คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part II
มันเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคนรักที่ได้มานั่งทานข้าวกันเสร็จแล้วก็ดูหนังมันช่างเป็นเวลาที่หวานชื่นแต่ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปคงเศร้าไม่น้อย แต่สถานการณ์ในตอนนี้เศร้ายิ่งกว่า ริกนั่งกุมหัวอยู่บนเตียงครุ่นคิดหาวิธีที่จะช่วยเมย์ออกมาถึงอยากจะไปช่วยเธอมากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีอาวุธหรืออะไรที่สามารถไปช่วยเธอได้ ตอนนี้ริกเข้าใจอาการปวดหัวของรอนแล้วว่าเป็นยังไงแต่ที่ต่างกันคือรอนปวดหัวเพราะพิษไข้แต่เขาปวดหัวเพราะคิดมาก
‘ หือ…รอน ฉันจำได้ว่ามันสะสมปืนนี้ ’
ทันทีที่คิดถึงรอนเพื่อนซี้เขาก็นึกขึ้นมาได้อีกอย่างว่าเขาสะสมปืนเป็นงานอดิเรก ถึงจะไม่มากแต่ก็น่าจะมากพอสำหรับงานนี้ ริกไม่รอช้ารีบดึงตัวเองออกมาจากความคิดในหัวแล้วลุกขึ้นตรงไปที่โต๊ะกาแฟเขาล้วงกระเป๋าหนังสีดำเอากุญแจรถออกมาใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรีบร้อน เขาวิ่งออกไปทางประตูอย่างไม่รอช้าตรงไปที่ลิฟท์ เหมือนโชคเข้าข้างลิฟท์จอดอยู่ที่ชั้นนี้พอดิบพอดี เขากดลิฟท์ลงไปชั้นล่างสุดอย่างรีบร้อน
เมื่อถึงชั้นแรกเขารีบวิ่งออกไปทางประตูหน้าแล้วตรงไปยังถนนฝังตรงข้าม เขาวิ่งไปโดยไม่สนใจรถที่กำลังวิ่งไปมาเพราะด้วยความเป็นห่วงเมย์
ปิ๊บบบบบ!!!!
ริกล้มลงกับพื้นถนนตรงหน้ารถตันสีน้ำเงินเข้ม แสงไฟจากรถสาดส่องเข้ามาในตาของริกทำให้เขามองเห็นอะไรไม่ชัดแต่ก็รู้ว่าควรจะหลีกทางก่อนที่จะถูกชน ริกยันตัวขึ้นแล้ววิ่งไปทางรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ เสียงแตรรถดังสนั่นทั้งถนนเพราะคนๆ เดียวแต่เขาไม่ได้สนใจกับคนพวกนี้ทีตอนนี้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติ
“ จะขอยืมปืนฉันหรอ? ” รอนตั้งคำถามที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ถามใครโดยเฉพาะเพื่อนคนนี้ น้ำเสียงฟังได้อย่างชัดเจนว่าเขามึนงงกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลย
“ ใช้ คือเออ…หลานฉันเขากำลังจะได้เป็นทหารแล้วเออ…เขาอยากเห็นปืนของจริงฉันเลยมาขอยืมปืนนาย ”ริกพูดอย่างตะกุตะกะเพราะต้องใช้ความคิดที่จะทำให้คนตรงหน้าเชื่อในสิ่งที่พูด ริกมองคนตรงหน้าด้วยสายเหมือนกำลังลุ้นว่าเขาจะเชื่อไหม รอนก็กำลังครุ่นคิดว่าจะเชื่อในสิ่งที่ริกพูดมาดีหรือไม่
“ เออ…หรอ งั้น…ตรงไปที่ตู้ตรงนั้นนะ แล้วอยากได้กระบอกไหนก็หยิบเลย ”รอนชี้ไปทางตู้สีน้ำตาลข้างหน้าต่าง
“ ขอบใจนะ ”
“ เออไม่เป็นไรหรอก อยู่บ้านก็ไม่ค่อยจะได้ออกมาขัดอยู่แล้วงั้นฝากขัดด้วยแล้วกันนะ ” รอนพูดติดตลก
“ ถ้าฉันกลับมาได้หละนะ ” ริกบ่นเบาๆ กับตัวเอง
“ เหอ…ว่าอะไรนะ แอ๊กแอ๊ก ” รอนถามเพราะเหมือนได้ยินริกพูดเบาๆ แต่เขาไม่หมั้นใจว่าเพราะฤทธิ์ไข้หรือเปล่าจึงทำให้เขาได้ยินอย่างนั้น
