ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Fic EXO} Fake Boyfriend · KRISBAEK · END

    ลำดับตอนที่ #1 : · Fake Boyfriend · 01

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 57



    ◊ Fake Boyfriend ◊


    1




     

                ฮื่อ อ่ะ อ๊า

     

     

     ตามหาฉากคัทเล็กๆนี้ได้ที่ไบโอทวิต
    @byunpairy

     

     

     

    คัท! ดีมาก เซฮุน แบคฮยอน พักกองครึ่งชั่วโมงนะ

     

     

    ผู้กำกับจางโผล่ศีรษะขึ้นมาจากจอมอนิเตอร์และเอ่ยสั่งคัทผ่านโทรโข่งเป็นสัญญาณสิ้นสุดซีนเมื่อครู่พร้อมด้วยคำชม ทีมงานเริ่มต้นเดินกันขวักไขว่อีกครั้ง ส่วนนักแสดงนำสองคนก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนสีเข้มหลังจากจมอยู่กับมันกว่าชั่วโมง

     

     

    อ่ะ ฮยอง ใส่ซะ แล้วเดี๋ยวผมพาไปเข้าห้องน้ำ

     

     

    โอเซฮุนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่ส่งให้ร่างบางที่ยังไม่ยอมขยับตัวสักที หนุ่มน้อยเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาและผิวขาวเนียนกำลังเป็นดาวรุ่งไฟแรงของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ ด้วยอายุเพียงสิบแปดปี แต่ความฮอตและร้อนแรงมีไม่แพ้พระเอกรุ่นพี่ ทางผู้จัดจึงหาวิธีดันเด็กหนุ่มให้เป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม โดยการให้เล่นประกบคู่กับฝ่ายรับที่ฮอตที่สุดในค่ายในขณะนี้อย่าง พยอนแบคฮยอน

     

     

    เป็นเรื่องปกติของ นักแสดงหนังเอวี ทุกคน ที่แม้จะเจอหน้ากันเพียงครั้งแรก แต่ก็สามารถเล่นฉากอย่างว่าได้โดยไม่ขัดเขิน

     

     

    ขอบคุณนะ อ่า หิวจังเลย

     

     

    คนตัวเล็กกว่ารับเสื้อตัวใหญ่มาใส่ พลางบ่นตามนิสัยปกติหลังจากถูกสูบพลังไปจนร่างกายร้องเตือน พยอนแบคฮยอนขยี้ดวงตาเรียวของตนอย่างน่ารักและเป็นธรรมชาติ ถึงแม้ว่าเขาจะติดอันดับนักแสดงที่ขายดีที่สุดเพราะความฮอตและหน้าตาน่าจับกดนั่น แต่นิสัยจริงๆแล้วเจ้าตัวเป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่งเลยทีเดียว

     

     

    เดินไหวมั้ยเนี่ย

     

     

    ไหวๆ เซฮุนอ่าไม่ต้องประคองขนาดนั้น ฮยองเดินได้

     

     

    แบคฮยอนเอ่ยบอกเซฮุน เมื่อคนอ่อนกว่าแทบจะอุ้มเขาขึ้นมาจากเตียง มือเล็กจับมือหนาที่กอดเอวตนไว้ แตะเบาๆเป็นเชิงบอกให้ปล่อย เซฮุนยอมทำตามคำขอ แต่ก็ยังไม่วายมองคนตัวเล็กที่เดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

    เกือบสองปีแล้วที่แบคฮยอนยึดเอาอาชีพนักแสดงจีวีเป็นอาชีพหลัก แม้ตอนแรกไม่คิดจะย่างกรายมาบนเส้นทางสายนี้แม้แต่น้อย ด้วยเพราะภาระที่ต้องแบกรับจึงทำให้พยอนแบคฮยอนจำต้องหางานที่มีรายได้มากกว่าพาร์ทไทม์ และไม่เกินความสามารถนักศึกษามหาวิทยาลัยเช่นเขา แม้ตอนแรกจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ต่อมาก็กลายเป็นชินชาไปเสียแล้ว

     

     

