ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : \" ฝันกลางวัน\"
“ได้คะ จดนะค่ะ
.” ผมตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ แต่จู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งดังเข้ามา
“ เฮ่ย!! ถ้าไม่นั่งพี่ขอนั่งนะ”
ใครว่ะ? เอ๋อ นี้ผมแค่คิด ผมยังยืนอยู่ตรงเก้าอี้อยู่เลย ยังไม่ได้ขอนั่งเสียด้วยซ้ำ แล้วนี้มันอะไรกันอีก   
ไอ้บึ้ก  ( ตัวสูงจิ๊บ หน้าตาเหมือนหัวหน้ากลุ่มกบฏ ภาคใต้) มันมาจากไหน ถือดียังไงมาสั่งผม ดีนะที่ผมเป็นคนใจเย็น  ไม่งั้น ( ผมได้นอนโรงบาลไปแล้ว)
      ไอ้บึ้กนั้น เข้าไปนั่งแทนที่ผมทันที ที่ที่ผมควรจะได้นั่ง ได้เบอร์ ได้ยินเสียเพราะๆ แต่มันกลับ
  “ ตึง! “ เสียงรถจอดอีกครั้ง
“เฮ่ย นี่มันป้ายที่สองแล้ว” ผมแทบไม่เหลือเวลาแล้วเอาไงดี ผม เรื่องชกต่อยใครผมไม่ค่อยเก่ง (ส่วนมากจะถูกต่อยมากกว่ามากกว่า) ผมคงยื้อแย่งเก้าอี้ กับมันด้วยแรงคงไม่ไหวแน่
“ สมอง สมอง “ใช่นั้นแหละทางออก เอาไงดี ผมเริ่มตั้งคำถาม ผมเริ่มลุยทันที ผมสะกิดที่ไหล่มัน
“ เออ พี่ครับ คนที่อยู่เบาะหลัง เค้า แบบว่า เออ เรียกพี่ครับ ”
ไอ้บึ้กหันมามองผมพร้อมกับลุกพรวดไปยังด้านหลัง รู้สึกว่าผมได้ยินมันบ่นอะไรซักอย่างนี้แหละ อะไร ซัด เซิด ฆ่า .ตื้บแม่ง ประมาณเนี้ย ผมเองก็ได้ยินไม่ค่อยถนัด เท่าไรนัก  ผมรีบสวมลอยเข้าไปนั่งทันที แต่ก่อนอื่นต้องทำตามบทก่อน
“ขะ ขะ ขอ ทะ..โทด..คะ..ครับ “ ซวยแล้วไงโรคติดโอ่งของผมมันกำเริบ อีกแล้ว
“ มีอะไรคะ” หน้าตาเธอ  น่ารักมาก ปากนิด จมูกหน่อย หน้าสวยคม เป็นธรรมชาติ ปราศจากเครื่องสำอาง เล่นเอาผมตาค้าง แต่ก็ต้องรีบตอบเพราะกลัวว่าจะไม่ทัน
“ มี คน นั่ง มั้ย ครับ ” ผมพูดช้าเพื่อหลีกเลี่ยงอาการติดอ้าง
“ เปล่า ก๊าบ ผมไม่ได้เรียกก๊าบ” เสียงหนึ่ง ร้องลั่นดังมาจากด้านหลังรถ ผมหันไปดูแว่บนึง ไอ้บึ้ก มันกำลังจิก คอเสื้อไอ้แว่น ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พร้อมกับทำท่าจะชก ( หรือไม่ก็ชกไปแล้วเพรากระจกแว่นข้างหนึ่งร้าว)    ผมเดาได้เลยว่า มันเป็นผลงานของผม แต่ผมเองก็มีความรับผิดชอบมากเพียงพอที่จะ “ หนี” ผมรีบวิ่งไปด้านหน้าโดยทิ้ง หนึ่งสาวงามที่ยังไม่รู้จักชื่อ หนึ่งผู้ล่า และ หนึ่งเหยื่อ(แว่นผู้โชคร้าย/โชคเลือด)  ไว้เบื่องหลัง ผมรีบโดดลงมาทันที เพราะคิดว่ารอดแน่ ผมกลิ้งลงมาเล็กน้อยแต่พองาม แต่หัวผมก็ดันไปโขกกับเสา อะไรบางอย่าง ผมรีบชะโงกขึ้นไปดูทันที   
