ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : CHAP.8
Story: Beastly
Chapter:08
Status : Long fiction
Pairing : Khunwoo
Type : Drama
Note : ตอนท้ายให้นึกถึงพี่คิมตอนเล่นเพลงsuddenly นะจ๊ะ เพลงนั้นแหละที่พี่แทคได้ยิน
Chapter 8 Prove
ชานซองมองตามแผ่นหลังของพี่ชายที่เดินควงอูยองเข้าไปในงาน เขาหลุดถอนใจออกมาอย่างลืมตัว เขาดีใจที่พี่ชายของเขาจะได้มีความสุขสมกับที่รอคอยมา แม้บางทีชานซองจะไม่ค่อยเชื่อในความรักเท่าไหร่ เขาไม่เชื่อว่าคนๆหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมานานจะยังคงรักมั่นในคนๆเดียวได้อย่างนั้นหรือ เขาเป็นนายแพทย์สิ่งที่เขาเชื่อคือวิทยาศาสตร์ สิ่งใดที่วิทยาศาสตร์ไม่มีข้อพิสูจน์ชานซองนั้นก็คงจะปักใจเชื่อได้ยาก เขาเหลือบตามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาที่เล็กเป็นขีดเดียวตอนที่เขายิ้มให้เพื่อนที่เดินไปกับพี่ชายของเขา ผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าหวานใสแม้มองในความมืดกลับดูน่ารักอย่างน่าประหลาด ชานซองเผลอจ้องคนข้างๆอย่างลืมตัว จนอีจุนโฮรู้สึกได้ดวงตารีจึงมองค้อนเข้าใส่คุณหมอหนุ่มที่ไร้มารยาท
“มองอะไร” ถามเสียงห้วน จุนโฮเป็นคนที่ไม่ชอบคนไร้มารยาท อาจเป็นเพราะว่าเขาถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่อยู่ในตระกูลใหญ่จึงทำให้เขาติดนิสัยเจ้าระเบียบ และเขาเกลียดที่สุดคือการถูกจ้องหน้าโดยปราศจากสาเหตุ
“เปล่า”
“ก็เห็นอยู่ว่ามอง ยังจะมาโกหกอีก” จุนโฮจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจ อะไรกันหมอนี่ คนเขาเห็นอยู่ว่าจ้องยังจะมาบอกปัดอีกไร้มารยาทสิ้นดี
“ถ้าคุณเห็นว่าผมมอง งั้นคุณก็กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน” ชานซองไม่ยอมแพ้ ท่าทางไม่พอใจและต้องการจะเอาชนะอย่างจุนโฮดูน่าขันในสายตาของชานซองนัก
“ใคร? ใครมองนาย? หน้าตาก็งั้นๆคิดว่าฉันจะชายตามองหรือยังไง ไม่มีทาง” จุนโฮเบ้หน้าไปทางอื่นพลางกอดอก เขาเกลียดคนที่มาต่อล้อต่อเถียงกับเขาที่สุด และเขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
“แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าผมมอง ถ้าคุณไม่ได้มองผม หืม?” ชานซองยื่นหน้าเข้าไปใกล้แก้มของจุนโฮจนเจ้าตัวตกใจจนต้องผละหนี
“ไอ้โรคจิตอย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ออกไปห่างๆเลย” จุนโฮพลักออกชานซองให้ออกห่างตัว แต่นอกจากชานซองจะกระเด็นไปไม่ถึงห้าเซ็นแล้ว มือหนายังมาคว้าแขนจุนโฮให้ไปคล้องแขนตัวเอง
“ปล่อยฉันนะ” จุนโฮพยายามแกะมือชานซองที่จับแขนเขาไว้ แต่แกะยังไงก็แกะไม่ออกจนเจ้าตัวต้องยอมแพ้
“ทีนี้จะเดินไปที่โต๊ะได้หรือยัง ฉันหิวข้าวแล้วนะ” ชานซองยื่นหน้าเข้ามาใกล้จุนโฮอีกครั้งจนจุนโฮทนไม่ได้จึงลากชานซองเพื่อจะเดินไปที่โต๊ะที่ทุกคนรออยู่
ฝากไว้ก่อนเถอะ
.
.
.
.
