ตอนที่ 2 : INTRO
วันนี้พวกเพื่อนๆของฉันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยต่างพากันนัดมาสังสรรค์ที่ผับหรูใจกลางกรุงโซล แต่ตอนนี้ก็ปาเข้าไป3ทุ่มแล้วแต่ยังไม่มีใครหน้าไหนโผล่หัวมาซักคนเดียว
“ ฮานึล ทำไมนั่งหน้ายับขนาดนั้นล่ะ เดี๋ยวพวกมันก็มา สั่งอะไรมากินก่อนไหม? ” ชายหนุ่มผิวขาวจนเกือบซีดแต่หน้าตาหล่อเหลาเกินจะบรรยายเดินเข้ามาทักฉัน
“ ไม่เป็นไรวอนโฮ เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ถ้าอีก 10 นาทียังไม่มีใครมาฉันจะสั่งทุกอย่างในร้านนายมากินแล้วจะให้ไอ้เจ้าพวกนั้นเป็นคนจ่ายให้หมดเลย” ฉับตอบกลับ
‘ชินโฮซอก’ หรือ ที่เพื่อนๆมักเรียกว่า’วอนโฮ’ ไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความอดทนอดกลั้น
วอนโฮก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนๆสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของฉัน และผับแห่งนี้ก็เป็นร้านของวอนโฮ
บ้านของวอนโฮค่อนข้างที่จะมีเงิน ตระกูลเขาเป็นเจ้าของธุรกิจทางแฟชั่นชั้นแนวหน้าของเกาหลี โดยมีวอนโฮลูกชายคนโตของบ้านเป็นคนดูแลอยู่เบื้องหลัง ส่วนร้านนี้ไอ้หมอนั่นก็บอกว่าเปิดไว้เป็นงานอดิเรกเล่นๆ ชีวิตช่างน่าอิจฉา
“ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปดูให้นะว่าพวกมันมากันรึยัง” วอนโฮบอกก่อนจะเดินออกไปที่หน้าร้าน
หลังจากนั้นไม่นานนักวอนโฮก็เดินกลับมาพร้อมกันเพื่อนๆของฉันส่วนนึง
“ อะไรเนี่ย ยัยเด๋อนี่มาก่อนเพื่อนเลยเหรอ” ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งกับใบหน้าหวานๆที่ผิดกับคำพูดที่แสนเจ็บแสบของเขาเอ่ยแซวฉัน
“ ย๊าส์ แชฮยองวอน ถ้าไม่อยากตายก็เงียบไปเลย เป็นคนนัดเองนะว่าให้มาตอนทุ่มนึง นี่ทำไมเพิ่งจะโผล่หัวมาล่ะ”
“ คิดสิคิด! มีใครเขามาเที่ยวผับกับตอนทุ่มนึงบ้าง ขืนมาไวก็กลายมาเป็นยัยเด๋อแบบเธอดิ ฮ่าๆๆๆๆ” ฮยองวอนหัวเราะร่าออกมาอย่างสะใจ
“ มาไวจริงตามที่ฮยองวอนพูดจริงๆด้วย” เสียงหวานๆของผู้ชายอีกที่เดินตามมาสมทบเอ่ยและยิ้มมาแต่ไกลเมื่อเห็นหน้าฉัน
“ กีฮยอนอย่าไปแซว เดี๋ยวเขาอาย หึหึหึ”
“ ฮ่าๆๆๆ เอาจริงดิ ”
“ ผมก็ว่าแล้ว”
ยูกีฮยอน อีมินฮยอก อีจูฮอน และ อิมชางกยุน เอ่ยแซวฉันตามลำดับ
ไอ้พวกผู้ชายกรุ๊ป5หนอปากดีนี้รวมทั้งวอนโฮด้วย เจ้าพวกนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ บอกเลยว่าถ้าพวกมันรวมตัวกันเมื่อไหร่ความป่วงเกิดขึ้นที่นั่นแน่ๆ ซวยของแกจริงๆยัยคิมฮานึล ที่ดันมาเป็นเพื่อนกับอีตาพวกนี้
