คาถาคืออะไร - คาถาคืออะไร นิยาย คาถาคืออะไร : Dek-D.com - Writer

    คาถาคืออะไร

    คาถาคืออะไรเรามารู้กัน

    ผู้เข้าชมรวม

    537

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    537

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ค. 52 / 20:08 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    คาถา เกี่ยวกับคาถา
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      นี้คือตัวอักษรแห่งเวทย์มนต์จงมองด้วยสมาธิ และปัญญา
      ทุกคนคงรู้นิยามเดิมๆของคาถาแล้วใช่มั้ย

      นิยามที่ครอบคลุมที่สุดน่าจะเป็น"คาถา คือ ถ้อยคำหรือความนึกคิดอันเปี่ยมด้วยพลังอำนาจแห่งจิต โดยยังผลให้เกิดอำนาจที่มีผลกระทบทางใดทางหนึ่งต่อตนเองหรือธรรมชาติ จะอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่อ้างก็ได้"(อ่านแล้วคิดดีดี ใครที่คิดว่าจะอ่านรอบเดียวแล้วเข้าใจได้ กรุณาอ่านอีกสักรอบ จะได้จำ)
      เอาล่ะนะ พอทราบแล้ว คาถา คืออะไร แล้วร่ายเพื่ออะไร

      1.เอาน่า อย่าหลอกตัวเองกันหน่อยเลย ส่วนใหญ่เรอะ ร่ายเพื่อสนองความต้องการตนเอง(ไม่ว่าทางดีหรือร้าย)เพื่อเร่ง แก้ไข บรรเทา ทำลาย กลไกปกติของสายใยเวลาและปกติแห่งธรรมชาติ
      เอาล่ะ ฟังดูคงไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างดีกว่านะ เช่น
      -ฝนมันจะต้องไม่ตก นึกครึ้มๆก็ไปร่ายให้มันตกเสีย(ใช้อำนาจเร่งสายใยเวลา หรือ ขีดเหตุการณ์ขึ้นใหม่เอง)
      -สงสารคนป่วยที่เป็นญาติจับใจ ใช้คาถาประเภท Healing เสียเลย (ถึงเป็นการทำดี แต่สนองความต้องการนะ ไม่คิดบ้างหรือถึงความยุติธรรมที่คนอื่นที่ป่วยเหมือนกันไม่ได้รับ)
      -จะเสกเพนทาเคิล เพนทาแกรม ทำพิธีบวงสรวงใช้คาถา
      ซึ่งข้อ 1 นี้อย่าพึ่งไปคิดนะครับว่า เป็นสิ่งที่เลวร้ายอะไร ทุกคนไม่ใช่พระอรหันต์(แม้แต่โสดาบัน ก็ยังยินดีในภาวะเช่นนี้ได้)จึงยังมีสิทธิสนองความต้องการของตนเองได้นะครับ ยิ่งใช้ในทางดีก็ควรยกย่องแต่ว่าหากขึ้นไประดับสูงแล้วคิดได้ ก็ควรจะรำลึกไว้นะครับ

      2.อันนี้ ไม่ค่อยน่าชื่นชม ครับ คือ ร่ายเพื่อลอง
      คือ คาถานั้นก็น่าลองนะ คาถานี้ก็น่าลองนะ ลองร่ายสักหน่อยเสียหน่อย ทำให้คาถากลายเป็นเหมือน ท๊อฟฟี่ลูกกวาดไปที่เห็นสีสันสวยงามก็อยากมาลองกินดู (สนองความต้องการตัวเองมากเกินไป แทนที่จะเอาเวลามาทำอะไรดีดี)บางคนที่เคยคุยกับผมเคยบอกว่า" อ้าว ก็เพื่อพิสูจน์ไงครับว่าร่ายได้มั้ย"ผมย้อนว่า"แล้วไอ้ปัจจุบันนี้เนี่ย มันจำเป็นหรอที่ต้องใช้น่ะ"(จะไปร่ายให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลหรือไง โลกมันยับเยินหมดแล้ว พายุกี่ลูกกี่ลูกห้ามไม่ได้หรอก มันไม่เหมือนเมื่อก่อนนะบางครั้งต้องรู้จักปรับตัวตามวัฏจักรของโลก(จุดมุ่งหมายไปอ่านซะ))

