คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รับเป็นมารดา
ตอนที่ 4
รับเป็นมารดา
เทียนอ้ายเห็นแววตาเด็กน้อยไร้เดียงสาก็เกิดตกหลุมรักทันทีแม้ยังตกใจที่เห็นว่าเด็กผู้นี้เรียกตนว่ามารดาแต่ก็ไม่ติดใจอะไรแล้วอีกอย่างเด็กน้อยผู้นี้ก็ไม่น่าจะเป็นขอทานดูการแต่งกายแล้วเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูเป็นคนมีฐานะไม่น่าจะมาหลอกอาจจะแกล้งหยอกนางเล่นเฉย ๆก็ได้แล้วไม่ใช่คนพวกนั้นหรอกมั้งนางคิดทางที่ดีไว้ก่อน
“หนูน้อยบิดามารดาเจ้าอยู่ที่ใดเหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่และยังแกล้งเรียกข้าว่ามารดาได้เล่าทั้งที่เราไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน”
“ข้ามีแต่บิดาส่วนมารดาข้านั้นเสียแล้วเหตุที่ข้าเรียกท่านว่ามารดาก็เพราะข้าถูกชะตากับท่านอยากให้ท่านเป็นมารดาให้ข้า” เด็กน้อยเอ่ยตอบขณะมือยังคงจับขานางไว้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้นางวิ่งหนีไป
“เอ่อ เจ้าจะเรียกข้าว่ามารดาได้อย่างไรในเมื่อบิดาของเจ้ายังไม่ได้ออกเรือนกับข้าแล้วอีกอย่างมันดูไม่ดีต่อตัวข้าเลย”
นางเงียบอยู่ครู่หากเป็นอย่างที่เด็กน้อยผู้นี้ได้บอกก็ดูจะน่าสงสารอยู่ไม่น้อยเขาต้องการความรักนี่เองถึงได้กระทำการเช่นนี้
“เพราะว่าข้าไม่มีท่านแม่ข้าจำเป็นจะต้องหานางเพื่อมาดูแลข้า ส่วนบิดาของข้านั้นทำงานมากจนไม่มีเวลาให้ ข้าน้อยใจก็เลยอยากหาแม่ให้ตนเองท่านเป็นมารดาให้ข้าเถอะนะ ข้าอยากให้ท่านเป็นมารดาให้ข้าจริง ๆ”
คำพูดเด็กน้อยพยายามอ้อนวอนขอส่งสายตาเว้าวอนอยากให้นางเห็นใจให้ตนเองเรียกมารดาได้เขาอยากได้นางจริง ๆ ไม่ได้คิดหลอกนางสักนิดเขาอยากให้นางมองเห็นความจริงใจจากเขา
เทียนอ้ายแอบนึกสงสารอยู่ไม่น้อยเพราะแววตามีความเศร้าขณะเอ่ยถึงมารดา หญิงสาวรู้สึกเศร้าเมื่อได้เห็นเช่นนั้นแล้วคิดว่าการจะให้เด็กผู้นี้เรียกตนว่ามารดาคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก
“เจ้าก้อนแป้งหากมารดาเจ้าไม่มี งั้นข้าอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าแม่ก็ได้ ข้าจะเป็นแม่ให้เจ้ายามที่เจ้าต้องการเอง”
“จริงเหรอ ท่านพูดแล้วนะว่าจะเป็นแม่ให้กับข้า”
เด็กน้อยปล่อยมือกระโดดโลดเต้นดีใจราวกับว่าชีวิตต่อจากนี้ตนเองจะมีมารดาและเรียกนางได้เหมือนคนอื่นไม่มีใครมาล้อเขาแล้วว่าไม่มีมารดาอีกต่อไป เด็กน้อยจับมือหญิงสาวมองนางด้วยแววตาสดใสเขารอเวลานี้มานานมากในที่สุดก็มีแม่ให้เรียกเสียที
เทียนอ้ายถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไปด้วยเมื่อได้ทำให้เด็กน้อยผู้นี้ยิ้มออกมาเช่นนี้
ส่วนสาวรับใช้กลับรู้สึกไม่สบอารมณ์นักเพราะคุณหนูของนางยังไม่ได้ออกเรือนพอถูกเรียกเช่นนี้หากใครได้ยินก็ต้องเข้าใจนางผิดและจะไม่มีใครมาสู่ขอนางได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นบิดามารดาของคุณหนูคงไม่พอใจแน่ถึงการกระทำนี้
