ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Translated_Fic] BLINDSIDED_WenRene

    ลำดับตอนที่ #5 : Run To You

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 58


    Chapter 5

    Run To You

     

    A light in the room,

    It was you who was standing there.

    Tried it was true,

    As your glance met my stare.

     

    But your heart drifted off,

    Like the land split by sea.

    I tried to go, to follow,

    To kneel down at your feet.

     

     

    ฉันมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธอ “ฉันคิดว่า... ฉันต้องฆ่าใครบางคน”

    ตาของเธอเบิกกว้าง เช่นเดียวกับริมฝีปากของเธอ แต่กลับไม่มีคำใดเล็ดลอดออกมา

     

    กลัวงั้นเหรอ

    เธอจะกลัวทำไม

     

    “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำได้หรือเปล่า แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำดีหรือเปล่า” ฉันหยุดเล่นเกมจ้องตา มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างติดอยู่ในลำคอ

    เสียงของเธอค่อยๆ ลอยเข้ามากระทบกับโสตประสาท “ฉันติดหนี้ชีวิตเธอ”

    ฉันเงยหน้ามอง ไอรีนมองฉันด้วยแววตาจริงใจพร้อมกับระบายรอยยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้า

    “มีอีกคน...”

    “ขอบคุณนะซึงวาน... แต่ถ้ามันสามารถทำให้เธอกลับมามีชีวิตได้อีกจริงๆ ก็ฆ่าฉันเถอะ”

    “สองปีที่ผ่านมา มีค่าสำหรับเธอบ้างหรือเปล่า” ฉันขึ้นเสียง “จะให้ฉันฆ่าเธอลงได้ยังไง”

     

    จู่ๆ ก็รู้สึกปวดหัว

     

    “มีสิ เพราะมันมีความหมายกับฉันไง ฉันถึงบอกให้เธอฆ่าฉันซะ” เธอค่อยๆ วางภาพวาดลงแล้วดึงมือฉันไปกุมไว้ “มันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะทำให้เธอได้”

    ฉันผลักเธอออก มันรู้สึกเหมือนมีหนามแหลมพุ่งขึ้นจากมือขึ้นไปที่หัว

    แต่ถึงผลักเธอออกแล้วมันก็ยังไม่หยุด

    มีแต่จะรุนแรงขึ้น

     

    ไปที่หัวใจ ที่แขนที่ขา ทุกอณูของร่างกาย

     

    ฉันทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าหวังว่ามันจะทำให้ความเจ็บปวดจางหายไป 

    “ซึงวาน เธอเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะฉันงั้นเหรอ”

    ฉันรู้สึกได้ว่าไอรีนนั่งคุกเข่าลงข้างๆ ฉัน

    ฉันเองก็หวังว่าตัวเองจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น 

    มันรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังสับสมองฉันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหมือนมีคนเจาะสว่านเข้าทั่วร่าง

    “ฉัน... ฉันต้องทำยังไงซึงวาน” ไอรีนมักจะพูดเร็วเสมอเวลาเธอตกใจ

     

    เธอจะพาฉันไปส่งโรงพยาบาลก็ไม่ได้

    จะเรียกซาเวียร์ให้ฉันก็ไม่ได้

     

    ฉันพยายามลืมตาขึ้นแต่ทุกอย่างตรงหน้ากลับเบลอไปหมด

    เสียงไอรีนเริ่มหายไป

    พร้อมๆ กับที่ฉันขยับตัวไม่ได้

     

    และสุดท้ายก็เป็นลมไป

     

     

    I've been settling scores,

    I've been fighting so long.

    But I've lost your war,

    And our kingdom is gone.

     

    How shall I win back,

    Your heart which was mine.

    I have broken bones and tattered clothes,

    I've run out of time.

     

     

    ฉันได้สติอีกครั้งและพบว่าตัวเองนั่งอยู่ในห้องทำงานถือดินสอชาร์โคลนั่งรอใครบางคนอยู่

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น

    “เข้ามาเลยค่ะ” ฉันตะโกนออกไป

     

    ไอรีน... 

