คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 ::: What the hell ...
Part 2
“ชานยอล นี่ภาพสเก็ตงานของพี่ยูรา แกลองเอาไปดูนะ” นักออกแบบหนุ่มในบริษัทนามว่า เพคฮยอน เดินถือแผ่นกระดาษแผ่นใหญ่เข้ามาในห้องของเพื่อนสนิทที่มีฐานะเป็นเจ้านายของเขาด้วย ชานยอลที่กำลังคร่ำเครียดกับการส่งอีเมล์ตอบลูกค้าอยู่บนโต๊ะทำงานตัวสีดำตัวใหญ่ละสายตาจากงานขึ้นมามองตามเสียงเรียกนั้น
“อืม ไหนขอดูหน่อย ฝีมือไม่ตกนะ พี่ยูราน่าจะชอบ ยังไงเย็นนี้เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ฉันจะพาแกไปหาพี่ยูรา”
“คร๊าบ คุณเจ้านาย แล้วเจอกัน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นฟังแล้วดูทะเล้นอยู่นิดๆ ทั้งสองยิ้มกวนๆใส่กันอีกคนละเล็กละน้อย ก่อนประตูถูกปิดลงเบาๆ ชานยอลกลับมานั่งคิ้วขมวดหับหน้าจอคอมต่อ เขาใช้เมาส์ปากกาคลิกเปิดดูรูป สเก็ตงานแต่งไปเรื่อยๆ พร้อมกับนั่งพิจารณาถึงองค์ประกอบในภาพอย่างขะมักเขม้น พร้อมกับตวัดปลายเมาส์ปากกาบนแป้นไปมาเมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ควรแก้ไขในภาพสเก็จ ดวงตาดำเข้มจดจ้องไล่เรียงไปตามเส้นสายและสีสันบนภาพที่ถูกร่างขึ้นมาเป็นฉากในพิธีแต่งงานแบบต่างๆ และนั่นเป็นอาชีพของชานยอล เจ้าของบริษัทรับจัดงานแต่งครบวงจร ที่เขาได้เจอกับคนรักเก่าก็เพราะเป็นเจ้าของบริษัทนี้เนี่ย แหล่ะ ก็เซฮุนเป็นนักออกแบบเหมือนกัน เข้ามาอยู่ได้ไม่นานก็พ่วงเอาตำแหน่งแฟนเจ้าของบริษัทมาด้วยอีกอัน จนสุดท้าย ท้ายสุดก็ต้องเสียทั้งสองตำแหน่งไปในเวลาเดียวกัน ก็เพราะเลิกรากันไปนั่นแหล่ะ
“นี่เพคฮยอนเข้ามาหาห้องหน่อย” มือเรียวยกหูโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรศัพท์เรียกให้เพคฮยอนที่เพิ่งออกจากห้องไปกลับเข้ามาอีกรอบ
“มันก็ดูโอเคแล้วนะ แต่โบว์สีขาวตรงเก้าอี้มันดู ยังไงก็ไม่รู้ว่ะ” ชานยอลชี้นิ้วไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไล่เรียงไปในส่วนที่เขายังไม่เห็นด้วย
“อะไรกัน ตอนแรกก็แก้ไปแล้วนะ แกก็ยังไม่ชอบอีกเหรอ”
“ไม่รู้สิ มองแล้วมันขัดๆว่ะ เอางี้ ลองไปแก้มาหลายๆแบบดูก่อนแล้วกัน แล้วเอาไปให้พี่สาวฉันดู แล้วค่อยว่ากันอีกที” เพคฮยอนพยักหน้าหงึกๆ ก็พอเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนสนิทพูดอยู่ ยังไงเขาก็ให้ความเคารพชานยอลในฐานะเจ้านาย และคนที่มีความสามารถอยู่แล้ว ถ้าลองชานยอลบอกว่า ตรงนี้ดูไม่ดี แสดงว่ามันคงไม่ใช่จริงๆ
“ก็เดี๋ยวจะลองไปทำมาอีกทีแล้วกัน”
“ช่วยหน่อยนะเว้ย”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันเข้าใจ” เพคฮยอนเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง ดวงตากลมโตหันกลับมาจดจ้องที่หน้าจอคอมต่อ ภาพสเก็ตพิธีงานแต่งแบบคริสต์ธีมสีขาวในสวนตอนกลางคืนปรากฏอยู่บนจอสกรีนขนาดใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกือบจะลงตัวอยู่แล้วเชียว ติดแต่องค์ประกอบบางจุดที่ดูไม่เข้ารูปเข้ารอย นี่ถ้างานนี้ให้เซฮุนจัดการก็คงจะดี ตัวเล็กน่ะเก่งนักเรื่องประดับตกแต่ง ...
