คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วันแรกของการมาเรียน..........
เวลาผ่านไปไวเหมือนกับโกหก วันนี้ฉันนางสาวแพรไหม
สมมติกุล กลายเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียนเต็มตัว ใช่แล้ววันนี้ฉันได้อยู่ ม6
แล้ว ทุกคนอย่าเพิ่งคิดน่ะค่ะว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันเริ่มต้นอย่างฉุกละฮุก
เหมือนเมื่อวันแรกของชีวิต ม.ปลาย แต่วันนี้ชีวิตของฉันมีคนที่อยู่ข้างๆ
และฉันจะฝากชีวิตไว้กับเขา
1 ปีครึ่งแล้วที่เรา 2 คนคบกันอย่างเป็นทางการ ปาล์มก็ยังเป็นเหมือนเดิม
เป็นหนุ่มหล่อสุดป็อบของโรงเรียน ส่วนฉันก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือสาว
ช่างฝัน ช่างจินตนาการ และใช้ชีวิตเกือบทั้งหมดอยู่ในโลกของหนังสือ
ไม่ใช่สิตอนนี้ชีวิตของฉันก็ยังมีปาล์มผู้ชายเจ้าเสน่ห์คนหนึ่งเข้ามาช่วย
แชร์ชีวิตส่วนหนึ่งของฉันไป
“นี้แน่ะ ฉันบอกแล้วกี่ครั้งแล้วว่าข้อนี้มันตอบผิด กระทรวงการคลังไม่มีสิทธิที่จะผลิตเหรียญกษาปณ์ ผู้ผลิตเหรียญกษาปณ์ คือ กรมธนารักษ์” เฮ้อ.....สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือต้องเป็นติวเตอร์ใหญ่ให้กับนิวเพื่อนรักแล้วก็ปาล์มผู้ชายบ้าบอที่เข้ามาวนเวียนในดวงใจ
“เออ.....ใช่โทษที ให้ตายดิ่ฉันอยากมีสมองดีแบบเธอจัง” นิวบ่นขนาดที่ยังคงพลิกแบบฝึกหัดวิชาเศรษฐศาสตร์ไปมา
“ถ้าอยากจะมีกับเขาบ้าง ก็เอาชีทสรุปไปอ่านซ้ำ หยั่งงี้คงจะสอบเข้าได้หรอกมหาวิทยาลัย” ฉันพูดพลางส่งสายตาอำมหิตไปที่ทั้งสองคนนั้น
“คือว่าวันนี้มันก็เย็นแล้วอ่ะ แพรกลับบ้านก่อนเถอะน่ะ...น่ะครับ” ปาล์มพูดพร้อมทั้งสายตาวิงวอน ฉันยกนาฬิกาขึ้นดู อื้อ.....5โมงเย็นแล้ว
“เอาได้กลับก็กลับ” ฉันยังพูดไม่ทันจบ ปาล์มกับนิวก็เก็บหนังสือใส่กระเป๋าเรียบร้อย ถ้าทางจะอยากกลับบ้านกันจนตัวสั่น
“วันนี้นิวกลับบ้านก่อนน่ะ เรากะว่าจะแวะไปซื้อของที่ห้าง” นิวรีบพูด ฉันพยักหน้า
“วันนี้เรากลับบ้านกันสองคน ช่วงนี้ปาล์มไม่ค่อยได้ไปไหนกับแพรเลย”ปาล์มบ่นก่อนวาดวงแขนโอบรอบหลังฉัน ฉันพิงศีรษะไปกับอกปาล์มอย่างเหนื่อยอ่อน
“ตอนนี้เราอยู่ ม.6 กันแล้วน่ะปาล์ม เราต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะมามัวเที่ยวเล่นกันเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วน่ะ” ฉันพูดยิ้มๆเข้าใจดี ว่ากับปาล์มคนนี้ทางเดียวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ คือการที่ฉันต้องเขี้ยวเข็นเขาให้มากขึ้นหน่อย
