ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aladdin : จอมโจรทะเลทราย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 56


     

                แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุทำให้ทรายจำนวนมหาศาลมีไอจางๆ ออกมาก  แผดเผ่าพืชพันธุ์ทุกอย่างที่ตระง่าอยู่กลางทุ่งรกล่าง  แม่น้ำเหือดแห้งระเหยกลายเป็นไอลอยขึ้นสู่ฟ้าและตกลงมาอีกครั้งแล้วขึ้นไปใหม่ครั้งแล้วครั้งเหล่า  ทรายเม็ดเล็กเม็ดน้อยปลิวไปตามลมร้อนอ่อนๆ ทับทมกันเป็นเนินสูงเป็นจุดๆ  สิงสาราสัตว์ต่างพากันหนีร้อนหาที่แหล่งน้ำอยู่กินกันอย่างยากลำบาก

                แสงแดดแผดเผ่าลงมายังเงาดำเบื้องล่างที่เดินอย่างอ่อนแรงถึงกับต้องหาไม้ยาวๆ มาค้ำตัวเองไว้ไม่ให้ล้มลงนอนจมก้องทราย  ชุดคลุมสีน้ำตาลอ่อนผ้าโพกหัวปิดปากปิดหน้าตาเพื่อหลบแดดร้อนๆ ปลิวตามลมร้อนเบาๆ 

    ดูจากท่าทางแล้วเหมือนคนจะเป็นลม  เดินลากขาอย่างหมดแรง  เซไปเซมาเหมือนคนเมาแดด  เขาเงยหน้ามองขึ้นฟ้ามีนกบินวนบนหัวเขาสองตัวเป็นวงกลม  ไม่รู้ว่านกอะไรเพราะมันบินจับกับพระอาทิตย์กลางหัวพอดีทำให้มันย้อนแสง  เขาไม่สนใจและเดินหน้าต่อไป...ไม่สิเดินโซเซไปยังโอเอซิสข้างหน้าที่มองแต่ไกลเห็นควันดำโพยพุ่งขึ้นมาคงมีคนพักอยู่ตรงนั้นพอดีเป็นโอกาสดีที่จะได้ขอของกินจากเขา 

    สายตาเริ่มเบลอมองเห็นไม่ชัดเจนและท่าทางการเดินก็เริ่มไม่ปกติแต่เขาต้องอดใจอีกหน่อยเพราะอีกไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงโอเอซิสแล้ว  เขากัดฟันเดินเซต่อไปขึ้นเนินทรายสูงอย่างยากลำบากเพราะด้วยความอ่อนแรง 

    แกร๊ง!!

                จับจังหวะพอดีกับที่เขาเดินขึ้นถึงยอดเนินและไม้ที่ใช้ยันเขาก็หักพอดีคงรับแรงกดไม่ไหว  เขากลิ้งลงเนินไปอย่างไม่ใยดีและตกลงมานอนหงายท้องอยู่ข้างล่าง  เสียงหายใจหอบแห้งไร้น้ำใดๆ มาช่วยบรรเทาจึงทำให้แสบคอทุกครั้งที่หายใจเอาลมเข้าออกจากปาก  ขณะที่หนังตาค่อยๆ ปิดเข้าหากันภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือพระอาทิตย์เจิดจ้า  นกสองตัวที่ไม่รู้ว่าพันธ์อะไรและบินวนเหมือนว่าวนรอบพระอาทิตย์  กับร่างๆ หนึ่งที่ก้มหน้ามองเขาแต่ไม่เห็นหน้าเพราะย้อนแสงและหลังจากนั้นหนังตาก็ปิดเข้าหากันอย่างสนิท

     

                เสียงดนตรีแบบชาวอาหรับดังขึ้นแว่วๆ เข้ามาในหัวปลุกเขาให้ตื่นจากนิทรา  หนังตาค่อยๆ เปิดออกเห็นภาพตรงหน้าอย่างเบลอๆ กองไฟกองใหญ่กับนางระบำสามคนที่เต้นวนไปรอบๆ ไฟกองใหญ่  หน้าท้องสีน้ำผึ้งแบบราบส่ายไปตามจังหวะดนตรี  ผ้าไหมสีสดผืนบางปลิดสะไหวโชว์ส่วนข้างของต้นขาอ่อนดูเร้าอารมณ์  ใบหน้าใช้ผ้าผืนบางปิดเอาไว้เส้นผมสีดำสนิทยาวถึงต้นเอว  ผู้คนโฮร้องลั่นด้วยความสนุกสนานชายและหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างล้อมรอบกองไฟสังสรรค์กันเป็นบรรยากาศที่ครึกครื้น

