ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหารานี

    ลำดับตอนที่ #5 : จากสามัญสู่พระบรมวงศ์

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 49


               ๗ วันต่อมา ภายหลังจากการเข้าเฝ้าองค์พระประมุขและพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่โดยพร้อมเพรียงกันแล้วนั้น สมเด็จพระเจ้าหลวงจึงได้ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาพระอิศริยยศเป็นกรณีพิเศษแก่ "ม่านแก้ว" พระธิดาบุญธรรมใน พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจักรทิพย์ ขึ้นที่ "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าหญิงม่านมณีรัตนา" พร้อมทั้งยังทรงให้จัดพระราชพิธีเฉลิมพระอิศริยยศเป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืนอีกด้วย ซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้มปีติต่อพระอนุชาแบะพระชายาเป็นอย่างยิ่ง
               กระนั้นท่ามกลางความปลาบปลื้มปีติของพระบรมวงศ์และเหล่าราษฎรที่ได้รับทราบถึง "พระองค์หญิง" พระองค์ใหม่นั้น ณ พระตำหนักของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ายุทธศักดา พระญาติผู้พี่แห่งสมเด็จพระเจ้าหลวงนั้น ก็ได้รับการต้อนรับแขกสำคัญสองคนด้วยกัน นั่นคือ คุณท้าวการะเกด และ พระองค์หญิงจันทกา ด้วยมีธุระสำคัญบางประการ
          "กราบพระบาทเสด็จอาเพคะ ขอทรงพระเจริญยิ่งเพคะ" คุณท้าวการะเกดก้มตัวลงกราบแทบพระบาท เช่นเดียวกับพระองค์หญิงผู้เป็นธิดา
          "กราบพระบาทเสด็จลุงเพคะ"
          "ขอบใจมากการะเกด, หญิงจัน ลุกขึ้นเถอะ...ขึ้นมานั่งบนพระแท่นนี่เถอะ เราเองใช่คนอื่นคนไกลกันที่ไหนกัน" พระองค์เจ้ายุทธศักดาทรงมีรับสั่งบอก
          "เพคะ" ทั้งสองคนรับคำพร้อมกัน ก่อนที่ลุกขึ้นไปประทับนั่งบนพระแท่นรับรองนั้น
          "เจ้าทั้งสอง เข้ามาพบเราด้วยเรื่องอันใดรึ ท่าทาง...ร้อนใจมิใช่เล่นนี่นา" ทรงมีรับสั่งถามออกไปตรงๆ แต่เมื่อทอดพระเนตรเห็น คุณท้าวการะเกด มีท่าทางอึกอัก จึงได้มีรับสั่งต่อไป
          "เจ้าไม่ต้องห่วงอันใดดอก ในพระตำหนักแห่งนี้ หากเราไม่อนุญาตให้พูด ก็ไม่มีใครกล้านำเรื่องใดไปพูดดอก อีกอย่างเจ้าเองก็เป็นหลานแท้ๆของเราเอง แล้วทำไมเจ้าจักต้องเป็นกังวลด้วยเล่า" ที่แท้ คุณท้าวการะเกด นั้นก็มีศักดิ์เป็น "หลานสาว" ของพระองค์นั่นเอง โดยคุณท้าวนั้นเป็นบุตรีของพี่สาวของพระชายาในพระองค์ชายนั่นเอง
