คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : I Know You
Chapter 7
I Know You
I believe, I believe there's love in you,
Gridlocked on the dusty avenues,
Inside your heart, just afraid to go.
I am more, I am more than innocent,
But just take a chance and let me in,
And I'll show you ways that you don't know.
ฉันตัวแข็งทื่อกับสัมผัสและแววตาของเธอ รู้สึกเหมือนทุกอย่างกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง รู้สึกเหมือนเราที่เรา ‘เคย’ เป็น.. ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้น
ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
กลัวว่าเธอจะทำร้ายฉันอีกครั้งเหมือนที่เคยทำ ซึ่งจริงๆ แล้วมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ก็ตอนนี้ฉันเป็นผีแล้วนี่เนอะ ส่วนไอรีนก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่กำลังตกอยู่ในภาวะอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น
“แบจูฮยอน”
ฉันเรียกเธอ เรียกด้วยชื่อที่ ‘เคย’ เรียก
ฟังดูอ่อนแอมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ ราวกับเหยื่อที่กำลังร้องขอชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย
ไอรีนไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนตัว เธอหลับตาลง มีเพียงแพขนตาที่เหมือนจะเคลื่อนไหวเล็กน้อยเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นตอนที่ได้ยินเสียงของฉัน
ฉันรู้ดีกว่าใครว่ากำลังทำอะไรอยู่และกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงอยากจะเมินสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อยากจะหนีไป อยากจะหายไปจากสถานการณ์คุมเครือของเราสองคนในตอนนี้
ฉันยังคงมองดูใบหน้าสวยหวานของเธอที่อยู่ใกล้เพียงปลายจมูก หรือบางทีฉันควรลงมือทำอะไรนอกเหนือจากการนั่งเป็นเป็ดโง่อยู่บนเตียงเดียวกับเธอแบบนี้
นี่หมายความว่าฉันยังคงรู้สึกอะไรๆ กับเธออยู่ใช่ไหม
ให้ตายเถอะซนซึงวาน ตัดสินใจทำอะไรสักอย่างไม่ได้หรือไง ไอรีน.. ผู้หญิงคนนี้เพิ่งตัดสินใจยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อเธอนะ
ฉันยังคงวุ่นวายอยู่กับการจัดการความคิดที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง ในขณะที่ไอรีนไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปแม้แต่วินาทีเดียว มือทั้งสองข้างของเธอรั้งฉันเอาไว้และฉันเองก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงที่จะเคลื่อนตัวหนีเช่นกัน
ริมฝีปากของเราสัมผัสกันเบาๆ
ฉันฟุบหน้าลงกับไหล่... นั่นแหละ ซอกคอของเธอ โอบมือรอบเอวไอรีนเอาไว้
“จูฮยอน”
ฉันเรียกเธออีกเป็นครั้งที่สอง ริมฝีปากขยับยุบยิบบนไหล่ของเธอแม้จะมีเสื้อเชิ้ตบางๆ กั้นอยู่ เธอวางมือลงบนหลังฉันราวกับนั่นคือการตอบสนอง
สัมผัสของเธอเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่แล่นเข้าสู่ร่างกายฉัน ในขณะเดียวกันก็ดูดกลืนเรียวแรงของฉันไปจนหมด
มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
“ฉันเหนื่อยจัง”
ฉันพึมพำ ไอรีนเกลียวปลายผมฉันเล่นด้วยเรียวนิ้วของเธอ ฉันรู้สึกราวกับเป็นลูกไก่ตัวน้อย รู้สึกปลอดภัย รู้สึกได้ถึงความรักของเธอ
“ฉันก็อยู่นี่ไง”
“ฉันรู้” ฉันหายใจเข้าราวกับต้องการจะสูดกลิ่นกายของเธอเข้าปอด
“เมื่อกี้นี้น่ะ มันไม่ได้เรียกว่าจูบหรอกนะ” ไอรีนหัวเราะเบาๆ
