ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Devil de Love ปีศาจ100%

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 Half-Devil 100%

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 50


      ถ้าหากว่าคุณเหลือเวลาบอกรักคนที่คุณชอบเพียงห้านาที...

       แล้วเขายืนอยู่ตรงหน้าคุณ...

       เวลาจำกัด...

       คาโต้คุง...

       อ้าปากจะพูดก็เสียเวลาไปนาทีครึ่งแล้ว

       อืม?

       เงยหน้าขึ้นจ้องตาเขาเสียเวลาไปอีกครึ่งนาที

       ฉะ...ฉัน...คือใกล้จะจบม.ต้นแล้ว ฉันอยากจะ...

       มัวแต่อ้ำๆอึ้งๆ เสียเวลาไปสองนาที

       จะพูดอะไรกันแน่เนี่ย เร็วหน่อยนะ ผมมีซ้อมต่อ

       โดนเขาพูดขัดอีก เวลาหายไปหนึ่งนาที....

       ...หมด เวลา ...

       คาโต้ มาซ้อมต่อเร็ว ฉันบอกว่าให้พักแค่ห้านาทีนะ เสียงผู้จัดการทีมฟุตบอลของร.ร.ตะโกนมาจุดที่ฉันกับเขายืนอยู่อย่างไม่พอใจ ฉันสะดุ้ง รู้สึกได้ทันทีว่าใบหน้าชาไปหมด...สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย...ทั้งๆที่พรุ่งนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอเขาอีก  

       ครับ!” เขาตะโกนกลับไป แล้วหันกลับมาหาฉันด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออก แต่มีรอยยิ้มเปื้อนอยู่นิดหน่อย ผมก็ไม่รู้นะว่าคุณจะมาพูดอะไรกับผม แต่ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมจะเรียนม.ปลายต่อที่นี่

       เอ๋?

       ไปล่ะนะ

       แล้วเขาก็วิ่งจากไป ฉันยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ เขาพยายามจะบอกว่าฉันยังมีโอกาสอยู่ใช่มั้ย? วันนี้ไม่ใช่วันสุดท้ายของฉัน!

       นี่เธอ...เมื่อกี้พูดอะไรกับคาโต้น่ะ

       ขณะที่ฉันกำลังเพลินกับความสุขของฉัน ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนนั้นก็ปรี่เข้ามาฉันด้วยหน้าบูดอย่างกับไข่เน่า แม้ว่าฉันเห็นแล้วต้องกลั้นหัวเราะ แต่สถานการณ์มันไม่น่าหัวเราะซักนิด

       ไม่ได้...พูดอะไรนี่คะ...

       โกหก...ฉันเห็นเธอเอ่ออ่าอยู่ตั้งนาน จะสารภาพรักคาโต้ใช่มั้ยล่ะ ผู้จัดการตะคอกฉัน แล้วหันไปเรียกผู้หญิงคนอื่นจากแถวนั้นมาอีก โดยบอกว่าฉันคิดจะจับคาโต้คุงไว้คนเดียว เวลานี้ฉันนึกหน้าตัวเองออกเลยว่าทำหน้ายังไง ฉันคงเบิกตากว้างจนตาเป็นหลุม แล้วก็อ้าปากค้างอยู่แน่ๆเลย

       ดูทำหน้าเข้าสิ น่าทุเรศซะไม่มีเลย

       ฉะ...ฉัน... ฉันพยายามจะหาทางเอาตัวรอด แต่กำแพงที่ติดอยู่กับหลังฉันมันหนาเกินไป...ข้างหน้าฉันก็มียัยตัวประหลาดเต็มไปหมด

       ฉันพยายามจะไม่มีเรื่อง เลยไม่พูดอะไรออกมา ได้แต่ขอร้องให้พวกหล่อนปล่อยฉันไป แต่ก็ไม่ยอมปล่อยฉันไป

       โธ่...เอ๊ย... ฉันพึมพำ น้ำตาเริ่มไหลออกมาเอง

       ร้องไห้ทำไมยะ นี่เธออยากทำตัวเองเองนะ คาโต้คุงน่ะเป็นของทุกคน

       คาโต้คุงไม่ใช่สิ่งของนะ พวกเธอถึงได้จะครอบครองไว้น่ะ!” ฉันโมโห ตะโกนออกมาเต็มเสียง คนที่เดินผ่านไปมาแม้จะได้ยิน แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะหันหน้าหนีมากกว่าจะเข้ามาช่วย

       เธอไม่มีสิทธิมาเถียงพวกฉันนะ!” ผู้จัดการทีมเงื้อมือขึ้นแล้วฟาดลงตรงมาที่หน้าฉันทันที

