วิธีลดความอ้วน

ลำดับตอนที่ #1 : สูตรอาหาร

…+***+…สูตรลดความอ้วน v(^o^)v
สูตรนี้เราเคยลองทำมาแล้วนะ ลดไปได้ 5 กก.ไม่เป็นอันตรายกับกระเพาะ ไม่มีผลต่อระดับฮอร์โมนด้วย
(ถ้าออกกำลังกายไปด้วยอาจลดได้มากกว่านี้) ทำ 2 อาทิตย์นะ สามารถปรับสูตรได้ แต่ต้องคำนวณปริมาณแป้งกับไขมันให้ดีล่ะ สูตรนี้ได้มาจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 31/05/46 ทำแล้วเป็นไงก็บอกกันบ้างนะ
…..ระหว่างทำสูตรนี้ห้ามกินของหมักดองและน้ำอัดลมนะจ๊ะ…..
วันที่ 1
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง
มื้อเย็น : อกไก่ย่างหรือปลาย่าง
วันที่ 2
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 3 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไก่ย่าง
มื้อเย็น : หมูย่าง
วันที่ 3
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับสลัดน้ำใส
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง
มื้อเย็น : หมูย่าง
วันที่ 4
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับสลัดน้ำใส1/2
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูก
มื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
วันที่ 5
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาลกล้วยน้ำว้า 1 ลูก มะละกอ+สับปะรด
มื้อกลางวัน : มะละกอ+สับปะรด
มื้อเย็น : ไก่ย่าง+ส้มตำ
วันที่ 6
มื้อเช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 3 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไก่ย่าง
มื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับมะละกอ 1 ชิ้น
วันที่ 7
มื้อเช้า : ชามะนาว
มื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการ
มื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ
ขอบคุณที่มา http://board.narak.com/fashion_and_beauty/topic.php?No=69338





เอาอีกวิธี หนึ่งนะ

Before 88  กิโล

After 68 กิโล

ก่อนอื่นนะครับ ผมขอขอบคุณแฟนผมก่อนที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม ลดความอ้วนได้

บทนำ
ผมเป็น ผู้ชายอ้วนๆ ธรรดาคนหนึ่งแบบ เด็กๆ ผอมมากๆๆ แม่เลยจับกินยาบำรุงของจีน จนทำให้ผม อ้วนเอา อ้วนเอา พี่น้องคนอื่นผอมหมด ผมคนเดียวที่อ้วน เริ่มอ้วนตั้งแต่ ป.4 กลายเป็นเด็กมีปมด้อยเลย เพราะเล่นกีฬาอะไรก็จะเหนื่อยมาก เล่นกับเพื่อนๆ ไม่ค่อยไหว วันๆ ได้แต่ เล่นเกมกับอ่านการ์ตูน

ชีวิตวัยเด็กของผมจึงเหมือนเด็กอ้วนทั่วๆไป วันๆ เล่นเกม อ่านการ์ตูน กินๆ นอนๆ พอเข้า ม.ปลาย ก็อ้วนหนักเอา น้ำหนักไป 85 กว่าๆ แต่โชคดีนะ ผมสูง 174 เลยดูไม่น่าเกลียดมากนัก แต่ก็ เรียกว่า อ้วนเลยดีกว่า เรามันอ้วน ๆๆ ไม่ค่อยมีตวามมั่นใจในตัวเอง คนอ้วนส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ ผมก็คนหนึ่งแหละ ที่เป็นแบบนี้ คิดแต่ว่าเราคงผอมไม่ได้แน่ๆ เคยลดความอ้วนอยู่ 3 วันก็ไปไม่รอด เพราะ สู้ใจตัวเองไม่ไหว ผมว่าหลายๆคนก็เป็นแบบนี้นะ ลดไปหลายวันแล้วทำไม ไม่ลดนะ เหนื่อยจริงๆๆ ลอง ดูเรื่องของผมก่อน อาจจะมีกำลังใจก็ได้นะครับ

ชีวิต ม. ปลาย ผม ก็เด็กติดเกม อีกนั้นแหละ ช่วงนั้นได้คอมมาใหม่ ติดเกม Ragnarok มากๆ แบบวันๆ อยู่แต่หน้าคอม
กินอาหารไม่ค่อยเป็นเวลา กินจุกจิ๊กอีก....... มันเลยอ้วนมากกว่าเก่า
จาก 85 ไปเป็น 88-89 เลย โห อ้วนฉิบหายยยย.........

