รักหมดใจสไตล์นายขี้เก๊ก
ฉันเชื่อว่าคนเราเกลียดอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น >
ผู้เข้าชมรวม
35
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
ณ คฤหาสน์ของท่านเพนเทล ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจรถนำเข้าที่รวยล้นฟ้าเลยทีเดียว
ท่านเพนเทลคือบุคคลที่ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจรถนำเข้าที่ติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับการใช้ชีวิตในครอบครัวแล้วท่านเพนเทลกลับประสบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่เลยทีเดียว เนื่องจากภรรยาที่คอยข้างกายกลับหนีขึ้นสวรรค์ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ก่อนนี่สิ แถมยังทิ้งเจ้าลูกชายคนเดียวที่แสนจะเอาแต่ใจ ตลอดระยะเวลายี่สิบเอ็ดปีที่เขาเฝ้าดูพฤติกรรมเจ้าลูกชายตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลยแม้แต่น้อย ทำไมกันนะ? ทั้งๆที่เขาก็เลี้ยงดูลูกชายของเขาเป็นอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรก็ไม่ให้ตอม อยากได้อะไรก็หามาให้ แต่ยังไงลูกชายตัวดีก็สร้างปัญหาไม่เว้นแต่ละวันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เกิดจากการที่ลูกชายเป็นคาสโนว่านั้นเอง ลูกชายคนเดียวของเขาคือ
เอเดน เป็นผู้ชายที่หน้าตาดี หล่อ และยังเป็นลูกครึ่งเยอรมันอีกด้วย แน่นอนเขาเป็นเด็กเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร เจ้าชู้เข้าขั้นคาสโนว่าเลยก็ว่าได้ แต่ก็นะทั้งหล่อทั้งรวยจึงมีผู้หญิงหมายปองมากมาย แต่ทำไมผู้ชายหล่อรวยถึงยังไม่มีแฟน (เค้าก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน - -!!) นอกจากจะหล่อ เอาแต่ใจแล้ว เค้ายังเป็นผู้ชายฉลาด เรียนอยู่ในระดับดีแต่ด้วยนิสัยที่เอาแต่ใจ ไม่สนใจใคร ไม่ยอมใครจึง และอีกอย่างผู้ชายเกือบทั้งคณะไม่ชอบขี้หน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
แต่แล้ววันหนึ่งท่านเพนเทลต้องไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศจึงได้มอบหมายให้พ่อบ้านช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน รวมถึงลูกชายตัวแสบไม่ให้ก่อเรื่องในระหว่างสองเดือนที่เขาไปต่างประเทศและต้องรายงานความเรียบร้อยทุกๆสองชั่วโมง เพราะเขารู้ดีว่าลูกชายต้องก่อความวุ่นวายให้พ่อบ้านทุกๆชั่วโมงแน่ แล้วท่านเพนเทลได้คุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว
“เอเดน ในระหว่างที่พ่อไปทำงาน แกต้องทำตัวให้ดีอย่าก่อความวุ่นวายให้พ่อบ้านล่ะ!!”
“เข้าใจแล้วพ่อ”
“เข้าใจแล้วก็ทำให้ได้ด้วย เออ!! พ่อต้องไปแล้วนะ”
“รีบไปเลยพ่อ เดี๋ยวตกเครื่อง”
เมื่อพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศก็เป็นเวลาที่ดีสำหรับเอเดน ความคิดที่จะทำอะไรก็พุ่งเข้ามาในหัว เค้าจึงสั่งให้พ่อบ้านให้คนเตรียมรถเพื่อไปมหาวิทยาลัยทันที เขาออกจากบ้านมาได้สักพักเขาจึงหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาแล้วกดหาใครสักคนนึง ไม่นานปลายสายก็รับโทรศัพท์แล้วพูดกรอกเสียงแบบเนือยๆกลับมาทำให้เค้าหงุดหงิดเล็กน้อย
“ว่าไง เอเดน มีไรป่ะ?”
“แกอยู่ไหนว่ะ ? เรท”(เพื่อนสนิทคนเดียวของเค้า แต่อยู่คนละสาขาอ่ะนะ)(เอาเวลาไหนไปสนิทว่ะ นักเขียนงง)
“คณะดิว่ะ ว่าแต่แกเหอะ ไม่มีเรียนหรอว่ะ?”
“วันนี้ไม่มีเรียนแล้วแกไปทำไรที่คณะว่ะ อย่าบอกนะว่าตามไปเฝ้าแฟน?”
“เออน่า!! ว่าแต่มีไรก็ว่ามา ขัดจังหวะคนสวีทกัน”
“จะชวนกินข้าวดิ ไม่มีเพื่อนกินข้าว แต่แกคงไม่ว่างแล้วว่ะ ชั้นว่า”
“ว่างดิ ที่ไหนล่ะ ? เดี๋ยวตามไป”
“อ้าว...ไอ่นี่ไม่อยู่กับแฟนแล้วหรอว่ะ ?”
“เดี๋ยวแฟนข้าจะไปกินข้าวกับเพื่อนนะ ปล่อยให้เค้าไปกัน ชั้นก็ไปกับแกไง”
“เออๆ...โอเคชั้นอยู่ร้านเดิมนะเว้ย ไวๆล่ะ หิว!”
