็คงอยู่ได้ อีกไม่นาน การทำอะไรเพื่อคนที่ผมรัก  ทั้ง พ่อแม่ และชีวอน คงจะมีประโยชน์มากกว่า และผมหวังว่าพวกเขาเหล่านี้คงมีความสุข ถ้าหากผม ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว 

     

    พี่ฮันคยอง คะ เช้านี้ พี่อยากทานอะไร ระหว่างข้าวต้มกับ ซุป ยุนอา พยาบาลประจำตัวผมเธอดูแลผมมาร่วม 4 เดือนแล้ว ตอนนี้ผมทำได้เพียง นั่งอยู่บนรถเข็น ไม่สามารถเดินไปไหน ได้ดั่งใจแล้ว  ทุกๆวัน ยุนอาจะมาที่นี่แต่เช้า และกลับบ้านเมื่อส่งผมเข้านอนแล้ว ผมมีความรู้สึก เหมือนได้กลับมาเป็นเด็ก อีกครั้ง แต่ผมไม่ใช่เด็กแล้ว....การที่มีคนมาดูแล โดยที่เราทำอะไรไม่ได้เลยคุณคิดว่า จะโมโหตัวเองมากน้อยแค่ไหน

     

    อืม พี่มะค่อย------อยากทานเลย จะเอาอะราก็ได้  แล้วแต่ยุนอา  เถอะ ยังไงพี่ทา----เข้าไปก็ไม่รู้รสชาติ ของมัน----อยู่ดี  หากแต่ การพูดการสือสารของผม ณ  ตอนนี้ ยังยากที่จะทำนัก

     

    พี่ฮัน อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ  ถึงผมจะ มีร่างกายที่ ใช้การไม่ได้ แต่หัวใจของผมมันยังใช้การได้ดี   ผมเห็นความเศร้าโศรกในดวงตาสวยราวกับกวางคู่นั้น การกระทำคำพูด ถึงจะพยายามมีชีวิตชีวามากเพียงใด แต่ ผมก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดบางอย่างที่ เธอ เคยได้รับ

     

    ยะยูนอา  พี่อยากถาม อะไรหน่อย ถ้า เธอไม่รังเกรียจ จะเล่า ความ  หลังให้พีฟังได้มั้ย  ร่างเพียงของหญิงสาว ที่เดินเข้ามาเข็นรถผม เธอยิ้ม...................... รอย ยิ้มที่เจ็บปวด

     

    คุณหมอบอกว่า ไม่อยากให้มีอะไรสะเทือนใจพี่ คงไม่ดีถ้าฉันจะเล่าให้พี่ฟัง รถเข็นของผมเริ่มเคลื่อนออกไปที่สนามหน้าบ้าน

     

     

    ได้โปรด   ทำกับ พี่อย่างพี่เป็นคนปกติเถอะได้มั้ย........

     

     

    ฉันเคยรัก ผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง  เรารักกันมาก  รักกันมาหลายปีแล้ว........  เสียงเธอขาดห้วงไป

     

    เล่าต่อเถอะยุนอา ด้วยความที่ผมนั่งอยู่บนรถเข็น ผมจึงไม่สามารถเห็นใบหน้า ของยุนอาในขณะนี้ได้ จนผม ได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ

     

    ฮึก  คือ   เธอชื่อ ควอน  ยุริ   คุณพ่อกับคุณแม่ของเขาบังคับให้ เขา แต่งงานกับ เจ้าของหุ้นใหญ่ในบริษัท

     

    อืม  อย่าร้องไห้เลยนะ น้องรัก

     

    พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ ฉันเสียใจ ฉันเสียใจจริงๆค่ะพี่

     

    ใช่ว่าพี่จะไม่เคยพบกับความรู้สึกแบบนี้   บางทีชีวิตคนเรามันก็ไม่สามารถกำหนดได้หรอกนะ   ฟังยุนอาเล่าแล้วพาลให้ผมคิดถึงชีวอน  เราไม่ได้พบกัน นาน เท่าไรแล้ว ... 5  เดือนพอจะได้ ป่านนี้ ชีวอนจะเป็นอย่างไงบ้าง เขาจะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงเขามั้ย