“แล้วมึงจะไปคิดถึงเขาทำไมวะชานยอล ผ่านมาตั้งหลายปีและ วุ๊” ชานยอลตบหัวตัวเองที่เผลอคิดฟุ้งซ่านไปได้ จบกันไปแล้ว หยุดคิดถึงเขาซักทีเหอะ
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเพื่อจดจ่อสมาธิกับงานตัวเองต่อ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป ตะวันคล้อยจวนเจียนจะลับขอบฟ้า แสงสีสมเข็มส่องลอดเข้ามาตามช่องแนวของบานเกร็ด ชานยอลเงยหน้าดูนาฬิกาบนผนังแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ บางทีเวลางานยุ่งๆเขาก็อยากจะเพิ่มชั่วโมงให้นาฬิกาของเขาอีกสักหน่อย ปลายๆปีแบบนี้ คนแต่งงานกันเยอะ นี่ก็นั่งทำมาทั้งวัน งานก็ยังดูท่วมหัวเขามิดได้เลยอยู่ดี
“เอาไว้ก่อนก็ได้วะ ต้องออกไปหาพี่ยูราอีก” ร่างสูงยาวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ไล่เอาความเมื่อยล้าที่ติดอยู่บนบ่าออกไปจนหมดเกลี้ยง เขาจัดแจงเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋า ก่อนจะสาวเท้าออกจากห้อง เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี
“แหม คุณเจ้านายครับ อารมณ์ดีจังเลยนะ” เพคฮยอนที่นั่งรออยู่ส่งขึ้นมาเมื่อเห็นว่า นายสนิทเดินออกมาจากห้องทำงาน ดวงตาเรียวเล็กส่งสายตาล้อเลียน พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“แน่นอนดิ พี่สาวแต่งงานทั้งคนนี่หว่า” ชานยอลยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว เขาเดินควงกุญแจเดินนำหน้าไปที่รถก่อน โดยมีเพคฮยอนเดินตามไปติดๆ
“นี่กูยังคิดไม่ออกเลยนะเนี่ย ว่าโบว์สีขาวตรงเก้าอี้นี่จะแก้ยังไงดี” สรรพนามที่ใช้เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อออกรถมาจากบริษัท เพคฮยอนหยิบ Tablet ของชานยอลมาเปิดดูรูปไปเรื่อยๆทีละรูป พยายามคิดเค้นในหัวสมองว่าจะเปลี่ยนโบว์สีขาวเจ้าปัญหานี่ยังไงดี
“เดี๋ยวยังไงลองเอาแบบเดิมให้พี่ยูราดูก่อน บางทีตัวเจ้าสาวอาจจะอยากเปลี่ยนอะไรเองก็ได้ มึงก็อย่าเพิ่งเครียดไป”
“แม่มกูไม่ถนัดเลยให้เรื่องตกแต่งเนี่ย กูนอนคิดมาหลายคืนแล้วเหมือนกันนะ แต่กูก็คิดไม่ออกว่ะ นี่ถ้าเซฮุนอยู่ก็คง ...”