“ เปล่า ไม่ได้พูดอะไร ” ตอนนี้สีหน้าของริกเครียดอย่างเห็นได้ชัดแต่รอนคงไม่เห็นเพราะเป็นหวัดทำให้เขาลืมตาได้ไม่เต็มที่
ปืนทุกกระบอกของรอนที่ก่อนหน้านี้อยู่ในตู้ตอนนี้มันได้อยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ในมือของริกเรียบร้อยหมดแล้ว เมื่อได้ของที่ต้องการริกเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูหน้าห้องของรอน
“ ขอบคุณจริงๆ เพื่อน ” ริกเอ่ยคำลาแล้วปิดประตูเดินออกไปแล้วให้รอนพักผ่อนต่อ
รอนนั่งมองประตูที่เพื่อนพึ่งออกไปเมื่อกี้อย่างครุ่นคิดแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เขาปวดหัวตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกจากไปนอน คิดได้ดังนั้นรอนก็ยันตัวเองขึ้นแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนแล้วปิดประตูนอนโดยพยายามไม่ให้คิดเรื่องนี้ในหัวเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
ริกยืนอยู่หน้าโกงดังแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีคนใช้งานมานานไม่ใช้น้อยแต่นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือที่แห่งนี้คือสถานที่ที่พวกมันจับคนรักของเขามา เมื่อมองดูแผนที่ที่แนบมากับจดหมายแน่นอนแล้วเขาไม่รอช้าที่เตรียมตัวเจอกับอะไรที่อยู่ข้างใน ริกเปิดประตูหลังรถเอากระเป๋าสีดำใบใหญ่ออกมาแล้ววางมันไว้ที่หลังรถ เมื่อรูดซิปออกปืนประมาณสี่ห้ากระบอกที่เขาของยืมรอนมาโดยที่ไม่ได้บอกความจริงเพราะเรื่องนี้มันอันตรายเกินไป
ริกสวมชุดเกราะที่เอาติดมือมาจากที่ทำงานแล้วยืนมองปืนเหล่านั้นอย่างครุ่นคิด ปืนพกสองกระบอก ลูกซอก ปืนกลกับไรเฟิลอย่างละกระบอก ถ้าเอาไปด้วยทั้งหมดคงหนักไม่น้อยแต่ด้วยความจำเป็นที่ไม่อาจรอดออกมาได้เขาเอาปืนพกใส่ไว้กับซอกแล้วมัดไว้ที่ต้นขาทั้งสองข้าง สะพายปืนไรเฟิลกับปืนกลไว้ข้างหลัง เขาคิดว่าจะถือปืนลูกซองไว้ในมือเพื่อมีอะไรโผล่ออกมาตอนที่เขาเดินเข้าไปจะได้ยิงให้แหลกเลยทีเดียว
เมื่อทุกอย่างพร้อมริกเปิดประตูโกดังเก่าๆ ออก เสียงเปิดประตูที่ขึ้นสนิมดังลั่นแสบหู เมื่อมองเข้าไปข้างในกลับมืดมิดเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี้ แต่เขาหมั้นใจว่าพวกมันคงดักรอเขาอยู่สักที่ ริกค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปยังพื้นที่โกดัง ฝุ่นกระจายไปทั่วเมื่อก้าวเท้าแต่ละก้าวทำให้ริกไอออกมาอยู่หลายที
เดินไปเรื่อยจนรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยู่กลางโกดังแห่งนี้แสงไฟก็สว่างจ้าที่จุดๆ หนึ่งข้างหน้า ริกเบิกตากว้างเมื่อมองสิ่งที่อยู่ใต้แสงไฟชัดๆ อีกครั้ง...‘ เมย์ ’
เมย์นอนอยู่โดยมีแสงไฟล้อมรอบไว้และดูจากตรงนี้เหมือนว่าที่ๆ เมย์นอนอยู่ตอนนี้อยู่เหนือริก
“ เมย์!!! ” ริกตะโกนร้องเรียกชื่อคนรักหวังให้เธอได้สติ
ตึก!!! ตึก!!!