       อึ่ก!…” ฉันร้องเสียงดังในลำคอพร้อมกับเสียงตุบ  แต่ไม่ยักมีอะไรมาสัมผัสหน้าฉัน เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับชายตัวสูงหญ่ ผมสีน้ำตาลแดง ยืนค้ำฉันอยู่ ใบหน้าห่างฉันเพียงไม่กี่นิ้วและเอาหลังของเขารับมือไม้พายของผู้จัดการทีมฟุตบอล    

       อะ...เป็นอะไรรึเปล่าคะ ฉันค่อยๆจับเขาบริเวณแขนที่เส้นเลือดค่อยๆปูดขึ้นมา เขาสบตาฉันแวบนึง แล้วหันกลับไปหากลุ่มผู้หญิงที่ยืนทำหน้าช็อกเหมือนโดนผีหลอก

       จะทำอะไรกันน่ะ

       มะ...ไม่มีอะไร

       แล้วทำไมต้องตีฉันด้วยล่ะ เขาถามเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าสุดโหดนั้นยิ่งจ้องมองยิ่งสันหลังวาบ

       ไม่ได้ตีเธอนะ เธอเข้ามาขวางเองนี่นา

       แล้วไหนว่าไม่มีอะไรไง ทำไมต้องตีเด็กคนนี้ด้วยล่ะ เขาพยักเพยิดมาทางฉัน ฉันก้มหน้าหลบสายตาเหล่านั้นแล้วค่อยๆเขยิบมาหลบหลังชายแปลกหน้า

       คราวนี้ฉันจะให้โอกาสพวกเธอวิ่งหนีไปให้ไกล... เขาหยุดแล้วจ้องหน้าทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แล้วอย่ามายุ่งกับเด็กคนนี้อีก

       ค่ะๆๆๆ!!” ทั้งหมดรีบก้มหัวหงึกแล้ววิ่งพรวดไปทันที...

       ...ขอบคุณมากนะคะ... ฉันถอนหายใจ เกือบไปแล้วเชียว

       ไม่ต้องขอบคุณหรอก

       เอ่อ...

       ดูจากใบหน้าซื่อๆของเธอแล้วฉันจะบอกความลับของ อาคิฮิโตะ  เรน คนนี้ให้ เขายิ้มเยาะ ผมสีน้ำตาลแดงของเขาพลิ้วไปตามสายลมดูแล้วเหมือนจะปลิวหลุดออกมาจากหัวเขายังไงไม่รู้

       คะ?

       ถ้าในหนึ่งวันฉันโดนตีตรงไหนก็ได้บนตัวฉัน ฉันจะพลังเท่ากับมังกรสิบตัวบวกกับหมูบดสิบตันน่ะ”

       เอ๋? ฉันเลิกคิ้ว ตาคนนี้บ้ารึเปล่าเนี่ย?

       ฮะๆๆ ว่าแล้วเชียวว่าต้องไม่เชื่อ หน้าตาอย่างเธอเนี่ย คงไม่เชื่ออะไรแบบนี้หรอกใช่มั้ย?

       แน่นอนสิ...ใครจะไปมีพลังเท่ากับหมูบดสิบตันล่ะ คิดได้ยังไง ฉันขัดเขา

       นี่เธอไม่ได้ยินคำว่ามังกรสิบตัวรึยังไง...=”=...

       ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ฉันก้มหัวลง แล้วบอกลาเขา ก่อนจะเดินออกมาไกลจากตัวเขา ฉันได้ยินเขาพึมพำว่า...

    จะขอบคุณทำไมกัน...ฉันทำเพื่อตัวฉันเองอยู่แล้ว

       ได้ยินอย่างนี้แล้วมันรู้สึกเคืองๆยังไม่รู้ ฉันเลยแตะที่หลังเขาเพื่อจะคุยกับเขา แต่เขากลับสะดุ้งสุดตัว แถมยังนานเป็นนาทีอีกด้วย จนฉันตกใจนึกว่าเขาชัก

       นี่นาย! เป็นอะไรไป! เดี๋ยวสิ ฉันไม่กล้าแตะต้องตัวเขา เพราะที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะฉันแตะตัวเขาใช่มั้ยล่ะเนี่ย โอ๊ย ทำยังไงดี

       ........ ซักพักเขาก็ค่อยๆสงบลง ฉันก็เลยทรุดตัวลงนั่งข้างร่างที่นอนแผ่อยู่ ดีที่ตรงนี้เป็นที่ลับตาคน จึงไม่มีคนมามุงดูภาพที่น่าสะเทือนลูกหูลูกตาอย่างนี้