“มึงพูดอะไร เงียบไปเลยห่า” ชานยอลรีบชิงบนพูดขึ้นทันทีที่ได้ยินคำบางคำที่ทำให้เจ็บที่อกจี๊ดๆ คิ้มเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเครียด
“แหม ทำเป็นซีเรียส ในใจก็คิดแบบที่กูคิดใช่มั๊ยล่ะ กูรู้หรอกน่า” เพคฮยอนยิ้มทะเล้นแบบที่ชอบทำ นี่ถ้าชานยอลไม่ได้ขับรถอยู่คงต้องมีวางมวยกันแน่ ไอ้เพื่อนตัวแสบนี่ก็จริงๆเลย
“ไม่ว่ากูจะคิดหรือไม่คิด ยังไงมึงก็ต้องเป็นคนทำอยู่ดี ไอ้เพคฮยอน” ชานยอลพูดอย่างหัวเสีย ปลายเท้าเหยียบคันเร่งให้เร็วกว่าเดิมด้วยความโมโห
“เรื่องนั้นกูก็รู้ กูก็แค่ถามเฉยๆ ว่าแต่ตอนนี้เซฮุนไปอยู่ไหนแล้ววะ นี่กูไม่ได้ข่าวมานานและเนี่ย” เพคฮยอนยังคงพูดถึงบุคคลต้องห้ามต่อไป ชานยอลแม่มอยากกระชากหัวไอ้เพื่อนคนนี้มากระแทกพวงมาลัยรถซักที รู้ก็รู้ว่าไม่อยากได้ยิน
“กูจะไปรู้มั๊ยล่ะ กูกับเขาไม่เกี่ยวกันแล้ว” ปากบอกว่าไม่เกี่ยวกันแล้ว แต่น้ำเสียงฟังแล้วดูตัดพ้อเหลือเกิน เพค ฮยอนทำหน้าแหย ไอ้เพื่อนตัวดีของเขาผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปีก็ยังปากแข็งไม่มีเปลี่ยน
“อ้อ จริงเหรอ นี่มึงไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วจริงๆอ่ะเหรอ เชื่อก็โง่และไอ้บ้า กูรู้หรอก ว่ามึงอ่ะ ยังรักเซ ... อุ๊บ ไอ้เอี้ย อ่อย อาก อู” เพคฮยอนพูดเสียงอู้อี้เมื่อโดนมือใหญ่ฟาดเข้ามาที่ปากเต็มรัก ดิ้นขลุกขลักพยายามแกะมือนั้นออกสุดแรง
“กูมีแฟนใหม่แล้ว มึงเข้าใจมั๊ยไอ้เพคฮยอน” ชานยอลตะโกนลั่นรถ เพคฮยอนแกะมือชานยอลออกไปแล้วเริ่มเถียงต่อ
“เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะหมดรักกับเซฮุนแล้วนี่”
“เอ๊ะ ไอ้นี่ นี่ยังไง ก็กูบอกว่ากูมีแฟนใหม่แล้ว”
“เออ รู้ แต่มึงก็ยังรักเซฮุนอยู่”
“กูไม่เถียงด้วยและแม่ม” ชานยอลที่ได้ที่จอดรถพอดี รีบลงจากรถทันที
“โกหกคนอื่นได้ โกหกกูไม่ได้หรอกไอ้ชานยอลเอ๋ย” ร่างเล็กกะทัดรัดยังคงไม่หยุดพูด ชานยอลเดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยสภาพใบหน้าบูดเบี้ยว ทั้งสองเดินจิกกัดกันมาตลอดทางเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารที่พี่ยูรานั่งรออยู่นานแล้ว
“อ้าว ชานยอล” น้ำเสียงหวานใสดังขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องชายสุดที่รักเดินเข้ามาหาพร้อมกับเพื่อนสนิท
“อ้าว นี่ตัวเจ้าบ่าวไม่ได้มาด้วยเหรอพี่ยูรา” เพคฮยอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆพี่ยูราด้วยความสนิทสนม ส่วนชานยอลเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“ไม่ได้มาจ้า แฟนพี่เขาติดงานน่ะ”
“แฟนเฟินอะไรครับพี่ยูรา ต้องเลื่อนขั้นเป็น ว่าที่คุณสามีที่รักได้แล้วนะครับ” เพคฮยอนยิ้มตาหยี หญิงสาวยิ้มชอบใจกับความน่ารักและช่างเจรจาของเพคฮยอนจนอดใจหยิกแก้มยุ้ยๆนั่นไม่ได้
“พอๆเถอะ มาคุยเรื่องงานแต่งกันดีกว่านะพี่” ชานยอลพยายามเรียกร้องความสนใจจากพี่สาวแท้ๆของเขากลับมา อะไรกันนี่เขาเป็นน้องชายแท้ๆนะเนี่ย ส่วนไอ้เพคฮยอนนี่วอนโดนเตะจริงๆ หลายรอบและ
