ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sin of Angel

    ลำดับตอนที่ #2 : Part II

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 56


                    มันเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคนรักที่ได้มานั่งทานข้าวกันเสร็จแล้วก็ดูหนังมันช่างเป็นเวลาที่หวานชื่นแต่ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปคงเศร้าไม่น้อย  แต่สถานการณ์ในตอนนี้เศร้ายิ่งกว่า  ริกนั่งกุมหัวอยู่บนเตียงครุ่นคิดหาวิธีที่จะช่วยเมย์ออกมาถึงอยากจะไปช่วยเธอมากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีอาวุธหรืออะไรที่สามารถไปช่วยเธอได้  ตอนนี้ริกเข้าใจอาการปวดหัวของรอนแล้วว่าเป็นยังไงแต่ที่ต่างกันคือรอนปวดหัวเพราะพิษไข้แต่เขาปวดหัวเพราะคิดมาก

    หือรอน  ฉันจำได้ว่ามันสะสมปืนนี้

                    ทันทีที่คิดถึงรอนเพื่อนซี้เขาก็นึกขึ้นมาได้อีกอย่างว่าเขาสะสมปืนเป็นงานอดิเรก  ถึงจะไม่มากแต่ก็น่าจะมากพอสำหรับงานนี้  ริกไม่รอช้ารีบดึงตัวเองออกมาจากความคิดในหัวแล้วลุกขึ้นตรงไปที่โต๊ะกาแฟเขาล้วงกระเป๋าหนังสีดำเอากุญแจรถออกมาใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรีบร้อน  เขาวิ่งออกไปทางประตูอย่างไม่รอช้าตรงไปที่ลิฟท์  เหมือนโชคเข้าข้างลิฟท์จอดอยู่ที่ชั้นนี้พอดิบพอดี  เขากดลิฟท์ลงไปชั้นล่างสุดอย่างรีบร้อน

                    เมื่อถึงชั้นแรกเขารีบวิ่งออกไปทางประตูหน้าแล้วตรงไปยังถนนฝังตรงข้าม  เขาวิ่งไปโดยไม่สนใจรถที่กำลังวิ่งไปมาเพราะด้วยความเป็นห่วงเมย์

    ปิ๊บบบบบ!!!!

                    ริกล้มลงกับพื้นถนนตรงหน้ารถตันสีน้ำเงินเข้ม  แสงไฟจากรถสาดส่องเข้ามาในตาของริกทำให้เขามองเห็นอะไรไม่ชัดแต่ก็รู้ว่าควรจะหลีกทางก่อนที่จะถูกชน  ริกยันตัวขึ้นแล้ววิ่งไปทางรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ  เสียงแตรรถดังสนั่นทั้งถนนเพราะคนๆ เดียวแต่เขาไม่ได้สนใจกับคนพวกนี้ทีตอนนี้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติ

     

                    จะขอยืมปืนฉันหรอ? ” รอนตั้งคำถามที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ถามใครโดยเฉพาะเพื่อนคนนี้  น้ำเสียงฟังได้อย่างชัดเจนว่าเขามึนงงกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลย

                    ใช้  คือเออหลานฉันเขากำลังจะได้เป็นทหารแล้วเออเขาอยากเห็นปืนของจริงฉันเลยมาขอยืมปืนนายริกพูดอย่างตะกุตะกะเพราะต้องใช้ความคิดที่จะทำให้คนตรงหน้าเชื่อในสิ่งที่พูด  ริกมองคนตรงหน้าด้วยสายเหมือนกำลังลุ้นว่าเขาจะเชื่อไหม  รอนก็กำลังครุ่นคิดว่าจะเชื่อในสิ่งที่ริกพูดมาดีหรือไม่ 

                    เออหรอ  งั้นตรงไปที่ตู้ตรงนั้นนะ  แล้วอยากได้กระบอกไหนก็หยิบเลยรอนชี้ไปทางตู้สีน้ำตาลข้างหน้าต่าง

                    ขอบใจนะ

                    เออไม่เป็นไรหรอก  อยู่บ้านก็ไม่ค่อยจะได้ออกมาขัดอยู่แล้วงั้นฝากขัดด้วยแล้วกันนะรอนพูดติดตลก

