คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การกลับมาขององค์หญิง
ราตรีสงัดภายในอาณาเขตตำหนักรัชทายาทมีคนผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหลามีลักษณะน่าเกรงขามอยู่ในตัวไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแค่ใช้สายตามองก็สามารถทำให้ผู้คนยอมศิโรราบได้แล้วแต่ในเวลานี้เขากลับต้องขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนถึงนอนไม่หลับเพียงเพราะฝันประหลาดนั้นทำให้เขาต้องเดินเท้ามาถึงที่นี่ เพื่อมาดูให้แน่ใจว่าคงไม่มีใครตกลงไปในบ่อน้ำต้องห้ามบ่อนี้แล้วเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ๆก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครคนหนึ่งแววมาว่าช่วยด้วยหาใช่เสืยงตะโกนขอความช่วยเหลือหากแต่เป็นราวกับเสียงกระซิบ
“กงกง ไปตามหมอหลวงมาทีแล้วตามนางกำนันเข้าไปหาข้าสักสองคนก่อนนะ”เสิ่นจือจิ้งก้าวเข้ามาในตำหนักพร้อมร่างที่สลบไสลอยู่ในอ้อมแขนในสภาพเปียกปอนปากก็สั่งความกับกงกงสือ แล้วก็หันกลับไปเดินเข้าไปในห้องบรรทม
“ขอรับ กระหม่อมจะไปตามมาเดี่ยวนี้”กงกงสือขานตอบรับพร้อมขมวดคิ้วใช้สายตามองไปที่เด็กหนุ่มที่อยู่ในอ้อมอกของเจ้านายของตน รัชทายไปพบเด็กหนุ่มคนนั้นได้อย่างไร พบที่ไหน แล้วทำไมถึงเปียกปอนไปทั้งตัวอย่างนั้น กงกงสือเดินไปคิดไปทำตามคำสั่งของนายเหนือหัว เดียวเกิดอะไรขึ้นก็คงจะรู้
“เจ้าสองคนมาช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาหน่อย”เสิ่นจือจิ้งกล่าวเมื่อเห็นนางกำนันเดินเข้ามา แล้วต่างก็ช่วยกันผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เมื่อเอาเสื้อตัวนอกนอกหมดเหลือเพียงแต่เสื้อตัวในสุดเขาก็ต้องตะลึง!รีบหันหลังหน้าแดงเดินออกไปข้างนอก ”พวกเจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสร็จแล้วค่อยเรียกข้าอีกที”เขาสั่งทั้งที่ไม่หันมามอง เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาทำให้นางกำนันที่อยู่ด้วยแอบอมยิ้มกับความไม่ประสาเรื่องระหว่างชายหญิงขององค๋ชาย แล้วเขาก็เดินออกมาสูดหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติกลับคืนมาหลังจากตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะตอนแรกเขาคิดว่านางเป็นชายถึงได้ช่วยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แล้วใครจะคิดว่าเออคิดว่านางจะเป็นหญิง”เฮ้ย”เขาถอนหายใจที่ไม่ได้ล่วงเกินนางมากเกินไปกว่านี้แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่เขาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเป็นสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ
“นางเป็นอย่างไรบ้าง”เสิ่นจือจิ้งถามหมอหลวงแต่สายตากลับวนเวียนอยู่บนใบหน้าของสาวน้อยผู้ที่หลับไหลแววตาบ่งบอกถึงความสับสน ซับซ้อน ค้นหาและรวมถึงแววตาแห่งความสงสารเอ็นดู
“ทูลรัชทายาทแม่นางผู้นี้มีไข้ขึ้นสูงอาจเป็นผลมาจากที่แช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานเป็นเหตุให้ธาตุเย็นเข้าแทรก แต่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงพะยะค่ะเดี๋ยวกระหม่อมจะนำยามาถวาย”หมอหลวงพูดจบก็ทูลลาเดินถอยออกไปจากห้องบรรทม แล้วเสิ่นจือจิ้งก็หันหลังเดินไปสั่งการนางกำนันที่เฝ้าอยู่ด้านนอกสองสามคำเดินออกจากห้องบรรทมไปยังห้องพระอักษรถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็หลับไม่ลงแล้ว
