คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Only devil "O" : obscure
Only devil
“obscure”
ท้องฟ้าในยามราตรีนั้นถูกฉาบแต่งแต้มด้วยสีดำ…
เมื่อมองผ่านดวงตาของคุณแล้วเป็นสีเช่นใด
สำหรับผมแล้วมันก็ยังคงเป็น “สีดำ”
ใบหน้าหวานแหงนมองท้องฟ้าที่ในยามนี้เป็นสีดำ หากแต่มีแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมากระทบกับเรือนร่างขาวนวลขลับให้เจ้าของร่างบอบบางนั้นยิ่งดูน่ามองมากขึ้น จนเกือบทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องลืมเหตุการณ์อันตรายที่ตนกำลังเผชิญ แต่ก็ต้องคืนสติเมื่อดวงตาคู่สวยปรายสายตาลงมามองอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง
“ช่างโง่เขลาจริงๆ ทั้งที่ผมเตือนแล้วแท้ๆว่าผม…” ไม่ใช่มนุษย์… เสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ ริมฝีปากบางนั้นแสยะยิ้มพลางพูดกับอีกฝ่าย
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจ้องมองไปยังร่างของชายหนุ่มที่นอนสั่นระรึกอยู่บนพื้น ตะเกียดตะกาย คลานหนีออกห่างจากตน มือทั้งสองข้างพยายามจะหยัดกายขึ้นมา หากแต่ การกระทำเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ไร้ประโยชน์
เมื่อร่างกายนั้นคล้ายกับถูกโซ่ตรวนที่ไม่อาจมองเห็นตรึงไว้ ราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดของชายผู้นั้นได้หายไปสิ้น ช่างอ่อนแอนัก สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์คือเหยื่อของเขาเท่านั้น
“วางใจเถอะผมไม่ฆ่าคุณหรอก เพียงแต่…ขอรับเศษเสี้ยววิญญาณของคุณไปแล้วกัน…”เมื่อสิ้นเสียงนั้น ดวงตาสีน้ำตาลพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง
เพียงแค่จ้องมองด้วยตานั้น แสงสีขาวขุ่นก็หลุดลอยออกมาจากร่างของชายหนุ่ม แสงนั้นแลดูคล้ายเกล็ดหิมะ เกล็ดหิมะที่เปล่งแสง เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณคืออาหารของปีศาจ…
หากเป็นปีศาจตนอื่นคนไม่รับไปแค่เศษเสี้ยว แต่คงกลืนกินทั้งหมด นับว่าเขาใจดีมากทีเดียวเมื่อเทียบกับปีศาจตนอื่น มือบางประทาบทับลงบนศีรษะของบุรุษตรงหน้า หลับตาพร้อมท่องคาถาบางอย่างออกมา
เขาไม่อยากทำให้ผู้คนที่ตกเป็น “เหยื่อ” ของเขาต้องหวาดกลัว ทุกๆครั้งที่เขากลืนกินวิญญาณของผู้อื่น ก็จะลบความทรงจำของคนผู้นั้นออกไปด้วย พร้อมทั้ง…
“เพื่อเป็นเกียรติแก่วิญญาณที่ได้รับมา จะขอเอ่ยนามของเราให้เจ้าได้รับรู้”
“นามของเราคือ สึนะโยชิ” นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ชายหนุ่มได้ยิน ดวงตาทั้งสองของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าของเจ้าของชื่อนั้น ใบหน้าหวานนั้นปรากฏรอยยิ้มอันอ่อนโยน อ่อนโยนเสียจนเขาจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผ่อนคลายจนยิ้มตาม ก่อนสติของเขาจะดับวูบลงไปพร้อมกับความทรงจำที่หายไป…
ผมเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “สิ่งตอบแทน”
สำหรับปีศาจแล้วไม่มีสิ่งใดได้รับมาโดยไม่สูญเสียสิ่งใดไป
.
.
.