          "เพคะ เสด็จอา...หม่อมฉันมีเรื่องกลุ้มใจเหลือเกินเพคะ" คุณท้าวกล่าวพลางแสดงสีหน้าเคร่งเครียด
          "เรื่องอันใดกัน ไหนลองเล่าให้เราฟังสิ เผื่อเราอาจจะช่วยเหลือเจ้าได้บ้าง"
          "เพคะ...ที่หม่อมฉันและหญิงจัน มาเฝ้าเสด็จอาในวันนี้ก็เป็นเพราะเรื่อง "นังเด็กบ้านนอก" นั่นแหละเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจ...ทั้งๆที่เสด็จพี่ทรงมีหญิงจันเป็นพระธิดาทั้งพระองค์อยู่เยี่ยงนี้แล้ว ทำไมจักต้องไปขวนขวายรับนังเด็กนั่นมาเป็นพระธิดาบุญธรรมด้วยก็ไม่รู้ แถมยังได้พระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้า สถาปนาพระอิศริยยศเป็นกรณีพิเศษเยี่ยงนี้อีก หม่อมฉัน...หม่อมฉันรับไม่ได้เพคะ"คุณท้าวพรั่งพรูความอัดอั้นตันใจที่มีมาราวกับทำนบแตก ด้วยความแค้นเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง
          "อารู้...แต่เจ้าก็รู้นี่นาว่า เราก็คงจะทำสิ่งใดไม่ได้ ในเมื่อเป็นพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลวงแบบนี้"
          "แต่เสด็จอาต้องช่วยหม่อมฉันได้สิเพคะ" การเกดท้วงติงออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม 
          "เสด็จอา ทรงทนที่จะเห็นหลานของพระองค์ทั้งสองคนต้องทนทุกข์ทรมานเยี่ยงนี้หรือเพคะ ลำพังตัวหม่อมฉันเองยังไม่เท่าใด แต่กับหญิงจันนี่สิเพคะ หม่อมฉันยอมไม่ได้ หญิงจันทรงสืบสายพระโลหิตมาจากเสด็จพี่แท้ๆ ยังไม่ได้พระกรุณาเยี่ยงนี้เลย แล้วนังเด็กบ้านนอกนั่นเล่าเพคะ มันเป็นใคร...จึงจะมาได้ดีเกินหน้าหญิงจันเล่าเพคะ" กล่าวจบ คุณท้าวการะเกด ก็ก้มหน้าลงร้องไห้ฟูมฟายเป็นการใหญ่ ทำให้พระองค์หญิงจันทกาพลอยกรรแสงตามไปด้วย ก็ยิ่งทำให้พระองค์ชายยุทธศักดาเองก็อดที่จะร้อนพระทัยบ้างไม่ได้
          "เอาเถอะการะเกด อารับปากว่าจะหาทางช่วยเหลือเจ้าทั้งสองแน่นอน เพียงแต่ในช่วงเวลานี้ พวกเราคงต้องยอมอยู่เงียบๆไปสักพักหนึ่งก่อน แล้วเรื่องกำจัดเด็กนั่น ค่อยเป็นหน้าที่ของอาเอง" พระองค์ชายทรงมีรับสั่งตอบ ทั้งในสายพระเนตรนั้นก็ฉายแววนิ่งเยือกเย็น แต่ดูน่าครั่นคร้ามต่อผู้พบเห็นเป็นยิ่งนัก

