คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SF ฮยองของผม 3
SF ฮยองของผม 3
หลังจากเมื่อวานที่ผมล่วงเกินซองยอลฮยอง บอกตามตรงนะผมคงไม่มีหน้าที่จะไปเจอฮยองเลย แถมยังถูกเจ้าตัวเอ่ยปากไล่ซะขนาดนั้น ก็ใครมันจะไปทนกันได้เล่า ก็ดูฮยองดิเอาแต่พร่ำเพ้อถึงแต่ไอ้หน้าปลาดุกนั่น ใครได้ยินมันก็มีอารมณ์ขึ้นกันบ้างแหละ แต่ที่มันหน้าเศร้าที่สุดก็ตรงโดนฮยองไล่ตะเพิดนี่สิ ฮือออผมอยากเจอหน้าฮยอง ถ้าผมไม่ได้เห็นหน้าฮยองผมคงต้องลงแดงตายแน่เลย
ฮือออออออ ว่าแล้วผมก็เอาหน้าซุกกับหมอนบนเตียง
รู้สึกเหมือนไม่อยากจะทำอะไรเลยแฮะ
ผมกระชับหมอนที่โอบกอดไว้แน่นขึ้น
ฮยองจะรู้ไหมเนี่ย ว่าฮยองมีอิทธิพลต่อจิตใจผมมากแค่ไหน
“นี่ซองยอล แกว่าช่วงนี่มันแปลกๆไหม” อูฮยอนที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะข้างๆหันมองซ้ายมอง
ขวาก่อนที่จะกระซิบกระซาบที่ข้างหูซองยอล
“แปลกอะไรของแก” ซองยอลที่สายตาจับจ้องที่หน้าจอคอมหันหน้ามาเลิกคิ้วถาม
“ก็สองสามวันมานี้ ฉันยังไม่เห็นเจ้ามยองซูมาเกาะแกะแกเลยนะเว้ย” เมื่ออูฮยอนพูดถึงมยองซู ตัวของซองยอลก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย
ก็หลังจากวันนั้น...
อยู่ๆหน้าของซองยอลก็แดงขึ้น อุณหภูมิในห้องแอร์เหมือนจะสูงขึ้นอย่างไงไม่รู้ ยิ่งคิดถึง
เหตุการณ์วันนั้นที่เจ้าเด็กบ้านั่นทำกับเขา เขาก็แทบอยากจะเอาหัวโขกกับคอมให้รู้แล้วรู้รอด ทั้งๆที่ทำ
เรื่องอัปยศกับเขาไว้แท้ๆแล้วมาชิงหนี
เอ...จะว่าไปเราก็เป็นคนไล่เจ้าเด็กนั่นเองนี่น่า
“ก็ดีแล้วนิ” ซองยอลพูดอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วกลับมาให้ความสนใจกับงานตรงหน้าต่อ แต่ก็สนใจกับงานได้ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น มือเรียวจึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ใครโทรมานะ เบอร์ไม่คุ้นเลย ว่าแล้วก็กดรับ
“ฮัลโหลครับ”
[สวัสดีค่ะ คุณซองยอลใช่ไหมคะ] ซองยอลแปลกใจเล็กน้อยที่ปลายสายรู้จักชื่อเขา
“ครับ” เขาจึงทำได้เพียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
[ฉันเป็นคุณครูประจำฉันของมยองซูนะคะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ปกครอง...] ซองยอลรีบพูดแทรกขึ้นทันควัน
“เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมไม่ใช่ผู้ปกครองของเขานะครับ”
[จริงเหรอคะ แต่ที่สมุดพกเขาเขียนว่าคุณเป็นผู้ปกครองนะคะ]
“เอ่อ แต่ว่าผม...”
[เอาเถอะค่ะ ฉันก็แค่อยากทราบว่ามยองซูเขาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ] ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนที่จะต้องเถียง
“ครับ?” ปลายสายถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
[ก็สามวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้มาโรงเรียนเลย แม้ว่าเพื่อนๆจะโทรติดต่อเขาแต่ก็ไม่ได้เสียงตอบรับกลับ
มา นี่คุณไม่ทราบจริงๆเหรอค่ะ...]