หวงเจวี่ยกับสุยเหอเมื่อเห็นว่านายน้อยยังไม่กลับเรือนก็เกิดตื่นตระหนกตกใจแถมไปหาที่ตลาดก็ไม่พบตัว ทำให้คนทั้งสองกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกกลัวว่านายน้อยจะได้รับอันตราย นายน้อยไม่ใช่คนเถลไถลเช่นนี้มาก่อนพวกเขาจึงรีบตามหาทุกที่ที่นายน้อยเคยไป
“นายน้อยไปอยู่ไหนกันแน่เนี่ยเราหาจนทั่วตลาดแล้วนะก็หาไม่เจอ หากนายท่านรู้เข้าว่านายน้อยหายไปเอาเราตายแน่ ระหว่างทางเดินกลับบ้านไปตลาดไม่น่าจะใช้เวลานานขนาดนี้นะข้าใจคอไม่ดีเลย”
สุ่ยเหอมีใบหน้าเคร่งเครียดขณะเอ่ยกล่าวเป็นหน้าที่ของตนเองแท้ ๆ แต่กลับไม่ดูแลนายน้อยให้ดีหากเกิดอะไรขึ้นมาตัวเขาเองย่อมมีความผิดอย่างมากทางที่ดีจำเป็นจะต้องหานายน้อยให้พบก่อนที่นายท่านจะกลับเข้าเรือน
“อย่าพึ่งอย่างนั้นสิ เจ้าออกไปดูที่เรือนสิว่านายน้อยกลับหรือยังเผื่อนายน้อยจะเดินสวนทางกับเรา”
“ได้ ได้ หากข้าเจอนายน้อยแล้วเดี๋ยวข้าจะมาบอกเจ้า”
สองบ่าวผู้ที่มีหน้าที่ดูแลนายน้อยอวี้หนิงต่างมีสีหน้าร้อนรนเมื่อได้รู้ว่านายน้อยหายไปมันเลยเวลาที่นายน้อยจะกลับเรือนแล้วมันไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อนทำให้พวกเขากังวลใจอย่างมากกลัวนายน้อยจะได้รับอันตราย
ทางด้านอวี้หนิงมีความสุขมากเขาได้ใช้เวลากับสตรีที่ตนเองเรียกว่ามารดาด้วยความสุข เขาได้พูดคุยกับนางจนลืมเวลาที่จะกลับเรือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้บ่าวรับใช้สองคนกำลังตามหาตน
หลังจากที่เทียนอ้ายได้ใช้เวลาอยู่กับอวี้หนิงนางกลับรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกเด็กน้อยช่างพูดคุยและขี้อ้อนอย่างมากนี่เป็นครั้งแรกที่นางนึกอยากจะมีลูกเป็นของตนเองทั้งที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนอาจจะเป็นเพราะเจ้าเด็กน้อยผู้นี้น่ารักเกินไปจนนางเอ็นดูรักใคร่ราวกับว่าเป็นบุตรของตนเองจริง ๆ ยามที่เด็กน้อยผู้นี้เรียกตนว่ามารดาจิตใจนางก็รู้สึกชุ่มชื้นราวกับว่าเป็นมารดาของเขาจริง ๆ
“ท่านแม่ท่านพ่อข้าหน้าตาดีมาก มีสตรีมากมายเข้าหาแต่ท่านพ่อของข้าไม่เคยเหลียวมองใครเลยข้าจะทำยังไงดี”
หลังจากพูดคุยกับนางอวี้หนิงก็มั่นใจเต็มร้อยว่าหญิงสาวผู้นี้ช่างเหมาะสมที่สุดแล้วด้วยนิสัยก็เหมือนกับตนเองเขาถูกชะตากับนางมากพอได้เรียกนางว่ามารดาราวกับว่าชีวิตเขาในตอนนี้โคตรมีความสุขที่สุด ก็เหลือแต่ดึงนางมาเป็นของบิดาให้ได้ถึงจะครบสมบูรณ์
“เจ้าไม่ดีใจเหรอที่ท่านพ่อของเจ้าเป็นคนเช่นนี้นั่นถือว่ายากมากนะเจอคนใจแข็งเช่นบิดาของเจ้า”
นางแอบนึกชมในใจบุรุษที่ไม่สนใจสตรีทั้งที่มีเสนอมาให้เลือกตั้งมากมายทำให้นางก็รู้สึกอยากจะรู้จักเขาเช่นกันว่าทำไมเขาถึงใจแข็งเช่นนั้นได้
อวี้หนิงส่ายหัวก่อนจะกล่าวตอบ “ไม่ดีหรอก ข้าอยากได้แม่เหมือนคนอื่นพอข้าเห็นว่าสหายข้ามีท่านแม่ให้เรียกทำให้ข้าอยากมีมารดาเป็นของตนเอง จนข้าได้มาพบกับท่านข้าเชื่อว่าท่านคือสวรรค์ส่งลงมาให้เป็นแม่ของข้า”
เด็กน้อยกล่าวอย่างน่าสงสารจนเทียนอ้ายน้ำตาปริ่ม เด็กน้อยผู้นี้ขาดแม่ตั้งแต่แบเบาะมีบิดาเลี้ยงดูมาลำพังชีวิตน่าสารยิ่งนัก แต่ในคำพูดนั้นกลับแฝงด้วยความต้องการอยากให้นางได้ครองคู่กับบิดาเด็กน้อยผู้นี้ช่างฉลาดนักในการพูด
