คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เริ่มงาน...( รึเปล่า )
"แพรวันนี้ชมรมของเรามีคนมาสมัครเต็มเลย"ธัชพูดพร้อม
ปาดเหงื่อที่ซึมบริเวณหน้าผาก ยิ่งวันนี้เป็นวันรับสมัครสมาชิก
ชมรมใหม่แล้วพวกเราในฐานะผู้ก่อตั้ง ชมรมคนรักหนังสือก็เลย
ต้องเหนื่อยกันเป็นพิเศษ แล้วก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งที่
สมาชิกของเราก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดเด็กๆรุ่นน้องเลย อย่างเช่นธัชชัย
หนุ่มหล่อนักกีฬาโรงเรียนที่อาสามาช่วยจนมีเด็กรุ่นน้องมาติด
สมาชิกชมรมเราหนึบหนับ น้ำทิพย์สาวสวยดีกรีเชียร์ลีดเดอร์สีฟ้า
ที่สวยเซ็กซี่พอจะดึงดูดหนุ่มๆหลายคน ภัสราสาวหมวยไฮโซที่ใจดี
พูดเพราะ และสองคนสุดท้ายคือ แพรไหมและวนิดาสองสาว
หน้าจืดที่ไม่ค่อยเป็นที่ฮือฮาเท่าไหร่ แต่ถึงจะจืดยังไงก็มีแฟนเป็น
หนุ่มป็อบคนสำคัญของโรงเรียน โฮะๆๆๆไม่ได้หลงตัวเองน่ะแค่
อยากอวดนิดหน่อย
"น้องค่ะกรอกใบสมัครด้วยค่ะ" ฉันส่งใบสมัคร
"พี่แพรค่ะ พี่แพรใช่หรือเปล่าค่ะ"เสียงหวานๆดังแจ้วๆ
"อ๋อ....ใช่ค่ะ เอ๊ะ! นี้น้องมิ้นใช่ไหมค่ะ"ฉันพูดอย่างดีใจ
"ค่ะมิ้นขอใบสมัครด้วย"
"ได้เลยค่ะน้องมิ้น"ฉันดีใจกว่าเดิมอีก ไม่ใช่อะไรหรอกมิสทีนไทยแลนด์มาอยู่ชมรมเดียวกับฉัน มันก็คือประชาสัมพันธุ์อันยอดเยี่ยมของชมรม
"ผมพอรู้แล้วล่ะว่าทำไมชมรมเราถึงป็อบปูล่าขนาดนี้"ธัชแอบกระซิบจนพักเที่ยงนั้นแหละกลุ่มผู้ก่อตั้งชมรมเลยต้องมานั่งหอบแฮกแฮกกันที่โรงอาหาร อันประกอบด้วยฉัน ธัช หมวย ทิพย์และนิว
"ฉันล่ะหมั่นไส้ ไอ้ธัชจริงๆแลยว่ะ"หมวยพูดขำๆ
"ทำไมเหรอ"ฉันถาม
"ก็ดูเด่ะ เล่นมีน้องๆมาสารภาพรักตั้งหลายคน ไม่รู้ตาบอดหรือหน้ามืดชั่วคราว"ทิพย์แหย่แล้วก็ทำให้ธัชเต้นเหยงๆ
"ทำไมอิจฉาอ่ะเด่ะ ก็คนมันหล่อทำไงได้"
"พวกเราช่วยกันอ้วกหน่อย" ฉันหัวเราะกับความหลงตัวเอง
"ได้ไงล่ะ เสียดายอาหาร"นิวแลบลิ้นใส่ธัช
"เออ....สองสามวันนี้ ไม่ค่อยได้เห็นปาล์มเลย"กลุ่มเราขาดไปคนดูมันไม่ครบยังไงไม่รู้
"อ๋อ.... ปาล์มยุ่งกับชมรมศิลปะน่ะ เมื่อวานบอกว่าต้องวาดภาพจัดบอร์ดนิทรรศการศิลปะกันยันโต้รุ้งเลย"ฉันพูดก็เมื่อวานปาล์มโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
"ตายจริง... ไม่รู้ว่ากลายเป็นผีเฝ้าห้องศิลปะไปหรือยังแพรแกน่าจะไปดูไอ้ปาล์มมันหน่อยน่ะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเองแท้ๆ"ทิพย์พูด
"เมื่อวานก็ว่าจะไปดูปาล์มอยู่ แต่ปาล์มบอกว่าไม่ต้อง"ฉันพูดฝืนๆ ชักเป็นห่วงปาล์มขึ้นมาแล้วสิ
"งั้นฉันว่า ฉันสั่งข้าวผัดกุ้งใส่กล่องไปให้ปาล์มดีกว่า"
"เดี๋ยวสิแพร แพรยังทานไปได้ไม่ถึง2คำเลยน่ะ" ธัชชัยรีบประท้วง
