จอมคนพิฆาตบู๊ลิ้ม

ลำดับตอนที่ #12 : วิกฤติเซียวเบ๊เป้า 7

เปรี้ยง!!

เสียงดังปานฟ้าทลาย ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด นับว่าคนล้มลงแล้ว

บ้อเก๊กม้อจุน ยังยืนนิ่งไม่ขยับเคลื่อนไหว ผู้ที่ล้มลงกลับเป็นหลวงจีนทั้งสิบแปดรูป

นับว่าเหตุเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นรวดเร็วจนเกินไป ชวนให้ผู้คนล้วนขบคิดไม่เข้าใจ ว่าเรื่องราวนี้เป็นเช่นใดกันแน่

ช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยวกระพริบตา ก่อนที่กระบองทองเหลืองจะบรรลุถึงเป้าหมาย เห็นแน่ชัดว่าบ้อเก๊กม้อจุน จะต้องโดนกระบองทองเหลืองนี้หวดกระหน่ำ ร่างกายเป็นผุยผง พวกมันกลับสูญเสียเป้าหมายตรงหน้าไปในเสี้ยววินาทีสุดท้าย

ที่แท้บ้อเก๊กม้อจุน ก้มตัวลง ยื่นเท้าขวาออกไป ตวัดเกี่ยววูบ ข้อเท้าของหลวงจีนสิบแปดรูป ก็ถูกมันกระแทกทำลายไปในกระบวนท่าเดียว กระดูกข้อเท้าหักป่นปี้ นับแต่นี้ต้องกลับกลายเป็นคนพิการ

ก่อนที่ บ้อเก็กม้อจุน(พญามารไร้เทียมทาน) จะได้เคลื่อนไหวการใดต่อไป มันก็ได้ยินเสียงสรรเสริญพระคุณเสียงหนึ่งดังขึ้น มันรับฟังจนใจสะท้านหวั่นไหว อวัยวะภายในปั่นป่วน ชีพจรตีกลับ สมองลั่นอึงอล

มารู้สึกตัวอีกที เลี่ยงคงไต้ซือเจ้าอาวาสก็มาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้ามันแล้ว

เลี่ยงคงไต้ซือ ทันทีที่เห็นเหล่าซือตี๋(ศิษย์ผู้น้อง)ล้มลง ท่านก็ทุ่มเทพลังตัวเบาพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า

แต่ท่านก็กริ่งเกรงว่า น้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้ได้ ด้วยความเป็นห่วงเหล่าซือตี๋ ท่านจึงใช้หลักวิชาไซจื้อห่อ(ราชสีห์คำราม) ส่งเสียงสรรเสริญพระคุณคำหนึ่ง ในกระแสเสียงแฝงพลังลมปราณเปี่ยมล้น ทุ่มเทพลังชั่วชีวิตเข้าไป

นับว่าได้ผล บ้อเก๊กม้อจุนถึงกลับฝีเท้าซวนเซ แสดงแน่ชัดว่าด้านพละกำลังภายในท่านเหนือล้ำกว่าขั้นหนึ่ง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ด้วยว่าท่านรีบร้อนเป็นห่วงศิษย์ร่วมสำนัก ขณะที่ทุ่มเทฝีเท้าใช้พลังตัวเบา ทั้งยังใช้วิชาไซจื้อห่อ(ราชสีห์คำราม)ซึ่งเป็นยอดวิชาของสถาบันสงฆ์ ที่ทุ่มเทพลังชั่วชีวิตเข้าไป ก็อดจะเลือดลมกำลังภายในปั่นป่วนไม่ได้

เมื่อบรรลุถึงเบื้องหน้า บ้อเก๊กม้อจุน ก็เสียไม่ได้ที่จะต้องหยุดยั้งโคจรพลังลมปราณพักผ่อนก่อนรอบหนึ่ง

บ้อเก๊กม้อจุนก็สังเกตเห็นว่าเป็นเรื่องราวใด มันก็ย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้พ้นผ่านไป      จากการปะทะกันเมื่อครู่มันก็ทราบได้ว่า ด้านการฝึกปรือพลังลมปราณ มันนับว่าอ่อนด้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามขั้นหนึ่ง

บ้อเก๊กม้อจุน ควงหมัด กระแทกฝ่ามือ ปานจักรผัน เท้าขวาตวัดขึ้นเท้าซ้ายทิ้งลง เท้าขวาทิ้งลงเท้าซ้ายตวัดขึ้น สลับสับเปลี่ยนไปเช่นนี้ เพียงแค่ชั่วพริบตา พาลเตะออกไปสิบหกสิบเจ็บเท้า ต่อยออกไปอีกยี่สิบสามสิบหมัด

