ตอนที่ 3 : EX.1
สำหรับฉันกับแฮซูทั้งๆที่คบกันมาเกือบๆจะ3เดือนแล้วแต่ฉันกับเขาก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันเลย มากสุดก็แค่จูบ เพราะว่าส่วนนึงของใจฉันมันยังไม่พร้อมที่จะเปิดอะไรที่มันลึกซึ้งมากกว่านั้น
Rrrr Rrrr
เสียงมือถือของฉันดังขึ้นพร้อมกับปรากฏชื่อของคนที่ฉันกำลังจะรีบไปหาในตอนนี้
“ สวัสดีค่ะประธานชเว”
“ ขอโทษที่โทรมาหาแต่เช้านะครับคุณฮานึล พอดีมันมีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย คุณช่วยรีบมาที่บริษัทได้ไหม?”
น้ำเสียงของผู้เป็นเจ้านายฟังดูร้อนรนหน่อยๆ ซึ่งปกติแล้วคุณชเวซังอูจะเป็นคนที่นิ่งและสุขุมมาก นั่นเลยทำให้ฉันกังวลใจขึ้นมานิดไว่ากำลังเกิดเรื่องออะไรขึ้น
ฉันไม่รอช้ารีบเรียกรถแท็กซี่เพิ่วเดินทางไปที่บริษัททันที จากคอนโดฉันใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงบริษัทแล้ว
ฉันรีบกดเรียกลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุด ซึ่งเป็นชั้นของผู้บริหาร
“ ประธานชเวเกิดอะไรขึ้นคะ?” ฉันถามคำถามที่สงสัยทันทีที่ผลักประตูไม้สีเข้มเข้ามาด้านในห้องทำงานของประธานชเว
“ คุณฮานึล ขอบคุณที่คุณรีบมา ผมกำลังสับสนอยู่พอดีเลย ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้กับตัวเอง” ประธานชเวเอ่ยก่อนจะหยิบแท็บเล็ตที่อยู่บนโต๊ะทำงานยื่นมาให้ฉัน
ชเวซังอู คือประธานบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ตอนนี้ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ร่างสูงโปร่งที่มีความสามารถมาก ทั้งๆที่อายุเพียบแค่35ปี แต่บริษัทนี้ก็ใหญ่โตและมีชื่อเสียงมากในด้านอสังหาริมทรัพย์ นับว่าเป็นโชคดีของฉันที่ได้มาทำงานที่บริษัทนี้และมาเป็นเลขาให้
ฉันรับแท็บเล็ตมาจากประธานชเวบนหน้าจอปรากฏเป็นอีเมล์ที่มีข้อความแปลกๆส่งมาถึงประธานชเว
‘ ถึงประธานชเว
ผมชื่นชมคุณมากที่คุณทำให้บริษัทชเวกรุ๊ปเติบโตขึ้นมาได้อย่างสุดยอดขนาดนี้ ในฐานะนักธุรกิจคุณเป็นคนที่เก่งมากคนนึง ผมชื่นชมคุณจากใจจริง แต่ถ้านับในฐานะของเพื่อนร่วมโลก คุณคือสิ่งโสโครกที่ไม่น่าให้อภัย คุณมันคือผู้ชายที่น่ารังเกียจ เงินที่คุณหามาได้ก็มาจากน้ำตาและหยดเลือดของชนชั้นคนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ
ผมขอเป็นเสียงให้กับคนพวกนั้น ผมจะทำให้บริษัทชเวกรุ๊ปล้มละลายอย่างไม่เหลือซาก หรือมากกว่านั้นอาจจะเป็นชีวิตของคุณ ผมทำจริงนะ แต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายออะไรนัก ผมมีทางเลือกให้คุณ ถ้าคุณไม่อยากให้ชเวกรุ๊ปต้องล้มละลาย คุณก็ต้องลาออกและออกไปจากเกาหลีซะ ผมหวังว่าคุณจะฉลาดพอที่จะตัดสินใจทำตามคำขอผมนะครับ
MR.D ’
ทันทีที่อ่านข้อความในอีเมล์จบฉันก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย อย่างกับตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในหนังซักเรื่องเลย
