คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : OS Postit
OS Postit (Myungyeol)
กริ๊ง กริ๊ง~
เสียงนาฬิกาปลุกเรือนสวยกำลังส่งเสียงร้องดังไปทั่วห้อง ทำให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงต้องจำใจเอื้อมมือมากดปิดนาฬิกาปลุกตัวดี ใจจริงเขาก็อยากจะนอนต่อแต่ก็ติดตรงที่ว่าเขาต้องไปโรงเรียนนี่สิ เขาจึงลุกขึ้นออกจากเตียงนอนเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว
เขาชื่ออีซองยอลเรียนชั้นมัธยมปลายในโซล ความจริงบ้านของเขาไม่ได้อยู่ในโซลหรอก แต่ด้วยความที่เขาอยากจะลองใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวจึงอ้อนแม่ของเขาเพื่อมาเรียนต่อที่นี่ โดยเช่าหอพักใกล้ๆโรงเรียน ตอนแรกแม่ของเขาก็เป็นห่วงกลัวลูกจะปรับตัวไม่ได้ แต่แม่ของเขาก็คิดผิดเพราะเขาไปโรงเรียนเพียงไม่กี่วันก็มีเพื่อนสนิทแถมหน้าตาน่ารักๆอย่างอีซองจง
ทุกๆวันของเขาดำเนินผ่านไปได้ด้วยดี แต่ที่ดูจะแปลกๆไปก็เมื่อวันก่อนๆตอนที่เขาเปิดประตูออกจากห้องก็พบว่ามีโพสต์อิทแปะที่ประตูหน้าห้องเขา เขาลองมองหาเจ้าแผ่นกระดาษโพสต์อิทแต่ก็ไม่เห็นใคร เขาก้มมองแผ่นกระดาษในมือที่เขียนสัญลักษณ์รูปยิ้มอย่างงงๆ นี่ใครมาเล่นพิเรนทร์กับเขา แต่ถึงอย่างนั่นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
แต่พอมาตอนนี้แน่นอนวันนี้เขาก็ได้รับแผ่นกระดาษโพสต์อิทที่แปะไว้หน้าห้องเขาเหมือนเดิม แต่ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปก็คือเมื่อเขามาถึงห้องเรียนเขาก็พบว่าลิ้นชักใต้โต๊ะของเขามีกล่องนมรสช็อกโกแลตพร้อมกับขนมปังแล้วยังมีกระดาษโพสต์อิทแปะติดมาพร้อมกับข้อความ
`อย่าลืมดื่มนมกับขนมปังให้หมดล่ะ
แล้วก็ตั้งใจเรียนนะ :-)`
ซองยอลมองกล่องนมกับขนมปังในมืออย่างไม่เข้าใจ
ใครส่งมานะ
และวันนี้ก็เป็นอย่างเคยเขาได้รับกระดาษโพสต์อิทที่หน้าห้องพร้อมกับนมขนมปังที่โรงเรียนเหมือนอย่างเคย แต่ที่จะเปลี่ยนก็คงจะเป็นโพสต์อิทที่ติดแนบมากับกล่องนมที่ไม่เคยซ้ำกันในแต่ละวัน น่าแปลกเหมือนกันนะทั้งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนข้อความในโพสต์อิท
แต่ทุกครั้งที่ซองยอลได้อ่านมัน มันทำให้ซองยอลยิ้มไม่หุบ เพราะข้อความที่ส่งมาให้เขาเป็นข้อความที่ล้วนให้กำลังใจเขาทั้งนั้น มันทำให้เขามีกำลังใจมากขึ้นมาเลยทีเดียว
"นี่แกไม่สงสัยเลยเหรอว่าใครเป็นคนให้นมขนมปังแล้วก็กระดาษโพสต์อิทนั่น" คนที่มีใบหน้าหวานน่ารักราวกับเด็กผู้หญิงพูดขึ้นข้างๆเพื่อนของเขาที่กำลังนั่งมองกระดาษยิ้มเล็กยิ้มน้อย