พอเข้า มหาลัย ก็แบกเอารูปร่างที่อ้วนๆ มาเรียน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ คนหุ่นดีๆ ในหัวก็อยากจะ หุ่นดีมัง แต่ทำไม่ได้ ลดความอ้วนมันลำบาก มีวิธีไหน ที่สบายๆ กินเยอะๆ แล้วลดได้มังนะ
หุหุหุ ผมรู้นะว่า หลายคนก็คิดแบบผม ไม่ออกกำลังกายแต่อยากลด
ไม่ควบคุมอาหารแต่อยากผอม จนผมเห็น พวกอาหารเสริม ก็อยากจะซื้อกินแต่มันไม่มีเงินนะ เพราะแพงมากๆ หรือไปกินยาลดความอ้วน ก็กลัวจะเป็นบ้า เอา งั้นก็อ้วนไปต่อดีกว่า........ จนมาวันหนึ่ง ผมโดนแฟนเก่าทิ้งไปหาผู้ชายคนอื่น....... โหเรียกว่าอกหักก็ได้นะ........ แฟนใหม่เขาผอมกว่าเราเยอะ แบบ สูง167 หนัก 55 เอง เรารู้เลยแค้นสุดๆๆๆๆ ค่อยดูเถอะ...... ฉันต้องผอมให้หุ่นดีให้ได้......

บทที่ 1
การเริ่มลดน้ำหนักของผม ก็วันที่ 2เมษายน 2548 วันอกหักพอดี
2 วันแรก ลดน้ำหนักไปเอง แบบไม่ตั้งใจเพราะกินอะไรไม่ลง จน วันที่ 4 เมษายน ผมก็ได้เจอ คนที่ค่อยเป็นกำลังใจให้ผม (ชื่อขวัญนะครับ) เจอในบอร์ดนี้แหละ ครับ ผมมาโพสไว้ว่า คนอกหัก
พอดีผู้หญิงคนนี้ มาเจอข้อวามผมพอดี เลยสนใจ เล่น msn คุยกัน
แรกๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจลดอะไรมากนักหรอก ก็แค่กินน้อยลง นิดเดียว
มันก็ไม่ลดนะ เราก็ ท้อๆ แต่ แฟนผม เขาก็อ้วนนะ แบบแข่งกันลดอะ

ช่วงนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอมพอดี ...... เลยพูดว่า เปิดเทอมมาเจอกัน
แข่งกันลดน้ำหนักนะ........ ผมมีคาถาลดน้ำหนักจะบอกนะ ถ้าจะลดน้ำหนัก มันอยู่ที่ใจจริงๆ ผมตอนนั้นหนัก 88 อยากจะเจอเธอมากแต่ กลัวว่า หุ่นเราที่อ้วนๆ ไปเจอเธอแล้วเธอจะไม่ชอบ
เลยต้องลดน้ำหนักแบบเอาจริงเอาจังซะที พอดีกับที่แข่งกับเธอเลยมีกำลังใจ ช่วงแรกๆ ผมใช้วิธีการออกกำลังกายก่อน โดยการวิ่งครับ ประมาณ 1 กม. โดย ค่อยเริ่มนะ ผมวิ่งจากบ้านผมไปหน้าหมู่บ้าน วันแรก ไปกลับ 3 รอบ ก็จะตายแล้ว พอดี ผมเป็นหอบด้วย วิ่งมากไม่ได้....... แต่การกินยังปกติอยู่นะ กินกระจาย วิ่งเสร็จ หิวๆ มากินต่อ แล้วแบบนี้จะลดได้ไหมนี้ ก็คิดๆ ดู สงสัยจะไปไม่รอด เลยเอาวิธีควบคุมอาหารมาใช้ ครับ โดย เริ่มจากการไม่กิน ขนม ของหวานทุกชนิด ของมัน ของทอด ไม่กิน
แล้วก็ไม่กิน ข้าวเย็น แต่ก่อนผม ตื่น 11 โมงทุกวัน อาหารเมื้อแรกก็เที่ยงเลย เรียนเสร็จ 4 โมงเย็นก็กินข้าวกับเพื่อนๆ ที่มหาลัย กลับบ้าน ก็กินอีก .......  หลัง 4 ทุ่มก็ กินรอบดึกเวลาเล่นเกม มันต้องมี ขนมกันหน่อย ที่เล่ามา มันคือ อดีต นะครับ