บริกรนำอาหารเรียกน้ำย่อยมาเสริฟ ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย แทคยอนและนิชคุณนั้นพยายามถามไถ่เรื่องราวของอีกฝ่ายและทำความรู้จักในฐานะเพื่อนร่วมงานไปในตัว เจสสิก้ามองนิชคุณที่คุยกับคู่หมั้นของตน จะว่าไปทั้งลักษณะคำพูด ดูท่าว่านิชคุณจะเป็นคนที่ฉลาดรอบรู้ กริยามารยาทก็บ่งบอกว่าเป็นคนมีตระกูล เจสสิก้าผุดยิ้มร้าย นับว่าโชคดีที่เธอกับแทคยอนยังไม่ได้แต่งงานกัน นิชคุณก็ดูเป็นตัวเลือกที่ดูน่าสนใจไม่น้อย ถ้าหากว่านิชคุณมีใจให้กับเธอล่ะก็ เธอก็พร้อมที่จะถอดแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอทิ้งทันที
“คุณอูยองอายุเท่าไรแล้วครับ” นิชคุณหันไปถามคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้างุดๆกินซุปในชาม ใบหน้าหวานแหงนขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความฉงน นิชคุณควรจะต้องพูดคุยกับพี่ชายของสิ มาคุยกับเขาทำไมกัน เขาแค่มานั่งเป็นไม้ประดับในงานเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่นิชคุณจะต้องจะรู้จักเขา
“24 ปีครับ” ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่อูยองก็ไม่อยากเสียมารยาทกับหุ้นส่วนของพี่ชาย
“คุณอูยองเด็กกว่าผมแค่2ปีเองนี่ครับ แต่หน้าเด็กจนผมคิดว่าเป็นเด็กมัธยมปลาย” อูยองหน้ามุ่ยทันที สิ่งที่เขาเกลียดคือการที่คนอื่นบอกว่าเขาหน้าเหมือนเด็ก เขาไม่ชอบ ฝ่ายนิชคุณนั้นรู้ดีว่าอูยองไม่ชอบ แต่ก็อยากจะแกล้งเล่นให้อีกฝ่ายหน้ามุ่ยดูเท่านั้นและมันก้ได้ผล
“งั้นนิชคุณก็อายุเท่ากับผมน่ะสิ งั้นเราคงจะสนิทกันได้ง่ายทีเดียวล่ะ” แทคยอนยิ้มกว้าง นิชคุณดูท่าว่าจะอัธยาศัยดีและดูท่าว่าจะไม่มีพิษภัย เขาคงจะเบาใจที่จะให้มาร่วมบริหารงานด้วย
“งั้นคุณอูยองคงต้องเรียกผมว่าพี่ชายเหมือนที่เรียกแทคยอนล่ะมั้ง ใช่ไหมครับคุณอูยอง” นิชคุณหันไปถามอูยองที่นั่งจ้องหน้าเขานิ่ง
“ผมมีพี่ชายคนเดียวคือพี่แทคยอน ถ้าเป็นคนอื่นผมคงทำใจเรียกไม่ลง” อูยองเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว คนตรงหน้าพูดจายียวนชวนให้เขาโมโห แต่ยังนับว่านิชคุณโชคดีที่อูยองยังพอจะมีความอดทนหลงเหลืออยู่บ้าง
“อูยองอ่า” แทคยอนปรามน้องเมื่อเห็นว่าอูยองแสดงท่าทางไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไรครับ คุณอูยองยังเด็กเลยแสดงท่าทางออกมาอย่างชัดเจน ผมไม่ถือ” อูยองค้อนใส่นิชคุณวงเบ่อเร่อ เขาชักจะไม่ชอบใจคนตรงหน้าแล้วจริงๆนะ ทำตัวราวกับว่าสนิทสนมกับเขามาแต่ชาติปางก่อนทั้งๆที่รู้จักกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ แถมยังจะให้เขาเรียกว่าพี่ชายอีก เมินซะเถอะ
“ดีแล้วครับ เพราะผมคงจะปฏิบัติตัวอย่างนี้กับคุณ ผมจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะทำ” เมินหน้าหนี ก่อนจะชวนจุนโฮไปเข้าห้องน้ำ นิชคุณหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำกริยาขุ่นเคืองเขาออกมา อูยองก็ยังเป็นอูยองคนเดิมแสนงอน พอสู้ไม่ได้ก็เดินหนี อูยองคนเดิมที่เขารัก
“ผมขอโทษแทนน้องชายผมด้วยครับ”
“ไม่ต้องหรอกครับ เป็นอย่างนี้ก็น่ารักดี” นิชคุณยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานที่บิรกรเพิ่งเอามาเสริฟเมื่อสักครู่
เจสสิก้ามองนิชคุณนิ่ง ดูท่าว่าคงจะไม่ง่ายแล้วล่ะ สายตาที่นิชคุณมองอูยอง มันดูเหมือนเวลาที่แทคยอนมองเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงหาอาทร มัน...บอกไม่ถูก เป็นไปไม่ได้ที่คนเราเจอกันไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำจะทอดมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักขนาดนั้น สองคนนี้....