    แบคฮยอนขอตัวกลับบ้านทันทีที่ถ่ายงานเสร็จ การเดินทางจากบริษัท L.U. Entertainment ต้นสังกัดของเขาถึงอพาร์ตเมนต์ไม่ได้ลำบากมากนัก นั่งรถบัสสามป้ายก็ถึงแล้ว คนตัวเล็กแวะเอานมจืดที่ซื้อติดมาเทให้เจ้าตูบที่ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างอพาร์ตเมนต์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก่อนจะเดินขึ้นตัวอาคารไปหยุดหน้าห้องเล็กของตนที่อาศัยอยู่มาเป็นเวลาเกือบห้าปี

     

     

    ชานยอลเฮ้ ...ยังไม่กลับเหรอ

     

     

    เสียงเล็กพูดกับตัวเองแผ่วเบาหลังไม่ได้รับคำตอบกลับจากเจ้าของชื่อซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องอยู่ห้อง แต่วันนี้ ปาร์คชานยอล น้องชายต่างแม่ของเขากลับไม่อยู่ คนตัวเล็กขมวดคิ้ว วางกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ มือก็หยิบสมาร์ทโฟนที่พกไว้เตรียมจะกดโทรหาอีกคน หากแต่ในเวลาต่อมาประตูไม้กลับถูกเปิดขึ้นเสียก่อน ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยร่องรอยฟกช้ำจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

     

     

    ไปโดนอะไรมา เจ็บมากมั้ย...

     

     

    ไม่ได้เป็นอะไร



                เสียงทุ้มเอ่ยกับพี่ชาย ก่อนจะปัดมือเล็กที่เอื้อมมาแตะใบหน้าอย่างเย็นชา แบคฮยอนเม้มปากก่อนตัดสินใจคว้าแขนคนตัวสูงเอาไว้

     

     

    ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องไปทำงานแบบนั้น ถ้านาย...

     

     

    งั้นนายก็เลิกเล่นหนังพวกนั้นสักทีสิ

     

     

    เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะ เลิกเอาตัวเองไปเสี่ยงเถอะ ฉันบอกนายแล้วไงว่าจะเป็นคนหาเงินเอง

     

     

    แล้วจะให้ฉันนั่งๆนอนๆใช้เงินที่นายได้จากการเอาร่างกายไปโชว์ให้ชาวบ้านดูน่ะเหรอ

     

     

    แบคฮยอนเงียบไป อาทิตย์นี้เขาและชานยอลทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้บ่อยครั้งจนนับไม่ถ้วน ชานยอลพยายามบอกให้เขาเลิกทำงานแบบนั้นตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวรู้ความจริง แต่เพราะแบคฮยอนมาไกลเกินกว่าจะถอย อีกทั้งเป็นงานที่ค่าตอบแทนสูงและไม่ผิดกฎหมายจึงทำให้ความคิดของพวกเขาขัดกัน

     

     

    ชานยอลและแบคฮยอนเหลือกันอยู่แค่สองคน หลังจากที่พ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตลงในอุบัติเหตุที่เป็นปริศนา พ่อของพวกเราหรือปาร์คชินยอง เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตที่มีทรัพย์สินเป็นอันดับต้นๆของเกาหลี ปาร์คซอริน แม่ของชานยอลคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนพยอนจีฮยอนแม่ของแบคฮยอนนั้นเป็นภรรยานอกสมรส เพียงแต่เธอตั้งท้องก่อนที่คุณนายปาร์คจะมีชานยอล คุณซอรินเสียชีวิตเมื่อชานยอลมีอายุเพียงสิบปี ชานยอลจึงมีจีฮยอนเป็นแม่อีกคนและมีแบคฮยอนเป็นเหมือนพี่ชาย ตระกูลปาร์คถือว่ามีพระคุณกับแบคฮยอนและแม่มาก เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูพยอนทั้งสองคนก็ได้ แต่ทั้งคู่ก็ทำ และปฏิบัติราวกับเป็นคนในครอบครัว

     

     

    โชคยังดีที่อุบัติเหตุครั้งนั้นแบคฮยอนกับชานยอลรอดมาได้ ทุกอย่างในชีวิตอันตรธานหายไปหมด แต่ต่อจากนั้นชีวิตของชานยอลและแบคฮยอนก็ไม่สุขสบายอีกต่อไป ยิ่งชานยอลยิ่งแล้วใหญ่ รายนั้นไม่เคยเจอความลำบากเลยตั้งแต่เกิด กว่าจะชินก็เล่นเอาหลายปี ต่างจากแบคฮยอนที่ถูกแม่เลี้ยงมาให้เจียมตัว เขาไม่ใช่คนมีฐานะตั้งแต่แรก เงินทุกวอนของคุณปาร์คไม่เคยถูกนำมาใช้เลี้ยงดูแบคฮยอนเลยแม้แต่น้อย