"ไม่เป็นไรน่าธัช"ฉันพูดจบก็เดินไปสั่งข้าวผัดใส่กล่องที่โรงอาหาร ให้ตายเด่ะนี้มันเป็นเวรเป็นกรรมของฉันหรือไงว่ะที่ต้องมาอาศัยอยู่ในโรงเรียนที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ แล้วห้องศิลปะที่ปาล์มสิงสถิตอยู่ก็ไกลพอๆกับการเดินจากเชียงใหม่มายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (เวอร์ไปนิดแล้ว)ในที่สุดฉันก็เดินหอบแฮกๆมาถึง
"ปาล์ม ดูเด่ะมิ้นเมื่อยแล้วน่ะ"เสียงใสๆดังขึ้น
"อ้าว....มิ้นก็ผมบอกแล้วนี้ว่าให้พักหน่อยก็ไม่เชื่อ"ปาล์มพูดเสียงดูเบิกบานเต็มที่
"โหย....มิ้นรู้น่ะว่าปาล์มจะรีบวาดรูปจัดนิทรรศการ ระวังน่ะนิทรรศการจะล่มเพราะรูปมิ้นเป็นเหตุ"
"รู้ตัวก็ดีแล้วคร้าบ"
"เอ๊ะ...ปาล์มนี้"มิ้นพูดแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น ภาพที่ฉันเห็นมันก็เหมือนกับการหยอกล้อกันธรรมดานี้แหละ แต่ทำไมน่ะหัวใจของฉันมันถึงเจ็บขนาดนี้ ไม่น่ะ ปาล์มก็แค่ให้น้องมิ้นมาเป็นแบบในงานนิทรรศการศิลปะเท่านั้น ปาล์มเคยบอกให้เชื่อใจปาล์มนี้นา
"ปาล์มทานข้าวหรือยัง แพรซื้อข้าวผัดกุ้งของโปรดปาล์มมาฝาก"ปาล์มดูจะชะงักไป
"แพรไม่เห็นต้องลำบากเลย"ปาล์มลุกขึ้นรีบเดินมารับข้าวผัด เสื้อนักเรียนของเขามีรอยสีน้ำเปรอะเป็นด่างๆดวงๆ
"ดูสิเลอะเทอะหมดเลย"ปาล์มจูบเบาๆที่หน้าผาก
"ไอ้ปาล์มบ้า อายเค้าน้องมิ้นเป็นแบบให้ปาล์มระวังรูปจะออกมาเละน่ะค่ะ"ฉันหันไปพูดกับน้องมิ้น ซึ่งน้องมิ้นก็ยิ้มตอบ
"นั้นสิค่ะ พี่แพรพูดมาก็ถูกงั้นมิ้นไม่เป็นแบบและ"น้องมิ้นพูดทำนองเห็นด้วย
"โธ่แพรพูดเสียปาล์มเสียเลย"
"ไหนๆพี่แพรก็มาแล้ว มาทานข้าวด้วยกันสิค่ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทานแล้วน้องมิ้นอยู่ด้วยก็ดีฝากปาล์มด้วยน่ะค่ะ"ฉันส่งกล่องข้าวผัดไปให้น้องมิ้นรับไปจัดใส่จาน
"งั้นแพรไปก่อนน่ะ อย่าหักโหมมากไปน่ะ"
ฉันออกมานอกห้องศิลปะด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้น ภาพของปาล์มกับมิ้นที่อยู่ไกล้ชิดกันทำให้ฉันฟุ้งซ่าน โอ๊ย! นึกอยากเขกหัวตัวเอง ปาล์มกับมิ้นก็แค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่มาอยู่ด้วยกันก็เพราะว่างานนิทรรศการศิลปะต่างหาก คิดแล้วก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
+อยู่กันอย่างนี้นานนานน่ะเธอ จากกันวันไหนฟ้าคงจะผิดหวัง อยู่กันตรงนี้หัวใจจะฝากฝังใส่มือเธอนั้น อย่าไปไหน อย่าไปไหน อย่าไปไหน+เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น
"ไงค่ะพี่พลอย มีอะไรเหรอ"
"เปล่า พี่แค่จะโทรมาถามว่า วันนี้ปาล์มมาส่งเหมือนเดิมหรือเปล่า"นี้ก็แปลก ร้อยวันพันปีพี่ไม่เคยถาม
