ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Breed : 7 [NC] 100%
08:30 - Sunday
“เมื่อคืนโครตอึดอัด จองกุกเบียดเราจนหลับไม่สนิทเลย” คุณเปิดบทสนทนายามเช้าด้วยการบอกเล่าสิ่งที่เจอมาเมื่อคืนให้กับคนใกล้ตัวที่กำลังนั่งทานซีเรียลอย่างสบายใจ และก็ไม่วายที่จะโดนเจ้าตัวตอบกลับราวกับจะพ่นไฟใส่
“เค้าป่าวนะ เตงนั่นแหละเบียดเค้า”
“ที่นอนตั้งกว้าง ทำไมต้องเบียดมาทางเค้า”
“เค้าไม่อึดอัด แต่เค้าจะตกเตียง ต้องเเปลงร่างเป็นน้องต่ายนอนทั้งคืนเลยรู้มั้ย”
จองกุกตอบกลับอีกคนโดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา ด้วยความที่เขาค่อนข้างดื้อและไม่ค่อยยอมใคร เหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องไม่เป็นเรื่องระหว่างคุณกับจองกุกก็มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และที่จองกุกพูดมาในตอนท้ายๆก็ไปสะกิดใจคุณเล็กน้อย ถึงจองกุกจะอ้างมาแบบนั้น แต่คุณก็ยืนยันได้เลยว่าเมื่อคืนคุณถูกร่างกายใหญ่โตของจองกุกเบียดจริงๆ เพราะในระหว่างนอนหลังคุณชนกับกล้ามหน้าท้องของเขา ถ้าหากเขาแปลงร่างเป็นน้องต่าย มันคงจะต้องนอนแล้วรู้สึกว่าข้างหลังโล่งๆ ซึ่งความจริงมันอึดอัด ถ้าไม่ใช่จองกุกแล้วจะเป็นใครล่ะ?
“แต่ตอนนอน นายก็เบียดเราทั้งคืนเลยนี่นา”
“ขวามือเราก็จองกุกนอน จะไม่ใช่ได้ยังไง” ปากเล็กเถียงจองกุกฉอดๆไปเช่นกัน เพราะคุณมั่นใจว่าคนที่นอนเบียดเป็นจองกุกแน่ๆ
“แล้วทำไมต้องดุเค้า” จองกุกไม่ทันจะได้ตักซีเรียลกินเข้าท้อง เป็นต้องหยุดชะงักแล้วทำหน้ายู่ ปากจู๋ คิ้วตกฉบับคนโดนดุ คุณเจ้าของของเขาดุก็เก่ง แถมดื้อจริงๆเลยเชียว ถ้าได้กันอีกสักที จองกุกจะจับตีให้ก้นลาย
“ก็จองกุกไม่ยอมรับ”
“หึ้ยยย ใจร้าย” จองกุกว่าแล้วตักซีเรียลเข้าปากแล้วเคียวแก้มตุ่ยอย่างเร็ว เหมือนกับว่าจะต้องการประชดประชัน ก่อนจะเอ่ยปากว่าไม่อยากไปนู้นไปนี่กับคุณแล้ว “เค้าไม่ไปติวหนังสือด้วยแล้วนะ”
“ไม่ได้ เรารับปากคุณครูไว้แล้ว”
“ไม่ไป!” จะว่าจองกุกดื้อก็ไม่ถูก เพราะส่วนใหญ่การกระทำของเขาน่าจะเรียกว่าเอาแต่ใจมากกว่า แต่ถ้าจะเรียกให้เหมาะสมกับหน้าตุ่ยๆก็คงจะต้องเรียกว่าดื้อสินะ คุณเลี้ยงเขามากับมือ ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่ากระต่ายตัวนี้มีนิสัยเป็นยังไง
“ดื้อแบบนี้ ต้องการอะไรแลกเปลี่ยน?”
