ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICEXO] ❧ 3 1 1 3 (chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #5 : ❧ 3 1 1 3 : 4

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 56




     
     





    4




     

    ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตของบยอนแบคฮยอน เขาจะตอบอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า...ปาร์คชานยอล


     

    ตอนเช้าในคาบเรียนแรกเป็นวิชาที่แบคฮยอนชอบมากที่สุดเพราะมันคือวิชาภาษาจีน แบคฮยอนชอบที่จะเรียนรู้ในภาษานี้เป็นอย่างมากเพราะเขาเคยมีเพื่อนชาวจีนที่มาแลกเปลี่ยนอยู่ที่เกาหลีตอนม.ต้น เด็กหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า ลู่หาน ตอนที่เรียนด้วยกันลู่หานเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของแบคฮยอนเลยทีเดียว




     

    เพื่อนรักของบยอนแบคฮยอนคนแรกไม่ใช่ปาร์คชานยอล...




     

    เพื่อนรักทั้งสองมักจะคุยกันบ่อยๆทางแชท ลู่หานได้ส่งตัวเลขสามสี่ตัวมาให้เขาเป็นบางครั้งและบอกว่านั้นคือ ภาษาเลข


     

    ไม่ว่าแบคฮยอนจะถามยังไงเพื่อนชาวจีนคนนั้นก็ไม่ยอมบอกความหมายของมันเลย แบคฮยอนทำได้เพียงเดาความหมายมันไปต่างๆนาๆแต่ก็ไม่มีซักครั้งที่เขาจะรู้ความหมายของมันจริงๆ จนขึ้นม.ปลายมาแบคฮยอนก็เจอทางออกให้กับปริศนาตัวเลขของตัวเองนั้นคือวิชาภาษาจีน แต่จนป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่เคยจะได้เรียนเนื้อหาที่มีความหมายของมันซักทีบางที่เขาอาจแค่จะโดนเพื่อนคนนั้นหลอก?


     

    ไม่หรอก...เพื่อนรักของเขาไม่มีวันหลอกเขาหรอก









     

    ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายแบคฮยอน


     

    สัญญานะ...ลู่หาน


     

    อื้ม ฉันสัญญา









     

    15/12/2011

    From : Byunbaek

    ใกล้จะคริสมาสต์แล้วคิดถึงนายจัง ^^

    ฉันไม่ชอบตอนปิดเทอมเลย มันทำให้ฉันคิดถึงนาย

    ทำไมนายต้องกลับไปที่จีนตอนปิดเทอมแบบนี้ด้วยนะ?

    (นายหายไปไหนทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นนายทักมาเลย?)


     

    25/12/2011

    From : Byunbaek

    คริสมาสต์อากาศที่เกาหลีหนาวมากเลย ที่จีนหนาวมากมั้ย?

    ดูแลตัวเองดีๆนะกวางน้อย

    (ตอบฉันหน่อยสิลู่หาน ฉันมีนายเป็นเพื่อนคนเดียวนะ อย่าทิ้งฉันไว้แบบนี้สิ)


     

    01/01/2012

    From : Byunbaek

    ฉันยังเป็นเพื่อนรักของนายอยู่หรือเปล่า...


     

    02/01/2012

    From : Xiao Lu

    987

    526096

    0658

    88




     

    นั้นคือข้อความสุดท้ายที่ผมได้รับจากเพื่อนรักคนเดียวของผม


     

    ภาษาเลขที่เขาเคยเอามาทายเล่นกับผม...


     

    ถึงผมจะแปลมันทั้งหมดไม่ออก แต่ทำไมผมจะไม่รู้ว่าตัวเลข88ในบรรทัดสุดท้าย


     

    หมายถึงว่า...ลาก่อน


     

    ข้อความที่เขาส่งมาให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดเทอม หลังจากเปิดเทอมแล้วเขาแทบไม่คุยกับผมอีกเลยเขาทำเหมือนผมไม่มีตัวผมเสียด้วยซ้ำ


     

    ลาก่อนลู่หาน...