“รู้แล้วน่า...รอสิบนาทีนะครับเพื่อนรัก เดี๋ยวตามไป”
ณ ร้านทาเคชิ โออิชิมะชะ
ร้านอาหารที่เค้าและเพื่อนรักมาเป็นประจำ ร้านนี้ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น (ก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นตกแต่งสไตล์ อิตาเลียนมั่ง!) เพราะเอเดนและเรทชอบทานอาหารญี่ปุ่นมากๆ โดยเฉพาะราเมนร้านนี้รสเด็ดที่สุด ซึ่งเค้าก็ชอบทานราเมนเป็นชีวิตจิตใจ วันนี้ก็เช่นกันตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านยังไม่ได้ทานอะไรเลย เค้าได้โทรนัดเพื่อนรักออกมาทานข้าวด้วยกัน แต่เจ้าเพื่อนตัวดีทำให้หงุดหงิดนะสิ ไอ้เรทตั้งแต่มีแฟนก็ไม่ค่อยมาสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงเลย เปิดเทอมมาสามอาทิตย์เพิ่งจะเห็นหัววันนี้แหละ วันนี้ต้องขอคิดบัญชีกับมันซะหน่อย
เอเดนมาถึงร้านก่อนเรท ประมาณห้านาทีได้เค้าเดินเข้าร้านมานั่งที่โต๊ะประจำ วันนี้ไม่ใช่วันหยุดทำให้คนไม่เยอะเท่าไหร่ พนักงานที่นี่ต้อนรับและบริการลูกค้าดีมาก เค้าจึงสั่งอาหารทันทีรวมถึงของเพื่อนรักด้วย อีกไม่นานเรทก็มาถึงไอ้หมอนี่มันไวเหมือนกันแหะ!
“เฮ้ย!...ช้าจังว่ะ ไส้จะขาดละ”
“แกจะเวอร์ไปไหนว่ะ ไอ้เอเดน แล้วสั่งอะไรไปยัง?”
“เรียบร้อย ทั้งของชั้นและแก แล้วจะสั่งอะไรเพิ่มก็บอกพนักงานเองแล้วกัน”
“ไม่ละ...แค่นั้นแหละ”
“เออ..ไอ้เรทตั้งแต่แกมีแฟนเราไม่ได้เจอกันเลยนะเว้ย”
“ก็ชั้นกลัวคนอื่นมาจีบแฟนว่ะ คือแบบว่าแฟนสวยอ่ะ ^^”
“สวยนะรู้! แต่แกจะไม่สังสรรค์แบบนี้มันไม่ใช่แกว่ะ”
“เอาน่า...ไว้ค่อยเจอกัน ที่คณะก็เจอนี่ว่ะ เอ๊า..อาหารมาละหิวไม่ใช่หรอแกอ่ะ”
อาหารมาเสิร์ฟเอเดนและเรทก็คุยกันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมาก ทานไปคุยไปอย่างที่ผู้ชายเค้าคุยกัน เรื่องรถใหม่ เรื่องเรียน เรื่องกีฬา เรื่องภายในคณะ รวมถึงเรื่องผู้หญิง แต่ก็ทำให้เอเดนหงุดหงิดขึ้นมาอีกนั้นแหละ(เอาใจยากจริงไอ้หมอนี่!)
“เออ...ไอ้เอเดน แกมีผู้หญิงตั้งมากมายทำไมไม่เลือกจริงจังสักคนว่ะ”
“ยัยพวกนั้นยังไม่ใช่ว่ะ มีแต่คนคบชั้นที่หน้าตาและเงิน”
“เออว่ะ! กว่าชั้นจะเจอคนที่ไม่คบชั้นที่เงินก็นานเหมือนกันว่ะ”
“เฮ้อ...แต่เป็นแบบนี้ก็มีความสุขดีนะเว้ย ไม่ต้องคอยรายงานสถานการณ์แบบแก”
“ความสุขกะผีดิ ถ้าแกมีแฟนนะเว้ยมีความสุขมากกว่าเป็นโสดหลายเท่า >////<”
“เอาเหอะ...ชั้นอยากอยู่แบบนี้แหละ แกจะมีก็มีไป”
“ชั้นต้องกลับไปรับแฟนแล้วนะเว้ย แกจะไปไหนต่อละ?”
“กลับบ้านดิว่ะ เดี๋ยวชั้นหายไปพ่อบ้านได้โทรรายงานพ่อมันจะแย่”
“งั้นไปละเว้ย...ไว้เจอกัน”
หลังจากแยกจากไอ้เรท ผมมีความรู้สึกที่หลากหลาย คำพูดของไอ้เรทมันทำให้ผมคิดมากอีกแล้ว ทำไมกัน ? ทำไม? ทำไม? คำนี้ผุดขึ้นมาในสมองของผม ทำไมคนหน้าตาดี สาวๆ เยอะแบบผมยังไม่มีแฟนจริงๆ กับเค้าสักที ทำไมกันนะ? แต่ช่างเหอะ! คิดมากผมก็ปวดหัวเสียเปล่าสู้ออกไปหาอะไรทำนอกบ้านยังดีซะกว่า หลังจากคิดแบบนั้นได้ผมก็ขับรถออกจากบ้านทันที จุดหมายปลายทางคือสถานที่สังสรรค์ของผมและผองเพื่อนต่างคณะของผมนั้นแหละ คืนนี้มีเรื่องให้มีความสุขอีกแล้วสินะ และแล้วผมก็มาถึงสถานที่สังสรรค์ ผมตรงเข้าไปที่โต๊ะของเพื่อนทันที
“นึกว่าแกจะไม่มาซะแล้ว ไอ้เอเดน”
“ต้องมาสิวะ แกว่าคนอย่างชั้นจะพลาดรึไง?”