                เขาค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งช้าๆ ก่อนจะเหลือบหันไปมาสำรวจคนรอบๆ ตัว  เขาเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ใบมีหนวดเคราสีขาวบ่งบอกอายุอย่างชัดเจน  เสื้อคลุมสีน้ำตาอ่อนสวมผ้าโพกหัวแบบชาวอาหรับ  เดินเข้ามาหาเขาโดยถือแก้วน้ำไว้ในมือ

                เจ้าไม่เป็นอะไรนะ? ” ชายแก่ถามพลางยื่นแก้วน้ำให้เขาแล้วนั่งลงตรงหน้าเพื่อให้การพูดคุยง่ายขึ้น  เขารับมาและยกดื่มอย่างช้าๆ โดยที่สายตายังคงจ้องมองชายตรงหน้าเหมือนอยากจะถามว่าเขาอยู่ที่ไหน

                ข้าชื่อ กาซัด เป็นหัวหน้าพ่อค้ากองคาราวานนี้  ลูกชายข้าไปเห็นเจ้านอนอยู่กลางทะเลทรายใกล้ๆ นี้เอง

                งั้นข้าก็คิดหนี้เขาแล้วหละ  แต่ข้าไม่มีอะไรจะให้ข้าเดินทางมาตัวเปล่าไม่มีอะไรเลย

                ไม่จำเป็นหรอกเจ้าหนุ่ม  มาสนุกกันดีกว่าพวกเรากำลังฉลองกันอยู่เขาลุกขึ้นและส่งมือให้ชายหนุ่มที่ยังนั่งอยู่เหมือนเชิญให้มาสนุกกัน

                มาสิข้าจะพาไปรู้จักกับลูกข้าและก็คนอื่นๆ ในคาราวานชายแก่ส่งยิ้มแล้วดึงตัวเขาขึ้นมา

                กาซัดพาเขาไปยังแหล่งน้ำข้างในโอเอซิสแห่งนี้ลึกเข้าไปในป่าห่างจากจุดที่พวกเขาพักไม่ไกลเท่าไหร่  และระหว่างที่กาซัดพาชายหนุ่มเดินไปที่แหล่งน้ำเขาก็แนะนำทุกคนให้เขารู้จัก  แสงจันทร์อ่อนๆ ส่องสะท้อนแอ่งน้ำใสขนาดใหญ่ระยิบระยับอย่างสวยงามและสะท้อนให้เห็นร่างๆ หนึ่งที่ยืนถือแก้วน้ำไว้ในมือพลางยกดื่มเป็นครั้งคราว

                ใบหน้าคมยาวสีน้ำผึ้งนวลแบบชาวทะเลทราย  ดวงตาเรียวคมสีน้ำตาลเข้มดูมีเสน่ห์  ผมสั้นสีน้ำตาลดูยุ่งเหยิงมัดผมข้างหลังไว้สั้นๆ ด้วยยางมัดสีแดง  เสื้อแขนกุดสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มๆ พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก 

                นั้นไงเขาอยู่นั้นน้ำเสียงเข้มๆ ฟังดูมีอายุเมื่อครู่ทำให้เขาต้องหันหลังกลับไปดู

                เป็นยังไงบ้างลูกพ่อ  มัวแต่มองดูวิวทิวทัศน์อย่างนี้ทุกทีเลยนะกาซัดเดินออกมาจากต้นไม้ด้านหลังเขาพอดิบพอดี  เขาเดินตรงไปหาผู้เป็นพ่อโดยสายตาเหลือบไปเห็นคนที่เดินมาด้วยข้างหลัง

                เจ้าดูดีขึ้นแล้วนิ  คงไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช้ไหม

                ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว  ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยข้าไว้เขาโค้งตัวลงเล็กน้อยและเอามือวางไว้ที่อกซ้ายเชิงบอกว่าขอบคุณ

                ไม่เป็นไรหรอก  เป็นคนก็ต้องช่วยเหลือกันสิ

                เมื่อทั้งสองทักทายกันเสร็จแล้วกาซัดก็เดินตรงเข้าไปหาลูกชายแล้วเอามือตบไหล่เบาๆ แล้วหันไปมองชายอีกคนตรงหน้า

                นี้ลูกชายข้า นาซิน เขาชอบเหม่อมองรอบๆ เสมอเวลาว่างๆ แต่ฝีมือดาบก็ไม่แพ้ใครหรอกนะกาซัดพูดหยอกนาซินเล็กน้อยเพื่อให้บรรยากาศดูน่าคุยมากขึ้น

                จริงสิเจ้ายังไม่ได้บอกชื่อของเจ้าเลยกาซัดถามกลับไป

                ข้า...

