ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aladdin : จอมโจรทะเลทราย

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 56


     

                อาซูแยกตัวออกมาจากกองคาราวานหลังจากเก็บข้าวเก็บของเสร็จแล้วเขาก็ขอนาซินแยกตัวออกมาทำธุระ

               

    เจ้าจะไปทำอะไรที่ไหนหละ  ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำมากแล้วด้วยนะ  ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีกว่านะ

                เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกพรุ่งนี้เราก็ต้องแยกกันแล้วหลังจากข้าช่วยพวกเจ้าขายของเสร็จอาซูโต้กลับไปด้วยความที่ไม่อยากให้นาซินตามมาด้วย

                ก็เพราะงั้นไงเจ้าถึงต้องให้ข้าไปด้วย  ถ้าเจ้าเจอโจรกลางทางหละจะว่ายังไงแล้วใครจะอยู่ช่วยข้าขายของกัน นาซินพยายามตื้อที่จะไปด้วยแต่ก็ถูกอาซูปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

                ถ้าเจ้าจะยืนยันอย่างนั้นหละก็ข้าก็ไม่ขัดเจ้าแล้ว  แล้วก็ระวังตัวด้วยหละคนในเมืองบอกว่าตอนนี้เจ้าจอมโจรอาลาดินมันอยู่ที่นี้ด้วยนะนาซินเตือนอาซูด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็สังเกตเห็นว่าอาซูแสดงอาการเหมือนพยายามกดความรู้สึกเอาไว้

                ระ...เหรอ  งั้นข้าจะระวังแล้วกันนะเขาตอบพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ บนใบหน้าแล้วหันหลังเดินแยกออกมา  นาซินยังมองแผ่นหลังของเพื่อนใหม่เดินผ่านซุ้มประตูหินสีน้ำตาลหายไปในเงามืดแล้วอย่างสงใสว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน

               

                หลังจากแยกออกมาเข้าเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ลัดและไว้พอที่จะไปและกลับมาในเวลาอันสั้นเพื่อตัดความสงใสของทุกคน  ซึ่งถ้าทุกคนคิดก็คงเป็นแค่ทางแคบๆ ตัดระหว่างบ้านแต่ละหลังแต่ทางที่เขาไปคือหลังคาพื้นราบของบ้านผู้คน  กระโดดไปกระโดดมาจนกลัวว่าจะมีคนเห็นหรือได้ยินเสียงของเขาหรือเปล่า

               

    แสงอาทิตย์เริ่มมืดลงทุกที่อาการก็เริ่มเย็นมากแล้วถ้าเทียบกับตอนกลางวันนับว่าเป็นเรื่องปกติของทะเลทราย  กระแสลมเย็นๆ พัดผ่านกระทบใบหน้าเบาๆ ทำให้สบายตัวขึ้นมาก

               

    หลังจากเดินทางมาอยู่นานเขาก็มาถึงจุดนัดพบที่เขานัดไว้กับอีกคน  เขากระโดดลงจากหลังคาสูงสองชั้นโดยที่ไม่มีอาการเหมือนกับว่าเจ็บหรืออะไรใดๆ เขาเดินตรงเข้าไปยังบ้านหลังตรงหน้าเปิดประตูไม้เก่าๆ เข้าไปโดยไม่บอกกล่าวหรืออะไรใดๆ กับเจ้าของบ้าน

               

    ภายในบ้านเงียบสงัดไม่มีเสียงอะไรแม้ลมพัดมีเพียงตะเกียงไฟส่องสว่างที่ถูกจุดอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเท่านั้น  เขาก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ ด้วยความระวัง  ใบหน้าดูเคร่งเครียดต่างจากตอนแรกอย่างชัดเจน

               

    เขาหยุดก้าวเท้ารู้สึกถึงลมที่โต้กับวัตถุบางอย่าง  ใบมีดคมฟันลงมาหวังให้คอเขาขาดไม่รอช้าที่จะก้มหลบใบมีดหันหลังกลับมามองและสุ่มจับส่วนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นมือของคนที่ถือมีดเล่มนี้  เขาชกหมัดข้างที่ยังว่างอยู่เข้าไปในความมืดแล้วเตะตัดตรงส่วนที่คิดว่าน่าจะเป็นส่วนขาเพื่อให้เขาล้มกระแทกพื้น

               

    ตึ๊ง!!!