จากนั้นเพื่อนคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันมาและแน่นอนว่าทุกคนแซวฉันที่มาไวกันทุกคน
“ หือ…นี่พวกนาย ฮยอนอู ยังไม่มานี่หน่า” เพื่อนผู้หญิงคนนึงเอ่ยถามเมื่อสังเกตว่ายังขาดคนสำคัญไปอีกคน
“ อ๋อ…หมอนั่นเพิ่งจะออกเวรน่ะ กำลังตามมา” มินฮยอกที่อยู่ใกล้สุดเอ่ยตอบ
“ เป็นตำรวจนี่ก็เหนื่อยเนอะ”
“ ทำไมจ๊ะ คิดถึงฮยอนอูเหรอ งั้นมาเล่นกับวอนโฮก่อนก็ได้นะ” วอนโฮเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาโอบเอวของเพื่อนผู้หญิงคนนั้นจากทางด้านหลัง ส่วนฉันได้แต่มองกรอกตาขึ้นข้างบนเพราะรู้นิสัยของตานี่เป็นอย่างดี
บอกเลยว่าเรื่องเต๊าะสาวต้องยกให้วอนโฮเขาเลยจริงๆ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วหมอนี่เปลี่ยนสาวควงแทบจะทุกเดือน เขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ แต่แน่นอนว่าด้วยหน้าตาแบบนั้นแล้วสาวๆก็ต่างยินดีให้เขาตกและยอมถูกเขาจับกิน เพราะอย่างน้อยก็สามารถเอาไปอวดกับใครต่อใครได้ว่าครั้งนึงตัวเองเคยเป็นผู้หญิงของวอนโฮ
“ อ้าว นั่นไงพูดถึงหมี หมีก็มาพอดี” ฮยองวอนบอกพลางชี้ไปที่คนร่างสูง ผิวแทน หน้าตาคมเข้ม ที่กำลังเดินมาทางนี้
“ โทษที เพิ่งออกเวร” ซนฮยอนอูเอ่ยพลางนั่งลงที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามฉัน
“ แหม คนเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งก็ต้องยุ่งเป็นธรรมดาแหละ พวกเราเข้าใจ” จูฮอนแซว
“ แซวเขาเข้าไป ฮยอนอูมันคนขยัน ไม่เหมือนแกหรอกเอาแต่เล่นไปวัน” วอนโฮเอ่ย
“ ไม่ใช่แระๆ ผมก็ทำงานนะ ผมก็ช่วยกิจการที่บ้านเหมือนๆกับพี่แหละ เพียงแค่ว่าผมไม่ได้มีผับของตัวเองเหมือนของพี่ซักหน่อย”
จูฮอนรีบเถียงกลับคนอายุมากกว่าทันควัน เพราะถึงเขาจะดูเป็นเด็กเกรียนขี้โวยวาย แต่ความจริงแล้วเขาเป็นถึงลูกชายโตของบริษัทขายจิลเวอรี่ แต่ด้วยความติดดินซะเหลือเกินเลยทำให้เขาดูไม่ค่อยเหมือนคุณหนูซักเท่าไหร่
“เหอะ! ทั้งๆที่ปากบ่นว่าไม่อยากรับช่วงต่อที่บ้านแต่ก็ยังทำงานให้ที่บ้านเนอะ รีบๆโตแล้วหาอะไรทำได้แล้วพวกฉันขี้เกียจมานั่งฟังนายบ่น มันรำคาญ” ฮยองวอนพูดเสริมและพอคนตาตี่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับบุ่ยหน้างอนทันที
“ แล้วนายจะเอาอะไรดีฮยอนอู เดี๋ยวให้เด็กในร้านเอามาเพิ่มให้” วอนโฮหันไปถามคนตัวสูงที่นั่งเงียบมาซักพักแล้ว
“ เอ่อ เบียร์ละกัน กำลังเหนื่อยๆ…แล้วฮานึลล่ะ จะเอาอะไร” ฮยอนอูเว้นระยะนิดนึงและหันมาถามฉันที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
