คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
::TROID::
หวัดดี ผมชื่อทรอยด์ครับ แนะนำแค่นี้นะอยากรู้อย่างอื่นก็อ่านเอาเอง ตอนนี้ผมกำลังตรวจคนไข้อยู่ครับ อ่า..ผมลืมบอกผมเป็นหมอครับ ตรวจคนนี้เสร็จผมก็จะไปดูร่างของน้องชายที่ไม่รู้แม่งจะฟื้นเมื่อไร จะตายก็ไม่ได้จะฟื้นก็ไม่ฟื้น
ผมเดินเข้าห้องมาก็เจอร่างเล็กของชาบูนั่งเฝ้าร่างสูงของไอ้เรย์ครับ บางครั้งผมก็สงสารชาบูเหมือนกันนะครับที่ต้องมานั่งดูร่างของคนที่เป็นเพื่อนสนิทมาเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำไงล่ะ ลำพังแค่เป็นเพื่อนน่ะคงไม่มานั่งเฝ้าทุกวันหรอกแต่ชาบูน่ะคิดไกลเกินคำว่าเพื่อนแล้วน่ะสิ เฮ้ออออ นี่ถ้าชาบูรู้ว่าไอ้เรย์มันมีคนที่ชอบอยู่แล้วชาบูจะเป็นยังไงนะ
“อ้าว พี่หมอหวัดดีฮะ”ชาบูยกมือไหว้ผมเมื่อเห็นว่าผมเข้ามา
“อือ”ผมตอบไปสั้นๆไม่ใช่ว่าไม่อยากจะพูดนะ แต่ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์แสดงแต่การกระทำเท่านั้น
“เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกันมั๊ย”ผมหันไปถามกับชาบูที่เอาแต่นั่งมองหน้าไอ้เรย์
“แต่....เอ่อ....ก็ได้ครับ”
ผมไม่พูดแต่ถือวิสาสะจับมือชาบูแล้วเดินออกจากห้อง โดยที่พวกพยาบาลเอาแต่มองพวกผม2คนที่เดินจับมือกัน พวกเธอคงตกใจน่ะเพราะผมไม่ค่อยจะจับมือหรือโดยตัวใครง่ายๆถ้าไม่ใช่คนไข้ ผมไม่ได้หวงตัวนะแต่ผมจะเป็นแบบนี้ในเวลางานน่ะ เวลาอื่นก็ต้องมีปลดปล่อยกันบ้าง หึหึ
ผมพาชาบูมาร้านอาหารใกล้โรงพยาบาล ผมสั่งอาหารเสร็จก็รออาหารมาเสริฟ บรรยายกาศที่นี่ก็ดีนะ ไม่อึดอัดเท่าไรแต่ผมกลัวชาบูมันจะอึดอัดเพราะผมกับชาบูก็ไม่ได้สนิทกันซักเท่าไร ชวนมันคุยก็แล้วกัน
“ชาบูชอบไอ้เรย์มันหรอ”ผมเปิดเรื่องแบบตรงประเด็นโดยไม่เบี่ยงเบน ทำให้ชาบูหน้าเริ่มขึ้นสีขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ต้องบอกก็รู้
“ปะ ป่าวนะครับ เราเป็นพะ เพื่อนกัน”ดูหน้ากูโง่มากสินะ ชาบู
“อืม พี่ดูออกว่าเราชอบ แล้วทำไมถึงชอบมันล่ะ”
“กะ กะ ก็ เรย์เป็นคนน่ารักดี”อย่างไอ้เรย์เนี่ยนะน่ารัก น่าถีบซะมากกว่า
“อืม พักนี้เราไม่ค่อยยิ้มเลยนะ”ผมพูดจริงๆนะ ตั้งแต่เรย์มันเป็นแบบนี้ชาบูก็ไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูด ออกจะเงียบด้วยซ้ำ
“ก็คนมันเศร้านี่”มันพูดแล้วทำหน้าเป็นหมาหงอย ถ้าคนอื่นทำนี่คงน่าเกลียดน่าดู แต่ชาบูทำแล้วออกจะน่ารักด้วยซ้ำ