     

    วันนี้เป็นอีกวันที่แบคฮยอนมายืนรอชานยอลที่บนดาดฟ้าแห่งนี้ ตาเรียวมองแบคฮยอนมองขึ้นไปบนฟ้าก็ยิ้มกว้างออกมาเมื่อนึกถึงวันนั้นวันที่เขาจูบกับชานยอลครั้งแรก แต่เมื่อใดที่คิดถึงจูบแรกแล้วมันก็จะตามมาด้วยเรื่อง...ครั้งแรกของเขา


     

    มองฟ้าสีสวยที่ส่องแสงลงมาทำให้แบคฮยอนรู้สึกดีอย่างประหลาด แสงวิบวับที่ส่องลงมาบนตัวทำให้เขาคิดว่าร่างกายของเขามันดูมีค่ามีราคาขึ้นมาบ้างแบคฮยอนรู้สึกแบบนั้นถึงได้ชอบขึ้นมาบนนี้บ่อยๆและขณะเดียวกันมันยังทำให้เขาคิดถึงใครอีกคน รอยยิ้มของเขาที่เหมือนแสงอาทิตย์...ส่องสว่างให้กับชีวิตของแบคฮยอน


     

    ลู่หาน...นายคงไม่รู้ว่ารอยยิ้มกับคำพูดเจื้อยแจ้วของนายนั้นทำให้ฉันรู้สึกดีแค่ไหนและรู้สึกแย่แค่ไหนเมื่อนายทิ้งทั้งหมดนี้ไปปล่อยให้ฉันจมปลักกับคำสัญญาของนาย


     

    สัญญาที่นายบอกว่าจะไม่ทิ้งฉัน


     

    ฉันไม่โกรธนายหรอกนะลู่หาน ไม่โกรธซักนิดเลย


     

    เพราะนายไม่ใช่เพื่อนรักของฉันอีกต่อไปแล้ว...


     

    ฉันไม่ร้องไห้ให้กับนายหรอกนะเพราะฉันมีเพื่อนใหม่ที่...เหมือนกับนายทุกอย่าง เสียงทุ้มที่อบอุ่นของเขา รอยยิ้มของเขา ไม่ต่างจากนายซักนิดเดียว ไม่สิ! เขาไม่เหมือนนาย


     

    เพราะเขาไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนาย!




     

    แบคฮยอนยืนอมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้างของอีกคน ปาร์คชานยอลคนที่เป็นเหมือนแสงสว่างสำหรับเขา ก่อนจะออกจากห้วงความคิดแล้วกวาดสายตาลงไปด้านล่างของอาคาร ในเวลาเลิกเรียนเช่นนี้นักเรียนส่วนมากจะพากันกลับบ้านไปเกือบหมดแล้วเหลือเพียงพวกเด็กกิจกรรมที่ยังคงอยู่ในโรงเรียนบ้าง พลันสายตาของแบคฮยอนก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงคุ้นตาก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อสายตาตัวเองโฟกัสได้ว่าเป็นใคร


     

    ชานยอล...                   


     

    ดูท่าทางของชานยอลกำลังเดินตรงมาเป้าหมายคงอยู่ที่อาคารของดาดฟ้าที่เขากำลังยืนรออยู่แน่ๆ แต่แบคฮยอนก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมกับเดินเข้าไปชิดกับขอบกำแพงให้มากกว่าเดิมเมื่อมองเห็นเพื่อนคนแรกของเขากำลังหยุดเดินแล้วยืนคุยกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง


     

    ...โดยที่ชานยอลเป็นคนเดินเข้าไปทักก่อน


     

    มันเป็นใคร?


     

    คำถามเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวของแบคฮยอนอยู่ตอนนี้ ตาเรียวของแบคฮยอนเบิกกว้างส่งสายตาที่ใครได้เห็นในตอนนี้คงจะไม่กล้าเข้าใกล้ เขารู้อยู่แก่ใจว่าชานยอลเป็นคนอัธยาศัยดีมากแต่บางครั้งเขาเองก็รู้สึกไม่พอใจเหมือนกันที่เห็นว่าความรู้สึกดีๆที่ชานยอลมีให้กับตัวเขาเองนั้นคนอื่นก็ได้รับเหมือนกัน จากความไม่ชอบใจที่บีบรัดแน่นอยู่ในอกนั้นทำให้เกิดน้ำสีใสเริ่มก่อตัวบนขอบตา มือเรียวกำเข้าหากันแน่นจนเล็บยาวทิ่มเข้าไปในฝ่ามือจนเลือดซิบ แต่ความเจ็บที่ใจย่อมมากกว่าที่มืออยู่แล้ว


     

    แบคฮยอนไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าตั้งแต่วันที่ชานยอลมานอนที่บ้านของเขา


     

    ความรู้สึกที่มีให้กับชานยอลมันเปลี่ยนไป


     

    มันมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าสำหรับความรู้สึกของเขา แต่แบคฮยอนต้องยอมรับในจุดยืนว่าถึงทั้งคู่จะผ่านอะไรกันมาบ้าง ทั้งแบคฮยอนและชานยอลต่างยังใช้คำว่า เพื่อน เรียกความสัมพันธ์ของตัวเองอยู่ ใช่ว่าแบคฮยอนจะไม่อยากเลื่อนความสัมพันธ์กับชานยอลเพราะทั้งคู่เลยเถิดกันไปมากกว่าการที่จะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกันธรรมดา แต่เขาแค่ไม่อยากให้มันมีจุดจบแบบคนคบกัน


     

    ขึ้นชื่อว่า เพื่อน ยังไงความสัมพันธ์ก็คงทนและยาวนานกว่า ถูกมั้ย?