``สงสัยสิ แต่แบบนี้มันก็ดีแล้วนิ`` ร่างบางหันไปพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เพื่อนรัก
``อ๋อ จะได้กินนมกับขนมฟรีว่างั้น`` เมื่อซองจงพูดจบเขาก็ตีเข้าที่ต้นแขนของเพื่อนหน้าหวานทันที
``จะบ้าเหรอ``
วันนี้โรงเรียนของเขาได้จัดชมรมต่างๆอาทิ ชมรมดนตรี วาดภาพ ถ่ายภาพ การแสดง และอื่นๆอีกมากมายให้เด็กนักเรียนได้ลงเลือกเข้า ร่างบางที่ได้เห็นใบประกาศชมรมการแสดงที่ติดตรงบอร์ดก็ดีใจ
``นี่ๆ ซองจงมีชมรมการแสดงด้วยอ่ะ`` ร่างบางเอ่ยเรียกเพื่อนที่อยู่ข้างๆอย่างตื่นเต้น
``ดีเลย แกชอบไม่ใช่เหรอ`` ใช่ ซองยอลชื่นชอบการแสดงละคร เขาฝันว่าอยากจะลองแสดงละครเวทีท่ามกลางผู้คนมากมายดูสักครั้ง เมื่อมีโอกาสเขาก็ไม่ลังเลที่จะลงสมัครเข้าชมรมนี้
.
.
.
.
.
และวันที่เขารอคอยก็มาถึงวันนี้เขาจะได้แสดงละครเวทีที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียน วันนี้จะเป็นวันที่เขาจะได้แสดงศักยภาพด้านการแสดงหลังจากที่ฝึกซ้อมมานาน แล้วก็เป็นอย่างเคยวันนี้เขาก็ยังได้รับนมขนมปังแล้วก็กระดาษโพสอิทนั่น
`วันนี้นายแสดงละครเวทีตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ
ขอให้ทำให้เต็มที่นะ
ฉันจะไปดูนายแสดง สู้ๆ :-)`
ร่างบางมองแผ่นกระดาษแผ่นน้อยด้วยแววตาตกใจ
เขารู้ด้วยเหรอ? เขาเป็นใครกันนะ
เมื่อสิ้นสุดการแสดงเหล่านักแสดงต่างพากันก้มหัวโน้มตัวลงเพื่อเป็นการขอบคุณ เสียงปรบมือจึงดังกึกก้องทั่วหอประชุม ร่างบางมองผู้ชมที่กำลังปรบมือให้ด้วยความตื้นตัน เพราะทุกคนต่างพากันชมว่าการแสดงนี้ยอดเยี่ยมมาก ทันทีที่ผ้าม่านปิดตัวลงเหล่านักแสดงต่างพากันลงมาที่ห้องแต่งตัว เมื่อซองยอลเปลี่ยนชุดเสร็จก็จะมาหยิบกระเป๋าของตนที่วางไว้บนโต๊ะแล้วออกไปจากห้องแต่ก็ต้องสะดุดเพราะมีขวดน้ำวางไว้ข้างๆกระเป๋าของเขา และที่ขวดน้ำก็มีกระดาษโพสต์อิทติดไว้ด้วย
`เหนื่อยไหม? นายแสดงได้ดีมากๆเลย :-)`
เมื่อซองยอลอ่านจบเขาก็หันมองหาเจ้าขวดน้ำนี่แต่ก็ไม่เห็นใครเพราะในห้องเหลือแค่เขาคนเดียว
นี่ใครเล่นตลกกับเขากัน
เมื่อได้เวลาเลิกเรียนเหล่าบรรดานักเรียนต่างพากันกลับบ้านหลังจากผ่านชั่วโมงเรียนอันแสนทรหด แต่จะมีก็ร่างบางที่ชวนเพื่อนของตัวเองไปห้องสมุด ก็เขาไม่ได้เข้าห้องสมุดนานแล้วนิ ตั้งแต่วันที่เขาเข้าชมรมการแสดงเขาก็เอาเวลาว่างหลังเลิกเรียนไปซ้อมละครจนไม่ได้เข้าห้องสมุดเลย วันนี้ก็เลยอยากจะเข้าดูบ้าง