     

    ฮันคยอง !มาดูนี่สิ นี่เจ้า ลูกหมาตัวนี้มีคนเอามาวางใส่กล่องของขวัญไว้หน้าบ้านน่ะลูก แม่ของผมวิ่ง ถือกล่องของขวัญใบใหญ่มาหา ผม  มันเป็นลูกหมา พันธุ์เชาเชา ที่ผมอยากได้มานานแล้ว

     

    แต่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ของเรา ก็ได้นะแม่ แม่เก็บมาอย่างนี้มันจะดีเหรอ

     

    แต่ว่ามันมีโน้ต เขียนว่าฮันคยองนะลูก แม่พูดพรางยืนกระดาษสีขาวให้ผม  ถ้าผมจำไม่ผิดหรือคิดไปเองกระดาษนี้มันเป็นกระดาษโน้ตของผม ที่เคยใช้ที่บ้าน ชีวอน

     

    เลี้ยงมันเอาไว้ก็ได้นะครับแม่ 

     

     

    ก่อนหน้า 1 วัน

     

    แม่ครับนี่ชีวอน นะครับ  หญิงชราเพียงตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ

     

    จ๊ะ ชีวอน

     

    ฮันคยองอยู่ที่นั่น ใช่มั้ยครับ

     

    เอ่อ  คือ ว่า  แม่........ จากน้ำเสียงที่ดูลำบากใจ เพราะตั้งแต่ ฮันคยองลูกชายของเธฮกลับมาด้วยอาการ ของโรคที่หนัก ขึ้น 

      ลูกชายของขอร้องเธอ ว่าไม่ว่าอย่างไร  ชีวอนจะติดต่อทางไหน ขอร้องแม่แค่ไหน  อย่าได้ให้เขาเห็นสภาพลูกในเวลานี้เลย

     

    ผมรู้ว่าแม่ลำบากใจครับ  แต่........ผมรักฮัน เพราะอย่างนั้น ผมสัญญาว่าผมจะไม่เจอกับฮัน ผมแค่อยากฝากอะไรแทนความคิดถึงไปให้   แม่ครับ ฮันคยองสบายดีใช่มั้ย ?   เธอเลือกที่จะทำตามอย่างที่ลูกชายขอร้องไว้

     

    สบายดีจ๊ะ ชีวอนไม่ต้องห่วงหรอกนะลูก เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ที่คอ เธอก็อายุไม่น้อยผ่านอะไรมาเยอะ รุ้ว่าการโกหกมันไม่ดี เธอก็แค่เห็นแก่ลูก..............

     

    ขอบคุณ ครับแม่ พรุ่งนี้ผมจะให้คนเอาของไปไว้ที่หน้าบ้านนะครับ

     

    ของ?

     

    ครับแม่ ผมจะฝากของไปให้ฮัน เห็นบ่นๆอยากได้มานานแล้ว

     

    เออ.....งะงั้นก็ได้จะลูก ชีวอน แม่ว่าลูกต้องพยายามตัดใจนะ ผู้เป็นแม่ของฮันคยอง  ผู้กุมความลัพธ์  ผู้ที่รู้สถานการณ์ดีทุกอย่าง กล่าวด้วย วาจาที่ปลอบโยนนุ่มนวล  ชีวอนกับฮันเคยองรักกันมานานมากแล้ว   มากจนเธอเองก็รักชีวนเหมือนลูกคนหนึ่ง

     

    เป็นเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ครับแม่ มันเกินความสามารถของผมขอร้องเถอะครับแม่

     

    แต่ชีวอน .คือว่า...........