                ร่างในเงามืดนั้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง  เขาคงไม่คิดจะทำอะไรอีกแล้วหลังจากที่โดนทำอย่างนั้นไป

               

    เลิกเล่นสักที่เถอะคูฉันเบื่อกับมุกนี้ของนายแล้วนะเขาตะวาดคนที่นอนอยู่ในเงาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด

                แหม  ก็แค่อยากเล่นสนุกนิดหน่อยเองง่าเสียงที่ฟังดูเหมือนคนรู้สึกผิดปนๆ กับความขี้เล่นอีกเล็กน้อยและแสงไฟที่ค่อยๆ สว่างขึ้นทำให้เริ่มเห็นห้องนี้ชัดเจนขึ้น

               

    ห้องนี้ไม่มีเป็นห้องว่างๆ อย่างที่คิดมันเต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ อาวุธและชุดเกราะต่างๆ มากมายเต็มไปหมด  ที่ติดกำแพงกลางห้องมีเตาหลอมขนาดใหญ่ที่มีไฟลุกโชนอยู่ข้างใน  ซึ่งทำให้เดาได้ไม่ยากว่าที่นี้คือร้านตีเหล็ก

               

    นึกว่านายจะไม่มาซะแล้วชายที่โจมตีอาซูก่อนหน้านี้พูดขึ้นพร้อมกับพยุงตัวเองขึ้นมา

                นึกว่านายจะต้อนรับฉันดีกว่านี้อาซูพูดกลับไปอย่างกวนประสาท

               

    ผมสีเทาซอยสั้นสะท้อนกับไฟทำให้ใบหน้าเหนุ่มขี้เล่นดูเข้มขึ้นอย่างสะดุดตา  ดวงตาสีน้ำเงินเข้มงดงาม  เขาชื่อ คู เป็นช่างทำอาวุธที่เก่งที่สุดในเมืองแต่ก็มีคนรู้จักน้อยเพราะเขามักจะทำร้านให้ดูเหมือนร้างจึงมีคนเข้าใจผิดบ่อยๆ

               

    อาบูเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้เจอมันนานเลยตั้งแต่ที่นายออกไปคูพูดพร้อมกับดาบเข้ากองอาวุธรกๆ

                ก็ยังดีอยู่  แต่ตอนนี้คงจะไม่หาอะไรกินระหว่างรอฉันเข้ามาหานาย

                แง่  ฉันอยากเจอมันง่าไม่เห็นตั้งนานแล้วคูเอาคางชันโต๊ะทำงานของเขาเหมือนกับคนหมดแรง

                แย่หน่อยนะ  งั้นก่อนที่ฉันจะออกจากเมืองฉันจะแวะมาหาอีกทีแล้วกัน

                จริงดิ!! ” คูลุกขึ้นอย่างเร็วเมื่อได้ยินว่าเจ้าเพื่อนตัวน้อยของเขาจะมาหาในอีกไม่กี่วันนี้

                ฉันล่อเล่น...เขาพูดด้วยใบหน้าเย็นชาเพื่อตัดความเพ้อของคนตรงหน้าที่ดี้ด้าไม่ต่างกับเด็กตัวเล็กๆ

                ง่านายก็ชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลยนะ  ฉันมีของขวัญให้มันฉันอยากให้กับมือตัวเองนะ  มันคงมีประโยชน์กับมันและนายด้วยเขาพูดพลางก้มหยิบบางอย่างจากในกล้องใต้โต๊ะ

                กรงเล็บหรอ? นี้คูนายรู้ใช้ไหมว่าอินทรีกรงเล็บมันแหลมอยู่แล้วหนะ

                ก็ใช้แต่มันจะช่วยป้องกันกรงเล็บไม่ให้เสียหายและช่วยเพิ่มกำลังในการข่วนหรือดึงด้วยนะ  ฉันว่ามันน่าจะชอบ

                “ … ” อาซูจ้องเข้าไปในตาเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาและเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