                    ถ้าฉันกลับมาได้หละนะริกบ่นเบาๆ กับตัวเอง

                    เหอว่าอะไรนะ แอ๊กแอ๊กรอนถามเพราะเหมือนได้ยินริกพูดเบาๆ แต่เขาไม่หมั้นใจว่าเพราะฤทธิ์ไข้หรือเปล่าจึงทำให้เขาได้ยินอย่างนั้น

                    เปล่า  ไม่ได้พูดอะไรตอนนี้สีหน้าของริกเครียดอย่างเห็นได้ชัดแต่รอนคงไม่เห็นเพราะเป็นหวัดทำให้เขาลืมตาได้ไม่เต็มที่

                    ปืนทุกกระบอกของรอนที่ก่อนหน้านี้อยู่ในตู้ตอนนี้มันได้อยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ในมือของริกเรียบร้อยหมดแล้ว  เมื่อได้ของที่ต้องการริกเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูหน้าห้องของรอน

                    ขอบคุณจริงๆ เพื่อนริกเอ่ยคำลาแล้วปิดประตูเดินออกไปแล้วให้รอนพักผ่อนต่อ

                    รอนนั่งมองประตูที่เพื่อนพึ่งออกไปเมื่อกี้อย่างครุ่นคิดแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เขาปวดหัวตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกจากไปนอน  คิดได้ดังนั้นรอนก็ยันตัวเองขึ้นแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนแล้วปิดประตูนอนโดยพยายามไม่ให้คิดเรื่องนี้ในหัวเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

                    ริกยืนอยู่หน้าโกงดังแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีคนใช้งานมานานไม่ใช้น้อยแต่นั้นไม่สำคัญ  ที่สำคัญคือที่แห่งนี้คือสถานที่ที่พวกมันจับคนรักของเขามา  เมื่อมองดูแผนที่ที่แนบมากับจดหมายแน่นอนแล้วเขาไม่รอช้าที่เตรียมตัวเจอกับอะไรที่อยู่ข้างใน  ริกเปิดประตูหลังรถเอากระเป๋าสีดำใบใหญ่ออกมาแล้ววางมันไว้ที่หลังรถ  เมื่อรูดซิปออกปืนประมาณสี่ห้ากระบอกที่เขาของยืมรอนมาโดยที่ไม่ได้บอกความจริงเพราะเรื่องนี้มันอันตรายเกินไป 

                    ริกสวมชุดเกราะที่เอาติดมือมาจากที่ทำงานแล้วยืนมองปืนเหล่านั้นอย่างครุ่นคิด  ปืนพกสองกระบอก  ลูกซอก  ปืนกลกับไรเฟิลอย่างละกระบอก  ถ้าเอาไปด้วยทั้งหมดคงหนักไม่น้อยแต่ด้วยความจำเป็นที่ไม่อาจรอดออกมาได้เขาเอาปืนพกใส่ไว้กับซอกแล้วมัดไว้ที่ต้นขาทั้งสองข้าง  สะพายปืนไรเฟิลกับปืนกลไว้ข้างหลัง  เขาคิดว่าจะถือปืนลูกซองไว้ในมือเพื่อมีอะไรโผล่ออกมาตอนที่เขาเดินเข้าไปจะได้ยิงให้แหลกเลยทีเดียว

                    เมื่อทุกอย่างพร้อมริกเปิดประตูโกดังเก่าๆ ออก  เสียงเปิดประตูที่ขึ้นสนิมดังลั่นแสบหู  เมื่อมองเข้าไปข้างในกลับมืดมิดเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี้  แต่เขาหมั้นใจว่าพวกมันคงดักรอเขาอยู่สักที่  ริกค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปยังพื้นที่โกดัง  ฝุ่นกระจายไปทั่วเมื่อก้าวเท้าแต่ละก้าวทำให้ริกไอออกมาอยู่หลายที 

                    เดินไปเรื่อยจนรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยู่กลางโกดังแห่งนี้แสงไฟก็สว่างจ้าที่จุดๆ หนึ่งข้างหน้า  ริกเบิกตากว้างเมื่อมองสิ่งที่อยู่ใต้แสงไฟชัดๆ อีกครั้ง...เมย์

                    เมย์นอนอยู่โดยมีแสงไฟล้อมรอบไว้และดูจากตรงนี้เหมือนว่าที่ๆ เมย์นอนอยู่ตอนนี้อยู่เหนือริก

                    เมย์!!! ” ริกตะโกนร้องเรียกชื่อคนรักหวังให้เธอได้สติ

    ตึก!!!  ตึก!!!

