ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SPIDER-MAN | #เเมงมุมตายตัวนั้น

    ลำดับตอนที่ #1 : 01 | พี่ครับพี่นั่นแหละ[rw]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.4K
      307
      22 เม.ย. 63

     

     

     

     

     

     

     

    สัปดาห์ที่สองแห่งปีการศึกษาใหม่ของ ควีนส์ ไฮสคูล ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก

    เด็กหนุ่มสาวมากมายกลับสู่รั้วโรงเรียน อาคารที่เคยว่างและฝุ่นจับหลังถูกปล่อยทิ้งไว้ห้าปีเต็มๆกลับมาสะอาดสะอ้าน สนามหญ้าที่เคยเงียบเหงากลับมาเป็นสถานที่รวมพลของนักกีฬาหลายคน ห้องแล็ปที่ถูกทิ้งแห้งกรังไปหลายปีเหมือนห้องเช่าโง่ๆถูกรีโนเวตใหม่เต็มภาคภูมิ แม้แต่ลานจอดรถของไฮสคูลที่เคยว่างจนน่าใจหายเพราะไม่มีใครเข้ามาใช้ ก็กลับมาเต็มไปด้วยรถยนตร์หลายยี่ห้อของอาจารย์ และจักรยานของนักเรียน

    ควีนส์ ไฮสคูล ให้อิสระกับนักเรียนในการเลือกวิชาเมเจอร์และไมน์เนอร์ เวลาเลิกเรียนของเด็กแต่ละเกรดจึงไม่ตายตัว เด็กเกรดสิบสองที่เดิมทีก็จำนวนเท่าไส้แซนวิชของเซเว่นอยู่แล้ว  จึงเป็นที่รู้จักหน้ากันอย่างทั่วถึงทั้งเด็กเก่าและเด็กใหม่

    ในวิชาไมเนอร์ที่ต้องเข้าเลคเชอร์ร่วมกับเอกอื่นเช่นนี้ แน่นอนว่ามีพวกที่ไร้คุณภาพปะปนอยู่ด้วย

    เสียงพูดคุยเฮโลภายในห้องเลคเชอร์ส่งผลให้เด็กตั้งใจเรียนคนสุดท้ายถอนหายใจแล้วตัดสินใจปิดแท็กแบ็คพร้อมเก็บของเดินออกจากประตูห้องซึ่งก่อนหน้านี้มีคนยอมแพ้และเดินออกจากสนามรบเละเทะแห่งนี้ไปแล้วเกือบสิบคน  ตอนที่คนอีกคนเดินตัวลีบออกจากห้อง เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่มักจะทำตัวเด่นดังในโรงเรียนหาจังหวะเล่นงานได้ คนหัวโจกจึงตะโกนว่า

    “ทนไม่ได้ก็ไสหัวออกไป”

    เพื่อนรุ่นเดียวกันไม่มีใครอยากมีปัญหากับ แพ็กซ์ตัน เชิร์ช ซึ่งเป็นลูกชายผู้อำนวยการของไฮสคูล ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่แล้ว คนอื่นๆที่เดิมทีคิดว่าพอทนไหวกลายเป็นเริ่มเก็บข้าวของเตรียมทยอยออกจากฮอลบ้าง ต่อให้ในใจชูนิ้วกลางและสบถฟักยุงใส่มันไปแล้วสิบรอบ ก็ทำได้มากที่สุดแค่เดินก้มหน้างุดๆเรียงแถวกันออกไป

    แพ็กซ์ตันพอใจกับผลลัพธ์ข้อนี้ เขาหัวเราะเสียงดัง

    “ดี ดี ให้มันรู้บ้างว่าที่นี่พวกนายควรฟังใคร ถ้าฉันไม่อยากให้มีวิชานี้ มันก็จะไม่มี ใครมีปัญหา บอกมาได้เลย”

    ใคร ในที่นี้ ก็คือจงใจหมายถึงแจ็คเกอร์ เด็กหนุ่มหน้าหล่ออีกคนที่เก็บของใส่เป้อยู่