ฝ่ามือบอบบางผายออก เบรับเกล็ดน้ำแข็งจากท้องฟ้าพลางถอนหายใจออกมาก จนเห็นเป็นไอ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
เรือนร่างบอบบางนี้ดึงดูดสายตาจากผู้คนที่เดินสัญจรผ่านไปมา ในขณะดวงตากลมโตคู่สวยเหม่อมองทอดไปข้างหน้าอย่างไรจุดหมายช่างลับใบหน้าหวานสะสวยที่ขึ้นสีแดงระเรื้อจากอาการหนาว ผมสีน้ำตาลที่ฟูฟ่องที่ปล่อยยาวลงมาเป็นรากไทรแลดูน่าสัมผัสปลายผมเกลี่ยลงมาตามแผ่ลงมาตามคอและแผ่นหลัง หากเจ้าตัวไม่หายใจต้องคนอื่นคิดว่าเป็นตุ๊กตาแน่
“นี่เธอน่ะอยู่คนเดียวเหรอ”ในขณะที่ร่างบางกำลังนั่งเหม่อ เสียงกล่าวทักนี้ก็ดังขึ้นทำให้เขาต้องหลุดจากภวังค์
“ครับ ผมอยู่คนเดียวมานานแล้ว” มาอีกแล้วเหยื่อที่โง่เขลาของเขา สึนะโยชิเอ่ยรับด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นาน แต่สำหรับร่างบางนั้นคงเป็นช่วงเวลาที่นานเกินจะทน ช่วงเวลาที่อย่างเดียวดาย
“เอ๋…งั้นมากับชั้นมั้ยล่ะ”เด็กหนุ่มคนนั้นแสดงทีท่าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำเรียกแทนตัว แต่ฝ่ายนั้นก็ยังคงเอ่ยเชิญชวนอย่างกระตือรือร้น ความจริงแล้วเขาไม่เคยเชิญชวนใครก่อน จะเลือกเฉพาะเหยื่อที่เข้ามาหาเขาเองเท่านั้น
“ฮ่ะๆ แต่ว่าผมเป็นปีศาจนะครับ”กล่าวความจริงออกไปตามตรงด้วยเสียงหัวเราะ นี่คือคำเตือนจากเขา
“ฮ่าๆๆ เข้าใจเล่นมุกนะ”ชายหนุ่มตอบกลับอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะผายมืออกไปเชิญอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบสนองจึงคว้ามือของร่างเล็กออกแรงดึงให้ไปด้วยให้ไปด้วยกัน
คิดว่าเขาล้อเล่นเหรอ…
.
.
.
สึนะโยชิมองร่างของชายหนุ่มที่สลบไป ก่อนจะค่อยๆลากร่างนั้นมาว่าพิงไว้ตรงกำแพงในพื้นที่ที่ไร้ผู้คน ร่างทั้งร่างรู้สึกอ่อนล้า เพียงแค่เศษเสี้ยววิญญาณอันน้อยนิดไม่อาจเยียวอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ได้
บ่อยครั้งที่ปีศาจมักสู้กันเองเพื่อแย่งเหยื่อชั้นเลิศ แต่เขาไม่เคยคิดแย่งของพันนั้นกับใคร การที่เขากินแค่เศษเสี้ยววิญญาณทำให้อ่อนแอกว่าปีศาจตนอื่นมาก ด้วยเหตุที่เขาอ่อนแอนี้คงเป็นเหตุให้ปีศาจตนอื่นคิดจะกำลังจัดเขา เพื่อลดจำนวนผู้ล่าที่เป็นคู่แข่ง
แม้ไม่อยากก็คงต้องฝืนทำ คงต้องกลืนกินวิญญาณมนุษย์สักคนก่อนที่เขาจะบ้าคลั่ง จนไม่อาจควบคุมตนเองได้ อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับปีศาจที่อ่อนแอเกินไป ซึ่งสึนะโยะชิคิดว่าการคลุ้มนี้เลวร้ายยิ่งกว่าความเป็นอมตะหลังจากที่ตนกลายเป็นปีศาจเสียอีก จึงไม่อยากให้เกินเหตุการแบบนี้ขึ้น
ขอแค่เพียงวิญญาณมนุษย์ที่ใกล้ตายเท่านั้น นอกจากนั้นเขาจะไม่แตะเลย…
สึนะโยชิเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ในถิ่นที่ได้เขาเรียกว่าสถานที่โสมม ถิ่นของมาเฟีย… หากเป็นสถานที่แห่งนี้ก็รับประกันได้เลยว่าต้องมีเหยื่อที่เขาต้องการแน่นอน ก็ที่นี่น่ะมันมีการฆ่ากันนองเลือดเกิดขึ้นทุกวันยังไงล่ะ
