ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS [MYUNGYEOL]

    ลำดับตอนที่ #4 : SF ลูกหนี้ที่รัก

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    SF ลูกหนี้ที่รัก (Myungyeol)

     
     

    ``อ๊าาาาาาาา`` ผมกำลังจะบ้า ผมกำลังจะเป็นบ้า โอ๊ยยยย ผมไม่ไหวแล้วใครก็ได้ช่วยผมที่ ผมชื่ออีซองยอล เรียนอยู่ม.ปลายปี 3 ใช่ตอนนี้ผมกำลังจะเป็นบ้า

     

    ``อ๊ากกกก ใครก็ได้ช่วยผมด้วย`` ตอนนี้ผมกำลังวิ่งหนี้เจ้าหนี้ห้าหกคนวิ่งหนีมานานหลายชั่วโมง แต่เจ้าบ้าพวกนั้นก็ไม่หยุดวิ่งตามผมซักที ตอนที่ผมรู้ว่าพ่อของผมเป็นหนี้พวกมันผมก็แทบล้มทั้งยืน ผมอยากจะบ้าตายหนี้ที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อแท้ๆ แต่ทำไมผมต้องมารับผิดชอบคนเดียวอย่างเน้!!!!! โลกนี้มันช่างไม่มีความยุติธรรมT_T ฮือๆ ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากแหกปากร้องวิ่งตะโกนเสียงดัง คนรอบข้างก็มองผมนะแต่ไม่มีใครช่วยผมเลย ฮือๆ ซาบซึ้งจริงๆ

     

    ``หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้นะ!!!!`` ชายชุดดำที่วิ่งตามหลังผมตะโกนขึ้นมา เรื่องอะไรผมจะหยุดวิ่งล่ะ ผมล่ะเพิ่งเข้าใจคำพูดของพ่อก็ตอนนี้เอง

     

     

     

     

     

    ``ซองยอล`` พ่อของผมเรียกผมขนาดที่ผมกำลังกินข้าวพร้อมหน้าครอบครัวที่มีพ่อ แม่ ผม แล้วก็ไอ้น้องชายสุดที่รัก

     

    ``ครับ`` ผมเงยหน้ามาสบตากับผู้เป็นพ่อ

     

    ``ลูกวิ่งเร็วไหม`` ห๊ะ เมื่อกี้พ่อถามผมว่าไงนะ ผมที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องชะงักเพราะคำถามของพ่อ

     

    ``อะไรนะครับ``

     

    ``พ่อถามว่าลูกวิ่งเร็วไหม``

     

    ``ก็เร็วนะครับ`` ผมตอบคำถามพ่ออย่างงงๆ

     

    ``ดีแล้วล่ะลูก ลูกต้องใช้ขายาวๆของลูกให้เป็นประโยชน์นะ`` พ่อพูดเสร็จก็ยิ้มให้ผมแล้วกินข้าวต่อ อะไรของพ่อเนี้ยวันนี้พูดอะไรแปลกๆแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก็เลยกินข้าวต่อ

     
     

    .

    .

    .

    .

    .

     


     

    แต่มาตอนนี้ผมเข้าใจอย่างสุดซึ้ง พ่อนะพ่อทำไมถึงทำกับผมอย่างเน่!!!!! แต่ด้วยความที่ผมวิ่งมานานร่วมชั่วโมงขาของผมก็เริ่มอ่อนแรงเต็มที ผมไม่ไหวแล้ว ผมเหนื่อยมากเลยเห็นทีผมควรจะหาที่หลบอำพรางตัวซะแล้วสิ ผมวิ่งมาเรื่อยๆแต่ไอ้พวกบ้าพวกนั้นก็ยังผมตามมาไม่หยุดหย่อน พวกนั้นมันไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยหรือไงฟ่ะ ผมเหนื่อยแล้วนะ=*=  และจังหวะที่ผมกำลังวิ่งสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นถังขยะตั้งอยู่ใกล้ๆ ผมเลยใช้โอกาสผลักถังขยะให้ล้มเพื่อขวางทางพวกมัน แล้วผมก็หันหลังไปแลบลิ้นใส่พวกมัน ฮ่าๆๆๆๆ สะใจอีซองยอลจิงจริ๊ง~~ หุหุ -.,-

     

    ผมวิ่งมาไกลพอสมควรพอหันหลังกลับไปมองก็ไม่เห็นพวกชายชุดดำแล้ว ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมา เฮ้อ~ รู้สึกโล่งเป็นบ้า ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งพาตัวเองมาที่ซอกตึกเก่าๆ หลบอยู่ตรงนี้ซักพักล่ะกัน ผมนั่งยองๆหลบอยู่หลังกล่องกระดาษกล่องใหญ่

     

    ``เฮ้อ ฉันรอดแล้วใช่ไหมเนี้ย`` ผมผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

    ``เหนื่อยเป็นบ้าเลย คอก็แห้งถ้าได้น้ำซักแก้วก็ดีสินะ`` ขนาดที่ผมพึมพำกับตัวเองอยู่ๆก็มีแก้วน้ำยื่นมาตรงหน้า

     

    ``ขอบใจ`` ผมพูดขอบคุณแล้วยิ้มอย่างดีใจ เอ๊ย เดี๋ยวนะน้ำมาได้ไง ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาเลยทีเดียว ดูท่าเขาจะอายุมากกว่าผมนะ เขาหล่อมากๆจมูกของเขาโด้งมากอ่ะผมอิจฉาจัง ไหนจะดวงตาที่ดูมีเสน่ห์นี้อีกถ้าผมเป็นผู้หญิงผมต้องตกหลุมรักเขาแน่ๆ ไหนจะริมฝีปากที่น่าจุ๊บนั่น ห๊ะ อะไรนะนี่ผมบอกว่าปากของหมอนี่น่าจุ๊บงั้นเหรอ โอ๊ยยย นี้ผมคิดอะไรอยู่เนี่ยยย ไม่ได้ๆ ผมส่ายหัวสะบัดไล่ความคิดบ้าๆของตนเอง

     

    ``รับไปสิ`` เขายื่นแก้วน้ำมาให้ผม

     

