จอมคนพิฆาตบู๊ลิ้ม

ลำดับตอนที่ #11 : วิกฤติเซียวเบ๊เป้า 6

พวกมันลงมือสกัดขวางทางม้อจุน(พญามาร) หลอกล่อมันขึ้นเขาลูกหนึ่ง วางค่ายกลกับดัก หมอกควันพิษ อาวุธลับอาบยาพิษ แม้กระทั่งใช้เพลิงเผาผลาญ พวกมันก็ยังกระทำ

แผนการทุกอย่างล้วนเป็นไปดั่งใจหมาย

แต่พวกมันล้มเหลวแล้ว ม้อจุน(พญามาร)ไม่ตาย และค่าตอบแทนที่พวกมันจะต้องชดใช้ก็คือชีวิตของพวกมันเอง

นับแต่นั้น นาม ม้อจุน(พญามาร) ก็ถูกผู้คนเรียกขานเพิ่มเติมเข้าไปว่า บ้อเก๊กม้อจุน(พญามารไร้เทียมทาน)

 ภูเขาที่เป็นจุดเริ่มต้นของการประหัตประหารฆ่าฟันในครั้งนั้น ก็ถูกขนานนามว่า ชุยซิมซัว(ยอดเขาผลาญวิญญาณ) ใช่แล้วเป็น ชุยซิมซัว นี่เอง

เซียวเบ๊ซิ้ง พอบอกเล่ามาถึงตอนนี้ ก็ต้องถอดถอนใจออกมาคำหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นเศร้ารันทดหดหู่ ส่วนเสี่ยวชุ่ยที่อยู่ภายในห้องด้วยกัน กลับหันหลังให้กับพวกมันสองพี่น้อง สองไหล่สั่นสะท้านเล็กน้อย

ที่แท้หนึ่งในผู้ที่ร่วมขบวนการในครั้งนั้น มีอดีตประมุขป้อมแห่งเซียวเบ๊เป้า แห่งนี้ เซียวฮวยเบ๊(อาชาโลหิตแซ่เซียว) ซึ่งเป็นบิดาของเฮียม่วย(พี่ชายน้องสาว)คู่นี้รวมอยู่ด้วย

ครั้งนั้นเพียงเพราะสหายสนิทผู้หนึ่ง มันถึงกับละทิ้งเซียวหงยี้ที่อายุไม่ถึงขวบปี พาตัวเข้าเสี่ยงอันตราย ไม่ฟังคำทัดทานของผู้ใด แล้วก็ต้องจบชีวิตลงอย่างงมงาย

เซียวฮูหยิน(ภรรยาคนแซ่เซียว)พอรับทราบข่าวคราว ก็ล้มป่วยลง ไม่นานก็สิ้นชีพติดตามสามีนางไป หลงเหลือเพียงเด็กน้อยสองคน ที่ต้องเผชิญโลก

เวลานั้นเสี่ยวชุ่ยเป็นเพียงเด็กรับใช้ที่เพิ่งถูกรับเข้ามา ทำหน้าที่เฝ้าดูแล เซียวฮูหยิน ที่ล้มป่วยลง รวมทั้งช่วยดูแลเซียวหงยี้ที่ยังเล็กนัก

เซียวเบ๊ซิ้งที่เข็มแข็ง ถึงแม้มันจะอายุเยาว์ แต่ก็บริหารงานกิจการของตระกูล ดูแล ม่วยม่วย ได้อย่างดียิ่ง ไม่มีขาดตกบกพร่อง ถึงแม้จะมีบ้างบางครั้งที่ มันหลุดเข้าไปสู่ภวังค์ลืมตนนานมากเกินไปเสียหน่อย

เพราะฉะนั้นสำหรับเซียวหงยี้แล้ว กอกอนาง เป็นทั้งบิดาที่เข็มงวด และมารดาที่การุญ รวมทั้งเป็นกอกอที่น่าเป็นห่วงด้วย อันหลังนี่นางให้น้ำหนักมันมากที่สุด

สำหรับสาเหตุการตายของบิดานาง เซียวเบ๊ซิ้งไม่เคยบ่งบอกออกไปเลย

“กอกอ ภายหลังเล่า?”นางสังเกตเห็นเซียวเบ๊ซิ้งนิ่งเงียบไป จึงคาดเดาว่า โรคเก่ามันกำเริบขึ้นอีกครั้ง เลยกล่าวกระตุ้นเตือนมันคำหนึ่ง กับสภาพแปลกประหลาดภายในห้องของพวกมันทั้งสอง นางไม่ได้สังเกตสนใจ

เซียวเบ๊ซิ้ง มองใบหน้านางเที่ยวหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าลงบอกเล่าเรื่องราวต่อมา

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว วัดเสี่ยวลิ้มยี่ ผู้นำฝ่ายธรรมะ แปดสำนักใหญ่หนึ่งพรรค ไม่อาจทนนิ่งเฉยอยู่ต่อไปได้

เลี่ยงคงไต้ซือ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น จึงส่งเทียบเชิญให้แก่ บ้อเก๊กม้อจุน ให้ขึ้นเขาซงซัว มาสะสางบุญคุณความแค้นของยุทธภพ