“รู้น่า”
“ถ้างั้น... ทำไมล่ะ”
“ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่น่ะ”
“ให้ฉันช่วยไหม”
“เธอเพิ่งช่วย” ฉันยืดตัวขึ้นและมองเข้าไปในตาของเธอ ใกล้ในระขะที่ปลายจมูกเราชนกัน มันดูตลกแปลกๆ อาจเพราะใกล้เกินไป
ไอรีนเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัยหรือไม่ก็อาจจะสับสน เป็นนิสัยอย่างหนึ่งของเธอ ซึ่งมันก็ดูน่ารักดีแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้ากับอายุของเธอเท่าไหร่นัก และท่าทางนั้นก็ทำให้ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าเธอเพิ่งผ่านการฆ่าตัวตายมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
มันให้ความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อน ทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกที่ฉันคิดว่าสูญเสียมันไปนานแล้ว หรือไม่ฉันก็คงแค่ซ่อนมันเอาไว้ลึกจนฉันไม่คิดว่าจะหามันเจอได้อีก แต่ฉันกำลังรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง
ตอนนี้
วินาทีนี้
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าควรจะทำยังไงต่อไป ฉันควรจะลองดูสักครั้ง ฉันควรจะควบคุมอะไรๆ ในชีวิตของตัวเองอีกครั้ง นั่นเป็นทางเดียวที่ฉันจะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“ฉันเพิ่งช่วย? ยังไง”
“ฉันเพิ่งรู้ว่าอะไรบางอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป อะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน มันอาจจะฟังดูงี่เง่า แต่ว่ามันคือความจริงนะ”
เธอยกยิ้ม “แล้ว ‘อะไรบางอย่างของเธอ’ มันอะไรล่ะ”
ฉันชอบรอยยิ้มของเธอ แค่ยืนเฉยๆ เธอก็สวยอยู่แล้ว แต่เธอยิ่งดูสวยเข้าไปอีก สวยจนฉันแทบลืมหายใจเวลาที่เธอยิ้ม
ฉันค่อยๆ จับมือเธอมากุมไว้อย่างระมัดระวังราวกับกลัวว่ามันจะแตกหัก ค่อยๆ ไล้เรียวนิ้วลงบนฝ่ามือของเธอ จู่ๆ ก็รู้สึกเขินกับคำที่จะพูดขึ้นมา
“มือเธอเหมือนมีพลังงานบางอย่าง ทั้งในมือเธอ แล้วก็ในตัวเธอ”
Don't complicate it,
Don't let the past dictate.
I have been patient,
But slowly I'm losing faith.
So please, I know you baby,
I know you baby.
เธอหัวเราะ ถ้าฉันไม่ได้จับมือเธอเอาไว้ ไอรีนคงจะลงไปนอนหัวเราะเป็นจริงเป็นจังแน่
เสียงหัวเราะนั้นทำให้ฉันพลอยหัวเราะตามไปด้วย และฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานมากแล้ว มันรู้สึกดีมากอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนได้กลับมามีชีวิตจริงๆ อีกครั้ง
ทั้งรู้สึกอบอุ่น สับสน เจ็บปวด ฉันรู้สึกทุกอย่างด้วยหัวใจอีกครั้ง
ฉันดึงเธอเข้ามาใกล้
ปากของเราแตะกันและครั้งนี้ ฉันจูบเธอจริงๆ เสียงหัวเราะจางหายไป แต่รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าของเราทั้งคู่ ไอรีนยิ้มแม้ว่าปากของเราจะยังประกบกันอยู่ก็ตาม
“คิดว่าชาตินี้เธอคงจะไม่จูบฉันอีกแล้วซะอีก” เธอบ่นอุบอิบ
“จะบ้าเหรอ”
เธอจ้องฉันชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง ความจริงเธอไม่ใช่คนช่างพูดช่างคุยเลยสักนิด เธอมักซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้รอยยิ้มสวยหวานและไม่ค่อยพูดถึงมันสักเท่าไหร่ บางทีฉันก็คิดว่าเธอเป็นคนที่เข้าใจยาก
“ฉันรักเธอ”
ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะพูดมันออกมาตรงๆ แต่...
“ฉันรู้”
“งั้นก็กลับมาหาฉันสิ” เธอพูดอีกครั้ง ราวกับกระซิบ คล้ายกับอ้อนวอน “ฉันไม่ยอมมีชีวิตอยู่คนเดียวโดยไม่มีเธอในบ้านหลังนี้แน่ๆ ไม่มีทาง”
ฉันพยักหน้าตอบรับ “ใกล้แล้ว ใกล้แล้วแหละ จริงๆ นะ”
“เธอไม่เคยโกหกฉันอยู่แล้ว” ไอรีนฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาดเรียงตัวสวย เธอสมบูรณ์แบบซะจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนแบบนี้อยู่จริงๆ “มีแต่ฉันต่างหาก...”
เธอปล่อยมือที่เกลียวผมฉันเล่นพลางก้มหน้าลง เรือนผมตรงสลวยของเธอตกลงมาปิดใบหน้าไปกว่าครึ่ง ซ่อนอารมณ์ที่กำลังดำดิ่งลงอีกครั้ง
เธอคงกำลังยู่ปากยื่นออกมาทำหน้ามู่เหมือนเด็กๆ แก้มของเธอคงกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ฉันรู้ดีถึงแม้จะไม่ได้เห็นก็ตาม
เพราะฉันรู้จักเธอดี
ฉันคว้าข้อมือที่มีรอยแผลเป็นของเธอขึ้นมาจูบ “มันก็แค่อดีต”
“เธอหมายความว่า...” ไอรีนเงยหน้าขึ้น เผลอดวงตากลมโตที่ตื่นเต้นราวกับเด็กน้อยกำลังเฝ้ารอของเล่นใหม่
“รอฉันอีกนิดนะ” ฉันฉีกยิ้ม รอยยิ้มแบบที่เธอชอบ
และได้ใบหน้าที่มีความสุขของเธอตอบกลับมา
I believe, I believe you could love me,
But you're lost on the road to misery.
And what I gave to you,
I could never get back.
Don't complicate it,
Don't drive yourself insane,
Say what you will,
But I know that you want to stay.
“นี่เราจะไปคุยกับท่านนายกฯ กันงั้นเหรอ” ซาเวียร์หันมามองฉันที่เพิ่งมาถึง ดาดฟ้าบนแมนชั่นหรูแห่งนี้กลายเป็นห้องประชุมของเราสองคนไปโดยปริยาย
“เขาต้องรู้อะไรบ้างแหละ อย่างเช่น ทำไมลูกสาวเขาถึงเลิกกับท่านมาควิส” ฉันพูดพร้อมกับมองลงไปข้างล่างซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ
“ไอรีนเป็นไงมั่ง” เขาถาม กวาดตามองไปรอบๆ เช่นเดียวกับฉัน ฉันคิดว่าบางทีเขาอาจจะมีพลังพิเศษที่สามารถอ่านใจคนออกได้ ในฐานะวิญญาณ เราอาจมีอะไรบางอย่างคล้ายๆ กัน แต่เอาจริงๆ ฉันไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเลยด้วยซ้ำ
“เธอปลอดภัยแล้วค่ะ”
“ได้คุยกันแล้วเหรอ”
“ค่ะ ‘เรา’ ได้คุยกันแล้ว”
ซาเวียร์ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยเพื่อให้มองฉันได้ถนัดตา “คุณหาเหตุผลของคุณเจอแล้วสินะ”
“มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงไม่ใช่เหรอคะ” ฉันจ้องเขากลับเพื่อเช็คปฏิกิริยา แน่นอนว่าสีหน้าเขายังคงเรียบเฉยเป็นปกติ “ขอบคุณนะคะ”
“หน้าที่ของผมคือช่วยคุณ เวนดี้” เขายกยิ้มมุมปาก “ผมดีใจนะที่ได้ช่วยคุณ แล้วก็ดีใจด้วยที่ได้เจอคุณ ผมหมายถึง คุณเป็นคนดี ไม่ได้ดีใจนะที่คุณตาย ก็.. แค่บอกให้รู้ไว้”