“อยากผสมพันธุ์อีก”
“ให้ไม่ได้”
“งั้นอยากมีเซ็กส์”
“จองกุก! อย่าวกเข้าเรื่องลามกได้มั้ย” คุณรู้สึกอึ้งในสิ่งที่จองกุกพูด จนทำตัวไม่ถูก ก่อนจะพูดปฏิเสธเขาไป พอเขาตอบกลับมาด้วยบริบทที่คล้ายๆกัน คุณก็ยิ่งรู้สึกอึ้งแบบคูณสองและไม่วายที่จะมองค้อน ชูตะหลิวที่กำลังทอดไข่ดาวในมือขึ้นให้กับคำพูดลามกของเขา
“ก็ติดสัดนี่ ตั้งแต่เมื่อคืนในหัวก็มีแต่เรื่องอย่างว่าจะให้เค้าทำยังไง” จองกุกพูดงึมงำพลางเคี้ยวซีเรียลไป ที่เขาว่ากันว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการผสมพันธุ์บ่อยและถี่มาก เมื่ออยู่ในช่วงติดสัด ก็คงจะเป็นเรื่องจริง
“…”
“งั้นยิ่งต้องไปติวหนังสือ เราจะยอมไม่ปล่อยให้จองกุกมีเวลาว่างทั้งวันแน่” ได้ยินจองกุกพูดแบบนั้นคุณถึงกับไปต่อไม่ถูก คุณเลยพูดอะไรบางอย่างแล้วหันกลับไปโฟกัสในการทำอาหารต่อ พอทำมื้อเช้าเสร็จคุณเลยเดินมาหาจองกุกแล้วยื่นมื้อเช้าจานที่สองให้กระต่ายในร่างมนุษย์ตรงหน้ากิน พลางมองอย่างคาดโทษแล้วเดินออกจากห้องครัวเพื่อไปหาสมาชิกในบ้านอีกคนที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น “กินเสร็จก็รีบไปอาบน้ำ”
-ก๊อก! ก๊อก!-
คุณเคาะประตูตามมารยาท ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพื่อปลุกอีกคนไปทานข้าวเช้า แทฮยองนอนหลับบนเตียงโดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย ทั้งๆที่ปกติ เขาเป็นคนชอบมาปลุกคุณในตอนเช้าแท้ๆ
“แท”
“ครับ” แทฮยองขานตอบรับคุณด้วยเสียงงัวเงียและท่าทางที่ไม่สู้ดีนัก เขาตื่นมาดูเพลียๆอีกทั้งยังตัวขึ้นสีแดงแบบคนกำลังแพ้อะไรสักอย่าง แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ เพราะอาการในลักษณะนี้ นานๆทีแทฮยองถึงจะเป็น
“วันนี้แทดูแปลกๆนะ โอเครึเปล่า?” คุณเดินเข้าไปนั่งขอบเตียงแล้วถามด้วยความสงสัย เพราะอาการในครั้งนี้ มันดูผิดปกติไปมาก เมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ “แทเป็นไร”
“วันนี้คืนเดือนหงาย เค้าต้องออกล่า”
เรื่องนั้น… คุณรู้อยู่แล้วล่ะ
“อีกแล้วหรอ”
“ถามได้มั้ย เรื่องของนาย” คุณเปรยๆออกมาด้วยความอยากรู้ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา เขาไม่มีความลับอะไรกับคุณเลย อยากทำอะไร รู้สึกยังไง เขาก็แสดงออกชัดเจนจนคุณแทบจะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ในบางทีแทฮยองก็ดูเป็นคนลึกลับ เรื่องเกี่ยวกับเขา คุณเองก็ไม่ได้รู้และเข้าใจมันทั้งหมด เพียงแต่เรื่องบางอย่างมันอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักหน่อย “ได้สิ”
คุณเอื้อมตัวมาแบบเว้นระยะห่างเล็กน้อยคล้ายกับกำลังจะเอามืออังหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิในร่างกายของเขา แต่แทฮยองกลับปัดมือคุณออกแถมยังเอามือป้องจมูกตัวเองอีก
“น้ำหอมที่เราฉีดมันกลิ่นฉุนหรอ!?”