ร่างบางเดินดูหนังสือที่ถูกจัดเรียงใส่ชั้นอย่างเป็นหมวดหมู่ วันนี้เขาคิดไว้ว่าอย่างไงต้องหาหนังสือซักเล่มยืมกลับไปอ่านที่บ้าน เขาไล่สายตาดูหนังสือไปเรื่อยๆจนมาสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง เขาหยิบหนังสือเล่มนั่นขึ้นมาดูมันเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องดวงดาว นอกจากเขาจะชื่นชอบการแสดงแล้วเขายังชอบศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดวงดาวอีกด้วย ร่างบางเปิดหนังสือดูทีละหน้าสองหน้าด้วยสีหน้าแววตาที่มุ่งมั่น ถ้าใครได้เห็นเขาในตอนนี้มันช่างเป็นภาพที่น่ามองเป็นไหนๆร่วมถึงคนที่แอบยืนมองซองยอลยืนอ่านหนังสืออย่างเงียบๆโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนอยู่
``ซองยอลกลับบ้านกันเถอะ``
แล้วเพื่อนของร่างบางก็เดินมาเรียก ซองยอลที่เห็นว่าซองจงมาเรียกก็ต้องปิดหนังสือเก็บเข้าชั้นอย่างเสียดาย
``ไว้พรุ่งนี้ค่อยมายืมล่ะกัน`` เขาพูดพึมพำเสียงเบาก่อนจะเดินออกไป เมื่อซองยอลเดินออกไปอยู่ๆคนที่แอบมองซองยอลก็เดินมาหยิบหนังสือที่ร่างบางอ่านเมื่อครู่ขึ้นพร้อมกับยืมหนังสือไป
หลังจากที่ทานข้าวมื้อกลางวันเสร็จ ซองยอลก็รีบชวนซองจงไปห้องสมุด
``ซองจงไปห้องสมุดกัน`` ซองยอลเอ่ยชวนเพื่อนพร้อมกับยิ้มร่า
``ไม่เอาอ่ะขี้เกียจ``
``ได้ไง!! เมื่อวานฉันว่าจะยืมหนังสือแต่แกชวนฉันกลับก่อน`` ร่างบางรีบโวยทันที
``อ่ะๆ ไปก็ได้`` แล้วทั้งสองก็พากันเดินไปที่ห้องสมุด
เมื่อร่างบางมาถึงห้องสมุดเขาก็รีบตรงไปยังมุมหนังสือที่ตนเก็บไว้เมื่อวาน เขาค่อยๆกวาดตาดูจนทั่วแต่ก็ไม่เห็นหนังสือเล่มนั้น
``หายไปไหนอ่ะ เมื่อวานยังมีอยู่นี่น่า หรือว่าจะอยู่อีกด้าน``
แล้วเขาก็เดินไปด้านหลังของชั้นหนังสือ คราวนี้เขาดูชื่อหนังสือที่สันปกอย่างละเอียดกว่าเดิม และจังหวะที่ซองยอลเดินไปอีกด้านหนึ่งของชั้น ก็มีใครบางคนเอาหนังสือที่ร่างบางกำลังตามหามาว่างไว้ที่เดิม
``ทำไมไม่มีนะ แต่จำได้ว่ามันวางอยู่ชั้นเมื่อกี้ ลองไปดูใหม่ก็ได้`` เมื่อซองยอลเดินกลับมาที่ชั้นเดิมเขาคนนั้นก็รีบเดินออกไป ซองยอลลองไล่สายตามองดูสันหนังสืออีกครั้งจนเจอหนังสือที่ตนต้องการ ทำให้รอยยิ้มบางๆเกิดขึ้นพลางกอดหนังสืออย่างหวงแหน
``แต่มันก็แปลกนะทั่งที่ตอนแรกหาไม่เจอแต่ตอนนี้กลับเจอ แต่ก็ช่างเถอะเจอก็ดีแล้ว`` แล้วร่างบางก็เดินหยิบหนังสือออกไป
``เลิกเรียนได้จ้ะ วันนี้เวรใครทำความสะอาดก็อย่าลืมทำนะจ๊ะ``