“แล้วพี่หมอล่ะทำไมไม่ชอบยิ้มล่ะครับ”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้จะยิ้มไปทำไมน่ะ”ผมบอกตามความจริง คือจริงๆน่ะ เส้นบนหน้ามันตายไปหมดแล้ว
“งั้นพี่หมอยิ้มให้ดูหน่อยสิ ทำแบบนี้อ่ะ ชีสสสสสสส”มันทำตามอย่างให้ผมดูด้วยครับ ดูแล้วน่ารักดี ^^
“อ๊ะ พี่หมอยิ้มแล้ว เป็นบุญตาของผมเลยนะเนี่ย คิกคิก”หึหึ อย่าน่ารักให้มากนักนะชาบู เพราะถ้าพี่หมอหลุดออกจากเวลางานแล้ว ชาบูอาจจะไม่อยากเห็นพี่ยิ้มอีกเลยก็ได้
ต่อค่ะ
“อาหารมาเสริฟค่ะ”ชาบูสั่งสปาเก็ตตี้เส้นดำคาโบนาร่า ส่วนของผมสเต็กปลา ระหว่างกินก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย ผมรู้สึกว่าชาบูเริ่มผ่อนคลายขึ้นเยอะหลังจากที่เรานั่งคุยกัน คงเพราะเราไม่สนิทกันมั้ง น้องมันเลยเกรงไปหมดแต่พอรู้จักกันน้องก็เริ่มเป็นกันเองมากขึ้น
“กินเป็นเด็กๆเลยนะ”ผมพูดแล้วกระตุกยิ้มแล้วใช่ห้วโป้งของตัวเองเช็ดที่ขอบปากของชาบูแล้วเลียนิ้วโป้งตัวเอง จะว่าไปไอ้สปาเก็ตตี้นี่ก็อร่อยดีนะ หึหึ
“อร่อยดีนะ”ผมพูดกับชาบูทำให้ชาบูที่หน้าแดงอยู่แล้วแดงยิ่งกว่าเดิม รู้สึกว่าวันนี้มึงจะน่ารักเกินไปแล้วนะครับ
“ครับ อะ อร่อยดีครับ แหะๆ”
“อิ่มหรือยัง”
“อิ่มแล้วครับ”
ผมเรียกพนักงานมาเช็คบิลแต่กว่าจะจ่ายได้เล่นซะพนักงานเหงื่อตกเลยที่เดียว ก็ชาบูมันจะเลี้ยงผมแต่ผมบอกไม่ต้องเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง กว่าจะตกลงกันได้ก็กว่า10นาทีเลยทีเดียว เห็นน่ารักๆแบบนั้น แต่แม่งดื้อชิบหาย
ตั้งแต่เดินเข้าโรงพยาบาลมาชาบูก็กลับมาเงียบอีกครั้ง เอาจริงๆนะผมสงสารน้องมันว่ะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนยิ้มเก่งพูดเก่ง แต่ตอนนี้ถ้าไม่มีที่ระบายก็จะไม่ยิ้มไม่พูดถ้าเรย์รู้มันก็จะไม่สบายใจ เพราะชาบูคือเพื่อนที่มันรักมากคนนึง แต่ยังไงมันก็คิดกับชาบูแค่ ‘เพื่อน’ แต่ชั่งมันเถอะปัญหาของคนสองสามคน มันเป็นปัญหาโลกแตก ซึ่งผมไม่มีทางมีปัญหาแบบนี้แน่
ผมกับชาบูแยกกันเมื่อกี้เองครับ ชาบูมันจะไปเฝ้าไอ้เรย์น่ะครับ ส่วนผมจะไปตรวจคนไข้ต่อ
“คุณหมอคะ มีคนมาขอพบน่ะคะ แป๋มบอกให้รออยู่ที่ห้องของคุณหมอแล้วนะคะ”
“ขอบคุณครับ”ใครว่ะ มาตอนนี้จะบอกว่าเป็นพวกเพื่อนๆมหาภัยก็ไม่ได้เพราะป่านี้แม่งยังไม่ตื่นกันหรอก ไอ้พวกนี้เป็นพวกตอนเช้าน่ะ
ผมเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอกับร่างโปร่งของใครคนนึงกำลังพูดคนเดียว สงสัยคงจะมาหาหมอผิดแล้วล่ะ ผมไม่ได้เป็นหมอทางจิตนะ ผมเป็นหมอรักษาโรคนะครับผิดที่แล้วมั้งคุณ ผมยืนอยู่หน้าประตูได้ประมาณ10วิ ร่างโปร่งเหมือนเพิ่งรู้ตัว เลยหันหน้ามาแล้วยิ้มแก้เก้อให้ผม
“หวัดดีครับ เอ่อ พี่คือหมอทรอยด์หรือป่าวครับ”
“อือ”ผมตอบแล้วเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของผม แต่เหมือนผมได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ ก็เห็นไอ้เด็กนี่มันพูดอะไรไม่รู้ซุบซิบๆอยู่คนเดียว
“หมอทรอยด์พอจะเชื่อเรื่องผีบ้างป่ะ”เชื่อมั๊ยหรอ ไม่รู้สิต้องลองเจอกับตัวอ่ะถึงจะเชื่อ
“เห็นมั๊ย พี่เค้าไม่ตอบแสดงว่าเค้าไม่เชื่อแล้วมึงยังจะให้กูพูดอีกหรอ ไอ้เชี้ย เดี๋ยวก็หาว่ากูเป็นบ้าหรอก พ่องมึงตาย” ไอ้ประโยคแรกๆนี่เบาๆครับ เบาจนแทบจะไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ดังจนผมสะดุ้งเลยครับ แม่งเหมือนด่าพ่อกูเลยว่ะ
“เอ่อ น้องครับน้องเป็นอะไรรึป่าวครับ”
“เอ่อ คือ ถ้าผมบอกหมอก็ต้องไม่เชื่ออ่ะ พอหมอไม่เชื่อหมอก็จะหาว่าผมบ้าแล้วหมอก็จะพาผมเค้าศรีธัญญา ”อะไรของมึง ถ้าจะบ้าจริงว่ะเสียงดาย หน้าตาก็น่ารักดีๆ แต่ตามันคุ้นๆแหะ
“จะพูดไม่พูด ผมมีงานอีก”
“เอ่อ คือ ตอนนี้วิญญาณของเรย์อยู่กับผม”
ต่อค่ะ
“น้อง.....เป็นหมอผีหรอหรือจิตไม่ปกติ -___-”
“-3-”เป็นคุณ คุณจะคิดยังไงเมื่ออยู่ดีๆก็มีคนบอกว่าวิญญาณคนนี้อยู่กับตอนเอง สำหรับผม ผมนึกว่าบ้าครับ
“ผมพูดจริงๆนะ ตอนนี้มันยังอยู่ในห้องนี้เลย มันอยู่ตรงนี้อ่ะตรงนี้”น้องมันพูดแล้วชี้ไปที่ข้างขวาของตัวเอง ผมก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะ แต่จะให้เชื่อง่ายๆมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ
“งั้นเอางี้ครับ ผมกับหมอไม่รู้จักกัน แต่ผมสามารถบอกเรื่องราวในอดีตของหมอได้ เพราะไอ้เรย์”อย่างงั้นหรอ เรื่องราวของผมก็ไม่ค่อยมีใครรู้จริงๆนั่นแหละ ขนาดพ่อแม่ยังไม่ค่อยจะรู้กันเลย ก็มีแต่ไอ้เรย์เนี่ยแหละที่เสือกรู้ไปซะทุกเรื่อง =___=
“ตอนเด็กๆหมอ อะไรของมึงบอกมาไอ้สัด”หือออ ไม่ใช่มั้ง
“ตอนป.6 หมอแอบชอบผู้หญิงคนนึงแต่เค้าปฏิเสธหมอ เพราะเค้าเป็นทอมใช่มั๊ยครับ”ใช่ นั่นคือความอัปยศที่สุดตั้งแต่เกิดมา จีบใครไม่จีบดันไปจีบทอม ใครจะไปคิดว่าจะเป็นทอมว่ะก็แม่งสวยขนาดนั้นอ่ะ
