ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอและฉันจัตุรัสหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #7 : เริ่มงาน...( รึเปล่า )

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 49


    "แพรวันนี้ชมรมของเรามีคนมาสมัครเต็มเลย"ธัชพูดพร้อม

    ปาดเหงื่อที่ซึมบริเวณหน้าผาก ยิ่งวันนี้เป็นวันรับสมัครสมาชิก

    ชมรมใหม่แล้วพวกเราในฐานะผู้ก่อตั้ง ชมรมคนรักหนังสือก็เลย

    ต้องเหนื่อยกันเป็นพิเศษ แล้วก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งที่

    สมาชิกของเราก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดเด็กๆรุ่นน้องเลย อย่างเช่นธัชชัย

     หนุ่มหล่อนักกีฬาโรงเรียนที่อาสามาช่วยจนมีเด็กรุ่นน้องมาติด

    สมาชิกชมรมเราหนึบหนับ น้ำทิพย์สาวสวยดีกรีเชียร์ลีดเดอร์สีฟ้า

    ที่สวยเซ็กซี่พอจะดึงดูดหนุ่มๆหลายคน ภัสราสาวหมวยไฮโซที่ใจดี

    พูดเพราะ และสองคนสุดท้ายคือ แพรไหมและวนิดาสองสาว

    หน้าจืดที่ไม่ค่อยเป็นที่ฮือฮาเท่าไหร่ แต่ถึงจะจืดยังไงก็มีแฟนเป็น

    หนุ่มป็อบคนสำคัญของโรงเรียน โฮะๆๆๆไม่ได้หลงตัวเองน่ะแค่

    อยากอวดนิดหน่อย

    "น้องค่ะกรอกใบสมัครด้วยค่ะ" ฉันส่งใบสมัคร

    "พี่แพรค่ะ พี่แพรใช่หรือเปล่าค่ะ"เสียงหวานๆดังแจ้วๆ

    "อ๋อ....ใช่ค่ะ เอ๊ะ! นี้น้องมิ้นใช่ไหมค่ะ"ฉันพูดอย่างดีใจ

    "ค่ะมิ้นขอใบสมัครด้วย"


    "
    ได้เลยค่ะน้องมิ้น"ฉันดีใจกว่าเดิมอีก ไม่ใช่อะไรหรอกมิสทีนไทยแลนด์มาอยู่ชมรมเดียวกับฉัน มันก็คือประชาสัมพันธุ์อันยอดเยี่ยมของชมรม

    "ผมพอรู้แล้วล่ะว่าทำไมชมรมเราถึงป็อบปูล่าขนาดนี้"ธัชแอบกระซิบจนพักเที่ยงนั้นแหละกลุ่มผู้ก่อตั้งชมรมเลยต้องมานั่งหอบแฮกแฮกกันที่โรงอาหาร อันประกอบด้วยฉัน ธัช หมวย ทิพย์และนิว

    "ฉันล่ะหมั่นไส้ ไอ้ธัชจริงๆแลยว่ะ"หมวยพูดขำๆ

    "ทำไมเหรอ"ฉันถาม

    "ก็ดูเด่ะ เล่นมีน้องๆมาสารภาพรักตั้งหลายคน ไม่รู้ตาบอดหรือหน้ามืดชั่วคราว"ทิพย์แหย่แล้วก็ทำให้ธัชเต้นเหยงๆ

    "ทำไมอิจฉาอ่ะเด่ะ ก็คนมันหล่อทำไงได้"

    "พวกเราช่วยกันอ้วกหน่อย" ฉันหัวเราะกับความหลงตัวเอง

    "ได้ไงล่ะ เสียดายอาหาร"นิวแลบลิ้นใส่ธัช

    "เออ....สองสามวันนี้ ไม่ค่อยได้เห็นปาล์มเลย"กลุ่มเราขาดไปคนดูมันไม่ครบยังไงไม่รู้

    "อ๋อ.... ปาล์มยุ่งกับชมรมศิลปะน่ะ เมื่อวานบอกว่าต้องวาดภาพจัดบอร์ดนิทรรศการศิลปะกันยันโต้รุ้งเลย"ฉันพูดก็เมื่อวานปาล์มโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

    "ตายจริง... ไม่รู้ว่ากลายเป็นผีเฝ้าห้องศิลปะไปหรือยังแพรแกน่าจะไปดูไอ้ปาล์มมันหน่อยน่ะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเองแท้ๆ"ทิพย์พูด

    "เมื่อวานก็ว่าจะไปดูปาล์มอยู่ แต่ปาล์มบอกว่าไม่ต้อง"ฉันพูดฝืนๆ ชักเป็นห่วงปาล์มขึ้นมาแล้วสิ