จากนั้นก็พุ่งเข้าประชิดตัว จนใบหน้าแทบปะทะชนกัน ศอกขวาใช้ออก เข่าซ้ายกระทุ้งขึ้น ศีรษะโขกใส่ ลำตัวพุ่งชน ทุกส่วนสัดร่างกายมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นยอดศาสตราวุธ ประหนึ่งว่ามันกลับกลายเป็นมีสามแขนหกขา ดั่งคลื่นทะเลลมพายุคลั่ง ทำให้ผู้คนยากจะรับมือมันได้

เลี่ยงคงไต้ซือที่ยอดเยี่ยม ท่านควงหมัด ปะทะฝ่ามือ สลับเท้าหลบเลี่ยง ใช้เพลงหมัดคงคงคุ้งฮวบ(เพลงหมัดว่างเปล่า) เจอกระบวนท่าสลายกระบวนท่า นับว่ายังต้านรับไว้ได้

แต่แขนขาท่านถึงกับปวดแปลบปลาบ วิชากำลังภายนอกของมัน นับว่าเหนือล้ำกว่าท่านขั้นหนึ่ง หากเป็นนักบู๊ชนชั้นสามัญ คงจะร่างแหลกลาญไปแล้ว ท่านอาศัยวิชากิมเจ็งเจ๋า(ระฆังทองคุ้มครองกาย)ของสถาบันสงฆ์ ถึงจะพอกล้ำกลืนฝืนรับไว้ได้

ท่านขบคิดใคร่ควร ถ้ายังปะทะเพลงหมัดเชิงมวยต่อไปละก็ อีกไม่กี่กระบวนท่า ท่านจะต้องพลาดท่าเสียทีแน่นอน ไยไม่ใช่ปมเด่นของตนสยบปมด้อยของฝ่ายตรงข้ามเล่า

ท่านคิดได้ดังนั้น จึงถอนเท้าซ้ายถอยหลัง แกล้งซวนเซเสียหลัก เปิดช่องว่างที่กลางลำตัว สองมือผลักกระแทกออกไปเบื้องหน้า

นับว่า บ้อเก๊กม้อจุน หลงกลแล้ว ทันทีที่มันเห็น เลี่ยงคงไต้ซือ ฝีเท้าซวนเซ เปิดช่องว่างที่กลางลำตัว มันก็รวบมือกำเป็นหมัด ปล่อยหมัดทั้งสองข้างพุ่งออกไป

หมัดฝ่ามือทั้งสี่ข้างพอปะทะกัน บ้อเก๊กม้อจุน ก็ทราบว่าเสียท่าแล้ว คิดจะถอนรั้งกำปั้นกลับคืนมา ก็หาทำได้ไม่ เหมือนมีพลังประหลาดดูดยึดกำปั้นทั้งสองข้างของมันไว้   

ทันใดนั้นก็มีกระแสลมปราณสองสาย ไหลทะลักจากสองฝ่ามือมาที่กำปั้น ก่อนที่จะทะลักผ่านข้อศอกเข้ามาถึงหัวไหล่ ดั่งฝูงม้าป่าโลดโจนทะยาน เหยียบย่ำทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า

บ้อเก๊กม้อจุน พยายามรวบรวมพลังลมปราณชั่วชีวิตเข้าต่อต้าน แต่ก็หาเป็นผลไม่ พลังการฝึกปรือของเลี่ยงคงไต้ซือ เข้มแข็ง หนักแน่น เปี่ยมล้นสมบูรณ์ เป็นแนวทางกำลังภายในของสถาบันสงฆ์ เฉกเช่นขุนเขาที่ไม่อาจโยกคลอนได้

ใบหน้ามันเปลี่ยนเป็นซีดขาวไร้สีเลือด อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนปั่นป่วน ต้องถอนเท้าถอยหลังตลอดเวลา เห็นแน่ชัดว่ามันต้องพ่ายศึกในครั้งนี้แน่นอนแล้ว
*******************************************************************************************
ช่วงนี้เครียด มาดูรูปสุดยอดวิชาพลังตัวเบากันเถอะ




ถ้าท่านไปเมืองจีนก็พึ่งระวังยอดคนเหล่านี้ไว้ให้ดี
เวลาไปซื้อของแล้วท่านอยากต่อราคาก็สังเกตให้ดีเสียก่อน
ว่าพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของให้ท่านไม่ใช่ยอดคนเหนือโลกีย์
ไม่งั้นท่านอาจจะไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินแม่แบบครบสามสิบสอง(ฮา)
ขอบอกอีกอย่างขนาดหมาที่เมืองจีนยังมีวิชาตัวเบาเลย