ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAP.2
Story: Beastly
Chapter:02
Status : Long fiction
Pairing : Khunwoo
Type : Drama
Chapter 2 Curse
เรื่องบางเรื่อง ก็อยากเกินกว่าที่คนธรรมดาจะเข้าใจ
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่คุณนั่งจ้องมองอูยอง คนตัวเล็กขมักเขม้นกับการทำความสะอาดบ้านของเขาด้วยเหตุผลที่ว่ามันสกปรกเกินกว่าที่คนจะอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำความสะอาด แต่มันไม่มีเวลา เขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแลกข้าวเขามากินและเงินสินน้ำใจอีกนิดหน่อยจากเจ้าของสวน แน่ล่ะสวนกุหลาบมีอะไรให้ทำตลอด แต่ว่าป้าจันทร์นายจ้างของเขามักจะมีน้ำใจปันกับข้าวที่เธอทำมาให้กินเสมอ เขาจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากเท่าไหร่นัก
“เอาล่ะ คุนนี่ถ้าผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มแห้งเมื่อไหร่ ก็เสร็จสมบูรณ์” อูยองยืนยิ้มมองผลงานของตัวเอง คนตัวเล็กมักจะมีความสุขเมื่อได้ทำความสะอาดเสมอ และเมื่อเขาได้เห็นบ้านของคุนนี่เละเทะ วิญญาณแม่บ้านก็เข้าสิงเขาทันที
“ขอบใจ” เพียงคำกล่าวสั้นๆจากเพื่อนใหม่ก็ทำให้อูยองหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ร่างเล็กนั่งลงตรงหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้
“ไม่ต้องขอบใจหรอกคุนนี่ แค่นี้น่ะเล็กน้อย ว่าแต่...บ้านหลังนี้คุนนี่อยู่คนเดียวเหรอ”
“ใช่...ฉันอยู่คนเดียว”
“หืม? แล้วพ่อแม่ของคุนนี่ล่ะ ไปไหน?”
“พ่อแม่...เขาทิ้งฉันไปแล้วล่ะ”
“...”
“อูยองก็เห็นว่าหน้าตาฉันเป็นยังไง พ่อกับแม่เอาฉันมาทิ้งให้หลวงตาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ฉันไม่เคยพบพวกท่านหรอก รู้แต่ว่าท่านไม่ต้องการสัตว์ประหลาดที่ต้องคำสาปอย่างฉัน ท่านคงอับอายที่มีลูกเป็นตัวประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์ ฉันเข้าใจ...ฉันเข้าใจดี”
“คุนนี่” อูยองเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออกมาอย่างแผ่วเบา มือเล็กลูบมือหนาอย่างอ่อนโยนจนอีกฝ่ายนั้นประหลาดใจ
“ฉันเองก็จำหน้าพ่อแม่ไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพอลืมตาขึ้นมาก็อยู่ที่สถานรับเลี้ยงแล้ว ไม่เคยรู้เลยว่าพ่อกับแม่เป็นใคร พี่ชายบอกฉันว่าพ่อกับแม่ของฉันเป็นเทวดากับนางฟ้าอยู่บนสวรรค์และคอยมองดูฉันอยู่เสมอ”
“...”
