คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1 จุดเริ่มต้นของเราสามคน
สวัสดีค่ะทุกคน ฉัน ปลายฝนค่ะ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกในชีวิตที่ต้องอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ชุดนักศึกษาที่ฉันใฝ่ฝัน ในที่สุดฉันก็ได้ใส่มัน พวกคุณคงสงสัยล่ะสิว่าฉันอยู่คณะอะไร อิอิ คนสวยอย่างฉันไปไหนก็มีแต่ผู้ชายมองตาม 360 องศา ฮั่นแน่คิดว่าอย่างฉันต้องอยู่ อักษร นิเทศ หรือบริหารล่ะสิ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณคิด....................ผิดค่ะ อิอิ ก่อนที่ทุกคนจะฉีกกระดาษแผ่นนี้ออกเป็นชิ้นๆเพราะการพูดจาที่หลงตัวเองของฉัน แฮะๆๆ ฉันเรียนอยู่ที่ คณะวิศวะ ภาควิชาไฟฟ้า ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นไงล่ะคนมัน...อิอิไม่อยากแซ่ดให้ เสียน้ำลาย
*-* ว้าวหนุ่มๆที่นี้น่าตาดีทั้งนั้นเลย ลาบปากอิอิ
ป้าป 0.0
“โอ๊ย ไอ้โฉดเอ้ย! แกตบหัวฉันทำไมว่ะ”ฉันจับหัวหันน่าไปมองผู้ชายที่ตบหัวฉัน ใครกันบังอาจเข้ามาขัดจังหวะการชื่นชมหมู่ภมร อ๋อ ไอ้เวงนี่เอง
“ก็ดูหน้าแกเด่ะ มองผู้ชาย หื่นกามขนาดนี้เดี๋ยวเขาก็คิดว่าแกโรคจิตเป็นพวกคนบ้ากาม หรืออาจจะคิดว่าแกเป็นจิตรดาภาค2ก็ได้นะไอ้หื่น”
“โห่ แกไอ้เถื่อน ไอ้โฉดเอ้ย!ฉันเปล่ามองอย่างนั้นสักหน่อย แค่คิดว่าคณะนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นเลยนะไม่มีผู้หญิงหรือไงนะ”
อ้อทุกคนคงจะงงล่ะว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครอยู่ๆเข้ามาพูดจาหยาบคายกับผู้หญิงที่แสนน่ารักอย่างฉันอิอิ แหม่นิดๆหน่อยน่า ซึ่งหน้าตามันถ้าพูดอย่างไม่เข้าข้างน่ะ มันก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ด้วยสีผิวที่ขาวหน้าตาออกญี่ปุ่น รับกับส่วนสูงที่สูงถึง187 (สูงอย่างกับเป ร-)พร้อมกับผมทรงสกินเฮดที่เจ้าตัวบอกว่าแนวสุดๆ ซึ่งฉันคิดว่า ไม่ว่ามันจะตัดทรงไหนก็เท่อยู่ดีนั้นแหละแต่คุณอย่าได้ไปบอกมันล่ะว่าฉันชมมันเดี๋ยวมันเหลิง พอแค่นี้เถอะเดี๋ยวพวกคุณจะคิดว่าฉันพูดโม้โอเวอร์
มันชื่อว่า “ศิลปิน” ซึ่งในตัวมันหาความเป็นศิลปินไม่ได้เลย เพราะมันร้องเพลงได้ห่วยแตกมาก เคยมีแมวมองมาทาบทามมันแต่หลังจากได้ลองฟังเสียงมันแล้วก็ไม่เคยมีใครติดต่อกลับมาอีกเลย จะให้เป็นดาราเหรอเหอะๆๆไม่อยากเซด แล้วยังวาดรูปได้เห่ยสุดๆไม่รู้พ่อกับแม่มันตั้งชื่อว่าศิลปินได้ยังไง
แล้วฉันกับมันก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ ม. 1 อยู่ห้องเดียวกับมันตลอดขนาดตอนนี้คุณเชื่อหรือเปล่าเอ็นฯเข้ามหาลัย ฉันกับมันยังเอ็นฯติดคณะเดียวกัน
ฉันขอย้อนไปยังเหตุกาณ์ ณ ห้องแนะแนว ที่นั้นเราทุกคนต้องไปรับคำปรึกษาจากอาจารย์
“เฮ้ย เป็นไงว่ะไอ้ศิน ตกลงแกลงเอ็นคณะไหนว่ะ”ฉันถามในขนาดที่มันทำหน้าเครียดออกมา
“จารย์ ว่าคะแนนอย่าง กุหน้าจะไปบริหาร หรือนิเทศฯว่ะ ไปสายวิทย์ไม่รอดว่ะ”มันตอบเสียงเครียด และยังคงทำหน้าขรึมอยู่
“นั้นแกก็จะเอ็นฯบริหารอะดิ แต่ฉันว่าคณะวิทยาศาสตร์แกน่าจะไปได้น่ะโว๊ย”ฉันถามมันอีก ทำไมมันดูมีพิรุธไม่หน้าเชื่อถือเลยอะ
“เออ! ถามอยู่ได้ แกอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ เดี๋ยวกุจะตอบให้ ส่วนวิทย์น่ะฉันเลือกอยู่แล้วโว๊ยแต่เป็นอันดับสุดท้าย”ไอ้ศินตอบกลับมาพร้อมด้วยสีหน้ารำคาญและสายตาที่ส่งมาว่ามึงจะถามกูไปถึงไหน!!!
