ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมคนพิฆาตบู๊ลิ้ม

    ลำดับตอนที่ #9 : วิกฤติเซียวเบ๊เป้า 4

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 52


    กอกอ ท่านเป็นอะไรหรือ?

    ที่แท้มันแอบลอบเดินพลังลมปราณถ่ายเทเข้าไปสู่ภายในร่างของเฮ็กงู้ เพื่อแตะหยั่งตรวจสอบพละกำลังภายในของฝ่ายตรงข้าม ควรทราบไว้ ผู้ฝึกวิชาบู๊ถ้ามีพลังลมปราณของผู้อื่นเข้าสู่ร่าง จะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้โดยทันที โดยไม่คำนึงว่าเจ้าตัวจะตั้งใจหรือไม่

    เซียวเบ๊ซิ้ง ตรวจสอบไม่พบพลังลมปราณภายในร่างของเฮ็กงู้ ขณะที่มันจะถอดรั้งพลังลมปราณกลับคืน มันกลับพบว่าพลังลมปราณของมัน เฉกเช่นกรวดทรายร่วงหล่นลงในมหาสมุทรสาบสูญหาร่องรอยไม่เจอ สร้างความแปลกใจให้แก่มันจนต้องอุทานออกมา

    เซียวหงยี้ เห็นมันอุทานคำหนึ่งก็นิ่งเงียบไป กับคำถามของนาง มันคล้ายกับไม่ได้ยิน

    เฮ็กงู้อดฉงนสงสัยใจไม่ได้ ต้องครุ่นคิดว่า

    พี่น้องคู่นี้เป็นอะไรกันไปแล้ว พอแรกพบผู้คนล้วนแต่ทำนิ่งเฉย ใบหน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือไง?มันลอบก้มหน้าลงลูบคลำใบหน้าเที่ยวหนึ่ง จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรติดอยู่ จึงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง

    ไม่ทราบว่าเป้าจู้มีอะไรจะให้รับใช้? ถ้าไม่มีกิจใด ข้าน้อยจะขอตัวไปทำธุระเฮ็กงู้ รู้สึกว่าเรื่องราวออกจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว

    แต่ไม่ว่าเฮ็กงู้จะกล่าวอย่างไร เซียวเบ๊ซิ้ง เวลานี้ก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เพราะห้วงสมองมันตอนนี้ บรรจุไว้ด้วยเรื่องราวให้ขบคิดมากมาย

    ...นี่ไม่คล้ายวิชาขิบแซไต้ฮวบ(ยอดวิชาดูดดาว)ของพรรคมาร ที่ส่งผลกระทบถาวรต่อตัวผู้ที่ถูกดูดพลังลมปราณไป กลับคล้ายกับ ฮ่วยกงไต้ฮวบ(ยอดวิชาสลายพลัง)ของตระกูลต้วนแห่งตาลีฟูมากกว่า(ตาลีฟูเป็นเมืองแคว้นโบราณ อยู่ในเขตมณฑลฮุ้นหนำ มีหินอ่อนเลื่องชื่อ)...

     แต่มันยิ่งคิดยิ่งไม่สมเหตุผล มันตรวจสอบไม่พบพื้นฐานกำลังภายในจากฝ่ายตรงข้ามชัดๆ และมันจะสลายพลังลมปราณของตนได้อย่างไร  

    ไม่มีใด เจ้าไปเถอะเซียวหงยี้ เห็นกอกอนางนิ่งเงียบไป จึงตัดสินใจกล่าวขึ้นมาแทน

    นางคาดว่าโรคเก่าของเซียวเบ๊ซิ้งกำเริบขึ้นอีกแล้ว เวลามันครุ่นคิดหมกมุ่นกับสิ่งใด กับเรื่องราวรอบกายมัน ล้วนหาแยแสสนใจไม่

    อย่างนั้นข้าน้อยขอตัว

    หลังจากเฮ็กงู้แยกตัวออกไป เซียวหงยี้ต้องลากกอกอ(พี่ชาย)นาง พากลับเรือนที่พัก ใครจะคาดคิดว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตรเช่นนี้ ขามาเป็นมันลากพานางมา ขากลับต้องเป็นนางที่ช่วยลากพามันกลับ พอคิดได้เช่นนั้น นางก็ต้องถอนหายใจออกมา  