“ตอนนี้ทั้งฉันและคุนนี่เองก็ไม่มีครอบครัวใช่ไหมล่ะ งั้นเอางี้ ฉันจะเป็นครอบครัวให้คุนนี่เองดีไหม ครอบครัวของเราจะมีแค่ฉันกับคุนนี่สองคน โอเคไหม?” คุณมองหน้าอูยองด้วยความประหลาดใจ ไม่เคยเลย ไม่เคยมีใครที่หยิบยื่นไมตรีจิตและความอบอุ่นให้เขาขนาดนี้มาก่อน เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขากำลังจะมีครอบครัว
“ขอบใจนะ...” เขากล่าวขอบคุณอูยองด้วยความตื้นตันใจ ร่างเล็กโผกอดเขาจนแน่น มือเล็กลูบแผ่นหลังเขาเบาๆเป็นการปลอบโยน นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีคนในครอบครัวให้กอด และนี่เป็นครั้งแรกที่อสูรอย่างเขาจะตกหลุมรักใครสักคน
“แล้ว...ทำไมอูยองถึงมาที่นี่ล่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามคนตัวเล็กอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าคนๆนี้ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหรืออะไรหรอก เหมือนกับอูยองกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่
“ฉันหนี...พี่ชาย” รอยยิ้มแสนสดใสหายไปจากใบหน้าของอูยองทันที ดวงตาที่เคยสุกไสราวกับดวงดาวหม่นลงและเต็มไปด้วยความเศร้า
“ทำไม?...”
“เพราะเขาจะให้ฉันแต่งงานน่ะสิ เป็นคุนนี่คุนนี่จะแต่งไหมล่ะ ใครก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรักกันแล้วจะมาแต่งงานได้ไง พี่ชายฉันคิดจะให้ฉันแต่งงานกับคนๆนั้นเพียงเพราะเขารวย มีชาติตระกูล แค่นั้นน่ะเหรอ แล้วความรู้สึกของฉันล่ะ พี่ชายเอามันไปไว้ที่ไหน” อูยองพูดทั้งน้ำตา พอเขาได้ยินเรื่องเหล่านี้จากปากของแม่บ้าน เขาทั้งน้อยใจ เสียใจ เขารักพี่แทคยอนเหมือนพี่ชายแท้ๆ ทำตัวเป็นน้องที่ดีเสมอมา ยอมเดินตามเส้นทางที่พี่ชายขีดให้เดิน แต่แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่อูยองยอมไม่ได้จริงๆ
“อูยองรู้ไหม อูยองโชคดีที่มีพี่ชายที่รักและหวังดีกับอูยองทั้งๆที่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ”
“หืม?”
“จากที่ฉันฟังอูยองเล่า พี่ชายของอูยองน่ะหวังดีนะ เขาคงอยากให้อูยองแต่งงานกับคนดีๆ จะได้มีความสุขไง”
“แต่ฉันไม่ได้รักเขา ฉันจะมีความสุขได้ไง”
“...”
“บางทีความสุขอาจจะไม่ได้มาจากเงินทองหรือวัตถุ แต่มันมาจากหัวใจ ถ้าฉันจะแต่งงานกับใครสักคนฉันจะต้องรักเขาและเขาก็ต้องรักฉัน ไม่ใช่ต้องแต่งเพราะพี่ชายบังคับ หรือเพราะคนๆนั้นมีเงิน”
“แต่อูยองรู้ไหม ว่าที่อูยองทำอยู่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเลยนะ อูยองกำลังหนีมันอยู่”อูยองนิ่งเงียบไปก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปที่เฉลียงหน้าบ้าน ใบหน้าหวานแหงนมองดวงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้า หยาดน้ำตาใสร่วงหล่นลงมาจากดวงตาคู่สวย
“อูยอง...อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันขอโทษ...”