     

     

    ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นายตั้งใจเรียน ได้ทำตามที่นายฝันเอาไว้ งานอะไรฉันก็ยอมทำ

     

     

    แบคฮยอนยิ้มอ่อนๆให้น้องชายต่างมารดา เห็นแบบนั้นอาการฟึดฟัดของร่างสูงยิ่งทวีความรุนแรงมากกว่าเดิมเสียอีก ก่อนชานยอลจะเดินหนีเข้าห้องน้ำไปเสียดื้อๆ แบคฮยอนถอนหายใจออกมา ขาเรียวพาร่างของตนเดินไปเก็บกระเป๋าเป้สีเข้มที่สภาพไม่ค่อยจะดีและเสื้อสูทตัวนอกของชานยอลเข้าที่ รอยยิ้มจางๆพลันหดหายไปจากริมฝีปาก

     

     

    ชานยอลอา ฉันก็ไม่ได้อยากทำมันสักเท่าไหร่หรอก

     

     

     

    ◊ Fake Boyfriend ◊

     

     

     

    ตึก

     

     

    แก้วสีใสถูกมือหนาวางกระแทกบนโต๊ะกระจกจนของเหลวภายในกระฉอกออก แก้วตาสีอ่อนที่ฉาบเคลือบไปด้วยความไม่พอใจตวัดมองโทรศัพท์เครื่องหรูของตนที่สั่นครืดคราดอยู่บนโต๊ะ ตัวอักษรภาษาอังกฤษสี่ตัวโชว์ชื่อคนโทรเข้าผู้ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เขาหงุดหงิดใจอยู่ในตอนนี้

     

     

    แม่ใจร้ายมากนะที่ทำกับผมแบบนี้

     

     

    ริมฝีปากได้รูปเอ่ยประโยคข้างต้นออกมาแผ่วเบา ก่อนจะตัดสายที่กำลังโทรเข้ามาทิ้ง และเตรียมต่อหาใครอีกคน

     

     

    ไอ้ลู่ พรุ่งนี้จะเข้าไปหานะ

     

    ...

     

    แอสตัน มาร์ตินสีดำขลับจอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า อันเป็นที่ตั้งของบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ร่างสูงในชุดสูทกึ่งทางการสีเทาเข้มก้าวลงมาพร้อมกับส่งกุญแจรถให้พนักงาน ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นรวมกับใบหน้าหล่อจัดนั้นทำให้เจ้าของกายสูงตกเป็นเป้าสายตาได้ไม่ยาก

     

     

    อู๋อี้ฟาน หรือ คริส ทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่มีดีทั้งหน้าตา และฐานะทางสังคม พนักงานที่บริษัทแอลยูเอนเตอร์เทนเมนต์แทบทุกคนรู้จักเขาและเคารพร่างสูงไม่แพ้คนเป็นประธานตัวจริงเลย นั่นเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าอู่อี้ฟานกับลู่หาน ประธานแอลยูนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน คริสจึงสามารถเข้าออกบริษัทได้สบายๆโดยไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากนัก

     

     

    คุณคริสนัดท่านประธานไว้รึเปล่าคะ

     

     

    ไม่เชิง แต่ผมโทรหามันเมื่อคืน

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยตอบเลขาสาวที่ประจำอยู่ที่เคาต์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้านล่าง เธอก้มลงไปสนใจแท็บเล็ตในมือตนเองสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา

     

     

    ท่านประธานติดประชุมด่วนเมื่อสักครู่นี้น่ะค่ะ คุณคริสสะดวกรอพบท่านอีกสิบห้านาทีรึเปล่าคะ

     

     

    อืม ผมรอได้

     

     

    “ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณคริสที่ห้องรับรองด้านบนดีกว่าค่ะ แล้วดิฉันจะให้แม่บ้านยกของว่างไปให้”

     

     

    คริสทำเพียงตอบรับในลำคอสั้นๆ เลขาสาวโค้งให้เขาอีกครั้งก่อนจะเดินแยกไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ ร่างสูงเองก็เดินมาหยุดหน้าลิฟท์ ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในกล่องสี่เหลี่ยมที่จะพาเขาขึ้นไปข้างบน