                หรือเปล่าเขาพูดต่ออย่างกล้าๆ กลัวๆ

                แล้วของที่ฉันขอไว้หละอยู่ไหนเมื่ออาซูพูดจบเขาเก็บกรงเล็บเหล็กเข้ากระเป๋าหลัง

                อ่อ  อยู่นี้รอเดี่ยวนะจะไปเอาให้

     

    หลังพูดเสร็จคูเดินออกไปทางประตูด้านหลังแล้วปล่อยให้อาซูอยู่ตามลำพังสองคนกับอาวุธมากมาย เขาเริ่มเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ตามห้อง  ปลายหอมแหลมคมเงาวับจนสะท้อนเห็นใบหน้าคมดับดวงตาที่ดุดัน  แต่ยังมีอีกสิ่งที่สามารถเห็นได้จากเงาสะท้อน

     

    นายยังไม่ตายอีกหรอ  อาลาดินเสียงเรียบๆ ทำลายความเงียบเมื่อครู่  แต่คำพูดสุดท้ายของเจ้าของเสียงนั้นฟังดูคุ้นๆ

    คำทำนายบอกว่าฉันจะตายในอีกสองอาทิตย์  จำได้ไหม

     

    แท้จริงแล้วอาซูคืออาลาดินจอมโจรทะเลทรายที่ลำลือกันไปทั่วทุกแห่งในทะเลทราย  แต่ทำไมจอมทะเลทรายอย่างเขาถึงได้มาอยู่กับกองคาราวานของนาซินได้เพียงเพราะโดนพายุทะเลทรายเท่านั้นหรอ

     

    เขาหันหลังกลับมาสบตาสีแดงข้างเขียวข้างของเจ้าของเสียงเมื่อครู่ที่เย็นชาโดยรู้สึกได้ทั้งที่ยังไม่หันไปมองด้วยซ้ำ

     

    ผมสีแดงอมส้มคล้ายสีของทะเลทรายยามอาทิตย์ตกดิน  ดวงตาสีแดงเขียวคมให้รู้สึกเย็นชาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน 

     

    ไงซาอะไม่เจอกันนานนะ  ไม่คิดว่านายจะยังอยู่กับคูอยู่อาลาดินพูดกัดชายตรงหน้าอย่างไม่ยอม

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนใกล้ตายอย่างนายซาอะโต้กลับพร้อมกับชาตาเย็นชาตามฉบับของเขา

     

    ทั้งสองคนเริ่มเงียบลงจ้องตากันอย่างเอาเลือดเอาเนื้อกัน  ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรหรือแม้ขยับตัวเฝ้ารอให้บางสิ่งทำหลายความเงียบนี้ก่อนจะมีการนองเลือด

     

    ตึ๊ก!!!

                เสียงลังไม้กระทบกับพื้นดังลั่นทำลายบรรยากาศเมื่อครู่  ทั้งสองคนที่ตอนแรกจ้องตากันอยู่กลับมองขึ้นไปข้างบนจุดที่ลังไม้ปริศนานั้นตกลงมาอย่างพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

               

     

    โอ้  โทษทีนะโดนใครบาดเจ็บไหม เสียงหนุ่มดังขึ้นมาตามลังไม้ทำให้เขาทั้งสองคนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟังอย่างที่เขาคิด

                โทษทีที่ทำให้ตกใจกันนะคือฉันขี้เกียจจะลงหลังร้านเลยทำทางไว้ตรงนี้ให้ลงง่ายๆ คูลงมาจากรูขนาดใหญ่จุดเดียวกับที่ลังไม้ตกลงมา

               

    เขาตรงไปหยิบลังที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนขึ้นมาถือไว้แล้วหันมามองซาอะเหมือนจะถาม

               

    ได้ข้าวเย็นมาแล้วเดี่ยวข้าจะทำให้กินแล้วกัน

                ข้าไม่ได้หมายความเรื่องนั้น  ข้าหมายถึงยาที่ข้าบอกให้ไปซื้อต่างหาก

                ถ้าเรื่องนั้นหละก็อยู่ในมือนายตั้งนานแล้ว

               

    คูทำถ้าเหมือนจะงงกับประโยคเมื่อครู่แต่กลับหันมามองให้มือตนก็เห็นขวดยาที่ใส่น้ำสีฟ้าสว่างอยู่ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

               