“จ้าๆ แหม อ่ะ ไหนแบบ พี่ขอดูหน่อย” พี่ยูรายื่นมือออกไปหยิกแก้มน้องชายแท้ๆบ้าง ชานยอลยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะหยิบเอา Tablet ในกระเป๋าออกมาตั้งบนโต๊ะ ปลายนิ้วแตะเปิดภาพให้ดู ไล่เรียงแต่ละส่วนของงาน ตั้งแต่ซุ้มดอกไม้ ของประดับภายในงาน บรรยากาศในงานพิธีที่จะจัดขึ้นตอนกลางคืน และภาพบรรยากาศในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่จะจัดขึ้นต่อจากนั้น โดยมีเพคฮยอนคอยอธิบายในรายละเอียดต่างๆตามไปเรื่อยๆ
“สวยจังเลย พี่ชอบมากเลย แต่พี่ว่า เก้าอี้ในงานพิธีมันดูกลืนๆกันยังไงก็ไม่รู้นะ ตรงนี้มีโบว์อยู่ด้วยใช่มั๊ย” ปลายนิ้วของหญิงสาวแตะรูปภาพเพื่อขยายดูโบว์ที่เป็นของประดับอยู่บนเก้าอี้ที่จะจัดวางในงาน เพคฮยอนอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินพี่ยูราพูดวิจารณ์งานของตัวเองแบบเดียวกับที่ชานยอลพูดกับเขาไว้เมื่อบ่ายๆเป๊ะๆ
“โห พี่ยูราพูดเหมือนชานยอลเลยอ่ะ เตี๊ยมกันมาป๊ะเนี่ย”
“โอ๋ พี่ขอโทษ พี่ก็พูดตามที่พี่เห็นนะ” มือเรียวของหญิงสาวยกขึ้นลูบหัวกลมๆของเพคฮยอนด้วยความเอ็นดู จนชายหนุ่มออกอาการเคลิบเคลิ้มตาม ส่วนชานยอลก็จ้องมองกิริยานั้นด้วยความหมั่นไส้
“พอๆเหอะ ไอ้เพคฮยอน พอได้และ พี่ยูราอย่าไปโดนตัวมัน” ชานยอลทนดูไม่ได้ ต้องรีบดึงมือพี่สาวของเขากลับมา พร้อมกับผลักหัวเพื่อนสนิทตัวเตี้ยจนแทบหงายหลัง
“โหย ไอ้ชานยอล เดี๊ยะเหอะ” เพคฮยอนลุกขึ้นยืนอย่างหาเรื่อง จนพี่ยูราต้องรีบลุกขึ้นมาห้ามศึก
“พอๆเลย ทั้งสองคน เอาอย่างนี้นะ เรื่องแก้นี่พี่ให้สองคนไปช่วยกันแก้ก่อน หรือถ้าพี่มีความเห็นยังไง พี่จะบอกเราสองคนอีกทีนะจ๊ะ” พี่ยูราพูดเสียงหวาน ทั้งสองคนพยักหน้ารับรู้และเข้าใจ ก่อนที่พี่ยูราจะเรียกให้บริกรมารับสั่งอาหารเย็น
“กินอะไร สั่งได้เลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยงเองจ้า” เพคฮยอนยิ้มกว้าง ชอบจังเลยแบบนี้ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
“เออ นี่ ชานยอล จำคริสได้มั๊ย” พี่ยูราพูดขึ้นขณะที่กำลังรับประทานอาหาร ชานยอลวางช้อนในมือลง สายตาดูครุ่นคิด แต่ก็พยักหน้าเบาๆ
“พี่คริสเหรอครับ จำได้สิครับ จำได้แม่นเลย” ชานยอลพูด เพคฮยอนเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารด้วยความสงสัย เอ พี่คริสนี่ใครกันนะ
“อืม คริสจะแต่งงานแล้วนะ”
“ห๊า อะไรนะครับ กับใครเหรอครับ”
“เห็นว่าเป็นคนที่คริสเจอตอนไปเที่ยวนะ เพิ่งคบกันมา 6 เดือนเอง จะแต่งงานและ ตอนนี้กำลังจะเตรียมงานแต่งวุ่นมากเลย พี่เลยแนะนำคริสไปว่าให้ลองมาคุยกับชานยอลดู” หญิงสาวมีท่าทีลังเลที่จะพูดต่อ สีหน้าชานยอลไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ จนผู้เป็นพี่สาวชักจะเสียวสันหลัง
“แต่ถ้าชานยอลไม่สะดวกอะไรยังไง ก็บอกพี่ได้นะ พี่จะได้ไปบอกคริส”
“ไม่หรอกครับพี่ยูรา ผมกำลังคิดว่าตารางงานผมว่างหรือเปล่าแค่นั้นเอง พี่คริสจะแต่งงานเมื่อไหร่เหรอครับ”
“อีกเดือนนึงจะ งานรีบมากเลย พี่เลยคิดว่าถ้าได้ชานยอลมาช่วย น่าจะดี” ชานยอลแทบสำลักน้ำเมื่อได้ยินกำหนดระยะเวลาอีกแค่หนึ่งเดือน จะไปทำอะไรให้ได้ทัน