    ''เอ่อ...`` ผมลังเลว่าจะรับดีไหม และดูเหมือนเขาจะรู้นะเขาเลยยัดแก้วน้ำมาให้ผม ผมมองเขาอย่างอึ้งๆเขาไม่ได้พูดอะไรแต่กลับส่งยิ้มให้ผม โอ๊ย รอยยิ้มนั่นผมกำลังจะละลาย อ๊ากกก ผมขอกรี็๊ดได้ไหมทำไมหัวใจของผมมันถึงต้องมาเต้นตึกตักกับคนแปลกหน่าคนนี้ด้วยนะ เออ จริงสิ ผมเกือบลืมไปเลยง่าผมกำลังหลบเจ้าหนี้อยู่ บางทีคนแปลกหน้าแต่ไม่ได้หน้าแปลกคนนี้อาจจะช่วยผมได้

     

    ``นายๆ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ`` ผมยืนขึ้นแล้วไปเขย่าแขนของเขา

     

    ``หืม``

     

    ``ถ้ามีคนมาถามนายว่าเห็นฉันไหม นายช่วยตอบว่าไม่เห็นนะ``

     

    ``...``

     

    ``นะๆ ช่วยฉันเถอะนะ`` ผมส่งสายตาอ้อนวอนน่าสงสารสุดๆ ถ้าไม่ช่วยผมจะร้องไห้แล้วนะ

     

    ``อืม``

     

    ``ขอบใจนะ นายนี่ใจดีสุดๆเลยอ่ะ``

     

    ``ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ``เขายิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะตอบ

     

    ``ฉันคิมมยองซู ``

     

    ``ฉันซองยอล อีซองยอล`` คนอะไรทั้งหล่อแถมยังใจดีอีกต่างหาก แต่เดี๋ยวนะเหมือนผมได้ยินเสียงคนวิ่งมาทางนี้เลย เอาไงดีหลบก่อนล่ะกันแล้วผมก็พาตัวเองมาหลบหลังกล่องที่เดิมแล้วส่งสายตาขอร้องให้มยองซูช่วยผมที โอ๊ะ พวกมันมาแล้วอ่ะ

     

    ''อ้าวคุณมยองซู เห็นซองยอลวิ่งผ่านมาแถวนี้หรือเปล่าครับ``

     

    ``เขาอยู่นั่นน่ะ`` มยองซูชี้มือมาทางที่ผม

     

     

     

    ตายห่าแล้วไอ้พวกนี้มันรู้จักกัน

     

     

     

    ไอ้มยองซูคำพูดที่ฉันชมนายเมื่อกี้ฉันขอคืนคำ เอาไงดีพวกนั้นมันค่อยๆเดินมาตรงที่ผมหลบ ผมมองไปทางด้านหลังของผมก็พบว่าทางตันT_T โอ๊ยคุณตันมาสร้างทางอะไรตรงนี้คร๊าบบบ คอยดูนะผมจะไม่กินอิชิตันแล้ว(เกี่ยว?) ฮือพ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยผมด้วย

     

    ``หึ หึ อยู่นี้เองคราวนี้นายคงหนีไปไหนไม่รอดแล้วนะครับคุณอีซองยอล``ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น รู้แล้วน่าตอกย้ำกันอยู่ได้ ฮอลลลชีวิตที่สงบสุขของอีซองยอลมันจบแล้วสินะ :'(

     

    แล้วพวกนั้นก็ลากผมขึ้นรถโดยมีไอ้เจ้าบ้ามยองซูนั่งข้างผม ผมจะเปิดประตูรถเพื่อจะออกจากรถแต่ก็โดนสายตาดุๆจากมยองซูแล้วก็ชายชุดดำส่งมา

     

    ``พวกนายจะพาฉันไปไหน``

     

    ``นั่งเงียบๆเถอะน่าเดียวก็รู้เอง`` ไอ้หน้าหล่ออันตรายนั่นพูดอย่างรำคาญ นี่เขาจะไม่พาผมไปฆ่าใช่ไหม ผมยังไม่อยากตายนะ ฮือๆ แล้วผมก็ต้องนั่งอยู่ในรถอย่างจำใจพอขยับตัวนิดหน่อยไอ้บ้ามยองซูก็หันมาส่งสายตาดุๆใส่ ผมขอถอนคำพูดที่ว่าสายตาของหมอนี่มีเสน่ห์ดึงดูดเป็นสายตาที่ดุน่ากลัวสุดๆแทน ฮึก จ้องกันอยู่ได้ไม่เคยเห็นคนน่าตาดีไงชิ เพียงไม่นานรถก็เข้ามาจอดในบ้านหลังใหญ่มหึมา อย่าเรียกว่าบ้านเลยเรียกว่าคฤหาสน์ดีกว่าแล้วนายมยองซูก็มาเปิดประตูรถให้ผม

     

    ``ลงสิ``

     

    ``ไม่``ผมนั่งกอดอกอยู่ในรถ

     

    ``จะลงไม่ลง`` คราวนี้ไม่ใช่เสียงของมยองซูแต่เป็นเสียงของชายชุดดำแทน เขาเห็นว่าผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ก็เลยจะเข้าไปลากผมออกมา แต่ผมออกมาเสียก่อน

     

    ``รู้แล้วน่า ชิ`` ผมทำปากเบ้ใส่ แล้วเดินตามมยองซูเข้าบ้านไป ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาก็พบว่าข้างในบ้านมันหรูโคตรๆ บ้านของผมดูกระจอกไปเลย แต่นี่มันใช่เวลามาเดินชมบ้านไหมเนี่ย นาทีต่อไปจะเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้เลย แล้วมยองซูก็นั่งบนโซฟาสุดหรูโดยนั่งไขว่ห้าง ชิดูแล้วหมั่นไส้ชะมัดทำมาเป็นวางมาด แต่ที่ผมไม่เข้าใจทำไมไอ้ลูกน้องของเขาต้องจับตัวผมให้นั่งแหมะกับพื้นด้วยล่ะ ทั้งๆที่ที่นั่งก็มีเยอะแยะ

     

    ``นายต้องการอะไร``

     

    ``อืมมม ฉันต้องการอะไรน่าาาา`` โอ๊ยดูไอ้บ้านี่สิทำไมต้องพูดลากเสียงยาว แล้วก็ทำท่าเท้าคางคิดนั้นอีก อีซองยอลไม่ไหวแล้วนะ อีซองยอลกำลังจะปี๊ดแตก ไอ้หมอนี้มันจะกวนประสาทผมมากไปแล้วนะ เอาล่ะผมควรจะสงบสติตัวเองเข้าไว้ ใจเย็นๆอีซองยอล

     

    ``พ่อฉันเป็นหนี้นายเท่าไร ฉันจะใช่หนี้เอง``

     