     

    จริงๆแล้ว เดือนหน้าผมตั้งใจจะมาขอฮันแต่งงาน ครับ

     

    แต่ถ้าฮัน ไม่ได้รอ ชีวอนล่ะลูก ฮันอาจไม่เหมือนเดิมแล้วลูก จะยังรัก ฮันอยู่มั้ย ยามนี้ หญิงชราทำได้เพียงหลั่งน้ำตาต่อโชคชะตาความรักของลูกทั้งสอง  พวกเขาทั้งสองคนทำผิด

    ถึงฮันจะไปมีคนใหม่หรือว่า หน้าตาเปลื่ยนไปยังไง  ถ้าคนคนนั้น คือฮันคยอง เขาคนนั้น ก็คือคนที่ผมรัก มากที่สุดและตลอดไป

     

     

    ถ้าอย่างนั้น แม่คงจะพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว  หวังว่า ชีวอนคงเข้าใจแม่

     

     

    ผมเข้าใจครับ แต่ ก็ยังยืนยันคำเดิม หาก ฮันคยองยังอยู่ที่นั่น ถึงเดือนหน้าทุกอย่างจะพร้อมสำหรับการแต่งงานของพวกเรา

     

     

    ................ แม่ต้องวางสายก่อนนะชีวอน แล้วค่อยคุยกันวันหลังนะจ๊ะ

     

     

    ครับ ขอบคุณแม่มากๆ ครับ

     

     

     

               ฮันคยอง นั่งบนรถเข็น ขีดเขียน บางอย่างอยู่ใน ห้อง ของตัวเองเพียงผู้เดียว สักพัก หญิงสาว ก็ เคาะประตูเบา ๆแล้วก้าวเข้ามาอย่างเคยชิน  เขากับยุนอาอยู่ด้วยกันทุกๆวัน  แต่วันนี้ กลับมีคราบน้ำตา และเสียงสะอื้นที่ยังไม่ เงียบดี   ฮันคยอง ตกใจที่ จู่ๆ ก็เห็น หญิงสาวที่ รัก เช่น น้องสาวร้องไห้มากขนาดนี้  เขาจึงวางปากกาที่ กำลังใช้เขียนบางอย่างอยู่แม้ว่ามันจะไม่ สะดวก คล่องแคล้ว  ตัวหนังสือไม่สวยก็เถอะ

     

    พี่ ฮัน ฮึกๆๆๆ ยุนอา ยามนี้ อยู่ในฐานะน้อง สาวคนสนิท ของฮันคยองยิ่งกว่าพยาบาลประจำตัวซะอีก

     

    เป็นอะไรไป  จะ น้องสาว รู้มั้ยว่าร้อง ไห้แล้วไม่สวยเลยนะ หืม....มือ ที่ดูเงอะงะ ขยับไม่ค่อยได้ดี  ยกขึ้น ลูบผมของยุนอาช้าๆเป็นการ ปลอบโยน

     

    แม่ของฉัน ท่านต้องการ การผ่าตัด ด่วนเลยค่ะ...ฮือๆ ....  ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย ไม่มีใครให้ยืมเลย

     

    เหรอ  ใจเย็นๆนะยุนอา เงิน มันมาก ขนาดไหน พี่อาจจะช่วยได้นะ.......  ใบหน้า งดงาม เงยขึ้นมามอง ฮันคยอง  เปรี่ยมล้นไปด้วย คำขอบคุณ และความรัก  ดวงตา เริ่ม ฉายแววสดใส    

     

    การช่วย เจ้าตัวเล็กนี่ก็คงไม่เหลือบ่าฝ่าแรงผม มากนักหรอก เงินเก็บของผม ก็ยังมีมากพอควรเพราะฉะนั้น ผมควรจะรีบให้เงินก่อนที่ผมจะไม่มีโอกาสได้ใช่มัน

    .

    .

    .

    .

