ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM FIC] BEASTLY {KHUNDONG}

    ลำดับตอนที่ #5 : CHAP.4

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 55


    Story: Beastly

    Chapter:04

    Status : Long fiction

    Pairing : Khunwoo

    Type : Drama

     

     

     

     

     

    Chapter 4  Time has past....

     

     

     

    ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว และมันจะเกิดขึ้นเมื่อเวลานั้นมาถึง

     

     

     

    ค่ำคืนหนึ่งที่แสนสวยงาม ดวงดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้า คุณกับอูยองอยู่ระหว่างทางเดินกลับบ้าน

    ตั้งแต่วันนั้นอูยองก็ติดตามคุณไปทำงานทุกวัน ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันเช่นทุกวันแต่ต่างกันตรงที่วันนี้ช่าง

    เงียบงันไม่มีใครเอื้อนเอ่อะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ความเงียบที่อยู่รอบตัวพวกเขามาพร้อมกับแรง

    กดดันมหาศาล ต่างฝ่ายต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีใครยอมเปิดปากพูดอะไรออกมา จนอูยองเริ่มทน

    ไม่ได้ต้องเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน

    “คุนนี่”

    “หืม?”

    “ฉันอยู่กับคุนนี่มานานแค่ไหนแล้วนะ” คุณหันมามองอูยองด้วยความสงสัย คนตัวเล็กจะถามเขาไปทำไมกัน

    อูยองจะอยากรู้ไปทำไมกัน หรืออูยองกำลังจะจากเขาไป ไม่นะ...

    “คุนนี่ เป็นอะไรหรือเปล่า?” อูยองเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายดูไม่สู้ดีนัก

    “เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไร อืม...อูยองอยู่กับฉันมาราวๆ10เดือนได้แล้วล่ะมั้ง”

    10เดือน ระยะเวลาที่ดูนานแต่กลับแสนสั้นสำหรับคนทั้งคู่ เขาทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ได้ยังไง

    กันนะ? ผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกัน ตอนนี้คุณเองก็เริ่มที่จะอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาเกาหลีและอังกฤษ

    บางที่คุณกับอูยองก็สนทนากันเป็นภาษาเกาหลี อูยองทำความสะอาดบ้านให้เขา คอยดูแล ซักเสื้อผ้า

    ทำอาหาร เล่าเรื่องชีวิตของกันและกันให้ฟัง คุณไม่เคยรู้สึกว่าโลกใบนี้น่าอยู่ขนาดนี้ โลกใบเดิมของเขา

    แสนจะอ้างว้าง เดียวดาย ผู้คนรังเกียจในความอัปลักษณ์ของเขา แต่เมื่อคนๆนี้ได้เขามา ราวกับแสงตะวัน

    ที่สาดส่องลงมาในที่มืด โลกใบใหม่ของคุณนั้นช่างงดงามน่าอยู่ เขาเพลิดเพลินอยู่ในโลกใบนี้เสียจนลืม

    ไปว่า สักวันหนึ่งแสงตะวันก็ต้องจากเขาไป แสงตะวันจะต้องลาลับไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าแสงตะวันจะกลับมา

    สาดส่องอีกครั้งหรือไม่

    “อูยอง”

    “หืม?”

    “ฉันจะพาอูยองไปดูอะไร”

    คุณพาอูยองมาที่ทะเลสาป แสงจันทร์ที่สะท้อนบนผิวน้ำ ทำให้บริเวณนั้นสว่างไสวไปทั่ว อูยองมอง

    ทะเลสาปแสนสวยด้วยความประหลาดใจ ในชีวิตของเขาเห็นสิ่งสวยงามมามากมาย ไม่ว่าจะบ้านหลัง

    ใหญ่แสนสวยงาม รถคันหรูแสนสวยงาม หรือแม้แต่ผู้คนที่แต่งตัวอย่างสวยงาม เขาเพิ่งจะรู้ว่าความงาม

    เหล่านั้นถูกปรุงแต่ง ความงามที่ไม่แท้จริง ภาพลวงตาที่พาให้คนรอบข้างหลงไหลก่อนจะทำลายผู้ที่

    ต้องมนตร์สะกดให้ย่อยยับ แต่สิ่งนี้ ทะเลสาปแห่งนี้คือความงามตามธรรมชาติ แม้ตอนกลางวันมันจะเป็น

    เพียงบ่อน้ำธรรมดา บ่อน้ำที่คนทั่วไปไม่แม้แต่จะหยุดมอง แต่เมื่อยามวิกาลยามเมื่อแสงจันทร์ส่องสะท้อน

