ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหารานี

    ลำดับตอนที่ #3 : สู่พระนคร

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 49


               หลังจากที่ม่านเมืองและมารดาได้ตกลงใจถวายตัว "ม่านแก้ว"ให้เป็นพระธิดาบุญธรรมแก่ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจักรทิพย์ และ พระชายาสร้อยฟ้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่จึงได้ให้ผู้คนภายในเรือนเร่งรีบจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเด็กหญิง รวมถึงสิ่งของที่จะได้มอบถวายให้แก่องค์พระเจ้าหลวงและพระมหารานี ตลอดจนพระเจ้าน้องยาเธอฯและพระชายาเป็นการใหญ่ ซึ่งข้าวของที่ได้จัดเตรียมไว้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ได้จัดทำขึ้นมาทั้งสิ้น
               ในขณะที่ เมื่อเด็กหญิงม่านแก้ว นั้น ด้วยวัยที่ยังไม่รู้เดียงสาเท่าใดนักก็ได้แต่วิ่งเล่นไปตามประสา แต่หากว่าเมื่อใดที่ ฑระชายาสร้อยฟ้า ทรงมีเวลาว่างก็มักจะทรงมีรับสั่งให้ เหล่านางกำนัลนำตัวเด็กหญิงเข้าไปพบด้วยทรงมีพระเมตตาต่อเด็กหญิงยิ่งนัก ทั้งยังทรงมีรับสั่งให้เด็กหญิงเรียกพระองค์ว่า "เสด็จแม่"อีกด้วย ซึ่งเด็กน้อยนั้นก็เรียกตามที่มีรับสั่งอย่างว่าง่าย ก็ยิ่งทำให้พระองค์ทรงมีพระเมตตารักใคร่ในตัวเด็กหญิงมากขึ้นทุกๆขณะ 