เสียงฝีเท้าก้าวอย่างหนักแน่นกับไฟที่เปิดในจังหวะเดี่ยวกัน เห็นชายในชุดสีดำล้อมรอบริกอย่างพร้อมเพรียงโดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ริกหันไปรอบด้านอย่างช้าๆ มองดูคนเหล่านี้ที่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเหมือนรอสัญญาณหรือใครสักคนเข้ามา
“ ริก แฮดท์สัน เฮวซิ้งค์ ไม่ได้เจอกันนานเพื่อนเอ๋ย ” น้ำเสียงหนักแน่นดังมาจากทางที่เมย์นอนอยู่ตอนนี้ เงาสีดำก้าวออกมาทางด้านหลังหญิงสาวแล้วนั่งยองๆ แล้วจับเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำให้ริกต้องชะงักฝีเท้าแล้วเงยหน้ามอง
“ เนี่ยนะหรอคนรักของนาย คนที่ทำให้นายอยู่บนโลกแห่งนี้โดยไม่ยอมกลับไปพร้อมกับแบกบาปสีขาวไว้กับตัวไม่ยอมลบมันออก ”
ผมสีน้ำเงินเข้มสะท้อนแสงไฟ ใบหน้าคมมีที่หนวดเคราเล็กน้อยแต่ดูมีเสน่ห์ ดวงตาสีดำสนิทดูหน้าหลงใหล กับชุดสูทสีดำเนี๊ยบดูลึกลับ เขาหันมองใบหน้าหวานของหญิงข้างๆ แล้วหันกลับไปมองชายเบื้องล่างด้วยใบหน้าที่ดูสนุกสนานและสะใจกับส่งที่ได้ทำอยู่
“ อย่ายุ่งกับเธอนะฮั้น เรื่องนี้มีแค่ฉันกับนายเธอไม่เกี่ยว ” ริกตอบโต้คนข้างบนด้วยความโมโห
“ เรื่องของเรา...ฮาๆๆๆๆ ” ชายผมน้ำเงินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้ริกงงไปไม่น้อยว่าเขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า แต่ถึงหยังงั้นเขาก็ยังทำสีหน้าโกรธไม่เปลี่ยน
“ ถ้านายหมายถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนหละก็ เรื่องนั้นนะฉันลืมไม่แล้ว!! ที่ฉันมาเพราะคำสั่งของคนคนหนึ่ง ”
“ ก็แล้วมันใครหละ!!? ” ริกตะโกนถามกลับ
“ มันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือนายกำลังจะตายแต่คนที่ทรมานที่สุดไม่ใช้นาย...แต่เป็นสาวน้อยคนนี้ฮาๆๆๆ ” ชายในชุดสูทหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนจะเกิดแสงสีแดงบางๆ ที่มือเขา
เมย์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนรักที่อาวุธเต็มตัวเหมือนกำลังไปรบถูกล้อมไปด้วยชายในชุดดำนับสิบ หันไปมองข้างๆ ใบหน้าคมที่มีหนวดเครายื้นเข้ามาใกล้ทำให้เธอต้องถอยหนีแต่ไปไหนไม่ได้เพราะแขนและขาถูกมัดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอจำได้ว่ากำลังจะไปทำอาหารหลังจากกลับมาพอจะหยิบของทุกๆ อย่างก็มืดไปและไม่ได้สติอีกเลยจนถึงตอนนี้
“ นี้มันอะไรกัน นายเป็นใคร แล้วจะทำอะไรกับริ… ”
“ ชู่ว… เงียบหน่อยสิคุณหนู ความสนุกกำลังเริ่มเองนะ ” ฮั้นเอามือปิดปากของเมย์แล้วทำหน้าอย่างมีเล่
