คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ฉากที่ 4 : ข่าวร้าย 100% *เพิ่มภาพด้วยแต่ไม่ใช่ตัวละครหลัก*
ฉากที่ 4 : ข่าวร้าย
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าวิ่งอย่างเร่งรีบมาทางร้านที่โรงอาหาร เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม พลิ้วไปกับลม
ที่ใบหน้ามีเหงื่อผุดพรายขึ้นมาจำนวนมาก เขาหยุดที่หน้าร้านที่วาโยมาซื้อข้าวเย็น
“ป้า...ครับ..ของ..ที่ไอ้..นิก...มันฝาก..ทิ้ง..ยัง..อยู่มั้ย..ครับ?” เสียงที่เปล่งออกมาขาดช่วงเพราะเหนื่อยล้าจากการวิ่งมาไกล
“ไม่อยู่หรอก...ป้าให้คนอื่นไปแล้วหนูคิม”ป้าที่อยู่ในร้านหันมาบอกเขา “วิ่งมาเหนื่อยๆกินน้ำก่อนมั้ยจ้ะ?”
เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนล้า แล้วกลับมามีท่าทางร้อนรน “ป้ารู้มั้ยครับว่า...คนที่ป้าให้กระดาษปึกนั้นมาชื่ออะไร?”
“ป้าเห็นว่าเป็นเด็กใหม่..ชื่อวาโยนะ..พอดีป้าได้ยินเขาคุยกันน่ะ”
เธอพูดอย่างอารมณ์ดี แล้วหยิบจานที่ล้างแล้วมาเช็ด
“โธ่...คงยังไม่อ่านมันนะ” เขาพึมพำ แล้วหันมามองป้าเจ้าของร้านด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“ผมต้องมาแจ้งข่าวร้ายว่า.......ลาร์นี..หลานของป้า..เธอ..ตายแล้วครับ”
เพล้ง..!!
จานที่อยู่ในมือของป้าคนนั้นหล่นจากมือของเธอทันที ดวงตาของป้าเบิกกว้าง...
เธอยืนแข็งทื่อด้วยความตกใจ “ไม่..ไม่จริง...” ดวงตาสีเข้มมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าอย่างเศร้าใจ
“ผม..ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ” คิมก้มหน้า ...สิ่งที่เขาไม่ได้บอกกับป้าคนนี้คือ...
..ลาร์นี..ตายเพราะเจ้าบทละครเรื่องนั้น..
และเขาต้องไม่ให้ใครตายอีก!!!
********************************
“นี่...เธอ..ทำอะไรของเธอน่ะ”วิญญาณหัวส้มมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างทำสีหน้าไม่ถูก
สิ่งที่เขาเห็นคือ
วาโยกำลังค้นของในกระเป๋า แล้วคว้าบางสิ่งออกมา.. สิ่งที่ทำให้เขาถึงกับขยาด..
..นั่น ข้าวสารเสกนี่หว่า..ทำไมมีน้ำมันด้วยล่ะ? นั่น..ไฟแช็ก นั่นควายธนู..
อ๊ะ..มีกระเทียมด้วยนิ แล้วนั่นก็หุ่นฟาง นั่นเทียนเป่าไม่ดับ มีตะเกียงด้วย..
และยังมีอีกหลายอย่างที่ยากจะบรรยาย
“นี่---------เธอ--------ทำอะไร----------ของเธอฟร้าาาาาาา”เขาตะโกน ก่อนที่มือของคนข้างๆจะตบบ้องหูเข้าให้ “เบาๆสิเฟ้ย..เนี่ย..ฉันจิ๊กน้องฉันมานิดนึง...เอาไว้เผื่อๆ...”จู่ๆเด็กสาวก็ชะงักไป แล้วถามหน้าตาย“ว่าแต่...ไอ้นี่มันเอาไว้ทำไมเหรอ?”
ทำให้วิญญาณหัวส้มของเราปวดหัวอีกแล้ว... ก่อนจะบอกปัดๆไปว่า
“ถ้าเธอไม่รู้ก็อย่ารู้เลยน่า...เฮ้อ” สงกรานต์จึงเบนเข็มความสนใจกลับมาที่กระดาษปึกหนา
แล้วหยิบมันขึ้นมาดู“แล้วตกลงจะอ่านมันดีป่าวเนี่ย?”
“ดีเสะ”วาโยตอบทันควัน “ถ้าขายไปไม่อ่านถือว่าขาดทุนเห็นๆ ถึงจะขายได้หลายโลก็เถอะ”
“เอาจริงเหรอ?” สงกรานต์ถามเพื่อความแน่ใจ เด็กสาวพยักหน้า ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปิดอ่านมัน
...
