คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
วันนี้เป็นอีกวันที่อากาศร้อนแดดจ้าผิดปกติซึ่งเป็นแบบนี้มาประมาณหลายอาทิตย์ได้แต่ก็ไม่มีใครสนใจอยู่กันไปเรื่อยๆ ก็ชิด
ชุมชนตลาดที่แออัดไปด้วยผู้คนมากหน้ากลายตาจากทุกที่มารวมกันซื้อข้าวของอาหารแห้งต่างๆ หรือผลไม้นาๆ ชนิด พ่อค้าต่างๆ ก็มาขายของกัน นักเดินทางก็มาพักผ่อนมาแวะที่นี้ระหว่างเดินทาง เลยจากตลาดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ใช้ดื่มกินกันในเมืองซึ่งเชื่อว่าเป็นน้ำตาของเทพที่ อีกฝากของตลาดตรงข้ามแหล่งน้ำนี้เป็นปราสาทขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือเมืองทั้งหมด เป็นเมืองที่ทุกคนในแดนทะเลทรายแห่งนี้ต้องมาสักครั้งในชีวิต
“ นูกาฮัน...อืม ไม่ได้มานานแล้วนะเนี่ย ” เสียวบ่นโว้ยวายเบาๆ ทำให้อาซูที่กำลังช่วยคนในกองคาราวานยกของอยู่หันมาโต้ตอบ
“ เจ้าคงเจอเมืองมาเยอะสินะ ”
“ ก็นะ ข้าไปมาแล้วทุกเมืองในดินแดนนี้และอาจจะเลยไปหน่อยหนึ่งด้วย ” นาซินก้มตัวยกหลังไม้ที่ใส่ลูกพลัมอยู่เต็มลังระหว่างพูดตอบอาซูและเขาก็พยักหน้ารับเหมือนเดิม หลังจากที่ทั้งคู่ได้พูดคุยกันมาพอสมควรก็ไม่รู้นิสัยกันมากขึ้นและคุยถูกคอกันดี
“ แล้วเจ้าหละ เจ้าเป็นนักเดินทางไม่ใช้หรอก็น่าจะผ่านเมืองมาไม่น้อยเหมือนกันสิ ” นาซัดถามกลับ
“ ก็ใช้ข้ออาจเดินทางมาเยอะแต่เชื่อเถอะแต่ละที่ที่ข้าผ่านมามันไม่มีคนดีมากหรอก ”
“ งั้นเจ้าก็คงผ่านอะไรมาเยอะสินะ จริงสิเจ้ามาที่นี้ทำให้หรอหรือว่าเจ้ามีคนรักอยู่แถวนี้หือ... ” นาซัดจ้องเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เล็กน้อยอย่างเอาผิดแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเสียงหัวเราะของเขาแทน
“ ฮาๆๆๆ เปล่าหรอกข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้นแต่ถ้าเจ้าอยากรู้ว่าข้ามาทำไมเมื่อถึงเวลาที่เราต้องแยกกันข้าจะบอกเอง ”
“ ... ” นาซินไม่พูดอะไรต่อแต่กลับทำหน้าเหมือนผิดหวังไม่น้อย
“ เอ๊าพวกเจ้ามั่วแต่ยืนคุยกันอยู่นั้นแหละเดี่ยวก็ไม่ได้ขายของกันพอดีหรอก ช่วยกันยกเร็วให้คนแก่ๆ ยกคงไม่ไหวหรอกนะ ” กาซัดเดินมาตบบ่าทั้งสองเพื่อทำให้ตกใจเล่นก่อนจะแซวนิดหน่อย
“ ฮาๆ ครับท่านพ่อเดี่ยวข้าจะยกให้เดี่ยวนี้แหละ ” เมื่อพูดแล้วเขาก็ยกของตามชายแก่ตรงหน้าไป อาซูมองแล้วหันเราะนาซินอยู่ข้างหลังแล้วก็เดินตามทั้งคู่เข้าไปในฝูงชน
ถึงตอนนี้พระอาทิตย์ได้ไปอยู่ที่ขอบฟ้าเหลือแค่ครึ่งเดียว ท้องฟ้าเป็นสีออกส้มๆ ม่วงๆ เป็นสัญญาณว่าความมืดกำลังใกล้เข้ามา อากาศเย็นเริ่มคืบคลาน ผู้คนต่างเก็บข้าวของเข้าบ้านตะเกียงไฟเริ่มส่องสว่างทั่วทั้งเมืองบางที่ทำกองไฟแล้วนั่งพูดคุยสังสรรค์กันตามภาษาพ่อค้านักเดินทางและพักผ่อนหลังจากค้าขายกันตั้งแต่เช้า
บ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ เขตเมืองที่ทำจากดินทรายหรืออื่นๆ หน้าต่างถูกเปิดค้างไว้ที่ชั้นสองของบ้าน มีคนๆ หนึ่งกำลังเอามือทั้งสองข้างยันขอบหน้าต่างไว้อย่างผ่อนคล้าย แสงอาทิตย์อ่อนๆ ยามตกดินกับแสงไฟจากตะเกียงส่องให้เห็นใบหน้านั้นชัดเจน