     

    เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สอดชายเสื้อไว้ในกางเกงยีนส์ขายาว สวมทับด้วยเสื้อคลุมหลวมๆ เรียบๆ แต่ดูมีเสน่ห์มากในสายตาของฉัน

     

    “คุณคือเบจูฮยอนใช่ไหมคะ” ฉันอ่านแฟ้มในมือก่อนจะถามออกไป

    “ค่ะ” เธอตอบอย่างสุภาพ พร้อมกับพยักหน้ารับ

    “คุณคงได้ฟังรายละเอียดก่อนจะมาพบฉันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ” ฉันยิ้มกับท่าทางน่ารักๆ ของเธอที่พยักหน้ารับอีกรอบ “ฉันชื่อซน ซึงวาน เวนดี้ค่ะ ทำงานให้กับกรมตำรวจ สิ่งที่คุณต้องทำคือบอกรายละเอียดใบหน้าของผู้ต้องสงสัยที่คุณจำได้ ฉันจะวาดมันออกมาตามที่คุณบอก ฉันเชื่อใจคุณนะคะ คุณเองก็ต้องเชื่อใจฉันเหมือนกัน ตกลงไหมคะ”

    เธอพยักหน้าอย่างน่ารักอีกรอบ

    ฉันวางแฟ้มลงแล้วหยิบปากกาขึ้นมา

    “เริ่มจากคนแรกเลยนะคะคุณเบ”

    “เรียกฉันว่าไอรีนก็ได้นะคะ”

    ฉันเงยหน้าขึ้นจากกระดานวาดภาพและฉีกยิ้มให้เธอ “โอเคค่ะ งั้นเราเริ่มกันเนอะ... ไอรีน”

     

    ตอนนี้... ฉันจำได้แล้ว

    ราวกับเทปที่ค่อยๆ เล่นไปเรื่อยๆ และเศษส่วนที่หายไปก็ค่อยๆ เติมเต็มในความทรงจำของฉัน

     

    ฉันใช้เวลาเกือบทั้งวันเพื่อวาดรูปพวกนั้นจนเสร็จก่อนจะเดินไปส่งเธอที่ป้ายรถประจำทาง

    “ขอโทษนะคะที่ใช้เวลานานมากเลยอะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันดูน่าสนใจดีออก”

    “แล้วคุณยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ” เธอหันมาถามฉัน

    “ฉันมีอะไรต้องทำต่ออีกนิดหน่อยน่ะค่ะ”

    “คุณไม่ต้องนอนเหรอคะ แล้ว... เราจะได้เจอกันอีกไหมเวนดี้”

    “ก็ไม่แน่นะคะ โลกนี้กลมจะตาย”

     

     

    อาทิตย์ต่อมา

    ฉันเดินออกจากกรมตำรวจเพื่อมาหาซื้ออาหารกลางวันหลังจากที่ทำงานเสร็จในช่วงบ่ายวันหนึ่ง

    ใครบางคนเดินเข้ามาหา

    “ออกไปกินข้าวเหรอคะ”

    “ค่ะ”

    ไอรีนยิ้ม “ให้ฉันเลี้ยงนะ?”

    “เนื่องในโอกาสอะไรคะ”

    “เนื่องในโอกาสที่ปิดคดีได้แล้ว?”

    แล้วคุณต้องเลี้ยงฉันด้วยเหรอคะ”

    “ไม่ได้เหรอ”

    “แล้วแต่คุณแล้วกัน”

     

     

    ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะที่ยังว่างอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

    มันเป็นวันหยุดที่หายากของฉัน

    “มาเร็วตลอดเลยนะ”

    ไอรีนยิ้มหวานทักทาย

    “กินไอศกรีมไหม”

    ฉันเลิกคิ้วขึ้น

    “มีปัญหาอะไร”

    “เปล๊า~ ก็แค่สงสัยเฉยๆ ว่าอย่างเธอจะชอบกินรสอะไร”

    “แล้วอยากรู้อย่างอื่นอีกไหม”

    ฉันหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายด้วยการยกเมนูขึ้นบัง “เอ... อย่างไอรีนจะชอบรสอะไรน้า~

     

     

    มันเป็นวันหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ฝนตกหนักมาก

    ฉันจึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านเวลาที่ไม่ได้ออกไปทำงาน เคยคิดที่อยากจะหาอะไรมาเลี้ยงเหมือนกันนะเพราะรู้สึกว่าชีวิตจะน่าเบื่อเกินไป

    ชีวิตมีแค่ ไม่คนเลว ก็คนตาย คนหาย อะไรเทือกๆ นั้น

    ใครบางคนกดกริ่งหน้าห้อง คนที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าใคร

    “ว่าไง” ฉันเดินออกไปเปิดประตูให้เธอ

    “ยุ่งอยู่หรือเปล่า” ไอรีนมองไปรอบห้องราวกับเด็ก

    “ยุ่งกับการไม่มีอะไรทำอยู่” ฉันหัวเราะ

    “ดีเลย” เธอสางผมให้เข้าทรง

    “คราวนี้อะไรอีกล่ะคะคุณเบ”

    ฉันซื้อ DVD มาเพียบเลย”

    รสนิยมเธอ...

