ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sin of Angel

    ลำดับตอนที่ #3 : Part III ( End ? )

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 56


     

                     เสียงปืนดังสะท้อนโกดังออกไปข้างนอก  เสียงนกเสียงกาต่างพากันบินหนีกันเป็นฝูงใหญ่ทั้งที่ตอนนี้น่าจะเป็นเวลานอนของพวกมันแต่ก็ดันมีเสียงดังขึ้นจนตกใจบินออกจากรัง

                    ฮั้นนิ่งไปในท่าที่กำลังจะฟาดเคี้ยวขนาดมหึมาลงใส่คนตรงหน้า  สายตาสั่นระริกเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ค่อยๆ แล่นมาตรงหน้าท้อง  ค่อยๆ หันหัวไปทางเข้าโกดังพร้อมกับค่อยๆ ล้มตัวลงใส่ริกที่ก็ตกใจไม่แพ้กันแล้วหันไปมองคนที่กำลังเดินมา

                    รอน!!...นายมาได้ยังไง? ” ริกรีบถามเมื่อเห็นใบหน้าคนๆ นั้นชัดเจนแล้วว่าเป็นเพื่อนรักของเขาที่เดินมาพร้อมกับปืนลูกซองที่เขาโยนทิ้งไปแบบเดียวกันอย่างกับแกะ  แต่อาการบาดเจ็บทำให้เขาเปล่งเสียงออกมาได้ไม่เต็มที่

                    ก็นะ  พอนายออกจากประตูไปฉันก็ไปนอน  แต่พอนอนไปได้สักพักก็รู้สึกว่าเป็นห่วงนายขึ้นมาก็เลยไปดูที่บ้านแต่ไม่เจอก็เลยไปที่สถานีแล้วก็ตามสัญญาณติดรถนายมาถึงที่นี้เขาเล่าเรื่องสั้นๆ ให้คนที่นั่งอยู่ฟังพร้อมกับนั่งลงข้างๆ แล้วหันไปมองคนที่กำลังโผเขากอดริก

                    ...ดีจริงๆ ที่นายปลอดภัยเมย์เข้ากอดริกด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดเพราะความดีใจ

                    ฉันตางหากที่ต้องพูดริกกอดตอบอย่างเบาๆ

                    เออ  ดีแล้วหละที่จบเรื่องนี้ได้แล้ว... รอนหยุดจังหวะพูดพร้อมกับเบิกตากว้าง

                    ละนั้นมันบ้าอะไรวะ  ปีกนั้นมันมาได้ยังไงทำไมไปอยู่หลังนายได้อธิบายสิ!!! ” เหมือนเขาจะสติแตกไปเลยเมื่อเห็นปีกสีขาวที่ติดอยู่บนหลังริก

                    เฮ้ยใจเย็นๆ แล้วฟังฉันให้ดีริกพูดพร้อมกับผละเมย์ออกเบาๆ ก่อนจะบอกความจริงที่รอนจะได้รู้เป็นคนที่สอง

                    ฉันเป็นเทวทูต

                    เหมือนรอนจะอึ้งเป็นกับสิ่งที่ได้ยิน  เขาแทบอยากจะไปทำความสะอาดหูตอนนี้แล้วกลับมาฟังใหม่อีกรอบ             

                    เรา...รีบออกไปจากที่นี้เถอะรอนยังอ้ำอึ้งอยู่ทำให้เขาพูดเหมือนกับคนสติเลื่อนลอย

                    ใช้  เรารีบออกไปกันเถอะเมย์เห็นด้วยกับสิ่งที่รอนพูด

                    ริกส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนรักตรงหน้าด้วยสายตาที่ดูเศร้าหม่น  เขาเม้มปากพยายามพูดในสิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้ออกมาอย่างหนักใจ

                    ไม่...ฉันไปไม่ได้  นายต้องพาเธอไปออกไปจากเมืองนี้ไปหาไกลแล้วหาที่ปลอดภัย แอ๊ค แอ๊คเขาไอออกมาเป็นเลือดทำให้ทั้งสองคนตกใจไม่น้อยแต่ก็น้อยกว่าประโยคที่เขาพึ่งพูดออกมาเมื่อไม่กี้วินาทีก่อนหน้านี้

                    อะไรนะ  ฉันไม่ทิ้งนายไว้ที่นี้หรอก  เราต้องไปด้วยกันสิอยู่ด้วยกันเหมือนที่คุณสัญญาไว้ไงน้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้งและคราวนี้มันหนักมากกว่าครั้งก่อน

                    ใช้ฉันด้วย  ฉันคงไม่ทิ้งคนที่บาดเจ็บไว้คนเดียวหรอกนะ  หรือถ้านายกังวลเรื่องคนพวกนี้หละก็ฉันพอจะคุยให้ได้นะรอนรีบยกขอเสนอในสิ่งที่เขาคิดว่าอาจทำให้เพื่อนรักกังวล