    "งั้นฉันว่า  ฉันสั่งข้าวผัดกุ้งใส่กล่องไปให้ปาล์มดีกว่า"

    "เดี๋ยวสิแพร  แพรยังทานไปได้ไม่ถึง2คำเลยน่ะ" ธัชชัยรีบประท้วง

    "ไม่เป็นไรน่าธัช"ฉันพูดจบก็เดินไปสั่งข้าวผัดใส่กล่องที่โรงอาหาร ให้ตายเด่ะนี้มันเป็นเวรเป็นกรรมของฉันหรือไงว่ะที่ต้องมาอาศัยอยู่ในโรงเรียนที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ แล้วห้องศิลปะที่ปาล์มสิงสถิตอยู่ก็ไกลพอๆกับการเดินจากเชียงใหม่มายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (เวอร์ไปนิดแล้ว)ในที่สุดฉันก็เดินหอบแฮกๆมาถึง

    "ปาล์ม ดูเด่ะมิ้นเมื่อยแล้วน่ะ"เสียงใสๆดังขึ้น

    "อ้าว....มิ้นก็ผมบอกแล้วนี้ว่าให้พักหน่อยก็ไม่เชื่อ"ปาล์มพูดเสียงดูเบิกบานเต็มที่

    "โหย....มิ้นรู้น่ะว่าปาล์มจะรีบวาดรูปจัดนิทรรศการ ระวังน่ะนิทรรศการจะล่มเพราะรูปมิ้นเป็นเหตุ"

    "รู้ตัวก็ดีแล้วคร้าบ"

    "เอ๊ะ...ปาล์มนี้"มิ้นพูดแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น ภาพที่ฉันเห็นมันก็เหมือนกับการหยอกล้อกันธรรมดานี้แหละ แต่ทำไมน่ะหัวใจของฉันมันถึงเจ็บขนาดนี้ ไม่น่ะ ปาล์มก็แค่ให้น้องมิ้นมาเป็นแบบในงานนิทรรศการศิลปะเท่านั้น ปาล์มเคยบอกให้เชื่อใจปาล์มนี้นา

    "ปาล์มทานข้าวหรือยัง แพรซื้อข้าวผัดกุ้งของโปรดปาล์มมาฝาก"ปาล์มดูจะชะงักไป

    "แพรไม่เห็นต้องลำบากเลย"ปาล์มลุกขึ้นรีบเดินมารับข้าวผัด เสื้อนักเรียนของเขามีรอยสีน้ำเปรอะเป็นด่างๆดวงๆ

    "ดูสิเลอะเทอะหมดเลย"ปาล์มจูบเบาๆที่หน้าผาก

    "ไอ้ปาล์มบ้า อายเค้าน้องมิ้นเป็นแบบให้ปาล์มระวังรูปจะออกมาเละน่ะค่ะ"ฉันหันไปพูดกับน้องมิ้น ซึ่งน้องมิ้นก็ยิ้มตอบ

    "นั้นสิค่ะ พี่แพรพูดมาก็ถูกงั้นมิ้นไม่เป็นแบบและ"น้องมิ้นพูดทำนองเห็นด้วย

    "โธ่แพรพูดเสียปาล์มเสียเลย"

    "ไหนๆพี่แพรก็มาแล้ว มาทานข้าวด้วยกันสิค่ะ"

    "ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทานแล้วน้องมิ้นอยู่ด้วยก็ดีฝากปาล์มด้วยน่ะค่ะ"ฉันส่งกล่องข้าวผัดไปให้น้องมิ้นรับไปจัดใส่จาน

    "งั้นแพรไปก่อนน่ะ อย่าหักโหมมากไปน่ะ"

    ฉันออกมานอกห้องศิลปะด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้น ภาพของปาล์มกับมิ้นที่อยู่ไกล้ชิดกันทำให้ฉันฟุ้งซ่าน โอ๊ย! นึกอยากเขกหัวตัวเอง ปาล์มกับมิ้นก็แค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่มาอยู่ด้วยกันก็เพราะว่างานนิทรรศการศิลปะต่างหาก คิดแล้วก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

    +อยู่กันอย่างนี้นานนานน่ะเธอ จากกันวันไหนฟ้าคงจะผิดหวัง อยู่กันตรงนี้หัวใจจะฝากฝังใส่มือเธอนั้น อย่าไปไหน อย่าไปไหน อย่าไปไหน+เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น

    "ไงค่ะพี่พลอย มีอะไรเหรอ"

    "เปล่า พี่แค่จะโทรมาถามว่า วันนี้ปาล์มมาส่งเหมือนเดิมหรือเปล่า"นี้ก็แปลก ร้อยวันพันปีพี่ไม่เคยถาม