    “ ป้ายรถเมล”  ไม่เป็นผลดีเลย ทั้งเรื่องที่ผมกระโดดออกมาหนีไอ้บึ้ก ทั่งที่อีกไม่กี่ วิ รถก็จะจอด และ ไอ้บึ้กก็จะลงมาตื้บผม เอาไงดีฟะ? ตรงป้ายมีคนอยู่เป็นจำนวนมากทั้ง เด็ก ประถมที่เล่นเขี่ยการ์ดอยู่  ทั่งผู้ใหญ่ วัยทำงาน  รถจอดห้างจากป้ายไม่เกิน3 เมตร ผมเห็นไอ้บึ้กมองซ้ายแลขวา หาตัวผม ให้วุ่น มันเห็นผมแล้ว มันชี้นิ้วมาทางผม  ผมรีบแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคน รีบกระชากกางเกง ที่ผมใส่อยู่ขึ้นให้สูงเกือบอก  จากนั้น ก็รีบไปนั่งรวมกับเด็กๆที่เล่นเขี่ยการ์ด ผมทำท่าเล่นด้วย ในขณะที่หน้าก็ก้มลงต่ำ จนหัวเกือบติดท้อง ไอ้บึ้ก มองข้ามผม
“ แง---แง---พี่มาแย่งการ์ดผมเล่นทามมาย” ไอ้เด็กเปรต มันดันร้องลั่นขึ้นกลางวง ทำให้ เพื่อนๆของมันร้องตามไปด้วย  คนที่มายืนรอรถต่างก็หันมามองทางผม    ดูเหมือนว่าการที่ผมกระชากกางเกงให้สูงมากขึ้น จะไม่ได้ช่วยกระชากวัยของผมเลยแม้แต่น้อย แต่ไอ้บึ้กก็ยังคงมองไม่เห็นผม นับว่ายังพอยืดชีวิตผมออกไปได้อีกหน่อย ผมมองไปรอบๆ  จากที่ผมดูแล้ว ถ้าผมลุกขึ้นมันหาผมเจอแน่ แต่ถ้านั่งนานเกินไป ไอ้เด็กเปรตพวกนี้ ก็อาจแหกปากจนไอ้บึ้กได้ยินก็ได้ ผมตัดสินใจรีบ เอามือขยี้ผมตัวเองจนผมยุ่งไปหมด พร้อมกับขยำเสื้อจนยับยู่ยี่ ปากก็ทำเสียง
      ”บรื้นนน บรื้มมมมมม” ( เสียงตอนเล่นน้ำลายตอนเด็กๆ)
หวังเพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่สังเกต  แต่ไอ้เด็กเปรตพวกนี้ก็ยังไม่หยุดร้อง แถมไอ้บึ้กก็ยังเดินเข้ามาใกล้ๆผมอีกด้วย ผมจึงใช้ท่าไม้ตาย คว้าการ์ดมาเล่นทำเป็น ยานอวกาศ
“ บรื้มมมมมมมม” ตอนนี้เสื้อของผมเต็มไปด้วยน้ำลายตัวเอง แต่การแสดงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
“ เอา เอา การ์ด..ขอ ของ ผมมานะ”
  ไอ้เด็กพวกนี้มันเริ่มสะอีกสะอื้น และ ก็แบะหน้าหนักกว่าเก่า เตรียมตัวปล่อยโฮ ก็อกสอง
“ ผั้วะ!! \"    ผมแกล้งทำเป็นนำยาน( การ์ด ) ลงจอดแบบแฉลบ หัวของมัน มันสะดุ้งเฮือกทันที เพราะความเร็วของยานนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ไอ้เด็กนั้นที่ทำท่าจะแหกปากเริ่มลังเลที่จะ แหกปากต่อ  มันต้องเลือกว่า จะให้เอายานลงจอดอีกหรือว่าจะหุบปาก  สายตาของผมและ ไอ้เด็กเปรตนั้นจ้องกัน ราวกับว่า ต้องการที่จะวัดใจอีกฝ้าย มันเริ่มสะอึกก็อกสอง ส่วนผมก็เริ่มปรับยานให้สูงขึ้นพร้อมที่จะลงจอดอีกครั้ง  คราวนี้ถ้าทางมันเอาจริงครับ
“ อุด..อุด ฮุด” เสียงกระซิกกระซากดังอีกครั้ง ผมรีบก้มหน้าไปใกล้ๆมันพร้อมกับ จิกคอ( ไม่มีใครสังเกต)แล้วก็พูดเบาๆว่า
“ เฮ่ย ไอ้น้อง แกฟังชั้นพูดให้ดีๆนะ อันดับแรก ตอนนี้ยานอยู่สูงกว่าเก่า แน่นอนว่ามันต้องแรงกว่าเก่าแน่
อันดับที่สอง ชั้นพูดจริง ทำจริง(พึ่งพิงได้)”  มันหยุดสะอึกสะอื้นทันที