                    เสียงฝีเท้าก้าวอย่างหนักแน่นกับไฟที่เปิดในจังหวะเดี่ยวกัน  เห็นชายในชุดสีดำล้อมรอบริกอย่างพร้อมเพรียงโดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่  ริกหันไปรอบด้านอย่างช้าๆ มองดูคนเหล่านี้ที่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเหมือนรอสัญญาณหรือใครสักคนเข้ามา

                    ริก  แฮดท์สัน  เฮวซิ้งค์  ไม่ได้เจอกันนานเพื่อนเอ๋ย น้ำเสียงหนักแน่นดังมาจากทางที่เมย์นอนอยู่ตอนนี้  เงาสีดำก้าวออกมาทางด้านหลังหญิงสาวแล้วนั่งยองๆ แล้วจับเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำให้ริกต้องชะงักฝีเท้าแล้วเงยหน้ามอง

                    เนี่ยนะหรอคนรักของนาย  คนที่ทำให้นายอยู่บนโลกแห่งนี้โดยไม่ยอมกลับไปพร้อมกับแบกบาปสีขาวไว้กับตัวไม่ยอมลบมันออก

                    ผมสีน้ำเงินเข้มสะท้อนแสงไฟ  ใบหน้าคมมีที่หนวดเคราเล็กน้อยแต่ดูมีเสน่ห์  ดวงตาสีดำสนิทดูหน้าหลงใหล  กับชุดสูทสีดำเนี๊ยบดูลึกลับ  เขาหันมองใบหน้าหวานของหญิงข้างๆ แล้วหันกลับไปมองชายเบื้องล่างด้วยใบหน้าที่ดูสนุกสนานและสะใจกับส่งที่ได้ทำอยู่

                    อย่ายุ่งกับเธอนะฮั้น  เรื่องนี้มีแค่ฉันกับนายเธอไม่เกี่ยวริกตอบโต้คนข้างบนด้วยความโมโห

                    เรื่องของเรา...ฮาๆๆๆๆชายผมน้ำเงินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่  ทำให้ริกงงไปไม่น้อยว่าเขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า  แต่ถึงหยังงั้นเขาก็ยังทำสีหน้าโกรธไม่เปลี่ยน

                    ถ้านายหมายถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนหละก็  เรื่องนั้นนะฉันลืมไม่แล้ว!!  ที่ฉันมาเพราะคำสั่งของคนคนหนึ่ง

                    ก็แล้วมันใครหละ!!? ”  ริกตะโกนถามกลับ

                    มันไม่สำคัญหรอก  ที่สำคัญคือนายกำลังจะตายแต่คนที่ทรมานที่สุดไม่ใช้นาย...แต่เป็นสาวน้อยคนนี้ฮาๆๆๆชายในชุดสูทหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนจะเกิดแสงสีแดงบางๆ ที่มือเขา

                    เมย์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนรักที่อาวุธเต็มตัวเหมือนกำลังไปรบถูกล้อมไปด้วยชายในชุดดำนับสิบ  หันไปมองข้างๆ ใบหน้าคมที่มีหนวดเครายื้นเข้ามาใกล้ทำให้เธอต้องถอยหนีแต่ไปไหนไม่ได้เพราะแขนและขาถูกมัดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  เธอจำได้ว่ากำลังจะไปทำอาหารหลังจากกลับมาพอจะหยิบของทุกๆ อย่างก็มืดไปและไม่ได้สติอีกเลยจนถึงตอนนี้

                    นี้มันอะไรกัน  นายเป็นใคร  แล้วจะทำอะไรกับริ… ”

                    ชู่ว เงียบหน่อยสิคุณหนู  ความสนุกกำลังเริ่มเองนะฮั้นเอามือปิดปากของเมย์แล้วทำหน้าอย่างมีเล่