“เปล่าฉันแค่ถามให้แน่ใจว่าฉันกับแกจะไม่ได้เจอกันอีกไง โอ้ย!แกฉันล่ะโล่งใจคิดว่าฉันต้องทนแกไปอีกหลายปี แต่ว่าน่ะฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่ะมันสังหรณ์ใจแปลกๆ”ฉันเอามือทาบอกพร้อมมองหน้าไอ้ศินที่ตอนนี้กำลังสนใจอ่านประกาศที่ติดอยู่หน้าห้องอย่างเต็มที่เหมือนกับว่าถ้าไม่ได้อ่านมันต้องพลาดเรื่องสำคัญในชีวิตไปอย่างนั้นล่ะ ใช่!ค่ะมันกำลังมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ ทำไมจะไม่รู้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
“ปลายฝน”
“ปลายฝน” เสียอาจารย์ฝ่ายแนะแนวเรียก
“ค่ะอาจารย์”ฉันหันความสนใจไปที่อาจารย์แทน
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นก็เป็นวันฟังผลสอบปรากฏว่ามีฉันกับมันสองคนสอบติดคณะวิศวะฯ ทั้งโรงเรียน
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าในวันนั้นมันโกหกฉันทำไมว่าเอ็นฯเข้าบริหารจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้ถาม... แต่ทำไมมันต้องมหาลัยเดียวกับฉันฟ่ะ!
มันก็เลยเป็นเวรเป็นกรรมที่ฉันกับมันต้องมาเรียนในคณะเดียวกันจนได้ ค่ะขอกลับไปในสถานการณ์ปัจจุบัน
“เออ จริงว่ะไม่มีผู้หญิงเลยว่ะคณะอะไรว่ะเถื่อนสิ้นดี ดูหน้าผู้หญิงที่มีสิหน้ามันเริ่มกลมกลืนไปกับผู้ชายหาความสวยงามไม่เจอเลย ฝันร้ายฉิบหายเลยกุ” ไอ้เวรดูมันพูดสิ
“ไอ้นี่ แล้วฉันล่ะ ยืนสวยอยู่ตรงนี้ทั้งคน ชาวคณะไม่ต้องกลัวคนสวยมาแล้ว” ฉันกระโดดเตะมันเข้าเปรี้ยงใหญ่โดยไม่สนกระโปรงที่วันนี้ใส่มาเพื่อปฐมนิเทศโดยเฉพาะ แล้วหันไปยิ้มให้กับคนที่เดินผ่าน
“โอ้ยไอ้กระเทยควาย แรงอย่างกับช้างสาร ผู้ชายคนไหนตกหลุมแกคงซวยไปตลอดชาติ แบร่”ศิลปินพูดพร้อมกับชิ่งหนีก่อนที่ผู้หญิงหนึ่งเดียวคนนี้จะอาละวาด
“หน๊อย! ไอ้ศิลเปรอะ แกว่าใครกระเทยควายว่ะ เสียหายหมด ฉันเป็นผู้หญิงเต็มร้อยโว้ยไม่เชื่อมาพิสูจน์เซ่ เฮ้ย!ไม่ใช่ดูยังไงฉันก็ผู้หญิงเต็มร้อย แกอย่าให้จับได้ ล่ะตาย”ฉันพูดพร้อมตั้งท่าเตรียมวิ่งหน่อยไอ้เวงกล้าว่าฉันเป็งกระเทยควายในที่สาธารณะชน ตายแล้วคนเขาจะมองฉันยังไงเนี้ยะ อย่าอยู่เลยแก ไอ้ศิลปินเถื่อน(เอ่อฉันว่าเธอไม่มีอะไรเหลือมานานแล้วนะ-ผู้เขียน)
ว่าไงน่ะ คนเขียนว่าฉันไม่สวยเหรอ งั้นฉันขอลาออกไปจ้างนางเอกคนใหม่เลยไป (0.0สวยจ๊ะสวยล้อเล่นนิดเดียวเองอิอิ)
ทั้งสองคนวิ่งไล่จับกันโดยไม่สนใจสายตาที่มองมาจากคนรอบข้าง และไม่มีใครกล้าเข้าไปว่าทั้งสองคนเพราะพวกเค้าไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนปกติหรือคนบ้า !!!!!!!!