    ฉันอ้าปากหาวเป็นรอบที่ 43 จากการนอนดูหนังที่ไอรีนซื้อมา

    “ทำไมชอบซื้อ DVD มาบ้านฉันจัง” 

    “เพราะทีวีเธอมันเครื่องใหญ่ดีมั้ง” เธอกระพริบตาปริบๆ ยื่นชามป๊อปคอร์นที่วางอยู่อีกฝั่งของโซฟาให้

    “เธอนี่มันน่าเบื่อจริงๆ” ฉันปฏิเสธเพราะกินไปเยอะมากตั้งแต่ครึ่งแรกของหนัง ก็มันน่าเบื่อนี่น่า

    “ตรงไหน!” เธอเขยิบเข้ามาใกล้ยื่นมือมาดึงแก้มฉัน

    “ทุกตรง ไม่มีอะไรน่าสนุกกว่านี้แล้วเหรอไง”

    เธอไม่ได้ตอบโต้ฉันด้วยเหตุผลอันชาญฉลาดของเธอเหมือนที่เธอชอบทำ  ฉันหันไปมองด้วยความแปลกใจก่อนจะพบกับแววตาที่แปลกไปของเธอ

    มันรู้สึกหวิวๆ อย่างประหลาด แต่ฉันก็ไม่ได้มีเวลาหาคำตอบให้กับความรู้สึกประหลาดๆ นั้น ไอรีนเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นและประกบริมฝีปากของเธอลงบนปากของฉัน

    “แบบนี้สนุกพอไหม”

    คราวนี้เป็นฉันที่ต้องเป็นฝ่ายพยักหน้าอย่างเขินๆ

    “ฉันรักเธอนะ”

    “ฉันขอถอนคำพูด เธอไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิด”

    “แล้ว?”

    เธอมองฉัน คาดหวังกับคำตอบ

    “ฉันก็รักเธอเหมือนกันจูฮยอน”

    เธอกระโจนเข้ามากอดฉันแน่น

    “ฉันรักเธอนะจูฮยอน” ฉันทวนคำพูดตัวเองอีกครั้งด้วยการกระซิบข้างหูเธอเบาๆ

     

     

    มันเจ็บอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องมาย้อนดูเรื่องราวพวกนี้

     

     

    ฉันนอนหนุนตักเธอ มันเป็นวันหนึ่งที่เราชวนกันมาเที่ยวทะเล เธอนั่งเล่นผมฉันในระหว่างที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับการนอนฟังเสียงคลื่น

    คุณซึงวานคะ

    “ว่าไงคะคุณผู้หญิง”

    “ใกล้จะถึงวันครบรอบของเราแล้วนะ”

    “ฉันรู้หรอกน่า” 

    เธอ... อยากย้ายมาอยู่กับฉันไหม”

    ฉันแทบจะเด้งตัวขึ้นแต่ไอรีนดันฉันให้นอนลงเหมือนเดิม “เธอแชร์ห้องกับลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าไล่เขาออกไปแล้วน่ะ”

    “จะบ้าเหรอ” เธอหัวเราะ “ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น” บีบจมูกฉันราวกับต้องการจะแกล้ง

    “เธอ... ซื้อบ้านใหม่เหรอ”

    “ถูกต้องนะค้า~” เธอดีดหน้าผากฉัน “เก่งมากค่ะคนสวย”

    “ยัยโง่ จะซื้อทำไม ฉันได้เงินค่าเช่าบ้านฟรีทุกเดือนนะ”

    เธอดึงแก้มฉันแบบที่ชอบทำ “เอาเถอะน่า มันจะได้เป็นบ้านของ เรา

    งั้นให้ฉันช่วยผ่อนนะ

    “ไม่เอาอะ”

    “แต่มันแพงมากนะ จะให้ฉัน...”

    เธอกดนิ้วชี้ลงปิดปากฉัน ฉันเคยบอกเธอหรือยัง คนเรามักจะชอบดอกไม้ แต่มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะชอบใบไม้ มันเป็นอะไรที่ธรรมดานะการที่เราชอบอะไรสวยๆ งามๆ แต่มันดูงดงามมากนะการชอบอะไรธรรมดาๆ น่ะ ขอบคุณนะซึงวานที่มารักฉัน

    “เธอน่ะธรรมดาซะที่ไหนล่ะจูฮยอน”

    “สรุปว่าตกลงนะ?”