บทที่ 2
จากความตั้งใจจริง และ กำลังใจ ที่มาก จากแฟนผม
ผมเลย อ่าน สูตร ลดความอ้วน จากในเว็บนี้ แล้วเอามา ปรับเปลี่ยน เป็นสูตรของผมเอง

เรามาดูวิธีควบคุมอาหารของผมนะ
1. ใน 1 วัน กินอาหารแค่ 2 เมื้อเท่านั้น ห้ามกินเมื่อเย็น ข้าวเช้ากินไปเต็มที่ ไม่อ้วนหรอก ส่วน เมื้อที่ 2 กินน้อยๆ หน่อย
2. ไม่กินอาหารพวกแป้ง ผม กินข้าว วันละ 1 ทัพพี เอง แบ่งเป็น 2 มื้อ เช้า ครึ่ง เย็น ครึ่ง ไม่ใช้ ข้าวน้อยแต่กับข้าวเยอะนะ เอาให้มันพอดีกับ ข้าว 1จาน
3. งด ของหวานทุกชนิด ไม่กินของจุบจิกเลย ในเวลา 3 เดือนผมไม่ได้กิน ขนมเลยนะ ทรมานสุดๆ
4. งด ของทอด ของมันๆ อย่ากินนะ จะอ้วนตายเอา
5. ให้ หันมากินพวกโปรตีนแทน แป้ง ถ้าแต่ก่อนกินข้าวเยอะก็กินเนื้อแทนนะ ไม่อ้วนหรอก แต่อย่าติดมันละ เพราะ แป้งมันย่อยง่ายแล้วถ้าเยอะมันจะเปลี่ยนรูปเป็นไขมัน แต่ โปรตีนมัน จะย่อย มันต้องใช้พลังงาน ATP ในการย่อย แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นหลังงาน ถ้าเหลือ ก็จะขับออกมาทางปัสสาวะ นะ (เหม็นมากๆ)
6. ถ้าหิว หรือทนไม่ไหวแล้ว ตะบะจะแตก ขอแนะนำ อาหารที่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน มันคือ ผลไม้ ครับ ผมกินอยู่แค่ไม่กี่อย่างนะ ที่แนะนำ แคนตาลูป ฝรั่ง ชมพู่ ผลไม้พวกนี้มีขายทั่วๆ ไป ถุงละ 10 บาท ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้เลยเป็นอาหารกันหิว ที่แนะนำ แคนตาลูป กับ ฝรั่ง ผมกิน 2 อันนี้สลับกัน
7. น้ำเปล่า คือ สิ่งที่ดื่ม ที่ดี ที่สุดสำหรับ คุณ เพราะ มันไม่มีพลังงาน แถมกินเยอะๆ ช่วยขับไขมันอีกนะ หน้าตาดูสดใส
8. ถ้าอยากกิน น้ำหวานๆ หน่อย สำหรับคนขาด ของหวานไม่ได้จริงๆ เอาไปเลยครับ น้ำผลไม้ 100 % แนะนำ ยูนิฟน้ำแครอทผสมส้มกับ มะนาว ทำไมต้องเป็น100 % หรอ ก็มันให้พลังงานน้อยกว่า 45 % นะซิ 100 % มันให้แค่ 80 c ส่วน 45 % มันให้ 140 c กว่าๆ และ แครอทก็ช่วย ขับไขมัน กับสารพิษออกจากร่างกายแถมมีวิตามิน A อีก เหมาะสำหรับ คนที่ลดความอ้วนนะครับ
9. ใน 1 วันกิน อย่าให้เกิน 1000 c จะกินยังไงก็ได้ คำนวน เอาเองนะ แต่ผม ในตอนนั้นหัวเป็นคอมเลย มองดูอะไรก็คำนวนเป็น c ได้หมด
10. อาหารแนะนำ สำหรับ ลดความอ้วน เกาเหลาไม่ใส่ข้าว(อันนี้แฟนผมแนะนำมา) ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ไม่ใส่กระเทียมเจียว(ทำไมต้องเส้นหมี่ ก็เพราะมันให้พลังงานนอนที่สุด ในพวกเส้นๆ ทั้งหมด) ราดหน้าเส้นหมี่ผัดเยอะๆ
โจ๊กหมู ส้มตำ(อันนี้เด็ดสุด ยิ่งใส่พริกเยอะ กินน้ำกระจายเลย อิ่มแน่ๆ เพราะอิ่มน้ำ อิอิอิ)