     

     

    ขายาวก้าวเดินไปตามทางเดินที่บุด้วยพื้นพรม เขาปฎิเสธห้องรับรองและเดินมาที่ระเบียงกว้างซึ่งจัดตกแต่งเอาไว้เป็นสวนสวยใช้พักผ่อนหย่อนใจ น้ำพุเล็กๆทำให้บรรยากาศดูสดชื่นขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับคริสแล้วมันก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น บุหรี่นอกมวนหนึ่งจึงถูกหยิบขึ้นมาเพื่อดับอารมณ์ครุกรุ่นและสับสนภายในจิตใจ

     

     

    คริสยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่นานประตูบานใสก็ถูกเปิดออกโดยผู้มาใหม่ เสียงแหบหวานเอ่ยกับใครอีกคนผ่านสมาร์ทโฟนที่แนบแก้มขาวเอาไว้ รูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็คแต่กลับมีบางอย่างดึงดูดสายตาของเขาจนไม่สามารถละสายตาไปจากอีกคนได้

     

     

    รูปร่างสมส่วนใต้ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาด ใบหน้าด้านข้างที่ทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ริมฝีปากสีสดที่ขยับเอ่ยกับปลายสายออกมาเป็นน้ำเสียงมีเอกลักษณ์ มันไม่ได้หวานเลยสักนิด แต่มันกลับนุ่มนวลรื่นหูอย่างประหลาด

     

     

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่คริสเผลอมองอีกคน แต่คงนานพอที่จะทำให้คนถูกมองสงสัยและหันกลับมาส่งสายตาเป็นเชิงถาม ร่างสูงไม่ได้แสดงท่าทางเก้อเขินที่ถูกจับได้ ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มส่งกลับไปให้คนที่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าเป็นใคร หรือชื่ออะไร

     

     

    รู้อย่างเดียวคือเด็กคนนี้ทำงานเป็นนักแสดงเอวีอย่างไม่ต้องสงสัย ดูง่ายๆจากรอยจูบจางๆที่ลำคอขาวและริมฝีปากแดงสดที่ช้ำน้อยๆนั่น คงไม่มีใครบ้าใส่ชุดคลุมอาบน้ำมาเดินเล่น นอกเสียจากกำลังถ่ายงานในสตูดิโอข้างๆซึ่งเซตไว้ถ่ายหนังอย่างว่าโดยเฉพาะ

     

     

    แต่ก็แค่ถูกใจนั่นแหละ คืนนึงเขาถูกใจผู้หญิงผู้ชายเป็นสิบๆคน ไม่แปลกอะไรที่เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาท่าทางน่าขย้ำแบบนี้แล้วจะอดมองไม่ได้

     

     

    สายตาคำถามนั้นถูกส่งมาจากร่างเล็ก ก่อนจะกลายเป็นแววตาไม่ไว้วางใจ ดวงตาเรียวคู่นั้นหรี่ลงคล้ายกำลังจับผิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เท้าเล็กถอยห่างออกจากเขาราวกับเจอพวกโรคจิตกำลังจะเข้ามาลวนลาม ท่าทางนั้นทำเอาคริสหลุดขำออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดจะละสายตาออกจากคนตัวบาง หนำซ้ำยังแกล้งกวาดสายตามองไปทั่วทั้งร่างเล็กๆนั่นอีก

     

     

    “โรคจิต”

     

     

    สองคำที่เจ้าของเรียวปากสีหวานเอ่ยกระแทกหน้าเขาจังๆ ก่อนร่างเล็กนั้นจะหันหลังเดินกลับออกไปโดยไม่มองมาอีกเลย คริสเองก็ทำเพียงมองแผ่นหลังบางนั้นจนหายลับไป แต่ใบหน้าและทุกอย่างของเด็กคนนั้นกับฝังแน่นอยู่ในหัวเขาไม่จางสักนิด

     

     

    ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มออกมาจางๆ ดวงตาก็เหม่อมองกลุ่มควันสีเทาที่ก่อตัวขึ้นจากปลายมวนบุหรี่

     

     

    “ฉันรู้สึกว่า เราต้องได้เจอกันเร็วๆนี้แน่”

     

     

     

    ◊ Fake Boyfriend ◊

     

     

     

    “ชานยอล ฉันไปแล้วนะ อย่าลืมกินข้าวแล้วก็ไปโรงเรียนให้ทันด้วยล่ะ”

