ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ครั้งหนึ่งของสองเรา

    ลำดับตอนที่ #1 : ครั้งแรกที่ได้พบ

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 49





                      
                        ฉัน อิน ผู้หญิงธรรมดาคนนึง ที่ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา เหมือนที่ใครๆเขาก็เป็นกัน

                     
                     
        แต่ครั้งนึงของชีวิตของฉันเคยได้มีความสุขมากที่สุด และก็มีความทุกข์มากที่สุดเช่นกัน


                        
    เรื่องราวเหล่านั้นมันผ่านไปแล้วและตอนนี้มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว



                               ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อีกเลย    ตอนนี้ฉันทำได้แค่เพียง.......................



                                เฝ้ามองดูเข้าอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้ตลอดไป




    เรื่องราวของฉันมันเกิดขึ้นมาได้ยังไงน่ะหรอ ก็เริ่มมาจากตรงนี่ไง




    "ออดดดดดดด....." เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนของฉันดังขึ้นแล้ว
    "ยาย อิน วันนี้จะกลับบ้านเลย หรือจะอยู่ทำไรก่อน" วาเพื่อนรักฉันถามขึ้น พร้อมกับเก็บหนังสือใส่กระเป๋าตัวเอง
    "ฉันยังไม่กลับอ่ะ ถ้าแกจะกลับก็กลับไปก่อนก็ได้น่ะ ฉันกลับเองได้  กะว่าจะอยู่หางานที่ ห้องสมุดหน่อย" ฉันยังไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่อยากกลับไปเจอกับพ่อ(พ่อฉันเป็นห่วงฉันมากเกินไปจนไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระบ้างเลย ขนาดไป-กลับโรงเรียน ยังจะมารับมาส่งด้วยซ้ำ)

    "งั้นฉันกลับก่อนน่ะพอดีพี่ต้นมารอหน้าร.ร."อ๋อ พี่ต้นมารับหรอ มิน่ารีบกลับเชียว
    "จ๊า  ไปเที่ยวกันให้สนุกน่ะ" ฉันพูดก่อนกล่าวลายัยวาเพื่อนรัก




    ตอนนี้ 5 โมงครึ่งแล้ว คงได้เวลาที่ฉันต้องกลับบ้านสักทีซิน่ะ  ฉันเดินถือหนังสือชีวะ เล่มหนาออกมาจากห้องสมุดก่อนจะเดินออกมาหยิบข้าวของ ของตัวเองกลับบ้าน


    ฉันเดินมาถึงหน้าโรงเรียนอย่างทุลักทุเล  ในมือถือหนังสือชีวะเล่มหนา กับอีกข้างถือบอร์ดวิชาอังกฤษไหนจะมีกระเป๋านักเรียนที่ต้องหนีบให้แฟ่บ กับกระเป๋าเสริมตราโรงเรียนอีก ตอนนี้ถ้าใครมาเห็นเข้าคงต้องหาว่าฉันเป็นบ้าหอบฟางแหงๆ แต่ความทุลักทุเลของฉันมันยังไม่หมดเพียงเท่านี้  

    เจ้ามือถือสุดรักของฉันที่ฉันเพิ่งเอาเงินเก็บทั้งหมดไปถอยมาหมาดๆ  ก็ส่งเสียงดังเป็นสัญญานให้รู้ว่าตอนนี้มีคนต้องการจะคุยกับฉัน ด้วยความที่ไม่อยากให้ข้าวของของฉันเปรอะ(เพราะพื้นมันเลอะ)ฉันก็เลยเอาแขนหนีบของเหล่านั้น พร้อมทั้งเอาอีกมือนึง หยิบมือถือในกระเป๋ากระโปรงออกมา



    ฟรึ่บ!.......เฟี้ยววววว....ปึก !!!!!!!!!!!   (OoO)



    ตอนนี้เจ้ามือถือที่ฉันได้ใช้มันเพียง 4 วันกำลังกระเด็นไปไกลและกระแทกกับพื้นอย่างแรง เพราะมันหลุดมือฉัน ฉันทิ้งของที่ฉันเอาแขนหนีบไว้ลงหมด พร้อมกับวิ่งไปหามือถือเพื่อจะหยิบมันขึ้นมา