ใบหน้ารูปไข่ได้รูป ดวงตาแบบชาวทะเลทรายสีน้ำตาล เรียวปากเล็กสีชมพูอ่อนหน้าหลงใหล ผมสีดำเงาสะท้อนแสงอาทิตย์ปล่อยยาวถึงบ่าดูเข้ากับใบหน้า เสื้อผ้าเป็นผ้าไหมสีชมพูลวดลายดอกไม้สีขาวเผยให้เห็นเนินอกสวย เธอคงจะอยู่ในภวังค์อีกสักพักถ้าหากไม่มีเสียงใครบางคนที่คุ้นเคยมาเรียกเธอ
“ จัสมิน นี้เจ้ามัวทำอะไรอยู่นะพ่อบอกให้เจ้าอ่านหนังสือไม่ใช้หรอ ”
ชายแก่ตัวสูงโปร่งตะวาดออกมาเบาๆ พร้อมกับไม้ค่ำยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้น ใบหน้าเหี่ยวย่น หนวดเคราแพะและผมสั้นซอยสีดำปนขาว สายตาสีแดงคมจ้องมองจัสมินอย่างโมโหเล็กน้อย
“ ท่านพ่อ! เออ...คือข้ากำลังพักผ่อนนะ ข้าอ่านหนังสือนั้นมาทั้งวันแล้ว ” หญิงสาวรีบโต้กลับไปแต่ไม่ว่าเธอจะให้เหตุผลยังไงพ่อของเธอก็ไม่ยอมฟังแม้สักนิด
จาฟาเป็นพ่อของจัสมินถึงแม้ว่าทุกคนในเมืองนี้จะบอกว่าเธอหน้าไม่เหมือนเขาแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรกับมันถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช้พ่อจริงๆ อย่างที่ทุกคนเขากล่าวไว้เธอก็ยังรักเขาไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่เขาเลี้ยงเธอมาแต่เล็กๆ แต่จาฟาก็ยังให้เธอนั่งอ่านหนังสือนี้ทุกวันโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคือหนังสืออะไร และจาฟาไม่ยอมให้ออกจากบ้านโดยไม่มีเขา เพราะอะไรนั้นเธอไม่รู้เธอทำได้แค่เดาว่าเขาคงจะเป็นห่วงเธอมาก
“ เจ้านี้เลิกต่อล่อต่อเถียงพ่อสักทีได้ไหม… ” เขาเว้นจังหวะพูดเมื่อเห็นหน้าจัสมินที่ตอนนี้ดูเหมือนคนรู้สึกผิดซึ่งเขาไม่ชอบเอาซะเลย
“ เวลาที่เสียไปมันไม่สามารถเอากลับมาได้หรอกนะลูกรัก ” จาฟาถอนหายใจออกเฮือกใหญ่หลังจากนั้นเขาเริ่มรู้สึกสงสารลูกคนนี้ขึ้นมา
“ … ”
“ เออนี้ก็เย็นแล้วลูกลงมาท่านข้าวดีกว่านะ ” เขาพยายามพูดปัดประโยคที่ดุเธอก่อนหน้านี้เพราะรู้ดีว่าเธอมักจะเสียขวัญอย่างนี้เสมอเวลาที่เขาดุเธอ
“ คะ เดียวข้าตามลงไป ” สีหน้าเธอเริ่มดีขึ้นจากตอนแรกแต่ก็ไม่มากนัก เธอหันหลังกลับไปที่หน้าต่างแล้วปิดมันพร้อมกับจังหวะที่จาฟาเดินกลับลงไป
“ ทำไมคืนนี้ข้ารู้สึกแปลกๆ จัง ไม่เหมือนเดิมเลยหละราจา ” จัสมินนั่งเขามือวางทับกันบนโต๊ะแล้ววางคางลงทับอารมณ์เหมือนคนที่ทำงานมาหนักๆ เธอพูดโดยสายตาจ้องมาไปยังพื้นโต๊ะข้างหน้าที่มีหนูตัวเล็กๆ ขนสีน้ำตาขาวเดินวนๆ อยู่ และเมื่อเธอพูดออกไปมันกลับหันมาเหมือนว่าฟังรู้เรื่อง
“ ฮิๆ เจ้านี้ทำให้ข้าสบายใจได้เสมอเลยนะ ถึงเจ้าจะพูดไม่ได้ก็เถอะ ” จัสมินยิ้มกว้างหัวเราะเบาๆ กับความน่ารักของเพื่อนสนิทตัวนี้ของเธอ
ปั๊ง!!
เสียงหน้าต่างลมพัดเปิดกระแทกกับเสียงกำแพงดังลั่นทำให้จัสมินและราจาตกใจหัวใจแถบจะตกอยู่กับเท้า จัสมินรีบลุกขึ้นไปปิดหน้าข้างแต่ก่อนที่เธอจะปิดมันลงนั้นเธอเห็นเงาร่างหนึ่งกำลังกระโดดข้ามหลังข้ามแบนเรียบของบ้านตรงข้าม
แสงอาทิตย์สาดส่องพอให้เห็นเงานั้นนิดหน่อยแต่ไม่มากพอจะให้สามารถเห็นใบหน้านั้นชัดเจน ผมสีน้ำตาลสะท้อนแสงหมัดรวบไว้เป็นเหมือนหางห้อยถึงเอว ยางมัดสีน้ำเงินเข้มตัดกับสีผม เสื้อสีดำทับขาวปลิวไปตามกระแสลม นั้นเป็นภาพสุดท้ายที่จัสมินเห็นคนปริศนาใจตอนนั้น
ความคิดเห็น