“ไม่หรอก คุนนี่ไม่ผิด ฉันงี่เง่าเอง ฉันน่าจะมีความคิดมากกว่านี้ ฉันไม่น่าหนีปัญหามาเลยจริงๆ”
ทุกอย่างรอบด้านนั้นเงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นของอูยองเท่านั้นที่ดังก้องในใจของคุณ คนตัวเล็กปาดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนจะหันกลับมายิ้มให้คนตัวสูงอีกครั้ง
“คุนนี่ ฉันหิวแล้วล่ะ” รอยยิ้มแสนสดใสกลับมาอยู่บนใบหน้าของอูยองอีกครั้ง คุณยิ้มตอบเมื่อเห็นอูยองนั้นคลายเศร้า
“งั้นเดี๋ยวฉันจะทำกับข้าวให้อูยองกินเองนะ มานี่สิ” คุณจับมือร่างเล็กก่อนจะพาอูยองไปที่ห้องครัวที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้าน อูยองตื่นตาตื่นใจกับห้องครัวที่ตัวเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งเตาถ่านและหม้อแบบแปลกๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าของพวกนี้ทำอาหารได้จริงๆน่ะเหรอ
“”อูยองกินอะไรได้มั่ง ฉันไม่มีวัตถุดิบอะไรเลย มีแต่ปลากระป๋องไข่ กับน้ำพริกตาแดง”
“อะไรก็ได้ หิวไส้กิ่วแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะหุงข้าว เจียวไข่กินกับน้ำพริกแล้วกันนะ”
“ตามแต่คุนนี่ต้องการเลย”
.
.
.
.
“เจสว่า พักนี้แทคทานข้าวน้อยจังนะคะ”เจสสิก้าถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพักนี้คนรักของเธอกินข้าวน้อยและดูซุบลงไปถนัดตา มือเรียวเอื้อมไปจับมือหนามาไว้ก่อนจะบีบเบาๆเป็นการปลอบใจ เธอรู้ดีว่าแทคยอนกำลังกลุ้มใจเรื่องน้องชาย แน่ล่ะ น้องหายไปทั้งคน เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้
“ผมห่วงน้องน่ะ ผมให้ซึลองไปถามจุนโฮ จุนโฮเองก็ติดต่ออูยองไม่ได้เหมือนกัน ปิดเครื่อง ทั้งๆที่อูยองบอกว่าจะติดต่อกลับมาแท้ๆ ไม่รู้ป่านนี้อูยองจะเป็นยังไงบ้าง”
“อย่าคิดมากสิคะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้”
“อูยองไม่ใช่เด็กเหลวไหล ผมอยากไปตามหาน้องเหลือเกิน แต่ก็มีโปรเจคยักษ์รออยู่ กว่าจะเสร็จอาจต้องใช้เวลาร่วม6เดือน ผมจะทำยังไงดี” แทคยอนกุมขมับด้วยความเครียด เขามีลางสังหรณ์ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับน้องของเขาแน่ๆ แต่ไอ้ครั้นจะออกตามหาเองก็คงเป็นไปไม่ได้
“งั้นเอาอย่างนี้ดีไหมค่ะ เจสจะให้คนของคุณพ่อช่วยหาอีกแรง แทคจะได้เอาเวลาที่มีไปเคลียร์งานให้เสร็จ แล้วจะได้ไปตามหาอูยองกันดีไหมค่ะ?”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ขอบคุณเจสมากนะ” ร่างสูงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนรักของเขา จะว่าไปแล้วเขาก็โชคดีที่ได้พบหญิงสาวที่น่ารักและจิตใจดีแบบเจสสิก้า เขาพบกับเจสสิก้าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เธอเป็นมาดอนน่าของคณะ เธอสวย มีเสน่ห์ ทุกคนต่างก็หลงไหลในตัวเธอ รวมถึงเขาด้วย เขาจำวินาทีแรกที่เขาสบตากับเจสสิก้าได้เป็นอย่างดี ดวงตากลมสวยแต่ดูลึกลับราวกับมหาสมุทรที่ไม่อาจหยั่งถึง วินาทีนั้นเขาตกหลุมรักเธอในทันที เขาเฝ้าตามเทียวไล้เทียวขื่อเธออยู่นานสองนานจนเธอใจอ่อนยอมคบกับเขา มาจนถึงทุกวันนี้
“เจสว่าแทคน่าจะกินข้าวได้แล้วนะคะ เดี๋ยวไม่มีแรงไปทำงานนะ” แทคยอนก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างว่าง่ายตามที่เจสสิก้าบอก ไม่นานอาหารตรงหน้าก็หมดลงอย่างรวดเร็ว
“แทค...” เจสสิก้าเอ่ยปากเรียกคนตรงหน้าทันทีเมื่อเห็นแทคยอนวางตะเกียบลงเป็นเชิงบอกว่าอิ่มแล้ว
“ว่าไง?”