                    ไม่เพื่อนนายดูให้ดีๆ สิริกชี้นิ้วไปตรงหน้าที่ชายชุดดำเหล่านั้นมองอยู่ 

                    รอนหันหน้าตามที่ริกชี้และต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเหล่าคนที่นอนอยู่ตอนนี้ค่อยๆ กลายเป็นผงสีส้มสว่างค่อยๆ ลอยหายไปในอากาศ

                    พวกนั้นเป็น...รอนหันถามคนที่หน้าจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ดีที่สุด

                    ใช้  เหมือนๆ กับฉัน  แต่พวกเขาแค่ยมทูตฝึกหัดไม่มีพิษสงฆ์อะไรมาก  แต่นั้นไม่สำคัญที่สำคัญคือนายต้องพาเธอออกไปจากที่นี้ตอนนี้ก่อนที่พวกมันจะมาอีกริกดึงขอเสื้อรอนให้เขามาใกล้เพื่อให้ฟังในสิ่งที่เขาจะพูดชัดๆ

                    เพราะฉะนั้นพาเธอออกไปซะ  ทิ้งฉันไว้นี้ฉันพอจะถ่วงเวลาให้ได้รอนมีท่าทีว่าจะท้วงแต่ริกพูดตัดก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร

                    ฉันเชื่อใจนายจะเพื่อน...พาเธอไปฉันขอร้อง  ถ้าเธอเป็นอะไรไป...เมย์คือสิ่งเดียวที่ชีวิตฉันขาดไม่ได้ถ้าเธอตายวิญญาณฉันคงไม่สุขเขามองรอนอย่างคาดหวังและรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ทำไม่ได้

                    ก็ได้...แต่นายต้องรับปากว่าจะกลับมาหาเราเพราะฉันคงดูแลเธอไม่ได้ตลอดนะรอนยื่นขอเสนอพร้อมกับลุกขึ้นแล้วมองริกเพื่อรอคำตอบ...เขาพยักหน้า

                    ริกดึงใบหน้าหวานของเมย์เข้ามาช้าๆ  ใบหน้าที่คุ้นเคยใบหน้าของคนที่เขารักซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตาแต่ก็ยังดูดีในสายตาเขา 

                    ริมฝีปากทาบกันอย่างนุ่มนวลมากกว่าครั้งไหนๆ ความรู้สึกอุ่นๆ บนริมฝีปาก  ความรู้สึกที่รักมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อลองนึกว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะไม่ได้เห็นใบหน้านี้อีกมันเจ็บปวดแค่ไหน  มันคงทำให้เขาตายได้เลยที่เดียว  เขาผละเธอออกเบาๆ  ปีกสีขาวที่ค่อยๆ ปรากฏบนหลังเมย์ตอนนี้ซึ่งมันน่าจะอยู่บนหลังของเขามากกว่าเธอเหลือบหันไปมองดูหลังริกกลับพบว่าตอนนี้ปีกที่เปื้อนเลือดนั้นได้หายไปแล้วพร้อมๆ กับร่างของเขาที่ดูเหมือนจะบางลงจนมองเห็นทะลุอีกด้าน

                    คิดซะว่าเป็นคัวแทนของฉันและมันจะทำให้เธอปลอดภัย เขายิ้มอย่างฝืนๆ ให้คนตรงหน้าพร้อมกับดึงใบหน้านั้นเข้ามาใกล้อีกครั้งแล้วแนบริมฝีปากลงจุดเดิม

                    “ … ” เธอส่ายหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยโดยที่น้ำตายังไหลอยู่  ขอบตาแดงก่ำใบหน้าหวานตอนนี้ดูเศร้าหม่นอยากมาก

                    ลาก่อน...ริกกระซิบเบาๆ ก่อนจะหันไปหาคนที่ยืนรออยู่ข้างๆ แล้วพยักหน้าให้สัญญาณ

    รอนไม่รอช้าเมื่อทั้งสองล่ำลากันเสร็จ  เขาตรงไปที่เมย์แล้วดึงตัวเธอขึ้นมาแล้วพาตรงไปยังประตูทางออก  แต่แน่นอนว่าเธอคงไม่ยอม  เธอดิ้นรนพยายามจะหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงของรอนแต่ไม่พ้นพร้อมๆ กับน้ำตาที่หลั่งออกมาไม่ขาดสาย  เธอตะโกนร้องออกมาต่างๆ นาๆ ที่พอจะทำให้รอนใจอ่อน  ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้แม้แต่น้อย  ใจจริงเขาอยากจะแบกริกไว้ข้างหลังแล้วพาออกไปพร้อมๆ กันแต่ก็รู้ดีว่าเมื่อเพื่อนคนนี้ตัดสินใจอะไรไปแล้วจะไม่ยอมเปลี่ยนง่ายๆ  เขาฝืนทนกลั่นน้ำตาพาเมย์ออกไปอย่างไม่มีทางเลือก

                   

    รู้ใช้ไหมว่าทำแบบนี้พวกเขาอาจไม่รับนายกลับไปชายที่นอนอยู่พูดด้วยความกระอักกระอวม

    ฉันไม่สนหรอกว่าพวกเขาจะไม่ต้องการฉันกลับไป...ฉันแค่ขอให้ได้อยู่กับเธอคนนี้ก็ดีมากแล้วริกตอบใบหน้ายิ้มที่มุมปากอย่างภาคภูมิ

