ตอนที่ 11 : บทที่4 ลิขิตสวรรค์4
“ปรมาจารย์ซวีหรือ ช่างน่าภาคภูมิยิ่งนัก ลูกจะรีบไปเตรียมตัว” ว่าแล้วเล่อฟ่งคำนับแก่มารดาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว อ้ายหนี่ทอดถอนใจอีกครา บุตรชายคนเล็กนั้นร่างกายอ่อนแอ จึงแอบอ้างไม่เรียนวรยุทธ์มาแต่แรก คราวนี้เขายอมเรียนเสียทีถือว่าดีมากแล้ว
แต่ที่น่าใจหายก็คือ บุตรสาวคนเล็กที่อายุเพียง2ขวบ เพื่อรักษาชีวิตแล้วเล่อหนี่ต้องทนเรียนยุทธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย แถมหญิงสาวแม้งามเพียงใด หากฝึกยุทธ์แล้วความเป็นหญิงในสายตาชายนั้นจะหายไปกว่าครึ่ง แม้งามเพียงใด หากไม่พบชายที่มีวรยุทธ์มากกว่าตนแล้วก็คงไม่ยอมแต่งงานเป็นแน่
“จิ้นเอ๋อร์มาพาข้ากลับห้อง” เรียกเสียงไม่ดังนัก เล่อจินจิ้นสาวใช้ข้างกายก็เดินเข้ามาพยุงตัวนางกลับห้อง
จินจิ้นนั้นเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยท่านย่าในฐานะคนรับใช้ หนึ่งเพื่อวางไว้ข้างกายฮูหยินใหญ่ตระกูลเล่อ สองก็เพื่อเอาไว้ส่งข่าวให้ท่านย่า พูดแล้วหากอ้ายหนี่ไม่ถูกตาท่านย่าแต่แรกคงเป็นเล่อจินจิ้นที่กลั่นแกล้งนางเป็นแน่
“ฮูหยินค่อยๆเดิน ฮูหยินร่างกายยังอ่อนแอนัก หากนายท่านกลับมาได้เดินพลังขับพิษแล้วฮูหยินคงอาการดีขึ้น..” จินจิ้นกลืนคำที่จะพูดว่าฮูหยินอย่าเพิ่งเป็นอันใด ลงคอไปอย่างยากลำบาก มีเพียงตัวนางที่รู้ดีว่าฮูหยินอาการทรุดเพียงใด
“หากสิ้นข้า หากสิ้นท่านพี่ ไม่ว่าอย่างไรอย่าให้อาฟานตกยากเด็ดขาด อย่าให้มีใครมารังแกนางได้เด็ดขาด” อ้ายหนี่วางใจเล่อจินจิ้นอย่างมาก รู้ว่าเหล่าข้ารับใช้ล้วนรักคุณหนูเล็กเท่าใด แต่ไม่มีใครรักลูกคนอื่นได้เท่าลูกตนเอง
“ฮูหยินอย่าพูดเช่นนี้เลย...” นางพยักเพยิดหน้าเข้าไปในห้อง ด้านในร่างของเล่อซือบุตรชายคนโตก็กำลังนั่งอยู่ข้างเตียง ซึ่งมีร่างหลับไร้สติของเล่อหนี่วางอยู่
“ท่านแม่ เกิดอันใดขึ้น” พอได้กลิ่นอายมารดาเดินกลับเข้ามา เขาก็เดินเข้าไปพยุงแทนที่จินจิ้น ก่อนจะพากลับไปนั่งเก้าอี้ข้างเตียง
“ข้ารับใช้บอกว่า อาฟานวิ่งเล่นแล้วล้มไป เล่อซาอยู่ใกล้เลยรีบอุ้มนางมาหาแม่ อาซือ อย่าโทษน้องรองของเจ้าเลย ทุกอย่างล้วนเป็นไปโดยไม่มีใครตั้งใจ” คนที่รู้นิสัยเล่อซือดีที่สุดก็คือผู้เป็นมารดา มีหรือนางจะไม่รู้ว่าเขาโกรธเล่อซา ดังนั้นแม้ตัวนางเองจะค่อนข้างโกรธบุตรชายคนรองเท่าใด ก็จะให้พี่น้องทะเลาะกันไม่ได้เด็ดขาด