      3.ร่ายเพื่อความจำเป็นต้องร่าย
      กล่าวคือ จำเป็นต้องใช้จริง จวนตัวไม่ทันแล้ว ซึ่งในกรณีนี้ขออนุญาตกล่าวตรงๆว่าในบอร์ดที่มีเด็กผู้ฝึกใหม่จำนวนมากนี้ คงไม่ได้ใช้หรอกครับ
      เช่น - มีผู้ประทุษร้ายจวนตัวถึงขั้นหลบเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องแย่แน่ๆใช้เพื่อให้ตนเองไม่เจ็บมากหรือเพื่อให้คลายสถานการณ์ลง(ไม่ใช่เพื่อให้พ้นจากสถานการณ์นั้นนะครับ)
      -การปะทะกับผู้มีเวทมนตร์คาถาด้วยกัน อันนี้ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นใหญ่เลยเป็นไปได้ยากมากที่จะมีผู้ที่ใช้คาถาลื่นไหลแพรวพราว+พลังจิตกล้าแกร่ง ที่จะมาปะทะกันให้เห้นบ่อยๆ ส่วนใหญ่ประเด็นมันออกแนวปฏิติภาระกิจแล้วครับไม่ใช่อยู่เฉยๆมาจะมาทำร้าย ไม่คุ้มกันหรอก
      -ทำให้จิตใจสงบตามหลักศาสนา(เช่น การสวดคาถาบำบัดแบบพุทธ หรือการสวดสายประคำภาวนาแบบคริสต์ ที่เป็นกุญแจชนิดนึงที่นำเราเข้าถึงสมาธิได้)
      -ขับไล่สิ่งอัปมงคล เสริมมงคลให้ชีวิต บูชาพระนพเคราะห์ เทพเทวี อันนี้ออกทางพราหมณ์และพุทธน่ะครับ แต่จำเป็นเพราะเป็นเรื่องของพิธีการด้วย หรือเรื่องโหราศาสตร์ด้วย
      - ประจุวัตถุให้ศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสก เสก ชำระ ล้าง
      และอื่นๆอีกมากมายความจำเป็น
      (ความจำเป็น คิดอะไรมันก็จำเป็น แต่ควรต้องใช้ปัญญาจำแนกดีสุด)

      1.1 สมาธิล่ะ ช่วงนั้นมีมั้ย และสมาธิระดับไหนที่จะเพียงพอต่อมนต์ชนิดนั้นๆ
      (เวทมนตร์บางชนิดต้องใช้การทำสมาธิอย่างสูง เพราะเป็นเวทย์ลึกซึ้ง)

      1.2ขบคิดด้วยปัญญาว่าจำเป็นมากไหมที่จะต้องทำ พิจารณาถึงเรื่องกรรม เรื่องความเป็นไปได้ถึงทางออกที่ใช้การแก้ปัญหาทางอื่น