``ครับ/ค่ะ`` เมื่อครูที่สอนอยู่หน้าชั้นพูดจบเหล่านักเรียนก็รีบกุลีกุจอเก็บอุปกรณ์การเรียนใส่กระเป๋าจะมีแต่สองเพื่อนซี้ที่ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็จะรีบไปทำไมอย่างไงก็กลับบ้านช้าอยู่ดี ทำไมน่ะเหรอ ก็วันนี้เป็นเวรทำความสะอาดของพวกเขานี่ เมื่อพวกเพื่อนๆออกกันไปหมดห้องแล้วซองยอลกับซองจงก็พากันยกเก้าอี้ตั้งไว้บนโต๊ะแล้วก็ช่วยกันกวาดพื้นห้องอย่างขะมักเขม้น เพียงไม่นานเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของซองจงก็ดังขึ้น ซองจงหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง ไม่กี่นาทีต่อมาซองจงก็เดินหน้าเศร้ามาหาเพื่อนรักหน้าหวานที่กำลังตั้งใจทำความสะอาดห้อง
``ซองยอล`` ซองจงเอ่ยเรียกร่างบางที่กำลังก้มกวาดพื้น
``หืม มีอะไรเหรอ`` ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามอง
``คือพ่อฉันมารับแล้วอ่ะ ฉันขอโทษนะแกเลยต้องทำเวรคนเดียว`` คำพูดของซองจงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จนซองยอลไม่อยากจะให้เพื่อนต้องเป็นกังวลเลยตอบกลับแล้วยิ้มให้
``โอ๊ย ไม่เป็นไรแกกลับไปเหอะเดี๋ยวแปปเดียวก็เสร็จแล้วล่ะ``ซองจงเห็นเพื่อนส่งยิ้มร่าให้ก็อุ่นใจแล้วจึงรีบคว้ากระเป๋านักเรียนสะพายหลังจึงวิ่งออกไป ส่วนร่างบางที่กวาดพื้นห้องเสร็จก็ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องถูพื้นอีก
``เดี๋ยวไปทิ้งขยะก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปหาไม้ถูพื้น``แล้วร่างบางก็ยกถังขยะไปเทขยะทิ้งแต่พอกลับมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจ เพราะตอนแรกในห้องนี้ยังไม่มีไม้ถูพื้นนี่น่า แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากรู้แค่ว่ารีบๆทำแล้วจะได้รีบกลับบ้าน แต่ขนาดที่กำลังถูกพื้นห้องอยู่ดีๆขายาวๆของเขาก็เข้าไปแตะกับถังน้ำที่ใช้ถูกพื้นเข้า ทำให้น้ำหกกระเด็นกระจายไปทั่วพื้นห้อง
``ซุ่มซ่ามจริงๆเลยเรา`` ร่างบางหน้ามุ่ยทันทีที่ทำน้ำหกกระจาย ก่อนที่จะบ่นโทษขาของตัวเองทั้งๆที่ถูพื้นไว้เรียบร้อยแล้วแท้ๅ แต่ดันทำถังน้ำหกเสียนี่ ว่าแล้วเขาจึงเดินออกไปหาผ้ามาเช็ดน้ำ แล้วเขาก็เดินออกเป็นหามาเช็ดพื้นเมื่อได้ผ้าที่ต้องการเขาก็เดินกลับมาที่ห้อง แล้วนั่นก็สร้างความแปลกใจให้เขา
``เห๊ จำได้ว่าน้ำมันหกไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้มันไม่มีซะแล้วล่ะ`` ร่างบางที่เข้าห้องมาก็ตกใจ เขาจำได้ว่าเขาเป็นคนทำน้ำหกแท้ๆแต่ตอนนี้พื้นห้องกลับแห้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ซองยอลจำได้จริงๆนะว่าเขาทำน้ำหกจริงๆ เขาไม่ใช่พวกความจำสั้นที่จำอะไรไม่ซะหน่อย แต่ก็เอาเถอะเสร็จแล้วก็ดีจะได้รีบกลับบ้านเพราะตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วด้วย
.