“ สีแดง… นายมีเวทย์นั้นได้ยังไง นายเป็นคนของพระเจ้านะ ” ริกตะโกนถามเมื่อเห็นเวทย์สีแดงบางๆ ที่มือของฮั้น มันไม่น่าจะใช้เวทย์ที่เทวทูตปกติจะใช้มันได้…‘ หรือว่าตอนนี้เขาไม่ใช้เทวทูต? ’
ริกเริ่มเกิดความสงสัยในตัวของฮั้นว่าตอนนี้เขาทำงานให้ใครและเขาใช้เวทย์นั้นได้ยังไงรวมถึงคนพวกนี้ที่ล้อมตัวเขาอยู่ ถึงจะถามไปฮั้นคงไม่ตอบมาทั้งหมดหรอกเขารู้ดี เขาเป็นเพื่อนสนิทของฮั้นก่อนที่จะเกิดเรื่องตอนนั้นและตกลงมาอยู่ที่นี้ เขาเคยรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฮั้นแต่ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรเลย… ‘ สี่ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น? ’
ถึงจะตั้งคำถามมากมายในหัวแต่ก็ไม่ทำให้ได้คำตอบกลับมาแม้แต่คำถามเดียวเขาจึงปริปากถามฮั้นอย่างสั้นๆ เพื่อที่พอจะปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเอง
“ หรือว่านาย…ไม่ใช้เทวทูตแล้วงั้นหรอ? ”
“ ใช้ริก ตอนนี้ฉันไม่ได้ทำงานให้กับพระเจ้าอีกต่อไป ฉันมีบาปสีดำตั้งแต่เมื่อปีก่อน ตอนแรกฉันก็ไม่อยากได้มันแต่เมื่อลองแล้วฉันได้รู้ว่ามันสนุกกว่าเป็นเทวทูตเป็นไหนๆ ฉันคือเทวทูตตกสวรรค์ ริก ”แสงสีดำลางๆ สว่างออกมาจากหลังของฮั้น เขายืนขึ้นและกางปีกสีดำแดงออกเป็นแนวนอนเพื่อเป็นเครื่องยืนยันในสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้
เมย์หันไปมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้มีปีกสีดำแดงโผล่ออกมาจากหลังเป็นเรื่องที่หน้าตกใจที่สุดในชีวิตที่เธอเคยเห็นมาและเมื่อเธอลองจับใจความใจสิ่งที่เขาทั้งสองคุยกันนั้นทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าคือ… ‘ ริกคือเทวทูต ’
สิ่งที่คิดได้ทำให้เธอพูดไม่ออกเลย เธอมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูเหมือนจะโมโหคนข้างๆ เธอไม่น้อย ไม่สิพวกเขาไม่ใช้มนุษย์ เธอไม่รู้ควรจะทำยังไงดีก็คงได้แต่นั่งนิ่งดูสถานการณ์จากข้างบนนี้
ริกมองคนที่นั่งอยู่ตอนนี้ดูท่าเธอจะสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อยและเธออาจจะรู้แล้ว่าเขาเป็นอะไร เขาเคยคิดว่าเมื่อเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้อีกแล้วและไม่ต้องการให้ใครรู้ความลับนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย
“ แล้วนายคงไม่ใช้พวกไนท์อาเกียใช้ไหม? ” ริกถามต่อ
“ ไนท์อาเกีย? ถ้าอยู่แล้วจะทำไม...หา!!! ที่ฉันตามล่านายมาตั้งนานแล้วทำให้มันจบๆ เถอะ ” ฮั้นพูดพร้อมๆ กัลปัดมือเป็นแนวนอนเพื่อสั่งให้พวกที่อยู่ข้างล่างทั้งหมด