“ ประธานชเวคะ คุณได้อีเมล์นี่มาเมื่อไหร่คะ?” ฉันถาม
“ ผมตื่นมาตอนเช้าแล้วเช็คอีเมล์ผมก็เจออีเมล์นี้ถูกส่งเข้ามาแล้วครับ แถมไม่มีชื่ออีเมล์ว่าถูกส่งมาจากที่ไหนด้วย ผมเลยโทรหาคุณเผื่อคุณพอจะช่วยอะไรผมได้บ้าง ”
“ เอ่อ…ฉันก็…เฮ้ออ! ขอโทษค่ะ ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ประธานพอจะนึกออกไหมคะว่าไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจไว้”
“ ไม่นะครับ คุณฮานึลก็รู้ว่าทุกครั้งที่คุยเรื่องธุรกิจ ผมติดต่อซื้อขายทุกอย่างมาด้วยความถูกต้อง ผมไม่เคยไปขัดใจใครเลยนะครับ” ประธานชเวเอ่ย
“ ถ้างั้นฉันว่าเราแจ้งตำรวจก่อนดีกว่าค่ะ แล้วก็ขอร้องให้ทางเขาช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปเดี๋ยวมันจะกระทบกับบริษัท” ฉันเสนอทางแก้ไขให้ผู้เป็นเจ้านาย
“ ถ้างั้นผมรบกวนคุณด้วยแล้วกันครับ เฮ้ออ! ปวดหัวแต่เช้าเลย” ประธานชเวเอ่ยก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆและนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานของตนเอง
"ถ้างั้นเดี๋ยวฉันเอากาแฟมาให้นะคะ ส่วนเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการให้ค่ะ ประธานใจเย็นๆนะคะ”
“ ครับ ขอบคุณคุณฮานึลมาก ผมไม่รู้ว่าจะไว้ใจใครได้แล้วนอกจากคุณ”
ไม่รู้ว่าช่วงนี้ฉันดวงตกหรือยังไงถึงมีแต่เรื่องให้ไม่สบายใจอยู่เรื่อยๆตลอดเลย รู้สึกเหมือนอายุตัวเองจัสั้นลงไปอีก2ปีเลย เฮ้ออ!
Hyunwoo Talks
สถานีตำรวจS
สวัสดีครับ ผม ซนฮยอนอู เป็นตำรวจที่ประจำอยู่สถานีนี้ครับ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่สถานีตำรวจค่อนข้างจะวุ่นวาย อย่างที่เขาว่ากันว่าตำรวจคือเพื่อนของประชาชนดังนั้นเรื่องไหนที่ประชาขนมีปัญหา ตำรวจก็คือผู้แก้ปัญหาให้ประชาชน
“ จับมันเลย จับมันเข้าคุกเลยคุณตำรวจ มันจะขับรถชนป้าเนี่ย” คุณป้าวัย60กว่าๆโวยวายพร้อมกับชี้ไปที่คู่กรณีที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก
“ อะไรของป้า ผมขับรถของผมมาดีๆป้าถลาเข้ามาหาผมเอง” คู่กรณีที่เปผ้นช่ยวัย30ต้นๆโวยวายกลับ
“ เอ้าๆ ใจเย็นก่อนทั้งคู่แหละ เถียงกันแบบนี้ผมฟังไม่รู้เรื่อง” ตำรวจที่เแ็าเหมือนคนกลางห้ามปรามคนทั้ง2
แต่เพราะทั้งคู่มาด้วยอารมณ์ที่แบกโทสะไว้เต็มบ่าเลยไม่มีใครยอมฟังตำรวจเลยซักคนแถมยังเถียงใส่กันเสียงดังกว่าเดิมอีก
“ ซึงกิล เกิดอะไรขึ้น?” ผมที่เดินผ่านไปทางนั้นพอดีเอ่ยถามตำรวจรุ่นน้องที่เป็นคนรับเรื่อง
“ โอยพี่ ช่วยผมที ผมไม่ไหวกับเรื่องแบบนี้จริงๆ โดยเฉพาะคดีทีมีป้าๆมาเกี่ยวเนี่ยผมยอมเลย ปวดหูไปหมดแล้ว” ซึงกิลเอ่ยด้วยสีหน้าที่แลดูน่าสงสาร
และพอได้ฟังคำของจากปากรุ่นน้องมีรึที่คนคนอายุมากกว่าอย่างผมจะไม่ยอมช่วย เสียงดังกันนักใช่ไหม ได้ครับ ฮยอนอูจัดให้
ปึง!!!!