    “ฉันเคยปฏิเสธเธอด้วยเหรอ”

    “ฉันรักเธอนะซึงวาน”

     

     

    เราจูบกันใต้แสงอาทิตย์สีส้มที่สาดส่องลงมาบนพื้นโลกก่อนส่งหน้าที่ต่อให้ดวงจันทร์และหมู่ดาว เรามีความสุขกันมาก ตอนนั้น อะไรๆ ก็ดีไปหมด

    ฉันรักเธอนะซึงวานยังคงดังก้องอยู่ในห้วของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะของเธอ เสียงหัวเราะของเรา

     

    เราต่อสู้กับความกดดันรอบตัวที่มีต่อความสัมพันธ์ของเรามาเนิ่นนาน และมันก็จบลงด้วยกันที่หันมาทะเลาะกันเองโดยที่ไม่รู้ตัว

    จนฉันตาย

    แล้วฉันมีสิทธิ์อะไรจะไปพรากชีวิตเธอเพื่อแลกกับชีวิตของตัวเอง

    มันไม่มีทางจะย้อนเวลากลับไปแล้วจริงๆ งั้นเหรอ

    ย้อนกลับไปเมื่อวันเวลาเหล่านั้นและเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง...

     

     

    ฉันเริ่มตาขึ้นและพบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างๆ เธอ

     

    รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งตายอีกรอบ

    ไอรีนนั่งพิงหัวเตียง หลับตา หายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ โล่งอกไปทีที่เธอแค่นอนหลับ

    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะบอกให้ฉันฆ่าเธอง่ายๆ แบบนั้น

     

    ไม่มีอะไรในชีวิตที่เธอเสียดายบ้างเลยเหรอ

    เธอคิดจะให้ชีวิตฉันเพื่อเป็นการลงโทษกับตัวเองและไถ่โทษให้กับฉันงั้นเหรอ

     

    ฉันต้องการคำแนะนำ

    ฉันต้องการหยุดพัก

     

    ฉันหลุบตาลงและหายตัวไปในอากาศ...

     

     

    “เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ” ฉันยืนอยู่บนดาดฟ้าคฤหาสน์สุดหรูของท่านมาควิส 

    ผมคิดว่าสัมผัสของไอรีนดึงความทรงจำที่เลือนรางของคุณกลับคืนมา หรือไม่ก็เป็นความทรงจำของพวกคุณสองคน” ซาเวียร์จัดเนคไทของตัวเองให้เข้าที่ 

    “แค่เพราะเธอแตะตัวฉันงั้นเหรอ” ฉันสงสัย “ฉันเคยจับตัวเธอมาก่อน ตอนที่คุณให้เวลาฉัน 24 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจ ตอนนั้นไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย”

    “ก็นั่นมันก่อนที่คุณจะตัดสินใจ” เขาลูบคางตัวเอง “อ้อ หรือบางทีมันอาจจะเกี่ยวกับข้อตกลงของเราก็ได้นะ”

    “หมายความว่า... มีอะไรนอกเหนือจากการที่ฉันต้องฆ่าเธออีกเหรอ”

    “เฮ้ นี่มันชีวิตของคุณนะ ผมจะไปรู้ได้ไงล่ะ”

    “แล้วแบบนี้ฉันจะจู่ๆ เป็นลมไปอีกหรือเปล่าคะ”

    “ไม่น่าจะนะ ไอรีนไม่ได้อยู่ที่นี่หนิ”

    “ก็ดีค่ะ งั้นเรามาจัดการกับท่านมาควิสกันก่อนแล้วกัน”

    “ตามนั้น” 

     

     

    ซาเวียร์จ้องท่านมาควิสที่กำลังนอนหลับอยู่บนเก้าอี้นอน “ผมว่าเขาพูดความจริงนะ”

    เป็นคนฝรั่งเศสเหรอ” ฉันใช้เวลาเรื่อยเปื่อยไปกับการสำรวจคอลเลคชั่นไวน์ของเขา

    “ใช่ แล้วก็รสนิยมดีซะด้วย ว่าแต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงเลิกกับลูกสาวนายกเทศมนตรี”

    “เขาคงคบซ้อนมั้ง หรือไม่ก็เธอ”

    ซาเวียร์หันมามองหน้าฉันก่อนจะพูดต่อ “แต่ผมไม่คิดว่าเขาปิดบังอะไรเราแล้วนะ”

    “ถ้างั้นก็คงเป็นเธอ เขาเป็นคนบอกเองนี่น่าว่าเธอชอบออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ ก่อนจะเลิกกัน”

    “แต่คนที่เธอเลิกคือท่านมาควิส แล้วทำไมผู้ชายต้องมาฆ่าเธอด้วยล่ะ”

    ฉันหัวเราะ “กรณีแบบเดียวกับฉันไง”

    ซาเวียร์จ้องหน้าฉัน “เป็นไปไม่ได้ ผมรู้นะว่าคุณหมายความว่ายังไง”

    “ฉันล้อเล่นน่า แต่ก็เอาเถอะ ยังไงท่านมาควิสก็ให้เบาะแสเรามาแล้ว”

    “คลับ?”