    "ทำไมอ่ะ"

    "พี่เป็นห่วงไม่อยากให้กลับบ้านคนเดียว ถ้าปาล์มไม่ได้มาส่งพี่ให้คนขับรถไปรับน่ะ"

    "ไม่ต้องค่ะพี่ ปาล์มไปส่งพี่อย่าลำบากเลย"

    "งั้นเหรอ เออ...แล้วไป"

    บ้าจริงนี้ทำไมฉันต้องโกหกไปด้วยน่ะ ก็ในใจลึกๆฉันยังหวังให้ปาล์มไปส่งอย่างเคยนี้นา ทุกทีต่อให้ยุ่งแค่ไหนเขาก็จะไปส่ง

    วันนี้คงจะเป็นวันแรกในรอบหลายปีหลังจากคบกับปาล์ม ที่ฉันต้องกลับบ้านคนเดียว

    "พี่แพรค่ะ รอเดี๋ยวค่ะ"เสียงใสใสดังขึ้น ฉันหันไปก็ไปเจอน้องมิ้นซึ่งจากท่าทางคงวิ่งตามมาหน้าตั้งเชียวล่ะ

    "น้องมิ้นมีอะไรหรือเปล่าค่ะ"ฉันถามอย่างสงสัย

    "ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือบ้านใหม่มิ้นอยู่ทางเดียวกับบ้านพี่แพร มิ้นเลยขอกลับด้วยคน"

    "ได้เลย พี่จะได้มีเพื่อนคุย"ฉันพูดอย่างเขินๆ ก็แหมนี้ฉันได้กลับบ้านกับน้องมิ้นมิสทีนไทยแลนด์เชียวน่ะ

    "น้องมิ้นย้ายมาจากโรงเรียนอะไรค่ะ"ฉันถามชวนคุย

    "ย้ายมาจากอเมริกาค่ะ คือพ่อมิ้นเป็นทูตอยู่ที่นั้น พอตอนหลังพ่อย้ายกลับมาทำงานในกระทรวงมิ้นเลยตามมา"ยัยนี้ถ้าจะประสาทถามว่ามาจากโรงเรียนอะไรดันตอบว่าย้ายมาจากอเมริกา

    "น้องมินย้ายไปอเมริกาแต่เด็กเลยเหรอค่ะ"ฉันถามอีกน้องมิ้นเงียบไปพักหนึ่ง ก็หันมาสบตาฉันคล้ายจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด

    "จริงๆแล้วมิ้นตามคุณพ่อไปอเมริกาแค่2ปีค่ะ มิ้นเคยอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆ พ่อกับแม่มิ้นเลิกกันค่ะ"น้องมิ้นเงียบไปสักพักหนึ่งก็พูดขึ้นมาอีก

    "ตอนมิ้นตามคุณพ่อไปมิ้นยังเด็ก ยังไม่เข้าใจหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไร ที่มิ้นกลับมาก็แค่อยากจะทวงคืนหัวใจของมิ้นที่ยังอยู่ที่นี้ พี่แพรค่ะ...มิ้นขอ ขอหัวใจมิ้นคืนได้ไหมค่ะ ขอบคุณที่พี่แพรช่วยดูแลมาตลอดเวลาหลายปี" งงค่ะงง ตอนนี้เครื่องหมายเควชชั่นมาร์ค คงจะลอยเต็มหัวสมองอันกลวงๆของฉัน หมายความว่าไงแล้วฉันไปดูแลหัวใจให้ยัยน้องมิ้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    "คือพี่แพร...งงค่ะ"ฉันพูดแห้งๆ รู้สึกแปลกเหลือเกิน

    "ช่างมันเถอะค่ะ พี่แพรอย่าคิดมากเลยค่ะ"น้องมิ้นไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

    "ถ้าสักวันมิ้นทำให้พี่แพรเสียใจ พี่แพรอย่าโกรธเลยน่ะค่ะเพราะมิ้นไม่ได้ตั้งใจเลย"น้องมิ้นพูดอีกก็งงอีก

    "แหมน้องมิ้นจะมาทำอะไรให้พี่โกรธได้ล่ะค่ะ"

    "สัญญาสิค่ะ พี่แพร"

    "สัญ...สัญญาค่ะ"ฉันรับคำแห้งๆ เฮ้อ...น้องมิ้นนี้แปลกๆน่ะ ฉันคิดเรื่องนี้จนปวดหัวพอถึงบ้านฉันก็เลยลืมๆไป ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าจากวันนี้ ชีวิตของฉันครึ่งหนึ่งกำลังจะหายไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×