“เจส”
“ค่ะ?” เจสสิก้าหันกลับไปมองคนข้างกาย แทคยอนเอ่ยเรียกเธออย่างสุภาพ
“คิดอะไรอยู่ หืม?”
“เปล่าค่ะ”
“เบื่อเหรอ อีกเดี๋ยวก็จะจบงานแล้วล่ะ อดทนหน่อยนะ”
“ค่ะ”
เจสสิก้าจิบไวน์ในแก้วตรงหน้า เธอกำลังคิด เธอจะต้องทำให้นิชคุณหลงเสน่ห์เธอให้ได้ หลังจากนั้นเธอก็จะถอนหมั้นแทคยอน เธอจะเลือกนิชคุณมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ แต่ก่อนหน้านั้น เธอควรจะคิดว่าจะทำยังไงให้นิชคุณเลิกมองอูยองด้วยสายตาแบบนั้น เลิกมองด้วยความรัก และมองด้วยความเกลียดชังแทน
.
.
.
.
.
“คุณอูยองน่ารักดีนะพี่” ชานซองเอ่ยกับพี่ชายทันทีที่อยู่บนรถลีมูซีน รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าของนิชคุณ
“อืม ยังเหมือนเดิม น่ารักเหมือนเดิม”
“แต่เพื่อนคุณอูยองน่ารักกว่า” ประโยคของชานซองทำให้นิชคุณต้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เพื่อนของอูยอง...
“อีจุนโฮน่ะเหรอ?”
“พี่รู้จักด้วยเหรอ?”
“อืม อูยองเคยเล่าให้ฟังนะ อีจุนโฮเป็นเพื่อนรักของอูยอง คบกันมาตั้งแต่ประถม รู้สึกว่าจะเรียนด้าน...คหกรรมหรือไงเนี่ยแหละ พี่ไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำงานอะไร”
“อ้อ” ชานซองพยักหน้ารับรู้ คุณหมอหนุ่มทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง อีจุนโฮ เหมือนลูกแมวที่ชอบขู่ น่ารักจัง
“ชานซอง...”
“ครับ?”
“ชานซองว่าอูยองจะยังรักพี่อยู่ไหม”
“ไม่รู้สิ เวลาเปลี่ยนคนก็อาจจะเปลี่ยนก็ได้ บางทีคุณอูยองอาจจะ...พี่อย่าโกรธผมนะ อาจจะมีแฟนใหม่ไปแล้วก็ได้”
“งั้นเหรอ” ที่ชานซองพูดมาก็ชวนให้คิด จริงอยู่ไม่มีอะไรมารับรองว่าอูยองจะยังรักเขาอยู่ ผ่านมาห้าปีอาจจะมีคนใหม่เข้ามา อูยองอาจจะมอบหัวใจให้คนนั้นไปแล้วและถ้าเป็นอย่างนั้นจริง สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดนี้เพื่ออะไร?
“พี่...งั้นเอางี้ไหม พี่ก็ลองใจคุณอูยองเลยสิ”
“ลองใจ?”
“ก็ตอนนี้คุณอูยองรู้จักพี่ในนามของนิชคุณ พี่ก็แกล้งทำเป็นสนใจเขา เข้าไปจีบเขา และถ้าเขาสนใจก็แสดงว่าคุณอูยองเขาหมดรักพี่ไปแล้ว”
“ก็น่าสนใจ”
“แต่พี่...ถ้าผลออกมาไม่ใช่อย่างที่พี่คิดไว้ พี่จะทำไง?”
จะทำยังไง? ชีวิตของเขาทั้งชีวิตมอบให้อูยองคนเดียว เขารักอูยองคนเดียวและอูยองก็สัญญาว่าจะรักแค่เขา คนผิดสัญญา ควรจะเป็นยังไงกันนะ? ปีศาจในใจของนิชคุณค่อยๆตื่นขึ้นมา มันค่อยๆกระซิบถึงบทลงโทษของคนที่หักหลัง ไม่ยุติธรรมที่เขารออีกฝ่ายมาแสนนานแล้วอีกฝ่ายจะขว้างทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ไม่ตามหา ไม่รอคอย ไม่สนใจ
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาจะทำอย่างไร
.