หน้าแรก...
บทละครสีเลือด..
“เฮ้ย...ชื่อก็สยองแล้วอ่ะ”วาโยเอ่ยแทบจะทันทีหลังอ่านหัวข้อ
“เปิดหน้าต่อไปดิ”สงกรานต์บอก วาโยจึงเปิดหน้าต่อไปเพราะนั่นเป็นหัวข้อเรื่องตัวใหญ่
บนกระดาษสีขาว
แกรบ
เสียงกระดาษพลิกเบาๆ เพราะคนเก็บได้กลัวมันขาด แล้วจะขายไม่ได้ราคา
หน้าต่อไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่ง รู้สึกว่าจะเป็นเด็กนักเรียน ที่บ้านอยู่ฐานะปานกลาง เรื่องส่วนมากเป็นการพูดคุยของเธอกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เรื่องงานโรงเรียนที่จะแสดง
เพื่อนของตัวเอกเป็นคนเขียนบทละคร ที่ใช้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ...ความรัก...
(หรือที่วาโยเรียกว่าเรื่องน้ำเน่าชวนอ้วก)
“นี่...มันไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลยนี่หว่า...”เด็กสาวบอก “พอเหอะ”
“ไม่ๆ..เปิดหน้าต่อไป”สงกรานต์ปฏิเสธ แล้วเร่งเร้าให้คนข้างๆเปิดหน้าต่อไป เด็กสาวทำตามอย่างไม่พอใจนัก
ตัวเอกบันทึกบทพูดและอากัปกริยาทั้งหมดที่เพื่อนเธอเขียนเป็นบทละครให้การแสดงลงไป
ตามที่เพื่อนเธอเขียน เนื้อเรื่องคือ ความรักที่ก่อตัวระหว่างพระเอกที่เป็นตำรวจ กับนักสืบสาวที่ไปทำคดีฆาตกรรม ตอนหลังระหว่างที่นางเอกโดนจับตัวไป ถึงจุดไคลแม็ก เรื่องราวทั้งหมดกลับหยุดลง
กลางคัน...
พอพลิกหน้าต่อไป ตัวเอกบอกว่า เพื่อนที่เขียนบทละครตายแล้ว ศพหาย
ตอนจบบทที่เขียนไว้ก็หายไปทั้งหมด
...มีข้อความสั้นๆข้างท้ายไว้..
ในห้องเพื่อนฉัน.. ฉันพบกับเงื่อนไขต่อไปนี้ กรุณาพลิกหน้าต่อไป
รู้สึกว่าเพื่อนฉันจะเขียนขอความช่วยเหลือไว้ ฉันบังเอิญเจอที่ห้องของเพื่อนของฉัน
หาฉันให้เจอปัทมา.. ช่วยด้วย ที่นี่มืดเหลือเกิน ปัทช่วยด้วย...
ต่อมาเป็นหน้าว่าง...
แล้วก็มีอักษรที่สงกรานต์มั่นใจเลยว่าเขียนด้วยเลือด...
นังปัท... แก แก... ใครบอกให้เขียนบทละครของฉันต่อ ฉันบอกให้แกหาฉัน
เอาตอนจบของฉันไปต่อให้จบ ไม่ใช่แกนั่งเขียนเอง หาของๆฉันให้เจอ เอาของๆฉันคืนมา...
เอาของๆฉันคืนมา...
เอาของๆฉันคืนมา...
เอาของๆฉันคืนมา...
ใครที่อ่านเรื่องนี้ต้องเป็นแบบนังปัททั้งหมด ถ้าไม่หาตอนจบเรื่องนี้ให้เจอ!
เอามันคืนมา คืนมาให้ฉัน!
“ซวยแล้วไง...”สงกรานต์พูดอย่างตกใจ แล้วหันไปเตือนวาโย ที่ตอนนี้...
“วาโย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย”
กำลังหลับสนิทที่เตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...
“เออๆ”เสียงงึมงำของคนขี้เซาที่กำลังลุกขึ้นอย่างสลึมสลือ
“เช้าแล้วรึงาย?”
“เธออ่านเหมือนกับฉันใช่มั้ย?”สงกรานต์ถามด้วยเสียงเครียด
“หา..?”วาโยทำหน้าเอ๋อ “อ่าน...?อ่านอะไรวะ?”