    บนผิวน้ำ บ่อน้ำธรรมดากลับสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

    “สวยจังเลยคุนนี่ ที่นี่คือที่ไหนกัน”

    “ที่นี่คือที่ที่พ่อแม่พาฉันมาทิ้งไว้” คุณพูดก่อนจะนั่งลงตรงขอนไม้ ดวงตาคมทอดมองไปยังผิวน้ำ เมื่อ20ปี

    ก่อน เด็กวัดคนหนึ่งไปเที่ยวเล่นกลับมาจนดึกดื่น เจอเขานอนอยู่ในตะกร้า เด็กน้อยอายุไม่ถึงเดือนนอนร้อง

    ไห้เสียงดังไปทั่วบริเวณ แต่ทันทีที่เด็กวัดคนนั้นเปิดห่อผ้าดูก็ถึงกับตื่นตะลึง เด็กน้อยมีแผลตามลำตัว

    เต็มไปหมด ใบหน้าอัปลักษณ์ไม่มีความน่ารักเหมือนกับเด็กในวัยเดียวกัน เด็กวัดคนนั้นอุ้มเขาไปหา

    หลวงตา หลวงตาชุบเลี้ยงเขาจนโตอย่างไม่รังเกียจคอยสั่งสอนสิ่งดีๆให้เขาอยู่เสมอ จนเมื่อหลวงตา

    มรณะภาพเขาก็ออกจากวัดมาอาศัยป้าจันทร์อยู่ มีสมบัติติดตัวมาเพียงชิ้นเดียวคือผ้าอ้อมที่เขาใส่มาใน

    วันนั้น ผ้าอ้อมที่ปักไว้ว่า”หรเวชกุล”  ถ้าเขาคิดจะตามหาพ่อแม่มันก็ง่าย แต่เขาไม่ทำ การที่พ่อแม่พา

    เขามาทิ้งนั่นก็เป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการ เราจะไปตามหาคนที่ไม่ต้องการเราทำไม?

    “คุนนี่...พ่อแม่ทุกคนรักลูกของตัวเอง ฉันว่าพ่อกับแม่ของคุนนี่ต้องมีเหตุผลที่เขาพาคุนนี่มาทิ้งไว้ที่นี่”

    “ใช่ เหตุผลก็เพราะท่านอับอายที่มีลูกเป็นตัวประหลาดไง ฉันเข้าใจ...เข้าใจ”

    “คุนนี่ อย่าเสียใจเลยนะ เราไปตามหาพ่อแม่ของคุนนี่กันไหม ฉันจะช่วย..”

    “ไม่มีประโยชน์หรอกอูยอง ฉันไม่อยากเจอพวกท่านหรอก เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ฉันก็มีความสุขดี ฉันไม่ต้องการครอบครัวที่รังเกียจฉัน ครอบครัวของฉันมีแค่อูยองเท่านั้น แค่อูยอง...ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว”

    อูยองโผเข้ากอดคุณ มือเล็กลูบหลังอีกฝ่ายเป็นการปลอบโยน ทำไมคนที่แสนดีคนนี้ถึงต้องมามีชีวิต

    อย่างนี้ ทำไมกันนะ..

    “คุนนี่ ฉันจะไม่ทิ้งคุนนี่ไปไหน ฉันสัญญา ฉันจะเป็นครอบครัวของคุนนี่ ฉันรักคุนนี่”

    คุณตกใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน คนๆนี้รักเขาอย่างนั้นหรือ จางอูยองรักเขา รักเขาที่เขาเป็นอสูรอย่างนั้นหรือ

    “ฉันคิดจะบอกคุนนี่ตั้งนานแล้ว ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันบอกรักคุนนี่แล้วคุนนี่จะกลายเป็นเจ้าชายเหมือนในนิทาน “

    “นิทาน? นิทานเรื่องอะไร?” อูยองส่งยิ้มให้คุณก่อนจะนั่งลงข้างๆ มือเล็กจับมือหนามากุมไว้ก่อนจะเริ่มต้น

    เล่านิทานของตนเอง

    “คุนนี่เคยได้ยินเรื่องสาวงามกับเจ้าชายอสูรไหม? เรื่องมันก็มีอยู่ว่ามีเจ้าชายรูปงามคนหนึ่งถูกสาปให้มี

    หน้าตาอัปลักษณ์เพียงเพราะเขาตัดสินคนจากรูปลักษณ์ โดยคำสาปจะคลายเมื่อมีคนมาบอกรักเขา เมื่อ