แสงสีขาวสว่างจ้าจนแสบตาทำให้พวกที่อยู่รอบๆ ตอนนี้ต้องคอยเอมือบังตาเอาไว้พลางเอามือปัดตามสัญชาตญาณ เมื่อพวกที่ล้อมเขาอยู่เริ่มขยับริกก็เริ่มโดยการแสดงปีกของตนบ้างโดยคราวนี้ไม่ได้ให้มันออกมาจางๆ แต่ให้มันออกมาแบบเห็นได้ชัด ขนนกสีขาวกระจัดกระจายตามแรงลมทีเกิดจากการขยับปีกของริก เขาพุ่งตัวไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเป็นอย่างแรก เขาเอาปากปืนลูกซองกระแทกท้องคนที่ยืนอยู่อย่างไม่รู้อีโน่อีเน่แล้วลั่นไก แรงปืนทำให้คนที่อยู่ปากปืนลอยขึ้นเล็กน้อยแล้วลงไปนอนกับพื้น และนั้นเป็นสัญญาณทำให้คนอื่นๆ รู้ตัวว่าเขาเริ่มโจมตีแล้ว
เสียงฝีเท้าวิ่งมาทางข้างหลัง ริกกระแทกปืนเขาที่หน้าท้องเหมือนเดิมแล้วหมุนปืนให้ปากกระบอกตรงกับหัวแล้วลั่นไกในขณะที่คนอื่นๆ ก็กำลังวิ่งเขามาหาเขา เขาหันหลังไปหมุนปืนให้ปากกระบอกอยู่ตรงหน้าแล้วยิงออกไปและทำอย่างเดียวกันกับพวกที่วิ่งกันเขามา เสียงปลอกระสุนหล่นกระจายเป็นพื้นที่เปื้อนไปด้วยฝุ่นดังเป็นจังหวะแต่ก็ถูกเสียงปืนกลบไปในจังหวะต่อมา
ริกโยนกระบอกปืนเข้าหน้าของชายที่วิ่งเข้ามาทำให้เขาหงายหลังกระแทกกับพื้น ริกหยิบปืนกระบอกต่อไปจากหลัง ถึงแม้ว่าพวกนี้จะไม่มีอาวุธอยู่ในมือแต่มันก็เยอะมากถ้าหากเขาสู้ทั้งหมดด้วยมือเปล่ามีหวังเขาจะได้ตายเป็นศพแรก
กระสุนนัดแล้วนักเล่าถูกยิงออกมาจากปืนของผู้เป็นเทวทูตในขณะที่ฮั้นยืนมองคนข้างล่างต่อสู้กันอย่างสนุกสนานและยิ่งสะใจเมื่อคนที่โดนรุมคือคนที่ทำให้เขามีบาดแผลในใจเมื่อสี่ปีก่อน...‘ นี้แหละที่ฉันอยากเห็น ’
“ พอเถอะ…หยุดได้แล้ว!!! ” ฮั้นหันมองคนข้างที่เป็นต้นเสียงเมื่อครู่ ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เปื้อนน้ำตาเพราะความเจ็บปวดที่เห็นคนรักถูกทำร้าย เธอเกาะขาของฮั้นอย่างอ้อนวอนขอร้องให้ฮั้นหยุดเรื่องทั้งหมดนี้ ถึงเธอจะโกรธริกแค่ไหนที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอแต่เธอไม่อยากที่จะเสียคนรักไปมากกว่า
“ ไม่จนกว่ามันจะตาย และฉันจะให้เธอได้ดูมันตายอย่างเต็มตา ” เสียงที่ฟังดูเคียดแค้นกับใบหน้าที่ก่อนหน้านี้ดูขี้เล่นแต่ตอนนี้กับโกรธเกรี้ยว ฮั้นจับใบหน้าหวานของเมย์ให้หันไปดูริกที่ตอนนี้กำลังถูกล้อมอยู่ข้างล่าง ใบหน้าคมที่ตอนนี้แปดเปื้อนไปด้วยเลือดดูเหนื่อยอ่อนใกล้จะหมดแรง
ริกหันหลังเข้ากำแพงเพราะตอนนี้เขาถูกล้อมด้วยคนที่เหลือไม่ถึงสิบแต่กระสุนเขาก็หมดไปแล้วเช่นกัน ร่างกายเหนื่อยหล้าและบอบชำจากการต่อสู้เมื่อกี้ เสียงหายใจหอบแห้งและถี่เป็นสัญญาณได้ว่าเขาไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าหยุดตอนนี้เขาก็จะช่วยเมย์ไม่ได้เช่นกัน
