ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { SF EXO} Bside · CHANBAEK · KRISBAEK · HUNBAEK · BAEKDO ·

    ลำดับตอนที่ #4 : · BAEKDO · Mr.Mini [1] 37.5%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 173
      1
      10 ม.ค. 58





     

    You don’t love me~

     

     

    แสงไฟสีแดงเปลี่ยนเป็นสีม่วงสาดสว่างไปทั่วสถานบันเทิงยามค่ำคืนซึ่งมีผู้คนมากมายเลือกที่จะปลดปล่อยความเครียดตลอดทั้งสัปดาห์ไปกับเสียงเพลงและแก้วแอลกอฮอล์ ฟลอร์กว้างแน่นขนัดไปด้วยชายหญิงมากมาย บ้างเกี่ยวแขนกันโยกย้ายตามจังหวะเพลง บ้างยื่นหน้ากระซิบแลกเปลี่ยนบทสนทนา รอบข้างพื้นที่วงกลมนั้นมีเคาต์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีไม่น้อยสำหรับคนที่ตัวคนเดียว

     

     

    เก้าอี้สูงตรงกลางถูกครอบครองโดยชายหนุ่มร่างเล็ก มือเรียวข้างหนึ่งประคองแก้วแอลกอฮอล์สีใสเอาไว้ และเพียรกระดกมันเข้าปากแทบทุกนาที ใบหน้าที่คนมองมักจำกัดความว่าจิ้มลิ้มน่ารักยังคงนิ่งสนิท แต่หากดูจากแววตาที่เริ่มเยิ้มก็จะทราบว่าเขาคนนี้ปล่อยตัวเองให้ถูกแอลกอฮอล์เล่นงานมาหนักขนาดไหน

     

     

    หลายคนบอกมาว่าน้ำเมาจะช่วยล้างสมองให้ลืมทุกความรู้สึก แต่วันนี้ต่อให้ดื่มมากเท่าไหร่ แบคฮยอนก็ไม่รู้สึกว่าเขาลืมความรู้สึกทั้งหลายที่เกาะกินอยู่ในสมองและจิตใจ ยิ่งพยายามบรรเทามันเท่าไหร่ทุกภาพทุกความรู้สึกก็ยิ่งเด่นชัด

     

     

    คงเพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเจ็บหนักขนาดนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตยี่สิบสองปีที่รู้สึกราวกับถูกควักหัวใจออกไปทั้งที่เขายังมีชีวิต

     

     

    พยอนแบคฮยอนเพิ่งจะเอ่ยตัดความสัมพันธ์กับคนรักที่คบกันมาสี่ปี เหตุผลไม่ใช่เพราะหมดรักหรือมีคนอื่น เพียงแต่แบคฮยอนไม่อาจทนยื้อความสัมพันธ์ไปแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายหมดรักเขาไปนานแล้ว

     

     

    นานมากจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าคำว่ารักที่จริงใจครั้งสุดท้ายเขาได้ยินมันเมื่อไหร่

     

     

    เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสามวันที่แล้ว แบคฮยอนพยายามประคับประคองสติของตัวเองให้ไปเรียนหนังสือได้อย่างปกติ จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวจึงต้องมาพึ่งแอลกอฮอล์เช่นนี้

     

     

    แบคฮยอนอยากจะกำจัดความรัก ความอาลัยอาวรณ์ที่เขายังคงมีให้อีกฝ่ายอย่างเดิม เขาพยายามจะตัดใจและบอกตัวเองว่าการตัดสินใจของเขามันดีที่สุดแล้ว เหล่านั้นคือสิ่งที่เขาพยายาม ซึ่งแทบจะไม่เป็นผล

     

     

    แบคฮยอนยังรักอู๋อี้ฝานมากเท่าเดิม เท่ากับวันแรกที่เขาตกหลุมรัก

     

     

    คิดมาได้เท่านั้นหยดน้ำไร้สีก็หยดจากดวงตาลงบนเคาต์เตอร์สีดำมันวาว แบคฮยอนไม่ได้สนใจจะเช็ดมัน เขายกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปากและปล่อยให้ความร้อนนั้นรินผ่านลำคอ ก่อนจะดันแก้วเปล่ากลับไปยังบาร์เทนเดอร์ ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้าวลงไปบนฟลอร์เต้นแน่นขนัด แสงสลัวและแอลกอฮอล์ทำลายประสิทธิภาพประสาทสัมผัสของแบคฮยอนออกไปแทบหมด เขาโยกไปตามเสียงเพลงและจมลงกับมันอย่างที่อยากทำ

     

     

    ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักน่าฟัดจึงไม่ยากที่แบคฮยอนจะมีใครบางคนสนใจ เขามองหน้าอีกฝ่ายไม่ชัดรู้แต่ว่าสูงแถมกล้ามแน่นมาก มือเรียวลูบไปทั่วแผ่นอกแกร่งเมื่อทราบว่าหุ่นดีอย่างที่ตนชอบใบหน้าหวานก็แนบลงไปอ้อนแทบจะทันที แบคฮยอนพยักหน้าตอบแทบทุกคำถามของคู่สนทนา เขาไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายไล้มือสัมผัสกายไปถึงไหนต่อไหน

     

     

    แบคฮยอนบอกตัวเองว่าตอนนี้เขาโสด ใช่ เขาไม่รู้สึกผิดหากจะกลับไปใช้ชีวิตมั่วๆเช่นเดิม

     

     

    “อืม”

     

     

    เรียวฝีปากเรียวบางอ้าคราง พลางเชิดใบหน้าขึ้นรับสัมผัสร้อนจัดที่ไล่ไปตามลำคอ ลมหายใจอุ่นและแรงขบดูดนั่นแทบจะทำให้แบคฮยอนถอดเสื้อผ้าทิ้งแล้วเล่นกับอีกฝ่ายตรงนั้น เพียงแต่สติอันน้อยนิดของเขายังคอยเตือนว่าตอนนี้ยังไม่ได้ เสียงรอบข้างที่ดังอึกทึกไม่สามารถแทรกเข้ามาในหูของแบคฮยอนได้อีกต่อไป จนกระทั่งเสียงเฮดังลั่นพร้อมกับแชมเปญถูกเปิดจนพวยพุ่งขึ้นบนอากาศพร้อมกันหลายขวด ของเหลวกลิ่นแอลกอฮอล์นั่นเหมือนกับมีพลังบางอย่างซึ่งสามารถปลุกคนที่สัมผัสมันให้บ้าคลั่งได้

     

     

    แบคฮยอนถอนจูบกับชายหนุ่มตรงหน้าพลางปาดเอาคราบแชมเปญออกจากใบหน้า การกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้งในตอนเที่ยงคืน เขาหันไปยิ้มให้คู่ขาที่ก้มหน้าลงมากระซิบอะไรบางอย่าง วินาทีนั้นแบคฮยอนคิดว่าตัวเองเบลอจนเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนซ้อนทับอยู่กับหนุ่มร่างสูง รอยยิ้มบนใบหน้าจึงเหือดหายไปแทบจะทันที แบคฮยอนสะบัดหน้าไปมาเรียกสติ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาแขนยาวๆนั่นก็พาดที่คอเขาแล้วรั้งให้เดินตาม แบคฮยอนถามว่าจะไปไหน เขาเห็นว่าอีกฝ่ายขยับปาก แต่มันช่างเบาเกินกว่าจะทราบความหมาย

     

     

    พรึบ

     

     

    แต่จู่ๆทุกการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้กลับถูกชะงักลงโดยแสงสว่างที่ดับอย่างไร้สาเหตุ ความสับสนวุ่นวายเพิ่มมากขึ้นในทุกขณะ ผู้คนรอบข้างเริ่มขยับตัวเคลื่อนไหวเบียดเสียดกัน แบคฮยอนพยายามหรี่ตามองรอบข้าง นอกจากความพยายามเสียเปล่าแล้วเขายังถูกบางคนกระแทกจนหน้าแทบทิ่ม ใบหน้าหวานหันไปโวยมั่วๆอย่างหัวเสีย

     

     

    เพล้ง

     

     

    ความชุลมุนทวีความรุนแรงเมื่อแก้วเครื่องดื่มที่แขวนบนเคาต์เตอร์บาร์ร่วงลงมาแตกกระจายโดยฝีมือใครซักคน แบคฮยอนได้ยินเสียงตะโกนให้หมอบดังลั่นก่อนเสียงเหมือนกับกระแสไฟฟ้าแล่นจะดังขึ้นจากด้านบน เงยหน้าดูก็เห็นควันไฟพวยพุ่งจากสายไฟที่ซ่อนอยู่กับโครงเหล็กด้านบน สัญญาณเตือนภัยหวีดขึ้นในไม่กี่นาทีต่อมา

     

     

    ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ท่าไม่ดีแน่ คนที่มีสติบางส่วนพากันกรูไปที่ทางออก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากรับรู้เหตุการณ์อันตรายนั่น แบคฮยอนก็เช่นกัน ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวา แน่นอนว่าเขาวิ่งกลับไปยังทางออกอีกด้านไม่ได้แน่ เพราะโครงเหล็กด้านบนนั่นมันกำลังจะพังลงมาอยู่รอมร่อ