“ได้ข่าวว่าพ่อแกไม่อยู่นิ เที่ยวยันเช้าได้สิท่า”
“เฮ้ย..อย่าพูดถึงพ่อชั้นในสถานที่แบบนี้สิวะ เดี๋ยวก็โทรมาด่าอีก”
“โทษทีวะ ลืมไปพ่อแกดุ ฮ่าๆๆ”
“พอเลยๆ อย่าแซวให้มาก วันนี้หวังว่ามีอะไรสนุกๆ นะเว้ย”
“วันนี้มีปาร์ตี้วันเกิดยัยลูกศร กิ๊กแกด้วยวะ ไม่ไปอวยพรหน่อยหรอ?”
“หรอวะ...ไม่ยักรู้แหะแต่ช่างเหอะ เห็นหน้ายัยนั่นแล้วเบื่อวะ”
“เออ...แกมันหล่อเลือกได้นี่หว่า”
วันนี้วันเกิดยัยลูกศรหรอ ผมไม่รู้มาก่อนแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ ยัยลูกศรเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อผมเองแหละ เรารู้จักกัน และยัยนั่นตามตื้อผมตั้งแต่เรียนอนุบาลแล้วละ จนตอนนี้อยู่มหาลัย ยัยนั่นยังตามตื้อผมไม่เลิกแถมยังใช้เส้นสายเข้ามาอยู่คณะเดียวกับผมอีก นี่ยังดีนะที่ไม่มาเรียนสาขาเดียวกับผมไม่งั้นผมนี่แหละจะซวย ยัยนั่นสำหรับผมน่ารำคาญเป็นที่สุด แต่ทำไงได้พ่อผมบอกให้ดูแลยัยนั่นให้ดี แถมยังไปรับปากพ่อยัยนั่นว่าผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเวลาอยู่มหาลัย ผมจะบ้าตายเอาให้ได้ ว่าแต่พูดถึงยัยนั่นก็เกินตรงเข้ามาหาผม นั้นไง! ความซวยเข้าครอบงำแล้วไหมละ ไม่น่ามาเลยไอ้เอเดน T^T
“เอเดน...คุณมางานวันเกิดลูกศรด้วยหรอคะ เซอร์ไพรจัง”
“เปล่านิ...ชั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าวันเกิดเธอ ชั้นมาสังสรรค์กับเพื่อนก็เท่านั้น” -_-
“ไม่เป็นไรหรอก...ยังไงเอเดนก็มาแล้ว ร้องเพลงเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกศรหน่อยสิคะ”
“ไม่เอาอ่ะ...ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดละกัน”
“ถ้างั้นขอเชิญ เอเดนและเพื่อนๆ ที่โต๊ะลูกศรดีกว่า งานนี้ลูกศรเลี้ยงเองนะคะ”
และแล้วเพื่อนผมก็จุ้นไม่เข้าเรื่อง พากันย้ายไปที่โต๊ะของยัยนั่นจนได้ คือพวกมันเห็นของฟรีเป็นไม่ได้นั้นแหละ จริงๆ ผมเลี้ยงพวกมันก็ได้ แต่พวกมันไม่ยอมคิดจะมานั่งดื่มกับสาวๆ ละไม่ว่า ผมละเบื่อไอ้พวกนี้จริงๆ แต่ว่าไอ้เรทก็มาด้วยนิ มากับแฟนซะด้วยต้องเข้าไปทักทายสักหน่อยละ
“แกมาด้วยหรอวะ ไอ้เรท ทีตอนกินข้าวชั้นชวนปฏิเสธยกใหญ่”
“ก็ชั้นเป็นห่วงไวท์นะ มาในที่แบบนี้มันอันตราย”
“กลัวไวท์ นอกใจรึไงวะ ไวท์เธอจะนอกใจเพื่อนชั้นรึไง ไม่เบื่อหรอที่ต้องให้ไอ้เรทตามเฝ้านะ”
“ชั้นไม่ได้ให้เรทตามเฝ้านะ แค่ชวนมาเฉยๆ ว่าแต่นายเถอะมาอวยพรวันเกิดแฟนหรอ”
“จะบ้าหรอ ชั้นมาเที่ยวของชั้นตามปกติ แต่ยัยน่ารำคาญนั้นลากชั้นมาที่นี่ต่างหาก”
“แล้วแกก็มาอะน่ะ เสือสิ้นลายแล้วหรอวะ ไอ้เอเดน”
คำพูดของไอ่เอเดนมันทำให้ผมหงุดหงิด แต่ความหงุดหงิดของผมก็หยุดลงเมื่อผมเจอกับผู้หญิงคนนึง หน้าตาน่ารัก ตาโตสีดำสนิท ผมหยักศกสีดำ ดูเข้ากับใบหน้าของเธอ เธอยิ้มแล้วโลกนี้ดูมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก คนอะไรวะน่ารักได้ขนาดนี้ เธอไปอยู่ไหนมาทำไมผมไม่เคยเจอเธอมาก่อน ในคณะที่ผมครุ่นคิดเธอก็มานั่งข้างๆ ไวท์แฟนเพื่อนผมนั้นเอง รึว่าสองคนนั้นรู้จักกัน