“ลูกรู้แล้วขอรับ ท่านแม่ ท่านพักผ่อนเถิด ลูกจะไปหาอาซาหน่อย” พอได้ยินอย่างนั้นอ้ายหนี่ก็ตัวสั่น ตัวนางเพียงลงโทษกักตัวเล่อซาเท่านั้น แต่หากเล่อซือจัดการเอง เล่อซานั้นต้องมีสภาพปางตายแน่ๆ
“อาซือ แม่จะไปพักห้องข้างๆ น้องเจ้าไม่มีใครอยู่ด้วย หากฟื้นขึ้นมาไม่เห็นใครอยู่ด้วยคงตกใจกลัวอย่างมาก แม่วานเจ้าอยู่เป็นเพื่อนอาฟานได้หรือไม่” หากเป็นเล่อหนี่ที่เป็นคนอธิบายเอง เล่อซือคงไม่กล้าลงมือกับเล่อซาแล้ว ดังนั้นมีแต่ต้องยื้อเล่อซือไว้กับเล่อหนี่เท่านั้น
“ได้ขอรับท่านแม่ ท่านแม่ไปพักผ่อนเถิดขอรับ ลูกจะดูแลน้องเอง” ว่าแล้วก็เดินกลับไปนั่งนั่งข้างเตียง อ้ายหนี่จึงวางใจได้เปราะหนึ่ง อย่างไรก็ให้พี่น้องทะเลาะกันมิได้ ตระกูลเล่อมีเพียงสายเดียว หากเกิดการทะเลาะกันแล้ว มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง ยิ่งไม่รู้นายท่านจะกลับมาเมื่อใดด้วย
“ท่านแม่รักษาตัวด้วยขอรับ” พูดเพียงเท่านั้นเล่อซือก็คำนับแล้วหันไปสนใจน้องหญิงต่อ ในความรู้สึกเขาน้องหญิงนั้นแสนจะเฉลียวฉลาด เพียงสองปีก็ครอบครองหัวใจของทุกคนในจวนแล้วกระทั่งตัวเขา เขาจะต้องเป็นนายทัพที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเพื่อปกป้องน้องหญิงจากมือชายอื่นนอกตระกูลให้ได้
“ล่งจูชงน้ำชาให้คุณชายใหญ่ วางไว้บนโต๊ะแล้วเจ้าค่ะ” ล่งจูเป็นสาวใช้คนหนึ่งในเรือนหลัง นางพยายามหาทางดึงความสนใจอย่างเต็มที่
คุณชายใหญ่นั้นน่าสนใจ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือฐานะฮูหยินใหญ่ ตอนนี้คุณชายใหญ่ใกล้จะได้อายุออกเรือนแล้ว หากนางได้เป็นแม้แต่อนุก็ยังดีกว่าเป็นเพียงสาวใช้ หารู้ไม่ว่าหากไม่งามเทียบเคียงเล่อหนี่แล้ว แม้จะเป็นองค์หญิงเล่อซือก็ไม่ชายตาแล
“วางไว้ตรงนั้น” ว่าแล้วก็หันไปสนใจเล่อหนี่ต่อ เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่านางยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงมองไปยังแผลที่ถูกผ้าพันเอาไว้แล้วก็ปวดใจ ไม่คิดว่าเพียงน้องหญิงล้มจะเกิดอันตรายเช่นนี้ นึกแล้วก็อยากจะฝึกคนสักคนเพื่อเป็นองครักษ์ให้นาง
..
ซื้อนิยายเกิดใหม่ไร้รักคลิก!!!นิยาย เกิดใหม่ไร้รัก
อุดหนุนนิยายเรื่องอื่นๆของไรท์ได้
นิยาย ตำนานรักดอกเหมย ภาคปลาย ท่านหมอเซียนบุตรชายท่านมาตามหาแล้วขอรับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นโชตะค่อนสินะพี่ใหญ่ คิกๆ หลงน้องยิ่งกว่าหญิงใดในโลก