คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฉันคือ?
บทที่ 2 ฉันคือ ?
หลังจากที่ฉันตื่นขึ้นมา ฉันก็รู้สึกมึนหัวแล้ว ก็ปวดหัวไปหมด เสียงของใครกำลังโต้เถียงอะไรกันสักอย่าง จนมีคนเดินเข้ามาให้ห้องที่ฉันอยู่
‘พวกเขาเป็นใคร?’ มันอาจจะดูบ้าๆที่ฉันจำคนพวกนี้ไม่ได้ ก็จริงนินา ฉันจำพวกเขาไม่ได้ จู่ๆคนที่มีลักษณะเหมือนหมอเหมือนหมอก็เอ่ยถามชื่อฉัน แต่ว่า ทำไมคำถามง่ายๆ ฉันกลับตอบเขาไม่ได้? หลังจากได้ยินคำถามฉันก็คิดถึงชื่อตัวเองแต่ก็คิดไม่ออก ปวดหัวมาก ขึ้นจนทนไม่ไหว แล้วก็สลบไปตอนไหนก็ไม่รู้
และหลังจากที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง
“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ? คนดี”เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแล้วเป็นชาวต่างชาติ มีร่องรอยของรอยย่นที่ พอมองก็ทราบได้เลยว่ามีอายุมาพอสมควร แต่เธอกลับยิ้มอ่อนโยนให้กับฉันอย่างประหลาด
“ค่ะ” ฉันเพียงแต่เอ่ยถ้อยคำบ้างคำออกไป ก็ฉันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรนินา
“ต่อจากนี้เราคือ ครอบครัวเดียวกันแล้วนะ” หล่อนพูดกับฉันอีก
“เอ๊ะ?” เธอเป็นใคร ทำไหมถึงพูดกับฉันแบบนี้?
“พวกเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง ไมร่า เขาคือพ่อแม่บุญธรรมของเธอ” เสียงของคนที่อ้างว่ารู้จักเธอเอ่ยขึ้น
“พ่อแม่บุญธรรม?” ก็คือเขาจะรับฉันไปดูแลงั้นสิ? แล้วพ่อแม่จริงๆของฉันล่ะ?
เหมือนพวกเขาอ่านใจเธอออก คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่รู้จักเธอจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ ฉันจะเล่าทุกอย่างให้เธอฟังเอง....”
“พ่อของไมร่าเป็นวิศวกร ส่วนแม่ของไมร่าก็เป็นนักวิจัย ทั้งคู่ทำงานที่ออสเตเรีย โดยจะแวะมาหา เบลีย์ที่เป็นพี่สาวของไมร่า กับไมร่าทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง แต่เมื่อ เดือนก่อนเครื่องบินที่พ่อกับแม่ของไมร่า ที่กำลังเดินทางกลับออสเตเรียเกิดขัดข้องและตกลงก่อนจะถึงพื้น จากเหตุการณ์นั้นเป็นข่าวไปทั่วโลก เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่มีผู้รอดชีวิตเลยสักคนเดี่ยว มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เบลีย์ที่เป็นพี่สาวของไมร่าพยายามปิดเรื่องนี้ไว้ เพราะช่วงนั้นไมร่ากำลังสอบปลายปีอยู่ แต่ในที่สุดหลังการสอบวันสุดท้าย ไมร่าโทรไปหาพ่อกับแม่ วันนั้น ไมร่าก็ได้รู้ความจริงที่ว่า พ่อกับแม่ ไม่สามารถกลับมาหาเธอได้อีก ไมร่าเสียใจมาก ถึงมากที่สุด และ 2-3 วันต่อมาเบลีย์จะต้องไปยืนยันศพของพ่อกับแม่ที่ออสเตเรีย แม้เบลีย์จะรู้อยู่อย่างเต็มอกว่าพ่อกับแม่จะไม่สามารถกลับมาได้แล้ว แต่เธอก็ยังเสียใจมาก วันนั้นเบลีย์กำลังจะขับรถไปที่สนามบิน ไมร่าจึงขอไปส่งเบลีย์ที่สนามบินด้วย ขณะที่รถกำลังวิ่งไปถึงช่วงโทลเวย์ จู่ๆรถกลับหักโค้งตีออกนอกถนน รถเสียหลักพลิกคว่ำ เบลีย์เสียชีวิตทันที ส่วนไมร่า ตอนนี้ไมร่าไม่มีญาติเหลือเลย การที่จะอยู่โดยที่ไม่มีผู้ปกครองจะต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเท่านั้น นี้คือกฎของประเทศกอนวานา และหลังจากที่มีคนมาหาลูกบุญธรรม เขาก็เลือกที่จะรับเธอไปเลี้ยงดู เธอจะตกลงไหม? ว่าไงไมร่า?” หลังจากที่เขาเล่าเรื่องของฉัน ให้ฉันฟังจบ เขาก็เอ่ยคำถามๆฉัน แล้วจ้องมองมาที่ฉัน ราวกลับภาวนาให้ฉันตอบตกลง
“เธอคงกำลังตัดสินใจ อย่าเพิ่งเร่งรัดกับเขาเลยครับ” เสียงของพ่อบุญธรรมเอ่ยขึ้น
แต่ทุกคนกลับหันตาแล้วมองมาที่ฉัน
“ค่ะ หนูจะเป็นลูกของพวกเขา” ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจ็บปวดที่พ่อกับแม่ที่แท้จริงฉันตายไป แต่ฉันน่ะเชื่อว่าพวกเขาคงอยากให้ฉันมีชีวิตต่อไป ทั้งพ่อ แม่ แม้แต่เบลีย์ก็คงด้วย
หลังจากที่ฉันตอบตกลงไป ทุกคนยังมองมาที่ฉันพร้อมอาการตกตะลึง
“ป๊ากับม๊า กลัวมากเลยนะว่า หนูจะรับไม่ได้ ทั้งเรื่องอดีตแล้วก็จู่ๆ ป๊ากับม๊าจะมาเป็นพ่อแม่ของหนู”
คนที่เป็นแม่บุญธรรมของไมร่าเอ่ยขึ้น ใช่ทุกคนก็เห็นด้วยแบบนั้น ทุกคนคิดว่าเธอต้องโวยวาย กรีดร้องเสียใจ ที่ชีวิตของเธอจะต้องเจอเรื่องเหลวร้ายเช่นนั้น
“ถึงหนูจะจำอะไรไม่ไม่ แต่หนูเชื่อว่าพวกเขาคงอยากให้หนูมีชีวิตที่ดี และคงอยากจะให้หนูมีความสุข”
ไมร่าพูดออกมาด้วยความจริงใจ เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอแต่ยังไงเธอก็ยังเสียใจอยู่ดี
“ไมร่า ต่อไปม๊ากับป๊าจะ เรียกไมร่าว่า เซิน นะนี้คือชีวิตใหม่ของเซินนะลูก”
แม่บุญธรรมของไมร่าพูดจบ ก็เดินเข้ามาโอบกอดเธอด้วยกับอ่อนโยน นี้เป็นการกอดครั้งแรกในชีวิตใหม่ที่เธอได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า
ความคิดเห็น