ค่อยๆก้าวไปทีละก้าวอย่างไม่รีบร้อน ค่อยๆรับรู้ถึงกลิ่นและลางแห่งความตาย… ปีศาจนั้นไม่จำเป็นต้องเห็นบาดแผล หรือ รับรู้ถึงโรคภัยไข้เจ็บของ เหยื่อ เพราะปีศาจสามารถรับรู้ลางแห่งความตายได้
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนนั้นมองไปยังซอกหลืบของตึกเล็กๆ ได้ยินเสียงหายใจหอบอย่างแผ่วเบามาจากที่นั่น กลิ่นของลางนั้นยิ่งชัดเด่นขึ้น นัยน์ตาคู่สวยพิจารณาวิญญาณดวงนี้ช้าๆ ไม่บริสุทธิ์และสกปรกจนเกินไปนับว่าเป็นเหยื่อที่ใช่ได้ที่เดียวหากเข้ามาหาในถิ่นที่แสนโสมมแห่งนี้
อีกฝ่ายนั้นเหมือนจะเริ่มรู้ตัวว่าถูกเขามองอยู่จึงหันกระบอกปืนมาทางเขา ร่างบางสังเกตเห็นรอยเลือดไหลออกมาเล็กน้อยที่ข้อเท้าของอีกฝ่าย ดูเหมือนจะหนีอะไรมา แม้ยังไม่ได้รับบาดแผลใดๆที่ส่งผลต่อชีวิตแต่เขารู้ได้ว่าคนคนนี้กำลังจะตาย ได้มาเจอเขาก่อนนั้นนับว่าโชคดีมาก เพราะการฆ่าของเขานั้นไม่เจ็บปวด...ไร้ซึ่งบาดแผล…แต่ก็ไม่อาจดิ้นรนหรือหลุดพ้นไปได้
------------------------------------------
“คุณเคียวครับ สายของเรา ที่ส่งไปสอดเนมถูกจับได้และโดนเก็บไปแล้วครับ”ชายหนุ่มไว้ผมทรงรีเจนท์รายงานข่าวต่อเจ้านายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หึ โง่จริงๆ”มุมปากเรียวแสยะยิ้มสบถคำด่าออกมาเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาสีรัตติกาลไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆออกมาราวกับไม่ใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้น
“แต่มันมีบางอย่างที่ประหลาดมากครับคุณเคียว”ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อย ก่อนจะนำรูปของศพและสถานที่เกิดเหตุไปให้เจ้านายของตนดู
“ทางเราเจอร่างของศพนั้นโดยไม่พบบาดแผลที่อื่นเลยนอกจากข้อเท้าครับ แทบจะไม่ร่องรอยการต่อสู้เลยด้วย แถมที่ที่พบศพก็อยู่ห่างจากถิ่นของฝ่ายนั้นมากทีเดียวครับ”
ฮิบาริ เคียวยะ จ้องมองรูปนั้นพร้อมกับฟังคำบรรยายของลูกน้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จะว่าก็แปลกจริงๆ ร่างของศพแทบจะไม่บาดแผลเลย สาเหตุการเสียชีวิตนั้นดูเหมือนอยู่ดีๆก็หยุดหายใจไปเฉยๆ ลูกน้องของเขาคนนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ และไม่มีโรคประจำตัวด้วย
เขาคิดพลางจ้องมองรูปนั้นอีกครั้ง แต่แล้วอยู่ๆดีร่างสูงก็ยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดว่า
“ฉันจะไปข้างนอก”
“ครับ คุณเคียว”
ร่างกายกำยำของชายหนุ่มออกเดินทอดไปเรื่อยตามเส้นทางอย่างไม่รีบร้อน ภายในสมองกำลังคิดประมวลสิ่งต่างๆมากมาย เขาเชื่อว่าลูกน้องของเขาไม่หนีออกมามีเปล่าแน่ๆ และเขายิ่งมั่นใจเมื่อเห็นรอยเลือดที่ถูกเขียนไว้บนพื้น
“ดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริงั้นเหรอ”เขาพูดออกมาลอยๆ พลางคิดว่านี่คือสารก่อนตายของลูกน้องของเขางั้นหรือ
