ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DAMN!! กูรักมึงได้ยังไง [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 56




    Chapter  3





                ผมพายัยเค้กกลับมาที่คอนโดแล้วพายัยเค้กไปนอน มั้งๆที่มันพึ่งจะหกโมงกว่าๆ ดูถ้าว่าวันนี้คงจะไปเจอออะไรมาเยอะ ถึงได้เหนื่อยจนหลับลึกขนาดนี้





                ผมออกมามินิมาร์ทตรงข้ามคอนโดเพื่อไปซื้อน้ำนมขนมของทั้งหลายของยัยเค้ก ผมเดินเข้ามาในร้านทุกคนในร้านมองผมแทบทุกคน เพราะอะไรผมก็ไม่รู้รู้แต่ว่าไม่ชอบ ผมเกลียดการถูกตกเป็นเป้าสายตา





                วันนี้เป็นวันที่ผมเครียดพอควรเลยเพราะมีเรื่องให้คิดเยอะ ทั้งเรื่องงาน ทั้งเรื่องของเค้า ทั้งเรื่องของพวกมันที่กำลังจะมาถึง ทุกสิ่งทุกอย่างรบเร้าผมมากไป ถึงผมจะเฉยชาแต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ผมเป็นคนนะมีรู้สึก ถ้าพวกมันมาผมจะทำยังไง ยัยเค้กชิเอลต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ ผมห่วง2คนนี้มาก





                ผมเดินไปหยิบของมาจนครบแล้วเดินวนไปที่ตู้เย็นอีกรอบเพื่อจะหยิบเบียร์มา3กระป๋อง ผมไม่ใช่คนดื่มแต่ก็ใช่ว่าดื่มไม่เป็นนี่





                คิดเงินเสร็จผมก็เดินออกจากมินิมาร์ทแล้วเดินไปตามทางเพื่อหาที่สงบๆนั่งพักผ่อนบ้าง  ผมเดินมาที่ไกลพอสมควรก็เจอกับสวนสาธาณะที่หนึ่งในโลก = =;





                ผมนั่งกินเบียร์ไปพลางคิดเลยต่างๆไปด้วย  ทั้งเรื่องในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน และหาวิธีแก้ไข้ต่างๆๆนานาไว้เพื่อเตรียมพร้อมกับอนาคตข้างหน้า





                เฮ้อ!!!”อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงผม เพราะมันไม่ใช่เสียงใครก็ไม่รู้





                ทำไมว่ะแม่ง เรื่องเหี้ยๆพวกนี้ต้องเกิดขึ้นด้วยอยู่ๆเสียงนั่นก็พูดขึ้นอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่ามันคือใคร รู้แต่ว่าเสียงมันอยู่ข้างหลังผม





                แม่งเอ๊ย!!! ทำไมไม่เข้าใจกูบ้างว่ะ ทำไม!!!”เสียงนั่นยังโวยวายไม่หยุด จนผ่านไปเกือยสิบนาที ผมก็เกิดความรำคาญ





                เงียบซักทีดิ๊ผมพหันไปพูดกับไอ้คนบ้าที่นั่งโวยวายไม่หยุดด้วยน้ำเสียงเรียบออกแนวรำคาญมันนิดๆ





                เสือก!”คำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของมัน





                หึ! งี่เง่า! โง่เขลา! แทนที่จะเอาเวลาไปคิดแก้ปัญหาของตัวเองกับเอาเวลามานั่งโวยวายให้คนอื่นเค้ารำคาญอยู่ได้






    ผมพูดออกมายาวแล้วหันหน้าไปมองหน้ามัน เพราะแสงสว่างที่เหลือน้อยทำให้ผมไม่รู้ว่ามันเป็นใครแต่มันคงเห้นหน้าผม เพราะแสงของไฟจากรถยนต์ของคนที่ผ่านไปผ่านมาสาดเข้าหน้าผมจนผมต้องหลับตาไว้






    พอรถยนต์คันนั้นผ่านไปผมก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากสวนสาธาณะทันที




     

    วันนี้ผมมาเรียนเช้าครับ โดยที่มีพวกน้ำข้าวอยู่ด้วย พวกเรา4คนนั่งคุยกันไปเรื่อยครับ แต่เหมือนผมจะไม่ได้อยู่ในวงการสนทนาของพวกเขาเลยซักนิด ผมเลยได้แต่มองไปรอบๆเหมือนคนบ้า แต่สายตาดันไปหยุดอยู่ที่มอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่กำลังขับมาด่วนความเร็วที่ไม่สูงนัก โดยที่มีชายฉกรรจ์2คนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซต์คันนั้น ทั้งสองใส่หมวกกันน็อคสีดำปกปิดใบหน้า ถ้าโดยทั่วๆไปผมคงนิดว่าเป็นพวกเก็บเงินกู้แต่บางอย่างบอกผมว่าไม่ใช่!!!!