    ข้า...ชื่อ...อาซู  เป็นนักเดินทางกำลังไปที่เมืองนูกาฮันแต่น้ำกับอาหารข้าถูกพายุทะเลทรายพัดไปหมดแล้วเขาพูดออกมาเหมือนลังเลบางอย่างในตอนแรกแต่ก็กลับเป็นเหมือนเดิมหลังจะประกาศชื่อให้ทั้งคู่ฟังแล้ว

                แสงจันทร์เริ่มทำให้เห็นใบหน้านั้นชัดขึ้น  ใบหน้าคมสันได้รูปเห็นกรามชัดเจน  ดวงตาสีเทาอ่อนดูหน้าค้นหา  ทรงผมสีน้ำตาเข้มยาวรกรุงรังมัดรวมกันไว้ตรงต้นคอด้านหลังและปล่อยยาวจนถึงเอวมัดด้วยยางสีน้ำเงินเข้ม  เสื้อสีดำพับแขนขึ้นไว้ที่ต้นแขน  กาซัดไม่ได้ทันสังเกตเขาชัดๆ ก่อนหน้านี้เพราะมัวแต่แนะนำเขาให้คนอื่นรู้จัก

                งั้นก็ดีสิ  พวกข้ากำลังจะไปขายของที่เมืองนูกาฮันพอดี  ไปด้วยกันไหมหละนาซินพูดเชิญให้อาซูไปด้วยพลางยกแก้วในมือขึ้นดื่ม

                ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างข้าคงไม่รบกวนไปมากกว่านี้แล้วหละ

                ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่าถึงเมืองแล้วก็ค่อยแยกทางกันก็ได้อาซูลังเลว่าจะร่วมเดินทางกับพวกเขาดีไหมเพราะเขาก็มีธุระแถวๆ นี้เหมือนกัน  แต่เขาก็ไม่ยากติดค้างใครเช่นกัน

                ก็ได้ระหว่างทางข้าจะได้ช่วยตอบแทนอะไรพวกเจ้าบ้างเขาพยังหน้ารับ

                ถ้างั้นก็ดีแล้ว  ไปสนุกกันเถอะกาซัดพูดแล้วเดินลวงหน้าไปที่แค้มป์ก่อนแล้วให้ทั้งสองคนตามไปที่หลัง

                พวกเจ้ามีงานอะไรกัน  ดูสนุกกันใหญ่เชียวอาซูหันมาถามนาซินที่กำลังยืนดูแหล่งน้ำอยู่

                มีอาคนในกองคาราวานของเราคลอดนะสิ  พวกเราก็เลยแสดงความดีใจกับเธอโดยจัดงานเลี้ยงฉลองอาซูพยักหน้ารู้เรื่อง 

                งั้นไปกันเถอะหรือว่าเจ้าจะอยู่ตรงนี้ดูวิวไปก่อนอาซูพูดน้ำเสียงกวนๆ เล็กน้อย

                ฮาๆ ไปกันเถอะน่า  เจ้านี้พึ่งเจอข้าแล้วก็ล้อข้าซะขนาดนี้แล้วกล้าไม่เบานะเจ้านาซินหันไปพูดกับอาซูด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย

                ก็ข้าเข้ากับคนเก่งเขาพูดออกมาพร้อมกับทำท่ากอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้นประกอบด้วยความภูมิใจแต่ก็แค่แกล้งไปเท่านั้น

                ไม่ต้องมายืดเลยเจ้านาซินพูดกลั่นขำในลำคอเอาไว้

                ฮาๆ ไปเถอะเดียวอาหารก็หมดซะก่อนหรอกอาซูพูดพลางเดินหันหลังกลับไปที่แค้มป์

                เจ้านี้ก็ห่วงกินเหลือเกินนะเมื่อพูดกันจบเขาก็เดินตามไปกลับเข้าไปงานฉลองในค่ำคืนที่แสงจันทร์ส่องสว่างหน้าหลงใหลในคืนนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×