คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พญานาค ความรัก
ท้องฟ้าปลอดโปร่งสดใสในตอนบ่ายแก่ๆ แสงอาทิตย์ส่องแสงฉายอ่อนๆ ผสานผสมสายลมที่พัดพา
ไอเย็นกระทบเข้ากับผิวขาวนวลเนียนใสๆ ของสองสาวที่กำลังเดินทอดน่องก้าวขาเดินไปเรื่อยๆ บริเวณริมชายหาดเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย บรรยากาศที่สดใสยามนี้ช่างสุขกายผ่อนคลายใจได้มากมายทีเดียว
เท้าบางๆ ย้ำเท้าลงไปในน้ำตื้นๆไม่เกินข้อเท้า เหยียบลงไปสัมผัสกับก้อนหินขนาดเล็กใหญ่ปะปนกันไป รู้สึกเสมือนว่ากำลังนวดฝ่าเท้าอยู่ยังไงยังงัน ในขณะที่อีกคนวิ่งไปวิ่งมาอยู่ใกล้ๆกัน แขนสองข้างแผ่ขยายอ้าออกมา จินตนาการว่ากำลังโผบินอยู่บนฟากฟ้า... แต่แล้วจินตนาการก็ต้องสลายหายไป กลับเข้ามาสู้สภาพของความเป็นจริง
“นี้แนะ..” นาคีใช้มือกวักน้ำด้วยความตั้งใจที่จะให้โดนตัวเพื่อนสาว
“ว้าย..ยายบ้า...นาคี นี้เธอเกิดมาเพื่อที่จะทำลายความฝันของฉันหรือยังไงนะ ฉันกำลังคิดวาดฝันอย่างมีความสุข”
“ฝันค้างนะสิ ไม่กลัวคนอื่นเขามองมาเห็นขวัญเข้า จะว่ายายนี้เป็นอะไรสวยก็ไม่สวยแถมเป็นบ้าอีกต่างหาก”
นาคีพูดพร้อมกับกวักน้ำใส่ขวัญเรือนไม่ยอมหยุดหย่อน
“แรงนะย่ะ จะว่าอะไรก็ช่างฉันรับได้ แต่มาว่าฉันไม่สวยนี้สิ มันทำใจไม่ได้” ขวัญเรือนรีบเดินลงมาในน้ำกวักน้ำใส่นาคีคืนอย่างไม่ยอมแพ้ให้แก่กันและกัน
ภาพของสาวสวยสองคนที่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะขบขันดังก้องไปทั่วริมหาด
“ฉันยอมแล้ว..ยอม ยอม” นาคียกมือขึ้นทั้งสองข้าง แสดงการมอบตัวเหมือนกับนักโทษที่ยอมจำนนท์ด้วยดีให้แก่ตำรวจ
“ยอมแล้วต้องทำยังไง”
ขวัญเรือนยืนเท้าสะเอว มองหน้าเพื่อนสาวที่เปียกปอนไปทั้งเนื้อทั้งตัว อวดรูปร่างทรวดทรงที่สวยเซ็กซี่มีสัดส่วนที่สวยงาม
“ขวัญเป็นผู้หญิงที่สวย สวยมากมาก งามยิ่งกว่านางใดในโลกาแห่งนี้” นาคีตะโกนบอกเสียงดังประกาศให้รู้ทั่วๆกันไปเลย
“พอแล้วนาคี พอ พอ ฉันอายเขา เธอไม่ต้องไปประกาศบอกใครหรอก เขารู้กันดีอยู่แล้ว”
“จ้า” นาคีพูดจบเธอก็กวักน้ำใส่ขวัญเรือนยามที่เธอเผลอหันหลังให้ทันที
ภาพของสาวสวยสองคนที่กำลังหยอกล้อกันมีให้พบเห็นอีกหลายครั้ง
“พอเถอะ..ขวัญ.เปียกหมดแล้วละดูสิ”
“นาคีต้องขอบใจฉันถึงจะถูก รู้ตัวเปล่าเธอเซ็กซี่ สวยมากเลย”
นาคีก้มมองตัวเอง พร้อมกับบิดน้ำที่เปียกบริเวณชายเสื้อออก
“ว่าแต่เขาดูตัวเองซิ ใช่ย่อยทีไหนกัน” นาคีพูดแซวเพื่อนสาวที่ไม่แตกต่างอะไรไปจากตนเอง
“ฉันรู้ตัวเองดียะ ฉันสวยน่ารัก แต่เธอนี้สิ นาคี สวยยังกะนางเอกหนังช่องเจ็ดเลย”