“เดือนเดียวเองเหรอครับ” เพคฮยอนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆยังต้องพูดขึ้นบ้าง เดือนเดียวแค่ออกแบบสเก็จภาพก็แทบไม่ทันแล้ว หรือต่อให้ไม่ต้องออกแบบอะไร ยังแทบจะไม่ทันเลย ขนาดงานพี่ยูรายังต้องวางแผนกันล่วงหน้าตั้งสามเดือน
“ใช่จะ พี่เองก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่คริสก็ยืนยันว่าแบบนั้นจริงๆ ชานยอลช่วยคริสหน่อยนะ เห็นแก่พี่เถอะ พี่เองก็กำลังจะแต่งงาน คริสก็เพื่อนสนิทพี่เอง” หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมือของน้องชายไว้แน่น ชานยอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง
“ก็ได้ครับพี่ ยังไงผมจะช่วยอย่างสุดความสามารถก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องห่วงนะครับพี่ยูรา เดี๋ยวผมจะช่วยไอ้ชานยอลมันเองครับ” เพคฮยอนได้ทีเรียกคะแนนจากพี่ยูราต่อ คนจะแต่งงานแล้วแท้ๆมันก็ยังไม่เว้นนะ ไอ้นี่
“ขอบคุณทั้งสองคนมากเลยนะ เนี่ย พี่นัดคริสกับแฟนเขามาที่นี่พอดี ยังไงเดี๋ยวทั้งสองคนอยู่รอคุยกับเขาเลยก็ได้นะ”
“แต่ผมมีนัดต่อน่ะพี่ยูรา ยังไงไว้นัดกันมาเจอใหม่นะครับ”
“งั้นเหรอชานยอล แบบนั้นก็ได้จะ แล้วเพคฮยอนจะกลับด้วยเลยหรือเปล่า” ยูราหันไปถามเพคฮยอนที่ยังคงง่วนกับการกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
“อยู่ได้ครับ ผมไม่มีนัดต่อ ฮี่ๆ” ใบหน้าทะเล้นพูดทั้งๆปากยังเคี้ยวข้าวอยู่ตุ้ยๆ
“ขอบคุณมากนะเพคฮยอน”
“ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับพี่ยูรา แล้วคุยกันครับ ไปก่อนนะไอ้เพค ทำตัวดีๆนะมึง” ชานยอลชี้หน้าเพคฮยอนอีกทีอย่างคาดโทษก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะไป
ชานยอลเดินออกมาจากร้านอาหาร ตรงไปที่รถยนต์คันเก่งของตัวเอง มือข้างหนึ่งล้วงเอาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องแพงออกมากดเบอร์โทรออกด้วยความว่องไว
“รักนะครับ” เสียงทุ้มใหญ่รีบกรอกลงไปหาปลายสายทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณว่ามีคนรับสายแล้ว
“วันนี้ทำงานหนักที่สุดเลย อยากเจอจังเลยครับ กำลังจะไปหานะ” เสียงหวานดังไม่ขาดปากของชานยอล ดวงตากลมดูสดใสขึ้นทันทีที่ได้คุยกับคนรักคนปัจจุบันของตัวเอง
“เดี๋ยวไปถึง ...เฮ๊ย” ขณะกำลังพูด พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร่างๆหนึ่งที่คุ้นตาเดินหายเข้าไปในร้านอาหาร ถึงจะเห็นแว๊บๆก็เถอะ แต่ถ้าเป็นคนๆนี้ เขาจำได้ดีแน่นอน
‘ชานยอลคะ เป็นไรไปคะ’ เสียงของผู้หญิงที่อยู่ปลายสายอีกฝั่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคนรักเงียบไป ชานยอลรีบสะบัดภาพเมื่อกี้ออก ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับ
“อ้อ เปล่าหรอกครับไม่มีไร ไงเดี๋ยวผมจะขับรถแล้ว เจอกันนะครับ” ชานยอลวางโทรศัพท์ลง พลางนั่งคิดถึงภาพของคนที่ ‘เคย’ คุ้นเคยเมื่อกี้ แล้วก็ได้แต่สงสัย
“บ้าน่า เป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีทาง” ชานยอลส่ายหน้าไปมา มือข้างหนึ่งบิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว ทิ้งภาพเหตุการณเมื่อครู่ไว้เบื้องหลัง
.