ม้อจุน(พญามาร) หาเกรงกลัวไม่ มันขวัญกล้าฝีมือเข้มแข็ง สามวันให้หลังมันก็ปรากฏตัว บนยอดเขาเสียวซิกฮง อันเป็นที่ตั้งวัดเสี่ยวลิ้มยี่

ผู้ที่ออกมาต้อนรับมัน กลับเป็นหลวงจีนศีรษะล้านสิบแปดหัว ในมือพวกมันล้วนถือกระบองทองเหลืองสะท้อนแสงแวววาวคนละท่อน

พวกมันทั้งสิบแปดคน แยกย้ายยืนประจำอยู่ในตำแหน่งต่างๆ รอบตัว บ้อเก๊กม้อจุน ก่อตั้งเป็นค่ายกลที่มีชื่อเสียงสะท้านสะเทือนที่สุดในบู้ลิ้ม จับโป็ยล้อฮั่นติ่ง( ค่ายกลสิบแปดอรหันต์)

เจตนาของ เลี่ยงคงไต้ซือ คือคิดสยบ บ้อเก็กม้อจุนผู้นี้ไว้ กักตัวมันอยู่บนวัดเสี่ยวลิ้มยี่แห่งนี้ เพื่อสันติสุขของชนชาวบู๊ลิ้มโดยรวม

หลวงจีนทั้งสิบแปดรูปร้องสรรเสริญพระคุณคำหนึ่ง ร่างก็พลันขยับเคลื่อนไหว ซ้ายย้ายตำแหน่ง ขวาไขว้สลับ ร่างก็กลายเป็นเงามายาสายหนึ่ง คล้ายจริงคล้ายลวง ชวนให้ผู้พบเห็น ต้องสมองหมุนตาลาย

คนสิบแปดคนต่างเคลื่อนไหวพร้อมเพรียงกัน ดุจประหนึ่งคนเพียงผู้เดียว กระบองทองเหลืองทั้งสิบแปดท่อนต่างไขว้สลับไปมา ก่อเกิดเป็นเงาประกาย แสงสีแพรวพราว สะท้อนสะท้าน แทรกชอนไชนัยน์ตา จนผู้คนยากจะลืมตาขึ้นมาได้

บ้อเก๊กม้อจุน ก็ไม่มีข้อยกเว้น มันพบว่าการเคลื่อนไหวของหลวงจีนเหล่านี้ ยากจะจับตามองได้ เพียงแค่ได้ชำเลืองมอง อวัยวะภายในก็รู้สึกปั่นป่วน ชีพจรก็เต้นกระชันถี่เร็ว เป็นอาการของธาตุไฟเข้าแทรก การเดินกำลังภายในผิดแนวทาง

มันรีบสำรวมสมาธิไม่จับตามองอีก ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว

หลวงจีนทั้งสิบแปดรูปเห็น บ้อเก๊กม้อจุน ไม่หลงกล เลยพาลลงมือด้วยอำมหิต

กระบองทองเหลืองทั้งสิบแปดท่อน ต่างก็พุ่งมาจากทั่วสี่ทิศแปดทาง คลอบคลุมทั้ง บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง ทั้งทิ่มแทง ปิดสกัด ฟาดขวาง กระหน่ำตี กระแทก เกี่ยวตวัด แต่ละท่อนล้วนแฝงพลังน้ำหนักไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบชั่ง ต่อให้ร่างบ้อเก๊กม้อจุน จัดสร้างมาจากก้อนหิน ยังถูกการทุบตีนี้ กระแทกป่นทำลายไป

ที่แท้หลวงจีนเหล่านี้ล้วนเป็นซือตี๋(ศิษย์ผู้น้อง)ของเลี่ยงคงไต้ซือเจ้าอาวาส ถึงแม้เลี่ยงคงไต้ซือจะมีมุทิตาจิต ไม่คิดจะทำร้ายผู้ใด แต่เหล่าซือตี๋ของท่านหามีความคิดเช่นเดียวกับตัวท่านไม่ พวกมันเห็นว่าพญามารผู้ชั่วร้าย บุคคลเช่นนี้ถ้ามีโอกาสสมควรกำจัดฆ่าทิ้งซะ

 พวกมันไม่อดออมยั้งพลัง ทุ่มเทเต็มความสามารถ เลี่ยงคงไต้ซือที่สังเกตเห็น ต้องอุทานอย่างตื่นตระหนกคำหนึ่ง แต่ตัวท่านยืนอยู่ในที่ห่างไกลเกินไป คิดจะแก้ไขสถานการณ์นับว่าไม่ทันท่วงทีแล้ว

ภยันตรายกลายใกล้มาถึงเหนือศีรษะ บ้อเก๊กม้อจุน กลับไม่รู้สำนึก ก้มหน้าลงสายตาจับจ้องมองพื้นดิน ยืนแน่วนิ่งไม่เคลื่อนไหว เห็นแน่ชัดว่ากระบองทองเหลืองสิบแปดท่อนต้องพาดมาโดนมันเป็นแน่แท้

เปรี้ยง!!

เสียงดังปานฟ้าร้อง ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด นับว่าคนล้มลงแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
/ของใหม่นี่มันใช้ยากจริงๆ อยากให้เปลี่ยนให้กลับเป็นอย่างเดิมจะดีกว่า
เฮ้อ...เหนื่อย กว่าจะอัพได้ ต้องหาวิธีตั้งนาน หรือข้าพเจ้าโง่เองหว่า?