               

     

    ประโยคเดิมถูกเอ่ยขึ้นโดยพี่ชายตัวเล็กที่นั่งผูกเชือกรองเท้าอยู่หน้าประตู กิจวัตรประจำวันในตอนเช้าของแบคฮยอนจบลงแบบเดิมเหมือนเช่นทุกๆวัน เขาปลุกชานยอล ทำอาหารทิ้งเอาไว้ให้ และออกไปทำงาน แต่โดยปกติแล้วชานยอลจะออกมาส่งเขาหน้าประตูห้อง แต่วันนี้ไม่ใช่ แบคฮยอนเองก็รู้ดีว่าชานยอลคงไม่พอใจเรื่องเดิมๆอีกแล้ว

     

     

    อันที่จริงแล้วไม่ใช่ชานยอลไม่พอใจแบคฮยอนอยู่ฝ่ายเดียว คนตัวเล็กเองก็ไม่พอใจอีกฝ่ายอยู่เช่นกัน ถึงเขาจะรู้ดีว่าชานยอลก็อยากช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง แต่เด็กคนนั้นกำลังเอาตัวเองไปเสี่ยงจนเกินไป ชานยอลชอบไปทำงานเป็นสายตำรวจ คอยเป็นคนล่อพวกทำผิดกฎหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่จับกุม แน่นอนว่าค่าตอบแทนมันสูงแต่มันเสี่ยงอันตรายเสียยิ่งกว่าอะไร แบคฮยอนพยายามจะห้ามแล้ว เขาไม่อยากให้ชานยอลเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้ายแบบนั้น

     

     

    แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจเลย แถมยังพูดว่า ถ้าเขายอมเลิกแสดงเอวี ตนถึงจะยอมเลิก

     

     

    เฮ้อ เห็นรึยังล่ะว่าปาร์คชานยอลน่ะดื้อยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

     

     

    นั่งรถประจำทางมาไม่นานแบคฮยอนก็ถึงที่หมาย แอลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ต้นสังกัดที่เขาทำงานด้วยมากว่าสองปี คนตัวเล็กกระชับเสื้อโค้ทที่ใส่อยู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าฤดูหนาวที่เขาแสนเกลียดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่อากาศก็ยังคงเย็นยะเยือกอยู่แบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

     

     

    “หือ”

     

     

    เสียงแหบหวานอุทานออกมาเล็กน้อยเมื่อจู่ๆแผ่นกระดาษบางอย่างปลิวว่อนมาติดหน้าเขาโดยไม่ทันตั้งตัว แบคฮยอนหยุดเดิน ในใจก็ภาวนาขอให้มันไม่ใช่กระดาษทิชชู่ใช้แล้วหรืออะไรเทือกนั้น

     

     

    ด่วน เปิดรับสมัครแฟนตัวปลอม

    ถ้าหากคุณกำลังมองหางานง่ายๆแต่รายได้ดี

    คุณสมบัติ เพศชาย อายุไม่เกินยี่สิบห้าปี

    ค่าตอบแทนสูง ไม่พอใจตกลงกันได้

    ติดต่อมาเลยที่ XXX-XXX-XXXX

    หรือสำนักงาน L’U entertainment

     

     

    ดวงตาเรียวเล็กกระพริบปริบๆหลังไล่อ่านตัวอักษรบนใบปลิวสีสดใสด้วยความงงงวย ปากเล็กเม้มอย่างครุ่นคิดก่อนกวาดสายตายไปจ้องบรรทัดที่สี่ในเนื้อหาเขม็ง คำว่าค่าตอบแทนสูงสะท้อนก้องไปมาในสมอง เขาเองก็ไม่รู้ว่าใบปลิวนี่มันเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีทางเลือกในชีวิตมากนัก มันน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

     

     

    “อ้าว ที่นี่พอดีเลยเหรอ บังเอิญจังแฮะ”

     

     

    ริมฝีปากสีชมพูสดคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเงยหน้าขึ้นไปแล้วพบว่าตัวอักษรในแผ่นกระดาษกับป้ายขนาดใหญ่ของตึกสูงระฟ้าตรงหน้า มีตัวอักษรเดียวกันนั้นเขียนอยู่

     

     

    L’U Entertainment

               

     