ตุ๊ด ตุ๊ด... ซองยอลกดวางสายโทรศัพท์
เด็กนั่นไม่ได้ไปโรงเรียน คงจะไม่ใช่เพราะเราใช่ไหม
อยู่ๆความรู้สึกผิดต่างๆมากมายก็บังเกิดขึ้นในใจ ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาถึงต้อง
รู้สึกผิดกับเด็กนั่นด้วย และสิ่งที่เขาจะทำ...
“อ้าวเฮ้ย ซองยอลแกจะไปไหนวะนั่น” อูฮยอนไล่ตะโกนตามหลัง แต่ซองยอลรีบวิ่งอกจากที่ทำงานพร้อมกับโบกมือเรียกรถแท็กซี่ ในหัวก็เฝ้าแต่กังวลเกี่ยวกับเจ้าเด็กบ้าที่เขาไม่เข้าใจว่าทำไม
ตัวเขาจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนกับเจ้าเด็กหัวรั้นนี่ด้วย คอยดูนะถ้าเจอตัวแม่จะด่าให้เข็ดเลย จะว่าไป
มยองซูอาจจะอยู่ที่บ้านก็ได้ เขาจึงจัดการบอกแท็กซี่ให้ตรงไปที่บ้านของมยองซู เมื่อมาถึง...
“มยองซูออกมาเดี๋ยวนี่นะ!!” เขาทั้งตะโกนและกดออดหน้าบ้านแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ
“นี่!! เจ้าเด็กบ้าจะออกมาดีๆหรือจะให้ฉันแงะประตูบ้านเข้าไปห๊ะ”
“โอ๊ยๆ พ่อหนุ่มเจ้าของบ้านเนี่ยไม่อยู่หรอก” ซองยอลหันหน้าไปทางป้าคนนั้น
“แล้วเขาออกไปไหนเหรอครับ ออกไปนานหรือยัง” (ถามอย่างกะฉันตัวติดกับเจ้าของบ้าน : ป้าคิด)
“ก็เพิ่งออกไปซักพักแล้วล่ะ”
“อ่อ ขอบคุณครับ” ซองยอลส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแล้วรีบขึ้นแท็กซี่ไป ถ้าเพิ่งออกจากบ้านก็คงฉันไปไหนได้ไม่ไกล รถแท็กซี่ค่อยๆขับเลียบทางเดิน ดวงตากลมโตกวาดส่องสายตาเพื่อหาเขาคนนั่น
“จอดตรงนี้แหละครับ” เขาบอกแล้วควักเงินจ่ายค่าโดยสาร แล้วรีบวิ่งออกจากรถไปยังที่ที่มี
เด็กหนุ่มนั่งกอดเข่าใต้ต้นไม้ริมแม่น้ำ
“ฮะฮยอง” มยองซูที่นั่งกอดเข่ามองคนตรงหน้าที่เพิ่งวิ่งมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ
“ก็ใช่น่ะเส่ะ” คนที่หอบเงยหน้ามาจิกตาใส่ก่อนจะรีบดึงหูมยองซูให้ลุกขึ้น
“โอ๊ยฮยองผมเจ็บนะครับ” มยองซูหลับตาปี้พยายามพาตัวเองให้ออกจากเอื้อมมือของฮยอง
ตัวสูง
“ทำไมนายถึงไม่ไปโรงเรียนห๊า!!” ซองยอลออกแรงดึงหูให้มยองซูมาทางตน
“ฮยองรู้?”