“อ้าว...แก้มบุ๋ม แกหายไปไหนมาอ่ะ? ไหนบอกถึงแล้วแต่ทำไมมาช้าจัง”
“โห้ยยย...ยัยไวท์จอมขี้ลืม ก็ชั้นบอกแกแล้วนี่ว่าขอเข้าห้องน้ำแล้วจะตามมาไง”
“เออๆ ลืมจริงๆด้วยโทษทีย่ะ”
“อ้าว...เรททำไมไม่ไปคุยกับพวกผู้ชายละ มานั่งเฝ้ายัยไวท์ก็หมดสนุกพอดี เดี๋ยวชั้นอยู่กับยัยนี่เอง”
“ชั้นก็รอเธอมานั้นแหละ ยังไงก็คอยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยละ”
“เจ้าค่า...ไอ้คุณชายเรท”
หลังจากจบการสนทนาไอ้เรทก็ลากผมมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเธอคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน ทำไมผมไม่เคยเจอเธอเลยในมหาลัย หรือเธออยู่คนละคณะกับผมกันนะ ดูยังไงก็ไม่น่าเรียนคณะเดียวกับผม ไม่ใช่ว่าคณะผมไม่มีสาวๆ น่ารักหรอกนะ แต่เธอผิวพรรณดีเกินกว่าจะมาเรียนอะไรที่มันถึกๆ แบบนี้นะ คงสงสัยละสิว่าผมเรียนคณะอะไร ผมเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกลละนะ ส่วนไอ้เรทกับแฟนเรียนสาขาอุตสาหการละ แต่ถึงยังไงผมต้องรู้ให้ได้
“ไอ้เรท แกรู้จักผู้หญิงเมื่อกี้ด้วยหรอวะ ดูแล้วไม่น่าอยู่คณะเราเลยนะเว้ย เพราะชั้นไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”
“อยู่คณะเดียวกับเรา สาขาเดียวกับชั้นด้วย เป็นเพื่อนสนิทไวท์เค้าละ”
“…”
“เห็นว่าเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมอ่ะนะ ที่แกไม่เคยเห็นหน้าก็ไม่แปลกหรอก ยัยนั่น อ่อ...ยัยแก้มบุ๋มอ่ะ”
“ชื่อ แก้มบุ๋มหรอ ชื่อน่ารักจัง” <<<คิดในใจอ่ะนะ
“อืม...ยัยนั่นอะเพิ่งย้ายมาจากญี่ปุ่น เห็นว่าพ่อเธอเป็นท่านฑูตไทยในญี่ปุ่นนะ”
“...”
“ยัยนั่นไม่ได้เข้ามาด้วยเส้นสายหรอกนะ แต่เธอเทียบโอนเกรดเข้ามาโดยเกรดของเธอสูงมากถือว่าเป็นคนเก่งใช้ได้เลยละ แถมยัยนั่นยังน่าตาดีอีกต่างหากแต่ก็น่าเสียดายแทนผู้ชายที่มาจีบเธอนะ เพราะเธอมีแฟนแล้วเป็นรุ่นพี่ปีสามสาขาแกนั้นแหละ ชื่อพี่อะไรนะ เดี๋ยวคิดก่อน อ๋อ...พี่แทนอ่ะ แกรู้จักป่าววะไอ้เอเดน”
“เออ...รู้จักดีเลยละ แต่ได้ข่าวว่าพี่แทนนี่เจ้าชู้ไม่ใช่เล่นเลยนะ ในช่วงที่ยัยแก้มก้นอะไรนั้นไปเรียนที่ญี่ปุ่นยัยนั่นรู้เรื่องนี้รึป่าว พี่แทนอะจีบพี่จีน่าดาวคณะอ่ะจนเป็นแฟนกันข่าวดังจะตาย แกจำไม่ได้หรอวะ”
“ยัยนั่นชื่อ แก้มบุ๋ม เว้ย ไม่ใช่แก้มก้น ไอ้นี่ก็เรียกชื่อผิดๆ เออจำได้ดิว่ะ ชั้นกับไวท์พยายามบอกแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกสักที พอจะบอกไอ้พี่แทนก็โผล่มาทุกที ไวท์เลยบอกว่าต้องรอให้ยัยนั่นเจอด้วยตัวเอง แต่พวกชั้นยังกลัวว่ายัยนั่นจะโกรธเวลามารู้ทีหลังว่าพวกชั้นปิดบังนะสิ”
“น่าสงสารยัยนั่นเนาะ มีแฟนๆ ก็นอกใจ แถมยังเป็นรุ่นพี่สาขาเดียวกับยัยนั่นด้วย แล้วเรื่องมันจะปิดได้นานแค่ไหนกันว่ะ กำแพงมีหู ประตูมีตา สักวันยัยนั่นคงรู้แหละ รู้ทีหลังชั้นว่าเจ็บกว่ารู้ก่อนนะเว้ย”
“แกชักจะสนใจเรื่องยัยแก้มบุ๋มมากไปป่าวว่ะ ไอ้เอเดน แกชอบยัยนั่นหรอ ?”