ผมใช้กำปั้นทุบลงบนโต๊ะทำงานของซึงกิลอย่างแรงจนคู่กรณีทั้ง2ครถึงกับสะดุ้งและหยุดเถียงกันทันที
“ เอาล่ะไหนใครจะเป็นคนบอกผมก่อนดีว่าเกิดอะไรขึ้น?” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆพลางมองไปที่คนขี้โวยวายทั้ง2คน
“ เอ่อ… ก็ไอ้หนุ่มคนนี้น่ะสิมันจะขับรถขนป้า ป้าเนี่ยกลิ้งไปกับพื้นเลย เจ็บแขนไปหมดแล้ว” คุณป้าเอ่ยอย่าวเกร็งๆพร้อมกับชี้ไปที่รอยพกช้ำที่อยู่ตามแขนของตัวเอง
“ แล้วคุณขับรถไปชนคุณป้าเขาทำไม” ผมถามต่อ
“ ผมเปล่าชนนะ ผมขับรถของผมมาดีๆ ป้าแกก็วิ่งถลามาใส่รถผมเอง อีกอย่างผมขับช้าด้วย”
“ ฉันวิ่งไปใส่รถแกซะที่ไหนยะ!!”
ปึง!!!
ผมทุบโต๊ะเสียงดังลั่นอีกครั้งตอนที่คุณป้าคนนั้นขึ้นเสียงใส่คู่กรณี
“ มีหลักฐานไหมว่าคุณป้าเขาวิ่งใส่รถคุณ” ผมถามต่อ
“ ผมมีกล้องหน้ารถ”
พูดจบผู้ชายคนนั้นก็ไปเเอาวีดีโอจากกกล้อวหน้ารถมาเปิดให้พวกผมดู แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่ผู้ชายคนนั้นว่า ภาพที่พวกผมเห็นจากวีดีโอคือคุณป้าที่จู่ๆก็เดินเซเข้าใส่รถของผู้ชายคนนั้น
“ อ้าว ป้าภาพชัดขนาดนี้จะอธิบายยังไง” ซึงกิลเอ่ยถามมันทีที่ดูวีดีโอจบ
ิ “ ก็ เอ่อ ก็มันหน้ามืด ป้าแก่แล้วนี่ให้ป้าทำไงล่ะ แต่ป้าก็เจ็บตัวนะ”
“ อ้าว ป้า…” ยังไม่ทันที่ชายคู่กรณีจะพูดจบ เขาก็ต้องรีบหุปปากลงทันทีเพราะเห็นสายตาของผมที่จ้องมองไปที่เขาเขม็ง
“ ถ้างั้นคุณป้าก็ควรจะไปหาหมอแล้วตรวจสุขภาพซักหน่อยน่าจะดีกว่านะครับ” ผมเอ่ย
“ แล้วใครจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาบป้าล่ะป้าช้ำไปทั้งตัวแถมไม่มีเงินไปหาหมอด้วย”
“ ผมรับผิดชอบให้เอง เดี๋ยวผมพาป้าไปโรงพยาบาลนะครับ แล้ววันหลังป้าก็เดินห่างๆถนนหน่อยนะครับ โชคดีที่เขาขับรถมาช้าๆเลยไม่เจ็บอะไรมาก ถ้าหน้ามืดอีกแล้วเจอรถขับมาเร็วๆเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ” ผมเอ่ย
“ ก็ได้ๆ เห็นเป็นพ่อหนุ่มบอกนะป้าถึงยอม”
“ ส่วนคุณ เท่าที่ผมดูคุณขับรถเบียดทางบนถนนถนนคนเดินมาก วันหลังขับห่างๆบนถนนหน่อยนะคุณ ขับแบบนี้มันอันตรายกับคนที่เดินอยู่ริมถนนนะ เอาเป็นว่าเรื่องครั้งนี้จบน่ะครับ ต่างคนต่างโดนเตือนพอนะ แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกผมเอาเข้านอนคุกคนละคืนจริงๆน่ะครับ ”
ผมหันไปตักเตือนชายคู่กรณีแลคุณป้าและคนทั้ง2ก็พยักหน้าตอบรับผมอย่างดี
“ โห ถ้าไม่ได้พี่ผมตายแน่” ซึงกิลกระซิบบอกผมที่กำลังจะพาคุณป้าไปโรงพยาบาล
“ คนแบบนี้ต้องขู่ไม่งั้นไม่ฟัง”
แต่ตอนที่กำลังจะเดินออกจากสถานีไปนั้นก็มีคนๆนึงตะโกนเรียกผมเอาไว้ซะก่อน
“ อ้าว! ฮยอนอู กำลังจะไปไหนน่ะ”
“ อ๊ะ! ผู้กำกับคิม ผมจะพาคุณป้าไปโรงพยาบาลครับ” ผมหันไปตอบ
“ ให้คนอื่นพาไปได้ไหม พอดีมีเรื่องด่วนน่ะ เดี๋ยวผู้การซอกำลังจะมา ผมอยากให้คุณเข้าร่วมคดีนี้ด้วย”