    แจ็คเกอร์มีตำแหน่งเป็นประธานนักเรียนชายและเป็นนักเรียนเอกไฟฟ้า ทั้งเรียนดีกิจกรรมเด่น คนเข้าหามาก  ส่วนแพ็กซ์ตันเรียนไม่เก่ง คนอื่นๆในโรงเรียนถ้าไม่จำเป็นต้องเอาใจเขาก็หลีกเลี่ยง แต่ไหนแต่ไรมาเลยไม่เคยชอบหน้าเพื่อนคนนี้ ทว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามีโอกาสได้เหยียบไอ้ระยำนี่จึงคึกคะนองจัด รีบหาเรื่องเขาต่อ

    แจ็คเกอร์ไม่อยากมีปัญหากับสวะเดินได้ตัวนี้เช่นกัน เขาปิดกระเป๋าเป้แล้วพูดกับเพื่อนสาวที่ลงไมน์เนอร์ตัวนี้แต่ดันกลายเป็นวิชาถูกพังยับไม่เป็นท่าด้วยเสียงไม่ดังไม่เบา

    “ไปกัน”

    เด็กสาวไม่หือไม่อือ เก็บของแล้วลุกขึ้นเดินตามแจ็คเกอร์ออกไปทางประตู

    หนนี้แพ็กซ์ตันยั่วโมโหคนไม่สำเร็จ แต่เด็กสาวแปลกหน้าที่มากับแจ็คเกอร์มองจากเสี้ยวหน้าด้านข้างนับว่าสวยมาก ต่อให้มีรังสีสังหารแผ่รอบตัวตลอดเวลาก็ดูออกว่าชั้นสูงพอสมควร เขาผิวปากเสียงสูง

    “แกเลิกกับเมียเก่าแกแล้วเหรอ คนนี้แจ่มนี่หว่า”

    เพื่อนของเขากระหน่ำช่วยแซวเป็นลูกคู่เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

    แจ็คเกอร์เหงื่อตก กัดฟันพูดเสียงเบา

    “คุณเวย์น กูอาราธนาครับ ไปกันเถอะ นะ นะ”

    “เฮ้ย รีบเหรอ จะรีบไปไหน มีเด็กใหม่ก็ไม่พามารู้จักกันเลยนะ เอ...ฉันว่าฉันเคยเห็นหน้าเธอ ชื่ออะไรน่ะ ขอเบอร์ได้เปล่า”

    ถึงตรงนี้ เด็กสาวชะงักเท้าแล้ว

    แพ็กซ์ตันเห็นคนคู่นี้เงียบไป จึงเรียกซ้ำว่า “ฉันถามเธอ นังบ้า หูหนวกเหรอ ชื่ออะไร หันมาตอบกันก่อนไปสิ หรืออยากไปตอบที่ห้องนอนฉัน”

    ไหนๆก็ไหนๆ ถ้าต้องปะทะขึ้นมาจริงๆสถานการณ์แม่งก็คงไม่เชี่ยไปกว่านี้อีกแล้ว แจ็คเกอร์จึงไม่พยายามห้ามเพื่อนสาวอีก พวกสวะหัวเราะลั่นอย่างถูกอกถูกใจกับคำพูดหมาๆของท่านหัวโจก

    แพ็กซ์ตันเลิกคิ้ว “พวกแกสองคนกวนตีนฉันเหรอ จะรีบไปสมสู่กันที่ไหน ตอบคำถามที่เพื่อนร่วมรุ่นถามนี่มันยากมากหรือไง”

    แจ็คเกอร์ขมวดคิ้ว “พอแล้วน่า อย่ามายุ่งได้ไหม”

     “โถ่ ไม่มีคำด่าที่แรงกว่านี้เหรอ ไม่เจ็บครับท่านประธาน”

     

    “ตีนกูไหมจะได้เจ็บ”

     

    เดิมที พวกเด็กหนุ่มนักก่อกวนยังสรวลเสเฮฮากันรื่นเริงราวกับโด้ฟกัญชามาหลายถุง นกไม่ถึงว่าจะเจอคำผรุสวาทที่รับไม่ได้ประเภทนี้สาดใส่หน้า เสียงหัวเราะจึงพลันเงียบกริบลงทันทีราวกับเสียงเห่าหอนเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น เด็กสาวหันหน้ากลับมา  ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะตอบอะไรจึงแค่นเสียงเยาะ

    “มองหน้าหาพ่อง  ถ้างั้นลองเรียกพ่อสิ”