“ไม่ใช่เว้ย ชั้นแค่อยากรู้จักเพื่อนใหม่ก็เท่านั้น ไอ้นี้ถามแปลกๆ”
“เออ...ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ลืมบอกไปยัยนั่นอยู่ชมรมดนตรี ชมรมเดียวกับแกด้วยน่ะไอ้หัวหน้าชมรมดนตรี ชั้นฝากเพื่อนชั้นด้วยแล้วกัน ยัยนั่นนะเก่งเปียโนเป็นที่สุดอ่ะนะ แต่ที่จริงไวท์บอกว่า ยัยนั่นก็เล่นดนตรีได้เกือบทุกชนิดนั้นแหละ”
“เออ...รอวันนั้นประชุมชมรมก็คงได้คุยกันละมั่ง แล้วจะดูแลให้ละกัน เพื่อนแกก็เหมือนเพื่อนชั้นนั้นแหละ”
แล้วไอ้เรทก็พาผมไปรู้จักกับเพื่อนของมัน ก็แก้มบุ๋มยังไงละ แต่ไหงยัยแก้มบุ๋มนี่ดูไม่สนใจผม แถมยังทำหน้าเชิดใส่ผมอีก เกิดมายังไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับผมขนาดนี้เลย ยัยนี่เป็นใครกัน ผมคิดว่าผมน่าจะชอบผู้หญิงอย่างเธอได้ แต่จริงๆ แล้วนิสัยยัยนั่นก็ไม่ตรงกับสเป็คผมเลย หน้าตาขัดกับนิสัยโดยสิ้นเชิง สักวันนึงชั้นต้องทำให้เธอมาสนใจชั้นให้ได้ ยัยแก้มก้น พอหลังจากปาร์ตี้จบผมก็ไม่ได้เจอยัยแก้มก้นอีกเลย ทำไมกันทั้งๆ ที่ผมเข้าไปที่คณะทุกวัน บางวันไม่มีเรียนผมก็เข้าไป ไม่ยักเจอยัยนั่นเลยแหะ ดังนั้นผมจึงเลิกสนใจยัยนั่นโดยไม่ต้องสงสัยคือผมเบื่อที่จะต้องมาตามว่ายัยนั่นทำอะไร ที่ไหน กับใคร แค่อาทิตย์เดียวก็เกินพอกับชีวิตผมละ เพราะฉะนั้นผมก็ควรใช้ชีวิตของผมตามปกติอย่างที่มันควรจะเป็นสักทีตามสืบไปก็เท่านั้นยัยนั่นมีแฟนแล้วนี่นาและถึงผมจะสนใจเธอขนาดไหนผมก็ไม่มีวันแย่งแฟนชาวบ้านหรอกน่า ^^
หลังจากวันนั้นผมก็ใช้ชีวิตปกติของผมไปเรื่อยๆ และผมก็ได้คบกับยัยลูกศรตามที่พ่อต้องการ ถึงผมจะไม่ชอบยัยนี่เลยก็ตาม แต่พอคบๆ ไปยัยนี่ก็ดีกับผมมากๆ ตามใจผมทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะหึงหวงเวลาผมอยู่กับคนอื่น และซื่อสัตย์ต่อผมมากๆ เธอทำให้ผมก็เริ่มรู้สึกดี เธอก็เหมือนคนที่รู้ใจผมทุกเรื่องเลยละ อย่างน้อยๆ ยัยลูกศรก็ทำให้ผมมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้นละน่ะ ทำไมแต่ก่อนผมถึงมองข้างเธอนะ ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้วันนี้เรามีนัดกันทานข้าวนี่นา หลังจากที่ไม่ได้เจอกันตั้งสองวัน ยัยลูกศรช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยเธอมีเรียนเลิกดึกๆ ทุกวัน ผมบอกจะมารับกลับบ้านก็บอกว่าเกรงใจ ปกติเวลาผมเสนออะไรเธอจะตอบรับผมทุกอย่างไม่เคยขัดใจ แต่พักหลังมานี้เธอขัดใจผมบ่อยๆ ผมก็ไม่แปลกใจอะไรหรอกนะ เธออาจเครียดเรื่องเรียนก็ได้ ไม่อยากให้ผมเครียดไปด้วยอ่ะนะผมคิดว่างั้น ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดอยู่หน้าตึกที่ยัยลูกศรเรียนอยู่แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหายัยนั่นทันที แต่ทำไมโทรไม่ติดเลยละนี่มันก็เลิกเรียนแล้วนี่หว่า เพื่อนๆ เธอก็ออกจากห้องเรียนกลับบ้านเกือบหมดแล้วนิ และผมก็เจอไอ้เรทเพื่อนผมเองด้วยล่ะ
“ไงวะ ไอ้คุณเอเดนมารับแฟนหรอ วันนี้ไม่เห็นยัยลูกศรมาเรียนนะ”
“อืม...มีนัดทานข้าวนะ แต่ก่อนนัดยัยนั่นบอกมีเรียนที่นี่นิ”