“ตอนม.3 หมอโดนไอ้เรย์โยนหนอนใส่ปาก ใช่มั๊ยครับ”ผมพยักหน้าหงึกๆ เป็นความจริงครับ ไอ้เชี้ยเรย์ไอ้น้องเวรมันแกล้งผม มันโยนหนอนเข้าปากผมตอนนั้นผมจำความรู้สึกได้ดี มันขนลุกจนมาถึงตอนนี้เลยครับ
“ตอนม.6 พี่หมอโดนเด็กม.4สารภาพรักและหมอเองก็ตกลงคบกันได้2วันถัดมา ก็มีบุคคลที่3โดยที่มีฐานะที่ยิ่งใหญ่กว่าหมอคือ น้องเค้ามีผัวแล้ว ”ผมพนักหน้าแล้วตีหน้านิ่งๆไว้ แต่ไอ้เหี้ยตรงหน้าไม่นิ่งแล้ว แม่งกลั้นขำสุดชีวิตเลย ทำไมว่ะมันน่าขำตรงไหนห้ะ
“ตอน ปี1 หมอโดนรับน้องโดนพี่ว๊ากที่เป็นกระเทย แล้วบังเอิญกระเทยคนนี้ถูกใจหมอมากเลยให้หมอออกไปเต้นแล้วก็หอมแก้ม สุดท้ายจูบปากแต่ไม่ได้จูบเพราะหมอดันเป็นลมไปซะก่อน ฮ่าๆ อึก หึหึ”ไอ้เด็กเหี้ยหยุดขำเลยนะไอ้สัด กูบอกให้หยุด ว๊ากกกกกกกก (หมดกัน อิมเมจผู้ชายเย็นชายของตรู โปรดไว้อาลัยร่วมกันซัก1วินาที)
“และสุดท้าย ตอนนี้หมอกำลังโมโหมาก อยู่จะฆ่าไอ้คนที่พูด ซึ่งก็เป็นผม แต่เฮ้ยอย่านะหมอเป็นหมอห้ามฆ่าคน แล้วอีกอย่างไอ้เรย์มันบอกผมนะ T^T”
“โว้ยยยย ไอ้เชี่ยเรย์มึงออกมาเลยนะ มึงบอกเรื่องพวกนี้กับคนอื่นได้ยังไง”ผมได้แต่ยืนโวยวายโดยที่มีไอ้เด็กนี้นั่งดูอยู่ ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องพวกนี้ ห้ามพูดอีกเด็ดขาด บอกให้ลืมๆๆไปซะ ทำไมไม่ลืมว่ะ
“เอ่อ คือหมอ ไอ้เรย์มันบอกว่า โวยวายทำไมมึงอย่าลืมว่าเมียกูอยู่ด้วย เอ้ย ไอ้สัดพ่อมึงตายกูไม่ใช่เมียมึง”หือออ พ่อไอ้เรย์ตาย พ่อกูก็ตายดิ พ่อกูกับพ่อมันก็คนเดียวกันอ่ะ
“แล้วตกลงพี่หมอเชื่อมั๊ยครับ ว่าไอ้เรย์อยู่นี่จริงๆ”เชื่อสิเชื่อสนิทใจเลย เพราะมีมันคนเดียวที่ทำให้สติผมแตกได้ขนาดนี้
“อืม”
“งั้นหมอก็ช่วยหาวิธีทำให้มันเข้าร่างหน่อยนะ”
“เดี๋ยวเย็นนี้มาเจอผมที่นี่ด้วยนะ”มันทำหน้างงเล็กน้อยที่ผมนัดมันมานี่ ก็ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงอ่ะ มันสามารถเห็นผีได้เพราะงั้นก็ให้มันช่วยหน่อยล่ะกัน แต่จะให้มันมาโรงพยาบาลมันไม่มาแน่
“ไม่ต้องและ เย็นนี้เจอกันที่ DN CLUB”
“ครับ ทุ่มนึงนะ ผมไปล่ะ”เฮ้อออ ผมควรบอกเรื่องนี้กับชาบูมั๊ยเนี่ย อย่าเพิ่งบอกล่ะกัน ตอนนี้โทรนัดไอ้เพื่อนบรรลัยนั่นก่อน เดี๋ยวแม่งนัดสาวไว้
***ตอนนี้ยาวกว่าปกติหน่อยนะค้ะ นานๆทีเราจะเจอพี่หมอเนอะขอยาวๆหน่อย ตอนต่อไปเราจะเจอพี่หมอลุคใหม่แล้ว ตื่นเต้นเนอะ ไรต์เขียนเองยังตื่นเต้นเลยอ่ะ ขอให้อ่านนิยายของไรต์ให้สนุกๆนะค้ะ >3< ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น