บทที่ 3
เรามาดูถึงการออกกำลังกายกันบ้างนะ หลายๆ คนก็ ขี้เกียจออกกำลังกายแต่อยากผอม ใครคิดแบบนี้ก็ฝันต่อไปเถอะนะ เพราะถ้าไม่ออกกำลังกายจะเอาไขมันส่วนเกินออกยังไงละ
มันต้องออกกันหน่อยนะ แรกๆ ก็เบาๆ หน่อยไม่ต้องหักโหมมาก เดียวจะตายเอา

ผมใช้วิธีกระโดดตบ วิดพื้น ซิกอัพ กับวิ่งในช่วงแรกๆ
โดนเริ่มจากกระโดดตบ 100 ที วิดพื้น 20 ซิกอัพ 30 แล้วก็วิ่งเบาๆ
ข้อควรระวัง สำหรับคนออกกำลังกาย
1. ห้ามกินน้ำก่อนออกกำลังกาย 1 ชม. ไม่งั้นจุกตาย (ของผม 3 ชม เลย สูตรผมเอง นะ)
2. เวลาออกกำลังกายเสร็จ ถ้าหิวน้ำ ห้ามกินเด็ดขาด ให้ รอซัก 15 นาทีก่อนแล้วค่อยกิน
3. ถ้าหิวน้ำมากจริงๆ ให้กินน้ำ 2 ช้อนโต้ะ แก้ กระหาย แล้วรอ 15 นาที ค่อยกินน้ำ นะ
4. ห้าม อาบน้ำหลังออกกำลังกายใหม่ๆ ไม่งั้น ร่างกายของเราจะดูดซึมน้ำที่อาบ ทำให้อ้วนไปใหญ่ ให้รอ 30 นาที แล้วอาบนะ

เอาละมาว่ากันต่อ ในแรกๆ บางคน วิ่งไม่ไหว หรือซิกอัพ วิดพื้นไม่ไหว ก็กระโดตบไปก่อนนะ ค่อยๆ เป็นยกๆ ก็ได้ ซัก 40-40-20 เอาให้ครบ 100 ให้ หัวใจเต้นหน่อยมีเหงื่อ นิดๆ ก็ยังดี ของผมมีวิ่งด้วยนะแต่ไม่ค่อยไหว

พอต่อมาผมว่า กระโดดตบมันไม่ค่อยได้อะไร ซิกอัพก็ปวดหลังกับท้อง วิดพื้นปวดแขน งั้นเรามาเอาดีทางวิ่งดีกว่า คิดแบบนี้ก็หาเลยครับ ชุดออกรบ เป็นเสื้อยืด กางเกงวอร์มทั่วไป รองเท้าวิ่งดีๆ ซักคู่ พอดีผมมี 1 คู่เลยสบายเลย การเลือกรองเท้า มีส่วนทำให้คุณ วิ่งได้สบาย ครับ วิ่งแล้วไม่เหนื่อยมาก