“เออ...คือ....ว่า...ชั้นไม่รู้จะบอกแกยังไงดีวะเพื่อน แบบว่าไม่รู้จะเริ่มยังไงอ่ะนะ”
“แกก็บอกๆ มาชั้นจะได้รีบไป นัดสำคัญด้วยสงสัยยัยนั่นไปรอที่ร้านแล้วมั่ง”
“คือชั้นได้ยินเพื่อนยัยลูกศรคุยกันว่ายัยนั่นกำลังคบกับพี่แทน พี่สาขาแกวะแล้ววันนี้ชั้นก็เห็นยัยนั่นขึ้นรถไปกับพี่เค้าด้วยเมื่อเช้านะ”
“เฮ้ย! จะเป็นไปได้ไงวะ ยัยนั่นคบกับชั้นอยู่และยัยนั่นก็ชอบชั้นมากจะทำแบบนี้ได้ไงวะ อีกอย่างพี่แทนก็มีแฟนแล้วนี่นา และคนๆ นั้นก็ยัยแก้มบุ๋มเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับยัยลูกศรนะ”
“มันก็ใช่ แต่ยัยแก้มบอกว่าไม่ได้บอกให้ใครรู้ว่าเธอเป็นแฟนพี่แทน แล้วพี่แทนก็ไม่ได้บอกเพื่อนๆ เค้าว่าแฟนตัวจริงคือยัยแก้ม และอีกอย่างยัยแก้มกับพี่แทนก็เจอกันเฉพาะหลังเลิกเรียนเท่านั้น ไอ้พี่แทนเลยได้โอกาสนอกใจยัยแก้มเต็มที่ล่ะนะ”
“แกรู้รึเปล่าว่าพวกมันไปสวีทกันที่ไหน ช่วยชั้นทีนะไอ้เรท”
“ชั้นไม่รู้หรอก แต่เดี๋ยวให้ไวท์โทรถามเพื่อนๆ ยัยลูกศรให้เพราะพวกนั้นสนิทมากกว่าชั้นนะ”
และแล้วผมก็ได้สถานที่ที่ยัยลูกศรกับไอ้พี่แทนนั้นไปสวีทกัน อารมณ์ผมตอนนี้เริ่มเดือดเมื่อผมเจอภาพที่แฟนผมนั่งกินไอติมคุยกันแบบคู่รัก ผมไม่เข้าใจจริงๆ ยัยนั่นทำแบบนี้กับผมได้ยังไง ผมพยายามปรับตัวให้เข้ากับเธอ พยายามทำให้เธอพอใจ แต่เธอกลับทำกับผมเหมือนเป็นคนโง่คนนึง ทุกคนรอบข้างของผมรู้ มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่รับรู้อะไรเลย ผมถูกหักหลังจากคนที่ผมไว้ใจที่สุด ความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกัน เหมือนคนทั้งโลกกำลังหัวเราะให้กับความโง่ของผม ผมต้องทำอะไรสักอย่างแต่ผมต้องชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินคำสนทนานั้นจากยัยนั่นและไอ้พี่แทน
“ได้ข่าวว่าน้องลูกศรคบอยู่กับน้องเอเดนน้องสาขาเดียวกับพี่ไม่ใช่หรอครับ”
“เปล่านี่คะ เราเป็นเพื่อนกันพ่อเรารู้จักกันนะคะ ลูกศรไม่คิดจะคบคนเอาแต่ใจอย่างเอเดนเป็นแฟนหรอก คบไปลูกศรก็เสียเปรียบ ต้องคอยเอาใจทุกอย่าง ไม่พอใจก็โกรธ ก็หาเรื่องจะด่านะคะ ใครได้เป็นแฟนคงโชคร้ายมากๆ อะคะ”
“อ๋อ...แล้วถ้าพี่บอกว่าเรามาเป็นแฟนกันจะได้ไหมครับ”
“ค่ะ! พี่แทนขอลูกศรเป็นแฟนหรอคะ ตกลงคะ”
“ขอแสดงความยินดีกับคู่รักใหม่ของคณะนะครับ พี่แทนและลูกศร ผมยินดีด้วยนะครับ และผมจะบอกให้เอาบุญนะลูกศร ผมก็ไม่คิดที่จะคบกับผู้หญิงอย่างเธอนานนักหรอก พี่แทนคงจะคิดเหมือนกับผมนะครับ”
“เอเดน มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วมาที่นี่ได้ยังไง ใครบอกอะไรนายรึเปล่า”
“ไม่มีใครบอกผมทั้งนั้น ผมแค่มาเดินซื้อของเซอร์ไพรคนๆ นึงแต่กลับมาเจอภาพคนๆ นั้นนั่งอยู่กับคนอื่น และยังบอกว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับผมนอกจากคำว่าเพื่อนเท่านั้นแถมผมยังรู้อีกว่าคนๆ นั้นบอกกับคนอื่นว่าผมมันแย่มากจริงๆ และใครคบกับผมคงมีแต่เรื่องโชคร้ายอะนะ”
“ไม่นะ...เอเดน ลูกศรขอโทษ ลูกศรไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะ”