        ผ่านไปสองสัปดาห์ ถึงยุนอา จะต้องไปดูแล แม่ที่นอนรักษาตัวพักฟื้นหลังจากได้รับการผ่าตัด แต่ก็ยังหมั่นมา ดูแลฮันคยองเท่าที่มีเวลา

     

    จริงๆแล้ว ช่วงนี้ ดูแลแม่   ไม่ต้องมา ที่นี่หรอก

     

    ไม่ได้หรอหรอกเพราะภ้าไม่ได้พี่ ฉันก็คงไม่ได้ดูแลแม่จนวันนี้หรอก แม่อาจจะไม่ได้อยู่ให้ฉันดูแลก็ได้

    งั้น พี่ขออะไรสักอย่างได้มั้ย ยุนอา ฮันคยอง ถามตรงๆ

     

    ได้สิ ไม่ว่าจะอะไรฉันให้พี่ได้ทุกอย่าง เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับการที่พี่ให้ชีวิตใหม่แก่แม่

     

    อืม  เราแน่ใจรึยัง

     

    แน่ยิ่งกว่าแน่ซะอีก แววมั่นคงของยุนอาทำให้ ฮันคยองแน่ใจขึ้นกว่าเดิม

     

    ถ้าพี่ไม่อยู่แล้ว ช่วยเอาจดหมายให้ คนที่ ชื่อ ชีวอน ด้วยนะ แต่ถ้าให้ไปแล้ว..........

     

    ทำไมเหรอคะ

     

    ถ้าให้จดหมายนี้ไปแล้ว บางอย่างในชีวิตของยุนอา ก็จะเปลี่ยนแปลง..


     

    3/01/53

    ใช้วิจรณญาณ ในการ อ่านนะคะ



    //ฉันยอม ยอม  ยอม และยอม ฉันเป็นหนี้บุญคุณ พี่ชายคนนี้มากเหลือเกิน //....ยุนอา  


     

     

     

    ชีวอน

     

      วันนี้ผมมาเดินหาซื้อแหวนที่ห้างสรรพสินค้า ล่ะครับ จะว่าไปก็ตื่นเต้น เหมือนกัน พรุ่งนี้ ผมจะ เข้าไปเซอร์ไพซ์  ฮันคยอง  นึกถึงหน้าของฮัน ในวันพรุ่งนี้ ไม่ออกเลย  จะ ดีใจ ประหลาดใจมากขนาดไหนกันนะ   ผมกำลังเลือกแหวนในตู้กระจกสีใส                             อ่า  วง นี้ก็สวย นะ…………..

     

    ขอโทษนะครับ คุณช่วยหยิบแหวนวงนี้ออกมา ให้ดูหน่อย ครับ  บริกรสาว รับคำ ด้วยยท่าทางยิ้มแย้ม

     

    นี่ ค่ะ    แหวน อยู่ในมือของผม มันช่างสะดุด ตา เหมาะกับคนที่จะต้องสวมมันเหลือเกิน

     

    เท่าไรครับ ผมตัดสินใจซื้อโดยไม่ลังเล

     

    2xx,xxx บาท ค่ะ  ที่นี่รับจ่ายทาง บัตรเครดิตด้วยนะคะ   

     

    อ้อ ผม จ่ายเงินสดดีกว่า ครับ

     

    อะ  เอ่อ คือ .. หายากมากสำหรับลูกค้าที่ซื้อแหวนราคา ขนาดนี้แล้วยังจะจ่ายเงินสด   ชีวอนยื่นซองหนา ที่ภายในมีแต่ แบงค์ ทั้งนั้น

     

    ขอบคุณค่ะ  ขอให้มีความสุขแล้วก็ขอให้ คน คนนั้นของคุณถูกใจนะคะ

     

    ฮะๆ ขอคุณครับ ผมว่าเขาคนนั้น คงจะชอบมันมาก   เห้อ  ถึงจะตื่นเต้นยังไง แต่ก็มีความสุข   เอ นี่ผมลืมไปรึเปล่านะว่าตอนนี้เรากำลังห่างกันอยู่   ยังไงซะ พรุ่งนี้ เจอกัน นะครับ ฮันที่รัก  วอนจะไม่ยอมให้ดิ้นไปไหนอีกแล้ว ......

     

     

     

     

    วันรุ่งขึ้น

    +

    +

    +

    ..........................................................