ผมวิ่งจากน้อยก่อนนะ อยู่ ให้วิ่งที 2 โลก็ไม่ไหว ตายแน่ๆ ยังอ้วนอยู่เลย ผมเริ่มจาก 3 รอบไปกลับ จาก บ้านถึงหน้าหมู่บ้าน 1 รอบได้ประมาณ 100 เมตร ครับ ผมเลือกเวลาวิ่งนะ วิ่งตอน 4 ทุ่ม ผีหลอก....... แบบถนนโล่งไม่มีคน ผมชอบวิ่งดึกๆ แล้วผมก็อายนะที่ต้องมาวิ่งเช้าๆ แล้วมีคนมอง เพราะยังอ้วนอยู่เลยมาวิ่งดึกๆ คนเห็นก็หาว่า บ้า กันไปเป็นแถว แรกๆ วิ่ง 3 รอบจะตายเอา เหนื่อยสุดๆ พอ 1 อาทิตผ่านไปก็เริ่มสบายแล้ว ก็ค่อยปรับเป็น 5 ดู วิ่งแล้วเหนื่อยมากเลยวิ่งแค่ 4 รอบ แล้วค่อยๆ ไป ผมวิ่งได้ 5 รอบ
ใช้เวลา 1 เดือน เลยนะ แรกๆ เหงื่อนี้ออก เป็นถังน้ำ หัวใจเต้นแรงสุดๆ พูดไม่ออกเลยเวลาวิ่งเสร็จ แทบตาย แต่พอดีมีกำลังใจส่วนตัว เวลาวิ่ง บางทีผมก็ ท้อนะครับ แต่ผมก็นึกว่า อีก 2 เดือนจะเจอเธอ(แฟนผม)แล้ว ต้องทำให้ได้ซิ เลยมีแรงวิ่งมาจากไหนไม่รู้ แบบวิ่งไปยิ้มไป หัวเราะไป เหมือนคนบ้า จริงๆ หุหุหุ

พอเราเริ่มอยู่ตัว คือเหนื่อยน้อยลงพอวิ่งเสร็จ เราก็ค่อยๆ เพิ่มรอบนะ อย่าทีเดียว 2 รอบ จะตายเอา จาก 5 เป็น 6 ใช้เวลา 1 อาทิต
ผมพอ 1 อาทิตจะเพิ่มอีก 1 รอบ เรื่อยๆ แล้วก็เพิ่มเรื่อยๆ จนเป็น 10 รอบในเดือนที่ 2 พอถึงตรงนี้เราก็เก่ง ขึ้นแล้วนะ ก็ จาก 4 รอบ เหนื่อยมาก ตอนนี้ไม่เหนื่อยเลย สบายๆ เออ ผมมีเคล็ดลับมาบอกนะ ให้วิ่งช้าๆ ไป ก่อน ซัก 4 รอบ แล้วค่อยเร็วขึ้น ในรอบที่ 5-10 แบบนี้จะไม่เหนื่อยมาก สบายๆๆ พอเราคิดว่าเราวิ่งเก่งแล้ว... ก็ให้วิ่งแบบ เร็วๆ ตั้งแต่ 1-10 รอบเลยนะ ยิ่งรอบที่ 10 วิ่งแบบมีหมา ไล่งับก้นเลย เอาแบบสุดชีวิต (อันนี้ไม่ขอแนะนำนะ เป็นการเล่นสนุกส่วนตัว) เวลาวิ่งมาเร็วๆ ไม่ให้หยุดวิ่งเลย ให้ค่อยๆ ลดความเร็วช้าๆนะ