“ชะ..ใช่ ช่วงนี้จมูกเค้ารับกลิ่นได้ดีกว่าปกติน่ะ” ความจริงแล้วมันก็เป็นกลิ่นหอมปกติติดตัวคุณที่แทฮยองรู้สึกชินมาตลอด เพียงแต่ประสาทสัมผัสของเขาในช่วงนี้มันไวกว่าปกติจนการรับรู้แต่ละอย่างเกี่ยวกับเพศตรงข้าม ทำให้เขารู้สึกแทบคลั่ง
แทฮยองนิ่งเงียบเพื่อสงบสติอารมณ์สักครู่ ก่อนจะนึกถึงเรื่องราวของตนแล้วเริ่มเล่าเรื่องให้คุณอยู่เป็นเวลาเกือบ 15 นาที คุณฟังเขาเล่าไป พลางปะติดปะต่อเรื่องราวของเขาไป โดยใจความของเรื่องราวของเขามันก็มีอยู่ว่า
แทฮยองเป็นจ่าฝูงของหมาป่าจำนวนหนึ่งบนป่าสูงแถบคังวอน สำหรับชาติกำเนิดนั้น พวกเขาทั้งหมดคือครึ่งมนุษย์ครึ่งหมาป่าโดยกำเนิด ลักษณะสายพันธุ์คล้ายไลแคนท์และเหลือรอดเป็นเผ่าพันธุ์สุดท้ายในทวีปเอเชีย พวกเขาถูกเรียกว่าเป็นผู้ถูกล่า แต่เพื่อความอยู่รอด พวกเขาจำเป็นต้องเป็นผู้ล่า พวกเขามักจะออกล่าในทุกคืนเดือนหงาย เพราะพวกเขายังคงหิวกระหายในการกินเลือดและเนื้อสดเฉกเช่นสัตว์นักล่า พวกเขามีความพิเศษเหนือเผ่าพันธุ์อื่นตรงที่สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกันและแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ อีกอย่างพวกเขามีประสาทสัมผัสเป็นเลิศ และที่สำคัญ สัญชาตญาณของจ่าฝูงแบบเขาค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะถ้ามีสิ่งเร้ามารบกวน เขาจะยิ่งควบคุมตัวเองได้ยาก *littlevverse(อ้างอิงเรื่องจริง+เป็นเรื่องแต่ง +อะแดปมาจากโอเมก้าเวิร์สเล็กน้อยแต่เน้นให้เข้ากับฟิคชาย-หญิงเนอะ)*
“แล้วก็เรื่องการผสมพันธ์ุ กะ…” ทันทีที่แทฮยองกำลังจะเล่าต่อในอีกหัวข้อ คุณก็ยกมือห้ามปรามไม่ให้เขาได้พูดต่อ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมชาติก็จริง แต่ถ้าจะให้พูดกันตรงๆแบบนี้ คุณคงรู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย
“เรื่องนั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ๆ ระ..เรารู้ๆ”
“รู้ว่าไงหืม?”
“กะ..ก็คง เหมือนน้องหมาป่าทั่วไปมั้ง”
“ไม่เหมือนต่างหาก” แทฮยองยกยิ้มให้กับใบหน้าเขินอายของคุณที่ขึ้นสีแดงอ่อนๆ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าเขาได้ประทับรอยที่แก้มของคนตัวเล็กจนหน้าขึ้นสีแล้วเขินอายกับการกระทำของเขายิ่งกว่าเดิม
“แล้วมันไม่เหมือนกันยังไง” ต่อให้เขินอาย แต่ความสงสัยมันดันมีมากกว่า คุณเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เลยเลือกที่จะถามออกไป
“เรื่องแบบนี้มันเล่าให้ฟังได้ที่ไหน แทว่า”
.
.
.