    รังสีสังหารตอนนี้เข้มข้นมาก ชนิดที่ว่าต่อให้อีกสิบแพ็กซ์ตันก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอ้าปากค้างเหมือนศพแข็งไปแล้ว ประการแรก น้ำเสียงดวงตาดุดัน คุณลักษณะทุกถ้อยคำแฝงพลังสังหารมหาศาล

    ประการที่สอง...คนพูดคือ เบนเล่ เวย์น

    แจ็คเกอร์เอามือคลึงขมับ “โชคดีนะ”

    “ไม่ต้องไปอวยพรไอ้ห่าพวกนี้หรอก จะว่าไปคนที่ธานอสอยากทำให้หายหัวจากโลกไปซะก็น่าจะอย่างพวกมันนี่ล่ะ คุกคามคนอื่นเก่งดีนัก ก่อนขอเบอร์คนลองเป็นคนให้ได้ก่อนไหม ลูกคู่นายก็เหมือนกัน บ้านไม่มีอันจะแดกหรือใต้สะพานลอยไม่แข็งแรงพอหลบฝนถึงต้องเลียตีนมันขนาดนี้ ช่องทางการหาเงินสุดท้ายแล้วงั้นสิ ขายได้แม้แต่ความเป็นคนขนาดนี้ไม่ลองเป็นขอทานล่ะ อยากเกาะไอ้เวรนี่กินฉันไม่ว่า แล้วก็จะไม่ยุ่ง แต่เกาะแล้วกระทบกันแบบนี้ก็ขอด่าหน่อยเถอะ”

    แพ็กซ์ตันทุบโต๊ะหนึ่งกำปั้น “หุบปาก!

    เธอเตะประตู “ไม่หุบแล้วจะทำไม มันทำไมนักวะ ถ้าพวกแกพูดทุเรศๆแบบนี้กับฉันอีก หนหน้าอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ฉันไม่ใช่คนที่จะรอให้เรื่องถึงมือพ่อแม่พวกแกแน่นอน ไม่ต้องหวังว่าจะมีใครช่วยแกได้ล่ะ รับผิดชอบการกระทำของตัวเองซะ เศษเดน ทำได้มากสุดก็แค่พ่นคำพูดสั่วๆไปเรื่อย อาศัยว่าตัวเองเป็นลูกผู้อำนวยการแล้วฉันจะกลัว?”

    เบนเล่เอื้อมมือหนึ่งคว้าตัวแจ็คเกอร์ อีกมือกระชากประตูเปิดออก

    “อนาคตถ้าจะมีลูกน่ะ อย่าเลยนะ คนแบบพวกนายควรเห็นความสำคัญของถุงยางมากกว่านี้  กลับบ้านไปบอกพ่อแม่ว่าถ้าไม่พร้อมจะอบรมให้เป็นคนจริงๆก็ไม่ได้คลอดตัวอะไรออกมาคุกคามคนอื่น ฉันไม่อยากเห็นสวะแบบนี้มากไปกว่านาย นาย นาย นาย แล้วก็นายเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว”

    ไม่รู้ว่าเพิ่งนึกคำใหม่ออกหรือเปล่าจึงเยี่ยมหน้ากลับเข้ามาให้ห้องอีกครั้ง มองเด็กหนุ่มที่คล้ายถูกจับฟรีซไปแล้วเรียงตัว พูดกับตัวเองแบบจงใจให้ยี่สิบคนที่เหลือได้ยิน

    “ขยะแขยงฉิบหาย”

    จากนั้นกระแทกประตูปิดดังปัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เบนเล่ เวย์น เกลียดนิวยอร์ค

    เบนเล่ เวย์น เกลียดสถานะของตัวเองที่ถูกถอดถอนออกจากคำว่า นักเล่นหุ้นมาเป็น นักเรียน

    ที่สำคัญ เบนเล่ เวย์น เกลียดการเป็นเด็กไฮสคูล 

    แต่ไหนแต่ไรมา เธอเทียบวุฒิการศึกษาไม่เคยยอมอยู่ในกรอบของการเป็นนักเรียนของใครอยู่แล้ว หลังจากคลุกคลีอยู่กับวงการที่เงินสะพรัดวันละสิบล้านและก่อร่างสร้างตัวได้ชีวิตโรยด้วยกลับกุหลาบแล้วปูพรมด้วยทองคำมาตลอด จนกระทั่งหลายเดือนก่อนทำหุ้นส่วนของตระกูลเวย์นที่ถือกับเครือบริษัทแห่งหนึ่งร่วงลงเหวเพราะถูกตลบหลังตอนไม่ทันตั้งตัว

