คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลูกสาวท่านรัฐมนตรี
ลูกสาวท่านรัฐมนตรี
“ฟลอร่า!! นี่เจ้าจะนอนไปถึงไหนกัน คืนนี้เทพอากัสจะจัดงานรื่นเริงนะ” เสียงของหญิงสาวที่มีใบหน้าอันงดงาม แม้จะมีร่องรอยเหี่ยวย่นอยู่บ้าง แต่ก็ยังดูน่าหลงใหลเสมอ โวยวายอย่างอารมณ์เสียในเวลาบ่ายสองโมงสิบห้านาที หล่อนเอือมระอากับลูกสาวจอมขี้เซาคนนี้จริงๆหลังจากรู้ว่าทางบ้านได้รับการเชิญชวนให้ไปร่วมงานเลี้ยงของเทพอากัสผู้เปรียบเสมือนผู้ว่าราชการของอาณาจักรฟาเรส
“โถ่ ! ท่านแม่ข้ามิได้อยากไปงานรื่นเริงจำพวกนั้นเลยนะ”ฟรอล่าหญิงสาวผู้มีดวงตาสีเทานิล พร้อมกับความลงตัวของความงามบนใบหน้าของหล่อน ที่ทำให้เทวดาองค์ใดเห็นจะต้องตกตะลึงและเป็นทาสรักของนางทันที
“แต่เจ้าต้องไป ตลอดอายุ 17 ปีของเจ้า เจ้าเคยออกไปร่วมงานรื่นเริงเพียงสองสามหน จนพวกเทวดา นางฟ้า แถวนี้หาว่าข้ามิมีทายาทเสียแล้ว”หญิงสาวกล่าวขึ้นอย่างมีน้ำโห
สุดท้ายฟลอร่าก็เดินลงมาในเวลาเกือบห้าโมงด้วยท่าทีสง่าและสวยงามหลังจาก ฟีโอไนท์ แม่ของเจ้าหล่อนจัดการแต่งหน้าทำผมให้สมกับการเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว ลาฟาโน่ แม้ใบหน้าอันเรียวงามของหญิงสาวจะไม่ค่อยร่าเริงในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ซักเท่าไหร่ แต่เจ้าหล่อนรู้ตัวดีว่าอีกไม่ช้าหล่อนจะต้องยิ้ม และกล่าวทักทายผู้คนจนมือค้างเลยทีเดียว
ภายในงานมีความงดงามของปุยเมฆที่มารวมตัวกันอย่างที่นางไม่เคยเห็นเพราะปกติหมู่เมฆไม่เคยรวมตัวกันได้มากขนาดนี้พร้อมกับเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ที่ตกแต่งรอบงานอย่างสวยงาม นอกนั้นยังมีเหล่าเทวดา นางฟ้าที่แต่งตัวราวกับจะมาเดินแบบกัน หล่อนคิดในใจว่ามันจะต้องสนุกแน่ ๆ
“แม่หวังว่าเจ้าจะเป็นเด็กดีในงาน หวังว่าเจ้าจะไม่ก่อเรื่อง และหวังว่าเจ้าจะไม่ไปไหนคนเดียว”หญิงสาวผู้เป็นแม่เอ่ยหลังจากรู้อุปนิสัยแสนซนของลูกสาวหล่อนดี ฟลอร่าเพียงแต่พยักหน้าและยิ้มสดใสกับผู้เป็นมารดาหล่อนรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าหล่อนจะต้องสงบเสงียม และเรียบร้อยขนาดไหน
“นี่ !! ฟลอร่าฉันหวังว่าเธอจะไม่เป็นแบบนี้อีกนะ มิฉะนั้นฉันคงต้องผิดสัญญาคุณแม่ของเธอ ถึงแม้ว่าเจ้าหล่อนจะเป็นเพื่อนที่แสนดีขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าเธอยังประพฤติแบบนี้อยู่ละก็ ฉันคงต้องให้เธอหางานใหม่แล้วละ”หญิงสาววัยหมดอายุราชการกล่าวขึ้นมาหลังจากทนดูสาวใช้ของหล่อนนอนพร่ำเพ้อไม่ไหว
“หนูขอโทษค่ะคุณหญิง หนูสัญญานี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหนูจะทำงานชดเชยค่ะ”สาวน้อยร่างบอบบางกล่าวขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะหล่อนเองย้ายที่ทำงานมาแล้วถึงเจ็ดครั้ง แต่หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะนอนตื่นสายเลยเพียงแต่หล่อนฝันถึงการที่หล่อนเป็นลูกรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและบ้านที่ใหญ่ตัวบนท้องฟ้า หรือบนสวรรค์นั้นน่ะ สาวน้อยฝันแบบนี้มาแล้วร่วมสองปี แรกๆหล่อนก็คิดว่าหล่อนคงฟังนิทานหรือดูละครหลังข่าวมากเกินไป แต่ตอนนี้หล่อนเริ่มหนักใจแล้วเมื่อบางครั้งหล่อนคิดว่าหล่อนเป็นฟลอร่าในแดนสวรรค์จริง ๆ หล่อนเคยถูกนายหญิงของบ้านหลังก่อนพาไปพบจิตแพทย์และตอนนี้หล่อนก็ต้องกินยาเพื่อระงับที่นายหญิงคนเก่าบอกว่าเป็นอาการพร่ำเพ้อฝันเกินจริง ซึ่งหล่อนมักจะละเลยการกินยาอยู่เสมอเพราะหล่อนมั่นใจว่าหล่อนไม่ได้บ้าให้ตายเถอะ