     

    คุณป้า คะ!!! เรียกรถพยาบาลให้ยุนอาหน่อยค่ะ!!”เสียงใส โผล่งออกมาด้วย ความเร่งรีบ ถึงจะเป็นพยาบาลแต่ก็อดตกใจไม่ได้ ทำเอา พ่อกับแม่ของฮันที่นั่ง จิบกาแฟ อยู่ ตกใจกับเสียงของยุนอาเมื่อครู่

     

    ฮะ !! มีอะไรกันยุนอา

     

    พี่ฮัน  !! พี่ฮัน เหมือนจะหัวใจวาย      

     

     เมื่อถึงโรงพยาบาล ยุนอา ทำหน้าที่พยาบาลอย่างเต็มที่   ฮันคยอง ตอนนี้นอนนิ่งอยู่ในห้องฉุกเฉิน ราวกับจะไม่รับรู้เหตุการณ์ภายนอก อีกเลย

     

    ตาแก่.....ลูกเรา  .................ถึงเวลานั้นแล้วรึยัง

     

    พ่อก็ตอบไม่ได้หรอกนะแม่ ทำใจไว้บ้างก็ดีนะ  หญิงชรา  ร้องไห้โฮกอดสามีแน่น  ยากที่จะยอมรับชะตากรรม โหดร้ายเกินไป

     

    ตาแก่......ฉันกลัว...

     

    ฮืม ยังไงซะมันก็ต้องผ่านไปนะแม่ .....

    +

    +

    +

    +

     

    ตอนนี้ที่ บ้านฮันคยอง  

     

     รถของชีวอนแล่นเข้ามาจอดภายในบ้าน ร่างสูงสังเกตได้ถึงความ เงียบ ของบ้านหลังนี้  

     

    แม่ครับ~~~!!” ตะโกน  ออกไป แต่กลับได้ยินเพียงเสียงของตัวเองที่สะท้อนกลับมาเท่านั้น  เขาเริ่มมีอาการรนราน กล่องแหวนในมือ ที่ซ่อนไว้ข้างหลัง ยังกำไว้แน่น  

     

    พ่อหนุ่มๆ~~~”

    เมื่อต้นเสียงมาจากหน้าประตูเขาจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปหาเจ้าของเสียง   ป้าแก่ๆที่ชีวอนคุ้นหน้าคุ้นตา แกอยู่ข้างบ้านของฮันคยอง มานานมากแล้ว

     

    ป้า  เขาไปไหนกัน ครับป้า!!!”

     

    เห็น เมื่อกี้ รถพยาบาลมารับวิ่งเร็วจี๋เลย ป้า ยอนนา ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่ฮันคยองกลับมาที่บ้านจนถึง เวลานี้

     

    ฮะ อะไร มีใครเป็นอะไร !!”

     

    รู้สึกว่าฮันคยองนั่นแหละ เห้อ เวรกรรมอะไรของหนูฮัน ทำไมต้องมาเจอโรคร้ายๆอะไรร้ายๆอย่างนี้ด้วย

     

    อยู่โรงบาลไหน ป้าพอจะรู้มั้ยครับ

     

    เห็นเป็นรถของโรงบาล ฮันซาง นะ

     

    ขอบคุณมากครับ ป้า

     

    ฮัน……” ร่างสูงไม่ รอช้า รีบ ขึ้นรถ ขับออกไปด้วยความเร็วสูง………..

     

     

     หลังจากที่หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน  ทั้งพ่อและแม่ของฮันคยอง ก็พร้อมใจกันโผลเข้าหา คุณหมอเจ้าของไข้ทันที

     

    คุณหมอ ฮันคยองลูกฉัน เป็นยังไงบ้าง ผู้เป็นแม่ที่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็น ชั่วโมงๆอย่างร้อนรน

     

    เออ….”