    เขาได้พบรักแท้ก่อนกลีบกุหลาบสุดท้ายจะร่วงโรย สาวงามคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในปราสาทของอสูร เธอทำให้

    จิตใจที่แข็งกร้าวของอสูรเต็มไปด้วยความอ่อนโยน สุดท้ายคนทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน”

    “แล้วสาวงามได้บอกรักอสูรไหม?” คุณถามอย่างตื่นเต้น

    “ได้สิ แต่ก็เกือบจะไม่ทัน ตอนสุดท้ายนายพรานพาพวกชาวบ้านมาล่าอสูร อสูรถูกธนูปักที่กลางหัวใจเลยนะ

    แต่สาวงามก็บอกรักอสูรทันที่กลีบกุหลาบจะร่วงโรยพอดี อสูรก็เลยกลับเป็นเจ้าชายรูปงามและครองคู่อยู่กับ

    สาวงามไปชั่วนิรันดร์”

    “ฉันไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย อูยองเอานิทานเรื่องนี้มาจากไหน”

    “คุณแม่ของฉันท่านเล่าให้ฟังน่ะ ท่านเองก็เล่าให้ฉันฟังหลายเรื่องนะ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดของฉันเลย”

    อูยองยิ้มให้คุณก่อนจะเขย่งไปจุ๊บแก้มร่างสูงอย่างแผ่วเบา

    “ฉันรักคุนนี่นะ ที่บอกไม่ได้หวังจะให้คุนนี่กลายเป็นเจ้าชาย แต่ฉันรักคุนนี่จริงๆ”

    “รักกัน...จริงๆนะเหรอ”

    “รักสิ รักจริงๆ ฉันรักที่คุนนี่เป็นแบบนี้”

    “ขอบใจนะอูยอง ฉันก็รักอูยองเหมือนกัน”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “ตกลงเรื่องอูยองมีอะไรคืบหน้าบ้างไหมอิมซึลอง” แทคยอนขยับแว่นตาก่อนจะจ้องมองไปยังลูกน้อง

    คนสนิท 10เดือนแล้วที่อูยองหายไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้ แม้ว่าแทคยอนจะให้ใครไปสืบก็ไม่สามารถ

    ตามตัวได้เลย แทคยอนเหนื่อย...ทั้งเรื่องงาน เรื่องน้อง และเรื่องเจสสิก้า ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอโกรธเขา

    เรื่องงานแต่งงาน เขาผิดเองที่ไปสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะแต่งงานกับเธอภายในปีนี้ จนจะสิ้นปีอยู่แล้ว

    งานแต่งงานก็ยังไม่ได้ถูกจัดขึ้น

    “ยังไม่มีความคืบหน้าเลยครับท่านประธาน” แทคยอนส่ายหน้าอย่างจนใจ เขาจะทำอย่างไรดี เขากำลังจะ

    สูญเสียคนที่เขารักไปเพราะความไม่ยั้งคิดของตัวเอง  เขาหวังดีเกินไป เขาพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้อูยอง

    แต่สิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่ดีสำหรับตัวเขาเองไม่ใช่อูยอง

    ก็อก ก็อก ก็อก

    “เขามา” แทคยอนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก เลขาของแทคยอนเดินเข้ามาจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา

    “ว่าไงคุณฮารา มีเรื่องอะไร”

    “คุณเจสสิก้ามาขอพบท่านประธานค่ะ”

    “ให้เธอเข้ามา” แทคยอนพูดก่อนจะโบกมือไล่ลูกน้องคนสนิทให้ออกไปพร้อมกับเลขาคนสวย เขาเก็บแฟ้ม

    งานและเคลียร์โต๊ะให้เข้าที่ก่อนที่แฟนสาวคนสวยของเขาจะเดินเข้ามา เจสสิก้าฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนรัก

    ของเธอ วันนี้เจสสิก้าแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ชุดสีแดงสดขับผิวขาวของเธอให้ขาวใส ริมฝีปากสีแดงดั่ง

    กุหลาบ ดวงตาที่ถูกกรีดอย่างคมเฉี่ยว

    “ว่าไงค่ะแทค ไม่เจอกันเสียนาน” แทคยอนรู้ว่าเธอกล่าวประชด เธอคงโกรธที่เขายุ่งมากจนไม่มีเวลาไปพบ

    เธอ จึงประชดประชันจนเขารู้สึกแย่

    “โธ่เจส คุณก็รู้ว่าผมยุ่งแค่ไหน”

    “รู้ค่ะว่าแทคยุ่ง เลยไม่มาให้เห็นไงคะ” เจสสิก้านั่งลงที่โซฟาบุหนังสีดำก่อนจะหยิบกาแฟที่เลขของ

    แทคยอนเอามาเสริฟขึ้นมาจิบ

    “คุณโกรธผมเหรอ?”