    “ค่ะ ฉันต้องหาฆาตกรตัวจริงจากที่นี่ให้ได้ เบื่อพวกแพะรับบาปเต็มทนแล้ว”

    “ลองไปเยี่ยมนายควอนกันหน่อยเป็นไง”

    “ก็ดีนะคะ”

     

     

    I will break down the gates of heaven,

    A thousand angels stand waiting for me.

     

    Take my heart, and I'll lay down my weapons,

    Break my shackles, to set me free.

      

    I'll run to you.

     

     

    ฉันตื่นขึ้นมาและพบว่าเวนดี้หายไปอีกแล้ว ฉันแค่แอบหวังว่าเธอจะยังอยู่และสานต่อภารกิจที่ยังไม่ลุล่วงของเธอให้เสร็จ

    บางทีมันอาจเป็นทางเดียวที่ช่วยปลดปล่อยฉัน

    มันอาจเป็นทางที่จบเรื่องราวพวกนี้ลงและไถ่โทษในทุกเรื่องที่ฉันเคยทำผิด

    ฉันฉีกหัวใจของคนๆ หนึ่งให้ขาด

    คนคนเดียวกับที่ฉันเคยบอกว่ารัก

     

    ฉันยังคงจำความรู้สึกที่เธอทรุดลงตรงหน้าและครวญครางด้วยความเจ็บปวดได้ขึ้นใจ ฉันไม่เคยเห็นเธอเจ็บปวดแบบนั้นมาก่อน มันทำให้ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

    เธอเจ็บมามากเพราะฉัน และฉันก็ไม่เคยสังเกตเห็นเลยสักครั้ง

    ตอนนี้ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าฉันเสียเธอไปไม่ได้ เธอต้องไม่ตาย

     

    มันต้องมีหนทางที่ฉันจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ 

    และฉันรู้ดีว่าเธอจะไม่ทำมันแน่นอน

    เวนดี้เป็นคนใจดี ว่านอนสอนง่าย แล้วก็อ่อนโยน เธอสมควรได้รับทุกความรักบนโลกใบนี้ แต่ในฐานะคนรักของเธอ ฉันกลับทำไม่ได้

    ถึงแม้มันจะทำให้เธอกลับมามีชีวิตได้หรือไม่ มันไม่มีอะไรหลงเหลือให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่ออีกต่อไปแล้ว

    ฉันไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อในขณะที่คนดีๆ อย่างเธอต้องตาย

     

    จู่ๆ ฉันก็นึกถึงคำพูดของเวนดี้

     

    ไม่มีใครรู้ว่าคนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรจนกว่าจะหาสิ่งที่เรายอมตายแทนได้เจอ

     

    เธอเคยบอกฉันหลังจากที่ปิดคดีโศกนาฏกรรมคดีหนึ่งได้

    ความตายเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์เรา แต่อีกนัยหนึ่ง มันก็ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย และตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

    บางทีฉันควรจะไปกับเธอ

    ฉันยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง

     

    ในที่สุด...

     

    ฉันเดินหาอะไรบางอย่างในบ้าน

    ฉันกำลังจะไปหาเธอเวนดี้...

    แม้ว่าเธอจะได้กลับมามีชีวิต

    ในที่สุดฉันก็จะได้ทำอะไรๆ ให้มันถูกต้องสักที อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิตเธอจะมีอิสระและกลับมามีความสุขอีกครั้ง

     

    เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะฉัน

    ฉันทำให้เธอเหมือนได้ขึ้นสวรรค์และก็เป็นฉันเองที่ผลักเธอให้ตกนรก

    เธอจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้เมื่อไม่มีฉันแน่นอน ฉันเชื่อ

    ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องมีชีวิตยุ่งๆ แบบนี้ ฉันมันเลวเอง

     

     

    แต่ได้โปรด... จำไว้นะว่าฉันรักเธอ...

     
     





     

    Pentatonix - Run To You

    12/03/2015
    ไรเตอร์ค้างไว้ที่ตอนนี้ ยังไม่มีวี่แววว่าจะอัพเดตต่อเลยค่ะ
    คงต้องรออีกสักพักนะคะ เค้าไม่ได้ดองเองน้าาาา ><

    ปล. ตอนลงยังไม่ได้อ่านทวน ถ้ามีคำผิดหรือตกหล่น เดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ
     
    。SYDNEY♔
    Free Lines - Text Select

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×