“ เอาหละ ที่นี้ ยิ้ม แล้วก็หัวเราะ พร้อมๆกันนะ”
ผมบอกพร้อมกับมองไปที่เพื่อนๆของมัน  พวกมันเริ่มหัวเราะ  ( แต่เสียงเหมือนพวกวิกลจริตมากกว่า)
    แค่นี้ การแสดงก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยที่ทุกคนคิดว่า ผมเป็นเด็ก(ที่เรียนซ้ำแล้วซ้ำอีก)  แล้วไอ้บึ้กก็เดินไปหาผมที่อื่นต่อ  พอมันไป ผมก็รีบ หันมาหานางในฝัน แต่ มันสายเกินไปหล่อนหายไปแล้ว ผมได้แต่เดินคอตก กลับบ้านท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนรอบข้าง ที่ดูเหมือนว่า จะตอกย่ำความผิดพลาดของผมครั้งนี้ จนกลับมาถึงบ้าน ผมถึงได้รู้ว่า ที่พวกเค้าหัวเพราะกันนั้น ไม่ใช่เพราะ ที่ผมคลาดกับสาว แต่ เพราะ การแต่งกายของผมมันกระชากวัยมากเกินไป 
      เย็นวันนั้นผมใบหน้าของผม ดูเหมือนว่า จะมีแต่ลอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ ทุกๆอย่างดูสดใส แม้กระทั้ง ลอยปูด ที่โดนแม่ตบโทษฐานกลับบ้าช้า มันก็ยังดูสดใส(สีแดงๆ) แม้แต่ในยามกินข้าวเย็น ผมดูเจริญอาหารอย่างมากทั้งๆที่ยังไม่มีกับ เข้าถึงท้องผมเลย ก่อนนอนคืนนั้นผมได้แต่ไหว้พระขอให้ พรุ่งนี้ผมได้พบกับ น้องคนนั้นอีกครั้ง ( แต่อย่างให้เจอไอ้บึ้กนั้นเลย) ในคืนนั้น แทนที่ผมจะฝันถึง นางในฝัน แต่ไหง กลับมาฝันว่า ตัวเองแต่ชุดนักเรียน ประถมวิ่งรอบๆป้ายรถเมลล์ แถมในมือยังถือ ยานอวกาศ(การ์ด) พร้อมกับ ทำเสียง บรื้มมมม ก็ไม่รู้   
“ เฮ่ย!! ถ้าไม่นั่งพี่ขอนั่งนะ”
ใครว่ะ? เอ๋อ นี้ผมแค่คิด ผมยังยืนอยู่ตรงเก้าอี้อยู่เลย ยังไม่ได้ขอนั่งเสียด้วยซ้ำ แล้วนี้มันอะไรกันอีก   
ไอ้บึ้ก  ( ตัวสูงจิ๊บ หน้าตาเหมือนหัวหน้ากลุ่มกบฏ ภาคใต้) มันมาจากไหน ถือดียังไงมาสั่งผม ดีนะที่ผมเป็นคนใจเย็น  ไม่งั้น ( ผมได้นอนโรงบาลไปแล้ว)
      ไอ้บึ้กนั้น เข้าไปนั่งแทนที่ผมทันที ที่ที่ผมควรจะได้นั่ง ได้เบอร์ ได้ยินเสียเพราะๆ แต่มันกลับ
  “ ตึง! “ เสียงรถจอดอีกครั้ง
“เฮ่ย นี่มันป้ายที่สองแล้ว” ผมแทบไม่เหลือเวลาแล้วเอาไงดี ผม เรื่องชกต่อยใครผมไม่ค่อยเก่ง (ส่วนมากจะถูกต่อยมากกว่ามากกว่า) ผมคงยื้อแย่งเก้าอี้ กับมันด้วยแรงคงไม่ไหวแน่
“ สมอง สมอง “ใช่นั้นแหละทางออก เอาไงดี ผมเริ่มตั้งคำถาม ผมเริ่มลุยทันที ผมสะกิดที่ไหล่มัน
“ เออ พี่ครับ คนที่อยู่เบาะหลัง เค้า แบบว่า เออ เรียกพี่ครับ ”
ไอ้บึ้กหันมามองผมพร้อมกับลุกพรวดไปยังด้านหลัง รู้สึกว่าผมได้ยินมันบ่นอะไรซักอย่างนี้แหละ อะไร ซัด เซิด ฆ่า .ตื้บแม่ง ประมาณเนี้ย ผมเองก็ได้ยินไม่ค่อยถนัด เท่าไรนัก  ผมรีบสวมลอยเข้าไปนั่งทันที แต่ก่อนอื่นต้องทำตามบทก่อน
“ขะ ขะ ขอ ทะ..โทด..คะ..ครับ “ ซวยแล้วไงโรคติดโอ่งของผมมันกำเริบ อีกแล้ว