               ภายในพระบรมมหาราชวัง ณ พระตำหนักใหญ่อันเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระนางเจ้าแก้วกัลยา พระมหารานี นั้น บัดนี้คราคร่ำไปด้วยเหล่าพระราชวงศ์พระองค์น้อยๆเต็มไปหมด สาเหตูนั้นก็เนื่องมาจาก สมเด็จฯนั้นทรงมีน้ำพระทัยพระเมตตตาต่อพระราชวงศ์น้อยๆเป็นอย่างยิ่งจึงได้ทรงมีพระราชดำริให้พระบรมวงศ์ทั้งหลายที่ทรงมีพระโอรส-ธิดาในชันษาไล่เรี่ยกับพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ได้เข้ามาร่วมกันศึกษาเล่าเรียนและเป็นพระเพื่อนเล่นกับพระโอรส-ธิดาทั้งสองพระองค์นั่นเอง ทั้งยังมีพระประสงค์เพื่อเป็นการเสริมส้รางความสนิทสนมในเหล่าพระญาตินั่นเอง

          ซึ่งในวันนี้ก็เช่นกัน ที่ทรงมีพระเสาวนีย์ให้เหล่านางกำนัลช่วยกันตระเตรียมเครื่องเสวยคาวหวานมากมาย ทั้งการละเล่นพื้นเมืองต่างๆให้กับเหล่าพระราชวงศ์น้อยๆเหล่านั้นได้เพลิดเพลินพระทัยกันถ้วนหน้า หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าชายมหาจักราวุธ พระบรมราชโอรส" และ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงวิลัยกัญจนา พระบรมราชธิดา" ก็ทรงร่วมเล่นการละเล่นต่างๆในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
          "ไม่เอาหรอกเพคะ ทูลหม่อมน้อย...หญิงจันไม่ให้หญิงแก้วเล่นด้วยนะเพคะ" พระสุรเสียงเกรี้ยวกราดดังออกมาจากพระโอษฐ์น้อยของพระองค์หญิงจันทกาความไม่สบพระทัย เมื่อทอดพระเนตรเห็นว่า ทูลกระหม่อมหญิงน้อย หรือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าหญิงวิลัยกัญจนาฯ ทรงจูงพระหัตถ์ พระองค์หญิงม่านมณีรัตนา เข้ามาเล่นด้วย
          "ทำไมล่ะค่ะ พี่หญิงจัน เล่นกันหลายๆคนก็สนุกดีออกไม่ใช่รึ" ทรวแย้งเบาๆ
          "ไม่เพคะ...ถ้าทูลกระหม่อมน้อย อยากจะให้หญิงแก้วเล่นด้วย หญิงจันก็จะไม่เล่นด้วยแล้ว"
          "ทำไมละค่ะ หญิงแก้วก็เป็นน้องของพี่หญิงจันนี่ค่ะ"
          "ไม่ใช่...ทูลกระหม่อมน้อยห้ามรับสั่งแบบนี้อีกนะเพคะ ถ้าไม่อย่างนั้นหญิงจันจะไม่เข้ามาเล่นในนี้อีกเลย" พระองค์หญิงจันทกาทูลกลับด้วยน้ำเสียงเข้ม และสีพระพักตร์จริงจัง จนทูลหระหม่อมน้อยเองก็อดรู้สึกเกรงๆไม่ได้ 

               แต่ก่อนที่เรื่องราวจะลุกลามไปใหญ่นั้น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาจักราวุธ หรือ ที่ชาววังเรียกว่า "ทูลหม่อมชาย" นั้น ก็ทรงพระดำเนินเข้าไปใกล้ก่อนที่จะทรงมีรับสั่งถามออกไปอย่างสงสัย ด้วยทรงได้รับฟังเสียงโต้แย้งนั้น
          "มีเรื่องอะใดกันรึ หญิงน้อย, หญิงจัน"
          "ไม่มีอะไรดอกเพคะ ทูลหม่อมชาย หญิงจันก็แค่เห็นว่า ทางนี้กำลังเล่นกันสนุกๆอยู่ แล้วก็ครบคู่กันหมดแล้วด้วยเพคะ แต่ทูลกระหม่อมน้อยกลับจะให้หญิงแก้วเล่นด้วย หญิงก็เลยไม่ยอมเพคะ" พระองค์หญิงจันทกาทูลตอบ
          "ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา หญิงแก้วก็ยังเด็กอยู่ ให้เป็นตัวแถมก็ได้นี่นา" ทรงพยามยามไกล่เกลี่ย
          "ไม่ได้ดอกเพคะ ทูลหม่อมชาย เราเล่นกันกำลังสนุกๆ ถ้าให้หญิงแก้วมาเล่นเป็นตัวแถม ก็ไม่สนุกแล้วละเพคะ" พระองค์หญิงจันทกาทรงยืนกรานตามเดิม ทำให้ทูลหม่อมทั้งสองพระองค์ได้แต่สบพระเนตรกัน และในขณะที่ทูลกระหม่อมชายกำลังจะรับสั่งขึ้นมานั้น พระองค์หญิงม่านมณีรัตนา จึงได้มีรับสั่งออกมาบ้างหลังจากมี่ประทับเงียบอยู่นาน
          "ไม่เป็นไรดอกเพคะ หญิงแก้วก็ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไหร่ เดี๋ยวหญิงแก้วไปนั่งกรองมาลัยกับสมเด็จป้าดีกว่าค่ะ"
          "อืม...งั้นพี่ไปด้วยก็แล้วกัน ไปเถอะหญิงแก้ว" ทูลกระหม่อมชายรับสั่งเห็นด้วยก่นอที่จะจูงพระหัตถ์น้อยๆนั้ พระดำเนินห่างออกไปยังที่ประทับของสมเด็จพระมหารานีในทันที 

               ซึ่งการกระทำเช่นนั้นได้ส้รางความไม่พพระทัยต่อพระองค์หญิงจันทกา ยิ่งขึ้นไปเอง แต่กระนั้นก้ไม่สามารถกระทำเช่นไรได้ จึงได้แต่ทรงทอดพระเนตรตามไปด้วยสายพระเนตรอาฆาตแค้นแรงกล้า      
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×