.
.
.
.
วันนี้เป็นอีกวันที่แสนเหนื่อยของแทคยอน ประชุมตั้งแต่เช้า งานล้นมือ ภารกิจของการเป็นเป็นประธานบริษัทนั้นหนักหนาเกินกว่าที่ใครจะรู้ได้ แม้ว่าจะมีคนคอยช่วยอีกมากแต่เขาก็ไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเอง งานทั้งหมดจึงมักจะมากองสุมอยู่ที่เขาเสมอ ร่างสูงก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว อูยองน่าจะใกล้เลิกเรียนดนตรี เขาน่าจะแวะไปรับน้องซักหน่อย
“อิมซึลอง”
“ครับ ท่านประธาน”
“แวะไปรับอูยองที่โรงเรียนดนตรี”
“ครับ”
รกยนต์คันหรูหันเลี้ยวกลับไปอีกทางซึ่งเป็นทางไปโรงเรียนสอนดนตรีที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ไม่นานนักแทคยอนก็มาถึง ตึกแถวสี่ชั้นตั้งอยู่ตรงหน้า ตอนนี้โรงเรียนเริ่มจะร้างผู้คนเพราะเหล่านักเรียนทยอยกลับไปจนหมด คงจะเหลือแค่น้องชายของเขากับครูผู้สอนเท่านั้นล่ะมั้ง
“รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันเข้าไปหาน้องเอง”
“ครับ”
แทคยอนค่อยๆผลักประตูกระจกเข้าไป เสียงบรรเลงดนตรียังคงดังมาจากชั้นบน น้องเขาแน่นอน เสียงเปียโนกระท่อนกระแท่นขนาดนั้น แทคยอนหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงประชาสัมพันธ์ หยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา
“พี่ชาย” เสียงเรียกดังก้องไปทั่วโรงเรียน อูยองแบกเป้ก่อนจะนำมาวางไว้ที่ข้างตัวของพี่ชาย
“พี่ชายรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ผมไปเข้าห้องน้ำก่อน” พยักหน้ารับรู้ อูยองวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ แทคยอนหยิบนิตยสารเล่มเดิมขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เสียงบรรเลงเปียโนดังขึ้นอีกครั้ง ไพเราะจับใจ ท่วงทำนองหวานใสของเปียโนทำให้แทคยอนต้องวางนิตยสารไว้ข้างตัว
“เพลงนั้น...” เพลงจากสมุดเล่มดำที่เขาปิดตาย สมุดที่เขาไม่ยอมเปิดอ่านมาห้าปี สมุดของเขาคนนั้น
แทคยอนเดินตามเสียงเพลงไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องซ้อม มือหนาวางลงบนประตู เสียงเปียโนหยุดลงแล้ว ประตูค่อยๆเปิดออกช้า หากแต่ในห้องกลับว่างเปล่า มีเพียงเปียโนตัวสีดำวางอยู่ แทคยอนไม่เข้าใจ เสียงเมื่อกี้นี้มันคืออะไร?
“พี่ชายมาทำอะไรตรงนี้” เสียงเรียกของน้องชายทำให้แทคยอนผละมือออกจากประตูบานนั้น ประตูค่อยๆปิดลงก่อนที่แทคยอนจะโอบไหล่น้องชายพากันเดินลงไปขึ้นรถที่อิมซึลองรออยู่
หากแต่แทคยอนจะกวาดตามองให้ทั่วห้องกว่านี้ เขาจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ตรงมุมห้อง
TBC
ชานโฮมาแว้ววววววว (รับประกันความเกรียนของนูนอ) เขาทะเลาะกันแต่เริ่มเลยเนอะ
แล้วแม่เหล็กสลับขั้วเขาจะลงเอยกันยังไงนะ?
เจสสิก้า นางเริ่มวางแผนแล้วล่ะ แผนอะไร? (รีดเดอร์บอก แล้วข้าจะรู้กะเอ็งไหม)
แล้วพี่คุณของเราคิดจะทำให้อะไรต่อไป ใกล้ถึงจุดหักมุม?แล้ววววววว
ต้องขอโทษจริงๆที่มาต่อช้า ตอนแรกตั้งจะมาลงวันเกิดน้องยอง
แต่เค้าป่วยอ่ะ ไม่สบายไข้หวัดแดด แต่ตอนนี้หายดีแล้ว นั่งปั่นฟิคหน้าสั่นเลย5555
หวังว่าตอนนี้จะถูกใจนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น