“หรอ...ต่อแต่นี้ไปอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าเธออีก แล้วอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าเธออีกจำไว้”
ณ เวลานี้ความรู้สึกที่จะจริงจังกับใครสักคนของผม มันหมดไปตั้งแต่ยัยลูกศรนอกใจผม ถามผมว่าเสียใจไหม ผมเสียใจนะ แต่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรขนาดนั้น ถามว่าผมเฮิร์ทไหม มันก็ต้องมีบ้าง แฟนผมคบซ้อนผมต้องเฮิร์ทเป็นธรรมดา ผมก็ผู้ชายธรรมดานะ มีจิตใจ มีความรู้สึก หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็เอาแต่เก็บตัวอยู่บ้าน ไม่ออกไปเที่ยวหรือสังสรรค์ใดๆ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ มันรู้สึกเบื่อๆ ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น จนพ่อบ้านโทรไปฟ้องพ่อผมเท่านั้นละ ผมจึงต้องย้ายตนเองมาอยู่ในห้องชมรม แต่ผมก็ยังไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นแหละ จนพ่อต้องโทรขอให้ไอ้เรทมาดูอาการของผม
“เข้าชมรมได้ แต่ทำไมไม่ไปเรียนวะ พ่อแกให้ชั้นมาดูอาการหน่อยว่าไอ้คาสโนว่าตัวพ่ออย่างแก แค่ถูกแฟนนอกใจถึงกับเฮิร์ทจนไม่เป็นทำอะไรเลยรึไง หา!”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยไอ้เรท ชั้นก็แค่เบื่อๆ ไม่อยากเจอผู้คนก็แค่นั้นเอง”
“เรียกง่ายๆ ว่า อาการอกหักเว้ย แกจะอะไรนักหนากับผู้หญิงเลวๆ คนนึง เค้าไม่รักไม่ชอบเราแล้วจะไปแคร์ทำไม แกมีผู้หญิงเข้าหาแกตั้งมากมายจนสนใจทำไม เอเดนคนเดิมไปไหนวะ เมื่อก่อนแกยังไม่สนใจจะจริงจังกับใครและไม่สนยัยลูกศรเลยด้วย ตอนนี้แกจะมาอาลัยอาวรณ์ทำไมวะ”
“ชั้นอายคนอื่นนี่หว่า ที่ถูกยัยนั่นหลอกว่ารักว่าชอบ คนอื่นต้องมองว่าชั้นเป็นคนโง่ เสียหน้าที่คนที่ได้ชื่อว่าคาสโนว่าอย่างชั้นต้องมาถูกผู้หญิงนอกใจ มันอายจริงๆ นะเว้ย ไอ้เรท”
“แกจะแคร์คนอื่นทำไมวะ แค่คนรอบข้างแกเข้าใจก็พอนี่นา เลิกสนใจเรื่องที่แก พรุ่งนี้เขามีกิจกรรมสานสัมพันธ์นะเว้ย แกจะมาป่ะ มาดูน้องๆ ปีหนึ่งกัน เผื่อแกจะได้เด็กใหม่ ฮ่าๆ”
“เออ...เค้ามีรับน้องเข้าชมรมด้วย ชั้นต้องมาอยู่แล้วละ แกก็กลับไปเรียนได้แล้ว วันนี้ชมรมชั้นมีประชุม คนนอกออกไปได้แล้ว อีกอย่างขอบใจมากวะที่เตือนสติ”
“ไม่เป็นไรเว้ย...แกก็เพื่อนชั้นนี่หว่า อีกอย่างวันนี้แกประชุมชั้นฝากยัยแก้มด้วยละช่วยแนะนำยัยนั่นหน่อยละกัน”
“เออๆ เดี๋ยวดูให้ ไปได้แล้ว”
ผมเกือบลืมไปแล้วว่าวันนี้มีประชุมชมรม เป็นครั้งแรกของการเปิดเทอมเลยนะเนี่ยที่ชมรมของผมประชุมกัน เพราพรุ่งนี้จะต้องมีการรับสมัครน้องๆ เข้าชมรม ถึงเวลาการประชุมอาจารย์พลอย อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมก็เข้ามาประชุมด้วยแต่เข้ามาพร้อมกับผู้หญิงที่น่าตาน่ารัก คนที่ผมก็พอจะรู้จักบ้างเธอคือ เพื่อนไอ้เรทและไวท์นั้นเอง ปัง!ปัง!ปัง! เสียงตบโต๊ะดังลั่นทำให้ทุกคนต้องชะงักและเงียบฟัง
“เอาละเด็กๆ วันนี้อาจารย์พาสมาชิกใหม่มาแนะนำให้รู้จัก แนะนำตัวสิจ๊ะหนู”
“สวัสดีคะ เพื่อนๆ ทุกคนชั้นชื่อ เรศิตา มุศิตานนท์ ชื่อเล่น แก้มบุ๋มคะ อยู่สาขาวิศวกรรมอุตสาหการนะคะ จะเรียกชั้นว่าแก้มเฉยๆก็ได้ ยังไงก็ยินดีรู้จักทุกคนนะคะและช่วยแนะนำชั้นด้วยนะคะ ขอบคุณคะ”