      1.3ถ้าผ่าน 1.1 กับ 1.2 มาแล้วเอาล่ะ เป็นว่าร่าย ใช้มนต์แนวไหนอย่างไรต้องรู้และศึกษา ไม่ใช่เจอคาถาก็เออๆไอ้นี้ล่ะ ร่ายๆท่องๆไป อย่างงี้ ไปจับใครมาร่ายก็ได้ ธรรมชาติวุ่นวายพอดีมีแบบนี้มากๆ
      2.ผลกระทบที่จะตามมาเมื่อร่ายคาถา แล้วอันนี้ก็สำคัญ การร่ายคาถาเป็นการกระทำชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อเปนการกระทำย่อมมีผลกระทบต่อเราและผู้อื่น ตามสายใยเวลาและทฤษฎีกรรม
      3.ถ้าคิดจะร่ายไร้สาระ หมั่นถามตัวเองว่า เมอร์ลินเป็นผู้มีเวทมนตร์หรือไม่ เราเป็นแบบเดียวกับเขาไหม(หมายถึง การไม่ทำให้วงศ์วานผู้มีเวทมนตร์ต้องมีมลทินริ้วรอย) แน่นอนเมอร์ลินเองก็มีการใช้คาถาเวทมนตร์เพื่อการผ่อนคลายและเล่นสนุก และก็มันส์มากๆด้วย55+
      แต่เขาไม่ได้เอามายึดเป็นจริงเป็นจัง ก็แค่เล่นๆ แต่เท่าที่เห็นมา เป็นการผ่อนคลาย ผมเองก็ใช้เพื่อเล่นสนุกบ้างนะ เพียงแค่เดี๋ยวนี้เด็กๆบางคนกลับยึดคาถาไร้สาระเป็นเรื่องจริงจัง ถึงขั้น หนูทำได้ค่ะดีใจจัง อุ่ยหนูอีกคนทำไม่ได้ เครียดเมื่อไหร่กูจะทำได้ว้า อะไรเช่นนี้
      มันไม่สมควรครับ
      4.ยั้งคิดหน่อย มันไม่ใช่แฮรี่ พอตเตอร์นะ
      "ถ้าจะให้วรรณกรรม เป็นจริง แฮรี่ พอตเตอร์คือชีวิตประจำวันของพ่อมดแม่มด
      แต่ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ คือหน้าที่และภาระกิจที่แท้จริง"
      ผมพูดประจำ จนหลายคนเบื่อ
      ติ๊ต่างว่ามันจริง

      แฮรี่ เนี่ยนะ เออะไร เสกหมด จะหยิบของก็เสก(แอกซีโอ) เกลียดใครเสกอีก(สาป) ขี้เกียจถือก็เสก(โลโคมอเตอร์) ซ่อมของเล็กๆน้อยก็เสก(เรปาโร่) มหัศจรรย์จิงๆ พูดก็พูด ผมเองก็ว่าเป็นคนหนึ่งที่มาไกลแล้ว ของอยู่ไกลขนาดไหนยังไม่ใช้การเคลื่อนย้านสิ่งของ(Telekinesis)เลยนะ ล่าสุดเพื่อนผมของหาย จะใช้คาถาหาก็ได้นะมีคาถาอยู่แล้วนิ่เยอะแยะ แต่ก็ไม่นะ(พ่อมดแม่มดไม่อยู่เหนือชะตากรรมและกฎแห่งกรรมจำไว้ ยอมรับมันซะ)
      อ่านเอามันน่ะสุดเลยๆเพราะเสกเยอะ
      อ่านเอาสาระเอาปรัชญามานี่ดีกว่า เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์
      แกนดัลฟ์ ใช้เวทมนตร์แทบนับครั้งได้ อิทธิฤทธิ์แกนดัลฟ์นั้นเยอะแยะมากมาย ทำไม๊ทำไมต้องไปดั้นด้นเอาพวกมนุษย์ต่ำต้อยมารวมกันสู้ซอรอน แรกเริ่มตามประวัติมีผู้วิเศษ 5 คน เอาห้าคนนั้นมาแลกเลยก็ได้ ตายก็ได้กลับมาใหม่จนกว่าภาระกิจจะสำเร็จทำไมไม่ทำ โน้วน้าวเธโอเดนก็ใช้เพียงคำพูด แถมตอนทะเลาะกับเดเนทอร์ระดับแกนดัลฟ์จะใช้คาถาสะกดก็ได้เพื่อให้งานราบรื่น ทำไมเขาถึงไม่ทำ
      จงคิดในเรื่องการใช้เวทมนตร์ให้ๆดีดีนะครับ คิดด้วยปัญญาอย่านอกลู่นอกทางเข้ารกเข้าพงแดนอวิชชามืดมนเสียล่ะ