       เธอทำอะไรฉันน่ะ!” ทันทีที่เขาหาย ก็ลุกขึ้นมาตวาดแว้ดใส่ฉันทันที

       ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฉันแค่แตะนายแค่นี้...ว้าย!!” ฉันทำเป็นตัวอย่างให้เขาดูอีกที เขาก็สะดุ้งอีก

       ... เขาทำสีหน้าครุ่นคิดแล้วเงียบไป

       ฉันขอโทษนะ...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะไม่แตะต้องตัวนายอีก ฉันจึงบอกลาเขาอีกครั้งแล้วลุกขึ้น แต่เขารีบตะโกนว่าอะไรไม่รู้แล้วดึงข้อมือฉันไว้ เขาจึงสะดุ้งอีกแล้วฉันก็ล้มลงทับเขา

       อึ่ก...โอ๊ย... เขาครวญคราง แลวผงกหัวขึ้นมาเจอหน้าฉันพอดี

       เป็นอะไรรึเปล่า?

       ไม่เป็น...แต่ไม่รู้ทำมันเจ็บแปลบขนาดนี้ เขาบ่นเบาๆ เหมือนจะแปลงร่าง แต่มันก็เอาแต่เจ็บอย่างเดียว

       เอ๋?...

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       เธอส่งเสียงสงสัย ผมคิดว่าตัวเธอเองคงมีอะไรที่ทำปฏิกิริยากับร่างกายของผม ร่างของเธอที่ทับอยู่บนตัวผมทำให้เจ็บจนเหมือนถูกตรึงอยู่กับพื้นปูน...

       แต่น่าแปลก ที่เมื่อเธอยิ่งเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆผมความเจ็บปวดก็ยิ่งลดลง

       เฮ้...เธอ...เอาหน้าเข้ามาใกล้อีกซิ ผมสั่งเธอ เธอขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า

       นายบ้ารึไง ใกล้กว่านี้ก็จูบแล้ว

       อะ... ผมยังไม่ทันพูดอะไรก็เหลือบไปเห็นตัวประหลาดที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงปลายเท้าผม

       มองอะไรของนาย

       ชิ...

       ผมพยายามหาทางไม่ให้เธอมองสิ่งนั้น แต่ทันใดนั้นไอ้ตัวประหลาดก็คำรามลั่นยาวนานเป็นนาทีแข่งกับเสียง

    กรี๊ดของยัยติ๊งต๊องที่นอนทับผมอยู่ สัตว์ประหลาดบ้านั่นจู่ๆก็กระทืบเท้าซะพื้นสั่น เด็กผู้หญิงคนนี้ที่ไม่มีสติอยู่แล้วเลยขาดการทรงตัวแล้วเอาหน้ามากระแทกหน้าผมทันที

       กึก!!!!~”

       โอ๊ย!”

       อุ๊บ!”

       ...

       ทันทีที่ปากประกบกัน ร่างกายของผมก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยร้อนหนาวไม่รู้สึก รู้สึกเหมือนตัวเป็นหินไปหมด เด็กคนนั้นโวยวายลั่นสีหน้าตกใจ แต่ไม่รู้ว่าตกใจเรื่องไหน เรื่องสัตว์ประหลาดนั่น รึเรื่องที่จูบกับผม

       เงียบน่า ผมเอามือที่ชาและแข็งคว้าข้อมือเธอแล้วดึงมาไว้หลังผม

       แต่ผมก็รู้สึกถึงความอุ่นที่แผ่มาตามมือของเธอ ร่างกายส่วนไหนที่เราสัมผัสกัน มันจะอุ่นขึ้นทันที ขณะที่ผมกำลังแปลกใจ กับสิ่งมหัศจรรย์ เธอก็ร้องขึ้นมาพร้อมกับตอนที่หน้าผมโดนโค้นทุบที่หน้า

       กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด...

       จะร้องทำไมนักหนาเล่า ผมหันกลับมาโวยเธอ  ผมไม่รู้สึกอะไรเลยซักนิด ไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามีอะไรมาแตะที่หน้า แต่พอเธอเอื้อมมือมาแตะหน้าผมผมกลับรู้สึกอุ่นที่แก้มทันที

       เป็นอะไรมั่ย มีแผลรึเปล่า

       รอก่อน ฉันจะจัดการไอ้นี่ให้เสร็จ แล้วเราคงต้องคุยกัน ผมพูดแล้วตรงเข้าไปต่อยที่ท้องของตัวประหลาดนั่น น่าแปลกที่แค่แตะมันก็กลายเป็นผงหายไป ทั้งๆที่เมื่อก่อน ผมต่อยมันตั้งสองสามหมัดกว่ามันจะหายไป

       ...