.
.
.
.
และวันนี้ก็เป็นอย่างเคยเขาได้รับโพสต์อิทสัญลักษณ์รูปยิ้มที่แปะไว้หน้าประตูห้องอย่างเคย และก็ได้รับนมกับขมปังพร้อมโพสต์อิทเช่นเคย
`วันนี้นายมีเทสย่อย
ขอให้นายโชคดีนะ :-)`
และทุกครั้งบนกระดาษโพสต์อิทมักจะต้องมีสัญลักษณ์หรือไอคอนรูปยิ้มเสมอ แต่ถึงอย่างนั่นเขาก็สงสัยอยู่ดีว่าคนส่งกระดาษโพสต์อิทให้เขาทุกวันเนี่ยเป็นใคร ทำไมถึงรู้เรื่องทุกย่างก้าวของเขา
เขาเป็นใครกันแน่
ขนาดที่ซองยอลกับซองจงเดินไปห้องเรียนตามปกติ เขาก็รับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆสาวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พอเขาหันหลังไปมองก็ไม่เห็นมีอะไร เขาจึงเลือกที่จะเดินต่อ แต่เสียงฝีเท้าข้างหลังก็ยังดังไม่หยุด เขาหันกล้บไปมองอีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเดินตามมา จนซองจงอดที่จะสงสัยพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนไม่ได้
``มีอะไรหรือเปล่าซองยอล``
` `ฉันรู้สึกเหมือนมีคนตามพวกเรามาน่ะ``
``ห๊ะ!! จริงดิ`` เพื่อนหน้าหวานเตรียมจะหันหลังไปดูแต่ก็โดยซองยอลห้ามไว้ก่อน
``เดี๋ยวเราเดินอ้อมไปทางโน้นกัน``
ร่างบางชี้ไปทางด้านหลังอาคารเรียนใกล้ๆ ก่อนที่จะรีบพาเพื่อนของตนเองมาดูว่ามีคนตามพวกเขามาไหม
``จริงๆด้วยสินะ`` ร่างบางกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นคนที่ตามพวกเขากำลังมองหาพวกเขาอยู่
``ฉันเข้าใจหมดแล้วล่ะ`` ร่างบางหันไปพูดกับเพื่อนรักที่ดูเหมือนกับเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
``แล้วแกจะเอาไงอ่ะ`` ร่างบางไม่ได้เอ่ยพูดอะไรทำเพียงแต่ส่งยิ้มให้เพื่อนรักเท่านั้น
ตกเย็นเมื่อเหล่าเพื่อนๆพากันกลับบ้านหมดร่างบางก็ใช้โอกาสนี่แหละเพื่อที่จะได้จับหาคนส่งโพสต์อิทให้เขา เขานั่งลงบนโต๊ะนักเรียนแล้วทำการบ้านไปพลางๆ คุณอยากเห็นอีซองยอลแสดงละครไหมล่ะ เดี๋ยวอีซองยอลคนนี้จะแสดงให้สมบทบาทให้ดู ขณะที่ร่างบางกำลังนั่งทำการบ้าน(?)อยู่เขาก็แกล้งทำเป็นคอแห้งหิวน้ำ