    ด้วยเหตุนี้ บรู๊ซ เวย์น แบทแมนผู้โด่งดังที่เป็นผู้ปกครองในนามของเธอจึงลงทัณฑ์บนให้กระทงหนึ่ง กล่าวคือส่งไปดัดสันดานสักปี ห่างไกลคาสิโน ห่างไกลยาเสพติด ห่างไกลวงการวางอำนาจบาตรใหญ่เพื่อไม่ให้เสียผู้เสียคน  

    การได้มาอยู่ที่ควีนส์ เรียกได้ว่าเธอหลับตาจิ้มด้วยซ้ำ โทษความชุ่ยของตัวเองก็ส่วนหนึ่ง แต่ยอมรับความผิดแล้วยอมอยู่แบบ ติดดิน ตามทัณฑ์บน...ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    การเข้ามาใช้ชีวิตในรั้วไฮสคูลเล่นๆให้ผ่านไปสักปีแล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้เลวร้ายนัก อย่างน้อยก็ยังอยู่ในระดับที่พอจะทำใจยอมรับได้ นับว่ายังมีคนที่คบได้อยู่ เป็นต้นว่าแจ็คเกอร์ที่เป็นคนมีน้ำใจและกวนตีนเป็นบางครั้ง ด้วยนิสัยใจคอจึงคบหากันได้ไม่เลว  ส่วนเด็กสาวหน้าสวยอีกคนที่ยุรยาตรอยู่ข้างๆ ณ ตอนนี้ คือแฟนสาวของแจ็คเกอร์ เป็นลูกสาวนักธุรกิจระดับช้างไม่แพ้กัน  พวกเขาจึงไม่น่าเบื่อสำหรับเบนเล่ ไม่นานก็คบเป็นเพื่อนได้อย่างสนิทใจ

    สิ้นสุดการบรรยาย กลับสู่สถานการณ์ปัจจุบัน

    “ถามจริง เธอฉะกับลูกชายผู้อำนวยการ?”

    “ฉันจะโกหกเธอทำไมที่รัก ฉันห้ามแล้ว พวกมันไม่ฟัง คุณเวย์นก็ไม่ฟัง สงครามจะเกิดทั้งทีห้ามได้ที่ไหน”

    เจนนี่ โจนส์ สูดปากแล้วเข้าไปกอดแขนข้างหนึ่งของเบนเล่พร้อมซบหัวลงกับไหล่เพื่อนสาว เด็กหนุ่มสาวสามคนเดินไปลานจอดรถด้วยกันด้วยบรรยากาศราวกับเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เบนเล่ที่ด่าไปแบบสาดเสียเทเสียเต็มพิกัดก็ใจเย็นลงง่ายมาก คนที่ดูร้อนใจจึงกลายเป็นแจ็คเกอร์ที่อยู่ไม่สุขมาตั้งแต่ระฆังล้มมวยเคาะ

    “ไอ้เวรนั่นก็จริงๆเลย ไม่น่าถูกบลิ๊บกลับมาสักนิด น่าจะปล่อยให้ตายๆไป ดูเบนเล่ของฉันสิ ขวัญเอ๊ยขวัญมา”

    “พอดีเกิดไม่ทันคำนี้”

    “นี่! ฉันด่ามันอยู่นะ แกควรจะเดือดร้อนสักหน่อย คุณเวย์น”

    เบนเล่ยักไหล่ “ฉันจะเดือดร้อนทำไม แกเพิ่งเคยเจอคนแบบนี้หรือไงคุณโจนส์ เรื่องแบบนี้รอให้ใครมาจัดการได้ที่ไหน”

    “อืม...ก็จริง”

    แจ็คเกอร์แย้ง “ฉันตกใจแทบตายตอนเบนเล่หันกลับไปมองหน้าพวกนั้น โคตรน่ากลัว!