     

    นานกว่าที่ชานยอลจะยอมผละมาจากผู้หญิงร่างเล็กคนนั้นแล้วเดินตรงมาที่อาคารของเขา เดาว่าอีกไม่กี่นาทีชานยอลต้องขึ้นมาถึงที่บนนี้อย่างแน่นอนแบคฮยอนจึงยกมือเช็ดขอบตาของตัวเองลวกๆแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดไล่ความรู้สึกที่ตีจุกขึ้นมาบนอกของตัวเองออกไปให้หมด


     

    “รอนานมั้ยตัวเล็ก~


     

    ไม่นานเสียงร่าเริงของชานยอลดังขึ้นมาก่อนเจ้าตัวจะโผล่ออกมาให้เห็นก็ทำให้แบคฮยอนยิ้มกว้างออกมาแทบลืมความรู้สึกเมื่อครู่ไปหมดสิ้น


     

    สุดท้ายแล้วชานยอลก็มาหาเขาอยู่ดี ชานยอลเป็นของแบคฮยอนนี่นา


     

    ใช่...ชานยอลเป็นของแบคฮยอน!


     

    “รอไม่นานหรอก” แบคฮยอนตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่เขารู้ดีว่ามันคงจะเป็นยิ้มที่น่าเกลียดแน่ๆเมื่อเขาพยายามที่จะฉีกยิ้มออกมาแล้วซ่อนความรู้สึกอีกอย่างไว้ข้างใน


     

    ชานยอลยืนมองรอยยิ้มของแบคฮยอนแล้วนิ่งไปพักหนึ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ว่า...มันไม่เหมือนเดิม


     

    รอยยิ้มจอมปลอม


     

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?” และสุดท้ายริมฝีปากของเขาก็เผลอพูดออกไปตามความคิด


     

    “ไม่! เอ่อ..ฉันหมายถึงฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆนะ” ท่าทางที่คนตัวเล็กตอบเขาด้วยท่าทางร้อนรนทำให้ชานยอลแปลกใจบวกกับรอยแดงจางๆบนฝ่ามือที่กำลังโบกไหวๆอยู่ตรงหน้าเขาอีกละ


     

    “มือเป็นอะไรน่ะแบคฮยอน ไหนเอามาดูสิ” การกระทำไวเท่าความคิด ชานยอลรีบดึงมือเรียวของอีกคนมาแบดูอย่างละเอียดก็เห็นเป็นเพียงรอยขีดเล็กๆเหมือนเล็บมือตัวเองจิ้มลงไป


     

    รอยเล็บอย่างนั้นเหรอ?


     

    “คือ...วันนี้ฉันต้องออกไปอ่านรายงานที่หน้าชั้นเรียนน่ะ เวลาฉันตื่นเต้นมักจะจิกมือตัวเองแบบนี้ละ” แบคฮยอนอธิบายยืดยาวพลางหลบสายตาคมที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนจับผิด


     

    “ฟู่ว...กลับบ้านแล้วรีบไปทายานะรู้มั้ย”


     

    ลมอุ่นๆที่ชานยอลเป็นคนเป่ารดมาที่มือพร้อมกับเสียงทุ้มที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทำให้แบคฮยอนคลี่ยิ้มออกมา ชานยอลยังใจดีกับเขาเหมือนเดิม ยังเป็นคนเดิมของแบคฮยอนอยู่เหมือนเดิม เพื่อนที่แสนดีของแบคฮยอนจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าตอนนี้หัวใจของเขานั้นเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แล้ว เขากำลังควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้


     

    ชานยอลจะรู้บ้างมั้ยว่าบางทีแบคฮยอนเองก็รู้สึกอยากจะเก็บความอ่อนโยนนี้ไว้ดูคนเดียว


     

    ใช่...อยากเก็บไว้กับตัวเอง









     

    วันนี้ชานยอลผิดนัดกับเขาเป็นครั้งแรก...