      1.ถ้าอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราซี้กับท่านมากมั้ยล่ะ?
      เรื่องเทพและเทวีก็ต้องพูดตรงๆโดยเจาะลึกไปยังฝ่ายเทพและเทวี(อันเป็นธรรมชาติในรูปแบบบุคคล)อีกว่า ท่านโปรดปรานแค่ไหนอย่างไร เพราะเทพนั้นมีระดับ บางองค์เป็นขั้นเป้นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ บางองค์เป็นตัวแทนธรรมชาติ บางองค์สูงกว่ามนุษย์แต่เป็นกลไกหนึ่งของธรรมชาติ บางองค์สูงกว่ามนุษย์นิดนึงเป็นลิ่วล้อ ไหนจะพวกกึ่งเทพอีก อสูรเทพ โอยบานตะไท เป็นแสนๆล้านองค์
      เราเคารพท่าน เราซี้กับท่านมากมั้ย ท่านรู้จักเราไหม ท่านมาหาเราไหม หรือเราพยายามไปหาท่านไหม แล้วท่านเห็นมั้ย?
      สรุปเลยนะ เป็นภาษาชาวบ้าน ถ้าซี้ก็ใช้ได้ผลดี ไม่ค่อยซี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
      (ขึ้นอยู่กับอารมณ์แห่งองค์ท่านในขณะนั้นด้วยล่ะ ระวังขอไปขอมาโดนท่านพิโรธไม่รู้ด้วย )

      2.อ้างธรรมชาติ เราเข้าถึง เข้าใจ ลึกซึ่งในแก่นมั้ย?
      เพราะว่า บางทีคาถาอ้างองค์เทพอาจจะไม่เวิร์ก จึงมีคาถาอีกแบบที่เน้นธรรมชาติแทนโดยคำกล่าวในคาถาไม่แทนอะไรเลย แทนแค่คำว่าท่าน ซึ่งหมายถึงธรรมชาติแล้วไอ้ทำธรรมชาติที่ว่านี้เราเข้าใจซึ้งถึงแก่นมั้ย การใช้คาถาให้ได้ผลดี ต้องรู้จักพลิกแพลงมีพื้นฐานดี คือ หากเราเข้าใจในแก่นธาตุทั้ง 5 เราจะสามารถพลิกแพลงและผลิตคาถาเองได้เป้นร้อยเป็นพัน เผลอๆใช้จิตจะเร็วกว่า
      คาถาอ้างธรรมชาติ จะได้ผลดีต่อเมื่อ เราอิมเมจเก่ง คือนึกภาพเก่ง และมีสรัทธาสูง และเข้าใจในธรรมชาติ + สมาธิ

      3.สมาธิล่ะมีรึป่าว
      สมาธิเจ๊ง เสกไปก้เท่านั้นไม่ค่อยจะได้ประสิทธิผล อย่างดีก้ะฟลุคเกิดบ้างไม่เกิดบ้าง เรื่องสมาธินี่พูดมาตลอดคงไม่ต้องให้อธิบายยาวอะไรหนักหนา
      และอื่นๆ
      ที่แนะนำนี้เป็นเบื้องเบสิกเบื้องต้นจริงๆสำหรับผู้ที่ยังเป็นแค่ผู้ใช้คาถาได้ไม่ใช่ผู้ใช้คาถาเป็น เรื่องวิธีการใช้ให้ได้ดี หรือ เทคนิคต่างๆผมคาดว่ายังแยกย่อยลงไปเฉพาะซึ่งมักจะกลั่นมาจากประสบกาณณ์ของแต่ละบุคคล ในที่นี้ก็เบื้องต้นให้ผู้ฝึกใหม่
      เรียนมาเพื่อทราบ