    ``โอ๊ะ เมื่อกี้ฉันหูฝาดไปหรือเปล่าห๊ะโฮย่า`` นายนั่นหันไปถามชายชุดดำซึ่งมีนามว่าโฮย่า แล้วก็หัวเราะกันอย่างกับผมเป็นตัวตลก

     

    ``หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ`` แล้วมยองซูกับโฮย่าก็หยุดหัวเราะ

     

    ``พ่อฉันเป็นหนี้นายเท่าไร`` ผมมองมยองซูอย่างจริงจัง

     

    ``บอกไปนายจะไปหาเงินใช้ได้เหรอ``

     

    ``ได้สิ คนอย่างอีซองยอลไม่มีอะไรทำไม่ได้``

     

    ``ทีนี้บอกได้รึยังว่าพ่อฉันเป็นหนี้พวกนายเท่าไร``

     

    ``100ล้าน``

     

    ``อะไรนะระร้อยล้าน`` แล้วผมจะไปหาเงินมาจากไหนเนี่ย

     

    ``ก็ได้ฉันจะไปหาเงินมาใช้ให้ แต่นายต้องห้ามทำอะไรครอบครัวของฉัน`` เมื่อพูดเสร็จผมก็หันหลังเตรียมจะเดินออกจากที่นี่ แต่มยองซูพูดขึ้นมาเสียก่อน

     

    ``เดี๋ยวสิครับ คุณอี-ซอง-ยอล`` ผมหันหน้ามามองเขาอย่างไม่เต็มใจนัก

     

    ``มีอะไร``

     

    ``ผมเพิ่งรู้นะครับว่าลูกหนี้เขาพูดกับเจ้าหนี้อย่างนี้``

     

    ``มีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะ``

     

    ``ก็ได้ๆ ฉันไม่กวนนายแล้วก็ได้`` เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วก็มาเดินวนรอบๆตัวผม

     

    ``แล้วฉันจะมั่นใจได้อย่างไงว่านายจะไม่คิดตุกติก``

     

    ``ฉันเอาเกียรติเป็นประกัน`` แล้วหมอนี่ก็เค้นหัวเราะออกมา

     

    ``เหอะๆ แค่นั้นไม่พอหรอกนะครับซองยอล`` โอ๊ย นี่เขายังต้องการอะไรอีก ผมทนเขาไม่ไหวแล้วนะ ผมอยากจะชกหน้าหมอนี้เต็มที

     

    ``แล้วนายต้องการอะไร`` ผมพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุด

     

    ``นายต้องอยู่ที่นี่``

     

    ``O_O ห้ะ บ้าหรือเปล่า ให้ตายอย่างไงฉันก็ไม่อยู่หรอก``

     

    ``ว้าาา น่าเสียดายจังฉันว่าจะลดหนี้ให้นายซะหน่อยถ้านายอยู่ที่นี่ แต่นายคงไม่ต้องการใช่ไหม `` เขาพูดเสร็จก็เตรียมจะเดินขึ้นบันได แต่ก็ไม่ลืมสั่งโฮย่า

     

    ``โฮย่าส่งแขกด้วยนะ``

     

    ``ครับ``

     

    ``เชิญครับ`` โฮย่าเดินนำทางผมไป แต่เดี๋ยวนะนายนั่นบอกว่าจะลดหนี้ให้ด้วยเหรอ เอาก็เอาว่ะ

     

    ``เดี๋ยวก่อน!!!`` ผมร้องตะโกนเสียงดัง จนมยองซูหันมา

     

    ``ว่าไงครับ``

     

    ``ตกลง ฉันจะอยู่ที่นี่`` เมื่อผมพูดจบไอ้ตามยองซูนั่นก็ยกยิ้มขึ้น

     

    ``ดี เดี๋ยวจัดห้องให้เขาด้วยนะ`` เมื่อเขาหันไปพูดกับแม่บ้านเสร็จก็ขึ้นบันไดไป

     

    ``เชิญค่ะ`` แล้วแม่บ้านก็เดินนำผมไปที่ห้องพัก เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาผมก็ตกใจ คือห้องนอนมันใหญ่และก็กว้างมากอ่ะ

     

    ``เอ่อ นี่ห้องผมเหรอครับ ``

     

    ``ใช่ค่ะ ถ้าคุณซองยอลต้องการอะไรเพิ่มบอกฉันได้นะคะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ``

     

    ``ครับ`` ผมส่งยิ้มแห้งๆให้เธอ คือ...ลูกหนี้เขาให้อยู่ห้องหรูๆอย่างนี้เหรอว่ะ มันแปลกๆว่าไหมครับคุณรีดเดอร์ ดูสิเตียงก็นุ้มนุ่มเตียงที่บ้านผมดูแข็งไปเลย ผมค่อยๆทิ้งตัวนอนลง เฮ้อ~ ผมถอนหายใจรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ ผมเครียดนะเนี่ย ไม่รู้จะหาเงินจากไหน พอโทรไปหาพ่อ แม่แล้วก็เจ้าแดยอลก็ติดต่อไม่ได้เลย พวกเขาตั้งใจจะทิ้งผมอย่างงั้นเหรอ ฮือออใจร้ายที่สุด

     

    ``เฮ้ย!!! นายเข้ามาได้ไง`` ผมตกใจมากเพราะอยู่ๆมยองซูก็โผล่เข้ามาที่ห้อง

     

    ``นี่ไง`` เขาชูพวงกุญแจที่มีลูกกุญแจมากมายขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กวนบาทามาก

     

    ``นายไม่มีสิทธิ์เข้ามา ถ้าฉันไม่อนุญาต`` ผมจ้องเขาอย่างไม่พอใจ

     

    ``อ๋อ เป็นเจ้าของบ้านนี่เขาต้องขออนุญาตเข้าห้องก่อนเหรอ`` หน๋อยยังจะมายอกย้อน = * =

     

    ``นายเข้ามามีอะไร``

     

    ``ฉันแค่จะมาบอกนายให้อาบน้ำแล้วก็ลงไปกินข้าว ฉันไปล่ะ`` แล้วไอ้หน้าหล่อมยองซูก็เดินออกไป ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า โอ๊ะ มีเสื้อผ้าเต็มเลยเหมือนกับเตรียมไว้อย่างไงอย่างนั้น แต่เตรียมไว้ให้ลูกหนี้น่ะเหรอ?