                ผมไม่ได้ละสายตาจากมอเตอร์ไซต์คันใหญ่คันนั้นเลยซักนิด แต่พวกมันก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตจนผมเกือบจะวางใจแต่ยังไม่ทันไร ชายฉกรรจ์คนที่นั่งซ้อนอยู่ทำท่าทางที่จะหยิบอะไรออกมาจากข้างหลังซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ แต่ภายหลังจากไม่กี่วินาทีขาของผมก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อชายฉกรรจ์คนนั้นหยิบกระบอกมันวาวออกมาจากด้านหลังซึ่งทุกคนรู้จักมันดีในนามว่า  ปืน






                ระวังผมวิ่งอย่างเร็วเพื่อไปช่วยร่างสูงกว่าผมที่โดนปืนกระบอกมันเล็งอยู่โดยไม่รู้ตัว และร่างสูงร่างนั้นทุกคนก็รู้จักกันดีด้วย!!!





                ปั้งง!!!





                เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณทำให้ผู้คนแถวนั้นต่างหลบลงด้วยความกลัว แล้วเสียงมอเตอร์ไซต์คันนั้นก็บิดไปอย่างเร็ว






                บาดเจ็บมั๊ยผมถามร่างสูงที่ล้มลงไปก่อนที่ลูกตะกั่วจะแทรกเข้ามาในกาย






                มะ.....ไม่เสียงที่ช็อคถูกส่งมาถึงผม






                เฮ้ย! เกิดไรขึ้นว่ะ อะ...ไอ้โซนิคเสียงของพองเพื่อนของโซนิคดังขึ้น





                ละ เลือดๆ นิวพายเลือดออกเสียงของน้ำข้าวดังข้นทำให้ผมมองแผลที่ถูกตะกั่ววิ่งผ่านอย่างเฉียดฉิวไป






                มานี่ กูจะพาไปโรงพยาบาลเสียงของร่างสูงที่ผมช่วยไว้นามว่าโซนิคดังขึ้นทันทีหลังจากที่ทุกคนได้ตกตลึงกับเลือดบนแขนผม





                “ไม่ กูทำเองเรื่องแค่นี้จะไปโรงพยาบาลทำไมให้เสียเวลา ทำเอาดีกว่าเยอะอีกอย่างนึงที่โรงพยาบาลมึงแต่กลิ่นอายของยาหลายๆชนิดซึ่งผมไม่ชอบ






                อย่าดื้อ ไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวกูพาไปโซนิคพูดกับผมอย่างหงุดหงิด





                ถ้าจะทำ มึงทำสิผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ




                มึงจะบ้าหรอมึงโดนยิงนะเว้ย ไม่ใช่หกล้มมันโวยวายทันที




                งั้นก็อย่าเสือกผมพูดเสียงเรียบแล้วเดินออกมาจากบริเวณนั้นแล้วเดินไปทางออดี้สีดำของผมทันที เพื่อทำแผลในรถของผมมักมีอุปกรณ์ทำแผลไว้เสมอๆเพราะยัยเค้กชอบซนจนได้แผลประจำเลยต้องเอาไว้เพื่อเป็นอะไร





                ผมเริ่มทำแผลโดยการถอดเสื้อนักศึกษาออกก่อนที่จะเริ่มทำแผลบนแขนตัวเองอย่างชำนาญ





                ก๊อกๆๆ.





                เสียงเคราะกระจกรถของผมดังขึ้นทำให้ผมเงยหน้าจากแผลไปมองบุคคลที่เคาะกระจกเมื่อซักครู่ ก่อนจะเลื่อกระจกลงแล้วถามด้วยน้ำราบเรียบ





                “มีอะไรผมถามร่างสูงที่ยืนหน้างอคอหักอยู่ตรงประตูรถ





                เปิดประตูผมบอกผมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ





                ผมเปิดประตูให้มันเข้ามาอย่างง่ายดายเพราะมันไม่ใช่คนมีพิษมีภัยอะไรอยู่แล้ว





                มานี่กูทำให้ร่างสูงว่าแล้วแย่งอุปกรณ์ไปไว้กับตัวเองแล้วเริ่มลงมือทำแผลให้ผมอย่างเกๆกังๆเหมือนคนไม่เคยทำ แต่ผมก็ปล่อยให้มันทำไปเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าออกมาแผลจะเป็นแบบไหน




     

                หลังจากที่ทำแผลให้ผมเสร็จไอ้โซนิคถึงกลับหน้าซีดเลยครับ เป็นอะไรของมัน





                “มึงเป็นไรผมถามมันเสียงเรียบตามฉบับของผม แต่มันกลับตอบผมมาอย่างกวนตีน






                “กูลืมไปว่ากูกลัวเลือดควาย ทำจนเสร็จเพิ่งนึกว่าตัวเองกลัว เจริญ!!