    “เปล่านี่คะ เจสจะโกรธแทคทำไม มีเหตุผลอะไรกันคะ?” ดวงหน้าสวยยังคงนิ่งเฉย จนแทคยอนทนไม่ได้จึง

    ลุกจากโต๊ะทำงานไปนั่งข้างคนรัก

    “ขอโทษที่พักนี้ไม่ได้ดูแลเจส”

    “เจสไม่ได้โกรธแทคเรื่องนั้น และเจสก็คิดว่าแทคน่าจะรู้ว่าเจสเกลียดคนไม่รักษาสัญญาแค่ไหน”

    “เจส...ผมไม่ได้ผิดสัญญา แต่คุณก็น่าจะรู้ว่าน้องผมหายไป จะให้ผมมานั่งมีความสุขได้ยังไง” เจสสิก้าปราย

    ตามองคนรักของเธออยู่ชั่วครู่ก่อนหยิบซองสีน้ำตาลออกจากกระเป๋าสะพายของเธอ

    “แทยอนให้แฟนของเธอที่เป็นนักสืบไปตามหาน้องของแทคค่ะ”

    “จริงเหรอ? แล้วได้เรื่องไหม”

    “ได้ค่ะ ทุกอย่างอยู่ในนี้หมดแล้ว” เธอยื่นซองสีน้ำตาลให้คนรักของเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนสะพายกระเป๋า

    “วันนี้เจสมาแค่นี้แหละค่ะ ไว้วันไหนแทคว่างก็นัดเจสทานข้าวก็แล้วกันนะคะ” พูดจบเจสสิก้าก็เดินจากห้อง

    ไป ไม่รอช้าแทคยอนรีบแกะซองสีน้ำตาลออก ข้างในเป็นที่รูปภาพของอูยองที่อยู่ในกระท่อมเล็กๆ มีที่อยู่และ

    ตั๋วเครื่องบินบินตรงไปประเทศไทยสำหรับสัปดาห์หน้า สัปดาห์หน้างั้นหรือ? เขามีพรีเซนต์โปรเจคใหญ่

    แต่เขาก็อยากเจอน้อง เขาโยนซองลงไปในลิ้นชักอย่างไม่ใยดี สมุดโน๊ตสีดำยังคงนอนนิ่งอยู่ในลิ้นชักของ

    เขา กี่เดือนแล้วนะที่เขาได้พบกับเจ้าของสมุด เขายังไม่มีโอกาศตามหาเลย ยอมรับว่าเสียมารยาทที่เขา

    แอบอ่านข้อความในสมุด บทเพลงที่ถูกเรียงร้อยในนั้น เขาให้เพื่อนของเขาที่เป็นนักเปียโนเล่นให้ฟัง

    บทเพลงที่แสนไพเราะก้องกังวาลในหัวใจของเขา เป็นเพียงแค่บทเพลง แต่หัวใจของเขากลับอบอุ่นอย่าง

    น่าประหลาด ท้วงทำนองที่ฟังก็รู้ว่าแต่งออกมาจากหัวใจ คนๆนี้จะเป็นคนยังไงกันนะถึงได้แต่งเพลงได้

    อบอุ่นขนาดนี้

    “ว่าไงครับท่านประธาน” เสียงเรียกดึงแทคยอนให้หลุดออกจากภวัง อิมซึลองรีบเข้ามาหาเจ้านายทันทีที่

    แทคยอนกดเรียก

    “อาทิตย์หน้า ไปประเทศไทยแทนฉัน ไปตามอูยองกลับมา”

    “ท่านครับ ท่านพบคุณอูยองแล้วเหรอครับ”

    “ใช่ฉันพบแล้ว แต่นายช่วยไปแทนฉันที ไปตามอูยองกลับมา” เขายื่นซองสีน้ำตาลให้ลูกน้องคนสนิท

    อิมซึลองรับมาก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง

    “น้องรักของพี่ เรากำลังจะได้พบกันแล้วนะ”

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

    “คุนนี่!!!!!!!!” เสียงเรียกของอูยองที่หน้าบ้านทำให้คุณต้องรีบวิ่งออกมาดูอย่างรวดเร็ว

    “อูยองเป็นอะไรหรือเปล่า”