การการวิ่งทำให้ ผมผอมลงไปเยอะเลย จากเอว 38 เหลือ 31 -32 เอง แขนจากแต่ก่อน อวบๆ ตอนนี้ผอมเลยเยอะมาก ขาก็เล็กลง แต่ที่หน้าท้องมันมีพุงอยู่นะ ไม่ใช้หน้าท้องสวยแบบที่คนอื่นคิด
คนมันอ้วนมาก่อนอยู่ๆ จะให้หน้าท้องแข็ง เป็นลูกๆ มันยาก มันมีพุงเหมือนเดิม แต่ขนากพุงมาเล็กลงนะ
เออ ให้ เกร็งหน้าท้องตลอดเวลา ที่รู้สึก ตัวนะ ไม่ว่าจะเดิน กิน เรียน เล่นเกม
ให้เกร็งหน้าท้องไว้ จะช่วยให้ ลดเอวได้เยอะพอสมควร


บทที่4
เรามาดู ชีวิตประจำวันของผมดีกว่านะ ว่าตอนลดความอ้วนทำอะไรมัง

ตื่นมาเลย ตอน 11 โมงเช้า ลงมา กินน้ำก่อน 1 แก้วใหญ่
แล้ว ขึ้นมาเล่นคอมซักพัก
พอตอนเที่ยงก็ลงมากิน ข้าว ครึ่งทัพพี ก่อนกินข้าวให้กินน้ำไปก่อน 2 แก้ว นะจะช่วยให้อิมเร็วขึ้น พอเวลากินให้เคี้ยวข้าวช้าๆ ให้ช้าที่สุดจะอมข้าวเล่นก็ได้นะ เคี้ยวเยอะๆ จะทำให้อิ่มเร็ว พอกินเสร็จก็กินน้ำอีก 2 แก้ว แล้วขึ้นมาเล่นคอมต่อ บ่าย 2 อาบน้ำแต่ง ตัวไป มหาลัย เรียนหนังสือ
บ่าย 5 เรียนเสร็จ ก็ซื้อผลไม้มากินแก้หิว เพราะต้องนั้งกินข้าวกับเพื่อนทุกวัน
6 โมงถึงบ้าน ขึ้นมาเล่นคอมต่อ
1 ทุ่ม กินข้าว ครึ่งทัพพี หรือบางทีไม่กินกินเป็นแกงจืดเฉยๆ ไม่กินข้าวเลย
กินน้ำก่อน 2 แก้ว และหลัง 2 แก้ว
4 ทุ่มออก ไปวิ่ง นะ วิ่ง 10-12 รอบแล้วแต่วัน ประมาณ 1.2 โล กว่าๆ
4.20 ทุ่ม วิ่งเสร็จ มานั้งพักเฉยๆ เป่าพัดลม ดูทีวี
5 ทุ่มอาบน้ำ ขึ้นมาอ่านหนังสือทบทวน วิชาเรียน หรือทำงานส่งอาจาย์
ถ้าไม่มีอะไรก็เล่น คอมต่อ
ตี 2-3 เข้านอน

ผมทำแบบนี้ตลอดเวลา 3 เดือน โดยบางที อาจจะมีไปกินหมูกระทะบาง แต่ก็ไม่อ้วนนะ เพราะเรากินแต่เนื้อ(โปรตีน) ไม่อ้วนหรอก