                ไม่ต้องกลัวหรอก มึงทำแผลให้กูเสร็จแล้วเละแล้วผมบอกมันแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะหยิบเสื้อมาใส่ให้เรียบร้อย






                ไอ้เฉื่อย.....ใครเฉื่อยว่ะ ชื่อเฉยชิบหาย!!!






                “มึงเลยใคร ?ผมถามมันสั้นๆ






                มึงชัดเจนดี เรียกคนที่ช่วยชีวิตมึงว่าเฉื่อย ถ้าพูดจริงๆกูก็ไม่เฉื่อยหรอก ถ้าเฉื่อยป่านี้มีได้อยู่ในห้องผ่าตัดแล้ว =_=






                หึ!”ผมหัวเราะในหัวคอก่อนที่มันจะหน้างอ






                ขอบคุณนะเว้ยที่ช่วยอ่ะมันบอกแล้วเดินมาประชิดตัวผม ซึ่งเทียบกันแบบนี้ทำให้ผมรู้เลยว่ากูเตี้ยกว่ามัน -.,-





                อืมผมพยักหน้าแล้วเดินออกมาจากการยืนระยะประชิด






                มีอะไรให้กูช่วยก็บอกนะเว้ยมันตะโกนบอกก่อนจะวิ่งไป หึ! มันก็น่ารักเหมือนกันนี่







                พี่ชายฮับอยู่ๆก็มีเด็กตัวเล็กหน้าตาน่ารักน่าหยิกเรียกผม ผมจึงหันไปมองเด็กคนนั้นด้วยสายตาเรียบๆแต่เด็กคนนั้นกลับฉีกยิ้มให้ผม







                มีอะไรครับผมถามพลางย่อตัวลงให้ระดับความสูงเท่ากัน ก่อนจะยกมือบลูบหัวเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู








                มีคนฝากมาให้ครับ เขาบอกผมว่าห้ามบอกพี่ชายว่าเค้าเป็นใครแต่เขาใส่ชุดสีดำทั้งตัวใส่หมวกไม่น็อคด้วยผมถึงกลับหลุดขำกับคำพูดของเด็กน้อยที่พาผมงงงวยไหนจะศัพท์แปลกๆนั่นอีก หมวกไม่น็อค หรออืม ไม่น็อคจริงๆสินะ หึหึ!!







                ครับ ชอบคุณครับผมผมว่าแล้วหอมแก้มเด็กน้อยคนนี้แรงๆ






                เฮ้ ซีทายด์มาไดไงเนี่ยเสียงของบุคคลที่สามแทรกเข้ามาทำให้ผมหันไปมองหน้าบุคคลคนนั้นว่าเป็นใคร






                มาหาพี่โซนิค คิดถึงซีทายด์ว่าก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดขาของโซนิค โซนิคเองก็อุ้มซีทายด์ขึ้นมาแล้วหอมแก้มซีทายด์แรงสองสามที






                แล้วใครพามาล่ะ







                ลุงสนเด็กน้อยตอบแล้วชี้ไปที่รถคันหรูที่ไม่มีใครอยู่บนรถเลย





                ผมไม่ได้สนใจโซนิคกับซีทายด์ว่าทั้งสองจะคุยอะไรกัน แต่สนใจจดหมายแทนใครกันนะที่ฝากจดหมายนี่ไว้ให้ผม





                           

                            Hello! Pey นายสบายดีมั๊ย ? ฉันสบายดีถ้านายตายไป เอ้อ! วันนี้สนุกมั๊ยเกมของฉันน่ะ รู้มั๊ยชื่อเกมมันชื่ออะไร อืมมม เดี๋ยวบอกให้ Dark เกมแห่งความมืดยังไงล่ะเกมที่ใช้ชีวิตคนเป็นเดินพัน หึหึ! ไว้วันหลังฉันจะส่งมาอีกนะทั้งจดหมายและเกมDarkของฉัน บายคิดถึงเสมอ        



                                                                                                                                        ...ไนท์แมร์....



     

    ***เจี๊ยกกก O[]o ไนท์แมร์ใครกันนะ แล้วอยู่ๆโผล่มาจากหนายยยเกือบแล้วมั๊ยล่ะพี่โซนิคของเราเกือบตายแล้วล่ะพี่พายเองก็เท่ห์ระเบิดจนไรท์คิดว่าจะปั้นนางให้เป็นเมะแทนโซนิคแล้วล่ะอ่านแล้วไม่เม้นไม่ว่า พอดีที่บ้านไม่เคร่งเรื่องกานเม้นที่บ้านเคร่งเรื่องการอ่าน ฮ่าๆๆ (อยากเล่นมั้งอ่า ขอบคุณสำหรับทุกเม้นนะจ้ะ แต่ถ้ามีอะไรไม่ดีก็ติได้เลยจ้า ไรท์ไม่ซี ฮ่าๆๆๆ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×