“เออดิ”
“ก็เพราะใครล่ะครับ” มยองซูหลบตาเสหน้าไปทางอื่น ซองยอลจึงปล่อยมือออก
ให้ตายเถอะทั้งๆที่ผมควรจะโกรธเจ้าเด็กนี่แต่ผมต้องมานั่งง้อเจ้าเด็กนี่ซะงั้น ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นายรู้ไหม นายนี่น่าจับมาตีให้ก้นลายซะจริงๆ” ซองยอลค่อยๆย่นตัวนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่
ก่อนจะส่งสายตาเป็นนัยบอกให้มยองซูนั่งลงข้างๆซองยอลปลายตามองคนข้างๆที่นั่งกอดเข่าอยู่
เงียบๆ ก่อนจะถอนลมหายใจออกอีกครั้ง
“เอาเป็นว่าขอโทษล่ะกัน” ทันทีที่ซองยอลพูดจบเด็กน้อยก็รีบหันหน้ามามองฮยองด้วยความตกใจ ดวงตาเรียวที่แสงอาทิตย์ส่องประกายสะท้อนให้เห็นเงาคนตรงหน้า จนคนตรงหน้ามีแววตา
ไหววูบ
“ฮยอง...”
“ห้ามทำอย่างนี้อีกรู้ไหม” มือเรียวยื่นไปลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ แม้น้ำเสียงจะดูดุเอ็ดแต่สัมผัสที่มอบให้มันช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน ใบหน้าของเด็กน้อยถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจนเผลอโผกอด
ฮยองคนสวย
“คร๊าบบบบ”
“นี่ๆพอเลย ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะ” ซองยอลพยายามดันอกของมยองซูออก
“บัญชี?” เขาเลิกคิ้วถามทั้งๆที่ยังคงโอบกอดฮยองไว้แน่น
“ไม่ต้องมาทำไขสือเลย ก็ที่นายแอบอ้างว่าฉันเป็นผู้ปกครองนายน่ะ”
“เอิ่มก็...”
“ปล่อยได้แล้วฉันร้อนเว้ยยย” ซองยอลออกแรงดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดของมยองซู แต่ไม่วายจ้องหน้ามยองซูเพื่อเค้นเอาคำตอบ
“ฮ่าๆ ก็ฮยองน่ารักนิ” เท่านั้นแหละความร้อนก็แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของฮยองคนสวย -////-
วันนี้อุณหภูมิมันเท่าไหร่วะเนี่ย โคตรร้อนเลย
“พูดอะไรของนายห๊ะ เจ้าเด็กบ้า”
“ฮยองมาตรงจังหวะพอดีเลย ผมหิวแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ” ว่าแล้วก็ลุกเดินนำหน้าฮยองไป
ไอ้เด็กบ้า ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้นอะไรอย่างนี้ด้วย
“เออ นี่ซองยอลนายรู้ไหมว่าเจ้าเด็กจอมตื้อนั่นน่ะ อยากเป็นอะไรหรืออยากเรียนต่ออะไร”
อูฮยอนทักซองยอลขึ้นในขณะที่ซองยอลกำลังนั่งทำงานอยู่ข้างๆ
“อยากรู้แล้วทำไมไม่ไปถามเองล่ะ” ซองยอลตอบโดยไม่หันหน้ามามอง เล่นเอาคนที่ฟังถึง
กับไปไม่เป็น
“ก็แหมๆ ฉันอยู่ในสถานะที่ควรจะถามซะเมื่อไหร่” อูฮยอนพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
พลางหยิบปากกามาจรดที่ปลายคางแล้วทำหน้าอย่างครุ่นคิด
“จะว่าไปเจ้ามยองซูก็อยู่ม.ปลายปีสุดท้ายด้วยเนอะ ก็คงน่าจะมีแพลนในอนาคตแล้วล่ะมั้ง
เนอะๆ” อูฮยอนหันมายิ้มให้ซองยอลอีกครั้ง
แพลนในอนาคต?