“แททำให้ดูดีกว่า เตงจะได้เข้าใจไง”
คนตัวโตกว่าฉวยโอกาสดึงตัวอีกคนมาคนมากอดแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะหยอกล้อคนตัวเล็กบนตักด้วยการหอมแก้มซ้ายขวาข้างละที ซึ่งเป็นการบอกสวัสดีตอนเช้าในฉบับของตัวเขาเอง
“ไม่เอาหรอก วันนี้เราจะไปติวหนังสือ”
“มาติววิชาพละกับแทดีกว่า ได้ออกกำลังกายด้วยนะ”
“งืออ คนเจ้าเล่ห์ เราไม่เล่นด้วยแล้ว” คุณขัดขืนอ้อมกอดเขาเล็กน้อย เพราะรู้สึกจั๊กจี้กับเคราหนวดของเขาที่โดนแก้มของคุณไปมาราวกับต้องการหยอกล้อ สักพักคุณเลือกที่จะยืนขึ้นต่อหน้าเขา เพราะนี่ก็ใกล้เวลาต้องออกจากห้องเพื่อไปสถาบันติวแล้ว
“วันนี้เตงไม่ต้องรีบกลับนะ ช่วงเย็นๆแทคงไม่อยู่แล้ว”
“ทิ้งกันอีกแล้ว…”
“ไม่งอนแทแทนะครับ” แทฮยองเลือกจับมืออีกคนไว้ราวกับต้องการขอโทษ
“ไหนสัญญาว่าจะไปริมแม่น้ำฮันช่วงกลางคืนด้วยกันไง แทเบี้ยวนัดเราหลายรอบแล้วนะ” ร่างเล็กทำหน้ามุ่ย บ่นแทฮยองเสียงงุ้งงิ้งเหมือนเด็กงอแง ซึ่งตัวคุณเองก็ว่าอะไรเขาไม่ได้มากหรอก ถึงแม้เขาจะผิดสัญญากับคุณอยู่บ่อยครั้ง เพราะเรื่องที่แทฮยองต้องออกล่า แต่คุณก็เข้าใจว่าที่เขาต้องอยู่ให้ห่างมนุษย์ มันก็เป็นเพราะความปลอดภัย และถ้าเกิดคุณเป็นอะไรขึ้นมาเพราะแทฮยอง เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ
“เนี่ย..เราอุตส่าห์ชวนจองกุกไปด้วย”
“ขอโทษนะครับ แต่สัญญาจะรีบกลับมา”
“อะเค” คุณจำใจยื่นนิ้วเกี่ยวก้อยกับเขาจนนับครั้งไม่ได้ ส่วนแทฮยองเองก็ยิ้มดีใจที่รู้ว่าคุณเจ้าของไม่ได้โกรธอะไรเขามากมาย ก่อนจะจับแก้มทั้งสองข้างของคนตัวเล็กให้ทำหน้ายิ้มแบบที่เขาชอบมอง บทสนทนาเกิดขึ้นอีก 2-3ประโยคก่อนที่คุณจะหันหลังเดินจากไป
“ไม่โกรธแทนะ”
“เราไม่โกรธหรอก ถ้างั้นแทก็อย่าลืมกินข้าวนะ เราทำไว้ให้แล้วอยู่บนโต๊ะ”
“โอเคค้าบ”
10:10
เวลาเดินทางมาถึงเกือบจะเป็นช่วงติวในคลาสเช้า คุณที่เดินทางออกมาจากคอนโด ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ติวมากนัก พอรู้ตัวว่าใกล้สาย ทันทีที่ลงจากรถบัสคุณจำใจต้องลากจองกุกในสภาพกึ่งวิ่งกึ่งเดิน เพื่อให้มาถึงสถาบันติวอย่างเร็วไว
“ยุนกิ เรามาสายยยย!”
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” ยุนกิที่มาถึงสถาบันติวนานแล้ว ตอนนี้เขารอคุณอยู่ข้างหน้าตึก ยุนกิเกือบถอดใจนึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว แต่ทันทีที่เห็นทั้งคู่วิ่งลงมาจากรถประจำทาง ยุนกิเลยเลือกที่จะยืนรออีกสักพักก่อนที่จะเดินขึ้นห้องเรียนไปพร้อมกัน
“แงงง พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” คุณที่รู้ตัวว่าสาย แต่ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอะไร ก็เลยพูดปัดๆไป ก่อนจะจูงมือคนตัวโตอย่างจองกุกที่ติดสอยมาเรียนด้วยอีกคน “รีบไปติวกัน กลัวอาจารย์ดุ”
.
.
.