    “น่ากลัวบ้าบออะไร ออกจะเป็นธรรมชาติ”

    เด็กหนุ่มแค่นหันเราะ “ระวังธรรมชาติลงโทษ ฉันไปนะ ขับรถดีๆคุณเวย์น”

    “ถึงบ้านแล้วบอกด้วย”

    เบนเล่ทำท่าตะเบ๊ะให้เขาขณะกดกุญแจ BMW Series7 ปลดล็อครถ เจนนี โจนส์ เลิกเกาะแกะแขนเธอ โบกมือให้แล้วแยกย้ายกัน

    สองสัปดาห์แล้วที่เบนเล่เข้ามาในควีนส์

     เด็กสาวไม่ชินกับการอยู่ในฐานะคนธรรมดา ไม่ชินกับการที่ไม่ได้เข้าคาสิโน ไม่ชินกับการไม่ได้บริหารคน ไม่ชินกับการขาดสีสันในชีวิต เบนเล่คิดถึงเงินสะพัดวันละล้านดอลล่าร์จะแย่แล้ว! ขณะที่กำลังตบตีกับความคิดของตัวเองไปด้วยขับรถกลับที่พักไปด้วย มีสายเรียกเข้าจากหนึ่งในเด็กที่บรู๊ซ เวย์น รับมาอุปการะแล้วเลี้ยงรวมกันจนสนิทเป็นพี่เป็นน้อง พูดหยาบๆก็คือโตมาด้วยกันจนรู้สันดาน

    เธอกดรับสาย “ข้อดีเดียวของการถูกเตะออกจากบ้านคอไม่ต้องเจอหน้าคนอย่างแก”

    เก็บไว้พูดกับตัวเองไหมคุณบุ้ง

    “โทรมามีอะไร รีบๆพูด ขับรถอยู่”

    เสียงของเฟอร์รารี เวย์น จากปลายสายตอบกลั้วหัวเราะ คุณชายเวย์นถามมาว่า ไสหัวไปอยู่ควีนส์ เจอสไปเดอร์แมนบ้างหรือยัง

    เบนเล่เหยียบเบรก ทั้งรถทั้งสมองชะงักคิดไปครู่หนึ่ง

    สไปเดอร์แมน เพื่อนบ้านที่แสนดีเป็นขวัญใจมวลมหาประชาชนในโลกยุคนี้ สมาชิกชื่อดังจากเหล่าอเวนเจอร์สที่ไม่เปิดหน้า ไม่ระบุตัวตน ใช้ชีวิตลับๆแต่ปิดไม่มิด สุดท้ายจึงมีข้อมูลเถื่อนบอกว่าเขาอยู่ในเขตุควีนส์

    เบนเล่ขอใช้คำว่า ย้ายมาอยู่สักพักแล้วก็ยังไม่เจอเขาจริงๆ ความเป็นจริงก็คือตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เธอเบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ หายใจทิ้งๆไปก็หมดวัน มีเวลาไปสนใจเจ้าถิ่นวงการเดียวกันที่ไหน

    “ไม่เจอ”

    อืม...มีอะไรก็บอกทางนี้บ้าง งอนเป็นตูดเลย แบทแมนจะน้อยใจแล้ว

    “แกเป็นหมอไม่ใช่เหรอ ทำไมโง่ล่ะ”

    ลองเป็นมัน ถูกไล่ออกจากบ้านเหมือนหมูเหมือนหมาเพราะทำหุ้นร่วงแถมถูกกีดกันไม่ให้อยู่เขตุของตัวเอง ไสหัวมาอยู่ในชายแดนเช่นนี้ อยากรู้ว่ายังจะหัวเราะออกอยู่หรือเปล่าไม่ทราบ

    “เดี๋ยวฉันอยากคุยกับเขาก็คุยเอง ไม่ต้องเร่งเลย”

    บ่อบุ้งอีควาย

    Please call me Bentley,bitch” เบนเล่กดตัดสาย

    ไอ้แมงมุม งั้นหรือ ...น่าเบื่อ ฮีโร่บ้าอะไร ใส่เกราะของคุณสตาร์คอยู่เห็นๆ มีอะไรเป็นของตัวเองบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ บังอาจเคลมว่าเป็นฮีโร่ของรัฐได้ยังไง

     

    ทว่ายังนินทาฮีโร่ต่างค่ายไม่ทันไร แรงกระชากเหมือนคลื่นกระแทกสักลูกก็ซัดหัวเบนเล่คะมำเกือบชนพวงมาลัย  ทั้งถนนพลันมีเสียงแตรดังระงมลั่นเส้น

     