“ข้าเข้าใจนะอวี้หนิงต่อไปเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการดูแลเอาใจใส่ข้าจะทำหน้าที่ในฐานะแม่ให้เอง”
อวี้หนิงยังเป็นเด็กน้อยอยู่ย่อมแสวงหาความรักความดูแลเอาใจใส่จากผู้เป็นบิดามารดา บิดาของเขาไม่น่าจะทำงานจนลืมดูแลบุตรชายที่น่ารักอย่างเช่นเขาได้เลยนางอยากรู้นักว่าเขาเป็นคนเช่นไรผ่านมาหลายปีไม่คิดมีสตรีอื่นเคียงข้างกาย เขาจะเข้าหายากขนาดนั้นเชียวเหรอนางนึกสนใจบุรุษผู้นี้เข้าแล้ว
หยางจื่อที่เฝ้ามองดูการสนทนาของทั้งคู่ที่ผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้วเห็นทีว่าควรจะได้กลับเรือนเสียทีเกรงว่าบิดาของคุณหนูจะเป็นห่วงเอาได้
“คุณหนูเจ้าคะได้เวลากลับเรือนแล้วนะเจ้าคะนี่พวกเราก็ออกมานานแล้วเดี๋ยวนายท่านจะรอได้”
หยางจื่อเห็นการสนิทสนมของเจ้านายสาวนางกลับไม่รู้สึกดีเลยสักนิดแม้ว่าคุณหนูจะชมชอบเด็กน้อยผู้นี้แต่นางไม่รู้ว่าเด็กผู้นี้คือใคร หากคิดมาหลอกคุณหนูมันคงไม่ดีแน่กลัวว่าคุณหนูจะได้รับความเสียหายและเรื่องนี้นางจะปิดบังไม่ให้บิดามารดาของคุณหนูได้รู้เรื่องการตกลงให้เด็กผู้นี้เรียกไม่เช่นนั้นนางคงจะโดนดุที่ไม่คิดห้ามปราม
ไม่ได้เรื่องนี้นางจำเป็นจะต้องขัดขวางปิดบังเพื่อชื่อเสียงของคุณหนูไม่ให้ด่างพร้อย
เทียนอ้ายรู้ว่าตนเองออกมานานแล้วแม้ยังรู้สึกสนุกกับเด็กน้อยแค่ไหน แต่นางจำเป็นจะต้องกลับเรือนเสียทีก่อนจะหันไปมองเด็กน้อยในอ้อมกอด
“อวี้หนิงข้าจำเป็นจะต้องกลับเรือนแล้วเห็นทีว่าคงจะอยู่เล่นด้วยกับเจ้าคงไม่ได้”
“แต่ข้ายังไม่อยากให้ท่านแม่กลับเลย ข้ายังสนุกอยู่เลย” อวี้หนิงทำเสียงออดอ้อนแววตามีความอ้อนวอนไม่คิดอยากให้นางไปเขากำลังมีความสุขอยู่เลย
“อืม เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาเจอกันใหม่ดีหรือไม่เพราะวันนี้ข้าจำเป็นจะต้องกลับเรือนจริง ๆ”
นางเข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยผู้นี้ดีนางก็ไม่ต่างกันไม่อยากจะจากไปด้วยซ้ำแต่เพราะว่านางออกมานานแล้วกลัวว่าบิดาจะเป็นห่วงเอาได้ถ้ายังไงยังพอมีเวลาได้คุยกันอีกนานเพราะนางก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองแห่งนี้แล้วย่อมที่จะได้เจอกันตลอด
อวี้หนิงคิดอยู่ครู่ก่อนจะพยักรับรู้อย่างเข้าใจ “ก็ได้ขอรับงั้นท่านแม่กลับเรือนก่อนเดี๋ยวข้าก็จะกลับเรือนของข้าเช่นกันแล้วพรุ่งนี้พวกเรามาเจอกันที่นี่ช่วงตอนเที่ยงนะขอรับ”
“ก็ได้แล้วพรุ่งนี้เราพบกันใหม่ ว่าแต่เดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้าที่เรือนเอง” ในเมื่อได้รับเขาเป็นบุตรชายแล้วนางจำเป็นจะต้องรู้ว่าเรือนของเด็กน้อยผู้นี้อยู่ตรงไหนและก็ถือโอกาสไปดูบิดาของเขาด้วยว่าหน้าตาดีอย่างที่อวี้หนิงได้บอกหรือไม่หากนางถูกใจอาจจะสานสัมพันธ์แต่หากไม่ใช่ก็แค่ปล่อยไปเหมือนเคย
“ขอรับ”
มีจำหน่ายเฉพาะอีบุ๊คที่ เด็กดี และ meb เท่านั้น ยังไม่ได้เปิดขายรายตอน
ความคิดเห็น