อาจเป็นเพราะเขาสังเกตเห็นว่าตรงหน้าฉันไม่มีเครื่องดื่มอะไรวางอยู่นอกจากน้ำเปล่าก็เป็นได้เขาถึงได้ถามฉันมาแบบนั้น
แต่แทนที่ฮยอนอูจะได้คำตอบจากปากฉัน ฉันกลับเลือกที่จะไม่ตอบเขาและปล่อยให้ความเงียบครอบงำบรรยากาศภายในโต๊ะ
“ เอิ่มมม” กีฮยอนพยายามเอ่ยทำลายบรรยากาศที่แสนจะน่าอึดอัดนี้ลง
ิิิิิิ “ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว” ฉันตอบ
“ อ้าว! ทำไมรีบกลับล่ะ คนเพิ่งจะมากับครบเองนะ ผับเขาไม่ได้ปิดกัน4ทุ่มนะยัยเด๋อ” ฮยองวอนเอ่ยทันทีที่ได้ยินคำตอบของฉันแต่เขาก็ไม่วายแหวะฉันอีก
“ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าน่ะ อีกอย่างฉันก็เรียกให้แฮซูมารับแล้วล่ะ”
ฮยอนอูขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อของคนๆนึงจากปากฉัน ‘พัคแฮซู’ คือชื่อของแฟนคนปัจจุบันของฉัน
“ ลืมไอ้หมอนี่ไปซะสนิทเลย” ฮยองวอนบ่นอุบ
“ คิมฮานึล!”
จู่ๆก็มีเสียงเรียกของคนบางคนดังผ่านฝูงชนเข้ามา ผู้ชายร่างสูง หน้าตาคมแต่ดูเจ้าเล่ห์นิดๆเดินมายังโต๊ะที่พวกฉันนั่งอยู่
“ พูดถึงก็มาพอดีเลย ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ” พูดจบฉันก็คว้ากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาและเดินไปหาแฮซู
“ อ้าว! จะกลับเลยเหรอ ฉันเพิ่งจะมาเองนะ” แฮซูเอ่ยทันทีที่ฉันเดินเข้าไปควงแขนเขาและพยายามดึงให้เขาเดินตามฉันมา
“ ฉันเหนื่อย กลับกันเถอะ”
“ อะๆ โอเค…ไปก่อนนะ ซนฮยอนอู”
แฮซูพูดกับฮยอนอูพร้อมกับมองไปที่ที่เขาด้วยสายตาที่เหมือนจะกวนอวัยวะเบื้องล่างมาก แถมมือของหมอนั่นก็ยังโอบคว้าเอวของฉันเอาไว้ซะแน่น แน่นอนว่าคนๆนี้จงใจจะกวนโอ๊ยฮยอนอู จะไม่ให้ทำแบบนั้นได้ไงในเมื่อแฮซูตามจีบฉันมาตั้งแต่ปี1 และตอนนี้เขาก็คือแฟนของฉัน
“ โบกหัวมันซักทีจะได้ไหม กวนตีนนัก” วอนโฮเอ่ยทันทีที่ฉันกับแฮซูเดินออกไปห่างพอสมควรแล้ว
“ หน้าตามันนี่ชวนเอาหมัดฟาดปากมาก ผมล่ะโคตรเกลียดแม่งชิบหาย” จูฮอนพูดเสริม
“ สรุปเลิกกันจริงๆแล้วสินะนายกับฮานึลอะ” กีฮยอนหันไปถามฮยอนอูที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ อืม เลิกแล้ว ” ฮยอนอูตอบพร้อมกับยกเบียร์ที่เพิ่งถูกเอามาเสริฟขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
ถึงแม้ว่าเขากับฮานึลจะเลิกกันมาได้3เดือนแล้วก็ตาม แต่การที่ฮานึลไปคบกับแฮซูมันทำให้เขาหงุดหงิดนิดหน่อย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