ขณะที่ปลายฝนกำลังวิ่งไล่ทันศิลปินขณะนั้นเธอก็ต้องตกใจเมื่ออะไรขาวๆโผล่เข้าในเส้นทางการวิ่งของเธอ
“เจี้ยก!!!!!!!!!!!!!” ปลายฝนร้องออกมาด้วยความตกใจและชนเข้าอย่างจังกับใครคนหนึ่ง
“ว้าย!!!!!!!!!!!!!!” เปรมสินีย์ร้องด้วยความตกใจที่จู่ๆก็มีร่างๆหนึ่งที่ส่งเสียงประหลาดวิ่งเข้ามาชนเธอดังปึก มันจุกมั่กๆๆขอบอก หนังสือที่หอบมาตกกระจาย
แล้วทั้งสองก็ล้มลงไปพร้อมกัน พร้อมกับที่ศิลปินหยุดวิ่งและหันกลับมามองและวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเพื่อน
“เจ็บป่ะไอ้ฝน”ศิลปินถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่คนเจ็บกลับตอบไปว่า
“เจ็บสิถามได้ไอ้เพื่อนเวง”
=.=กำกุอุตส่าห์เป็นห่วงดูมันพูด ไปช่วยสาวน้อยน่ารักข้างๆดีกว่า
“ผมช่วยนะครับ เจ็บมากหรือเปล่าครับ เพื่อนผมมันแรงอย่างกับควายคงเจ็บมากสินะครับ” ศิลปินพูดพลางช่วยเก็บหนังสือที่ตกเกลื่อนพื้น
-.,-ไอ้เพื่อนเวง หน้าหม้อจริงนะแก
“ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยเก็บของ ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ”เปรมสินีย์ยิ้มให้กับชายหนุ่มที่ช่วยเก็บของและหันไปยิ้มให้กับผู้หญิงที่ชนเธอเมื่อครู่
“แฮะๆๆๆ ขอโทษอีกครั้งนะค่ะ หวังว่าคุณคงไม่มีส่วนไหนสึกหร่อ นะค่ะ”ปลายฝนพูดพร้อมกับสำรวจผู้หญิงข้างหน้าของเธอ
ไม่สำรวจได้ไงล่ะย่ะเพื่อเธอมีส่วนไหนสึกหร่อไปฉันจะหาที่ไหนมาใช้เขา ดูสิออกจะบอบบางคุณหนูขนาดนี้ ผิวข๊าวขาว ตากลมโต แก้มอมชมพู น่ารักอย่างแรง
“คิๆ ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกคุณสองคนตลกดีน่ะค่ะโตขนาดนี้แล้วยังวิ่งไล่จับกันอยู่อีก”
“ก็ยายนี้สิครับเกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมาไม่รู้วิ่งไล่เตะผมไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลยนะครับ”ศิลปินพูดพร้อมกับมองผู้หญิงตรงหน้าตาหวานเยิ้ม ผู้หญิงอะไรว่ะน่ารักอย่างกับตุ๊กตา
“แล้วคุณชื่ออะไรล่ะครับ ผมศิลปินครับ”
ปลายฝนหันไปมองเพื่อนที่สติหลุดลอยไปแล้ว
“คิๆเปรมสินีค่ะ วิศวะคอมปี 1ค่ะ”
“เหรอครับ ผมก็วิศวะฯเหมือนกันแต่เรียนภาควิชาฟ้าฟ้านะ เนี้ยะ ปลายฝนครับ เราสองคนเป็นแค่เพื่อนกันครับ”
เหอะ ไอ้ศิลเปรอะ แหมแกมองหน้าเค้าเคลิ้มเชี่ยวนะแก
“แล้วทำไมแกต้องบอกว่าฉันเป็นเพื่อนกับแกด้วยฟ่ะ ใครๆก็ต้องดูออกอยู่แล้ว จะให้มองว่าฉันเป็นแม่แกหรือไงฟ่ะไอ้เปรอะ”หมั่นไส้ขอจิกมันหน่อย
“เรียกฝนเฉยๆก็ได้” ฉันหันไปมองพร้อมกับยิ้มให้สาวสวยอีกคน
“อืม ฝน นั้นทั้งสองคนเรียกเราว่าเปรม เฉยๆนะ”
“ได้เปรมเฉยๆ/เปรมเฉยๆ”ฉันกับไอ้ศิลพูดพร้อมกัน หลังจากนั้นเราสามคนก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“555+ นั้นขอฉันเป็นเพื่อนกับเธอสองคนนะ”เปรมสินีย์ยื่นมือออกมาข้างหน้า
ฉันกับไอ้ศิลมองหน้ากันแล้วหันไปยิ้มให้ผู้หญิงข้างหน้า
“ตกลงเรามาเป็นเพื่อนกัน”พร้อมกับยื่นมือออกไป
“เย้!ได้เพื่อนเป็นสาวสวยด้วยโว้ย”พร้อมกับชูมือที่จับไว้หมุนไปรอบๆ
ความคิดเห็น