    แบคฮยอนตัดสินใจพับใบปลิวนั้นใส่กระเป๋าเป้ บางทีนี่อาจจะเป็นทางออกสำหรับเรื่องขัดใจของชานยอลก็ได้ ถึงมันจะดูแปลกประหลาดอยู่บ้าง แต่แบคฮยอนก็ตัดสินใจไปแล้วล่ะนะ

     

     

     

    ◊ Fake Boyfriend ◊

     

     

     

    L’U Entertainment

     

     

    “ว่าไง ถูกใจสักคนมั้ย”

     

     

    เจ้าของดวงตากวางมองหน้าเพื่อนที่จ้องรูปถ่ายในแท็บเล็ตมามากว่าชั่วโมง ปฏิกิริยาอีกคนไม่ต้องถามก็รู้ว่ากำลังเซ็งขั้นสุดยอด ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะนิ่งสนิท แต่คิ้วเข้มนั่นก็ขมวดพันกันยุ่งอยู่กลางหน้า

     

     

    ไม่บอกก็รู้ว่า ไม่ถูกใจ :(

     

     

    “เฮ้อ แล้วจะเอาไงวะคริส อาทิตย์หน้าก็ต้องไปแล้วไม่ใช่รึไง”

     

     

    “อืม”

     

     

    สาบานได้ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ลู่หานจะหมั่นไส้ไอ้ท่าทางขี้เก๊ก คุณชายจ๋าของคริสมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เห็นเพื่อนเครียดแล้วก็ไม่กล้า เพราะเขากับอู๋อี้ฟานก็เป็นเพื่อนกันมานาน เพื่อนเครียดก็ไม่ควรซ้ำเติม...รึเปล่าวะ

     

     

    ลู่หานกระพริบตาปริบๆมองร่างสูงที่นั่งตรงข้าม เขาพยายามช่วยหมอนี่แทบทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แม้คำขอของไอ้บ้านี่มันจะพิสดารกว่าทุกครั้งก็เถอะ

     

     

    เมื่อเกือบอาทิตย์ก่อนหน้า คริสมาหาเขาที่บริษัทพร้อมกับขอให้ช่วยหาแฟนให้หน่อย ตอนแรกลู่หานก็ตกใจ เพราะคบกันมากว่าสิบปี ไอ้คุณชายไม่เคยขอให้เขาช่วยอะไรเรื่องแบบนี้ แต่หลังจากมันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังด้วยท่าทางที่ดูไม่สมกับเป็นคริสเสียเลย ลู่หานจึงตกลงช่วย

     

     

    เขาลงประกาศในหน้าเว็บหลักของบริษัท รวมทั้งทำใบปลิวแจกด้วยนะ แน่นอนว่าข้อเสนอ ค่าตอบแทนสูง ไม่พอใจตกลงกันได้ ทำให้มีคนให้ความสนใจไม่น้อยเลย แต่ติดที่เจ้าตัวไม่ถูกใจใครสักคนเลยนี่สิ

     

     

    “แล้วสรุปจะเอาไงวะ ถ้าแกไม่เลือกตอนนี้...”

     

     

    “ไอ้ลู่ แกช่วยฉันอีกเรื่องสิ”

     

     

    ลู่หานยังไม่ทันจบประโยค เสียงทุ้มต่ำของคริสก็เอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน ลู่หานเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก

     

     

    “ก็ถ้าช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่ มีอะไรล่ะ”

     

     

    “เด็กที่อยู่ในสังกัดเอวีค่ายแก...”

     

     

    ประโยคเกริ่นของคริสเล่นเอาคนเป็นเพื่อนเบิกตาโต กำลังจะอุทานขึ้นมาอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่าอีกคนส่งสายตามาให้เงียบลงเสียก่อน

               

     

    “คนที่ตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักๆ”

     

     

    “ไอ้ห่า ชัดเจนมาก ที่พูดมานั่นก็เข้าข่ายเด็กแทบทั้งค่ายอยู่แล้วมั้ง”

     

     

    คริสเหล่มองไอ้กวางที่ทำหน้ายับย่นจนตีนกามันขึ้นเป็นริ้วๆ เขาเองก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะนึกไปถึงคนตัวบางที่เขาเจอเมื่อสองวันก่อน ถ้าเป็นคนนั้นล่ะก็ คำว่าถูกใจคงจะน้อยไป

     

     