    แล้วนี้ของที่นายขอมาอาลาดินทุกอย่างอยู่ในกล้องนี้แล้ว  แต่ก่อนที่จะใช้ให้เอาน้ำในขวดนี้เทลงไปก่อนนะทุกอย่างถึงจะเข้าที่ คูยื่นกล้องไม้สีน้ำตาขอบเป็นเงินสะท้อนแสงให้กับอาลาดิน

                ขอบคุณมากนะคู  งั้นฉันกลับก่อนนะ  แล้วก็อย่าทำหนักไปหละ อาลาดินพูดล่อคูกับซาอะนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับออกไปทางเดิม  แต่กลับมีเสียงเย็นชาที่คุ้นเคยมาทำให้หยุดก่อนที่จะก้าวเท้าออกไปหลังบานประตู

                อาลาดิน...สิ่งนี้อาจช่วยนายได้แต่ต้องรีบหน่อยนะเวลาเหลือไม่มาก เจ้าของประโยคโยนม้วนกระดาษสีน้ำตาลแก่ให้อาลาดิน

                ขอบคุณ เขาตอบประโยคสั้นๆ แล้วเดินออกไปหลังบานประตูหายไปในความมืดยามราตรี

                เมื่อกี้นายให้อะไรเขาไปหนะ คูยืนกอดอกถามคนข้างๆ

                แผนที่

                แผนที่อะไร

                ตะเกียงวิเศษ คูเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดเมื่อกี้แต่ก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรต่อจากนั้น

                กินข้าวเหอะหิวแล้ว เขาตบไหล่ซาอะแล้วหันหลังเดินกลับไปหลังร้านรอเพื่อนคนสนิทมาทำอาหารให้กิน

               

    ซาอะยังยืนจ้องมองบานประตูที่อาลาดินพึ่งจะเดินออกไปโดยที่ยังคิดว่าเขาจะทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาหรือไม่  คูได้ให้บางสิ่งที่เขาต้องการไปแต่มีอีกสิ่งที่อาลาดินไม่รู้คือเขาได้ให้สิ่งวิเศษกับเขาไปในกล้องใบนั้นโดยหวังว่ามันจะช่วยเขาได้

    าซูแยกตัวออกมาจากกองคาราวานหลังจากเก็บข้าวเก็บของเสร็จแล้วเขาก็ขอนาซินแยกตัวออกมาทำธุระ

               

    เจ้าจะไปทำอะไรที่ไหนหละ  ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำมากแล้วด้วยนะ  ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีกว่านะ

                เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกพรุ่งนี้เราก็ต้องแยกกันแล้วหลังจากข้าช่วยพวกเจ้าขายของเสร็จอาซูโต้กลับไปด้วยความที่ไม่อยากให้นาซินตามมาด้วย

                ก็เพราะงั้นไงเจ้าถึงต้องให้ข้าไปด้วย  ถ้าเจ้าเจอโจรกลางทางหละจะว่ายังไงแล้วใครจะอยู่ช่วยข้าขายของกัน นาซินพยายามตื้อที่จะไปด้วยแต่ก็ถูกอาซูปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

                ถ้าเจ้าจะยืนยันอย่างนั้นหละก็ข้าก็ไม่ขัดเจ้าแล้ว  แล้วก็ระวังตัวด้วยหละคนในเมืองบอกว่าตอนนี้เจ้าจอมโจรอาลาดินมันอยู่ที่นี้ด้วยนะนาซินเตือนอาซูด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็สังเกตเห็นว่าอาซูแสดงอาการเหมือนพยายามกดความรู้สึกเอาไว้

                ระ...เหรอ  งั้นข้าจะระวังแล้วกันนะเขาตอบพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ บนใบหน้าแล้วหันหลังเดินแยกออกมา  นาซินยังมองแผ่นหลังของเพื่อนใหม่เดินผ่านซุ้มประตูหินสีน้ำตาลหายไปในเงามืดแล้วอย่างสงใสว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน

               

                หลังจากแยกออกมาเข้าเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ลัดและไว้พอที่จะไปและกลับมาในเวลาอันสั้นเพื่อตัดความสงใสของทุกคน  ซึ่งถ้าทุกคนคิดก็คงเป็นแค่ทางแคบๆ ตัดระหว่างบ้านแต่ละหลังแต่ทางที่เขาไปคือหลังคาพื้นราบของบ้านผู้คน  กระโดดไปกระโดดมาจนกลัวว่าจะมีคนเห็นหรือได้ยินเสียงของเขาหรือเปล่า