“กูมาล่ะนัมจุน”
“ใครวะ?” นัมจุนที่หยิบไอแพดเครื่องหรูคู่ใจขึ้นมาพร้อมเรียน จำเป็นต้องละความสนใจจากการเข้ารหัส เพราะตอนนี้กำลังมีสมาชิกใหม่เดินเข้ามาให้ทำความรู้จักถึงสองคน
“นี่พายอาร์ แฟนกูเอง”
“ตลกแล้วยุนกิ” คุณทุ้งข้อศอกที่หน้าท้องยุนกิไปเบาๆหนึ่งที เพราะความขี้เล่นที่เขาชอบพูดให้คนอื่นรู้จักไปเรื่อยว่าคุณเป็นแฟนกับยุนกิ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความจริง ก่อนจะแนะนำตัวเองไปตามมารยาท “เราพายอาร์ ห้องAนะ”
“เรานัมจุน ห้องคิง” เขาตอบกลับมาเรียบๆ ด้วยความที่คุณมีนิสัยค่อนข้างเป็นมิตร การต่อบทสนทนาเพื่อทำความรู้จักกับคนอื่นจึงเป็นเรื่องที่ง่าย
“ห้องเรียนก็อยู่ข้างๆกัน ทำไมเราไม่เคยเห็นนายเลยอ่ะ”
“เราค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวน่ะ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“เช่นกัน”
นัมจุนยื่นมือมาทักทายแบบฝรั่ง คุณเลยทักทายกลับโดยการจับมือเขาแบบไม่ได้คิดอะไร เพราะทำตามมารยาท แต่ก็ไม่วายจะโดนเพื่อนอย่างมินยุนกิกวนประสาทด้วยการปัดมือให้ห่างออกจากกันเข้าให้ “เฮ้ๆ อย่ามาหลอกแต๊ะอั๋งมือแฟนกู”
“ขี้หวงจริงไอ้นี่” นัมจุนส่ายหัวให้กับการกระทำหวงเพื่อนของยุนกิ ก่อนจะมองไปยังอีกคนที่ทำหน้าทำตาไม่เป็นมิตร จ้องมองมาที่เขาราวกับจะหาเรื่อง “แล้วจะไม่แนะนำคนด้านหลังให้รู้จักหน่อยเหรอ หน้าตาเขาพร้อมบวกกูมากว่ะ”
“อ่อ..นี่จองกุก ลูกพี่ลูกน้องเราเอง มาจากแดกู พอดีปิดเทอมเลยมาเล่นที่โซลน่ะ” คุณพูดแนะนำจองกุกให้กับนัมจุนอย่างกะตือรือร้น แต่คนที่ถูกพูดถึงดันไม่มีความกะตือรือร้นที่จะทำความรู้จักคนอื่นนี่สิ มันน่าจับไปดัดนิสัย
“ยินดีที่ไม่รู้จักครับ”
“จองกุกดูพูดเข้า ไม่น่ารักเลยนะ555”
คุณยิ้มพลางหัวเราะกลบเกลื่อนความไม่เป็นมิตรของจองกุกเพื่อไม่ให้นัมจุนคิดมาก ส่วนจองกุกเองก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ จองกุกไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของคุณหรือคนรู้จักรอบตัวคุณถึงมีแต่ผู้ชาย ทั้งแก๊งยุนกิ พี่ชายข้างห้อง รวมถึงสัตว์เลี้ยงอีกสองตัวนั่นอีก ถ้าเกิดวันหนึ่งคนพวกนั้นมีบทบาทมากกว่าเขาขึ้นมา จองกุกคงยอมไม่ได้แน่ๆ “พูดเรื่องจริงนี่นา แล้วอีกอย่างก็เลิกยิ้มให้คนอื่นไปทั่วได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร55555 เราเข้าใจว่าเขาคงหวงเจ้าของ”
“…”
“…”
บทสนทนาหยุดชะงักชั่วขณะ เนื่องจากคำพูดของนัมจุนที่ดูล้อเล่นไม่ได้จริงจัง ซึ่งไม่รู้ว่ามันเป็นคำพูดจี้จุดชนวนความลับเรื่องประหลาดๆที่มีแค่คุณที่รู้หรือเป็นคำพูดที่ชวนสงสัยให้แก่ยุนกิ แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ต้องการสื่อให้เข้าใจแบบไหน คนได้ฟังคงรู้สึกตกใจไม่น้อยและเลือกที่จะเงียบไป ก่อนจะเริ่มเปิดบทสนทนาใหม่เพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“เห้ยๆ อาจารย์มาล่ะ”
