ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Finale ตอนจบของบทละครปริศนา

    ลำดับตอนที่ #3 : ฉากที่ 3 : บทละครในโรงอาหาร? 100~%

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 49


          ฉากที่ 3  : บทละครในโรงอาหาร?

     

                          ...สง...กรานต์  เด็กหนุ่มอ้ำอึ้งตอบไป  เป็นครั้งแรกที่บอกชื่อกับคน...

    ปรกติถ้าเจอคนเขาก็หลอกเละไปแล้ว...

    เพียงแต่...ครั้งนี้มัน..เจอสายตาไร้เดียงสาอยากรู้อยากเห็นแล้วมัน...

    หลอกไม่ลง         

                   

                                    โอเค..สงกรานต์ไปห้องฉันมั้ย?วาโยเอ่ยชวน ขณะที่ในใจเริ่มวางแผน

    ...ไปเถอะนะ...ฉัน....

    ..จะได้ใช้นายจัดห้อง....

     

                                    หา...บ้าเหรอ?มีคนที่ไหนชวนผีเข้าห้อง..เขาปฏิเสธด้วยหน้าตาเหรอหรา

     

                                    เอาน่ะ ไปเหอะ...เดี๋ยวฉันจะถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับนายนิดหน่อย

    วาโยทำหน้าไม่พอใจ ถ้าถามตรงนี้มีใครเห็นขึ้นมาก็หาว่าฉันบ้ากันพอดี

    ไม่ไป คำพูดเด็ดขาดทำให้เด็กสาวต้องไปคนเดียว แต่...

     

     

                                    หลังจากที่เดินมาได้ระยะหนึ่ง ...

     

                                    ...แล้ว.....ห้องฉันไปทางไหน?

     

                                    ..ยัยนี่เอ๋อแดกชัวร์...  ผีหัวส้มจึงต้องนำทางโดยดูที่หมายเลขกุญแจให้ไปโดยปริยาย

     

     

                                    ด้วยเหตุฉะนี้สงกรานต์จึงต้องมาช่วยวาโยจัดห้องโดยปริยาย

    แล้วก็วุ่นกันไปทั่วจนจัดห้องเสร็จ  ทั้งคู่จึงนั่งพักบนโซฟาเก่าๆในห้องผ้าที่เย็บเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ

    เย็นแล้วนี่นา...เฮ้อ...จัดห้องซะหมดไปครึ่งค่อนวันเด็กหนุ่มบนกระปอดประแปด

     

                                    อย่าบ่นแบบคนแก่นักน่า...เซ็ง..น่ารำคาญชะมัด

     

                                    สงกรานต์หันควับทันที พร้อมกับชี้นิ้วไปที่วาโย เป็นเชิงว่า

    คนที่สั่งมากกว่าทำอย่างเธอมีสิทธิ์มาว่าด้วยเรอะ?

     

                                    เด็กสาวหัวเราะแห้งๆอย่างไร้ข้อแก้ตัว เอางี้..ไปหาข้าวเย็นกินกันป่าว

     

                                    เฮ้..นี่ฉันเป็นผีนะ กายละเอียดน่ะ  กินข้าวได้ซะที่ไหน?

     

                                    ก็ฉันหิว  คำๆนี้ทำเอาสงกรานต์หลิ่วตามอง...นี่เธอ..ไม่คิดจะห่วงฉันบ้างรึไงวะ?.

    แต่ก็... ไปก็ไป..

     

                                    คำตอบทำให้เธอฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ  โรงอาหารของโรงเรียนมันอยู่ไหนเหรอ?

     

                                    เออ..เฮ้อ...นี่เข้าโรงเรียนมาเนี่ยรู้อะไรบ้าง?..ผีหัวส้มส่ายหน้าอย่างระอา

     

                                    ถามแปลกๆ..ก็รู้ว่าที่นี่คือโรงเรียนอ่ะสิ หลังจากที่ได้คำตอบ  เขาก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง 

                                    ...เหมือนได้น้องสาว...คนใหม่

     

                                    ก่อนที่จะกล่าวงั้นฉันจะพาไปโรงอาหารเอง...