    “เปล่าหรอก เจ้าตัวนี้ต่างหากที่เป็น” อูยองยื่นนกพิราบสีขาวให้คุณดู ขนสีขาวของมันชุ่มไปด้วยเลือด

    คุณรับเจ้านกน้อยมาอุ้มไว้อย่างเบามือ แววตาของมันดูเศร้าสร้อย มันมองมาที่เขาอย่างเว้าวอนราวกับจะ

    ขอร้องให้เขาช่วยมัน

    “คุนนี่ คุนนี่รักษามันได้ไหม” อูยองเอียงคอถามอีกฝ่ายตาแป๊ว

    “ไม่รู้สิ แต่จะพยายามนะ ดูท่าว่าปีกมันจะหัก” คุณจับปีกเจ้านกน้อยดูก่อนจะหยิบผ้าสีขาวสะอาดมาพันดามไว้

    “เจ้าสำลีจะเป็นอะไรไหม?”

    “เจ้าสำลี?”

    “อืม มันชื่อเจ้าสำลี คุนนี่ คุนนี่ต้องรักษามันให้หายนะ ฉันอยากเลี้ยงเจ้าสำลี”

    “อูยองอยากเลี้ยงเจ้าสำลีงั้นเหรอ”

    “อืม ใช่ คุนนี่ไม่คิดว่ามันเป็นโชคชะตาเหรอ ที่เจ้าสำลีบินมาตกที่หน้าบ้านเรา แสดงว่าเจ้าสำลีอยากให้เรา

    ดูแลมันนะ” คุณอดยิ้มในความคิดของอูยองไม่ได้ อูยองมักมองโลกสวยงามเสมอ

    “งั้นการที่ฉันเจอกับอูยองในคืนนั้น มันก็คือโชคชะตาใช่หรือเปล่า” คุณถาม อูยองยิ้มบางๆก่อนจะเดินมา

    จุ๊บที่ริมฝีปากของร่างสูงอย่างแผ่วเบา

    “ไม่ใช่โชคชะตาหรอกคุนนี่”

    “?”

    “พรหมลิขิตต่างหาก ที่พาให้เรามาเจอกัน ให้เรารักกัน” คุณจับมืออูยองไว้ก่อนจะกดจูบลงบนแหวนที่นิ้วนาง

    ข้างซ้าย แหวนที่ถักจากเชือกป่านเส้นเล็กๆ ไม่มีราคาแพงเหมือนแหวนเพชรทั่วไป แต่เชือกป่านที่ถัก

    เป็นลวดลายนั้นช่างเหนียวแน่นจนอยากที่จะขาดออกจากกัน

    “ฉันจะรักอูยองคนเดียว ฉันสัญญา”

    “คุนนี่สัญญาแล้วนะ งั้นฉันสัญญาบ้าง ฉันสัญญาว่าจะรักคุนนี่คนเดียว รักเจ้าชายอสูรของฉันคนเดียว

    ถ้าฉันผิดสัญญาวันไหน ฉันจะยอมให้คุนนี่รักคนอื่นได้”

    “ฉันไม่มีวันเปลี่ยนไปรักคนอื่นหรอกนะอูยอง”

    “ฉันก็เหมือนคุนนี่นั่นแหละ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC

     

    เดินเรื่องเร็วไปไหมอ่ะ == แต่เราไม่อยากให้มันยืดเยื้อเกินไป เพราะช่วงแรกๆยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่

    เขายังหวานกันอยู่ แต่เดี๋ยวตอนหน้า ไม่แน่=_=  โฉมงามบอกรักอสูรแล้ว แต่อสูรก็เป็นอสูร (อ่าว?)

    คือเรื่องนี้มันไม่ได้แฟนตาซี่เน้อ แต่ยังไงคุนนี่ต้องหล่อแน่นอน แต่เพราะอะไรคอยติดตามกันนะคะ

    แทคซูคู่รองของเรา เขายังไม่เจอกันง่ายๆหรอก แต่พี่แทคจะเริ่มหลงรักพี่คิมเพราะสมุดเพลงเล่มนั้นนั่นแหละ

    แต่ยังมีอีกคู่ เหลือใครกันนะที่ยังไม่ออกมา? และเขาจะเป็นใคร? รับรองได้ว่าอีกคู่น่ารักน่าชังตามสไตล์คู่กัด

    แน่นอน

     

    ขอบคุณที่ทุกคนคอยติดตามกันนะ

    ปล. เม้นด้วยเด้อ จะสนุกหรือไม่สนุกยังไงก็ติชมมานะจ๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×