                    สีแดง นายมีเวทย์นั้นได้ยังไง  นายเป็นคนของพระเจ้านะริกตะโกนถามเมื่อเห็นเวทย์สีแดงบางๆ ที่มือของฮั้น  มันไม่น่าจะใช้เวทย์ที่เทวทูตปกติจะใช้มันได้…‘ หรือว่าตอนนี้เขาไม่ใช้เทวทูต? ’

                    ริกเริ่มเกิดความสงสัยในตัวของฮั้นว่าตอนนี้เขาทำงานให้ใครและเขาใช้เวทย์นั้นได้ยังไงรวมถึงคนพวกนี้ที่ล้อมตัวเขาอยู่  ถึงจะถามไปฮั้นคงไม่ตอบมาทั้งหมดหรอกเขารู้ดี  เขาเป็นเพื่อนสนิทของฮั้นก่อนที่จะเกิดเรื่องตอนนั้นและตกลงมาอยู่ที่นี้  เขาเคยรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฮั้นแต่ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรเลย… ‘ สี่ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น? ’

                    ถึงจะตั้งคำถามมากมายในหัวแต่ก็ไม่ทำให้ได้คำตอบกลับมาแม้แต่คำถามเดียวเขาจึงปริปากถามฮั้นอย่างสั้นๆ เพื่อที่พอจะปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเอง

                    หรือว่านายไม่ใช้เทวทูตแล้วงั้นหรอ? ”

                    ใช้ริก  ตอนนี้ฉันไม่ได้ทำงานให้กับพระเจ้าอีกต่อไป  ฉันมีบาปสีดำตั้งแต่เมื่อปีก่อน  ตอนแรกฉันก็ไม่อยากได้มันแต่เมื่อลองแล้วฉันได้รู้ว่ามันสนุกกว่าเป็นเทวทูตเป็นไหนๆ  ฉันคือเทวทูตตกสวรรค์  ริกแสงสีดำลางๆ สว่างออกมาจากหลังของฮั้น  เขายืนขึ้นและกางปีกสีดำแดงออกเป็นแนวนอนเพื่อเป็นเครื่องยืนยันในสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้

                    เมย์หันไปมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้มีปีกสีดำแดงโผล่ออกมาจากหลังเป็นเรื่องที่หน้าตกใจที่สุดในชีวิตที่เธอเคยเห็นมาและเมื่อเธอลองจับใจความใจสิ่งที่เขาทั้งสองคุยกันนั้นทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าคือ… ‘ ริกคือเทวทูต

                    สิ่งที่คิดได้ทำให้เธอพูดไม่ออกเลย  เธอมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูเหมือนจะโมโหคนข้างๆ เธอไม่น้อย  ไม่สิพวกเขาไม่ใช้มนุษย์  เธอไม่รู้ควรจะทำยังไงดีก็คงได้แต่นั่งนิ่งดูสถานการณ์จากข้างบนนี้ 

                    ริกมองคนที่นั่งอยู่ตอนนี้ดูท่าเธอจะสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อยและเธออาจจะรู้แล้ว่าเขาเป็นอะไร  เขาเคยคิดว่าเมื่อเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้อีกแล้วและไม่ต้องการให้ใครรู้ความลับนี้  แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย

                    แล้วนายคงไม่ใช้พวกไนท์อาเกียใช้ไหม? ” ริกถามต่อ

                    ไนท์อาเกีย?  ถ้าอยู่แล้วจะทำไม...หา!!!  ที่ฉันตามล่านายมาตั้งนานแล้วทำให้มันจบๆ เถอะฮั้นพูดพร้อมๆ กัลปัดมือเป็นแนวนอนเพื่อสั่งให้พวกที่อยู่ข้างล่างทั้งหมด

                    แสงสีขาวสว่างจ้าจนแสบตาทำให้พวกที่อยู่รอบๆ ตอนนี้ต้องคอยเอมือบังตาเอาไว้พลางเอามือปัดตามสัญชาตญาณ  เมื่อพวกที่ล้อมเขาอยู่เริ่มขยับริกก็เริ่มโดยการแสดงปีกของตนบ้างโดยคราวนี้ไม่ได้ให้มันออกมาจางๆ แต่ให้มันออกมาแบบเห็นได้ชัด  ขนนกสีขาวกระจัดกระจายตามแรงลมทีเกิดจากการขยับปีกของริก  เขาพุ่งตัวไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเป็นอย่างแรก  เขาเอาปากปืนลูกซองกระแทกท้องคนที่ยืนอยู่อย่างไม่รู้อีโน่อีเน่แล้วลั่นไก  แรงปืนทำให้คนที่อยู่ปากปืนลอยขึ้นเล็กน้อยแล้วลงไปนอนกับพื้น  และนั้นเป็นสัญญาณทำให้คนอื่นๆ รู้ตัวว่าเขาเริ่มโจมตีแล้ว