ไม่นานนักผู้การซอซึ่งเป็นผู้บังคับการตำรวจของโซลก็เดินทางมาถึง ภายในห้องประชุมค่อยข้างจะตึงเครียดกันนิดหน่อย ผมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะผู้กำกับไม่ได้บอกอะไรผมไว้ได้แต่นั่งเงียบรอรับฟังคำสั่งเท่านั้น
“ โอเคมากันครบแล้วนะ ผู้ชายคนนี้คือมือดีที่สุดในสถานีคุณแล้วใช่ไหมผู้กำกับคิม” ผู้การซอเอ่ยถามพลางมองมาที่ผมที่นั่งอยู่ข้างๆผู้กำกับ
“ ครับ ผู้กองหมาดๆของสถานีเลย ฝีมือดี จบนายร้อยมาด้วยคะแนนระดับต้นๆเลยครับ”
ิ “ ผม ซนฮยอนอู ครับ”
“ ดีมากผู้กองซน ผมหวังว่าคุณจะเก่งตามที่ผู้กำกับคิมบอกนะ เข้าเรื่องเลยละกัน คดีนี้ค่อนข้างจะซีเรียสนิดหน่อย เพราะผู้เคราะห์ร้ายคือประธานบริษัทชเวกรุ๊ป เมื่อเช้าเลขาของเขาโทรมาบอกว่ามีผู้ไม่หวังดีส่งอีเมล์มาข่มขู่ประธานชเว” ผู้การซอเอ่ยพร้อมกับเปิดภาพหลักฐานที่เป็นอีเมล์ให้พวกผมดู
“ ไม่มีอีเมล์ที่แอดเดรสส่งมา ไม่รู้ว่าเป็นเมล์จากไหนต้นตอมายังไง ตัวประธานเองก็ไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นที่ทำแบบนี้ได้ ชเวกรุ๊ปเป็นบริษัทอสังหาที่ใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ ถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไปอาจจะมีผลกระทบกับหุ้นของบริษัทและเศรษฐกิจของประเทศได้ และคดีนี้มันเกิดในเขตของพวกคุณ ผมก็เลยจะให้พวกคุณเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ซะ ก่อนที่มันจะเป็นปัญหาใหญ่โต พวกคุณพอจะทำได้ไหม” ผู้การซออธิบาย
“ ครับผม!!” ผมกับผู้กำกับคิมเอ่ยพร้อมกับ
“ ดีมาก ถ้างั้นผมจะให้พวกคุณเป็นคนจัดการ หาคที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ปากสว่างมาเพิ่มในทีมอีกซัก2-3คนนะ แล้วก็ถ้ามีอะไรติดขัดหรือคืบหน้าก็แจ้งผมมาด้วย เผื่อผมจะช่วยอะไรได้ ผมไว้ใจพวกคุณนะ”
หลังจากส่งผู้การขึ้นรถไปแล้วผมกับผู้กำกับคิม ไม่สิ อาจุนซา ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน
“ เฮ้อออ เหนื่อยหน่อยนะฮยอนอู เพิ่งจะได้เป็นผู้กองแท้ๆงานใหญ่ก็มาเลย” อาจุนซาบอกพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆ
“ ไม่เป็นไรครับอามันเป็นหน้าที่”
“ พ่อนายบ่นฉันแน่ๆ คงหาว่าฉันใช้งานลูกชายเขาหนัก”
ผู้กำกับคิม หรือ คิมจุนซา ความจริงแล้วท่านเป็นรุ่นน้องของพ่อผม แต่ก่อนเข้าจะมาที่บ้านผมบ่อยๆผมเลยค่อนข้างจะสนิทกับอาเขาพอสมควร และอายังเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากมาเป็นตำรวจด้วยเหมือนกัน
“ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะหาคนเข้าทีมเพิ่มให้อีกซัก2คน แล้วพรุ่งนี้นายกับฉันไปที่บริษัทชเวกรุ๊ปกัน เพราะตอนนี่เราไม่มีข้อมูลอะไรเลยนอกจากอีเมล์โง่ๆนั่น”
“ ครับอา”
------------------------
Haneul Talks
เช้าวันต่อมาฉันรับมาที่บริษัทแต่เช้าเพราะประธานชเวแจ้งว่าจะมีตำรวจที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม
เอาตรงๆเมื่อวานฉันแทบไม่ได้นอนเลยไหนจะงานแถมยังต้องมาเครียดกับเรื่องไอ้คนไม่ประสงค์ดีนี่อีก ใครนอนหลับลงก็เก่งสุดๆแล้วล่ะ
แถมเมื่อเช้าเพื่อนสาวตัวดีของฉัน 'คิมอึนบี' ยังโทรมากวนตั้งแต่ตี5 ร้องห่มร้องไห้ว่าโดนแฟนนอกใจ
สงสัยยัยนั่นจะลืมไปว่าเมื่อ3เดือนที่แล้วฉันก็เพิ่งเลิกกันแฟนเก่ามา บอกเลยว่าถ้าไม่ได้เมคอัพสภาพหน้าฉันตอนนี้คงไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้วเปียกๆที่วางกองอยู่ข้างๆถังขยะ
“ ประธานชเว สวัสดีค่ะ ” ฉันเอ่ยทักทายผู้เป็นนายที่เพิ่งจะมาถึงออฟฟิศด้วยน้ำเสียงที่สดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ สวัสดีครับคุณฮานึล ผมขอตารางงานของผมวันนี้ด้วยนะครับ”
“ ช่วงเช้านี้เดี๋ยวจะมรตำรวจเข้ามาสอบปากคำเรื่องอีเมล์ขู่นะคะ แล้วตอนบ่ายก็มีนักคุยงานกับประธานคิมของบริษัทK ค่ะ”
“ อาา จะมีคุณตำรวจเข้ามาสินะ ผมลืมไปเลย ต้องรีบเตรียมตัวแล้วสิ”
“ ไม่ต้องตื่นเต้นก็ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรติดขัดเดี๋ยวฉันช่วยจัดการให้เอง”
“ ขอบคุณครับคุณฮานึล ปมโชคดีที่มีคุณเป็นเลขา น่าเสียดายที่คุณมีแฟนแล้ว ถ้ายังโสดผมคงจีบคุณแล้วล่ะ” ประธานชเวเอ่ย
“ ต่อให้ฉันโสด แต่ประธานก็ไม่ได้โสดนี่คะ” ฉันแซวกลับพร้อมกับวางแก้วกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จใหม่ๆไว้ตรงหน้าประธานชเว
แน่นอนว่าจริงๆแล้วผู้ชายคนนี้มีคู่หมั้นอยู่แล้วเพียงแต่ยังไม่เคยบอกใครมีแค่คนมนครอบครับกับคนที่สนิทจริงๆเท่านั้นที่รู้
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องประธานดังขึ้นก่อนที่พนักงานสาวจะเปิดประตูเข้ามาด้านใน
“ ท่านประธานคะ มีคนมาขอพบค่ะ” พนักงานคนนั้นเอ่ย
“ ใครครับ?”
“ เขาบอกว่าชื่อคิมจุนซาค่ะ”
“ ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวฉันออกไปต้อนรับเขาเอง” ฉันตอบกลับไปนิ่งๆ
จากนั้นฉันก็เดินออกไปที่ล็อบบี้รับแขกเพื่อพบกับตำรวจที่จะมาพบกับประธานชเว
“ สวัสดีค่ะ คุณคิมจุนซาใช่ไหมคะ? ฉันเป็นเลชาของท่านประธานชเว ชื่อคิมฮานึลค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายคุณตำรวจที่นั่งก้มหน้าอยู่
“ สวัสดีครับคุณฮานึล ผมจุนซา ส่วนหมอนี่…อ้าว! หายไปไหนแล้ว” คุณตำรวจจุนซาพูดก่อนจะมองหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาใครบางคน
“ ฮานึล!?”
จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันมาจากทางด้านหลัง มันเป็นเสียงที่คุ้นมากจนฉันรู้สึกหวั่นใจ และพอฉันหันหลัวกลับไปมองตามเสียงใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้น เขาคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจาก…
“ฮยอนอู!!”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