               

    แสงอาทิตย์เริ่มมืดลงทุกที่อาการก็เริ่มเย็นมากแล้วถ้าเทียบกับตอนกลางวันนับว่าเป็นเรื่องปกติของทะเลทราย  กระแสลมเย็นๆ พัดผ่านกระทบใบหน้าเบาๆ ทำให้สบายตัวขึ้นมาก

               

    หลังจากเดินทางมาอยู่นานเขาก็มาถึงจุดนัดพบที่เขานัดไว้กับอีกคน  เขากระโดดลงจากหลังคาสูงสองชั้นโดยที่ไม่มีอาการเหมือนกับว่าเจ็บหรืออะไรใดๆ เขาเดินตรงเข้าไปยังบ้านหลังตรงหน้าเปิดประตูไม้เก่าๆ เข้าไปโดยไม่บอกกล่าวหรืออะไรใดๆ กับเจ้าของบ้าน

               

    ภายในบ้านเงียบสงัดไม่มีเสียงอะไรแม้ลมพัดมีเพียงตะเกียงไฟส่องสว่างที่ถูกจุดอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเท่านั้น  เขาก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ ด้วยความระวัง  ใบหน้าดูเคร่งเครียดต่างจากตอนแรกอย่างชัดเจน

               

    เขาหยุดก้าวเท้ารู้สึกถึงลมที่โต้กับวัตถุบางอย่าง  ใบมีดคมฟันลงมาหวังให้คอเขาขาดไม่รอช้าที่จะก้มหลบใบมีดหันหลังกลับมามองและสุ่มจับส่วนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นมือของคนที่ถือมีดเล่มนี้  เขาชกหมัดข้างที่ยังว่างอยู่เข้าไปในความมืดแล้วเตะตัดตรงส่วนที่คิดว่าน่าจะเป็นส่วนขาเพื่อให้เขาล้มกระแทกพื้น

               

    ตึ๊ง!!!

                ร่างในเงามืดนั้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง  เขาคงไม่คิดจะทำอะไรอีกแล้วหลังจากที่โดนทำอย่างนั้นไป

               

    เลิกเล่นสักที่เถอะคูฉันเบื่อกับมุกนี้ของนายแล้วนะเขาตะวาดคนที่นอนอยู่ในเงาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด

                แหม  ก็แค่อยากเล่นสนุกนิดหน่อยเองง่าเสียงที่ฟังดูเหมือนคนรู้สึกผิดปนๆ กับความขี้เล่นอีกเล็กน้อยและแสงไฟที่ค่อยๆ สว่างขึ้นทำให้เริ่มเห็นห้องนี้ชัดเจนขึ้น

               

    ห้องนี้ไม่มีเป็นห้องว่างๆ อย่างที่คิดมันเต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ อาวุธและชุดเกราะต่างๆ มากมายเต็มไปหมด  ที่ติดกำแพงกลางห้องมีเตาหลอมขนาดใหญ่ที่มีไฟลุกโชนอยู่ข้างใน  ซึ่งทำให้เดาได้ไม่ยากว่าที่นี้คือร้านตีเหล็ก

               

    นึกว่านายจะไม่มาซะแล้วชายที่โจมตีอาซูก่อนหน้านี้พูดขึ้นพร้อมกับพยุงตัวเองขึ้นมา

                นึกว่านายจะต้อนรับฉันดีกว่านี้อาซูพูดกลับไปอย่างกวนประสาท

               

    ผมสีเทาซอยสั้นสะท้อนกับไฟทำให้ใบหน้าเหนุ่มขี้เล่นดูเข้มขึ้นอย่างสะดุดตา  ดวงตาสีน้ำเงินเข้มงดงาม  เขาชื่อ คู เป็นช่างทำอาวุธที่เก่งที่สุดในเมืองแต่ก็มีคนรู้จักน้อยเพราะเขามักจะทำร้านให้ดูเหมือนร้างจึงมีคนเข้าใจผิดบ่อยๆ