“ผมรู้น่า แต่ยังไงก็ต้องพักผ่อนบ้าง วันนี้เราไปคาราโอเกะกันน่ะ”
“จะดีเหรอ ห้าโมงเย็นแล้วน่ะเดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง”
“แบ็บเดียวเอง ขอสัญญาด้วยเกรียติของลูกผู้ชายตาดำๆว่าผมจะไม่แตะต้องคุณแพรสักปลายเล็บ แล้วจะไปส่งคุณแพรถึงบ้านไม่เกิน 1 ทุ่ม ไม่มีเหลด ไง....ตอนนี้ไปกับผมได้หรือยังครับ” ปาล์มทำท่าตะเบ๊ะ
“เอา.....ตามใจ ไปก็ไป” ฉันขำกับท่าทางของปาล์มวันนี้ นี้ฉันใจอ่อนอีกแล้วสิเนี้ย
ขอบคุณจริงๆที่เธอยังรักไม่เคยเปลี่ยน ถึงฉันจะดีจะเลวขนาดไหน
และคนอย่างฉันก็ยังจะขอ..... รักเธอตลอดไป ให้คุ้มที่เธอไว้ใจ
ตอบแทนวันนี้ที่ฉันมีเธอ..... จะเป็นคนที่รักเธอเสมอ
ขอบคุณวันนี้ที่ฉันมีเธอ.....
ฉันฟังเสียงปาล์มร้องคาราโอเกะผิดคีย์ แต่สำหรับฉันมันเหมือนกับว่าเสียงของปาล์มเพราะที่สุด ต่อให้นักร้องตัวจริงมาร้องมาร้องเพลงต่อหน้าฉัน ฉันก็ว่าไม่มีใครที่จะทำให้ฉันซึ้งใจได้เท่ากับเขาอีกแล้ว
“ปาล์มพูดตามจริงน่ะแพร ปาล์มขอบคุณที่แพรทำให้ปาล์มมีความสุขได้อย่างทุกวันนี้”ปาล์มหันมายิ้มใส่
“พอค่ะพอ นี้ปาล์มอย่ามาน้ำเน่า คิดว่าเสียงตัวเองเหมือนบิ๊ก แอส หรือไง ปาล์มอย่าไปร้องเพลงนี้ให้ใครฟังอีกน่ะอายเค้า” ฉันพูดกลบเกลื่อน ปาล์มยิ้มร่วนทั้งปากทั้งตา ก่อนจับมือฉันเข้าไปแนบอก
“ปาล์มไม่ร้องเพลงนี้ให้ใครฟังหรอก แต่ที่ปาล์มร้องแพรฟังเพราะปาล์มรู้ว่ามีแพรคนเดียวที่ทนฟังเสียงผิดคีย์ของปาล์มได้” ฉันกับปาล์มหัวเราะพร้อมๆกัน
“ปาล์มพูดจริงๆเหรอที่ปาล์มจะรักแพรตลอดไป”ฉันถามเบาๆ
“แน่สิ แพรต้องเชื่อใจปาล์มน่ะ” ปาล์มพูด ฉันรู้สึกได้ว่าปาล์มจริงจัง
“แพรจะเชื่อใจปาล์ม แต่ถ้าต่อไปเราไม่เป็นอย่างนี้ แพรจะขอเก็บเวลานี้ไว้หล่อเลี้ยงหัวใจของแพร”ฉันพูดเสร็จก็ดึงไมค์มาจากมือปาล์ม ก่อนจะกดเลือกเพลง ปาล์มปล่อยฉันออกจากอ้อมกอดแต่ยังโอบไหล่ฉันไว้หลวมๆ
ฉันขาดเธอ ชีวิตฉันคงว่างเปล่า ไม่มีเรื่องราวทางเส้นเก่าก็เดินมันไป
เหนื่อยก็ยังเดินไป คบกับเธอชีวิตฉันมีคุณค่ามองไปข้างหน้า มันสวยกว่าที่เคยเป็นไป
รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง ที่ทุ่มเทให้มาทั้งใจ เธอมาเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ
เปลี่ยนชีวิตให้คนอย่างฉัน ให้กับคนอย่างฉัน
เพราะว่ารักที่เธอให้มา ทุ่มเทมาให้ฉันหมดใจ เธอมาเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ
เปลี่ยนชีวิตให้คนอย่างฉัน ให้กับคนอย่างฉัน
ฉันร้องเพลงโบ สุนิตาจนจบ ปาล์มยิ้มนิดๆก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
“บ้า...คนบ้า” ฉันเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะทุบเขาไปเสียปึกใหญ่ๆ
“กลับ กลับบ้านได้แล้ว” ฉันพูดจบก็เดินออกจากคาราโอเกะ มีปาล์มเดินตามมา
“ให้ปาล์มไปส่งน่ะ มันมืดแล้ว” ปาล์มดึงดันจะนั่งแท็กซี่ไปส่งให้ได้
“พอเลย แพรกลับบ้านเองได้ อย่าลืมน่ะว่าวันนี้ไปอ่านชีทสรุป พรุ่งนี้ถ้าแพรถามแล้วไม่ได้เจอดีแน่” ฉันคาดโทษตามปาล์มเลยได้แต่ยิ้มแล้วเดินกลับบ้านอย่างเสียไม่ได้ ความจริงฉันโทรบอกให้คนขับรถที่บ้านมารับก็ได้ แต่บังเอิญวันนี้มันเพิ่งเลยหกโมงมาไม่นาน ไม่รู้จะให้คนขับรถมารับทำไมให้เสียน้ำมัน
ท้องฟ้ามือครึ้มลงเร็วไปหน่อย ฉันเดินจากป้ายรถเมล์ถึงปากซอย ไม่เอาดีกว่าน่ากลัวเดี๋ยวโทรไปบอกให้ที่บ้านมารับดีกว่า” ฉันตัดสินใจยืนรอปากซอย ขณะที่กำลังกดโทรศัพท์มือถือก็มีเสียงไม่คุ้นหูดังขึ้น
“ว่าไงจ๊ะน้องสาวดึกดื่นป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะ” ฉันสะดุ้งมองผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนที่เดินมา ท่าทางคงจะเป็นพวกวัยรุ่นที่ไม่มีอะไรทำ วันๆเอาแต่เดินสร้างความเดือดร้อน ทำตัวเป็นอันธพาล ทางที่ดีอย่าไปอยู่ใกล้เลยจะดีที่สุด ฉันตัดสินใจเดินจ้ำๆให้ห่างสองคนนั้นมากที่สุด แต่รู้สึกเหมือนจะตาม ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจวิ่งหนึ่งในสองคนนั้นก็เข้ามาจับแขนฉันแน่น
“ปล่อยฉันน่ะ อย่ามายุ่งกับฉัน” ฉันสะบัดแขนเร่าๆ
“อย่ากลัวไปเลยจ๊ะน้องสาว ให้พี่ไปส่งดีกว่าเปลี่ยวๆอย่างนี้อันตราย” ฉันชกหน้ามันไปเต็มที่ ฉันยังไม่ทันได้หนีก็โดนตบหน้าเสียฉาดใหญ่
“ดีดีไม่ชอบ ชอบใช้กำลังถ้าขัดขืนตายเป็นผีตรงนี้แน่” ฉันดิ้นพราดๆ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”ฉันทั้งหยิก ทั้งกัดพลางตะโกนเต็มเสียง แต่ดูเหมือน ตุบ ตุบ ชายคนนั้นชกฉันเข้าไปเต็มๆที่ท้องน้อย ฉันจุกจนสติสัมปชัญญะที่มีแทบจะหมดไป
“ปลอ่ยน่ะเว้ย”เสียงคุ้นๆดังขึ้นปาล์มนั้นเอง วูบนั้นฉันบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจกันแน่ที่ปาล์มมา
“หนอย....ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อยากยุ่งนักใช่ไหม”ตอนนี้ฉันแทบไม่รูสึกตัวแล้วรอบๆตัวดูมืดไปหมดได้ยินเพียงเสียงเอะอะอยู่พักใหญ่สติก็ขาดไป
ความคิดเห็น