                    เสียงฝีเท้าวิ่งมาทางข้างหลัง  ริกกระแทกปืนเขาที่หน้าท้องเหมือนเดิมแล้วหมุนปืนให้ปากกระบอกตรงกับหัวแล้วลั่นไกในขณะที่คนอื่นๆ ก็กำลังวิ่งเขามาหาเขา  เขาหันหลังไปหมุนปืนให้ปากกระบอกอยู่ตรงหน้าแล้วยิงออกไปและทำอย่างเดียวกันกับพวกที่วิ่งกันเขามา  เสียงปลอกระสุนหล่นกระจายเป็นพื้นที่เปื้อนไปด้วยฝุ่นดังเป็นจังหวะแต่ก็ถูกเสียงปืนกลบไปในจังหวะต่อมา

                    ริกโยนกระบอกปืนเข้าหน้าของชายที่วิ่งเข้ามาทำให้เขาหงายหลังกระแทกกับพื้น  ริกหยิบปืนกระบอกต่อไปจากหลัง  ถึงแม้ว่าพวกนี้จะไม่มีอาวุธอยู่ในมือแต่มันก็เยอะมากถ้าหากเขาสู้ทั้งหมดด้วยมือเปล่ามีหวังเขาจะได้ตายเป็นศพแรก

                    กระสุนนัดแล้วนักเล่าถูกยิงออกมาจากปืนของผู้เป็นเทวทูตในขณะที่ฮั้นยืนมองคนข้างล่างต่อสู้กันอย่างสนุกสนานและยิ่งสะใจเมื่อคนที่โดนรุมคือคนที่ทำให้เขามีบาดแผลในใจเมื่อสี่ปีก่อน...นี้แหละที่ฉันอยากเห็น

                    พอเถอะหยุดได้แล้ว!!! ” ฮั้นหันมองคนข้างที่เป็นต้นเสียงเมื่อครู่  ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เปื้อนน้ำตาเพราะความเจ็บปวดที่เห็นคนรักถูกทำร้าย  เธอเกาะขาของฮั้นอย่างอ้อนวอนขอร้องให้ฮั้นหยุดเรื่องทั้งหมดนี้  ถึงเธอจะโกรธริกแค่ไหนที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอแต่เธอไม่อยากที่จะเสียคนรักไปมากกว่า

                    ไม่จนกว่ามันจะตาย  และฉันจะให้เธอได้ดูมันตายอย่างเต็มตาเสียงที่ฟังดูเคียดแค้นกับใบหน้าที่ก่อนหน้านี้ดูขี้เล่นแต่ตอนนี้กับโกรธเกรี้ยว  ฮั้นจับใบหน้าหวานของเมย์ให้หันไปดูริกที่ตอนนี้กำลังถูกล้อมอยู่ข้างล่าง  ใบหน้าคมที่ตอนนี้แปดเปื้อนไปด้วยเลือดดูเหนื่อยอ่อนใกล้จะหมดแรง

                    ริกหันหลังเข้ากำแพงเพราะตอนนี้เขาถูกล้อมด้วยคนที่เหลือไม่ถึงสิบแต่กระสุนเขาก็หมดไปแล้วเช่นกัน  ร่างกายเหนื่อยหล้าและบอบชำจากการต่อสู้เมื่อกี้  เสียงหายใจหอบแห้งและถี่เป็นสัญญาณได้ว่าเขาไม่ไหวแล้ว  แต่ถ้าหยุดตอนนี้เขาก็จะช่วยเมย์ไม่ได้เช่นกัน