นัมจุนรู้ตัวดีว่าพูดอะไรออกไปและเลือกตัดความสงสัยของทั้งคู่ด้วยการเปิดบทสนทนาในการเริ่มเรียน เพราะนี่ก็ถึงเวลาติวคลาสเช้าแล้ว อาจารย์ติววิชาแคลคูลัสเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสือสองเล่ม ตามมาด้วยเจโฮปที่หอบหนังสือกองโตตามอาจารย์สั่ง เธอมาเพื่อติวสอบเข้ามหาลัยให้นักเรียนคลาสพิเศษที่มีแต่กลุ่มเพื่อนของยุนกิ เนื่องจากแม่ของเขาจ้างวานให้มาสอน และโชคดีที่สองคืออาจารย์ที่สถาบันติวดันเป็นคนเดียวกับครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนซะด้วย
เวลาเดินผ่านไปจนถึงเวลาพักเที่ยง ตอนนี้ทั้งคุณ จองกุกรวมถึงแก๊งบังทัน มาทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารใกล้ๆที่ติว การติววิชาแคลคูลัสใช้ทั้งพลังสมองและพลังร่างกายไปค่อนข้างมาก จึงไม่แปลกที่เหล่านักเรียนวัยมัธยมปลายจะหิวกระหายอาหารตรงหน้าเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาเติมพลังแบบนี้ คุณควรจะโฟกัสกับการทานอาหารมากกว่า แต่ติดตรงที่ปลายสายที่กำลังโทรมาหลังจากที่ทานข้าวไปเป็นใครบางคนที่น่าเป็นห่วงนี่สิ
“ฮัลโหลแท ง่ำๆ”
[เตง…]
“ว่าไง”
คุณเลือกรับโทรศัพท์แล้วทานข้าวไปพลางๆ คำพูดที่กำลังคุยกับปลายสายก็เลยติดเสียงเคี้ยวเล็กน้อย ส่วนคนที่โทรมาก็เหมือนต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่าง ซึ่งฟังจากเสียงดูแล้ว สภาพของอีกฝ่ายคงไม่สู้ดีนัก ถ้าสังเกตจากอาการเมื่อเช้านี้
[แทว่าแทไม่ไหว]
“แทเป็นไรมากรึเปล่า? เหมือนแทจะไม่โอเคตั้งแต่เช้า เราไปโรงพยาบาลกันมั้ย”
[ไม่!]
[แท..อะ โอ้ย!]
“!?!!!”
-ตื๊ด!-
ฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่ได้ หลังจากที่แทฮยองโทรมา คุณก็นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ด้วยความที่เป็นห่วงเขา กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป จนคนอื่นๆบนโต๊ะที่กำลังอร่อยกับมื้อเที่ยงมองมาอย่างสงสัย เขาโทรมาเหมือนจะขอความช่วยเหลือบางอย่าง แต่แทฮยองเองก็เคยบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าเข้าใกล้เขาในช่วงที่ออกล่า เพราะแทฮยองมักจะควบคุมสัญชาตญาณของตัวเองไม่ได้ แต่กลับไปดูสักหน่อย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง…
“จองกุก เดี๋ยวฝากเรียนหน่อยนะ”
คุณรีบทานข้าวตรงหน้าอย่างรีบร้อนแล้วเลือกที่จะกลับคอนโดเพื่อไปดูแทฮยอง คุณเอ่ยปากฝากฝังจองกุกให้ช่วยเรียนแทนในคลาสต่อๆไป พร้อมทั้งฝากเจ้ากระต่ายยักษ์ที่ไม่ค่อยจะถูกกับแก๊งยุนกิ ให้พวกเขาช่วยเป็นหูเป็นตาและคอยดูแลจองกุกให้
“เราฝากจองกุกหน่อยนะ พอดีที่คอนโดมีเรื่องนิดหน่อย”
- Jungkook Part -
“จองกุก เข้าใจที่อาจารย์สอนมั้ยครับ?” ผมกำลังจ้องเลคเชอร์ที่อาจารย์สุดสวยสรุปมาให้อย่างไม่เข้าใจ ทำไมผมต้องมาเรียนคณิตศาสตร์ในตอนเช้า แถมชีทสรุปสูตรการคำนวนที่ว่าก็มีความยาวประมาณ 50 หน้ากระดาษ และจู่ๆเสียงของอาจารย์สุดสวยก็ดังขึ้น แถมถามคำถามอะไรบางอย่างจากผมจนรู้สึกเสียวสันหลังวาบและมีสีหน้าแบบคนพูดไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องเรียน
“เข้าใจครับ!”