    แต่!!!~   ไม่ทันแล้ว มีผู้ชายคนนึงหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับทำหน้า ฉงน

    "คุณค่ะของฉันค่ะ ของฉัน"ฉันพูดพร้อมอาการเหนื่อยสุดๆ
    "ของคุณแล้วทำไมมันมาอยู่ตรงนี้หล่ะ" ที่นายนั่นพูดก็ถูกฉันอยู่ไกลจากมือถือตั้งเยอะมันลอยไปนี่หน่า
    "ก็ฉันทำตก" ฉันตอบแบบไม่สนใจพร้อมกับจะเขาไปเอาคืน
    "ฮ่าๆๆๆๆทำตก ฮ่าๆๆๆผมว่าอย่างนี้ไม่เรียกตก  น่าจะบอกว่ากระเด็นมามากกว่าน่ะฮ่าๆๆๆ"หมอนี่หัวเราะเยาะฉันแล้วทำหน้าสมเพช
    "เอาเถอะๆ ถึงมันจะเป็นของคุณจริงหรือเปล่าก็ชั่งเถอะถึงยังไงตอนนี้มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆแล้วคุณจะเอาก็เอาไปเถอะเผื่อขายเป็นเศษเหล็กได้ฮ่าๆๆๆ"


    อะไรน๊า!!!!!!!!!!!!!~    มือถือที่ฉันเก็บเงินมาเป็นปีเพื่อซื้อมันและฉันก็ใช้ได้แค่เพียง 4 วัน ตอนนี้มันกลายเป็นเศษเหล็กงั้นหรอ ม่ายยยยยยยยยยย  ไม่น๊าาาาา ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ในความซุ่มซ่าม และเสียดายมือถือเครื่องนี้ฉันร้องไห้ออกมาอย่างหนักเพียงแต่ไม่มีเสียงเท่านั้นเอง ฉันหันไปมองหน้า ผู้ชายคนนั้น
    ตอนนี้หน้าของเขา มีอาการ ตกใจ   งงงวย  ก่อนจะพูดว่า 

    "เฮ้ย เธอร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลยน่ะโอเคโอเค ฉันขอโทษที่หัวเราะเธอฉันคงผิดเองอย่าร้องน่ะโอ๋ๆๆๆ"
    เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หน่ามาขอโทษฉันทำไม
    "นายไม่ผิดหรอก ฮือ ฉันทำมันแตกเอง ฮือ นายไม่ต้องขอโทษหรอก"

    ฉันพูดก่อนเดินไปหยิบมือถือเครื่องนั้นที่มันแตกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับเดินไปหยิบข้าวของ ของฉันที่ฉันทิ้งมันไว้เมื้อกี้ ตอนนี้กลับเข้าสู่สภาพบ้าหอบฟางคนเดิมพร้อมกับน้ำตาไหลพรากๆ  แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือมือถือฉันตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ฮือๆๆๆๆๆ

    ฉันเดินผ่านหน้านายนั่นไป  .......

    "เดี๋ยวจะไปไหนอ่ะ" นายนั่นถามหน้าตาสงสัย
    "กลับบ้าน"ฉันตอบอย่างไม่สนใจ
    "เดี๋ยวฉันไปส่งน่ะ"
    "ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองได้ ขอบคุณน่ะ"

    "จะไปยังไงข้าวของเต็มไปหมด"
    "รถเมล์"
    "รถเมล์เนี่ยน่ะ ตอนนี้ก็เย็นแล้วรถเมล์ก็ต้องแน่นถ้าจะขึ้นไปได้ยังไง"
    "ฉันมีปัญญาแล้วกัน"ฉันตอบอย่างเริ่มรำคาญเต็มที

    ..........