ริกหยิบมีดสั้นออกมาซึ่งเป็นตัวเลือกสุดท้ายแล้วที่เขาจะใช้สู้ ถ้าเป็นเวลาปกติแค่มือเปล่ากับพวกนี้มันง่ายมากสำหรับมือขวาของพระเจ้าอย่างเขา แต่เมื่อสภาพร่างกายอ่อนหล้าแบบสุดๆ ต่อให้เก่งยังไงก็สู้ไหว
เขาพุ่งเขายังคนที่ใกล้ที่สุดแทงมีดลงไปแต่หลบได้ซึ่งเขารู้อยู่แล้วจึงใช้เข่าแทงเข้าที่ท้องแล้วใช้มือทั้งสองข้างประกบกันแล้วทุบลงทำให้ร่างนั้นกระแทกกับพื้นอย่างแรง สะบัดปีกทั้งสองให้เป็นแนวกว้างเพื่อให้พวกที่กำลังวิ่งเข้ามาเสียการทรงตัว ริกหันหลังกลับไปแท่งเข้าที่หน้าท้องคนที่กำลังวิ่งเข้ามาทางด้านข้างที่กำลังวิ่งเข้ามาแล้วหันหลังเตะคนที่อยู่ใกล้ๆ กระเด็นไปล้มทับอีกคนที่อยู่หลังเขา
หมัดหนักๆ กระแทกใบหน้าทำเอาริกถอยหลังไปหลายก้าวเพราะเสียหลัก คนตรงหน้าเงื่อหมัดขึ้นชกริกตั้งแขนรับแล้วแทงกลับที่อกซ้าย เอียงหลบเท้าที่ยันเข้ามาจับไว้แล้ทุบลงที่หัวเข่าแล้วแทงเข้าที่กลางอกแล้วปล่อยมือออกจากด้ามมีดปล่อยให้ร่างนั้นล้มลงไปพร้อมกับมีดที่ปักอยู่
อาการเหนื่อยล้าถึงขีดสุดตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ร่างทั้งร่างทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างหมดแรง นอนกางแขนกางขาบนพื้นเปล่าที่เย็นเยือก เสียงหายใจโรยรินอย่างเหนื่อยอ่อน เม็ดเหงื่อไหลลงมาไม่ขาดสายทั่วตัวอากาศหนาวๆ ก่อนหน้านี้กลับร้อนขึ้นทันตา
“ ไม่นึกว่ามือขวาของพระเจ้าจะมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้จริงไหม? แต่ก็นะถ้าเป็นชั้นคงตายไปแล้วถ้าใช้พลังไม่ได้แบบนนาย...มันไม่ชินกับการต่อสู้แบบมนุษย์ใช้ไหมหละ ” เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้แล้วจ้องมองหน้าคนที่นอนอยู่ข้างล่างอย่างสนุกใจ
“ นายทำหยังงี้ทำไหม เขาเคยช่วยนาย เลี้ยงดูนาย เชื่อในตัวนายแต่กลับทรยศเขาหรอ ”
“ … ” ฮั้นส่ายหน้าเบาๆ
“ เขาต่างหากที่ทิ้งฉัน!! ฉันทำเพื่อเขามาตลอดหลายสิบปีแต่เขากลับทิ้งฉันให้กลายเป็นแบบนี้!! ” น้ำเสียงที่ฟังดูโมโห เขาชี้นิ้วที่ตัวเองประกอบกับประโยคที่เขาพูดไป
“ นั้นก็เพราะความผิดที่นายทำ!!!... ” คนที่นอนอยู่แค่นเสียงให้ดังขึ้นเพื่อโต้ตอบแต่ก็ถูกขัดจังหวะก่อนจะพูดจบ
“ ความผิดนาย!!...ความผิดที่เราทั้งคู่ทำ ”
“ ใช้แต่นายสามารถที่จะแก้ไขมันได้ไม่เหมือนกับฉัน ฉันรับความผิดทั้งหมดแล้วลงมาที่นี้แทนนาย ทำไมไม่แก้ไขมันทั้งๆ ที่ยังทำได้!! ”
“ หุบปาก!!! ” ฮั้นดึงขอเสื้อริกอย่างแรงแล้วเหวี่ยงเขาไปข้างหลัง ริกไถลไปกับพื้นพยายามพลิกตัวแต่ทำไม่ได้