``โอ๊ย หิวน้ำจังเลยถ้าได้น้ำเย็นๆซักขวดก็ดีสินะ`` เขาจงใจพูดให้เสียงดังพอที่เขาคนนั้นจะได้ยิน พูดไปก็เอามือจับลำคอของตัวเอง แล้วอยู่ๆร่างบางก็ลุกขึ้นออกจากห้องไป เขาไม่ได้ไปไหนหรอก เขาก็แค่รอเหยื่อให้ติดกับเท่านั้นเอง แล้วก็เป็นไปตามคาดเขาคนนั้นซิ้อน้ำมาให้ซองยอลจริงๆ เขาจึงรีบลุกไปจากที่ซ้อนแล้วเดินตรงไปยังห้องที่มีเขาคนนั้นอยู่ เมื่อเขาคนนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเข้าเขาก็ถึงกับสะดุ้ง ร่างบางเดินเข้ามาใกล้กับเขาคนนั้นโดยที่เขาคนนั้นยังหันหลังให้ร่างบางอยู่
``ไม่ยักจะรู้ว่านายจะเป็นเด็กส่งของนะคิมมยองซู`` คิมมยองซูชายหนุ่มที่มีใบหล่อเหลามีดวงตาคมเรียวมีเสน่ห์ มีจมูกโด่งเป็นสันและมีริมฝีปากที่เป็นหยักได้รูป ทั้งๆที่มยองซูเป็นคนหน้าตาดีแต่กลับเป็นคนขี้อายซะงั้น มยองซูตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆร่างบางก็รู้จักชื่อของตน เขาไม่รู้จะทำอย่างไงจึงจะเดินออกจากห้องนี้ไปแต่โดนร่างบางทักขัดจังหวะซะก่อน
``เดี๋ยวก่อนสิ`` เขาคนนั้นหรือมยองซูหยุดนิ่งทันที
``หันหน้ามาสิ`` มยองซูค่อยๆหันหน้ามาทางซองยอล ร่างบางยกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะทำสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น
จุ๊บ~
ซองยอลจุ๊บเข้าที่แก้มใสของมยองซู นั่นทำให้มยองซูอึ้งกับอึ้งยืนตัวแข็งทื่อ เขารับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดที่ต้นคอ แล้วร่างบางก็กระซิบที่ข้างหูของเขา
``ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือฉันนะ`` เมื่อพูดเสร็จร่างบางก็รีบเดินเข้าไปเก็บหนังสือบนโต๊ะเรียนใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มยองซูยืนแข็งทื่อเป็นหุ่นขี้ผึ้งในห้อง แต่ก่อนร่างบางจะก้าวเท้าออกจากห้องก็คิดอะไรขึ้นได้ ร่างบางเอ่ยเรียกชื่อเขาทำให้มยองซูต้องหันไปมองพร้อมหยิบอะไรบ้างอย่างในกระเป๋าขึ้นมา
``อ้อมยองซู`` ซองยอลพูดเว้นช่วงไว้ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมา
`` ฉันน่ะอยากให้นายคุยกับฉันตรงๆมากกว่ากระดาษนี่นะ`` เขาพูดพลางชูกระดาษโพสอิทขึ้น แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
ถ้าถามว่าที่ทำไปนั่นอายไหม
ซองยอลตอบตามตรงว่าโคตรจะอาย
แล้วถ้าถามว่าเขารู้จักชื่อของมยองซูได้ไง
ก็พอตอนที่เขารู้ว่าใครเป็นเขาตามเขา เขาก็เลยให้ซองจงตามสืบให้ จนได้รู้ว่าเขาชื่อคิมมยองซูเรียนอยู่ชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง
ถ้านายจะจีบฉันก็กล้าๆหน่อยนะ คิมมยองซู :-)
ความคิดเห็น