“ มีอะไรคะ” หน้าตาเธอ  น่ารักมาก ปากนิด จมูกหน่อย หน้าสวยคม เป็นธรรมชาติ ปราศจากเครื่องสำอาง เล่นเอาผมตาค้าง แต่ก็ต้องรีบตอบเพราะกลัวว่าจะไม่ทัน
“ มี คน นั่ง มั้ย ครับ ” ผมพูดช้าเพื่อหลีกเลี่ยงอาการติดอ้าง
“ เปล่า ก๊าบ ผมไม่ได้เรียกก๊าบ” เสียงหนึ่ง ร้องลั่นดังมาจากด้านหลังรถ ผมหันไปดูแว่บนึง ไอ้บึ้ก มันกำลังจิก คอเสื้อไอ้แว่น ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พร้อมกับทำท่าจะชก ( หรือไม่ก็ชกไปแล้วเพรากระจกแว่นข้างหนึ่งร้าว)    ผมเดาได้เลยว่า มันเป็นผลงานของผม แต่ผมเองก็มีความรับผิดชอบมากเพียงพอที่จะ “ หนี” ผมรีบวิ่งไปด้านหน้าโดยทิ้ง หนึ่งสาวงามที่ยังไม่รู้จักชื่อ หนึ่งผู้ล่า และ หนึ่งเหยื่อ(แว่นผู้โชคร้าย/โชคเลือด)  ไว้เบื่องหลัง ผมรีบโดดลงมาทันที เพราะคิดว่ารอดแน่ ผมกลิ้งลงมาเล็กน้อยแต่พองาม แต่หัวผมก็ดันไปโขกกับเสา อะไรบางอย่าง ผมรีบชะโงกขึ้นไปดูทันที   
    “ ป้ายรถเมล”  ไม่เป็นผลดีเลย ทั้งเรื่องที่ผมกระโดดออกมาหนีไอ้บึ้ก ทั่งที่อีกไม่กี่ วิ รถก็จะจอด และ ไอ้บึ้กก็จะลงมาตื้บผม เอาไงดีฟะ? ตรงป้ายมีคนอยู่เป็นจำนวนมากทั้ง เด็ก ประถมที่เล่นเขี่ยการ์ดอยู่  ทั่งผู้ใหญ่ วัยทำงาน  รถจอดห้างจากป้ายไม่เกิน3 เมตร ผมเห็นไอ้บึ้กมองซ้ายแลขวา หาตัวผม ให้วุ่น มันเห็นผมแล้ว มันชี้นิ้วมาทางผม  ผมรีบแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคน รีบกระชากกางเกง ที่ผมใส่อยู่ขึ้นให้สูงเกือบอก  จากนั้น ก็รีบไปนั่งรวมกับเด็กๆที่เล่นเขี่ยการ์ด ผมทำท่าเล่นด้วย ในขณะที่หน้าก็ก้มลงต่ำ จนหัวเกือบติดท้อง ไอ้บึ้ก มองข้ามผม
“ แง---แง---พี่มาแย่งการ์ดผมเล่นทามมาย” ไอ้เด็กเปรต มันดันร้องลั่นขึ้นกลางวง ทำให้ เพื่อนๆของมันร้องตามไปด้วย  คนที่มายืนรอรถต่างก็หันมามองทางผม    ดูเหมือนว่าการที่ผมกระชากกางเกงให้สูงมากขึ้น จะไม่ได้ช่วยกระชากวัยของผมเลยแม้แต่น้อย แต่ไอ้บึ้กก็ยังคงมองไม่เห็นผม นับว่ายังพอยืดชีวิตผมออกไปได้อีกหน่อย ผมมองไปรอบๆ  จากที่ผมดูแล้ว ถ้าผมลุกขึ้นมันหาผมเจอแน่ แต่ถ้านั่งนานเกินไป ไอ้เด็กเปรตพวกนี้ ก็อาจแหกปากจนไอ้บึ้กได้ยินก็ได้ ผมตัดสินใจรีบ เอามือขยี้ผมตัวเองจนผมยุ่งไปหมด พร้อมกับขยำเสื้อจนยับยู่ยี่ ปากก็ทำเสียง
      ”บรื้นนน บรื้มมมมมม” ( เสียงตอนเล่นน้ำลายตอนเด็กๆ)
หวังเพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่สังเกต  แต่ไอ้เด็กเปรตพวกนี้ก็ยังไม่หยุดร้อง แถมไอ้บึ้กก็ยังเดินเข้ามาใกล้ๆผมอีกด้วย ผมจึงใช้ท่าไม้ตาย คว้าการ์ดมาเล่นทำเป็น ยานอวกาศ