       เอาล่ะ...เธอ...

       โนะฮาระ  มาเมะ

       โนะฮาระ เธอเป็นตัวประหลาด... ผมพูดออกไปตามตรง

       ว่าไงนะ?

       เธอ เป็น ตัวประหลาด ยิ่งกว่าฉันซะอีก

       ไม่...ไม่เอาน่า

       ปีศาจพวกนี้มาจากหลุมดำในป่าหลังโรงเรียน พ่อฉันก็มาจากที่นั่น ฉันเป็นลูกครึ่งปีศาจ ดังนั้นถึงได้ต้องมาคอยหักล้างกะไอ้พวกหน้าตาน่าเกลียดนี่ ส่วนเธอ เธอคงจะมีเชื้อสายมาจากเลดี้ของเหล่าปีศาจ...แหม...มานึกดูฉันก็โชคดีเหมือนกันนะ

       นี่นาย!!!” เธอตะโกนอย่างเอาเป็นเอาตาย พูดเรื่องอะไรเนี่ย ฉัน...ฉันไม่รู้เรื่องนะ

       ก็นั่งฟังดีดีสิ ผมดึงเธอลงนั่ง เจ็บมือแปลกๆ แต่ไม่เท่ากับตอนแรกที่เธอมาแตะหลังผม

       เลดี้คือมนุษย์ที่ต้องอยู่คู่กับปีศาจเพื่อให้พลังที่เหนือความคาดหมาย...ซึ่งในรอบพันปี จะมีปีศาจที่มีเลดี้เพียง10คู่เท่านั้น

       ...ฉันคือเลดี้เหรอ?

       อื้ม

       ทำไมอ่ะ...

       ถามอะไรแปลกๆนะเธอเนี่ย สายเลือดเธอไง ลองกลับไปถามพ่อแม่เธอดูดิ เผื่อเขาจะรู้เรื่องนะ

       ...ฉันไม่มีครอบครัว เขาตายหมดแล้วตอนฉันอายุ12

       ...อะ...โทษที

       แล้วเลดี้ต้องทำอะไรบ้างล่ะ...ลงเป็นแบบนี้แล้วฉันคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเป็นเลดี้ให้นาย

       อา...เยี่ยมมากเลยโนะฮาระ  ไม่มีอะไรมากหรอก...ก็แค่คอยอยู่ช่วยฉันเท่านั้นเอง

       ถ้าแค่นั้นก็ไม่เป็นไร...เธอยืนขึ้นปัดกระโปรงเบาๆ เอ้อ แล้วคนอื่นล่ะ...

       อะไรล่ะ?

       เวลาเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น คนอื่นเขาไม่รู้เรื่องกันเหรอ?

       รู้สิ แต่เดี๋ยวก็ลืม

       เธอพยักหน้าเข้าใจ แล้วหันหลังเดินไป...ผมลุกขึ้นยืนแล้วนึกอะไรออก

       โนะฮาระ! เดี๋ยว..

       อะไรเหรอ?

       เธอไปที่บ้านฉันเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ฉันอยากพาเธอไปหาพ่อฉันน่ะ

       พ่อนาย...? ที่เป็นปีศาจน่ะเหรอ...?

       อืม นะ ได้โปรด ในฐานะคนเป็นพ่อ ถ้าลูกชายเป็นผู้โชคดีได้เป็นปีศาจมีเลดี้ในรอบพันปี เขาก็คงอยากจะเห็นภรรยา...เอ่อ คู่หูของลูกชายใช่มั้ยล่ะ...

       ภรรยาเหรอ?! นายพูดว่า ภรรยา...!!!”

       เอ่อ...ก็...ยังไงเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนะ ปีศาจกับเลดี้อยู่คู่กันเสมอ จนกว่าปีศาจจะตาย

       นาย!...พูดเป็นเล่นไป ฉันเพิ่งจะอายุ17เองนะ

       ฉันก็17เหมือนกันแหละน่า! ถ้าเราสองคนต่างหากันเจอแล้ว ฉันที่มีอายุขัยถึง1000ปีก็จะมีมากขึ้นอีก500ปี ส่วนเธอก็จะมีอายุถึง1000ปีหรือมากกว่านั้น...

       ...นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยย!!...

       อย่าเพิ่งโวยวายไป ตอนนี้เธอเป็นภรรยาฉันแล้ว ไปบ้านฉันเถอะ ว่าแล้วผมก็รีบลากเธอไปที่บ้านผมก่อนที่เธอจะเถียงอะไรขึ้นมาอีก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×