     

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    หลังจากที่ผมทำธุรtส่วนตัวเสร็จแม่บ้านก็มาเชิญผมลงไปทานข้าว ก็พบว่าโต๊ะอาหารถูกจัดวางอาหารไว้อย่างดีโดยมีมยองซูนั่งอยู่ส่วนหัวโต๊ะก็มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ด้วย

     

    ``เชิญนั่งสิ``มยองซูเอ่ยเชิญผม มันแปลกๆอย่างไงชอบกล มีที่ไหนที่ลูกหนี้กินอาหารร่วมโต๊ะพร้อมกับเจ้าหนี้ แถมพวกเขาสองคนยังมองผมแปลกๆแล้วก็กระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วไหนจะส่งยิ้มแปลกๆให้ผมอีก พวกเขายังเต็มอยู่ใช่ไหม

     

    ``นี่พ่อฉันเอง``

     

    ``สวีสดีครับ`` ผมส่งยิ้มน้อยๆให้เขาไป

     

    ``เธอซองยอลสินะ``

     

    ``ครับ``

     

    ``ทานข้าวกันเถอะ ทานเยอะๆนะซองยอล`` พ่อของเจ้าหนี้เขาใจดีขนาดนี้เลยเหรอ แต่ใครจะกินลงเล่า

     

    ``คือผมไม่หิวน่ะครับ``

     

    ``จ๊อก จ๊อก...`` ไอ้ท้องไม่รักดีมาร้องอะไรตอนนี้ฟ่ะ=*=

     

    ``แน่ใจนะว่าไม่หิว`` นายไม่ต้องมาหัวเราะฉันเลยนะมยองซู

     

    ``กินเถอะฉันไม่ใส่อะไรลงไปหรอกน่า`` ผมเลยต้องจนใจกินแต่ก็กินได้สองสามคำเท่านั้นล่ะ ผมก็ขอตัวเข้าห้องก่อน ถ้าถามว่าหิวไหมบอกได้เลยว่าหิว แต่คุณคิดเหรอว่าผมจะกินข้าวลง ไม่อิ่มก็ต้องอิ่ม แล้วผมก็ล้มตัวลงนอนบ้างทีถ้านอนแล้วอาจจะเลิกหิวก็ได้ ขนาดที่ผมนอนคิดอะไรเพลินๆประตูห้องก็ค่อยๆเปิดออก แล้วคนที่เข้ามาก็คือ...

     

     

    ``นายอีกแล้ว`` ใช่ไอ้หล่อมยองซูอีกแล้ว

     

    ``นายนี่ไม่รู้จักเคาะประตูบ้างหรือไง``

     

    ``ไว้ถ้าไม่ลืมจะเคาะล่ะกัน``

     

    ``อะ`` แล้วเขาก็ยื่นแก้วนมมาให้ผม

     

    ``อะไร``

     

    ``นายเห็นว่าเป็นอะไรล่ะ``

     

    ``นี่นาย!!!``

     

    ``ฉันแค่เห็นนายกินข้าวน้อยก็เลยเอานมมาให้`` ผมรับแก้วนมจากเขา

     

    ``ดื่มซะล่ะ แล้วก็รีบนอนซะพรุ่งนี้นายต้องไปโรงเรียน`` แล้วเขาก็เดินออกไป นี่ล่ะนะบ่นจะมาก็มาบ่นจะไปก็ไป ผมมองแก้วนมในมือ

     

    ``ขอบใจนะ``

     

     

     

     

    ``ฮึก~ เช้าแล้วเหรอเนี่ย`` ผมยืดตัวบิดขี้เกียจอยู่สองสามทีก็เหลือบไปดูนาฬิกา

     

    ``ว๊ากกกกก สายแล้ว`` ตายแล้วๆ อีซองยอลทำไมแกเป็นคนขี้เซาอย่างนี่ แล้วผมก็รีบวิ่งไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสง อ๊ากกกก ไม่ทันแน่เลยแล้วก็รีบแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่าง ข้าวชงข่าวเช้าไม่กินแล้วโว้ยยยย เมื่อผมวิ่งออกมาก็เจอกับนายมยองซูที่ยืนพิงประตูรถ นายนั่นมองผมแปลกๆ

     

    ``ท่าทางนายจะรีบนะ``

     

    ``อะไรของนาย`` เขาไม่พูดอะไรแต่เอานิ้วชี้ชี้มาที่มุมปากของตัวเอง รถของเขาจอดอยู่ข้างๆพอดีผมเลยใช่กระจกรถนี่แหละส่องแทนกระจก เฮ้ย คราบฟองยาสียังติดที่มุมปากอยู่นี่หว่า

     

    ``ฮ่าๆ มาเช็ดให้`` แล้วเขาก็จับไหล่ผมทั้งสองข้างให้หันมาทางตน

     

    ``เฮ้ย!! ไม่ต้องฉันชะ-`` ผมยังพูดไม่ทันจบเขาก็เช็ดโดยใช้มือของเขาเช็ดฟองยาสีฟันให้แล้วอ่ะ

     

    ``อ่ะ เรียบร้อยแล้ว`` ยิ้มอย่างนี้หมายความว่าไงยิ้มเยาะฉันเหรอ

     

    ``ขึ้นรถสิ``

     

    ``....``

     

    ``ยืนนิ่งอยู่ทำไมรีบไม่ใช่เหรอ`` เออ จริงด้วย ผมเลยขึ้นรถไปกับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อรถเริ่มออกตัวก็ไม่มีใครพูดอะไร จนขับมาถึงโรงเรียน

     

    ``นี่ ไปโรงเรียนนายอย่าคิดหนีล่ะ`` เขาหันมาจ้องหน้าผม

     

    ``ทำไม นายให้โฮย่ามาจับตาดูฉันหรือไง``

     

    ``ไม่ใช่โฮย่าหรอก แต่ฉันมีสายไว้รายงานพฤติกรรมของนายแล้วกัน``

     

    ``สรุปนายเป็นเจ้าหนี้หรือเป็นพ่อฉันกันแน่ห๊ะ``

     

    ``ก็แล้วแต่จะคิด`` เขาไหวไหล่เล็กน้อย ผมยู่ปากอย่างไม่พอใจก่อนที่จะเปิดประตูลงรถ

     

    ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในโรงเรียน ผมก็รีบมองหาเพื่อนสุดที่รักอย่างนัมอูฮยอน โอ๊ะอูฮยอนอยู่นั่นกำลังเดินเข้าห้องเรียนโชคดีที่ครูยังไม่มาสอน

     

    ``อูฮยอนนนนนน`` ผมรีบวิ่งไปหาอูฮยอน อูฮยอนที่นั่งอยู่ในห้องเรียนตกใจไม่น้อย

     