     

                                  สงกรานต์พาวาโยออกจากหอพักเดินไปที่โรงอาหาร  ซึ่งเป็นอาคารแบบเรียบๆ

    มีหลังคาแบบยุโรป  ด้านในเป็นที่กว้าง มีโต๊ะเรียงรายอยู่ทั่วไป

                                   

                                    ฉันนั่งรอที่นี่นะ... เขาหย่อนตัวลงนั่งทันทีที่มาถึง 

     

                                    อือ..งั้นฉันไปก่อนนา เดี๋ยวมา..วาโยบอกแล้วเดินตรงไปที่ร้านที่เปิดร้านเดียว

    ภายในร้าน มีป้าแก่ๆยืนอยู่ เธอยิ้มให้วาโยด้วยท่าทางเป็นกันเอง จะเอาอะไรดีแม่หนู่?

     

                                    มีอะไรบ้างคะ?เด็กสาวถาม ดวงตาสีดำขลับมองที่ป้าคนนั้นอย่างเป็นมิตร

    อาหารตามสั่งจ้ะ..สั่งได้ทุกอย่าง

     

                                    เอาโก๊ยซี่หมี่จานนึงแล้วกันวาโยบอก แล้วหันไปมองที่นั่งรอบๆ

    ...โต๊ะเยอะชะมัดเลย..  มีต้นไม้ด้วยบรรยากาศดีจัง..

    เธอมองสิ่งต่างๆไปเรื่อย

     

                                    ได้แล้วจ้ะ  20 บาท จาน โก๊ยซี่หมี่ถูกนำมาวางเรียกความสนใจคนตรงหน้า

    ข้างๆจานมีกระดาษปึกหนึ่งวางอยู่ปกมันเป็นสีน้ำตาลแห้งๆ  ดูจากความเรียบของกระดาษคงพึ่งแห้งจากน้ำ  แมกที่เย็บอยู่มีสนิมสีน้ำตาลขึ้น  เหมือนว่าป้าเจ้าของร้านจะเห็นว่าเธอสนใจมัน

    อันนั้นเป็นกระดาษที่หลานป้าที่เรียนอยู่ที่นี่ฝากทิ้งน่ะจ้ะ...จะเอาไปก็ได้นะ  ป้าไม่ว่า ไหนๆก็จะทิ้งอยู่แล้ว

     

                    ...เอาดีมั้ยฟะเนี่ย?.... 

    เอาไปก็รกห้อง...  แต่ว่า...

     

      เอาดีกว่าไงๆก็เอาไปชั่งกิโลขายแก้ขัดเวลาถังแตกได้..มีประโยชน์

                                   

    ...แต่สังหรณ์ไม่ค่อยดีเลยแฮะ...รู้สึกแปลกๆ

     

                    สมองน้อยๆประมวลผล เธอจ่ายเงินแล้วถือจานโกยซี่หมี่ไปพร้อมกับตัดสินใจหยิบกระดาษปึกนั้นมา  โดยไม่ได้คิดอะไรอีก

     

                    มาแล้ว...คำแจ้งเมื่อมาถึงดึงดูดดวงตาสีแดง ให้ไปมอง  แต่ก็พบกับบางอย่างที่ดึงดูดใจ

    ที่ทำให้ดวงตาคู่นั้นต้องหรี่ลงอย่างสงสัย  ..กระดาษอะไรน่ะ...ปึกใหญ่ฉิบ..

     

                    ก่อนที่จะได้ถามก็มีเสียงขัดซะก่อน  ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย?

    ผีผมส้มจึงได้แต่เก็บความสงสัยเคลือบแคลงไว้ในใจ

     

                    ผู้เอ่ยเป็นเด็กหนุ่มที่ถือจานอาหารเดินมาหยุดที่โต๊ะของวาโย  ดวงตาสีดำภายใต้

    กรอบแว่นสีเงินซ่อนอะไรบางอย่างไว้  ผมสีดำแซมเงินที่เห็นได้เลยว่าย้อม ซอยสั้นๆ

    ชุดที่เขาสวมสีดำสนิท 

     

                    ดวงตาสีดำขลับของวาโยละจากอาหารมองขึ้นมาเล็กน้อย  อยากนั่งก็นั่งไม่ได้ว่า

    เธอหันกลับไปกินอาหาร โดยไม่สนใจเด็กหนุ่มผมดำที่ใครๆเห็นก็ว่าหล่อ

     

                    ด้วยความคิดที่ว่า.. 