      1.รู้เวลาและกะเวลาได้เวลาที่จะใช้
      อันนี้ สำคัญนะ เช่น คาถาบทนี้ยาวมากเลยไม่ทันต่อเหตุการณ์แน่ เช่น ผีพุ่งมาจะบีบคอแล้วมัวแต่นึกคาถายาวๆจะท่องจะอะไรอีกวู้เสียเวลา เอาสั้นๆให้มันถอยก่อนแล้วจะอะไรยังงัยอีกเรื่องดีกว่ามั้ย หรือคาถาป้องกันนั้น ถ้าเราได้ดูดีดีบางคาถาจะสั้นจะยาวต่างกัน เนื้อหาก็ต่างกัน เขาให้เราเลือกใช้ครับ ยาวๆนี่ควรใช้กับสถานการณ์ตั้งรับ สถานการณ์ที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ ส่วนสั้นๆประมาณไม่กี่วรรคเขาให้ใช้ในยามคับขัน ต่อสู้(ซึ่งอย่างที่กล่าวไปก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้)


      2.การเลือกใช้คาถาให้ถูกต้องโดยตรง
      อันนี้ ต้องมีสมบัตินักอ่านหน่อยนะ ไม่ใช่เห็นคาถาอุ่ย Protection หน่อยก็บ้าร่ายบ้าท่อง ทั้งๆที่มันไม่ตรงกับที่ต้องการจริงๆหรอก ให้มันเฉพาะไปเลย จะ Protect อะไร ชนิดไหน อย่างไร อ่านหน่อย เพื่อความไม่เปลืองไม่เหนื่อยฟรี บางทีร่ายไปไม่รู้เรื่อง แล้วมาทึกทักเอาภายหลังไมกูร่ายไม่ได้ผลกลับมาเลยวะ(อยากจะตอบว่า"มึงอ่านจนเข้าใจยังล่ะที่มึงร่ายไปน่ะ") หรือ กันฝันร้ายก็สวดคาถาเฉพาะทางนี้ ไม่ใช่ไปสวดป้องกันภัย มันไม่ถูกกกับเรื่อง

      3.การรู้จักแต่งคาถาเอง
      ดีกว่าเยอะแยะเลย บางอันถ้าเราเป็นนักการศึกษาเอาของโบราณมารวม เป็นมนต์ปรเภทผนึกเผลอๆมันจแก้ยากกว่ามนต์ผนึกปกติอีกนะ แต่ข้อนี้ต้องเรียนรู้ในพื้นฐานแห่งเวทมนตร์และคาถาจนแน่นก่อน

      4.พยายามทำตัวให้ธรรมชาติไว้วางใจบ้าง
      อย่าลืม ไว้ทั้งหมดนี้คือการเสมือนยืมพลังอำนาจมาใช้ โดยใช้สิทธิทางการเป็นพ่อมดแม่มดและสิทธิทางระดับขั้นของจิตของตัวเอง ฉะนั้นการประพฤติตัวมีผลต่อคาถาด้วยนะ(เคยรู้จักมะ ไอ้ของเสื่อมอ่ะ )เราต้องพยายามทำตนให้สมดุลย์ไม่ผิดจุดมุ่งหมายและศีลธรรมอันดี พยายามวางตนให้สมควรแก่การเรียกเป็นผู้มีเวทมนตร์ ผมย้ำนักย้ำหนา ย้ำมาตลอด ย้ำๆๆๆๆมากจนคนจะปฏิบัติตามน้อยลงไปทุกวัน ทุกวัน
      พวกกลเม็ดประเภทสูงกว่า นี้ ผมว่ายังไม่ควรรู้นะครับ พวกการใช้คาถาต่อเนื่อง การหลบอานุภาพคาถา ทิศทางคาถา ไรเช่นนี้
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×