    ``อูฮยอนนายต้องช่วยฉันนะ`` ซองยอลจับไหล่ของอูฮยอนทั้งสองข้าง จนอูฮยอนรู้สึกว่าหัวตนเองจะหลุดอย่างไงอย่างนั้น

     

    ``เออๆ รู้แล้วน่า ปล่อยฉันก่อนฉันเวียนหัว`` แล้วผมก็ปล่อยมืออกจากไหล่ของอูฮยอน

     

    ``ฉันขอยืมเงินนายหน่อยดิ*^*``

     

    ``O_o``

     

    ``เห้ยอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิอูฮยอน`` ก็รู้หรอกนะว่านายน่ะขี้งก แต่ฉันไม่รู้จะพึ่งใครนอกจากนาย

     

    ``ก็ได้เท่าไรล่ะ``

     

    ``100ล้าน``

     

    ``ห๊ะ!!! 100ล้าน อูฮยอนขอเป็นลม`` แล้วมันก็เป็นลมจริงๆครับ ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่มาพูดเรื่องเงินๆทองๆกับอูฮยอน แล้วดันมาเป็นลมคาบแรกอีกนะแกเอ้ยย

     

    ``อูฮยอนตื่นเถอะ ฉันไม่คุยเรื่องนั้นกับแกแล้วก็ได้นะ``

     

    ``อูฮยอนๆๆ`` ผมเขย่าแขนอูฮยอนอยู่หลายทีไอ้อูฮยอนก็ไม่ฟื้นซะที เห็นทีผมควรจะพาเพื่อนของผมไปห้องพยาบาลซะแล้วสิ แต่จะพาไปอย่างไงล่ะเนี่ยยย คิดๆๆ แต่อยู่ๆห้องเรียนก็เหมือนมีแสงสีขาวสว่างจ้าราวกับมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิงนัม(?) พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคน ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนคือ คิมซองกยูนี่เอง เขาเดินตรงมาทางผมกับอูฮยอน

     

    ``ฉันจะพาอูฮยอนไปห้องพยาบาลเอง`` เขาหันมาพูดกับผมก่อนที่จะค่อยๆช้อนตัวอูฮยอนขึ้นแล้วพาไปห้องพยาบาล คิมซองกยูผู้ช่วยอาจารย์ห้องพยาบาล เขาจำได้ว่าซองกยูแอบชอบอูฮยอนตั้งแต่ที่วันที่ซองกยูเข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งตอนนี้พวกเขาทั้งสองก็ตอบตกลงคบกันแล้ว น่าอิจฉาจังที่อูฮยอนมีคนดีๆมาชอบ

     

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

    จากวันที่อูฮยอนเพื่อนสุดที่รักของผมเป็นลม ผมก็ตัดสินใจที่เลือกจะทำงานหาเงินใช้หนี้ให้มยองซู พอเลิกเรียนทุกๆเย็นผมก็รีบไปทำงานที่ร้านอาหารใกล้ๆโรงเรียน ผมทำอย่างนี้จะ 2 อาทิตย์ได้แล้ว แน่นอนนั่นก็แปลว่าผมอยู่บ้านของตามยองซูนั่นสองอาทิตย์ได้ หมอนี้ก็แปลกนะพอผมจะเอาเงินไปใช้ เขาก็บอกว่าเอาไว้เก็บให้ครบก่อนแล้วค่อยให้ ด้วยเหตุผลที่ว่าขี้เกียจเก็บเศษเงิน = =

     

    แต่ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่บ้านของเขา  เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรออกจะสบายด้วยซ้ำ จนบ้างครั้งไม่สิแทบจะทุกครั้งผมก็สงสัยว่าเจ้าหนี้เขาจะดูแลลูกหนี้ดีขนาดนี้เลยหรือไง มีที่ไหนตอนเช้าไปส่งผมที่โรงเรียน ส่วนตอนเย็นพอผมทำงานเสร็จเขาก็มารับกลับ เขาบอกว่ากลัวผมหนี ให้มันได้อย่างนี้สิครับ หรือว่าเขาแค่กลัวผมจะไม่ใช่หนี้เขา

     

    ``ซองยอลช่วงนี้นายดูอวบอิ่มมากอ่ะ ทั้งๆที่นายเป็นลูกหนี้แท้ๆ แต่นายกลับอยู่สุขสบาย ฉันว่ามันแปลกๆนะ``

     

    ``ใช่ไหมล่ะอูฮยอน``

     

    ``หรือว่า...`` อูฮยอนทำไมนายต้องพูดให้ฉันลุ้นอย่างนี้ด้วยฟ่ะ มีอะไรก็รีบพูดดิ

     

    ``หรือว่า หรือว่าอะไร``

     

    ``เขาอาจจะชอบนาย``

     

    ``ชะชอบ บ้าแล้ว มันจะเป็นแบบนั่นได้ไง -///- `` ทำไมอยู่ๆหน้าของผมมันร้อนๆนะ ผมคงจะไม่สบายแน่

     

    ``ถ้าเขาไม่ได้ชอบนาย ฉันว่า...``

     

    ``ว่าอะไร มีอะไรก็รีบๆพูดสิ``

     

    ``แหมๆ ทำมาเป็นวีนใส่ นายชอบเขาใช่ไหมล่ะ`` ผมเนี่ยนะชอบมยองซู

     

    ``อูฮยอนนายพูดบ้าอะไรของนาย `` ทำไมอูฮยอนมันถึงยิ้มแปลกๆให้ผมอ่ะ

     

    ``แหมๆ ชอบเขาเข้าแล้วสินะ``

     

    ``นี่!! เลิกพูดเรื่องบ้าๆได้แล้ว ฉันไม่มีทางชอบนายนั่นหรอก`` ผมเลือกที่จะลุกเดินหนีออกไปขืนอยู่ต่อก็มีแต่อูฮยอนจะล้อเขาน่ะสิ

     

    ``ไม่ค่อยจะแสดงออกเลยนะซองยอล เฮ้ย รอด้วยดิ`` แล้วอูฮยอนก็วิ่งตามซองยอลไป

     

    อูฮยอนไอ้เพื่อนบ้าบังอาจมาหาว่าผมชอบมยองซู มันใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย ส่วนมยองซูน่ะเหรอจะชอบผม เหอะๆไม่มีท่าหรอก เพราะผมมันก็เป็นแค่ลูกหนี้นิ  ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บแปลบๆทุกครั้งที่ย้ำว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไรด้วยนะ

     