ขวัญเรือนกล่าวชื่นชมนาคีที่เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า นาคีสวยงามราวกับนางในวรรณคดีไทย
“พอละ ได้ยินจนเบื่อแล้ว ฉันก็ว่าฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาแค่นั้นเอง”
นาคีตอบขณะที่เตรียมตัวจะกลับห้องพัก นาคีมีแมวมองหลายคนมาติดต่อให้เธอใช้รูปกายของตนเองให้เกิดทรัพย์ ด้วยการเข้าวงการบันเทิง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเพราะนาคีให้การปฏิเสธแทบทุกครั้งไป ในขณะที่ขวัญเรือนเองก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยใช้ได้อีกคนหนึ่ง สองสาวคบกันเป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่มัธยมปลายจวบจนกระทั้งปัจจุบัน เพราะอุปนิสัยใจคอของทั้งสองคนมีจิตใจที่ยึดเหนี่ยวคุณธรรมความดี ไปพร้อมๆกับความสวยงามตามประสาผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ตามสโลแกนที่ใช้ประกวดนางงามว่า “สวยทั้งกายและใจ”
“สนุกจังเลย...” ขวัญเรือนพูดขณะที่สองสาวกำลังนั่งลงที่โขดหิน แช่เท้าลงไปในน้ำอย่างสบายตัว ตาจ่องมองไปยังผืนน้ำที่ใสสะอาดผืนใหญ่ทั่วบริเวณเขื่อนกักเก็บน้ำ
“กรี๊ดๆ”
“เป็นอะไรเหรอขวัญ” นาคีรีบถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงปะปนกับความตกใจที่อยู่ๆขวัญเรือนก็กรีดร้องออกมาอย่างไม่เป็นปี่เป็นขลุ่ย หากแต่ขวัญเรือนไม่ตอบ เธอรีบลุกขึ้นแล้วย้ำเท้าก้าวเดินพรวดๆไปทันที
“ลูกเต้าของใครนะ...พ่อแม่ไม่อยู่ดูแลหรือไง” เสียงรำพึงรำพันของขวัญเรือน ทำให้นาคีหันไปมองเพื่อนสาวที่ก้าวเดิน
“มีอะไรเหรอขวัญ”
“ก็ดูนั้นสิ...เด็กสองคนนั้น...เล่นอะไรก็ไม่รู้ที่สุด...เกิดมันคว่ำขึ้นมาจะเป็นยังไง”
ขวัญเรือนมีสีหน้าตกใจ เมื่อจักรยานน้ำ เครื่องเล่นที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวค่อยๆแล่นไปไกลขึ้น ไกลขึ้นสู่ผืนน้ำที่อยู่ไกลออกไป
“คงไม่มีอะไรหรอกมั่งขวัญ คงเป็นเด็กแถวนี้นั้นแหละ คงเคยชินกับสิ่งแวดล้อมที่มีมาตั้งแต่เกิด”
นาคีมองเด็กสองคนที่ส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานขณะที่กำลังขับเรือจักรยานน้ำ ทั้งสองออกแรงปั่นเรือจักรยานน้ำด้วยความเร็ว เพื่อเร่งให้เรือบริเวณเขื่อนกักเก็บน้ำค่อยๆแล่นไปไกลขึ้น ไกลขึ้น
“หื้อ...ถ้าฉันมีลูกดื้อๆแบบนี้จะตีให้ก้นลายเลย คอยดูสิ”
ขวัญเรือนรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน แทนผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคน พร้อมกับตะโกนเรียกเด็กสองคนให้กลับมาอย่างสุดเสียงแต่ไม่ได้ผล เด็กสองคนนั้นอาจจะไม่ได้ยินเสียงตะโกน หรืออาจจะได้ยินแต่ไม่สนใจก็เป็นไปได้