วิญญาณหนุ่มหัวส้มเริ่มไม่สบอารมณ์ “อ่านไอ้กระดาษปึกนั้น...ที่เธอเอามาจากโรงอาหารไง”
ดวงตากลมโตสีดำจ้องมองวิญญาณข้างหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แล้วตอบเนือยๆ
“ก็อ่านนิดหน่อย...แต่ตอนต้นเท่านั้นแหละ”
“สรุปว่า...อ่านใช่มั้ย?”
เธอพยักหน้าหงึกๆ ขณะที่สงกรานต์เอามือกุมหัวทำกำลังคิดหาทางออกให้คนที่ทำหน้าเอ๋อๆไม่รู้อะไร
ซักเรื่องอย่างหนัก...
ไอ้หมอนั่น...มันเป็นไรไปฟะ?...ทำหน้ายังกับเจอปัญหาโลกแตก...
สมองน้อยๆประมวลผลก่อนจะรายงานผลไปว่า
“เป็นไรฟะ?...ห๊ะ..สงกรานต์....ทำอย่างกับว่า...
นายคิดปัญหาโลกแตกอย่างไข่กับไก่อะไรเกิดก่อนกันงั้นแหละ?” คำถามซื่อๆ ทำให้เขากลับมาสบตากับคนถาม
“มันยิ่งกว่าปัญหาโลกแตกอีกน่ะสิ”เขาบอก แล้วถอนหายใจ
“บางทีเธออาจต้องตายก็ได้...”
วาโยตกใจเล็กน้อย
แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
..อย่างตูเนี่ยนะจะตาย?...
“งั้นเล่าเรื่องรวมๆให้ฟังทีดิ๊”
สงกรานต์เล่าคร่าวๆแค่ว่าคนที่อ่านไอ้กระดาษปึกนั้นแล้วจะมี
‘เรื่องไม่ดี’เกิดขึ้น
ถ้าไม่อยากให้มี ‘เรื่องไม่ดี’นั้นเกิดขึ้นก็ให้ หาตอนจบของบทละครนั้นให้เจอ
ตอนเล่าจบ
คนที่ฟังอยู่ก็สะลึมสะลือเต็มทน ว่าแล้วเธอก็อ้าปากหาวและออกความคิดเห็น
“ฉันว่ามันไม่เกี่ยวกับฉันอย่างที่นายคิดนา....
ก็ฉันยังอ่านไอ้..เออ..นั่นแหละไม่จบนี่นา...
แถมฉันก็ยังไม่มีความคิดที่จะช่วยแม่โรคจิตวิปริตนั่นด้วย...”
“แล้วจะทำยังไงต่อล่ะ?”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าทางใจ กับนิสัยของเจ้าคนที่ยังไม่รู้ตัว
“เก็บไอ้กระดาษนั่นไว้ก่อน..”วาโยบอก
ขณะที่สงกรานต์จะเอ่ยค้าน เธอก็พูดต่อเลย
“หาข้อมูลเกี่ยวกับไอ้กระดาษบ้านั่นไว้ก่อนว่ามีที่มายังไงค่อย
ชั่งกิโลขาย ...ไม่ๆๆๆ...ถ้าเกิดมีคนเปิดอ่านก็จะยิ่งซวยหนักกว่าเก่า...”
สงกรานต์รู้สึกภูมิใจเล็กๆที่คนตรงหน้ารู้จักคิดเสียที ...บางทียัยนี่อาจจะหาวิธีทำลายมันก็ได้...
อย่างเช่นสะกด ผนึกอะไรประมาณเนี้ย...
แต่คำตอบที่ได้รับคือ....
“งั้นก็เวลาย่างเนื้อกิน...หรือปิ้งแย้...ค่อยเอามาทำเชื้อไฟละกัน”
อยากรู้จังทำไม...ไม่มีใครคิดยัดยัยนี่เข้าศรีธัญญา... สงกรานต์ปลงกับชีวิต ก่อนจะไล่คนขี้เซา
ไปแปรงฟันก่อนเข้านอน วาโยบ่นงึมงำตลอดทาง แต่ก็ยอมเชื่อฟังโดยดี
******************************************************
หาเวลาอัพยากมากๆ ต้องไปเรียนพิเศษ... เฮ้อ...
แต่เดี๋ยวมาอัพต่อนะ...
+++++++++++++พิเศษ พิเศษ...++++++++++++
ไม่ใช่ใครอื่นไกล... วายะ โยชิทากะ ท่าดูจากอิมเมจ น่าจะคล้ายคิมที่สุดแล้ว.. แต่นิสัยคงต้องเดากันต่อไป...
ความคิดเห็น