    ณ ที่นั้น เสี่ยวชุ่ยก็รอคอยพวกมันอยู่นานแล้ว นางปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดภายในห้อง จนสะอาดเอี่ยม จนไม่เหลือเคล้าสภาพเดิมที่รกร้างปราศจากผู้คนอาศัย กาน้ำชาร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมชื่นใจวางไว้อยู่บนโต๊ะ

    นางพอเห็นคนทั้งสองเดินเข้ามา ก็เทน้ำชาในกาลงในถ้วย ยื่นประคองมอบให้กับคนทั้งสอง และเช่นเดียวกัน กับเรื่องราวก่อนหน้านี้ เซียวหงยี้ หลงลืมอีกแล้ว รับน้ำชาขึ้นมาดื่มโดยที่ไม่ได้คิดจะต่อว่านางแต่อย่างใด

    ส่วนเซียวเบ๊ซิ้งก็รับถ้วยน้ำชามาถืออย่างเลื่อนลอย ก่อนจะดื่มน้ำชาร้อนลวกเข้าไปในลำคอ ขนาดความเจ็บปวดจากน้ำร้อน ก็หาเรียกสติมันกลับคืนมาไม่

    เสี่ยวชุ่ยกับเซียวหงยี้ เห็นแล้วยังอดแสบร้อนแทนมันไม่ได้ นับว่ามันเป็นบุรุษเหล็กผิดกับรูปร่างหน้าตาภายนอกยิ่งนัก

    กอกอ ท่านยังไม่บอกสาเหตุความใน ที่ท่านโดนทำร้ายมาเลยหลังจากที่พวกมันนั่งพักผ่อนดื่มน้ำชาไปชั่วครู่ เซียวหงยี้ก็ตบโต๊ะดังปัง พูดโพล่งถามปัญหาเก่าที่ติดค้างขึ้นมา นับว่านางยังไม่เลวร้ายจนถึงที่สุด ยังมีหนทางเยียวยารักษาได้

    แต่กับเซียงเบ๊ซิ้ง ที่พอได้ยินเสียงตบโต๊ะดังปัง ก็แทบทำถ้วยน้ำชาที่ถือไว้หลุดจากมือ นี่สินับว่าอาการน่าเป็นห่วงกว่า

    อา...เออ... ม่วยม่วย เจ้าว่าอะไรนะ?ในที่สุดมันก็เรียกสติกลับคืนมาได้

    กอกอ ข้าถามท่านว่า ใครเป็นคนลงมือทำร้ายท่าน

    นี่ไม่รู้จะกล่าวเริ่มจากที่ใดเซียวเบ๊ซิ้ง มีทีท่าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องการบอกกล่าวเรื่องราวออกมา

    ท่านก็ค่อยๆว่ากล่าวมาเถอะเซียวหงยี้ ที่สังเกตถึงทีท่าของกอกอนาง ก็ยังยืนยันที่จะให้มันบอกกล่าวออกมาให้จงได้

    ได้ ม่วยม่วย เจ้าทราบหรือไม่ ว่าทำไมยุทธภพถึงเงียบสงบไร้เรื่องราวมานานหลายสิบปี

    เพราะว่าฝ่ายธรรมะเข็มแข็ง อธรรมเสื่อมโทรม ใช่หรือไม่?

    เซียวเบ๊ซิ้ง ส่ายหน้าปฏิเสธ

    ผิดแล้วต้องกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายต่างเสื่อมโทรมทรุดถอยลงต่างหาก

    ไฮ้!? ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นเช่นนั้นไปได้

    เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์สะท้านสะเทือนบู๊ลิ้มเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน

    บ้อเก๊กม้อจุน(พญามารไร้เทียมทาน)!!”เสี่ยวชุ่ย ที่รับฟังเรื่องราวมาถึงตอนนี้ ต้องอุทานออกมาอย่างตื่นตระหนก

    ถูกแล้ว บ้อเก๊กม้อจุน ผู้ซึ่งกลายเป็นตำนานสะเทือนขวัญของบู๊ลิ้ม ไม่สิ ต้องกล่าวได้ว่าเป็นของปวงประชาได้เช่นกัน...

    จากนั้นมันก็บอกเล่าเรื่องราวออกมาโดยคร่าวๆ ตั้งแต่ บ้อเก๊กม้อจุน เริ่มปรากฏกายในบู๊ลิ้ม เปล่งประกายความสามารถ กวาดล้าง ซาจับซาลั้ง(สามสิบสามสุนัขป่า) โจรร้ายที่แม้แต่สำนักฝ่ายธรรมะยังอับจนปัญญา ทางการยังทำได้แต่เบิกตามองดู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×