“ บรื้มมมมมมมม” ตอนนี้เสื้อของผมเต็มไปด้วยน้ำลายตัวเอง แต่การแสดงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
“ เอา เอา การ์ด..ขอ ของ ผมมานะ”
  ไอ้เด็กพวกนี้มันเริ่มสะอีกสะอื้น และ ก็แบะหน้าหนักกว่าเก่า เตรียมตัวปล่อยโฮ ก็อกสอง
“ ผั้วะ!! \"    ผมแกล้งทำเป็นนำยาน( การ์ด ) ลงจอดแบบแฉลบ หัวของมัน มันสะดุ้งเฮือกทันที เพราะความเร็วของยานนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ไอ้เด็กนั้นที่ทำท่าจะแหกปากเริ่มลังเลที่จะ แหกปากต่อ  มันต้องเลือกว่า จะให้เอายานลงจอดอีกหรือว่าจะหุบปาก  สายตาของผมและ ไอ้เด็กเปรตนั้นจ้องกัน ราวกับว่า ต้องการที่จะวัดใจอีกฝ้าย มันเริ่มสะอึกก็อกสอง ส่วนผมก็เริ่มปรับยานให้สูงขึ้นพร้อมที่จะลงจอดอีกครั้ง  คราวนี้ถ้าทางมันเอาจริงครับ
“ อุด..อุด ฮุด” เสียงกระซิกกระซากดังอีกครั้ง ผมรีบก้มหน้าไปใกล้ๆมันพร้อมกับ จิกคอ( ไม่มีใครสังเกต)แล้วก็พูดเบาๆว่า
“ เฮ่ย ไอ้น้อง แกฟังชั้นพูดให้ดีๆนะ อันดับแรก ตอนนี้ยานอยู่สูงกว่าเก่า แน่นอนว่ามันต้องแรงกว่าเก่าแน่
อันดับที่สอง ชั้นพูดจริง ทำจริง(พึ่งพิงได้)”  มันหยุดสะอึกสะอื้นทันที
“ เอาหละ ที่นี้ ยิ้ม แล้วก็หัวเราะ พร้อมๆกันนะ”
ผมบอกพร้อมกับมองไปที่เพื่อนๆของมัน  พวกมันเริ่มหัวเราะ  ( แต่เสียงเหมือนพวกวิกลจริตมากกว่า)
    แค่นี้ การแสดงก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยที่ทุกคนคิดว่า ผมเป็นเด็ก(ที่เรียนซ้ำแล้วซ้ำอีก)  แล้วไอ้บึ้กก็เดินไปหาผมที่อื่นต่อ  พอมันไป ผมก็รีบ หันมาหานางในฝัน แต่ มันสายเกินไปหล่อนหายไปแล้ว ผมได้แต่เดินคอตก กลับบ้านท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนรอบข้าง ที่ดูเหมือนว่า จะตอกย่ำความผิดพลาดของผมครั้งนี้ จนกลับมาถึงบ้าน ผมถึงได้รู้ว่า ที่พวกเค้าหัวเพราะกันนั้น ไม่ใช่เพราะ ที่ผมคลาดกับสาว แต่ เพราะ การแต่งกายของผมมันกระชากวัยมากเกินไป 
      เย็นวันนั้นผมใบหน้าของผม ดูเหมือนว่า จะมีแต่ลอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ ทุกๆอย่างดูสดใส แม้กระทั้ง ลอยปูด ที่โดนแม่ตบโทษฐานกลับบ้าช้า มันก็ยังดูสดใส(สีแดงๆ) แม้แต่ในยามกินข้าวเย็น ผมดูเจริญอาหารอย่างมากทั้งๆที่ยังไม่มีกับ เข้าถึงท้องผมเลย ก่อนนอนคืนนั้นผมได้แต่ไหว้พระขอให้ พรุ่งนี้ผมได้พบกับ น้องคนนั้นอีกครั้ง ( แต่อย่างให้เจอไอ้บึ้กนั้นเลย) ในคืนนั้น แทนที่ผมจะฝันถึง นางในฝัน แต่ไหง กลับมาฝันว่า ตัวเองแต่ชุดนักเรียน ประถมวิ่งรอบๆป้ายรถเมลล์ แถมในมือยังถือ ยานอวกาศ(การ์ด) พร้อมกับ ทำเสียง บรื้มมมม ก็ไม่รู้   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น