    "ใช่สิ เธอมีปัญญา แต่เธอไม่มีความกล้า เธอไม่กล้ากลับบ้านกับฉันน่ะสิกลัวฉันใช่ไหม"
    "ฉันไม่ได้กลัว"
    "ถ้าไม่กลัวก็พิสูจน์ให้ดูสิว่าเธอไม่กลัว รถฉันสีดำขึ้นไปสิ"
    "ได้ ที่ฉันทำเนี่ยเพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่กลัวนายน่ะ"
    "โอเค โอเค ตกลง"นายนั่นพูดพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะ

    ฉันเดินไปขึ้นรถพร้อมกับทิ้งข้าวของให้หมอนั่นเก็บหน้าตาเฉย ก็คนมันเหนื่อยนิ ทำไงได้


    เมื่อหมอนั่นขึ้นรถ .........

    "บ้านเธออยู่ไหน"หมอนั่นถาม
    "ใต้ฟ้าบนดิน"ฮ่าๆๆ สะใจจอร์จ
    "อย่ากวนประสาทได้ไหมฮ่ะ!!!"หมอนั่นตะคอกฉัน
    "คอนโด ริเวอร์"
    "........."เงียบ

    "เงียบทำไมอ่ะ" ฉันถามเพราะเขาเงียบไป
    "พ่อฉันเป็นเจ้าของที่นั่น"
    "ห๊าาาาาา เจ้าของที่นั้นหรอ นี่นายต้องรวยมากแน่ๆเลย"
    "ไม่ได้รวยมากมายอะไรหรอก แค่เป็นเจ้าของคอนโด  สนามกอล์ฟ ธุรกิจต่างประเทศ แค่นี้เอง"

    "แค่นี้เองงั้นหรอ นี่นายใช้คำว่าแค่นี้เองหรอ ถ้าสำหรับฉันน่ะฉันคิดว่ามันมากมาย มหาศาลเลยหล่ะแค่ทำธุรกิจต่อจากพ่อก็รวยตลอดชีวิตแล้วไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย"ฉันพูดพร้อมจินตนาการว่าเป็นฉันเอง

    "บ้านเธอเป็นยาจกหรือไงถึงได้ตื่นเต้นมากขนาดนี้"
    "......"
    "............."  ฉันเงียบเพราะฉันพูดไม่ออก

    "เฮ้ย ขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันพูดเล่น แหม  เธอมีเงินซื้อคอนโดพ่อฉันได้ก็ไม่ธรรมดาแล้วแหละ ห้องนึง เป็นล้านๆ"
    "แม่ฉันซื้อไว้ก่อนจะหย่ากับพ่อ"
    "เป็นอย่างเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉัน และใช้ชื่อฉันซื้อ"

    "ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"หมอนั้นพูดสีหน้าบ่งบอกถึงความรูสึกผิดที่ถาม

    "นายไม่ผิดหรอกฉันเองที่ไปคิดถึงมันเอง" "แล้วหลังจากวันนี้ นายต้องไม่มายุ่งกับฉันอีกน่ะไ

    "ทำไม"หมอนั่นถามอย่างแปลกใจ

    "เราต่างกันมาก"

    "ตรงไหน ยังไง"

    "นายรวยมาก ส่วนฉันจ๊น  จน เข้าใจยัง"

    "ไม่เห็นเกี่ยวตรงไหน ฐานะต่างกันแล้วจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรือไง"

    "ใช่ แล้วที่สำคัญฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย นายเพิ่งรู้จักกับฉันเมื่อกี้แถมนายยังหัวเราะฉันอีกต่างหาก"

    "ฉันไม่สนใจหรอกก็ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนี่ ฉันชอบเธอ"

    ห๊า!!!~   ชอบฉันงั้นหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกเป็นไปไม่ได้

    "นี่ อย่าพูดยังงี้ส่งเดชสิ นึกถึงคนฟังมั่งสิว่าเขาจะรู้สึกยังไง

    "รู้สึกดี เพราะฉันพูดเรื่องจริง"

    "แล้วทำไมถึงชอบฉันหล่ะ"

    "เธอไม่เหมือนใครแล้วเธอก็น่ารักดี"

    เขิลลลลลลลลลลล

    "ฉันไม่เชื่อ"ฉันพูดพร้อมกับหันมาอีกฟังนึง ถ้าฉันไม่หันมา มีหวังหมอนั่นต้องเห็นหน้าแดงๆของฉันแน่

    ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกินฉันกะว่าจะนอนหลับสักหน่อย เพราะกว่าจะถึงบ้านฉันก็อีกไกล
    แต่ฉันก็นึกถึงเรื่องที่ฉันลืมไปแล้วขึ้นมาได้  

    เมื่อตอนเย็นใครโทรมา ถ้าเป็นพ่อฉันมีหวังแย่แน่ๆ

    แล้วยิ่งมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เขาต้องคิดไปไกลแล้วแน่ๆเลย

    โทรมาแล้วไม่รับ อยู่ๆก็ติดต่อไม่ได้  พ่อฉันต้องคิดไปในทางที่ไม่ดีก่อนเสมอๆแหละ ฉันตายแน่เลยฮือๆ


    แต่!!!!!!!!~  ฉันก็คิดอะไรดีๆออกมาได้

    "นี่นายยืมโทรศัพท์หน่อยสิ"ฉันขอ

    "เอาไปทำไร"

    "ตำน้ำพริกกินมื้อเย็นมั้ง  ยืมโทรศัพท์ก็ต้องเอามาโทรสิ แต่ไม่ต้องกลัวฉันจะใช้ซิมฉันเอง"

    "งั้นมีข้อแลกเปลี่ยน"

    "อะไร"

    "เธอเอาเครื่องฉันไปใช้ซิมเธอ ส่วนฉันเอาเครื่องเธอมาแล้วใช้ซิมฉันเอง"


    "ฉันไม่มีมือถือจะแลกกับนาย มันแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว ฮือๆๆๆๆ"

    "เฮ้ย!! อย่าร้อง งั้นไม่เป็นไรเอามือถือฉันไปเลยแลกกับชื่อเธอแล้วกันน่ะ"

    "ชื่อฉันเนี่ยน่ะ"

    "อืม"

    "อิน" ฉันตอบเสียงค่อย

    "อะไรน่ะ!!~" แต่หมอนี่แหกปากลั่นรถ

    "โว้ย!!!!  เบาๆก็ได้ ฉันชื่อ อิน อินทุอร"

    "อิน ชื่อยังน่ารักเลยแฮะ"หมอนั่นทวนคำแล้วชมฉันตาบ้าเอ๊ยฉันเขินอีกแล้วน่ะ

    "ส่วนฉัน แทน ธีรพงษ์คนหล่อ"

    "อ้วก"ฉันพูดพร้อมทำท่าประกอบ


    "จะเอาไหมมือถือเนี่ย"

    "เอา เอาสิ"ฉันยิ้มแหยๆ

    ฉันรับมือถือนายนั่นมา พร้อมพยายามเปิดออกเพื่อเปลี่ยนซิม แต่แล้วเรื่องหน้าแตกครั้งใหญ่ก็กำลังจะเกิดขึ้น

    "นี่ นาย เปิดเครื่องให้หน่อย"

    "ฉันไม่ได้ปิดมือถือนิ"

    "ฉันหมายถึง..... จะเปลี่ยนซิม"

    "ฮ่าๆอะไรน่ะ อุ้บ!" หมอนั่นจะขำฉันแต่พอเขามองหน้าฉันเขาก็หยุดขำทันที

    "ได้ๆ"เขาจอกรถข้างทาง พร้อมกับสาธิตให้ฉันดูอย่างละเอียดแถมบอกวิธีใช้โปรแกรมต่างๆข้างในบ้างเพราะบางอันฉันก็รู้

    "รักษาดีๆหล่ะ ไว้เดี๋ยวฉันจะซื้อเครื่องใหม่ให้"

    "ฉันไม่ต้องการหรอก ขอบใจ"

    "ฉันจะซื้อให้เธอจะทำไมหล่ะ"

    "..........." ฉันไม่เถียงต่อเพราะรีบโทรหาพ่อทันที


    เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไง พ่อของอินจะว่าไงบ้าน แล้วนายแทนคิดยังไงกับอินกันแน่อย่าลืมติดตามตอนต่อไปด้วยน่ะค่ะ..................(^.^)   


    ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นค่ะ
















                         
                          
















                         
                          
















                         
                          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×