    หลังจากที่ผมทำงานเสร็จวันนี้ผมเลือกที่จะขึ้นรถประจำทางกลับบ้านไม่สิต้องบอกว่าเป็นบ้านของเจ้าหนี้ต่างหาก ผมก็แค่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ผมแค่...ไม่ค่อยอยากเจอเขาเท่าไร นั่งริมหน้าต่างมีลมเย็นๆพัดผ่านเย็นสบายจะตาย ใช่ไหมล่ะครับ เมื่อรถจอดผมก็เดินลงอย่างไม่รีบร้อน เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดหน้าบ้านของเขา ทันทีที่ผมเดินเข้ามาก็พบว่ามยองซูนั่งกอดอกบนโซฟาพร้อมกับมองหน้าผมอย่างไม่พอใจนัก

     

    ``ไปไหนมา`` น้ำเสียงเย็นชาของเขามันทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวูบไปทั้งตัว

     

    ``ก็ไปทำงานไง`` ผมเลือกที่จะตอบโดยไม่มองหน้าเขา

     

    ``ไปทำงาน แล้วทำไมฉันไปรอถึงไม่เจอ พอฉันถามคนในนั้นเขาก็บอกว่านายออกไปแล้ว``

     

    ``ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับนาย``

     

    ``เกี่ยวสิ``

     

    ``อย่างไง!! ฉันมันก็แค่ลูกหนี้ นายก็แค่กลัวว่าฉันจะไม่ใช่หนี้ให้นายใช่ไหมล่ะ``

     

    ``...``

     

    ``เหอะ จริงด้วยสินะ`` ผมมันโง่เองที่ถามคำถามอะไรโง่ๆอย่างนั้น อยากให้เขาพูดปฏิเสธหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เงีบอย่างนี้ น่าสมเพชสิ้นดี

     

    ``ฉันเหนื่อยแล้วขอตัวก่อนนะ`` ผมกำลังจะก้าวขึ้นบันไดไปแต่เขาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

     

    ``ฉันเป็นห่วงนาย วันหลังอย่างทำแบบนี้อีกนะ`` เขาพูดอย่างแผ่วเบาแต่ทว่ามันกับดังกึกก้องอยู่ในหัวผมน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนนั่น  ห่วง? ทำไมใจของผมมันถึงเต้นรัว ความรู้สึกคลางแคลงใจเมื่อครู่กลับหายไปอย่างสิ้นเชิง ทำไมผมถึงรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกนะ

     

    ``เอ่อ พรุ่งนี้นายว่างไหม``ผมหันไปมองหน้าเขา

     

    ``ว่าง ทำไมเหรอ``

     

    ``แค่อยากชวนนายไปเที่ยวบ้าง``

     

    ``ไปเที่ยว?``

     

    ``ก็นายเป็นลูก... เอ่อหมายถึง ถ้านายเครียดมันไม่ดีต่อสุขภาพน่ะ``

     

    ``อ๋อ``

     

    ``ไปนะ``

     

    ``ก็ได้ฉันก็เบื่อๆเหมือนกัน`` เมื่อผมพูดจบเขาก็ยกยิ้มให้ผม เอาอีกแล้วรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว

     

    ``นายเป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่า`` มยองซูดูตกใจมากเพราะหน้าของซองยอลที่ตอนนี้แดงก่ำ จนดูเหมือนไม่สบาย มยองซูเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆแล้วยื่นมือจะมาแตะที่หน้าผากผม แต่ผมหลบถอยหลังไปเสียก่อน

     

    ``ฉันไม่เป็นไร ฉันไปนอนนะ ฝันดี`` แล้วผมก็รีบวิ่งเข้าห้องตัวเองไป นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือว่าจะไม่สบาย ไปอาบน้ำแล้วนอนดีกว่า

     

    หลังจากที่ผมทำภารกิจส่วนตัวเสร็จผมก็ตัดสินใจเข้านอนเลยนอนมันยังไม่3ทุ่มนี่แหละ จะได้หายจากอาการบ้าๆนี่ซักที แล้วผมก็ค่อยๆล้มตัวนอน เฮ้อ สบายจัง เตียงนี่นุ่มดีจริงๆ ทันทีที่เปลือกตาของผมปิดลงผมก็เห็นหน้าของคนหล่อ อ๋อ มยองซูนี่เอง ห๊ะมยองซู ไม่ๆผมค่อยๆลืมตาแล้วก็หลับตาใหม่อีกครั้ง นั่นไงเห็นอีกแล้ว

     

    ``ไม่ๆๆๆๆๆ`` ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งแล้วหลับตาลงครั้งนี้ไม่เห็นหรอก เป็นไงบอกแล้วว่าไม่เห็น

     

     

    ไม่เห็นกับผีอ่ะดิ

     

     

    ``อ๊ากกกก มยองซูนายออกไปจากหัวของฉันเดี๋ยวนี้นะ ออกไปๆๆ`` ผมทั้งดึงหัวตัวเอง สะบัดหัว เอาหัวโขกเตียง สารพัดวิธีเท่าที่จะทำได้ ฮ่าๆทีนี้นายก็ไม่ได้อยู่ในหัวฉันแล้วล่ะ ผมจึงปิดสวิตช์ไฟแล้วล้มตัวนอนอีกครั้ง เอาสิให้มันรู้ไปว่านายยังกล้ามาอยู่ในหัวฉัน ... อีกแล้วเหรอเนี่ย คราวนี้มาเป็นแบบภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย ฮือๆ นายไม่ต้องมายิ้มเลยนะ

     

    ``อ๊ากกกกก ไม่นงไม่นอนมันแล้ว ไอ้บ้ามยองซู`` ผมลุกขึ้นเปิดไฟแล้วกลับมานั่งบนเตียง ไอ้อาการประหลาดๆเนี่ยเขาเรียกว่าอะไรนะ

     

     

     

    ตกหลุมรัก

    สรุปแล้วผมชอบมยองซูงั้นเหรอ

    ``ม่ายยยยยยยยย``

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม

     

    แต่คงไม่ใช่กับอีซองยอลแล้วล่ะ เพราะขอบตาของเขาคล้ำซะอย่างนี้ แล้วก็คงไม่ต้องถามว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้นะ คุณน่าจะรู้ใช่ไหม คิกคิก

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    มยองซูเคาะประตูอยู่สองสามที แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาจากคนข้างใน

    ``ถ้าไม่เปิดฉันเข้าไปล่ะนะ`` แล้วเขาก็เปิดประตูเข้ามา ก็พบว่าซองยอลยังคงนอนหลับอยู่

     

    ``ซองยอลตื่นเถอะสายแล้วนะ`` เขาตรงเข้าไปปลุกซองยอล

     