               จนกระทั่ง ถึงวันกำหนดพระราชดำเนินกลับของ พระเจ้าน้องยาเธอฯ และพระชายาฯ ท่านพ่อบ้านม่านเมืองพร้อมด้วย แม่หญิงม่านฟ้า ตลอดจนชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนั้น จึงได้มารวมตัวกันเพื่อที่จะรอส่งเสด็จกันเป็นจำนวนมาก จนเมื่อทั้งสองพระองค์ได้เสด็จออกมากจากตำหนักที่ประทับรับรองออกมาสู่ภายนอก พร้อมด้วย เด็กหญิงม่านแก้ว ซึ่งบัดนี้ก็เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปแล้วว่า ทั้งสองพระองค์ได้ทรงรับเด็กหญิงไว้เป็นพระธิดาบุญธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กหญิงได้รับการแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายอย่างดี ดูเหมาะสมกับฐานะของพระธิดาของทั้งสองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง และการแต่งตัวของเด็กหญิงม่านแก้วในครั้งนี้ก็ทำให้ทุกๆคนในที่นั้นต่างก็มองด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะกับ แม่หญิงม่านฟ้า นั้นถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความรักใคร่อาวรณ์ ผสมกับความชื่นชมยินดีในตัวแม่หนูน้อยยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อพระชายาทรงปล่อยพระหัตถ์ที่กำลังจูงมือเด็กน้อยเอาไว้ก่อนที่จะค้อมพระวรองค์ลงรับสั่งกับเด็กน้อย แล้วจากนั้นเด็กหญิงจึงได้เดินก้าวเข้าไปหาผู้เป็นย่าของตน ซึ่งม่านฟ้านั้น ก็รับร่างของหลานสาวเข้าไปในอ้อมกอดพลางร้องไห้ไปพลางด้วยความอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก ทั้งยังรู้สึกใจหายอย่างไรบอกไม่ถูก ทำให้เด็กหญิงต้องใช็มือเล็กๆน่ารักๆนั้นเกลี่หยาดน้ำตาออกไปจากใบหน้าชราหากแต่ยังคงริ้วรอยแห่งความสวยงามนั้นเบาๆ ก่อนที่จะพูดปลอบโยนผู้เป็นย่าราวกับผู้ใหญ่กำลังปลอบโยนเด็กๆกระนั้น
           "โอ๋...โอ๋...ท่านย่าคนดีของแก้ว อย่าร้องไห้สิคะ แก้วไปไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวม่านแก้วก็กลับมาแล้ว...โอ๋...นิ่งนะคะ"
              คำปลอบโยนนั้นทำให้ผู่ใหญ่คนอื่นๆที่อยู่ในที่นั้นต่างก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดูไปตามๆกัน โดยเฉพาะกับ ม่านเมืองผู้เป็นบิดา ที่หันมาดึงร่างเก็ดหญิงเข้าไปกอดเอาไว้ด้วยความรักสุดซึ้งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะปล่อยร่างเด็กน้อยหันไปส่งให้กับพระชายาสร้อยฟ้าต่อไป ซึ่งพระชายาทรงมีรับสั่งต่อม่านเมืองและม่านแก้วด้วยพระเมตตาว่า
           "ทั้งสองคนไม่ต้องเป็นห่วงดอกนะ เราขอรับรองว่า เราจะดูแลม่านแก้วเป็นอย่างดี ให้เหมือนกับที่ท่านทั้งสองได้ดูแลม่านแก้วมาเป็นอย่างดี ทั้งยังจะให้ความรักความเมตตาให้เหมือนกับลูกสาวแท้ๆของเราเองทีเดียว"
           "ขอบพระทัย พระชายามากกระหม่อม (เพคะ)" ทั้งม่านเมืองและม่านแก้วกล่าวขึ้นมาแทบจะพร้อมกันด้วยความซาบซึ้งใจในพระกรุณาเป็นล้นพ้น
               จากนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจักรทิพย์ และ พระชายาสร้อยฟ้า พร้อมด้วย "ม่านแก้ว" จึงได้พระดำเนินตรงไปยั้งพระราชรถที่ได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว เมื่อทรงประทับนั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระเจ้าน้องยาเธอฯ จึงได้มีรับสั่งกับม่านเมืองและม่านแก้วว่า
           "ท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นกังวลใดๆไปดอก เราจะดูแลม่านแก้วให้ดีที่สุด และหากว่าท่านทั้งสองคิดถึงม่านแก้ว เราก็ยินดีให้ท่านเข้าพบม่านแก้วได้ทุกเมื่อ และหากมีโอกาสเราเองก็จะพาม่านแก้วออกมาเยี่ยมเยียนท่านให้ได้"
           "ขอบพระทัยมากกระหม่อม ข้าพระบาททั้งสองจะไม่ลืมในพระเมตตาของพระองค์ในครั้งนี้อย่างแน่นอนกระหม่อม" ม่านเมืองทูลตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มลงกราบลงกับพื้นนั้น ทำให้ทุกๆคนที่ต่างก็มารอส่งเสด็จต่างก็รีบถวายความเคารพพร้อมทั้งส่งเสียงถวายพระพรจนดังไปทั่วอาณาบริเวณนั้นไปหมด แล้วขบวนเสด็จจึงได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งให้สองแม่ลูกได้แต่มองตามไปราวกับจะขาดใจ

               การเดินทางจากหมู่บ้านแห่งนั้นเพื่อกลับไปยังพระนครนั้นต้องใช้ระยะเวลาประมาณ ๑ สัปดาห์ จึงจะถึงที่หมาย ดังนั้นขบวนเสด็จจึงต้องแวะพักตามหัวเมืองต่างๆเป็นระยะๆ เพื่อมิให้ทุกคนเหนื่อยล้าจนเกินไป ซึ่งเมื่อขบวนเสด็จไปถึงยังเมืองต่างๆนั้น ต่างก็ได้รับการถวายการต้อนรับเป็นอย่างดีตลอดทาง และด้วยจากความแปลกใหม่ของสถานที่ และวัยยังเด็ก พระธิดาม่านแก้ว จึงมีความรู้สึกสนุกสนานไปตลอดทาง ทำให้พระบิดาและพระมารดายิ่งทรงรักและเมตตาเพิ่มขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะเมื่อพระธิดาทูลซักถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ตามประสาเด็กๆนั้น ก็ยิ่งทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระเมตตารักใคร่ได้สนิทพระทัยยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งสามพระองค์ต่างก็เพิ่มพูนความสนิทสนมต่ากันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อใดก็ตามที่เหล่าพสกนิกรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จได้พบเห็นต่างก็นึกว่า "ม่านแก้ว"นั้นเป็นพระธิดาแท้ๆของทั้งสองพระองค์ เนื่องจากทั้งสองพระองค์ทรงรักใคร่และยกย่องพระธิดาบุญธรรมเป็นอย่างยิ่งนั่นเอง