    เด็กสาวไม่ได้เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์ฉุกละหุกหรือหัวคะเมนเป็นครั้งแรก ทว่าแรงเหวี่ยงเมื่อครู่ทำให้มึนเห็นดาว ภาพที่เห็นแตกละเอียดเป็นภาพโมเสกไปครู่หนึ่ง ยังไม่ทันเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ดวงตาแข็งค้างมองตรงปรับโฟกัสเห็นภาพหลังกระจกรถเต็มสองตา

    เบนเล่พึ่งได้สติกลับมา อุทานในใจว่า เชี่ยแล้ว

    สไปเดอร์แมน ตัวเป็นๆ ยิงไวนิลโหนลงจากตึกโฉบรถบรรทุกแก๊สเหวี่ยงให้กลับมาตั้งตรงไม่เอียงกะเท่เร่เหมือนก่อนหน้าต่อหน้าต่อตา!

    รถทั้งถนนเบรกเอี๊ยดจนออกันอยู่แน่นก่อนไฟแดงราวกับปลากระป๋อง BMW ลูกรักไม่ถูกชนหรือกระแทกสิ่งอื่น เบนเล่โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ทว่าตกใจยิ่งกว่าที่เห็นไอ้แมงมุมจ๊ะเอ๋กลางวันแสกๆแบบนี้

    เธอได้ยินเสียงตัวเองพึมพำ “โอ้ว...ชิท”

    ที่ด่าไปก่อนหน้านี้ก็ส่วนด่า ทว่าเมื่ออยู่ๆมาให้เห็นของจริงกับตาแล้ว เพื่อนบ้านที่แสนดีเป็นฉายาที่ตะมุตะมิ ไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย ในเมื่อการเคลื่อนไหวอำมหิตเป็นหนังคนละม้วน

    จังหวะการยิงไวนิล การเคลื่อนไหว องค์ความรู้เรื่องโครงสร้าง ทุกอย่างเหมือนเป็นเบอร์ชั้นต้น ทว่าเร็วมากจริงๆ

    เทียบกับ เดเมียน เวย์น หรือว่า ดิค เกรย์สัน ที่เบนเล่เคยแซวว่าตอนเด็กๆแม่ให้แดกจรวดเป็นอาหารแล้ว สไปเดอร์แมนคนเดียวนับว่ากินขาด

    แหกกฎฟิสิกส์ทุกข้อ แต่การ movement สมบูรณ์แบบฉิบหาย

    ไม่ถึงหนึ่งนาที รถบรรทุกที่เกือบคว่ำก็กลับมาตั้งตรงบนถนนอย่างปลอดภัยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนทั้งถนนสายนั้นปรบมือส่งเสียงเฮลั่นให้เขาอย่างชื่นชม สไปเดอร์แมนเคาะกระจกถามคนขับรถบรรทุก แล้วยิงใยออกมาจากตรงนั้น ถ้าเข้าใจไม่ผิดเหมือนจะโบกมือทักทายประชาชนก่อนโหนตัวเองกลับขึ้นไปเหนือตึกสักหลังด้วย

    เมื่อสถานการณ์กลับมาสงบ เบนเล่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ค่อยดีแทนที่จะชื่นชม อาจเป็นเพราะพอต้องมาเห็นกับตาว่ายุคนี้เป็นของอเวนเจอร์ส เด็กเวย์นอย่างเธอก็อดจะอิจฉาไม่ได้

    เบนเล่สะบัดหัว เปลี่ยนเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกจากตรงนั้น การได้เห็นเขากู้ภัยครั้งแรก จะดีจะเลวก็ทำให้นึกถึงโรบิน

     

     

     

     

     

    ซึ่ง...การที่ฉันไม่เงยหน้าขึ้นไปมองไอ้แมงมุมที่เกาะอยู่ข้างอาคารข้างๆในวันนั้น

    ทำให้ฉันไม่รู้เลยว่า

     

     

    ....เขามองเห็นฉัน

     

     

     

     

     

     

     

     

    Ps.ไม่ใช่วิญญาณนะคะ เห็นคนทักว่าห้ะนางเอกเป็นผีเหรอแล้วจะร้อง55555555555

    เวอร์ชั่นเก่า ไว้จะรวมเป็น pdf. แปะไว้ให้ในทวิตสำหรับคนที่อยากอ่านนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×