     

    ว่าไงค่ะ หมอเร็วๆสิลูกฉันน่ะ เขา จะอยู่ต่อได้รึเปล่า!!!ตอบมา สักที สิ!!! บอกมา!!!” เมื่อ คนเป็นแม่เริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่ พ่อ จึงต้องทำหน้าที่ควบคุมอาการ คลั่ง  

     

    เออ ขอโทษครับหมอ คือ ภรรยาผม เขากลัวมาก

     

    ผมเสียใจด้วย นะครับ

     

    หมายความว่าไงครับหมอ

     

    ลูกชายคุณ เสียชีวิตแล้ว เราช่วยเขาไว้ไม่ทัน ผมเสียใจจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับหลุบตาลง มีสีหน้าที่สลดลงทันที ผู้เป็นแม่ได้ยินดังนั้น ก็หมดสติล้มพับไปอีกคน   นัยน์ตา สีเทาของชายสูงอายุที่ได้ชื่อว่าพ่อ มีน้ำตาเอ่อล้นอยู่เต็ม และกำลังใหลออกมาช้าๆ ยุนอา เดินออกมาหลังจากนั้น

     

    คุณลุง  คุณป้า ฮื่อๆ  พี่ฮัน  อึก ยุนอาต้องขอโทษด้วยจริงๆ เป็นเพราะยุนอาคนเดียว ที่ ไม่ดูแลพี่ฮันให้ดี   ภายนอกห้องฉุกเฉิน ผู้คนมากมาย แต่หญิงสาวไม่อายที่จะนั้งคุกเข่าลงกับพื้น แล้ว ก้มหัวให้พ่อของ  พี่ฮันของเธอ

     

    ยุนอา อย่าโทษตัวเองเลย มันอาจจะถึงเวลาที่ฮันจะต้องจากพวกเราไปแล้ว จริงๆ

     

    +

    +

    +

    +

    +

       ทันทีที่จอดรถได้ ชีวอนก็ออกจากรถ และไปหาฮันคยองให้เร็วที่สุด ไม่ห่วงแม้กระทั่งรถคันแพงที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้  การขึ้นลิฟต์เหมือนเป็นสิ่งที่เชื่องช้าเกินไปสำหรับเขา  ขายาว เดินกึ่งวิ่งขึ้นบันได ราวกับ ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย มือที่ชุ่มเหงื่อ ยังกำกล่องกำมะหยี่ สีแดง ที่ภายในบรรจุแหวนราคาแพงไว้แน่น ทันที่ทีถึงหน้าห้องฉุกเฉิน  เตียงผู้ป่วย เข็ญออกมา บนเตียงมีร่างที่นอนคลุมผ้าสีขาวทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า เป็นที่เข้าใจตรงกันว่าบุคคลนี้เสียชีวิตไปแล้วชีวอนมอง ไปรอบๆอย่างไม่สนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้น  เมื่อเขาพยายามค้นหา ฮันคยอง ที่อาจนั่งอยู่หน้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันฮันคยองมีเหตุจะต้องมาที่โรงพยาบาลบ่อยๆ แต่ยังไงก็อดกังวล เป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี แค่คิดว่าจะได้เห็นหน้าฮันคยองอีกครั้ง ชีวอนก็ตื่นเต้น  ภายในหัวใจมีแต่ความรักความคิดถึงที่เปี่ยมล้น ……………. จนกระทั่ง บรุษพยาบาล เรียกชื่อญาติของผู้ตายที่อยู่บนรถเข็น เตียง

     

    ญาติคุณฮันคยอง ครับ ชื่อที่ชินหูถูกเรียกขึ้น ชีวอนไม่รอช้าที่จะวิ่งไปหา บุรุษพยาบาลคนนั้น

     

    ผมเป็นพ่อของเขาเองครับ เสียงเครือของคนสูงอายุอย่างพ่อฮันคยองดังขึ้นมาตามหลังชีวอน  ใบหน้าที่มีริ้วรอยตามวัย เปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำตา ตามมาด้วยผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้ ยังคงต้องมียุนอาคอยพยุง หลังจากที่เพิ่งได้สติ  

     

    พ่อ แม่ ครับ ฮันล่ะเขาอยู่ไหนแม่ของฮันคยองไม่ตอบอะไร เพียงเข้ามากอดร่างสูงแล้วร้องไห้โฮ

     

    ชีวอน ฮัน !!ฮื่อๆ  ฮันก็อยู่บนเตียงนี้ไงลูก

     