    ``อื้อ ไม่เอาจะนอน``ซองยอลที่นอนคว่ำหน้าซุกไปกลับหมอนอยู่สะบัดมือของมยองซูออกพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

     

    ``นี่ นายลืมแล้วหรือไงว่านัดอะไรฉันไว้``

     

    ``อือๆ ขอนอนก่อนนะ`` แต่มยองซูไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้ เขาพยายามปลุกซองยอลอยู่อย่างนั้น

     

    ``ไม่ได้ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ``จนซองยอลรำคาญลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมองคนตรงหน้า

     

    ``เออๆ``

     

    ``เฮ้ยยย ทำไมขอบตานายมันดำๆ`` มยองซูชี้มาที่ขอบตาผม ผมปัดมือของเขาออกเพราะใครหล่ะ

     

    ``ช่างฉันเถอะ``

     

    ``เอาเหอะนายตื่นก็ดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ`` เขาพูดตัดบทก่อนจะดันตัวผมให้ลุกออกจากเตียง

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    แล้วผมกับเขาก็มาถึงย่านขายของชื่อดัง ระหว่างที่ผมกับเขาเดินดูของเพลินๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นคนที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นก็คือแดยอลน้องชายตัวแสบของผม แต่มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ผมอาจจะตาฝาดก็ได้ แต่พอลองดูดีๆ ต้องเป็นแดยอลแน่ๆ

     

    ``มยองซู``

     

    ``หืม``

     

    ``เดี๋ยวฉันมานะ``

     

    ``ไปไหนอ่ะ`` นายจะถามฉันทำไมเล่าเดี๋ยวแดยอลมันก็หายไปพอดี

     

    ``เถอะน่า เดี๋ยวมา`` แล้วผมก็ใส่เกียร์หมาวิ่งไปหาแดยอล

     

    ``แดยอล``ผมคว้าข้อมือน้องชายเอาไว้

     

    ``พะพี่ยอล`` แดยอลตกใจไม่น้อยกับการปรากฏตัวของพี่ชาย ผมมองน้องน้ำตาคลอจึงโผล่เข้าไปกอดแดยอล

     

    ``แดยอล ฉันคิดถึงนายมากๆนะ ฮือๆ พ่อกับแม่เป็นไงบ้าง`` ผมพูดไปก็กอดน้องไปพร้อมกับปล่อยโฮออกมาไม่อายใคร ก็คนมันคิดถึงน้องอ่ะ

     

    ``พ่อกับแม่สบายดีครับ พวกเราเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น`` ห๊ะ อะไรนะญี่ปุ่น? ผมผละตัวออกจากแดยอล

     

    ``เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ``

     

    ``เออเอ่อ คะคือ...`` ขอโทษนะครับ ผมทำแผนแตกแล้วอ่าา -/\-

     

    ``ว่าไง มีอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ`` โห้พี่ยอลอย่ามองผมเหมือนจ้องจะกินเลือดกินเนื้อผมสิ ผมกลัวนะ

     

    ``ว่าไง``พี่ยอลพูดเสียงกดต่ำเรื่อยๆ ตอนนี้ผมขนลุกแล้วอ่าาา

     

    ``ครับๆ บอกก็ได้ แต่พี่ยอลอย่าทำอะไรผมนะ``พี่ยอลไม้ได้พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้าตอบ แล้วผมก็สาธยายเรื่องราวทั้งหมดให้พี่ยอลฟัง

     

    ``คือ.... เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ สรุปก็คือพ่อวางแผนกับพี่มยองซู แต่ผมไม่รู้เรื่องนะครับ`` แหมไม่รู้เรื่องแต่สมรู้ร่วมคิดสินะ

     

    ``เอ่อ แล้วพี่จะไปไหน`` ผมถามพี่ยอลด้วยความสงสัย

     

    ``ไปจัดการธุระน่ะ``

     

    ``ธุระที่ว่าไม่มีผมใช่ไหม^^``

     

    ``แน่นอนแกก็ไม่รอดหรอกไอ้แดยอล`` งานนี้ก็ตัวใครตัวมันสิครับ แดยอลขอเผ่งก่อนดีกว่า ส่วนพี่มยองซูขอให้โชคดีนะครับ :-)

     

     

     

    หลังจากที่ผมได้ฟังเรื่องที่แดยอลเล่ามา บอกตามตรงนะผมขึ้นมา นายไม่รอดแน่คิมมยองซู ตอนนี้ผมกำลังมองหาไอ้หน้าหล่อมยองซู นั้นไงเจอแล้ว นายได้เจอดีแน่ แล้วมยองซูก็รีบวิ่งมาหาผม

     

    ``ซองยอลนายไปไหนมาฉันตามหานายตั้งนาน``

     

    ``อยากรู้เหรอ`` ผมพูดแล้วส่งยิ้มให้เขา

     

    ``อือ``

     

    ``เอียงหูมาสิ`` ดูเหมือนเขาจะงงนะแต่เขาก็ยอมเอียงหูมาใกล้ผม หึหึ ทีนี้ก็ได้เวลาชำระแค้นแล้ว ผมจึงบิดเข้าที่หูของมยองซูอย่างจัง เขามีสีหน้าเหยเกทันทีเลยล่ะ สมน้ำหน้า :-P

     

    ``โอ๊ยๆ ฉันเจ็บนะซองยอล`` เขารีบดันตัวออกจากผมแล้วเอามือลูบหูตัวเองไปมา

     

    ``นายกล้าทำกับเจ้าหนี้อย่างนี้ได้อย่างไง`` นี่ เขายังจะมาเล่นละครอีกหรอก ผมควรให้รางวัลออสการ์ให้เขางั้นสิ

     

    ``เจ้าหนี้ เจ้าหนี้อย่างงั้นเหรอ แดยอลบอกฉันหมดแล้ว`` แล้วผมก็กระหน่ำทั้งทุบทั้งตีเขา

     

    ``โอ๊ยๆๆ ฉันเจ็บนะ``

     

    ``เจ็บเหรอ แค่นี้มันน้อยไป`` จังหวะที่ผมจะตีเขาอีกครั้งมยองซูก็รวบตัวของผมเข้ามาในอ้อมกอดเขา

     

    ``ปล่อยฉันนะ`` ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนเขา

     

    ``ไม่ ถ้าฉันปล่อยนายเดี๋ยวนายก็ตีฉันอีกอ่ะดิ``

     

    ``ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ คนเยอะนายเห็นไหม`` ใช่คนผ่านมาผ่านไปเยอะจะตายชัก ผมอายเขานะ