บทที่ 5
การลดความอ้วนต้องมี จิตใจที่เข็มแข็ง

คำนี้ เป็น ข้อเท็จจริงเลยก็ว่าได้ ใจเท่านั้น ครับที่ทำให้ลดได้
ในช่วง 4 วันแรกที่ควบคุมอาหาร ผมนี้ทรมานสุดๆ จะบ้าตาย
หิวมากๆๆ เดินไปเปิดตู้เย็นวันละ 50 รอบ แต่ข้างในไม่มีองกินมีแต่หมู สดๆ กับผัก มันต้องใช้ ใจเท่านั้นครับ ถึงจะผ่านจุดนี้มาได้ บางที่ที่ไม่ไหวก็ลมเลิกกันไป ก็ตรงนี้แหละ ไม่หรอกครับ ลดความอ้วนแล้ว สบาย ถ้าจะลดจริงๆ มันลำบากนะครับ ไม่มีสบายหรอก ถ้าสบายมาก ตอนนี้คงไม่มีพวก อาหารเสริมหรือ สถานที่ลดน้ำหนัก หรือคลินิกลดน้ำหนักมาเปิด ให้ทั่วบ้านเมืองแบบนี้หรอก
ใครจะลด ต้องคุยกับตัวเองก่อนว่า จะทนได้ไหม จะลดเพื่ออะไร เพื่อใคร แล้วลดแล้วได้อะไร บ้าง คุณต้องใจแข็งมากๆ นะครับ เพราะมันลำบากจริงๆ แต่สิ่งที่คุณได้หลังจากลดน้ำหนักมันคุ้มค่ามากกับเหงื่อและเวลาที่คุณเสียมาจริงๆ
ถ้าคุณสามารถผ่าน 7 วันแห่งการควบคุมอาหารไปได้ นะ คุณก็ผ่านไปแล้ว 40 % เพราะถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ก็สบายแล้วละ เราก็มาออกกำลังกายกันจะได้ ผอมเร็วๆ
 

สำหรับ พวกที่บอกว่า ทำไม ลดไป 1 เดือนแล้ว น้ำหนักไม่ลดเลย ลดแค่ 1-2 โลเอง ทำไมน้อยจัง ไม่มีกำลังใจเลย
ผมจะบอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดามากครับ เพราะอะไรหรอก
ผมใน 1 เดือนแรกน้ำหนักลดแค่ 2 โลเอง น้อยสุดๆ
จริงๆ แล้ว ในช่วงเวลาปกติ ร่างกายเราจะใช้แป้งหรือน้ำตาล มาเป็นพลังงาน ครับ คือ คนปกติ จะใช้แป้งเป็นพลังงาน แต่คนที่จะลดความอ้วนต้องใช้ไขมันส่วนเกินเป็นพลังงาน
แล้วเราจะเปลี่ยนให้ให้ ไขมันเป็นพลังงานได้ไหมละ
คำตอบ คือได้ครับ ในช่วง 1 เดือนแรก ร่างกายเราจะค่อยๆ ปรับจากการใช้แป้งมาเป็นใช้ ไขมันส่วนเกินต่างๆ ที่อยู่ในร่างกายเรา
เรียกว่า ช่วงเปลี่ยนโหมด ช่วงนี้น้ำหนักลดนิดเดียวเองปกตินะ

ช่วงนี้ที่ 2 เป็นช่วงใช้ไขมันเป็นพลังงาน ช่วงนี้เองที่เราจะเห็นได้ว่า น้ำหนักลดเอา ลดเอา ผมเคยลดๆได้อาทิตย์ละ 2 โล ตลอด 1 เดือนก็ 10 โล เลย ช่วงนี้ อย่ากินแป้งเยอะนะ ให้กินพวกโปรตีน นะ ถ้ากินแป้งมาก มันจะให้แป้งเป็นพลังงานแทน แล้วจะลดช้า
ช่วงนี้ให้เรา ออกกำลังกาย บ่อยๆ อาทิตละ 6 วัน แต่ของผม 7 วันเต็ม กินน้ำเยอะๆ ด้วยนะ เออ ช่วงนี้ปัสสาวะ จะเข้มและกลิ่นแรงเป็นพิเศษ บางคนมีกลิ่นปากแรงมาก กลิ่นตัวแรง มันเป็นเรื่องปกตินะ ไม่ต้องตกใจ ผมก็เป็น แบบปากเหม็นมากเลย...... แต่ตอนนี้ปกติแล้ว

ในการเปลี่ยนจากช่วง 1 เป็น 2 มันต้องใช้เวลานะ บางคนไม่เหมือนกัน ผม 1 เดือน แต่บางคนอาจจะแค่ 15 วันหรือ 20 วัน หรือบางที 2 ก็ยังมี ยังไงก็อย่า ท้อนะครับ เดียวมันจะผอมไปเองแหละ ผมเอง ก็ได้แฟนผมค่อยเป็นกำลังใจ และให้คำแนะนำดีๆ เลยสามารถผ่านช่วงที่ 1 มาได้ กว่าผมจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เล่นแทบแย่ จากเด็กอ้วนๆ คนหนึ่ง ลดมาจนผอมลงก็ดีขึ้นเยอะ