     

                    สีผมหมอนี่...เข้ากับหน้าดีแต่ว่า..


    ...เหมือนน้ำยาขัดรองเท้าไปหน่อย

                    หลังจากการเขมือบอาหารตรงหน้าอย่างไม่อายใครแล้ว  ดวงหน้าเล็กก็เงยขึ้นมาหาที่ยึดสายตาที่ใหม่ นาย..ชื่ออะไรเหรอ? เธอเอ่ยเนือยๆถามคนที่มาใหม่

     

                    เขารวบช้อนกับส้อม แล้วเอาผ้าขึ้นมาเช็ดปากแบบผู้ดีจัด แล้วจึงพูด

    มายา..

     

                    อะไรนะ..วาโยทำหน้าเฉยเมยแล้วเอียงคอ 

                   

                    ..อะไรฟะ?..ได้ยินไม่ชัด..อะไรยาๆ  ..น้ำยา..ทายา  ทาบา..   บาทา !ใช่แหละ..ชื่อนี้ชัวร์ป้าบ!!

     

                    ฉันชื่อมายา..เขาย้ำอีกครั้ง

                   

                    อื้อ..ฉันได้ยิน(ผิด)แล้วล่ะเด็กสาวบอกพร้อมเห็นด้วยกับความคิดตัวเอง

    เอ่อ..ฉันชื่อวาโยนะ..อือ..อืม ยินดีที่ได้รู้จักบาทา

     

                    ...บาทา?...เอ่อ..คือ..ฉันชื่อมายานะ...เด็กหนุ่มแย้ง

     

                    อือ..ทายา..

     

                    มายาครับ

     

                    ปากกา?

     

                    ผมบอกว่าชื่อมายา.. เด็กหนุ่มผมแซมเงินเริ่มประสาทกินเล็กน้อยไปถึงปานกลาง

    และอีกหน่อยจะกระจายเป็นหย่อมๆ ขณะที่สมองซีกซ้ายทอดสมอ สมองซีกขวาควรงดออกจากฝั่ง

    (นอกเรื่องละ)

    เรียกผมว่ามายด์ละกัน เป็นชื่อที่เพื่อนสนิทผมเรียกกันน่ะ เขาถอนหายใจ ถ้าไม่ให้ยัยนี่เรียก

    เดี๋ยวชื่อเขาคงได้กลายเป็นบาทารองTeen ไปแน่ๆเลยให้ตายสิ

     

     

    มายด์?..

     

                    เอ้อ..ใช่นั่นแหละ ..ในที่สุดก็เรียกถูกซะที

     

                    ฉันชื่อวาโยเน้อ..  เด็กสาวบอกแล้วยิ้มจนตาหยี  ยินดีที่ได้รู้จักนะ..

     

                    อือมายด์ตอบสั้นๆ แล้วขยับแว่น

     

                    แล้วจู่ๆดวงตาภายใต้แว่นนั้นก็หันมาสบตากับสงกรานต์ที่นั่งเท้าคางอยู่

    นี่..วาโย..ไม่คิดจะแนะนำเพื่อนเธอให้ฉันรู้จักบ้างเรอะ?

     

                    วาโยทำหน้าเอ๋อ ไปซักพัก... หมายถึง...

     

                    ก็เจ้าหัวส้มที่นั่งอยู่นั่นไง

                     

                    อ้าว..มองเห็นด้วยเรอะ?สงกรานต์เลิกเอามือเท้าคางแล้วนั่งกอดอกแทน

    ฉันชื่อสงกรานต์ หนุ่มหัวส้มบอก แล้วหันไปมองวาโยอย่างหน่ายๆ

     

    ...เฮ้อ..แล้วก็อย่าไปถามอะไรยัยนั่นมากนักเลย...ยัยนั่นไม่รู้อะไรหรอก

     

                    พอวาโยได้ยินดังนั้นก็แย้งทันที เฮ้...ก็ฉันไม่คิดว่าหมอนั่นจะเห็นนายนี่นา......