“ฉันเข้าใจค่ะ ฉันก็ดีใจได้เจอคุณเหมือนกัน” ฉันหัวเราะคิกคักพลางเอื้อมมือไปตบบ่าเขา “ไปหาท่านนายกฯ กันเถอะค่ะ”
“เชิญครับ”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าให้เราต้องใช้กำลัง” ซาเวียร์ตะโกนก้อง พยายามจะไล่จับชายสูงวัย
“เดี๋ยวฉันไปดักอีกทาง” ฉันเดินทะลุกำแพงไปอีกห้อง มาโผล่ที่ทางเดินห้องโถง มองเห็นท่านนายกเทศมนตรีวิ่งตรงมาตามทาง ในขณะเดียวกันก็หันกลับไปมองด้านหลังเป็นระยะ ก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างที่เหน็บอยู่กับกางเกงออกมา
เสียงปืนดังสนั่นพร้อมกับประกายไฟ โชคดีที่ไม่โดนใครเข้า ที่น่าสงสารก็คงมีแค่ผนังห้องที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
กระสุนปืนทะลุผ่านร่างโปร่งแสงของซาเวียร์ไป เจ้าของลูกกระสุนตกใจจนแทบจะทำกางเกงตัวเองเปียกด้วยน้ำโสโครก ฉันไม่สนใจ คว้าตัวเขาจากด้านหลังและทำให้เขาหลับด้วยแจกันที่วางอยู่แถวนั้น
“อย่าบอกนะว่าเขาเพิ่งยิงผมน่ะ” ซาเวียร์ปัดเสื้อสูทของตัวเองราวกับไล่ฝุ่น ก่อนจะลากท่านนายกฯ ไปที่ห้องทำงานของเขา
“ตอนแรกก็คุยกันดีๆ หรอกค่ะ จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นวิ่งหนีออกมา” ฉันขมวดคิ้ว “ฉันคิดว่าเขาโกหก เขาน่าจะรู้เรื่องคุณควอน”
“ฟังดูน่าสงสัยอยู่เหมือนกันนะ” ซาเวียร์โยนท่านนายกฯ ลงบนเก้าอี้และจัดแจงให้เขาอยู่ในสภาพปกติ
“บางทีเขาอาจกำลังพยายามปกปิดเบื้องหลังการตายของลูกสาวตัวเอง ไม่น่าแปลกเหรอคะ ดึกดื่นป่านนี้ ภรรยาเขาเองก็ไม่อยู่บ้านเหมือนกัน” ฉันตั้งข้อสงสัย
“ก็อาจเป็นไปได้” ซาเวียร์ปัดมือตัวเอง “ไม่ยักกะรู้ว่าเขามีปิดติดตัว”
“คุณคิดว่าเขาเองก็ถูกคุกคามเหรอคะ ถึงต้องพกปืนเดินไปเดินมาแบบนี้” ฉันสำรวจเจ้าปืนเจ้าปัญหาอีกครั้งก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ
“ดูเหมือนเราจะเพิ่งได้เบาะแสอะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมนะ”
“แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณเขา” ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของชายผู้ไม่ได้สติ “เขาพูดถึงชื่อคลับนั่น ลองไล่หาจากโทรศัพท์เขาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง”
ซาเวียร์จัดเนคไทของตัวเองให้เขาที “แหม คุณนี่ฉลาดจัง อีกไม่นานก็คงได้เวลาปิดจ๊อบแล้วสินะ”
“คุณก็เหมือนกันน่ะแหละ” ฉันยิ้มและเริ่มลงมือสอบสวนโทรศัพท์ของท่านนายกฯ ร่วมกับเพื่อนผี เพื่อนวิญญาณ หรือจะเรียกว่าอะไรก็ตามแต่อีกครั้ง “ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก”
Chemicals rushing in,
I know it's you that I belong to.