.
.
“พี่ยูราครับ พี่คริสเป็นใครเหรอครับ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเดินออกจากร้านไปแล้ว เพคฮยอนก็รีบป้องปากกระวิบถามพี่ยูราด้วยสัญชาตญาณ
“อ่อ คริสเขาเป็นเพื่อนสนิทพี่เองแหล่ะจะ เรียนด้วยกันสมัยไฮสคูล ชานยอลเองก็รู้จักนะ แต่ที่จริงแล้วจะว่าไปก็ เอ๊ะ นั่นคริสนี่ คริส ทางนี้” หญิงสาวรีบลุกขึ้นยืนกวักมือเรียกเพื่อนสนิทของตนทันทีที่เห็นร่างสูงใหญ่คล้ายคนยุโรปเดินเข้ามาในร้านอาหาร
ใบหน้าคมยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทต่างเพศสมัยไฮสคูล เขาสาวเท้าเดินตรงเข้ามา รอยยิ้มกว้างช่วยส่งให้ใบหน้าคมนั้นดูอบอุ่นยิ่งขึ้น จมูกโด่งได้รูป คางเรียวแหลม มองมุมไหนก็ดูดีไปเสียจนทุกคนในร้านอดหันมาจ้องเป็นตาเดียวไม่ได้
“แหม พี่คริสนี่หล่อจังเลยนะครับ” เพคฮยอนแอบกระซิบข้างหูยูรา
“แน่นอนล่ะ ดังที่สุดในโรงเรียนเลยนะ” พี่ยูรากระซิบกลับ ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มให้กับแขกใหม่ที่เพิ่งมาถึง
“ว่าไงยูรา” ชายหญิงกอดกันเมื่อได้พบกันอีกครั้ง ทั้งสองยิ้มกว้างให้กันก่อนจะเริ่มบทสนทนาต่อ
“ว่าไงคริส แล้ววันนี้พาแฟนมาด้วยหรือเปล่า” ยูราสอดสายตามองหาแขกอีกคนหนึ่งที่เดินมาด้วย แต่ก็ไม่เจอ
“มาสิ อ้าวเซฮุนเดินมานี่สิ” ชื่อที่คริสเรียก ฟังแล้วช่างหูของบุคคลทั้งสองเหลือเกิน ถึงจะชะงักไปนิดหน่อยแต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าคงเป็นคนที่ชื่อซ้ำกัน แต่พอคนที่ยืนอยู่ข้างหลังคริสก้าวขาออกมาเท่านั้นแหล่ะ เล่นเอาทั้งสองแทบล้มทั้งยืน
“สวัสดีครับ ... อ้าว เอ่อ ...” ริมฝีปากสีชมพูเอ่ยเสียงชัดเจนในทีแรก ก่อนจะแผ่วลงเมื่อเห็นว่าคนที่ต้องมาพบเป็นใคร หัวสมองเริ่มกระตุ้นให้ภาพต่างๆในอดีตชัดเจนขึ้นอีกครั้ง ...
ไม่นะ !!!
“เซฮุน” !!!
TBC.
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk : เดี๋ยวนะ มันจะค่อยเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เราพยายามตั้งใจแต่งสุดๆเลย เราจิพยายามนะคะ TT)v
พลอตเรื่องนี้ก็ง่ายๆค่ะ น่าจะเดากันได้เนอะ ฮ่าๆๆ แต่มันอาจจะมีอะไรให้เดากันต่ออีกนะคะ (' ')
ป.ล. เมนท์ให้เราหน่อยน้า สนุกไม่สนุกยังไง บอกกันได้ค่า ขอบคุณค่า ><
ความคิดเห็น