               

    อาบูเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้เจอมันนานเลยตั้งแต่ที่นายออกไปคูพูดพร้อมกับดาบเข้ากองอาวุธรกๆ

                ก็ยังดีอยู่  แต่ตอนนี้คงจะไม่หาอะไรกินระหว่างรอฉันเข้ามาหานาย

                แง่  ฉันอยากเจอมันง่าไม่เห็นตั้งนานแล้วคูเอาคางชันโต๊ะทำงานของเขาเหมือนกับคนหมดแรง

                แย่หน่อยนะ  งั้นก่อนที่ฉันจะออกจากเมืองฉันจะแวะมาหาอีกทีแล้วกัน

                จริงดิ!! ” คูลุกขึ้นอย่างเร็วเมื่อได้ยินว่าเจ้าเพื่อนตัวน้อยของเขาจะมาหาในอีกไม่กี่วันนี้

                ฉันล่อเล่น...เขาพูดด้วยใบหน้าเย็นชาเพื่อตัดความเพ้อของคนตรงหน้าที่ดี้ด้าไม่ต่างกับเด็กตัวเล็กๆ

                ง่านายก็ชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลยนะ  ฉันมีของขวัญให้มันฉันอยากให้กับมือตัวเองนะ  มันคงมีประโยชน์กับมันและนายด้วยเขาพูดพลางก้มหยิบบางอย่างจากในกล้องใต้โต๊ะ

                กรงเล็บหรอ? นี้คูนายรู้ใช้ไหมว่าอินทรีกรงเล็บมันแหลมอยู่แล้วหนะ

                ก็ใช้แต่มันจะช่วยป้องกันกรงเล็บไม่ให้เสียหายและช่วยเพิ่มกำลังในการข่วนหรือดึงด้วยนะ  ฉันว่ามันน่าจะชอบ

                “ … ” อาซูจ้องเข้าไปในตาเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาและเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

                หรือเปล่าเขาพูดต่ออย่างกล้าๆ กลัวๆ

                แล้วของที่ฉันขอไว้หละอยู่ไหนเมื่ออาซูพูดจบเขาเก็บกรงเล็บเหล็กเข้ากระเป๋าหลัง

                อ่อ  อยู่นี้รอเดี่ยวนะจะไปเอาให้

     

    หลังพูดเสร็จคูเดินออกไปทางประตูด้านหลังแล้วปล่อยให้อาซูอยู่ตามลำพังสองคนกับอาวุธมากมาย เขาเริ่มเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ตามห้อง  ปลายหอมแหลมคมเงาวับจนสะท้อนเห็นใบหน้าคมดับดวงตาที่ดุดัน  แต่ยังมีอีกสิ่งที่สามารถเห็นได้จากเงาสะท้อน

     

    นายยังไม่ตายอีกหรอ  อาลาดินเสียงเรียบๆ ทำลายความเงียบเมื่อครู่  แต่คำพูดสุดท้ายของเจ้าของเสียงนั้นฟังดูคุ้นๆ

    คำทำนายบอกว่าฉันจะตายในอีกสองอาทิตย์  จำได้ไหม

     

    แท้จริงแล้วอาซูคืออาลาดินจอมโจรทะเลทรายที่ลำลือกันไปทั่วทุกแห่งในทะเลทราย  แต่ทำไมจอมทะเลทรายอย่างเขาถึงได้มาอยู่กับกองคาราวานของนาซินได้เพียงเพราะโดนพายุทะเลทรายเท่านั้นหรอ

     

    เขาหันหลังกลับมาสบตาสีแดงข้างเขียวข้างของเจ้าของเสียงเมื่อครู่ที่เย็นชาโดยรู้สึกได้ทั้งที่ยังไม่หันไปมองด้วยซ้ำ

     

    ผมสีแดงอมส้มคล้ายสีของทะเลทรายยามอาทิตย์ตกดิน  ดวงตาสีแดงเขียวคมให้รู้สึกเย็นชาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน 

     

    ไงซาอะไม่เจอกันนานนะ  ไม่คิดว่านายจะยังอยู่กับคูอยู่อาลาดินพูดกัดชายตรงหน้าอย่างไม่ยอม

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนใกล้ตายอย่างนายซาอะโต้กลับพร้อมกับชาตาเย็นชาตามฉบับของเขา

     

    ทั้งสองคนเริ่มเงียบลงจ้องตากันอย่างเอาเลือดเอาเนื้อกัน  ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรหรือแม้ขยับตัวเฝ้ารอให้บางสิ่งทำหลายความเงียบนี้ก่อนจะมีการนองเลือด

     

    ตึ๊ก!!!