    “สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบห้า ผิวขาว หน้าตาจิ้มลิ้มแต่ชอบทำตาขวาง ผมสีเทา อืม ใช้โทรศัพท์โน้ตสามด้วย”

     

     

    “อ๋า นึกออกแล้ว”

     

     

    ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่พยักหน้าหงึกหงักอีกครั้ง นึกภาพตามที่คริสบอกออกมาก็ดูจะมีคนเข้าข่ายอยู่คนเดียว เด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มที่ว่า คงจะเป็นคนที่กำลังฮอตแล้วก็ขายดีสุดๆในตอนนี้

     

     

    “คนนั้นแหละ”

     

     

    “หมายความว่า อยากได้คนนั้นมาเป็นแฟนเหรอวะ”

     

     

    “อืม แค่บอกชื่อมาก็พอ เดี๋ยวไปคุยเอง”

     

     

    “ถ้าจำไม่ผิด เด็กคนนั้นชื่อ พยอน...”

     

     

    ชื่อของคนที่คริสอยากรู้จักยังออกจากปากลู่หานไม่หมด ประตูกระจกทึบหน้าห้องรับรองก็ถูกเคาะสองสามที ก่อนน้ำเสียงที่คริสจำได้ติดหูจะดังขึ้น

     

     

    “ขอโทษฮะ ผมมาสมัครเป็นแฟน ตามใบนี้”

     

     

     

    ◊ Fake Boyfriend ◊

     

     

     

     “ขอโทษฮะ ผมมาสมัครเป็นแฟน ตามใบนี้”

     

     

    ผู้ชายสองคนในห้องมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ หนึ่งในสองคนนั้นแบคฮยอนรู้จักดี เขาคือคุณลู่หาน ประธานบริษัทแอลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ เจ้านายใจดีที่เขามีโอกาสคุยด้วยอยู่บ่อยครั้ง ส่วนอีกคน ผู้ชายร่างสูงเจ้าของผมสีบลอนด์สะดุดตาคนนั้น...คือไอ้โรคจิตที่เขาเจอที่ระเบียงสตูดิโอเมื่อสองวันก่อนนั่นเอง

     

     

    คนตัวเล็กชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสมองดึงความทรงจำเกี่ยวกับผู้ชายร่างสูงตรงหน้าออกมาอีกครั้ง ดวงตาเรียวรีสบกับแก้วตาสีน้ำตาลอ่อนของอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ แบคฮยอนขมวดคิ้ว แต่อีกคนกลับส่งรอยยิ้มจางๆกลับมา

     

     

    “ไง แบคฮยอน ไม่นึกว่านายจะมาสมัครเหมือนกันนะเนี่ย”

     

     

    เสียงของท่านประธานฉุดแบคฮยอนออกมาจากความคิดในหัวเกี่ยวกับชายแปลกหน้า คนตัวเล็กส่งยิ้มกลับไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาสีเข้มเมื่อลู่หานผายมือเชิญให้นั่ง

     

     

    “ความจริงแล้วก็ไม่ใช่งานของทางค่ายหรอกนะแบคฮยอน แต่ว่าเพื่อนฉันมันฝากให้ทำน่ะ ได้อ่านในใบปลิวแล้วใช่มั้ย”

     

     

    “ครับ”

     

     

    แบคฮยอนขยับตัวอย่างอึดอัด ไม่ใช่เพราะคำถามของลู่หาน แต่เพราะสายตาจากคนตรงข้าม ที่เอาแต่จ้องมาทางเขาไม่วางตา พร้อมด้วยรอยยิ้มมุมปากที่คาดเดาความหมายไม่ได้นั่นด้วย แบคฮยอนไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนนอกจากสองวันที่แล้ว หวังว่าคงไม่ใช่...

     

     

    “ยังไงก็คุยรายละเอียดกับมันเองละกัน ฉันไปแล้วนะ”

     

     

    ลู่หานยิ้มจางๆให้แบคฮยอน ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน มือเรียวตบเบาๆที่ไหล่ของผู้ชายตัวสูงสองสามที และเพียงการกระทำแค่นั้น แบคฮยอนก็รับรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองหวังนั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง

     

     

    แบคฮยอนกำลังหวังว่า...เพื่อนคุณลู่หานคงไม่ใช่ผู้ชายคนนี้

     

     

    แต่มันดันใช่ไง -_-

     

     

     

    ◊ Fake Boyfriend ◊

    100%





    。SYDNEY♔  Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×