    แอ็ค แอ็ค...ไอ้บ้าเอ้ย ฮาๆๆ  เขาไอออกมาก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ

                    เขาเหมือนนายมากนะฮั้น  เหมือนจนไม่อยากจะเชื่อริกพูดตอบ

                    ฮาๆๆ แอ็ค แอ็ค  มันน่าจะจบสวยกว่านี้นะนายว่าไหม? ” เขาค่อยๆ หลับตาลงโดยที่คิดถึงเรื่องในอดีตแล้วรอความตายมารับเขาไปจากที่แห่งนี้

                    ริกมองคนที่นอนอยู่อย่างเสียใจอย่างเห็นได้ชัดจากขอบตาเริ่มแดงของเขาและอาการที่ดูเหมือนจะเกรงบางอย่างเอาไว้ไม่ให้ออกมา  แล้วค่อยๆ ปิดตาลงนึกถึงตอนนั้น...เมื่อสี่ปีก่อนเกิดเรื่องที่ทำให้ริก  ฮั้นและแนน  เธอเป็นคนรักของฮั้นพวกเขารักกันมากจนเทวทูตหลายตนอิจฉาอยากมีบ้าง  ในตอนนั้นเขาทั้งสามถูกจับตัวโดยยมทูตและพยายามจะฆ่าพวกเขาโดยไม่มีเหตุผล  แต่ด้วยความที่ริกและฮั้นเป็นนักรบจึงสู้  แต่แนนเป็นแค่เทวทูตธรรมไม่ได้เก่งอะไรจึงถูกคลุมร่างให้มีหน้าตาเหมือนกับยมทูตตนนั้นทุกอย่าง  มันทำให้ฮั้นสับสน...เขาตัดสินใจแทงทะลุร่างร่างหนึ่งและร่างนั้นกลับกลายเป็นแนนและมันทำให้เขาเสียใจอย่างมากถึงมากที่สุดที่ริกเคยเห็นมาตั้งแต่อยู่กับเขา  ถือเป็นความผิดอย่างมากเมื่อเทวทูตฆ่ากันเองและผลของมันคือบาปสีเทาซึ่งจะตัดสินว่าคนๆ นั้นผิดจริงหรือไม่  แต่ต้องใช้เวลาและต้องไปอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น  ริกรู้ว่าฮั้นไม่อาจรับความเจ็บปวดนี้ได้และถ้าต้องไปอยู่บนโลกมันอาจเกิดเรื่องขึ้น  เขารับผิดแทนฮั้นและลงมาที่นี้นั้นทำให้ฮั้นโมโหหรืออาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาโมโห

                    ริกลืมตาขึ้นช้าๆ เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของเพื่อนรักกำลังกลายเป็นผงฝุ่นละอองสีส้มที่ละน้อยซึ่งเขาทำใจไว้ก่อนหน้านี้แล้วแต่กลับเจอจริงๆ เขาไม่สามารถรับความรู้สึกนี้ได้เลย 

                    เขากล่ำกลึงดูเพื่อนหายไปช้าๆ พร้อมกับความรู้สึกเศร้าที่อยากจะร้องไห้ออกมาแต่กลับเหมือนถูกกั้นเอาไว้ด้วยบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก  เขานั่งรออยู่ที่เดิมในระหว่างที่รอความตาย

    เหอะๆ  มันน่าขำสินดีเลยว่าไหมเขาก้มหน้าลงเหมือนรู้ว่าเวลานั้นมาถึงแล้วและเตรียมตัว

    ปั้ง!!!

    เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งและคราวนี้กระสุนปืนถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืนที่อยู่ในความมืดภายในโกดังผ่านทะลุหัวใจของชายที่นั่งพิงกำแพง  ชีพจรที่ก่อนหน้านี้ส่งเสียงเต้นอย่างแผ่วเบาเมื่อกี้ได้หายไปพร้อมๆ ร่างที่หายกลายเป็นฝุ่นละออง

    ตอนนี้ที่นี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยทุกๆ อย่างหายไปหมดไม่เหลืออะไรไว้  แต่มันก็ดีแล้วไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้  อากาศเย็นๆ เริ่มครอบคลุมที่นี้อีกครั้งพร้อมๆ กับความเงียบที่ครอบคลุมไปทั่วมีเพียงเสียงแมลงตัวเล็กตัวน้อยที่ส่งเสียงแข่งกันยากค่ำคืนเท่านั้น  ความมืดเหมือนจะกลืนกินที่นี้ให้หายไปเพราะบริเวณนี้ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว  แต่ทุกอย่างจบแล้วที่นี้มันจึงทำให้ที่นี้ไม่ได้แย่ในสายตาพวกเขามากนัก... แต่มันดูน่าขนลุกดีนะ  ว่าไหม

    นี้คือเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี้  คุณฟังแล้วพอจะช่วยผมได้ไหมหละ...พระเจ้า

    End ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×