     

                    คนที่มีสัมผัสพิเศษอย่างผมน่ะ  เห็นจนชินแล้วล่ะ มายด์ตอบ

     

                    ...อ้าว... เห็นแล้วแกจะถามฉันทำเจี๊ยกอะไรฟะ?...อยากรู้ชื่อสงกรานต์ก็ถามมันเดะ..

    เด็กสาวชักไม่สบอารมณ์

     

                    เอ้อ..วาโยกระดาษปึกนั้นน่ะ..อะไรเหรอ?เด็กหนุ่มหัวส้มถาม มือก็ชี้ไปทางกระดาษที่วางอยู่ข้างๆวาโย  ที่มีตัวหนังสือเขียนหวัดที่มุมด้านซ้ายว่าบทละครตัวเล็กๆ

     

                    อ๋อ.....ไม่มีอะไรร๊อก...วาโยขึ้นเสียงสูงแล้วตบปึกไปที่กระดาษ ก็แค่แม่ค้าจะทิ้ง...แล้วยาย(เรียกป้าก็พอย่ะ : ป้าคนขาย) เค้าก็ยกให้มา... ฉันแค่เห็นมันดีก็เลย......เด็กสาวพูดไม่ทันจบประโยค..

     

                    ฉันว่าไม่ควรเก็บมานา...สังหรณ์ไม่ดีเลยสงกรานต์ขัดขึ้น

     

                    ฉันเห็นด้วย....เห็นมีรัศมีชั่วร้ายจับทีเดียวแหละเด็กหนุ่มผมแซมเงินออกความเห็น

     

                    ฉัน... พอวาโยจะพูดต่อก็โดนทั้งสองพูดทับ

     

                    วาโย..ฉันว่าเธอ.../วาโยคุณไม่ควร...

     

                    ฉันจะเอาไปชั่งกิโลขายเฟ้ย เธอพูดท่ามกลางเสียงโล่งอกถอนหายใจ

     

                    ป๊าดดดดธ่อ...นึกว่าจะเอาไปอ่านแล้ว   เธอก็เกิดตายขึ้นมาเหมือนนิยายน้ำเน่าไรประมาณเนี้ย

    สงกรานต์บ่น

     

                    เอ้อ..จริงด้วยก่อนขายก็ต้องเปิดดูก่อน...วาโยฉีกยิ้ม

     

                    แว๊กกกกกกกกกกก..อย่าาาาาาาาาาาา เด็กหนุ่มผู้มิสติทั้งสองเริ่มโวยทันที

     

                    นี่ถ้าห่วงนักก็ดูพร้อมกันเลยดิ เด็กสาวบอกดวงตาเป็นประกายวิบวับ...ยังไงฉันก็ไม่ไปซวยคนเดียวหรอกเฟ้ย...ยังไงก็ต้องมีคนร่วมหัวจมท้ายด้วย...

     

                    งั้นก็ไปเปิดดูพร้อมกันที่ห้องเธอสิมายด์ออกความเห็น

     

                    วาโยหันควับปอดอ่ะเดะ

     

                    นี่เธ๊อออออออ

                    วาโย...ยังไงก็ตาม..ฉันว่าเราไปเปิดที่ห้องดีกว่า..ที่นั่นเป็นส่วนตัวถ้าเจอเรื่องร้ายๆยังไง

    สงกรานต์เว้นวรรคเล็กน้อย ...ก็ยังพอป้องกันไม่ให้คนอื่นซวยไปด้วยได้

     

                    ชิชะ...เซ็งพวกมีน้ำใจจังวาโยยักไหล่ ทั้งที่ในใจเธอก็เห็นด้วยกับสงกรานต์เช่นเดียวกัน

    งั้นก็ไปกันดิ...เส้นความอยากรู้อยากเห็นฉันมันเต้นตุ้บๆไปหมดแล้ว

     

                    แต่ผมขอตัวล่ะ...มายด์เอ่ยท่ามกลางความตกใจของทุกคน  แล้วเดินแยกออกไป

      ยังไงผมก็ไม่คิดไปกับพวกคุณ

                   

                    วาโยยักไหล่ ช่างเค้า...เราไปกันเหอะ

     

                    ...........................................................................................................................

                     เอ้า..จบตอนแล้วหวังว่าจะถูกใจกันนะ อืม...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×