    แต่นี่ …………..” เหมือนมีหินก้อนใหญ่จุกอยู่ในคอ แล้วหันไปทางพ่อของฮันคยองเพื่อเอาคำตอบ สิ่งที่ได้รับมาก็คือการพยัคหน้าน้อยๆ และแววตา ที่เศร้าโศรก  

     

    ฮันคยอง!  ไม่จริง ใช่มั้ย นี่มันเหลวไหล เปิดผ้าสีขาวให้เห็นอย่างเต็มตา ใบหน้าที่ยังไม่ขาวซีดจนเกินไป หลับตาพริ้มราวกับคนนอนหลับ  

    ฮันจริงๆ ด้วย…..”ภาพที่เห็นพลันทำให้ดวงตาคมมีน้ำตาไหลลงมา  คิดได้จึงนำกล่องแหวนเพชรในมือขึ้นมาดู  เพชรสีใสรับกับแหวนทองคำขาวมีราคา พอดีนิ้วของฮันคยอง ชีวอนหยิบออกจากกล่อง กำมะหยี่ สติขาดพรึง สายตายามนี้มองไม่เห็นอะไรนอกจาก

    ฮันคยอง   ไม่สิ! ร่างไร้วิญญาณของคนที่เขารักที่สุดต่างหาก

     

    ฮัน………..จะแต่งงานกับวอนได้มั้ย   เราแต่งงานกันเถอะ มือหนาโอบกอดตัวร่างที่อยู่บนเตียงอย่างไม่นึกรังเกียจสักนิด

    สวมแหวน ให้กับมือเรียวที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอีกต่อไป คำพูดที่พรั่งพลูออกมาจากปาก ราวกับคนบ้า

     

    เห็นมั้ย   แหวนวงนี้สวยขนาดไหน ฮันชอบมันใช่มั้ย  เราแต่งงานกันแล้ว  ฮันเป็นของวอนอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะ……

    ที่สำคัญ    เชว ชีวอน  คนนี้ จะเป็นคนของฮันคยอง เพียงคนเดียวและตลอดไป ไม่ว่าจะเป็น ชาติไหนเราจะอยู่ด้วยกัน เราจะเจอกัน ไม่ พรากจากกัน เหมือนอย่างตอนนี้  …… ตอนนี้ที่ฮันทิ้งวอนไป …..จากไปตลอดกาลและไม่มีวันกลับมา….”

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    20 ปีผ่านไป.

    .

    .

    .

      

    หากน้ำตาสร้างเป็นบันได  หากความทรงจำทอดยาวเหมือนถนน  ผมจะเดินขึ้นไปหาคุณบนสวรรค์และพาคุณลงมาอยู่กับผม

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ร่างสูงของชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนม้านั่ง ริมน้ำภายใต้ชายคาบ้านของตน  อ่านจดหมาย ที่ถึงแม้กระดาษจะเก่าคร่ำครา แต่ก็ยังมีค่ากับจิตใจของเขาเสมอ  เนื้อความว่า…….

     

    ได้โปรด เดินผ่านไปราวกับไม่ได้เห็นฉัน       ได้โปรด แม้กระทั่งสายตาก็อย่าได้มองมาที่ฉัน
    ราวท่ามกลางลมในทะเลทราย                     ได้โปรดอย่าให้อะไรกับฉันอีกเลย
    หนึ่งหัวใจของฉันที่ถูกครอบงำ                     หนึ่งน้ำตาของฉันที่ถูกปิดซ่อนไว้
    เหมือนครั้งที่แรกเราเจอกัน                          เหมือนเราเป็นคนแปลกหน้า
    ฉันพูดกับความรักของฉัน เพียงตัวคนเดียว  ความรักที่มอบให้
    ฉันอยู่เพียงคนเดียวท่ามกลางความเหงา       กับน้ำตาที่รินไหล
    แม้ว่าเธอจะอยู่ไกล                                     ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุข
    ส่วนความรักของฉัน                                  จะถูกฝั่งอยู่ในเบื้องลึกของหัวใจ
    ในโลกหน้า ถ้าเราได้เกิดมาอีก                      ในตอนนั้นเราจะกลับมาเจอกันเพื่อรักกัน
    เราจะต้องสู้ต่อกับโชคชะตา                         พวกเราสองคนจะต้องเกิดมาอีกครั้ง
    ต่อหน้าคุณ ฉันจะเป็นดอกไม้                      ต่อหน้าคุณ ฉันจะร้องเพลงให้ฟัง

    ฉันอยากมีชีวิตอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป        แม้จะเจ็บ แม้ว่ามันจะเจ็บ ฉันก็จะไม่ร้องไห้
    เพราะรักของฉัน ไม่ใช่การจากลา                 เมื่อชีวิตนี้จบลง ในโลกหน้า เราทั้งสอง
    จะต้องรักกัน …… เราจะต้องรักกัน

     

    หวังว่าวอนคงจะไม่ลืมฮันใช่มั้ย   ตอนที่ฮันเขียนจดหมายฉบับนี้ ฮันรู้ตัวดีแล้ว ว่าฮันคงจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นานความปรารถนาของฮันตอนนี้คือการได้เห็นหน้า เชว ชีวอน คนที่รักที่สุดก่อนที่จะไม่มีวันได้เห็นอีกตลอดไป แต่ มันช่างขัดแย้ง ภายในใจและสับสนไปหมด การที่วอนไม่เห็นฮันตอนนี้ยังจะดีกว่า  หวังว่าอนาคตข้างหน้า วอนจะมีความสุขกับยุนอาผู้หญิงที่เพียบพร้อมกับลูกๆที่น่ารัก   ลูกของเรา.........




    ฮัน ตอนนี้วอนได้ทำในสิ่งที่เป็นความฝันของฮันสำเร็จแล้ว วอนขอทำให้สิ่งที่วอนฝัน    ตลอดเวลาที่วอนมีชีวิตอยู่รอวันที่จะหมดลมหายใจและได้ไปอยู่กับฮันในที่ที่เป็นนิรันดร  นี่แหละคือความฝันของ วอน  ชีวอนของฮันคยอง….” มือหนาค่อยๆกรีดใบมืดลงบนข้อมือตัวเองช้า ค่อยๆทรุด นอนลงบนม้านั่ง ก่อนที่จะได้สิ่งที่ปรารถณา  ตลอดเวลาที่ส่วนหนึ่งของเขาจากไป

     

    .

     

    พี่ชีวอน ทานข้าวเย็นได้แล้วค่ะ ยุนอาเรียกสามีตน แต่เพียงในนามและร่างกายเท่านั้น  ทาน ข้าวพร้อม ลูกๆ แต่กลับได้ยินเพียงความว่างเปล่า   เธอตัดสินใจ เดินไปที่ม้านั่ง ที่ชีวอนนั่ง เมื่อครู่แต่กลับ พบ เพียงร่างของชีวอนที่หมดลมหายใจและกอดจดหมายไว้กับตัวแน่น   เธอ เพียง ยิ้ม น้อยๆออกมา 

     

    ในที่สุด พี่ ทั้งสองคน ก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่มีใครมาพรากได้  ยินดีด้วยนะคะ พี่ชายที่รักทั้งสอง








    ================================================

    มาแล้วค่า

    ไรท์เตอร์แอบดอดมาอัพ อิๆๆ  มันอดไม่ได้ง่ะ

    ช่วงนี้ไรท์เตอร์มีแต่คนว่าว่า ติดคอม  วันๆนั้งอยู่แต่กับคอมๆๆๆ

    เห้อ~~ แค่วันเดียวเองนี่เนอะ แค่จะอัพฟิค

    ไรท์เตอร์ไม่ได้อัพที่บ้าน ตอนนี้ไรท์เตอร์เที่ยว ปีใหม่อยู่กับครอบครัวเเหละค่า  


    ขอให้มีความสุขมากๆ  สวัสดีปีใหม่ค่ะ

    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ




    ป.ล กว่าจะจบร้อยเปอร์เซ็นได้.................. เจอกันพาสหน้าเรื่องหน้าค่ะ  บาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×