                    ริกหยิบมีดสั้นออกมาซึ่งเป็นตัวเลือกสุดท้ายแล้วที่เขาจะใช้สู้  ถ้าเป็นเวลาปกติแค่มือเปล่ากับพวกนี้มันง่ายมากสำหรับมือขวาของพระเจ้าอย่างเขา  แต่เมื่อสภาพร่างกายอ่อนหล้าแบบสุดๆ ต่อให้เก่งยังไงก็สู้ไหว

                    เขาพุ่งเขายังคนที่ใกล้ที่สุดแทงมีดลงไปแต่หลบได้ซึ่งเขารู้อยู่แล้วจึงใช้เข่าแทงเข้าที่ท้องแล้วใช้มือทั้งสองข้างประกบกันแล้วทุบลงทำให้ร่างนั้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง  สะบัดปีกทั้งสองให้เป็นแนวกว้างเพื่อให้พวกที่กำลังวิ่งเข้ามาเสียการทรงตัว  ริกหันหลังกลับไปแท่งเข้าที่หน้าท้องคนที่กำลังวิ่งเข้ามาทางด้านข้างที่กำลังวิ่งเข้ามาแล้วหันหลังเตะคนที่อยู่ใกล้ๆ กระเด็นไปล้มทับอีกคนที่อยู่หลังเขา 

                    หมัดหนักๆ กระแทกใบหน้าทำเอาริกถอยหลังไปหลายก้าวเพราะเสียหลัก  คนตรงหน้าเงื่อหมัดขึ้นชกริกตั้งแขนรับแล้วแทงกลับที่อกซ้าย  เอียงหลบเท้าที่ยันเข้ามาจับไว้แล้ทุบลงที่หัวเข่าแล้วแทงเข้าที่กลางอกแล้วปล่อยมือออกจากด้ามมีดปล่อยให้ร่างนั้นล้มลงไปพร้อมกับมีดที่ปักอยู่

                    อาการเหนื่อยล้าถึงขีดสุดตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว  ร่างทั้งร่างทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างหมดแรง  นอนกางแขนกางขาบนพื้นเปล่าที่เย็นเยือก  เสียงหายใจโรยรินอย่างเหนื่อยอ่อน  เม็ดเหงื่อไหลลงมาไม่ขาดสายทั่วตัวอากาศหนาวๆ ก่อนหน้านี้กลับร้อนขึ้นทันตา

                    ไม่นึกว่ามือขวาของพระเจ้าจะมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้จริงไหม?  แต่ก็นะถ้าเป็นชั้นคงตายไปแล้วถ้าใช้พลังไม่ได้แบบนนาย...มันไม่ชินกับการต่อสู้แบบมนุษย์ใช้ไหมหละเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้แล้วจ้องมองหน้าคนที่นอนอยู่ข้างล่างอย่างสนุกใจ

                    นายทำหยังงี้ทำไหม  เขาเคยช่วยนาย  เลี้ยงดูนาย  เชื่อในตัวนายแต่กลับทรยศเขาหรอ

                    “ … ” ฮั้นส่ายหน้าเบาๆ

                    เขาต่างหากที่ทิ้งฉัน!!  ฉันทำเพื่อเขามาตลอดหลายสิบปีแต่เขากลับทิ้งฉันให้กลายเป็นแบบนี้!! ” น้ำเสียงที่ฟังดูโมโห  เขาชี้นิ้วที่ตัวเองประกอบกับประโยคที่เขาพูดไป

                    นั้นก็เพราะความผิดที่นายทำ!!!... ” คนที่นอนอยู่แค่นเสียงให้ดังขึ้นเพื่อโต้ตอบแต่ก็ถูกขัดจังหวะก่อนจะพูดจบ

                    ความผิดนาย!!...ความผิดที่เราทั้งคู่ทำ               

                    ใช้แต่นายสามารถที่จะแก้ไขมันได้ไม่เหมือนกับฉัน  ฉันรับความผิดทั้งหมดแล้วลงมาที่นี้แทนนาย  ทำไมไม่แก้ไขมันทั้งๆ ที่ยังทำได้!! ”

                    หุบปาก!!! ” ฮั้นดึงขอเสื้อริกอย่างแรงแล้วเหวี่ยงเขาไปข้างหลัง  ริกไถลไปกับพื้นพยายามพลิกตัวแต่ทำไม่ได้