“เอาละแนะนำตัวเสร็จ ก็ไปหาที่นั่งได้จ๊ะ วันนี้เรื่องที่เราจะประชุมกันทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว แล้วประธานชมรมอย่างเธอมีความเห็นยังไงบ้างเอเดน”
“ผมคิดว่าตอนนี้ชมรมเราก็มีวงดนตรีอยู่ประมาณหกวง ส่วนมากก็จะถนัดสากลซะมากกว่า ผมคิดว่าน่าจะรับสมัครเพิ่มอีกยี่สิบคน พอรวมๆ วงกับรุ่นพี่ที่มีอยู่ได้ เพราะเทอมนี้พวกปีสองบางสาขาจะติดเรียนกันเยอะ ไม่มีเวลามาซ้อมและอีกอย่างน้องๆ ปีหนึ่งไม่ค่อยมีคาบเรียน ส่วนมากจะว่างๆ ก็ให้มาซ้อมร่วมกับพี่ที่มีเวลาว่าง และอีกอย่างถ้าเรารับมาเยอะแล้วมันจะดูวุ่นวายคับอาจารย์”
“แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันจ๊ะ ใครมีอะไรจะเพิ่มเติมอีกไหม แก้มมีอะไรจะเพิ่มเติมไหมจ๊ะ”
“คะ คือ จริงๆ หนูเห็นว่าชมรมเรายังไม่มีแบบพิธีกรอะไรแบบนี้คะ ถ้ารับพิธีกรมาด้วยเวลาเราออกงานคณะไม่จำเป็นต้องจ้างคณะอื่นมาเป็นพิธีกรนะคะ น่าจะคัดเลือกจากน้องๆ ที่สมัครทั้งยี่สิบคนก็ได้นะคะ”
“มีใครจะเพิ่มเติมอะไรอีกไหมจ๊ะ ถ้าไม่มีก็ตกลงตามนี้ยังไงพรุ่งนี้ก็ช่วยๆ กันหน่อยนะจ๊ะ งั้นก็แยกย้ายกันได้ แล้วใครจะซ้อมอะไรต่อก็ตามสบายนะจ๊ะ อ๋อ...แก้มและเอเดนมาหาอาจารย์หน่อยจ๊ะ”
“คะ อาจารย์ มีอะไรรึเปล่าคะ”
“อาจารย์จะบอกว่า ถ้าแก้มมีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาเอเดนเค้าได้เลยนะจ๊ะ เอเดนเค้าเป็นประธานชมรมนะจ๊ะ ยังไงก็ทำความรู้จักกันไว้ แล้วเอเดนเธอก็แนะนำชมรมและงานคราวๆ ให้แก้มเค้าฟังด้วยนะจ๊ะ”
“ครับอาจารย์”
“นี่แก้มเธอใช่เพื่อนไอ่เรทกับไวท์ป่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“อืม...”
“จะกลับแล้วหรอ ชั้นยังไม่ได้แนะนำชมรมและงานที่ชมรมรับคราวๆ เลย อู้ชะมัดเลยเธอเนี่ย”
“นี่นาย ชั้นมีธุระ ไว้คราวหน้าแล้วกันนะไว้เจอกันพรุ่งนี้ บาย”
“เธอจะไปตามหาแฟนหรอหึ ชั้นว่าปานนี้คงไปเที่ยวกับกิ๊กถึงไหนต่อไหนแล้วม้างงง”
“นี่นาย นายรู้เรื่องของชั้นมากเกินไปแล้วนะ ชั้นจะไปไหนมันก็เรื่องของชั้นนายอย่ามายุ่งกับชั้นได้ไหม”
“น่าตาก็ดี เรียนก็เก่ง ไม่น่าให้แฟนหลอกเลยนะเธอนะ บางทีเธอน่าจะฟังไอ้เรทกับไวท์บ้างก็ดี เธอไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งปีนึงมีรึว่าพี่แทนของเธอจะไม่มีสาวๆ คนอื่นนะ เธอนี่มันโง่ชะมัด”
“นี่นายด่าชั้นหรอ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่านายเอาอะไรมาพูดแต่ชั้นขอยืนยันพี่แทนเค้าไม่ใช่คนแบบนั้น นายอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นหน่อยเลย อย่าเอานิสัยตัวเองไปประเมินคนอื่นและคราวหลังอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของชั้น เพราะเราไม่ได้สนิทกันเลย อ๋อ!...และที่บอกว่าให้เรียกชั้นว่าแก้มนะเฉพาะคนสนิทเท่านั้น อย่างนายนะไม่มีสิทธ์”
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก ก็แค่เตือนเฉยๆ นะ ยัยแก้มก้น ฮ่าๆ”
“ไอ้บ้
ผลงานอื่นๆ ของ maled_pp ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ maled_pp
ความคิดเห็น