“โอ๊ย...ฉันชักสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้สิ” ขวัญเรือนพร่ำบ่นออกมา
“สังหงสังหรณ์อะไรอีกละขวัญ” นาคีขยับเข้ามาใกล้เพื่อนสาว ลางสังหรณ์ใจของขวัญเรือนมักจะเป็นจริงเสมอ
“สังหรณ์ใจว่าฉันจะมีลูกดื้อๆแบบนี้นะสิ”
ขวัญเรือนรู้สึกโล่งใจขึ้นมา สิ่งที่เธอคิดไว้ไม่ได้เป็นไปตามลางสังหรณ์ใจของขวัญเรือน
“แล้วจะเอายังไงดีละ” นาคีถาม เมื่อเห็นขวัญเรือนยืนนิ่งมองไปยังเบื้องหน้าตาไม่กะพริบ
“งันเราสองคนอย่าพึ่งรีบกลับกันเลยดีกว่านะ รอให้ลิงสองตัวนั้นกลับเข้าฝั่งซะก่อน กลับขึ้นมาเมื่อไหร่จะตีให้ร้องให้กลับบ้านไปเลย ไปฟ้องพ่อฟ้องแม่เลยยิ่งดี จะได้อบรมกันให้เสร็จสรรพ” ขวัญเรือนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เอาจริง ซึ่งนาคีรู้ดีเพราะเป็นเพื่อนกันมานานจนรู้ใจกันไปหมดเกือบทุกเรื่อง
สองสาวนั่งเล่นอยู่ริมชายหาดขณะที่รอเด็กสองคนนั้นขี่จักรยานน้ำกลับเข้าฝั่ง ทั้งสองพูดคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆ
“เราว่านะ ถ้าขวัญมีลูก ลูกของขวัญต้องเป็นคนที่มีระเบียบเรียบร้อย และก็เก่งเหมือนแม่แน่เลย”
“ฉันจะมีลูกได้ไง แฟนยังไม่มีเลย ไม่รู้ว่าเกิดแล้วหรือยัง”
นาคีมองไปที่พวงแก้มของขวัญเรือนที่แดงซ่านด้วยความอาย
“แล้วหนุ่มหล่อหน้าตี๋ที่นั่งคุกเข่าขอแต่งงานกลางห้างสรรพสินค้า แถวมาบุญครองละจ๊ะ”
“ฉันก็อยากแต่งอยู่หรอกนะ แต่ฉัน........อื้อ..........ไม่รู้สิฉันเองก็บอกไม่ถูกกัน”
ขวัญเรือนตอบ ขณะที่ตามองไปบนท้องฟ้าครู่หนึ่งก่อนจะก้มลงมามองผืนน้ำกำลังใช้หัวใจคิดอยู่อย่างจริงจัง นาคีเห็นเข้าก็หัวเราะยกใหญ่ ขำในท่าทางของเพื่อน
“ขวัญก็รับรักแต่งงานกับตี๋หล่อซะสิ มัวแต่แอ๊บนางเอกอยู่ได้..ระวังนะค่ะนางร้ายจะคว้าไปรับประทานซะก่อน”
“ก็ลองดูสิ...นางเอกผู้แสนดีงามอย่างฉัน...บู้เป็นเหมือนกันนะ...ตบเป็นตบ..แต่...แต่ไม่เอาดีกว่าคนสวยอย่างฉันเลือกได้ไม่จำเป็นต้องลดตัวไปตบตีแย่งว่าที่สามีกับใครหรอกนะ ผู้ชายต้องเป็นผ่านเดินเข้ามาหาฉันเท่านั้น”
นาคียิ้มหัวเราะเพื่อนสาว
“อ้าว...แต่ตี๋หล่อเขาก็เป็นฝ่ายก้าวเดินเข้ามาหาขวัญแล้วนะ”
ขวัญเรือนนั่งเงียบตามองสิ่งหนึ่งแต่ใจก็คิดอีกอย่างหนึ่ง นาคียิ้ม เธอคิดภาพถึงนางเอกมิวสืกวีดีโอเพลงรักเพลงหนึ่ง สีหน้าท่าทางไม่ผิดเพี้ยนจากขวัญเรือนเลย
“มัวแต่เล่นองค์ทรงเครื่อง แล้วเมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ละค่ะ คุณขวัญผวา เฮ้ย...คุณนายขวัญเรือน” นาคีพูดหยอก
“ยังไม่ถึงเวลา...รับปริญญาเรียบร้อยซะก่อนค่อยว่ากัน” นาคีตอบแล้วหันหน้ามามองหน้าเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ
“แล้วหล่อนละย่ะคุณหญิงนาคี เมื่อไหร่จะเปิดประตูหัวใจให้ชายหนุ่มนับสิบที่แย่งบัตรเข้าไปอยู่ในซอกลืบของหัวใจซะที...ฉันไม่ได้ยอกันเองนะ ในสายตาของฉัน ฉันว่า นาคีเป็นผู้หญิงที่สวยมากจนบางครั้งฉันเองยังอิจฉาเลย ทรวดทรงองค์อกสะโพกเอวก็ขั้นเทพ เรียนก็เก่ง นิสัยก็ดี แต่อาจจะมีแปลกบ้างก็ตรงที่กินน้ำเก่งมาก”
“พอละ...ฉันจะลอย”
“ฉันพูดจริงๆนะนาคีตลอดระยะเวลาที่เราสองคนรู้จักกันมาก็นานเหมือนกันนะ จำได้ว่าตั้งแต่สมัยตอนที่เธอยังสวยสู่ฉันยังไม่ได้ คือแบบว่าเทียบไม่ติดเลย หน้าตาของเธอยังกะโหลกกะลาไก่กาอยู่เลย จวบจนทุกวันนี้เธอได้แปลงร่างกลายเป็นนางฟ้านางสวรรค์ผู้โฉมงามหาได้มีหญิงสาวนางใดมาเทียมเท่า นางเอกช่องไหนมาเจอก็ต้องหลบ”
ขวัญเรือนพูดตามความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้พบเห็นตลอดช่วงเวลาที่เป็นเพื่อนสนิทกัน
“ก็ต้องหลบสิ ฉันแบกคานมาอย่างใหญ่นี้หนา” นาคีแย้ง
“แบกคง แบกคาน อะไรที่ไหนกัน หลบเพราะว่านาคีส่องแสงแห่งความงามออกมาซะเปล่งประกาย”
“เกินปะ” นาคีปฏิเสธคำพูดของเพื่อน
“ผู้ชงผู้ชายก็มากมายหลายหน้า อุ้ย! โทษทีพูดผิด มากหน้าหลายตา ถ้าให้ฉันนับผู้ชายที่มาขายขนมจีบเธอนะนาคี ฉันยังนับไม่ถูกเลย ”
ขวัญเรือนคิดถึงเรื่องราววุ่นๆ ยามที่หนุ่มๆในมหาวิทยาลัยมีเรื่องมีราวเพราะนาคีนั้นเอง
“ขวัญ...ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเป็นคนไร้หัวใจละ เธอจะเชื่อฉันรึเปล่า”
“ไม่หรอก ฉันว่าคนคนนั้นกำลังจะมาในอีกไม่ช้า ฉันรู้สึกมีลางสังหรณ์ดีดียังไงก็ไม่รู้”
นาคีตกใจในลางสังหรณ์ของขวัญเรือนอีกครั้ง เธอได้แต่นั่งเงียบผู้ชายคนนั้นจะเป็นใครหนอ จะเป็นคนดีหรือเปล่า จะรักเธอมากมายขนาดไหน คำถามมากมายอยู่ในใจของนาคีเต็มไปหมด
“เฮ้อ...เพื่อนฉัน...กลายเป็นเจ้าสาวกลัวฝนซะแล้ว”
ขวัญเรือนถอนหายใจ เดินลงในน้ำตื้นบริเวณริมชายหาดอย่างสบายใจ หญิงสาวคิดถึงผู้ชายที่หน้าตี๋ ที่คอยตามตื้อตามจีบเธออยู่เป็นนานแสนนานไม่ยอมแพ้หนีหายไปไหนจนในที่สุด ขวัญเรือนก็ยอมยกสี่ห้องหัวใจให้เขาไปหมดทั้งใจ
คิดแล้วขวัญเรือนยิ้มอย่างสุขสมในหัวใจ ยิ้มซะจนหน้าบานลุกขึ้นยืนมองนู้นมองนี้แก้อาการเขินอาย
ขวัญเรือนมองไปที่ผืนน้ำขนาดใหญ่ที่มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ลางสังหรณ์ของเธอเหมือนเป็นของวิเศษอะไรซักอย่าง ถ้าเป็นเรื่องดีขวัญเรือนก็น่าภาคภูมิใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องร้ายๆเธอเองจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนคนนั้น แม้ว่าเธอจะถูกด่าทอกลับมาก็ตาม
ความคิดเห็น