.
.
.
“ล่างดิฟบน ลบด้วยบนดิฟ..ดิฟไรแล้ววะนัมจุน” มินยุนกิที่อยู่ในโหมดตั้งใจเรียน ถามคำถามนัมจุนเกี่ยวกับบทเรียนที่อาจารย์พึ่งสอนไปขึ้นมา เนื่องจากจดบันทึกไม่ทัน ซึ่งนั่นก็เรียกความสนใจจากผมได้เป็นอย่างดี เพราะตัวผมนั้น นอกจากจะนั่งทำหน้าว่าเข้าใจบทเรียนแล้ว ผมเองก็จดบันทึกสิ่งที่คุณเจ้าของฝากฝังให้เรียนแทนไปไม่ทันเช่นกัน
“ล่างดิฟบนลบด้วยบนดิฟล่างส่วนล่างยกกำลังสอง อันนี้คือ Quotient Rule เป็นสูตรการหาอนุพันธ์ของผลหารของฟังก์ชัน แต่ข้อนี้ฟังก์ชันมันคูณกันอยู่ ต้องใช้ Product Rule จำง่ายๆคือ หน้าดิฟหลังบวกหลังดิฟหน้า”
ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอน รวมถึงสูตรการหาอนุพันธ์ที่เพื่อนไอ้หน้าขาวกำลังพูด ตัวผมนั้นมีสีหน้างุนงงในทุกคำพูดที่เขากำลังอธิบายให้เพื่อนอีกคนได้เข้าใจ สำหรับจองกุก เรื่องการเรียนไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข แถมยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องมานั่งหน้าอมทุกข์อีกต่างหาก ‘ดิฟเดียวที่จองกุกรู้จัก มีแค่ชีสดิปครับ’ ฝากไว้ให้คิด
“สูตรท่องจำมันง่ายๆ จำแบบสลับกันก็ได้ แต่ว่าถ้าได้ฝึกทำโจทย์น่าจะโอเคกว่า”
ง่ายๆ? มันง่ายหรอ?
เจาะนมกล้วยดูดยังง่ายกว่าเลย ให้ตายเถอะ… ผมน่าจะเป็นกระต่ายที่ไม่ต้องโดนจับมาตัดต่อพันธุกรรมอะไรนี่ จะได้นอนกินหญ้า อ้อนคุณเจ้าของไปวันๆ -จองกุก said
———————————
มาแล้วค้าบบบ ขออภัยในความล่าช้าจริงๆ ไรท์ว่าจะอัพตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ก็ติดงาน ติดสอบ หลายอย่างเลย ยังไงก็ฝากติดตามหน่อยนะคะ แว่วๆมาว่าncเรื่องนี้น่าจะมีแค่ 3ตอนหรืออาจจะเป็น 4ตอน ถ้าไรท์ไม่เขินตายระหว่างแต่งฉากคัทไปก่อน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา เนื้อหาค่อนข้างแปลกใหม่ ไม่ยึดกับหลักความเป็นจริงในบางเรื่อง ทุกคนโปรดใช้จักรยานในการอ่านนะคะ *ที่สำคัญมาก คือ ฝากกดเฟบ กดให้กำลังใจ ฝากคอมเม้นหรือมาพูดคุย ติชมนิยายได้เลยนะ ทอคๆแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะทุกคน จะ100เม้นมั้ยน้าาา.. ยิ่งมาเม้นไรท์จะยิ่งมีกำลังใจนะคะ*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น