     

    แบคฮยอนมายืนรอชานยอลบนดาดฟ้าตั้งแต่เลิกเรียนเป็นปกติเหมือนกับทุกวันจนล่วงเลยมาจนถึงสองทุ่มแบคฮยอนก็ไม่ร่างสูงของอีกฝ่าย วันไหนที่ชานยอลมีธุระก็จะบอกเขาก่อนเสมอแต่วันนี้ชานยอลกลับหายไปเฉยๆ ไม่บอกเขาเลยซักคำว่าไปไหน


     

    แล้วชานยอลหายไปไหน?


     

    ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความรู้สึกไม่ดี ก่อนจะก้มหน้าเดินกลับไปที่ป้ายรอรถตัวคนเดียวอย่างคนไม่มีแรง


     

    ขอบคุณที่มาส่งนะชานยอล


     

    เสียงเล็กๆของผู้หญิงเอ่ยชื่อที่แสนคุ้นหูทำให้แบคฮยอนต้องเงยหน้าขึ้นมาหันมองตามเสียงที่ได้ยินก็พบว่าข้างหน้าของเขามีร่างเล็กของผู้หญิงกับผู้ชายตัวสูงเดินหันหลังให้เขาอยู่


     

    ไม่ต้องขอบคุณหรอกมินอา


     

    เสียงของชานยอล...


     

    ไม่ได้หรอก ชานยอลมาส่งเราทั้งที ขอบใจมากนะเราไปก่อนละ บาย~’


     

    เสียงที่ดูขี้อ้อนของผู้หญิงตัวเล็กข้างหน้าถ้าพูดกับคนอื่นแบคฮยอนคิดว่ามันคงจะดูน่ารักดี แต่เธอคนนั้นกำลังพูดกับชานยอลของเขาและยังเป็นคนๆเดียวกับที่ชานยอลเดินเข้าไปทักในวันนั้นวันที่เขามองลงไปจากดาดฟ้า...


     

    ตอแหล จะอ้วก!


     

    ไว้เจอกันใหม่นะมินอา~’


     

    เสียงของชานยอลดูร่าเริง...เหมือนที่พูดกับเขาเลย


     

    แบคฮยอนยืนมองภาพคนสองคนกำลังโบกมือล่ำลากันด้วยแรงเต้นบนอกที่สั่นไหวราวกับจะหลุดออกมาเต้นบนพื้นถนน ยิ่งทั้งคู่มีท่าทางที่เหมือนคนรักกำลังมีความสุขกันมากแค่ไหนทำให้แบคฮยอนอยากจะวิ่งไปกระชากแขนของชานยอลมากอดไว้แน่นๆแล้วบอกกับผู้หญิงดัดจริตคนนั้นว่าชานยอลเป็นของเขา!


     

    แต่นั้นเป็นเพียงแค่ความคิดที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกลึกๆของแบคฮยอนแค่นั้นเอง เขารู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นใคร บางทีการที่โดนคนอื่นย่ำยีศักดิ์ศรีอยู่บ่อยๆมันคงเป็นเรื่องดีที่ทำให้ตัวเองรู้จุดยืนว่าควรอยู่ตรงไหน  การที่ถูกอีกคนคอยปลอบใจแบบนี้กลับทำให้แบคฮยอนลืมสถานะตัวเองไป ลืมว่าบยอนตัวซวยเป็นคนที่ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้ด้วยเพราะมักจะเจอแต่เรื่องไม่ดีอยู่เสมอ


     

    หื้ม? เจอเรื่องไม่ดีอยู่เสมองั้นเหรอ...


     

    มินอา เธออยากเจอเรื่องไม่ดีในชีวิตบ้างหรือเปล่า?


     

    แบคฮยอนยกยิ้มขึ้นมาอย่างคนเหนือกว่าก่อนจะลากสายตามองไปที่อีกคนที่ยังยืนรอรถอยู่คนเดียว ปาร์คชานยอลนายคงไม่ได้กำลังหลอกฉันใช่มั้ย? นายคงไม่ได้จะทิ้งฉันไปเหมือนลู่หานใช่หรือเปล่า? เพราะถ้านายคิดจะทำแบบนั้น...