แต่จะว่าไปเด็กนั่นก็ไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แล้วนี่น่า อยากรู้จังว่าเด็กนั่นอยากเป็นอะไร
วันนี้ซองยอลก็ยังกลับบ้านกับมยองซูเช่นเคย ถึงแม้ว่าทางกลับบ้านระหว่างบ้านเขากับมยองซูจะคนละทางกันก็เถอะ แต่มยองซูก็สมัครใจที่กลับบ้านเป็นเพื่อน
“นี่มยองซู นายคิดหรือยังว่าอยากจะเป็นอะไร” ซองยอลกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบ มยองซูทำได้แต่เพียงก้มหน้าแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ
“หึ เรื่องนั้นผมไม่สนใจหรอกครับ ผมสนแค่ว่าผมมีความสุขที่ได้อยู่กับฮยองก็พอแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฮยองพร้อมยิ้ม ซองยอลเห็นท่าทางของมยองซูอย่างนี้แล้วหงุดหงิดอย่างไร้สาเหตุ เขาจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหนักใจก่อนจะตีสีหน้าจริงจัง
“ให้ตายเถอะ นี่มันอนาคตของนายเลยนะนายควรจะคิดได้แล้วว่านายอยากจะเป็นอะไร อยากเรียนอะไร อยากทำงานอะไร”
“เรื่องพวกนั้นมันไม่สำคัญซะหน่อย” มยองซูหันหน้าหนีแล้วตอบเสียงอ่อน ซองยอลจับบ่าทั้งสองข้างของมยองซุอย่างมั่นคงเพื่อให้มยองซูสบตากับตนขณะพูด
“มยองซูฟังฉันนะ อนาคต ความฝัน มันเป็นสิ่งที่จะทำให้นายก้าวเดินออกไปอย่างมีเป้าหมาย ตอนนี้นายอาจจะยัง...” มยองซูจับแขนทั้งสองข้างของซองยอลออก เรียวตาคมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่กลมโต
“ถ้าในอนาคตผมไม่มีฮยอง ทุกอย่างมันก็ไม่มีความหมายอะไรหรอกครับ ผมไม่รู้หรอกนะ
ครับว่าอนาคต ความฝัน มันคืออะไร แต่ตราบใดที่ผมได้อยู่กับฮยองผม...” ซองยอลผลักมยองซูจนคนตรงหน้าเซถอยหลังอย่างมึนงง
“นายเข้าใจที่ฉันพูดบ้างไหมห๊ะ!!!”
“ส่งฉันแค่นี้แหละ” แล้วเขาก็มุ่งตรงเดินเข้าบ้านโดยไม่หันมาสนใจคนข้างหลังที่ยังคงไม่เข้า
ใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้
หงุดหงิด หงุดหงิดๆๆเว้ยยยย เสียงหมอนตีกับเตียงยังดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ดูเหมือนนี่จะ
เป็นการระบายอารมณ์ของอีซองยอลสินะ
“ไอ้เด็กบ้านายเคยเข้าใจอะไรบ้างไหมห๊ะ นายไม่สามารถอยู่กับฉันได้ตลอดเวลาหรอกนะ
เพราะซักวันหนึ่ง...นายก็ต้องออกเดินในเส้นทางของตัวเอง...”