วันนี้หล่อนต้องเร่งทำงานบ้านและจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนภายในภายในสี่โมงเย็นของวันนี้ซึ่งก็เหลือเวลาให้หล่อนอีกเพียงแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น เวลาขนาดนี้อาจดูว่ามากแต่สำหรับบ้านที่ใหญ่โตที่มีแม่บ้านเพียงแปดคนมันก็เป็นภาระที่หนักพอตัวเพราะแม่บ้านตัวน้อยมักจะได้รับงานหนักกกว่าคนอื่นเสมอ
หลังจากที่หล่อนทำงานบ้านเสร็จยังเหลือเวลาให้หล่อนเตรียมตัวที่จะไปเรียนภาคค่ำอีกตั้งสามสิบนาทีซึ่งมากเกินพอสำหรับการอาบน้ำและเตรียมบทเรียน หล่อนออกจากบ้านตอนสี่โมงเย็นพอดีซึ่งก็เป็นเวลาประจำที่หล่อนออกไปเรียน
“แหม ! นังคนเพ้อเจ้อ กำลังจะไปเรียนหรอ เธอนี่ก็ทำงานรวดเร็วดีเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่างานที่หล่อนทำจะเรียบร้อยสะอาดดีหรือเปล่า ถ้าฉันเจอพิรุธล่ะก็ หล่อนได้ออกจากงานแน่ ๆ”
ฟลอร่ายิ้มพยักหน้าพร้อมกับก้มหน้าฟังคุณหนูพลอยเพชร พล่ามซึ่งเธอมักจะต้องฟังก่อนไปเรียนก่อนเป็นประจำและภายในใจก็ภาวนาอยู่เสมอว่าขออย่าให้มีขอผิดพลาดในการทำงานของหล่อนเลย หล่อนยังไม่อยากเปลี่ยนที่ทำงานใหม่หลังจากฟังคุณหนูบ่นและสบถด่าหล่อนสารพัด หล่อนก็เห็นสมควรว่าหล่อนควรจะไปได้แล้ว จึงก้มหน้าไหว้พร้อมเดินจากไป แม้จะได้ยินเสียงตะโกนและไม่พอใจจากบุคคลที่ได้รับการไหวหลังจากที่หล่อนเดินจากไปดื้อๆ
ฟลอร่าเดินมาตามทางใบหน้าสวยสดของหล่อนอิดโรยไปเรื่อย ๆ หล่อนเหนื่อยเหลือเกินหล่อนอยากจะกระโดดตึกตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ทว่าทุกครั้งที่หล่อนคิดจะฆ่าตัวตายหล่อนก็นึกถึงคำพระที่ท่านว่าทุกทีว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาปหนาเพราะพ่อแม่อุตส่าสั่งสมความรักเพื่อที่จะให้กำเนิดชีวิตเราขึ้นมาแม้ว่าพ่อกับแม่ของหล่อนจะจากไปตั้งแต่หล่อนมีอายุได้สองขวบ แล้วหล่อนก็อยู่กับป้าซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีที่แล้วทำให้หล่อนต้องอยู่ตัวคนเดียวตลอดมา
“สวัสดีค่ะ วันนี้ทางกลุ่มของเราเต็มใจนำเสนอโครงการ ยิ้มแห่งสยามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก เอาละค่ะขอเสียงตลบมือให้กับคุณพชนารัช ที่จะมาอธิบายเกี่ยวกับโครงการนี้ค่ะ” ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเธอไฟในหอประชุมก็พลันดับลงทำให้เกินความอลวนขึ้น ตอนนี้หล่อนกำลังยืนนิ่งมิใช่ว่าหล่อนตกใจจนไม่กล้าขยับไปไหนแต่หล่อนไม่สามารถขยับตัวได้ต่างหาก หล่อนพยายามออกแรงสุดชีวิตเพราะเกรงว่าไฟที่กำลังลุกอยู่จากภายนอกจะเข้ามาเอาชีวิตที่หล่อนถนอมมาอย่างดีไป หล่อนกรีดร้องสุดชีวิตเพียงหวังจะให้มียอดมนุษย์สักคนมาช่วยชีวิตหล่อน แต่ยอดมนุษย์น่ะมีในนิยายเท่านั้นแหละ …
ความคิดเห็น