     

     

    “นี่วันมันบ้าอะไรวะ”

     

     

    ริมฝีปากเรียวสบถกับตัวเอง เขาก้มต่ำไปตามโต๊ะต่างๆ ยิ่งใกล้ทางออกยิ่งได้กลิ่นควันไฟรุนแรงขึ้นจนเริ่มแสบจมูกแบคฮยอนปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับฝูงชน เขาตาสว่างขึ้นพอสมควรจากเสียงแหลมของสัญญาณไฟไหม้ ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าต้องออกไปข้างนอกให้เร็วที่สุด

     

     

    ใช่ เขาคิดอย่างนั้น ถ้าตาไม่เหลือบไปเห็นร่างหนึ่งกำลังฟุบกับโต๊ะใกล้ทางออก มันเป็นจุดอับสายตาพอสมควร และถึงไม่เป็นแบบนั้นก็ไม่มีใครสนใจคนอื่นในวินาทีนี้หรอก

     

     

    แต่สำหรับแบคฮยอนเด็กนั่นไม่ใช่คนอื่นน่ะสิ...

     

     

    เขาจำใจเบียดผู้คนบริเวณทางออกมายังโต๊ะในสุด ดวงตาเรียวกวาดมองร่างเล็กที่นอนหมดสติฟุบใบหน้าลงกับโต๊ะ แบคฮยอนไม่มีเวลาอ้อยอิ่งปลุกอีกคนหรอก เขาจึงคว้าแขนเล็กให้โอบรอบคอตัวเองและค่อยๆลากร่างที่ตัวเล็กกว่ากันไม่เท่าไหร่ไปยังทางออก

     

     

    สติก็ไม่ครบร้อย ร่างกายก็ไม่ได้สูงใหญ่พอจะประคองได้สบายๆ ทุกอย่างดูลำบากไม่น้อยสำหรับแบคฮยอน เขาเป็นกลุ่มเกือบท้ายๆที่พ้นประตูออกมา ซึ่งกว่าจะออกมาได้ตอนนั้นข้างในก็แทบมองไม่เห็นอะไรแล้ว มันเต็มไปด้วยควันไฟ

     

     

    ด้านนอกคลับวุ่นวายก็จริง แต่สิ่งที่ดีที่สุดคืออากาศบริสุทธิ์ เป็นวันหนึ่งในกลางฤดูใบไม้ร่วงที่ทำให้แบคฮยอนเหงื่อออกมากมายขนาดนี้ เขาทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับร่างไร้สติข้างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พึ่งมาถึงไม่นานเอ่ยถามถึงสวัสดิภาพของเขา แบคฮยอนส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ปฏิเสธก้านสำลีชุบแอมโมเนียที่อีกฝ่ายส่งมาให้

     

     

    สิบนาทีต่อมา ผู้คนถูกกันออกจากบริเวณคลับที่เริ่มถูกเพลิงลุกไหม้ แบคฮยอนแทบไม่อยากจะคิดว่าถ้าหนีออกมาไม่ทันเขาจะเป็นยังไง

     

     

    มือเรียวเสยผมเปียกชื้นของตัวเองขึ้นลวกๆ ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าขาวที่หลับพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนถูกวางยาสลบ จมูกรั้นพรูลมหายใจออกมา ก่อนจะรวบรวมแรงหิ้วปีกอีกคนขึ้น เขาเดินเซไปมาได้ไม่นานก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกแรง จนกระทั่งขึ้นแท็กซี่ได้โดยที่ไม่ล้มหัวทิ่มไปทั้งคู่

     

     

    “นายมันตัวนำความโชคร้ายรึไง โดคยองซู”

     

     

     

    - Mr. Mini -

    37.5%

    ออกตัวก่อนว่านี่คือแบคโด้เรื่องแรกของเรา

    ปกติเคยอ่านแต่วันนี้ได้ลองแต่งแล้ว ยากอ่ะ แต่ชอบนะ

    เรื่องนี้แบคไม่ได้แมนเว่อร์ แบบเซเมะจ๋าอะไรแบบนั้น

    เราวางให้แบคเป็นรับมาก่อน ง่ายกับเราที่จะได้ไม่ต้องปรับมาก

    เรื่องนี้ไม่ใช่วันช็อตนะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ

    อาจจะมาต่อช้า เพราะเข้าช่วงฝึกหนักสำหรับสอบตรงศิลปากร

    เอาเป็นว่าถ้าเครียดมากจะมาแต่งต่อ รักทุกคน ><

    #ficBside




     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×