               จนกระทั่งตอนสายวันหนึ่งขบวนเสด็จก็ได้เดินทางมาถึงที่หน้าประตูเมืองหลวงแห่งมหานครอนันธราแห่งนั้น พสกนิกรที่ได้รับทราบข่าวกันล่วงหน้า ต่างก็มาเฝ้ารอรับเสด็จกันถ้วนหน้า รวมถึง ท่านเจ้าพระยาวัง,พระยาเสนาบดีบางส่วนต่างก็มารอรับเสด็จโดยถ้วนหน้า และอีกผู้หนึ่งที่มารับเสด็จอยู่ด้วยก็คือ "คุณท้าวการะเกด" (ชายาในพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจักรทิพย์) พร้อมด้วย "พระองค์หญิงจันทกา"พระธิดาในพระเจ้าน้องยาเธอฯกับคุณท้าวการะเกดนั่นเอง ซึ่งพระธิดาพระองค์นี้ทรงมีพระชนมายุได้ ๘ ชันษาแล้ว ทรงประทับนั่งบนพระแท่นเคียงข้างคุณท้าวมารดา ในชุดทรงสีข้าวอ่อน มีสไบห่มพาดพระอุระพองาม ซึ่งเมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จลงจากพระราชรถแล้ว ทั้งสองจึงได้ลุกขึ้นจากพระแท่นก่อนที่พระธิดาพระองค์น้อยจะทรงพระดำเนินแกมวิ่งตรงไปยังพระบิดาด้วยความดีพระทัยอย่างยิ่ง และเมื่อทรงวิ่งไปจนถึงหน้าพระพักตร์แล้วก็ทรงหยุดถวายพระพร ก่อนที่จะแทรกพระองค์ไปแทนที่ร่างของเด็กหญิงอีกผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่สนพระทัยว่าการกระทำเช่นนั้น เกือบทำให้เด็กหญิงผู้นั้นเกือบที่จะล้มลงไปทีเดียว ดีว่าอีกข้างหนึ่งนั้นพระชายาสร้อยฟ้าทรงประทับยืนอยู่ด้วยจึงได้ทรงเอื้มพระหัตถ์ออกไปรับร่างน้อยนั้นไว้ได้ทันท่วงที
           "เสด็จพ่อเพคะ...ทำไมเสด็จไปนานจังเลยเพคะ ลูกคอยตั้งนานกว่าจะเสด็จกลับมา" พระองค์หญิงจันทการับสั่งถามพระบิดา โดยที่ไม่สนพระทัยอีกสองพระองค์ที่ประทับยืนอยู่ข้างๆพระบิดาเลย ทำให้ไม่ทรงสบพระทัยนัก จึงได้มีรับสั่งด้วยพระสุรเสียงเข้มต่อพระธิดาออกมา
           "หญิงจัน...ทำมไเจ้าทำกิริยาเยี่ยงนี้เล่า ไม่สมควรเลย เจ้าเกือบจะทำให้น้องของเจ้าล้มลงไปแล้วรู้หรือไม่ อีกอย่างหนึ่งทำไมเจ้าจึงไม่ถวายพระพรต่อเสด็จน้าด้วยเล่า"
           "ก็หญิงไม่ทันเห็นนี่เพคะ...ถวายพระพรเพคะ เสด็จน้า" รับสั่งด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพระทัยนัก แต่ก็ยอมที่จะหันไปถวายคำนับพระชายาสร้อยฟ้า ซึ่งก็ได้รับรับสั่งตอบกลับอย่างอ่อนโยนจากพระชายา      
      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×