                    งานนี้ฉันจะให้นายได้เจอเหมือนที่ฉันเคยเจอเพื่อน ฮั้นเดินมาหาริกอย่างช้าๆ พร้อมกับยกมือขึ้นเสมอไหล่เหมือนกับกำลังยกอะไรอยู่  และก็ไม่ผิดร่างของเมย์ตอนนี้ลอยอยู่กลางอากาศ  เธอเอามือกุมคอตัวเองเหมือนว่าถูกบีบคออยู่  น้ำตาอาบสองแก้มด้วยความทรมารและปวดร้าวในส่วนลึกของหัวใจ

                    ไม่สิ...ตอนแรกฉันบอกว่าจะให้เธอได้เห็นเขาตาย  งั้นก็ตามนั้นและกัน ฮั่นหันไปมองคนที่ลอยอยู่แล้วแสยะยิ้มอย่างสนุกใจก่อนจะค่อยๆ ปล่อยเธอลงกับพื้นแล้วสร้างกรงจากพลังเวทย์มาขังเธอ

                    เพียงพริบตาเดียวที่ริกหันไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แล้วหันกลับมามองคนที่ยินอยู่ตรงหน้าเขาที่ตอนนี้มีเคียวขนาดใหญ่สีดำใบมีดสีแดงเลือดพาดกับหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้และเขาพร้อมจะใช้มันกับคนตรงหน้า

                    ไหนหละคนที่นายบอกศรัทธานักศรัทธาหนา  ฉันไม่เห็นว่าเขาจะส่งใครมาช่วยนายเลย  หรือว่าเขาทิ้งนายแล้ว...เหมือนฉัน ฮั้นพูดจาถากถางริก  มองด้วยสายตาผิดหวังที่ริกไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นมันเพราะเมื่อก่อนฮั้นเป็นคนดีอยู่ด้วยแล้วสนุกไม่ใช้พวกมองโลกในแง่ร้ายเหมือนตอนนี้

                    เขามองเราอยู่...ฉันรู้ว่านายก็รู้สึกว่าเขายังรักพวกเราอยู่  อย่าพยายามปิดมันเลยเพื่อน  กลับไปกับฉันแล้วฉันจะขอให้ช่วยนาย... ด้วยความที่อยากจะช่วยเพื่อนเก่า  ริกได้บอกขอเสนอซึ่งมีแต่ให้แต่ฮั้นไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ

                    นายก็รู้ว่าบาปสีดำมันลบล้างไม่ได้  ไม่เหมือนบาปสีขาวของนายกับพวกมนุษย์เดินดินที่แค่สำนึกผิดแล้วขอให้เขาช่วยแล้วก็หายไป ประโยคเมื่อกี้ทำเอาริกพูดอะไรไม่ออกเกี่ยวกับความจริงที่ว่าบาปของฮั้นนั้นลบไม่ได้  เขาได้แต่มองเพื่อนเก่าอย่างหมดหวัง

                    หมดเวลาคุยแล้วเพื่อน  ได้เวลาตายแล้ว...   ฮั้นปล่อยเคียวลงกระทบพื้นแล้วหมุนด้วยความคล่องแคล้วแล้วฟาดลงกับพื้นที่ริกนอนอยู่แต่กลับโดนเพียงลมและพื้นซีเมนแข็งๆ เท่านั้น

                    ริกกลิ้งตัวหลบเคียวที่ฟาดลงมาแต่กลับโดนแรงลมที่มากับเคียวทำให้กระเด็นไปติดพนังอย่างแรง 

                    อ๊อก อ๊อก...!!! ” ริกไอออกมาพร้อมกับเลือดกองใหญ่  เขานั่งเอาหลังพิงกำแพงไว้เพื่อดันตัวเองให้นั่งสบายที่สุดแต่ยังไงเขาก็ต้องขายอีกไม่นาน  มันเปล่าประโยชน์มากที่มาทำแบบนี้

                    หลบไปก็เท่านั้นแหละเพื่อน  นายก็แต่ยืดชีวิตได้อีกไม่กี่วิ  และไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่คนเดียวอีกเดี่ยวฉันจะส่งเธอไปเป็นเพื่อนนายเอง ฮั้นเงื้อเคียวอีกครั้งอย่างสุดมือ

                    อภัยเถอะเพื่อน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×