เขานึกสงสัยเล็กน้อยว่าเหตุใดจึงเป็นที่โรงเรียนแถมยังเป็นโรงเรียนที่ในอดีตเขาเคยเรียนอยู่ แม้ลูกน้องส่วนใหญ่ของเขาจะรู้ก็ตาม แต่ยังไงก็แลดูน่าสงสัยจนชวนคิดว่าเป็นกับดักหรือเปล่า
“ไปถึงก็คงจะรู้” เสียงทุ้มพูดขึ้นพลางบิดลูกบิดของประตูดาดฟ้า
แอ๊ด…
ดวงตาสีรัตติกาลมองใบยังร่างของใครบางคนที่ยืนเกาะลูกกรงของดาดฟ้า ผมสีน้ำตาลฟูฟ่องยาวปลิ้วไสวไปตามแรงลม ในมือของร่างนั้นถือเอกสารบางอย่างอยู่
เมื่อสึนะโยะชิได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ก็รีบหมุนตัวมาหาอีกฝ่าย มือบางข้างหนึ่งพลางปาดน้ำตาที่ไหลของมาโดยไม่รู้ตัวอย่างดาษๆ
ดวงตาคู่สวยมองใบยังร่างของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้ พิจารณารูปลักษณ์ ใบหน้าคมคายหล่อเหลารับกับผมสีรัตติกาลที่ยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูภูมิฐานมากขึ้น ก่อนจับจ้องไปยังดวงตาสีนิลที่ขมวดคิ้วจ้องมองมาที่เขา
“มาเร็วดีนี่ครับ กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะยอมมารึเปล่า ถ้าไม่มาผมคงลำบาก”
“อืม… หน้าตาเหมือนเป๊ะ อย่างที่ความทรงจำของคุณไซโตะบอก คงไม่ผิดคนสินะครับ คุณฮิบาริ เคียวยะ”เสียงหวานกล่าวด้วยรอยยิ้มพลางเดินเข้าไปหาร่างสูง
ฮิบาริ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย คิ้วที่ขมวดก่อนหน้านี้ยิ่งชิดติดกันจนคิ้วผูกโบว์ รู้จักลูกน้องที่เพิ่งตายไปของเขา รู้จักชื่อของเขา แถมยังบอกว่าความทรงจำอีกอะไรนั้นอีก มันยังไงกันแน่
“เขาวานผมเอามาให้คุณ”ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่ร่างเล็กนั้นก็ยืนเอกสารที่ถืออยู่ในมือมากให้
เขารับมาก่อนจะรีบตรวจสอบ นี่มัน…เอกสารข้อมูลที่เขาให้ลูกน้องไปเอามาจากอีกฝ่ายนี่
“หน้าที่ของผมหมดแล้วงั้นลาล่ะครับ”สึนะโยชิเอ่ย แล้วเดินผ่านร่างของฮิบาริไปทางประตู
แต่แล้วก็ข้อมือบางนั้นก็ถูกอีกฝ่ายคว้าไว้ ร่างบางหันกลับไปมองร่างสูงอีกครั้ง เชิงถาม
“เธอ…มากับฉัน”เจ้าของดวงตาสีนิลกาฬกล่าวอย่างจริงจัง พลางมองไปที่ร่างเล็กไม่วางตา
“เอ๋…แต่ว่าผมเป็นปีศาจนะครับ…”ยังคงกล่าวเตือนด้วยท่าทีทีเล่นทีจริง บวกกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่บริสุทธิ์ประหนึ่งเทวดา
แล้วใครจะเชื่อกันล่ะ?
กร๊ากกกกกกกก เปิดฟิคใหม่อีกแล้ว…ที่จริงเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่เขียนไว้ตั้งแต่ฮาโลวีนปีที่แล้วค่ะ แต่พอคิดไปคิดมา เฮ้ย! มันไม่สั้นว่ะ //ตบเข่า เลยกลายมาเป็นเรื่องยาวประการฉะนี้แล เรื่องนี้น่าจะอัพช้า (มันยังจะช้าได้อีก)
อะแฮ่มๆ เนื่องจากตอนนั้นชีวิตดราม่าก็เลยอยากลองเปลี่ยนมาเป็นแนวดาร์กนิดๆดราม่าหน่อยๆดูบ้าง อะไรบ้าง (มันจะไปได้สักกี่น้ำว่ะ) เอาเถอะ(?) ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ บ๊ายบาย
ความคิดเห็น