"ทำไมอ่ะ"
"พี่เป็นห่วงไม่อยากให้กลับบ้านคนเดียว ถ้าปาล์มไม่ได้มาส่งพี่ให้คนขับรถไปรับน่ะ"
"ไม่ต้องค่ะพี่ ปาล์มไปส่งพี่อย่าลำบากเลย"
"งั้นเหรอ เออ...แล้วไป"
บ้าจริงนี้ทำไมฉันต้องโกหกไปด้วยน่ะ ก็ในใจลึกๆฉันยังหวังให้ปาล์มไปส่งอย่างเคยนี้นา ทุกทีต่อให้ยุ่งแค่ไหนเขาก็จะไปส่ง
วันนี้คงจะเป็นวันแรกในรอบหลายปีหลังจากคบกับปาล์ม ที่ฉันต้องกลับบ้านคนเดียว
"พี่แพรค่ะ รอเดี๋ยวค่ะ"เสียงใสใสดังขึ้น ฉันหันไปก็ไปเจอน้องมิ้นซึ่งจากท่าทางคงวิ่งตามมาหน้าตั้งเชียวล่ะ
"น้องมิ้นมีอะไรหรือเปล่าค่ะ"ฉันถามอย่างสงสัย
"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือบ้านใหม่มิ้นอยู่ทางเดียวกับบ้านพี่แพร มิ้นเลยขอกลับด้วยคน"
"ได้เลย พี่จะได้มีเพื่อนคุย"ฉันพูดอย่างเขินๆ ก็แหมนี้ฉันได้กลับบ้านกับน้องมิ้นมิสทีนไทยแลนด์เชียวน่ะ
"น้องมิ้นย้ายมาจากโรงเรียนอะไรค่ะ"ฉันถามชวนคุย
"ย้ายมาจากอเมริกาค่ะ คือพ่อมิ้นเป็นทูตอยู่ที่นั้น พอตอนหลังพ่อย้ายกลับมาทำงานในกระทรวงมิ้นเลยตามมา"ยัยนี้ถ้าจะประสาทถามว่ามาจากโรงเรียนอะไรดันตอบว่าย้ายมาจากอเมริกา
"น้องมินย้ายไปอเมริกาแต่เด็กเลยเหรอค่ะ"ฉันถามอีกน้องมิ้นเงียบไปพักหนึ่ง ก็หันมาสบตาฉันคล้ายจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด
"จริงๆแล้วมิ้นตามคุณพ่อไปอเมริกาแค่2ปีค่ะ มิ้นเคยอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆ พ่อกับแม่มิ้นเลิกกันค่ะ"น้องมิ้นเงียบไปสักพักหนึ่งก็พูดขึ้นมาอีก
"ตอนมิ้นตามคุณพ่อไปมิ้นยังเด็ก ยังไม่เข้าใจหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไร ที่มิ้นกลับมาก็แค่อยากจะทวงคืนหัวใจของมิ้นที่ยังอยู่ที่นี้ พี่แพรค่ะ...มิ้นขอ ขอหัวใจมิ้นคืนได้ไหมค่ะ ขอบคุณที่พี่แพรช่วยดูแลมาตลอดเวลาหลายปี" งงค่ะงง ตอนนี้เครื่องหมายเควชชั่นมาร์ค คงจะลอยเต็มหัวสมองอันกลวงๆของฉัน หมายความว่าไงแล้วฉันไปดูแลหัวใจให้ยัยน้องมิ้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
"คือพี่แพร...งงค่ะ"ฉันพูดแห้งๆ รู้สึกแปลกเหลือเกิน
"ช่างมันเถอะค่ะ พี่แพรอย่าคิดมากเลยค่ะ"น้องมิ้นไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
"ถ้าสักวันมิ้นทำให้พี่แพรเสียใจ พี่แพรอย่าโกรธเลยน่ะค่ะเพราะมิ้นไม่ได้ตั้งใจเลย"น้องมิ้นพูดอีกก็งงอีก
"แหมน้องมิ้นจะมาทำอะไรให้พี่โกรธได้ล่ะค่ะ"
"สัญญาสิค่ะ พี่แพร"
"สัญ...สัญญาค่ะ"ฉันรับคำแห้งๆ เฮ้อ...น้องมิ้นนี้แปลกๆน่ะ ฉันคิดเรื่องนี้จนปวดหัวพอถึงบ้านฉันก็เลยลืมๆไป ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าจากวันนี้ ชีวิตของฉันครึ่งหนึ่งกำลังจะหายไป
ความคิดเห็น