“ซองยอลนายคบกับเด็กที่มาหานายทุกวันเช้าเย็นอยู่เหรอ” พนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา
ทักซองยอลที่โต๊ะทำงานของเขาพร้อมกับเพื่อนของแธอ
“บ้าน่า เอาเรื่องอะไรมาพูด” ซองยอลเพียงแค่ตอบสียงเรียบไม่ใส่ใจมากนัก
“นี่ฉันพูดจริงๆนะ เค้าเม้ากันให้แซดว่านายกินเด็กน่ะ”
“เหลวไหลน่า”
“ก็นะอายุก็ห่างกันใช่เล่นเลยเนอะ” เพื่อนเธออีกคนพูดขึ้นมา ทำให้ซองยอลต้องละสายตา
ออกจากงาน
“จะคบใครก็ดูความเหมาะสมด้วยนะ เนอะๆว่าม่ะ” เธอหันไปถามความเห็นของเพื่อนเธอ
ก่อนที่จะยกยิ้มที่มุมปากขึ้น รอยยิ้มที่มุมปากกับสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามนี่มันหมายความว่าไง
ขณะที่เดินกลับบ้านซองยอลปลายตามองคนข้างๆเป็นระยะ จนเจ้าตัวเริ่มรู้สึกตัว
“แน่ะๆ มองผมอยากนี้คิดอะไรกับผมป่ะเนี่ย” มยองซูยิ้มแบบกวนตามฉบับเดิม แต่ทว่า
สิ่งที่ซองยอลจะพูดออกไปมันอาจทำให้เด็กน้อยที่อายุอ่อนกว่ายิ้มไม่ลงเลยก็ได้
“มยองซู”
“ครับ” มยองซูยิ้มตอบ ซองยอลรวบลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกไป
“ต่อไปนี้นายไม่ต้องมาให้ฉันเห็นนายอีกนะ” ใช่ นี่คือสิ่งที่เขาคิดมาตลอดทาง
“ฮยอง เมื่อกี้ฮยองพูดอะไรน่ะครับ” แม้ว่าจะตกใจกับสิ่งที่คนตัวสูงเพิ่งพูดแต่ก็ยังฝืนที่จะยิ้ม
“ฉันบอกว่าให้นายเลิกยุ่งกับฉันซักที นายรู้ไหมที่นายมาทำตัวเกาะแกะฉันทุกวันนี้ มันทำให้ชีวิตฉันวุ่นวายมากแค่ไหน ชีวิตที่เรียบง่ายของฉันมันสูญเปล่าไปกับเด็กที่ไม่รู้จักโต ไม่รู้แม้กระทั่ง
อนาคตของตนเอง” ซองยอลเว้นวรรคเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“เพราะงั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปล่อยให้นายเข้ามาอยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน เพราะฉะนั้น นายช่วยออกจากชีวิตฉันที”
“ฮยอง”
“นายไม่ไปใช่ไหม ได้ฉันจะเป็นคนไปเอง”มยองซูคว้าข้อมือของซองยอลเอาไว้
“ผมจะไม่รั้งฮยองหรอกนะครับ ผมก็แค่จะบอกว่า...ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” มยองซูพูดก่อน
จะหันหลังเดินออกไปอย่างช้าๆ ซองยอลมองแผ่นหลังของคนที่เดินจากไปอย่างช้าๆ เขาฝืนยิ้ม
ให้กับตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินหันหลังให้เหมือนกัน
แต่แล้วเสียงฝีเท้าของใครบ้างคนก็ดังขึ้น มยองซูออกแรงวิ่งตามหลังพร้อมกับแรงกระชากที่
ต้นแขนของร่างบางแล้วจับใบหน้าของซองยอลเข้ามาทางตน ก่อนจะประกบริมฝีปากเข้าด้วยกัน
ซองยอลเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจกับจูบของมยองซูที่เพียงแค่ริมฝีปากแตะกันเพียงเท่านั้น
มยองซูค่อยๆถอนจูบออกช้าๆก่อนจะพูดขึ้น
“ฮยองอาจจะได้ยินมันบ่อย แต่ผมก็อยากจะบอกว่า...ผมรักฮยองนะครับ” มยองซูคลี่ยิ้มบางๆแบบที่เคยยิ้มให้ซองยอลแบบเคย แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงได้ดูเศร้า ดวงตาเรียวคมที่ท่อประกายเริ่มมีของ
เหลวตกตะกอน มยองซูร้องไห้งั้นเหรอ ซองยอลจึงตัดสินใจเดินออกมาอย่างช้าๆ โดยไม่แม้จะหัน
หลังกลับไปมอง ทำไมแต่ละก้าวมันช่างลำบากอย่างนี้นะ
จบแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ แบบที่เขาต้องการ... ไม่ใช่เหรอ
มาต่อตอนที่ 3 แล้วเน้ออออ ขอโทษที่ให้รอนานน้าาาา เอ...ว่าแต่ นี่จะใช่บทสรุปของทั้งคู่ไหมน่าาาา อยากรู้ต้องติดตามต่อไปนะ อิอิ
ความคิดเห็น