     

    บอกไว้เลยว่าบยอนแบคฮยอนคนนี้ไม่ยอมปล่อยนายไปง่ายๆหรอก


     

    เหมือนกับ...คนโกหกคนนั้น









     

    อาจเป็นเพราะในเวลาดึกพอสมควรทำให้ผู้คนที่มายืนรอรถบางตาลงไปทุกทีเหลืออยู่แค่ไม่กี่คน ก่อนที่ชานยอลจะรู้สึกตัวว่าเหมือนมีคนมองอยู่ ร่างสูงหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆก็ไม่เห็นมีใครจะสนใจเขาซักคน


     

    แปลก...แต่เขารู้สึกว่ามีคนมองจริงๆนะ


     

    ชานยอลส่ายหัวไปมาให้กับความรู้สึกเพ้อเจ้อของตัวเอง เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะว่าเขายืนอยู่ที่ป้ายรอรถที่ไม่ค่อยมีแสงสว่างพอสมควรทำให้เขาถึงเรื่องอะไรแปลกๆละมั้ง บรรยากาศรอบกายที่เริ่มเย็นยะเยือกทำให้ชานยอลยกมือมาลูบที่แขนของตัวเองทั้งสองข้างก่อนจะกดสายตาจดจ้องไปที่ปลายเท้าของตัวเองเมื่อหาที่วางสายตาไม่ได้


     

    ป่านนี้แบคฮยอนจะเป็นยังไงบ้างนะ?


     

    เมื่อชานยอลคิดถึงหน้าขาวใสของอีกคนก็เริ่มรู้สึกถึงความเครียดที่เกาะกุมบนใบหน้าของตัวเอง วันนี้มินอามาขอให้เขาเดินมาส่งที่ป้ายรถเพราะเพื่อนสนิทของเธอไม่ได้มาเรียนด้วยวันนี้เธอจึงไม่มีคนไปส่ง ชานยอลเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องกันเลยตกลงไปไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาก็เป็นห่วงถ้าจะให้ผู้หญิงตัวคนเดียวมาเดินกลับบ้านในเวลามืดค่ำแบบนี้ เขาทิ้งแบคฮยอนมาส่งมินอาแบบนี้แถมไม่ได้โทรไปบอกล่วงหน้าด้วยจะเป็นไรมั้ยนะ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ป่านนี้ตัวเล็กของเขาคงกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วละ


     

    ชานยอลที่คิดอะไรกับตัวเองเพลินๆได้ยินเสียงรถประจำทางมาจอดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเสียงคนที่ยืนรอคนพร้อมเขาพากันเดินขึ้นทำให้ต้องเงยขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าไม่ใช่รถที่จะไปทางบ้านตัวเองจึงกำลังจะก้มหน้าลงไปเหมือนเดิมหากแต่สายตาของเขาไปสะดุดกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนรถ


     

    แบคฮยอน..!


     

    เสี้ยววินาทีที่รถกำลังเคลื่อนตัวผ่านหน้าเขาไปสายตาของคนสองคนที่ประสานกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แบคฮยอนพึ่งจะกลับบ้านงั้นเหรอ? แสดงว่าคนตัวเล็กต้องรอเขาที่ดาดฟ้านั้นตลอดแน่ๆถ้ามันอย่างนั้นจริงๆชานยอลคงเป็นผู้ชายที่แย่มากจริงๆ


     

    ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่เขาเห็นอีกสายตานั้น สายตาที่มองตรงมาที่เขา สายตาที่เขาไม่อาจเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร โกรธ น้อยใจ หรือไม่พอใจ แต่มันดูแข็งกร้าวน่ากลัวกว่าที่เขากล่าวมาเยอะ บางทีเขาควรจะทำอะไรซักอย่าง


     

    ให้ตายเถ้อะผมอยากต่อยหน้าตัวเองชะมัด


     

    ผมกำลังกลัวสายตาเมื่อสักครู่ของแบคฮยอน...











    -TALK

    ขอบคุณสำหรับเม้นเป็นกำลังใจทุกๆคนน้า
    สำหรับตัวหนังสือที่บ่นๆกันมา พี่แพงปรับให้มันใหญ่ขึ้นแล้วนะจย๋า -3-
    คือชอบสีมันอ้ะ ขอไม่เปลี่ยนได้ป้ะ กราบ -/\- 5555555555555
    เดี๋ยวย้อนกลับไปแก้ให้หมดนะจ้ะที่รัก
    คือตอนนี้เอาพี่ลู่มาแอบเกี่ยว พี่ลู่มาจากไหนฟร๊ะ? กร๊ากกกกกกกก
    เรื่องนี้มันมีปมเกร๋ๆของมันนะเว้ย อยากให้เดา หึๆ#หัวเราะทำไม?
    ให้เดาจากอินโทรเอา จุบุ สุดท้ายก่อนลาจาก...
    ฉันหวังกับฟิคนี้มากนะเหวยยยยยยยย อย่าแป้กขอร้อง55555555555555
    สุดท้ายจริงๆล้ะ @park_pang เหงาสัส55555555
    #อย่าตกใจดิสฉันกันนะแกร

     












    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×