ภายในห้องพระอักษร เสิ่นจือจิ้งเปิดตำราค้างไว้แต่สายตากลับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างในสมองก็คิดถึงแต่ใบหน้าของแม่นางผู้นั้น เหมือนช่างเหมือนเหลือเกิน เขาอยู่ในนั้นจนราตรีผ่านพ้นมาถึงยามรุ่งสางก็เดินกลับห้องบรรทมอีกครั้ง
“นางเป็นอย่างไรบ้าง”จือจิ้งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถามนางกำนันแต่สายตากลับจดจ่ออยู่บนหน้าของหญิงสาว
“ทูลรัชทายาท ตอนนี้ไข้ลดแล้วท่านหมอหลวงบอกว่าอีกสัวสองชั่วยามก็คงจะฟื้นเพค่ะ”หลี่เอ๋อร์นางกำนันที่อยู่ดูแลซีซีตอบพลางมองไปที่ร่างบางพรางคิดว่าหากไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม่นางผู้นางก็คงไม่รู้ว่านางจะเป็นหญิงเพราะตอนแรกคิดว่าเป็นหนุ่มน้อยหน้าหวานยิ่งกว่าอิสตรีเสียอีก แต่เหตุใดถึงได้ผมสั้นเช่นนั้นแถมดูหน้าค่าตาแล้วยังเหมือนกับองค์หญิงหวนจูอีกต่างกันเพียงแค่ทรงผมเท่านั้น
“เจ้าออกไปก่อน”จือจิ้งสั่งพลางโบกมือไล่ เอนางกำนันออกไปแล้วเขาจึงเดินเข้าไปพินิจพิจารณาหญิงสาวที่หลับไหลอีกรอบ หน้าผากมน คิ้วโกงงาม ขนตาเป็นแพยาว จมูกโด่งเชิดรั้น ริบฝีปากอิ่มรูปกระจับ เมื่อรวมองค์ประกอบทุกอย่างเข้ากับใบหน้ารูปไข่ ดูแล้วช่างงามล้ำ หากแต่ตอนนี้เขาอยากจะเห็นแววตายามฟื้นตื่นขึ้นมามากว่าว่าจะงามมากขึ้นขนาดใหน แล้วเขาก็ต้องตื่นจากภวังค์เมื่อเห็นคนบนเตียงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
“ที่นี่ที่ใหน”เมื่อซีซีลืมตาขึ้นมาเต็มตากวาดสายตามองไปรอบๆพูดขึ้น พรางสงสัยว่าเป็นโรงพยาบาลที่ใหนที่มีลักษณะห้องผู้ป่วยเป็นแบบนี้หรือว่าจะไม่ไช่ หรือว่าเธอตายแล้ว เมื่อคิดถึงตอนนี้เธอก็ก้มมองตัวเองสีหน้าซีดเผือก ขอบตาแดงเรื่อ ทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อแต่มาได้ยินเสียงคนเสียก่อน
“ห้องนอนของข้าเอง” ซีซีมองไล่ขึ้นไปจนถึงใบหน้าของผู้พูดแล้วก็ต้องตะลึงกับหน้าตาอันหล่อเหลาของเขา แบบว่าหล่อยิ่งว่าพี่โดมอีกอ่ะ แล้วเธอต้องสะบัดหัวเพื่อให้ตนเลิกคิดฟุ้งซ่านก่อนที่จะถามนายคนหน้าตาดีคนนี้อีกครั้ง “คุณบอกว่า..นี่คือห้องนอนของคุณหรอค่ะ”ซีซีพูดจาสุภาพขึ้นเมื่อสนทนากับคนหน้าตาดี
“ใช่ นี่ห้องของข้าเอง”จือจิ้งหัวคิ้วขมวดเข้าหากันตอบนางพลางคิดว่าภาษาของนางฟังดูแปลกๆ “เจ้าตื่นมาแล้วคงจะหิว ข้าสั่งให้คนต้มข้าวใส่เม็ดบัวให้เจ้า มาค่อยลุกขึ้นมากิน”เขาพูดตัดก่อนที่เธอจะถามอีก
ซีซีแม้กำลังมึนงงอยู่แต่ก็ต้องพะยักหน้างึกๆเพราะท้องของเธอเริ่มประทวงแล้วเหมือนกันเดินตามเขาออกไปข้างนอกนั่งลงที่โต๊ะกลางห้องที่มีถ้วยข้าวต้มส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายวางอยู่ เธอมองหน้าเขาเป็นเชิงขออนุญาต เมื่อเขาพะยักหน้าให้เธอจึงเริ่มกิน ก่อนเคยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินสียง
“เสด็จแม่ น้องสี่ “ เสิ่นจือจิ้งอุทานเรียกพระมารดากับพระขนิฐถาของตัวเองอดประหลาดใจไม่ได้ที่เห็นพวกเขามาถึงที่นี่ได้
มเหสัเจาจวินไม่สนใจเสียงเรียกของลูกชายกับเดินอ้อมมาหาซีซี จับหัวไหล่ทั้งสองข้างให้เธอลุกขึ้น พร้อมหมุนตัวเธอ บนใบหน้านั้นบงบอกถึงความปิติยินดีอย่างที่สุดก่อนจะดึงเธอมาสวมกอด “แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว อิ๋นเอ๋อร์ เหตุใดสภาพของเจ้าถึงเป็นเช่นนี้”นางกล่าวพลางใช้มือลูบหัวลูบหลังมองดูลูกสาวที่พึงได้พบเมื่อไม่ได้เจอกันเกือบสิบปี
“ฉัน..เออ..ฉัน”ซีซีพูดอะไรไม่ออกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของหญิงที่เรียกตนเองว่าแม่ พลางส่งสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือไปยังผู้ชายที่เธอเจอเป็นคนแรกเมื่อตอนเธอฟื้น
ความคิดเห็น