     

    ``แล้วไง ฉันไม่สน`` หมอนี่ตายด้านแล้วมั้งเนี่ย

     

    ``ความจริงแล้วฉันแอบชอบนายมานานและฉันก็ไม่กล้าเดินเข้าไปทำความรู้จักกับนาย`` ผมนิ่งมองเขาอธิบาย

     

    ``ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ แล้วมันก็เหมือนสวรรค์เป็นใจเพราะพ่อของฉันรู้จักกับพ่อของนาย ท่านก็เลยคิดแผนพวกนั้นขึ้น ฉันไม่กล้าไปบอกชอบนายกลัวนายจะไม่ชอบฉัน ฉันก็เลยยอมทำตามแผนที่พวกท่านได้คิดไว้`` เมื่อผมฟังเสร็จผมก็บีบจมูกของเขาอย่างแรง จนเขายอมปล่อยแขนที่โอบเอวของผมไว้

     

    ``โอ๊ย นายทำอะไรเนี่ย`` เขาลูบจมูกตัวเอง ยังจะมีหน้ามาถามอีก

     

    ``คนบ้า!!!! ฉันน่ะ...ก็ชอบนายตั้งแต่ที่เจอนายเหมือนกัน`` ผมพูดตระคอกใส่เขาผมคิดว่าหน้าผมตอนนี้ต้องแดงมากแน่ๆ

     

    ``เมื่อกี้นายบอกว่าไงนะ``

     

    ``ก็บอกว่าชอบไงเล่า-////-`` แล้วเขาก็โผล่เข้ามากอดผม

     

    ``ดีใจจังที่นายชอบฉัน`` ผมผละเขาออกแล้วยืนกอดอกพูดเสหน้าไปทางอื่น

     

    ``ไม่ต้องเลย``

     

    ``ง่า ทำไมล่ะ`` ไม่ต้องมาทำเสียงน่ารักเลยฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ

     

    ``ไม่รู้ล่ะฉันงอนนายอยู่ ง้อด้วย`` ผมพูดอย่างเอาแต่ใจ

     

    ``งั้น ดีกันนะ`` เขายื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผม

     

    ``ไม่!!`` ผมเล่นตัวไปงั้นแหละ คิกคิก

     

    ``นะๆ ดีกันนะครับ`` โอ๊ย มีการมายิ้มใส่ผมอีก ผมจะละลายแล้วนะ ผมว่าผมต้องแพ้รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้แล้วแน่ๆ

     

    ``ไม่``

     

     

    ฟอด~

     

     

    เขาหอมแก้มผมอ่ะ โอ๊ยผมจะลอย

     

    ``หายงอนยังครับ`` เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    ``ฉัน...``

     

     

    ฟอด~

     

     

    เขาหอมแก้มผมอีกข้างหนึ่ง    

     

    ``ฉัน-``

     

    ``ยังไม่หายงอนเหรอ งั้นอีกจุ๊บหนึ่งทีล่ะกัน`` เขายื่นหน้ามาใกล้ๆผม แต่ผมเอามือดันหน้าเขาออก

     

    ``พอเลยไอ้บ้า -//////////////-``

     

    ``ก็ไม่เห็นนายพูดอะไรนิ :-)``ก็นายไม่ให้ฉันพูดต่างหาก -3-

     

    ``หายงอนแล้วนะครับ``

     

    .``เออ!!!``

     

    ``ซองยอล ในเมื่อฉันก็ชอบนายแล้วนายก็ชอบฉัน`` เออ ฉันชอบนายย้ำอยู่ได้เขินนะเฟ่ย

     

    ``เรามาเป็นแฟนกันไหม``

     

    ``อือ``

     

    ``ว่าไงนะครับ``

     

    ``อื้อ``

     

    ``ว่าไงนะ``

     

    ``อื้อ!!!!!!``

     

    ``อะไรนะครับ``

     

    ``เออ!!!!! หูตึ้งหรือไงห๊ะ``

     

    ``ฮ่าๆ ฉันแค่แกล้งนายเล่น``

     

    ไอ้บ้าคิมมยองซู ผมเกลียดมยองซูที่สุด....

     

     

    The End

     

     

    แถมให้(เนื่องจากมีคนอยากมีบทบ้าง555)

     

    สวัสดีครับผมชื่ออีโฮวอนหรือที่นิยมเรียกกันว่าโฮย่าสุดหล่อ ไรท์เตอร์นิสัยไม่ดีเลยใช่ไหมครับให้ผมมีบทพูดแค่สองสามประโยค พอผมไปขอบทนางนางก็จัดมาให้ซะท้ายเชียว(อะไรฉันก็ให้บทนายอยู่นี่ไง<---ไรท์) แต่ช่างเหอะไว้เรื่องหน้าผมขอเป็นตัวหลักบ้างล่ะกัน เข้าเรื่องดีกว่าคุณคงจะเห็นผมในฉากเปิดเรื่องใช่ไหม ความจริงแล้วผมไม่ได้เป็นลูกน้องของไอ้มยองซูหรอก ผมน่ะเป็นเพื่อนมันต่างหาก แต่ดูมันทำก้บผมดิให้ผมเล่นบทเป็นลูกน้อง แถมยังให้วิ่งตามซองยอลอีก ขาผมยิ่งสั้นๆอยู่ซองยอลก็วิ่งเร็วเกิ๊น พอเรื่องทุกอย่างเคลียร์จบไอ้สองตัวนี้มันก็สวีทกันจริงจริ๊ง ไม่เชื่อดูเด๊ะ

     

    ``ตัวเองทานข้าวเยอะๆนะ`` มยองซูกำลังป้อนข้าวให้ซองยอล

     

    ``ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวเค้าอ้วน`` ซองยอลพูดด้วยน้ำเสียงน่ารักๆ

     

    ``อ้วนอะไรตัวเองไม่อ้วนหรอก``

     

    ``ไม่อ้วนอะไรเล่า มยองซูให้เค้ากินนู้นกินนี่อยู่นั้นแหละ=3=``

     

    ``ก็เค้าอยากให้ตัวเองกินเยอะๆ เวลากอดจะได้กอดเต็มไม้เต็มมือ^_^``

     

    ``มยองซูก็คิดแต่เรื่องพวกนี่น่ะแหละ-////-`` บ้างทีผมก็สงสัยว่าผมมาอยู่ดูพวกนี้สวีทกันทำซากอะไร= =

     

     

    ผมว่าจบเหอะผมเอียน *_*

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×