บทสุดท้าย
ชีวิตผม ในตอนนี้ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะ
เอาง่าย หุ่น รูปร่างหน้าตา ดูดีขึ้นเยอะ
เสื้อผ้าผม ต้องซื้อใส่ใหม่ หมดเพราะใส่ของเก่ามันใหญ่มากๆๆๆ
ชุด นักศึกษา ก็ต้องซื้อใหม่จากแต่ก่อน XXl ,Xl ตัวใหญ่ๆ ไม่มีลาย
ตอนนี้ เป็น M แบบเข้ารูป ใส่แล้วดูดีขึ้นมาก กางเกงจากเอว 38 ต้องให้แม่แก้เป็น 32 เลย กางเกงยีนส์เปลี่ยนใหม่หมด
โดนทั่วไป ผมต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่หมดเลย เพราะของเก่ามันใหญ่จริงๆ ยกเว้น ชุดนอน ที่เอาแบบใส่สบายหรือ ชุดอยู่บ้าน
เดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง เรื่องจริงครับ แต่ก่อนไม่มีผู้หญิงมองซักคนเลย พอตอนหนัก 68 เดินไปหาแฟนที่มหาลัยเขา โห ....
ไม่อยากเชื่อ พอเดินเข้าไป ผู้หญิงมอง ผม กันเยอะมาก ......
แบบนั่งกินข้าวอยู่กับแฟน ยังมีแอบมองเลย จนแฟนผมบอกว่ามีคนแอบมองเยอะ เวลานั่งรอแฟนที่ห้องเน็ต ก็มีผู้หญิงแอบมอง จนมีเรื่อง คือแฟนผมมา แล้วผมออกไปกับแฟนจะกลับบ้าน มีผู้หญิงเดินตามมาดูเลย เดินมาถึงหน้า มหาลัยดูอะ มีแอบมาขอเบอร์ด้วยนะ ที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงๆ ไม่ได้โกหก แล้วผมก็ไม่ได้ว่าตัวเองหล่อ หรือ เท่อะไรหรอก แต่ว่า รูปร่างหน้าตาดูดีขึ้นเยอะ
แต่ถึงยังไง จะมีผู้หญิงมาสนใจ หรือ มาจีบ ผมก็ไม่สนใจหรอกนะ เพราะอะไรหรอก ผมรักแฟนผมมาก เพราะเขาชอบเราตอนที่เรายังอ้วนๆ อยู่เลย เขารักเราจริงๆ และเราก็ผอมๆได้ ก็เพราะเขา
ขอบคุณ "ขวัญ" จริงๆ นะที่ทำให้อุ้ย เป็น อุ้ยในตอนนี้

ตอนเป็นคนมีความมั่นใจ ในตัวเองสูงแล้วนะ ไม่เหมือนตอนที่อ้วนๆ สุขภาพ ก็แข็งแรงตามมาด้วย........ ใครที่คิดว่า จะเป็น โยโย่ หลังจากลดความอ้วน ถ้าลดแบบผม ถึงโยโย่แต่ก็ไม่มากหรอกนะ ตอน 68 รู้สึกว่าผอมไป มีแต่คนทักว่า หัวโต ตัวผอมไม่ สมส่วนกัน แบบหน้าใหญ่อะ ซี่โคลงโผล่ ดูไม่ค่อยดี แต่พอ 70 ดูดีขึ้นมาก ใครๆ ก็บอกว่า 70 นี้แหละดีสุดแล้ว ตอนนี้ก็กินปกติแล้วนะ สบายๆ มีความสุขกับการกินปกติทั่วไป แต่ ระวัง ของมันๆ กับพวกแป้งไว้ก็พอแล้วละ

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคน ลดความอ้วนให้ได้ตามที่ใจไว้นะครับ แล้วผมจะเป็นกำลังใจให้
 ที่มาจาก  http://www.siamfitness.com/Interview29.html