“แล้ว...เรื่องงานแต่งงานของเราล่ะคะ แทคคิดว่าไง?” เจสสิก้าถามพร้องกับรอยยิ้มหวานใส แทคยอนเอื้อมมือไปกุมมือคนรักไว้ ก่อนจะกดจูบที่หลังมืออย่างอ่อนโยน
“ผมว่า...เราน่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนนะ ตอนนี้ผมเครียดทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องอูยอง ผมว่ามันยังไม่ถึงเวลานั้น เอาไว้เรื่องทั้งหมดเรียบร้อยเมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยกันอีกที”
“แต่แทคค่ะ เราคบกันมา 5 ปีแล้วนะคะ ฉันเคยได้ยินแทยอนเล่าถึงเรื่องอาถรรพ์7ปีแล้วฉันก็แอบกลัว ถ้าเกิดเรา...”
“เจสอย่าคิดมากสิ อาถรรพ์นั่นจะเกิดขึ้นได้ยังไง ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่หมดรักกันไปเองซะก่อน ถ้าผมรักเจส แล้วเจสก็รักผม ผมไม่เห็นว่าตัวเลขบอกเวลานั่นจะทำลายความรักของเราได้ตรงไหน จริงไหม?”
“ค่ะ” เจสสิก้าตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก สิ่งที่หญิงสาวทุกคนใฝ่ฝันคือการแต่งงาน เธอเองก็เช่นกัน เธอใฝ่ฝันถึงงานแต่งงานที่แสนสวยงาม ชุดเจ้าสาวที่หรูหรา ดอกกุหลาบสีขาวบานสะพรั่งเต็มงาน เธออยากให้เป็นเช่นนั้น เธอถึงได้เลือกอ๊กแทคยอน ลูกชายคนโตของตระกูลอ๊ก เจ้าของธุรกิจโรงแรมห้าดาวทั่วโลก ชีวิตเธอจะได้สวยหรูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายที่ได้ครองคู่กับเจ้าชายรูปงามอย่างมีความสุขไปชั่วนิรันดร์
เธอจะมีวันนั้นใช่ไหม?
TBC
คุณด้งหวานมากกกกกก จริงๆเราจงใจให้เป็นอย่างนั้น
เรื่องนี้พี่คุณเป็นอสูร ที่เป็นอสูรจริงๆ เป็นอย่างนั้นตั้งแต่เกิด (สรุปคือไม่ได้หล่อมาแต่เกิด อ่าว?)
แต่...เดี๋ยวคำสาปจะถูกทลายลง เพราะ....
ไม่บอกดีกว่าเดี๋ยวไม่หนุก กร๊ากกกกกก (อินี่เกรียน)
ส่วนแทคยอน กับเจสสิก้า แม่นางคนงามหางโผล่แล้ว 5555
ตอนนี้เราปูทางให้คนอ่านเดาได้ว่าทำไมนางถึงร้ายกันนะ
นางไม่ได้รักพี่แทคเราจริงๆซะหน่อย และจะไม่ได้แต่งงานกับพี่แทคด้วย (จุดพลุ)
แต่นางจะร้ายเพราะอะไรกันนะ? คิคิ เดากันเองเนอะ
อินี่เวิ่นเยอะเชียว แต่เราขอสาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง (เลียนแบบน้องยอง) ว่าเราจะมิทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่ๆ เพราะเรื่องนี้เราตั้งใจเขียนจริงๆ ทุกอย่างกรั่นกรองออกมาจากใจล้วนๆ (เพิ่งหาแนวตัวเองเจอนั่นเอง)
ขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านกันนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น