I'm fighting like a cannonball in the air,
Crashing into who I belong to.
The shadows of your heart are hanging in the sweet, sweet air,
The secrets that you hide, control us and it's just not fair.
“ฉันเชื่อพี่นะ เพราะนอกจากนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายได้เรื่องพวกนี้ได้แล้วอะ”
ฉันมองจอยเดินไปเดินมาในบ้านหลังจากที่เวนดี้ออกไปข้างนอก(?)แล้ว
“เรามาอยู่เป็นเพื่อนพี่เขากันนะ ไม่ใช่มาพิพากษาใคร” ซึลกิดุเด็กน้อยตัวโตกว่าพลางส่งสัญญาณบอกให้เธอมานั่ง “อ่า... เพราะงี้ถึงไม่มีใครเคยเจอศพพี่เขาสินะ”
เยริเบิกตากว้าง ยื่นมือมาดึงเสื้อฉัน “พี่คะ แปลว่าพี่เวนดี้จะกลับมาเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ”
ฉันหันไปมองเธอและลูบมือเธอเบาๆ “อื้อ เธอจะต้องกลับมาหาเรา พวกเราทุกคน”
“พี่คะ” จอยเรียกเสียงเบา ถูมือตัวเองไปมาราวกับกำลังไม่สบายใจอะไรบางอย่าง “อย่าทำแบบนั้นอีกนะ พวกเราเองก็รักพี่เหมือนกันนะ”
“ชู่ พี่จูฮยอนเขาไม่เป็นไรแล้ว พี่เวนดี้ช่วยพี่เขาไว้ ถ้าพี่เวนดี้จะกลับมาจริงๆ พี่จูฮยอนก็คงไม่ต้องทิ้งพวกเราไปไหนแล้วจริงไหม” ซึลกิดึงจอยมากอดคอไว้พลางยกหลังมือขึ้นซับน้ำตาตัวเอง
เยริเม้มปากแน่น น้ำตาไหลพราก “พี่คะ พวกเราอยู่ตรงนี้เสมอนะ บอกพี่เวนดี้ด้วยนะว่าเราอยากให้พี่เขากลับมา...”
ฉันมองเด็กๆ พวกนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา “พี่ขอโทษนะ พี่ทำผิดเองแต่แรก แต่พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”
พวกเธอทุกคนรักฉัน หวังดีกับฉัน แต่ฉันเองที่ทำตัวเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเธอเอาซะเลย ฉันนอกใจเวนดี้ ฉันทำชีวิตตัวเองพัง ชีวิตเวนดี้ รวมทั้งชีวิตผู้ชายคนนั้นด้วย แต่พวกเธอทุกคนก็ยังรักฉันเหมือนเดิม โดยเฉพาะเวนดี้
ฉันสมควรได้รับความรักพวกนี้อย่างงั้นเหรอ
เด็กๆ ล้อมตัวฉันไว้แล้วรุมกอดฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น และดีใจที่มีเด็กๆ พวกนี้อยู่ข้างๆ
ใช่.. อย่างที่เวนดี้บอก
มันก็แค่อดีต
แต่ฉันจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียน ฉันรู้จักเวนดี้ดี เธอมีค่ามาก ถึงฉันจะเคยทำร้ายเธอ แต่ฉันรู้ว่าเธอจะลืมมันในไม่ช้า และฉันจะต้องชนะใจเธอให้ได้อีกครั้ง
Skylar Grey - I Know You
ตอนลงยังไม่ได้อ่านทวน ถ้ามีคำผิดหรือตกหล่น เดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ
ความคิดเห็น