                เสียงลังไม้กระทบกับพื้นดังลั่นทำลายบรรยากาศเมื่อครู่  ทั้งสองคนที่ตอนแรกจ้องตากันอยู่กลับมองขึ้นไปข้างบนจุดที่ลังไม้ปริศนานั้นตกลงมาอย่างพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

               

     

    โอ้  โทษทีนะโดนใครบาดเจ็บไหม เสียงหนุ่มดังขึ้นมาตามลังไม้ทำให้เขาทั้งสองคนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟังอย่างที่เขาคิด

                โทษทีที่ทำให้ตกใจกันนะคือฉันขี้เกียจจะลงหลังร้านเลยทำทางไว้ตรงนี้ให้ลงง่ายๆ คูลงมาจากรูขนาดใหญ่จุดเดียวกับที่ลังไม้ตกลงมา

               

    เขาตรงไปหยิบลังที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนขึ้นมาถือไว้แล้วหันมามองซาอะเหมือนจะถาม

               

    ได้ข้าวเย็นมาแล้วเดี่ยวข้าจะทำให้กินแล้วกัน

                ข้าไม่ได้หมายความเรื่องนั้น  ข้าหมายถึงยาที่ข้าบอกให้ไปซื้อต่างหาก

                ถ้าเรื่องนั้นหละก็อยู่ในมือนายตั้งนานแล้ว

               

    คูทำถ้าเหมือนจะงงกับประโยคเมื่อครู่แต่กลับหันมามองให้มือตนก็เห็นขวดยาที่ใส่น้ำสีฟ้าสว่างอยู่ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

               

    แล้วนี้ของที่นายขอมาอาลาดินทุกอย่างอยู่ในกล้องนี้แล้ว  แต่ก่อนที่จะใช้ให้เอาน้ำในขวดนี้เทลงไปก่อนนะทุกอย่างถึงจะเข้าที่ คูยื่นกล้องไม้สีน้ำตาขอบเป็นเงินสะท้อนแสงให้กับอาลาดิน

                ขอบคุณมากนะคู  งั้นฉันกลับก่อนนะ  แล้วก็อย่าทำหนักไปหละ อาลาดินพูดล่อคูกับซาอะนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับออกไปทางเดิม  แต่กลับมีเสียงเย็นชาที่คุ้นเคยมาทำให้หยุดก่อนที่จะก้าวเท้าออกไปหลังบานประตู

                อาลาดิน...สิ่งนี้อาจช่วยนายได้แต่ต้องรีบหน่อยนะเวลาเหลือไม่มาก เจ้าของประโยคโยนม้วนกระดาษสีน้ำตาลแก่ให้อาลาดิน

                ขอบคุณ เขาตอบประโยคสั้นๆ แล้วเดินออกไปหลังบานประตูหายไปในความมืดยามราตรี

                เมื่อกี้นายให้อะไรเขาไปหนะ คูยืนกอดอกถามคนข้างๆ

                แผนที่

                แผนที่อะไร

                ตะเกียงวิเศษ คูเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดเมื่อกี้แต่ก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรต่อจากนั้น

                กินข้าวเหอะหิวแล้ว เขาตบไหล่ซาอะแล้วหันหลังเดินกลับไปหลังร้านรอเพื่อนคนสนิทมาทำอาหารให้กิน

               

    ซาอะยังยืนจ้องมองบานประตูที่อาลาดินพึ่งจะเดินออกไปโดยที่ยังคิดว่าเขาจะทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาหรือไม่  คูได้ให้บางสิ่งที่เขาต้องการไปแต่มีอีกสิ่งที่อาลาดินไม่รู้คือเขาได้ให้สิ่งวิเศษกับเขาไปในกล้องใบนั้นโดยหวังว่ามันจะช่วยเขาได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×