“ งานนี้ฉันจะให้นายได้เจอเหมือนที่ฉันเคยเจอเพื่อน ” ฮั้นเดินมาหาริกอย่างช้าๆ พร้อมกับยกมือขึ้นเสมอไหล่เหมือนกับกำลังยกอะไรอยู่ และก็ไม่ผิดร่างของเมย์ตอนนี้ลอยอยู่กลางอากาศ เธอเอามือกุมคอตัวเองเหมือนว่าถูกบีบคออยู่ น้ำตาอาบสองแก้มด้วยความทรมารและปวดร้าวในส่วนลึกของหัวใจ
“ ไม่สิ...ตอนแรกฉันบอกว่าจะให้เธอได้เห็นเขาตาย งั้นก็ตามนั้นและกัน ” ฮั่นหันไปมองคนที่ลอยอยู่แล้วแสยะยิ้มอย่างสนุกใจก่อนจะค่อยๆ ปล่อยเธอลงกับพื้นแล้วสร้างกรงจากพลังเวทย์มาขังเธอ
เพียงพริบตาเดียวที่ริกหันไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แล้วหันกลับมามองคนที่ยินอยู่ตรงหน้าเขาที่ตอนนี้มีเคียวขนาดใหญ่สีดำใบมีดสีแดงเลือดพาดกับหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้และเขาพร้อมจะใช้มันกับคนตรงหน้า
“ ไหนหละคนที่นายบอกศรัทธานักศรัทธาหนา ฉันไม่เห็นว่าเขาจะส่งใครมาช่วยนายเลย หรือว่าเขาทิ้งนายแล้ว...เหมือนฉัน ” ฮั้นพูดจาถากถางริก มองด้วยสายตาผิดหวังที่ริกไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นมันเพราะเมื่อก่อนฮั้นเป็นคนดีอยู่ด้วยแล้วสนุกไม่ใช้พวกมองโลกในแง่ร้ายเหมือนตอนนี้
“ เขามองเราอยู่...ฉันรู้ว่านายก็รู้สึกว่าเขายังรักพวกเราอยู่ อย่าพยายามปิดมันเลยเพื่อน กลับไปกับฉันแล้วฉันจะขอให้ช่วยนาย... ” ด้วยความที่อยากจะช่วยเพื่อนเก่า ริกได้บอกขอเสนอซึ่งมีแต่ให้แต่ฮั้นไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ
“ นายก็รู้ว่าบาปสีดำมันลบล้างไม่ได้ ไม่เหมือนบาปสีขาวของนายกับพวกมนุษย์เดินดินที่แค่สำนึกผิดแล้วขอให้เขาช่วยแล้วก็หายไป ” ประโยคเมื่อกี้ทำเอาริกพูดอะไรไม่ออกเกี่ยวกับความจริงที่ว่าบาปของฮั้นนั้นลบไม่ได้ เขาได้แต่มองเพื่อนเก่าอย่างหมดหวัง
“ หมดเวลาคุยแล้วเพื่อน ได้เวลาตายแล้ว... ” ฮั้นปล่อยเคียวลงกระทบพื้นแล้วหมุนด้วยความคล่องแคล้วแล้วฟาดลงกับพื้นที่ริกนอนอยู่แต่กลับโดนเพียงลมและพื้นซีเมนแข็งๆ เท่านั้น
ริกกลิ้งตัวหลบเคียวที่ฟาดลงมาแต่กลับโดนแรงลมที่มากับเคียวทำให้กระเด็นไปติดพนังอย่างแรง
“ อ๊อก อ๊อก...!!! ” ริกไอออกมาพร้อมกับเลือดกองใหญ่ เขานั่งเอาหลังพิงกำแพงไว้เพื่อดันตัวเองให้นั่งสบายที่สุดแต่ยังไงเขาก็ต้องขายอีกไม่นาน มันเปล่าประโยชน์มากที่มาทำแบบนี้
“ หลบไปก็เท่านั้นแหละเพื่อน นายก็แต่ยืดชีวิตได้อีกไม่กี่วิ และไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่คนเดียวอีกเดี่ยวฉันจะส่งเธอไปเป็นเพื่อนนายเอง ” ฮั้นเงื้อเคียวอีกครั้งอย่างสุดมือ
“ อภัยเถอะเพื่อน... ”
ความคิดเห็น